ร้องเพลงอย่างมีความสุข!
“เป็นเรื่องดีที่จะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของพวกเรา”—สดุดี 147:1
1. การร้องเพลงทำให้เรามีโอกาสได้ทำอะไร?
นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเคยบอกไว้ว่า “ถ้อยคำช่วยคุณให้เข้าใจความคิด เสียงดนตรีช่วยคุณให้เข้าใจความรู้สึก แต่เพลงช่วยคุณให้เข้าใจทั้งความคิดและความรู้สึก” เพลงของเราช่วยเราให้สรรเสริญและแสดงความรักต่อพระยะโฮวาผู้เป็นพ่อในสวรรค์ของเรา และยังทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับพระองค์ด้วย ดังนั้น ไม่แปลกเลยที่การร้องเพลงจึงมีบทบาทสำคัญในการนมัสการบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการร้องคนเดียวหรือร้องกับพี่น้องของเรา
2, 3. (ก) บางคนอาจรู้สึกอย่างไรกับการร้องเพลงให้ดังเต็มเสียงในหอประชุม? (ข) เราจะคุยกันเกี่ยวกับคำถามอะไรในบทความนี้?
2 แล้วคุณล่ะ? คุณรู้สึกอย่างไรกับการร้องเพลงให้ดังเต็มเสียงที่หอประชุม? คุณรู้สึกอายไหม? ในบางวัฒนธรรม ผู้ชายอาจรู้สึกอึดอัดที่ต้องร้องเพลงต่อหน้าคนอื่น ความคิดแบบนี้อาจส่งผลที่ไม่ดีกับทั้งประชาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้ดูแลไม่ค่อยกล้าร้องเพลงหรือมัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำอย่างอื่นในช่วงการร้องเพลง—สดุดี 30:12
3 การร้องเพลงเป็นส่วนหนึ่งของการนมัสการพระยะโฮวา ดังนั้น เราไม่อยากพลาดส่วนนี้ หรือเดินไปที่อื่นในช่วงที่มีการร้องเพลง ดังนั้น เราแต่ละคนน่าจะ
ถามตัวเองว่า ‘ฉันคิดอย่างไรกับการร้องเพลงที่หอประชุม? ฉันควรทำอย่างไรถ้าไม่กล้าร้องเพลงต่อหน้าคนอื่น? และฉันจะร้องเพลงอย่างที่ออกมาจากความรู้สึกได้อย่างไร?’การร้องเพลงเป็นส่วนสำคัญของการนมัสการแท้
4, 5. ในสมัยอิสราเอลโบราณ มีการจัดการอย่างไรบ้างเพื่อจะมีการร้องเพลงในวิหาร?
4 ตลอดประวัติศาสตร์ ผู้คนที่นมัสการพระยะโฮวาใช้ดนตรีเพื่อสรรเสริญพระองค์ ตอนที่ชาวอิสราเอลซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา การร้องเพลงเป็นส่วนสำคัญของการนมัสการของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ช่วงที่ดาวิดเตรียมงานสร้างวิหาร เขาจัดให้ชาวเลวี 4,000 คนสรรเสริญพระยะโฮวาด้วยการเล่นดนตรี ในจำนวนนี้มี 288 คนที่ “ฝึกเล่นดนตรีสรรเสริญพระยะโฮวาจนชำนาญแล้ว”—1 พงศาวดาร 23:5; 25:7
5 การเล่นดนตรีและการร้องเพลงยังเป็นส่วนสำคัญของการอุทิศวิหารด้วย คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “เมื่อคนเป่าแตรกับนักร้องพากันประสานเสียงสรรเสริญและขอบคุณพระยะโฮวา และมีเสียงแตร ฉาบ กับเครื่องสายอื่น ๆ ดังขึ้นขณะที่พวกเขาสรรเสริญพระยะโฮวา . . . รัศมีของพระยะโฮวาแผ่ทั่ววิหารของพระเจ้าเที่ยงแท้” ลองคิดดูสิ เหตุการณ์ในตอนนั้นคงต้องทำให้ความเชื่อของชาวอิสราเอลเข้มแข็งมากขึ้นแน่ ๆ!—2 พงศาวดาร 5:13, 14; 7:6
6. ตอนที่เนหะมีย์เป็นผู้ว่าราชการของเยรูซาเล็ม เขาจัดให้มีการร้องเพลงและเล่นดนตรีอย่างไร?
6 ในสมัยของเนหะมีย์ นอกจากเขาจะดูแลและจัดระเบียบชาวอิสราเอลให้สร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่แล้ว เขายังจัดให้ชาวเลวีร้องเพลงและเล่นดนตรีด้วย การร้องเพลงและเล่นดนตรีของพวกเขาทำให้งานฉลองอุทิศกำแพงครึกครื้นและมีความสุขมากขึ้น เนหะมีย์จัดให้มี ‘คณะนักร้องเพลงขอบคุณ 2 กลุ่ม’ คณะนักร้องทั้งสองกลุ่มเดินบนกำแพงแยกกันคนละฝั่ง แล้วเดินมาเจอกันบนกำแพงในส่วนที่อยู่ใกล้กับวิหารมากที่สุด เสียงเพลงที่พวกเขาร้องและเล่นดังมากจนทำให้ผู้คนที่อยู่ไกลออกไปก็ยังได้ยิน (เนหะมีย์ 12:27, 28, 31, 38, 40, 43) เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวามีความสุขที่ได้ฟังผู้นมัสการพระองค์ร้องเพลงอย่างที่แสดงความรู้สึกออกมาเต็มที่เพื่อสรรเสริญพระองค์
7. พระเยซูแสดงอย่างไรว่าการร้องเพลงเป็นส่วนสำคัญของการนมัสการสำหรับคริสเตียน?
7 ในสมัยของพระเยซู ดนตรียังคงเป็นส่วนสำคัญของการนมัสการแท้ ลองคิดถึงวันที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ หลังจากพระเยซูจัดให้มีการฉลองอาหารมื้อเย็นของพระคริสต์แล้ว ท่านกับพวกสาวกก็ร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวา—อ่านมัทธิว 26:30
8. คริสเตียนในศตวรรษแรกวางตัวอย่างที่ดีอะไรในการร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวา?
8 คริสเตียนในศตวรรษแรกวางตัวอย่างที่ดีในการร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวา พวกเขาไม่ต้องไปที่วิหารเพื่อนมัสการพระยะโฮวาเหมือนกับชาวอิสราเอล พวกเขาพบกันที่บ้านส่วนตัว ถึงแม้บ้านของพวกเขาจะไม่สวยและน่าประทับใจเหมือนวิหาร แต่พวกเขาก็ยังร้องเพลงอย่างที่ออกมาจากใจ ที่จริง อัครสาวกเปาโลบอกพี่น้องว่า “ให้พวกคุณคอยสอนและให้กำลังใจกันเสมอด้วยเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญพระเจ้า และเพลงนมัสการที่ร้องด้วยความสำนึกบุญคุณ ให้ร้องเพลงจากใจให้กับพระยะโฮวาเสมอ” (โคโลสี 3:16) เราควรร้องเพลงจากหนังสือเพลงของเรา “ด้วยความสำนึกบุญคุณ” เพลงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘อาหารตามเวลาที่เหมาะสม’ ซึ่ง “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” จัดเตรียมให้พวกเรา—มัทธิว 24:45
คุณจะร้องเพลงด้วยความมั่นใจได้อย่างไร?
9. (ก) ทำไมบางคนไม่ค่อยกล้าร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวาที่หอประชุมและที่การประชุมใหญ่? (ข) เราควรร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวาอย่างไร? และใครควรนำหน้าในเรื่องนี้? (ดูภาพแรก)
9 อะไรทำให้คุณไม่ค่อยกล้าร้องเพลง? บางที ในวัฒนธรรมของคุณหรือครอบครัวคุณอาจไม่ค่อยร้องเพลงกัน หรือคุณอาจเทียบเสียงของคุณกับเสียงของนักร้องมืออาชีพในทีวีหรือวิทยุ แล้วคุณก็รู้สึกอายหรือผิดหวังกับเสียงของตัวเอง แต่เราทุกคนต้องมองว่าการร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวาเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเรา เราจะให้คนอื่นทำแทนไม่ได้ ดังนั้น ลองทำอย่างนี้ ยกหนังสือขึ้นมา เงยหน้า และร้องอย่างที่แสดงความรู้สึกออกมาเลย! (เอสรา 3:11; อ่านสดุดี 147:1) หอประชุมหลายแห่งมีจอสำหรับฉายเนื้อเพลงซึ่งช่วยเราให้ร้องเพลงได้ดังขึ้น นอกจากนั้น น่าสนใจที่มีการร้องเพลงในโรงเรียนพระราชกิจสำหรับผู้ดูแลด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ดูแลจะนำหน้าในการร้องเพลงที่หอประชุม
10. เราควรจำอะไรไว้เสมอถ้าเรากลัวที่จะร้องเพลงให้ดังเต็มเสียง?
10 หลายคนกลัวที่จะร้องเพลงให้ดังเต็มเสียงเพราะคิดว่าตัวเองเสียงไม่ดีหรือกลัวว่าเสียงจะดังเกินไป แต่ลองคิดดูสิ ตอนที่พูด “เราทุกคนผิดพลาดกันอยู่บ่อย ๆ” แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้เราไม่อยากพูดกับใคร (ยากอบ 3:2) ดังนั้น แม้เราจะรู้สึกว่าเสียงไม่ดี แต่เราไม่ควรให้เรื่องนี้มาทำให้เราไม่กล้าร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวา
11, 12. เราจะร้องเพลงให้ดีขึ้นได้อย่างไร?
11 บางที คุณอาจไม่กล้าร้องเพลงเพราะคุณร้องไม่เป็นและไม่รู้ว่าจะร้องอย่างไร แต่มีคำแนะนำง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณร้องเพลงได้ดีขึ้น *
การรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า หน้า 181-184 ในหัวเรื่องย่อย “หายใจให้ถูกต้อง”) บางครั้ง คัมภีร์ไบเบิลก็บอกให้ผู้นมัสการพระยะโฮวา “โห่ร้องยินดี” เมื่อร้องเพลงสรรเสริญพระองค์—สดุดี 33:1-3
12 วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณร้องเพลงอย่างมีพลังและร้องให้ดังเต็มเสียงก็คือการหายใจอย่างถูกต้อง เหมือนกับไฟฟ้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟ ลมหายใจก็ให้พลังกับเสียงของคุณตอนที่คุณพูดหรือร้องเพลง เวลาร้องเพลง คุณน่าจะร้องให้ดังเหมือนที่คุณพูดหรือจะดังกว่านั้นก็ได้ (ดูคำแนะนำในหนังสือ13. ขออธิบายวิธีที่เราจะร้องเพลงได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
13 ในช่วงการนมัสการประจำครอบครัวหรือศึกษาส่วนตัว คุณอาจลองทำตามคำแนะนำนี้ ก่อนอื่นลองเลือกเพลงที่คุณชอบจากหนังสือเพลง อ่านเนื้อเพลงนั้นให้ดังเต็มเสียงอย่างมีพลังและมั่นใจ จากนั้น พยายามอ่านท่อนหนึ่งรวดเดียวจบโดยไม่หยุดหายใจด้วยความดังเท่าเดิม สุดท้ายก็ลองร้องท่อนนั้นด้วยเสียงที่มีพลังในแบบเดียวกัน (อิสยาห์ 24:14) ถ้าทำอย่างนี้เสียงร้องของคุณจะมีพลังมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก อย่าให้เสียงของคุณมาทำให้คุณอายจนไม่กล้าร้องเพลง
14. (ก) เราต้องทำอะไรอีกเพื่อจะมีพลังเสียงเวลาร้องเพลง? (ดูกรอบ “ วิธีร้องเพลงให้ดีขึ้น”) (ข) คุณคิดว่าคำแนะนำอะไรเกี่ยวกับเรื่องเสียงที่มีประโยชน์สำหรับคุณ?
14 เพื่อจะร้องอย่างมีพลัง คุณต้องอ้าปากให้กว้างเพื่อจะมีพื้นที่ในปากมากขึ้น ดังนั้น ตอนร้องเพลง คุณควรอ้าปากให้กว้างกว่าตอนที่คุณพูดปกติ แต่คุณควรทำอย่างไรถ้ารู้สึกว่าเสียงของคุณไม่มีพลังหรือรู้สึกว่าเสียงแหลมสูงเกินไป? คุณสามารถหาคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ได้จากกรอบ “เอาชนะปัญหาบางอย่าง” ในหนังสือการรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า หน้า 184
ร้องเพลงสรรเสริญจากหัวใจ
15. (ก) มีคำประกาศอะไรในการประชุมประจำปี 2016? (ข) มีเหตุผลอะไรบ้างที่ต้องมีหนังสือเพลงใหม่?
15 ทุกคนที่เข้าร่วมการประชุมประจำปี 2016 ตื่นเต้นมากตอนที่พี่น้องสตีเฟน เลตต์สมาชิกคณะกรรมการปกครองร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวาอย่างมีความสุข พี่น้องเลตต์อธิบายเหตุผลที่มีหนังสือเพลงใหม่ เหตุผลหนึ่งก็คือเนื่องจากมีการปรับปรุงคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ จึงต้องปรับเนื้อเพลงเพื่อเอาคำบางคำออกเพราะคำเหล่านั้นไม่มีอยู่ในฉบับแปลโลกใหม่ แล้ว และยังมีการเพิ่มเพลงใหม่ ๆ เกี่ยวกับงานประกาศและค่าไถ่เข้าไปในหนังสือเพลงใหม่ด้วย นอกจากนั้น เนื่องจากการร้องเพลงเป็นส่วนสำคัญของการนมัสการของเรา คณะกรรมการปกครองจึงอยากผลิตหนังสือเพลงที่มีคุณภาพ หน้าปกของหนังสือเพลงใหม่จึงคล้ายกันกับฉบับแปลโลกใหม่
ประกาศออกหนังสือเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า16, 17. มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในหนังสือเพลงใหม่?
16 เพื่อจะให้พี่น้องใช้หนังสือเพลงได้ง่ายขึ้น มีการจัดเพลงเป็นหมวดหมู่ตามหัวเรื่อง ตัวอย่างเช่น หัวเรื่องแรกเป็นเพลงที่เกี่ยวข้องกับพระยะโฮวามี 12 เพลง หัวเรื่องถัดมาเป็นเพลงที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูและค่าไถ่มี 8 เพลง ในตอนต้นของหนังสือจะมีดัชนีหัวเรื่องซึ่งเป็นหัวเรื่องทั้งหมดที่มีในหนังสือเพลง การจัดหมวดหมู่แบบนี้เป็นประโยชน์มาก เช่น พี่น้องชายสามารถเลือกเพลงที่เขาจะใช้ในคำบรรยายสาธารณะได้ง่ายขึ้น
17 เพื่อช่วยทุกคนให้ร้องเพลงจากหัวใจ มีการเปลี่ยนเนื้อเพลงบางส่วนเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ในหนังสือเพลงภาษาไทยมีการตัดคำราชาศัพท์และคำที่คนทั่วไปไม่ค่อยใช้กันแล้ว เช่น คำว่า “ทรง” “จาบัลย์” และ “บุตรา” นอกจากนั้น มีการเปลี่ยนทั้งชื่อเพลงและคำในเนื้อเพลงให้ตรงกับคำที่ใช้ในฉบับแปลโลกใหม่ ด้วย เช่น เพลง “ความอดกลั้นไว้นาน” ก็เปลี่ยนเป็น “ขอให้อดทนรอ” และยังมีการเปลี่ยนเพลงบางเพลงให้เข้ากับการประชุมและงานรับใช้มากขึ้น เช่น เพลง “อิ่มใจกับของประทานอันดีจากพระเจ้า” เปลี่ยนเป็น “สอนคำสอนของพระเจ้า” นอกจากนั้น สำหรับเพลง “‘รางวัลมากมาย’ จากพระยะโฮวา” เพลงนี้ในหนังสือเพลงเก่าเคยมีเนื้อเพลงที่ทำให้เข้าใจว่าพี่น้องโสดรู้สึกเหงา ในเนื้อเพลงใหม่ก็มีการเปลี่ยนเพื่อจะไม่ให้เข้าใจผิดอย่างนั้น
18. ทำไมเราควรฝึกร้องเพลงจากหนังสือเพลงใหม่? (ดูเชิงอรรถด้วย)
18 หลายเพลงในหนังสือร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวาอย่างมีความสุข เป็นเหมือนคำอธิษฐาน เพลงเหล่านี้ช่วยคุณให้บอกพระยะโฮวาได้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร ส่วนเพลงอื่น ๆ ก็ช่วยเราให้ “กระตุ้นกันให้มีความรักและทำความดี” (ฮีบรู 10:24) เพื่อจะร้องเพลงในหนังสือเพลงใหม่นี้ได้ เราต้องคุ้นกับทำนอง จังหวะ และเนื้อเพลง ดังนั้น คุณน่าจะฝึกซ้อมร้องเพลงที่บ้าน เมื่อทำอย่างนั้นคุณจะสามารถร้องเพลงอย่างมั่นใจและออกมาจากความรู้สึก *
19. วิธีที่ทุกคนในประชาคมจะนมัสการพระยะโฮวาได้คืออะไร?
19 ขอจำไว้ว่าการร้องเพลงเป็นส่วนสำคัญของการนมัสการของเรา และเป็นวิธีสำคัญที่เราจะทำให้พระยะโฮวาเห็นว่าเรารักพระองค์และขอบคุณสิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์ทำเพื่อเรา (อ่านอิสยาห์ 12:5) ตอนที่คุณร้องเพลงอย่างที่แสดงความรู้สึกออกมาเต็มที่ คุณก็กระตุ้นให้คนอื่นทำแบบเดียวกัน เราทุกคนในประชาคมไม่ว่าจะอายุน้อยหรือมาก หรือเพิ่งมาเรียนความจริงก็สามารถนมัสการพระยะโฮวาในวิธีนี้ได้ ดังนั้น อย่ากลัวที่จะร้องเพลงจากใจ ขอให้เราเชื่อฟังคำแนะนำของผู้เขียนหนังสือสดุดีที่บอกให้ “ร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวา” เรามาร้องเพลงอย่างมีความสุขกันเถอะ!—สดุดี 96:1
^ วรรค 11 คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีร้องเพลงให้ดีขึ้นจากคำบรรยาย “เดวิด เอช สเปลน—วิธีฝึกร้องเพลงใหม่” (ไปที่ เลือกดูวีดีโอ > จากห้องส่ง > คำบรรยาย)
^ วรรค 18 การประชุมภูมิภาคและการประชุมหมวดทั้งในตอนเช้าและบ่ายจะเริ่มต้นด้วยดนตรีบรรเลง 10 นาที ดนตรีนี้ช่วยเราให้เตรียมหัวใจเพื่อรับประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ในการประชุมไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงหรือการฟังการประชุม ดังนั้น เราทุกคนควรไปนั่งประจำที่และพร้อมที่จะฟังตอนที่ดนตรีเริ่มบรรเลง