ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

“ผม​อยาก​ทำ​งาน​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา”

“ผม​อยาก​ทำ​งาน​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา”

เรา​โบก​มือ​ลา​พี่​น้อง​กลุ่ม​เล็ก ๆ ที่​เรา​ไป​เยี่ยม​ซึ่ง​อยู่​ใกล้​กับ​หมู่​บ้าน​แกรนบูรี​ที่​อยู่​ลึก​เข้า​ไป​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น​ของ​ซูรินาเม เรา​ลง​เรือ​ยาว​ที่​ทำ​จาก​ไม้​และ​แล่น​ไป​ตาม​แม่น้ำ​ตาปานาโฮนี เรา​แล่น​เรือ​ผ่าน​แก่ง​ใน​แม่น้ำ แล้ว​จู่ ๆ ใบ​พัด​ของ​เรือ​ก็​กระแทก​เข้า​กับ​โขด​หิน หัว​เรือ​ของ​เรา​จม​ลง​ใน​น้ำ​จน​ทำ​ให้​พวก​เรา​จม​ลง​ไป​ด้วย ตอน​นั้น​ผม​ตกใจ​มาก​จน​หัวใจ​แทบ​จะ​หลุด​ออก​มา ถึง​ผม​จะ​นั่ง​เรือ​บ่อย​มาก​ใน​ช่วง​หลาย​ปี​ที่​ทำ​งาน​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด แต่​ผม​ก็​ว่าย​น้ำ​ไม่​เป็น

ก่อน​จะ​เล่า​ต่อ​ไป​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น ขอ​ผม​เล่า​ให้​ฟัง​ว่า​ผม​เริ่ม​รับใช้​เต็ม​เวลา​ได้​ยังไง

ผม​เกิด​ใน​ปี 1942 บน​เกาะ​คูราเซา​ที่​สวย​งาม​ใน​ทะเล​แคริบเบียน พ่อ​ผม​เป็น​ชาว​ซูรินาเม​แต่​ย้าย​ไป​ทำ​งาน​ที่​เกาะ​นั้น ไม่​กี่​ปี​ก่อน​ที่​ผม​จะ​เกิด​พ่อ​ก็​ได้​มา​เป็น​หนึ่ง​ใน​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​แรก ๆ บน​เกาะ​คูราเซา a พ่อ​พยายาม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พวก​เรา​แม้​พวก​เรา​จะ​ไม่​ค่อย​อยาก​ศึกษา​เท่าไหร่ ตอน​ผม​อายุ 14 ครอบครัว​เรา​ก็​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​ซูรินาเม​เพราะ​พ่อ​ต้อง​ไป​ดู​แล​ย่า​ที่​อายุ​มาก

เพื่อน​ดี ๆ ช่วย​ผม

ตอน​มา​อยู่​ที่​ซูรินาเม ผม​มี​เพื่อน​วัยรุ่น​หลาย​คน​ใน​ประชาคม​ที่​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง พวก​เขา​เป็น​รุ่น​พี่​ผม​ไม่​กี่​ปี​และ​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ ตอน​ที่​พวก​เขา​เล่า​ประสบการณ์​ใน​เขต​ประกาศ​ให้​ฟัง หน้า​ตา​ของ​พวก​เขา​ดู​มี​ความ​สุข​มาก บาง​ครั้ง​หลัง​ประชุม​เสร็จ ผม​กับ​เพื่อน ๆ ชอบ​ไป​นั่ง​ดู​ดาว เรา​มอง​ขึ้น​ไป​บน​ฟ้า​ที่​มี​ดาว​มาก​มาย​แล้ว​เรา​ก็​จะ​คุย​กัน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล เพื่อน ๆ ช่วย​ให้​ผม​รู้​ว่า​ผม​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​ใน​อนาคต ผม​อยาก​ทำ​งาน​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา ผม​เลย​รับ​บัพติศมา​ตอน​อายุ 16 และ​พอ​อายุ 18 ผม​ก็​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ

ได้​เรียน​รู้​บทเรียน​ที่​มี​ค่า

ตอน​เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​ปารามาริโบ

ตอน​เป็น​ไพโอเนียร์ ผม​ได้​เรียน​รู้​บทเรียน​หลาย​อย่าง​ซึ่ง​ช่วย​ผม​ตลอด​ช่วง​ที่​รับใช้​เต็ม​เวลา เช่น บทเรียน​แรก​ที่​ผม​ได้​เรียน​ก็​คือ​การ​ฝึก​คน​อื่น​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​มาก ตอน​ที่​ผม​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์ มิชชันนารี​คน​หนึ่ง​ที่​ชื่อ​วิลเลม แวน เซจล์​เอา​ใจ​ใส่​ผม​อย่าง​ดี b เขา​ฝึก​ผม​ให้​ทำ​งาน​หลาย​อย่าง​ใน​ประชาคม ตอน​นั้น​ผม​ไม่​รู้​เลย​ว่า​ผม​ต้อง​ได้​รับ​การ​ฝึก​และ​มัน​จำเป็น​มาก​จริง ๆ สำหรับ​ผม ปี​ถัด​มา​ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​และ​ต้อง​ดู​แล​กลุ่ม​โดด​เดี่ยว​หลาย​กลุ่ม​ที่​อยู่​ลึก​เข้า​ไป​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น​ของ​ซูรินาเม ผม​ขอบคุณ​จริง ๆ ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​จาก​พี่​น้อง​หลาย​คน​ก่อน​หน้า​นี้ ตั้งแต่​นั้น​มา​ผม​ก็​ตั้งใจ​เลียน​แบบ​พวก​เขา​โดย​พยายาม​ฝึก​คน​อื่น​ด้วย

บทเรียน​ที่ 2 ที่​ผม​ได้​เรียน​ก็​คือ​ใช้​ชีวิต​แบบ​เรียบ​ง่าย​และ​ต้อง​มี​การ​วาง​แผน​อย่าง​ดี ทุก​ต้น​เดือน​ผม​กับ​เพื่อน​ที่​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​คู่​กัน​จะ​คุย​กัน​ว่า​เรา​ต้อง​ซื้อ​อาหาร​และ​ของ​จำเป็น​อะไร​บ้าง​สำหรับ​ทั้ง​เดือน แล้ว​ผม​หรือ​ไม่​ก็​เพื่อน​จะ​เดิน​ทาง​เข้า​ไป​ใน​เมือง​หลวง​เพื่อ​ซื้อ​ของ​ตาม​ที่​วาง​แผน​ไว้ เรา​ต้อง​ใช้​จ่าย​เบี้ย​เลี้ยง​อย่าง​ระมัดระวัง​เพื่อ​จะ​มี​ของ​กิน​ของ​ใช้​พอ​ตลอด​ทั้ง​เดือน เพราะ​ถ้า​เรา​อยู่​ใน​ป่า​แล้ว​ขาด​เหลือ​อะไร​ก็​แทบ​จะ​ไม่​มี​ใคร​ช่วย​เรา​ได้ ผม​เชื่อ​ว่า​การ​เรียน​รู้​ที่​จะ​ใช้​ชีวิต​แบบ​เรียบ​ง่าย​และ​วาง​แผน​อย่าง​ดี​ตั้งแต่​อายุ​ยัง​น้อย​ช่วย​ให้​ผม​จดจ่อ​กับ​การ​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ตลอด​ชีวิต

บทเรียน​ที่ 3 ก็​คือ​ให้​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​คน​อื่น​โดย​ใช้​ภาษา​ของ​เขา ปกติ​แล้ว​ผม​จะ​พูด​ภาษา​อังกฤษ ดัตช์ ปาเปียเมนโต และ​สรานันทองโก (ที่​เรียก​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​ภาษา​สรานัน) ซึ่ง​ภาษา​สรานันทองโก​เป็น​ภาษา​หลัก​ของ​ซูรินาเม แต่​พอ​ย้าย​ไป​รับใช้​ใน​เขต​ป่า​ดิบ​ชื้น การ​ประกาศ​โดย​ใช้​ภาษา​ถิ่น​ของ​คน​ที่​นั่น​จะ​ได้​ผล​ดี​กว่า ถึง​ผม​รู้สึก​ว่า​ภาษา​เหล่า​นั้น​เป็น​ภาษา​ที่​ยาก​เพราะ​มี​โทน​เสียง​สูง​ต่ำ​ค่อนข้าง​เยอะ เช่น ภาษา​ซารามักกัน แต่​ผม​ก็​พยายาม​จะ​ฝึก​พูด แล้ว​มัน​ก็​เป็น​ประโยชน์​จริง ๆ เพราะ​ตลอด​หลาย​ปี​ที่​รับใช้​ที่​นั่น​ผม​สามารถ​ประกาศ​และ​สอน​ความ​จริง​ให้​กับ​ผู้​คน​มาก​มาย​เพราะ​ผม​พูด​ภาษา​ของ​พวก​เขา​ได้

แต่​ผม​ก็​มี​เรื่อง​น่า​ขายหน้า​บาง​อย่าง​จะ​เล่า​ให้​ฟัง​เหมือน​กัน มี​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​นัก​ศึกษา​กำลัง​ปวด​ท้อง ผม​ตั้งใจ​จะ​ถาม​เธอ​ใน​ภาษา​ซารามักกัน​ว่า​เป็น​ยังไง​บ้าง แต่​กลับ​กลาย​เป็น​ว่า​ผม​กำลัง​ถาม​เธอ​ว่า​ท้อง​อยู่​รึ​เปล่า มัน​ทำ​ให้​เธอ​อาย​มาก แต่​ถึง​ผม​จะ​ทำ​ผิด​พลาด​หลาย​ครั้ง ผม​ก็​ยัง​พยายาม​พูด​ภาษา​ท้องถิ่น​เมื่อ​ประกาศ​กับ​ผู้​คน​เสมอ

รับ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​เพิ่ม​ขึ้น

ใน​ปี 1970 ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด ปี​นั้น​ผม​ต้อง​ฉาย​ภาพ​นิ่ง​เรื่อง “เยี่ยม​ชม​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา” ให้​กับ​กลุ่ม​โดด​เดี่ยว​มาก​มาย​ที่​อยู่​ใน​เขต​ป่า​ดิบ​ชื้น ผม​กับ​พี่​น้อง​กลุ่ม​หนึ่ง​ต้อง​ใช้​เรือ​ไม้​ลำ​ยาว ๆ แคบ ๆ ล่อง​ไป​ตาม​แม่น้ำ เรา​ขน​เครื่อง​ปั่น​ไฟ ถัง​น้ำมัน ตะเกียง และ​เครื่อง​ฉาย​ภาพ​นิ่ง​ลง​เรือ​ไป​ด้วย แล้ว​พอ​ไป​ถึง​เรา​ก็​ต้อง​ขน​อุปกรณ์​ทั้ง​หมด​เหล่า​นี้​เข้า​ไป​ใน​ป่า​จน​ถึง​ที่​ที่​เรา​จะ​ฉาย​ภาพ​นิ่ง สิ่ง​ที่​ผม​จำ​ได้​มาก​ที่​สุด​เกี่ยว​กับ​งาน​นี้​ก็​คือ​คน​ที่​นั่น​ชอบ​ภาพ​นิ่ง​ชุด​นี้​มาก​จริง ๆ ผม​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​ช่วย​พวก​เขา​ให้​มี​โอกาส​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา​และ​องค์การ​ของ​พระองค์​ส่วน​ที่​อยู่​บน​โลก ไม่​ว่า​ผม​จะ​ต้อง​เสีย​สละ​มาก​แค่​ไหน​แต่​พอ​ผม​ได้​เห็น​ว่า​สิ่ง​ที่​ผม​ทำ​ช่วย​ให้​คน​อื่น​สนิท​กับ​พระ​ยะโฮวา ผม​ก็​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​ทำ​งาน​เพื่อ​พระองค์

ถัก​ทอ​เชือก 3 เกลียว

ผม​กับ​เอเธล​ใน​วัน​แต่งงาน​เดือน​กันยายน 1971

ถึง​ผม​จะ​รู้สึก​ว่า​การ​เป็น​โสด​ทำ​ให้​ผม​รับใช้​ได้​สะดวก แต่​ผม​ก็​ยัง​อยาก​มี​ใคร​สัก​คน​มา​เป็น​คู่​ชีวิต ผม​เลย​อธิษฐาน​อย่าง​เจาะจง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ ขอ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ผม​หา​ภรรยา​ที่​จะ​อดทน​กับ​เขต​ที่​ไม่​ง่าย​อย่าง​เขต​ป่า​ดิบ​ชื้น​และ​ยัง​มี​ความ​สุข​กับ​การ​รับใช้​เต็ม​เวลา​ได้ ประมาณ 1 ปี​ต่อ​มา​ผม​ก็​เริ่ม​เป็น​แฟน​กับ​เอเธล​ซึ่ง​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ที่​รับใช้​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง​และ​เสีย​สละ​มาก ตั้งแต่​เด็ก ๆ เอเธล​ประทับใจ​ตัวอย่าง​ของ​เปาโล​มาก​และ​อยาก​เป็น​เหมือน​กับ​เขา เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​กันยายน​ปี 1971 และ​เริ่ม​งาน​เยี่ยม​หมวด​ด้วย​กัน

ครอบครัว​ของ​เอเธล​ไม่​ได้​มี​ฐานะ เธอ​เลย​ปรับ​ตัว​ได้​ดี​มาก​กับ​งาน​เยี่ยม​หมวด​ใน​เขต​ป่า​ดิบ​ชื้น เช่น เรา​จะ​มี​แค่​กระเป๋า​สัมภาระ​เล็ก ๆ เรา​ซัก​ผ้า​และ​อาบ​น้ำ​ใน​แม่น้ำ แล้ว​ก็​กิน​อะไร​ก็​ได้​ที่​พี่​น้อง​เอา​มา​ให้​เรา เช่น ตัว​อีกัวน่า ปลา​ปิรันยา หรือ​ตัว​อะไร​ก็​ได้​ที่​เขา​จับ​ได้​ใน​ป่า​หรือ​ใน​แม่น้ำ และ​ถ้า​เรา​ไม่​มี​จาน​ใส่​อาหาร เรา​ก็​จะ​ใช้​ใบ​ตอง ถ้า​ไม่​มี​ช้อน​ส้อม เรา​ก็​จะ​ใช้​มือ ผม​กับ​เอเธล​รู้สึก​ว่า​การ​ได้​ร่วม​ทุกข์​ร่วม​สุข​ด้วย​กัน​ใน​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เชือก​สาม​เกลียว​ของ​เรา​แน่นแฟ้น​ขึ้น (ปญจ. 4:12) ถึง​ชีวิต​จะ​ไม่​ง่าย แต่​เรา​ก็​จะ​ไม่​ยอม​แลก​ชีวิต​แบบ​นี้​กับ​อะไร​ทั้ง​นั้น

วัน​หนึ่ง​ตอน​ที่​เรา​เดิน​ทาง​กลับ​จาก​การ​เยี่ยม​เขต​โดด​เดี่ยว​ใน​ป่า ผม​ก็​เจอ​กับ​เหตุ​การณ์​ที่​เล่า​ไป​ตอน​ต้น เรือ​ของ​เรา​แล่น​ผ่าน​แก่ง​ใน​แม่น้ำ​แล้ว​ก็​กระแทก​เข้า​กับ​โขด​หิน มัน​เลย​ทำ​ให้​เรือ​ของ​เรา​จม​ลง​แป๊บ​หนึ่ง​แล้ว​ก็​ลอย​ขึ้น​มา ดี​ที่​เรา​ใส่​เสื้อ​ชูชีพ​และ​ไม่​ได้​ตก​ออก​จาก​เรือ แต่​น้ำ​ก็​เข้า​เรือ​เต็ม​ไป​หมด เพื่อ​เรา​จะ​เอา​หม้อ​มา​วิด​น้ำ​ออก​จาก​เรือ เรา​เลย​ต้อง​เอา​อะไร ๆ ที่​อยู่​ใน​หม้อ​ทิ้ง​ไป​ให้​หมด

เรา​ล่อง​เรือ​ต่อ​ไป​แต่​ไม่​มี​อาหาร​เหลือ​อยู่​เลย เรา​พยายาม​จับ​ปลา​แต่​ก็​จับ​ไม่​ได้​สัก​ตัว เรา​เลย​อธิษฐาน​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ให้​ช่วย​เรา​มี​อาหาร​สำหรับ​วัน​นั้น ทันที​ที่​อธิษฐาน​จบ พี่​น้อง​คน​หนึ่ง​ก็​หย่อน​สาย​เบ็ด​ลง​ใน​น้ำ แล้ว​ก็​จับ​ได้​ปลา​ตัว​ใหญ่​มาก​จน​เรา​ทั้ง 5 คน​ใน​เรือ​กิน​กัน​จน​อิ่ม​ใน​ค่ำ​วัน​นั้น

เป็น​สามี พ่อ และ​ผู้​ดู​แล​หมวด

ผม​กับ​ภรรยา​ทำ​งาน​เยี่ยม​หมวด​ด้วย​กัน 5 ปี จู่ ๆ เรา​สอง​คน​ก็​ได้​ข่าว​ดี​โดย​ไม่​ทัน​ตั้ง​ตัว เรา​กำลัง​จะ​เป็น​พ่อ​แม่​คน​แล้ว ผม​ดีใจ​มาก​ที่​ได้​ยิน​ข่าว​นี้ แม้​ว่า​ยัง​ไม่​รู้​ว่า​อนาคต​จะ​เป็น​ยังไง แต่​เรา​สอง​คน​ก็​ตั้งใจ​มาก​เลย​ว่า​อยาก​จะ​รับใช้​เต็ม​เวลา​ต่อ​ถ้า​เป็น​ไป​ได้ ใน​ปี 1976 เอทนีเอล​ลูก​ชาย​ของ​เรา​ก็​เกิด​มา แล้ว​ต่อ​มา​อีก 2 ปี​ครึ่ง เรา​ก็​มี​จีโอวานนี่​ลูก​ชาย​คน​ที่ 2

การ​รับ​บัพติศมา​ที่​แม่น้ำ​ตาปานาโฮนี​ใกล้​เมือง​โกโดโฮโล​ซึ่ง​อยู่​ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​ซูรินาเม​ใน​ปี 1983

เนื่อง​จาก​ตอน​นั้น​มี​ความ​จำเป็น​มาก​ใน​ประเทศ​ซูรินาเม ทั้ง ๆ ที่​ผม​มี​ลูก​สำนักงาน​สาขา​ก็​ยัง​ให้​ผม​ทำ​งาน​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด​ต่อ​ไป ตอน​ลูก​ยัง​เล็ก​ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เยี่ยม​หมวด​ที่​มี​ไม่​กี่​ประชาคม มัน​ก็​เลย​ทำ​ให้​เดือน​หนึ่ง​ผม​จะ​เยี่ยม​หมวด​แค่​ประมาณ 2 ประชาคม แล้ว​เวลา​ที่​เหลือ​ผม​ก็​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​ประชาคม​ของ​เรา เมื่อ​ผม​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​ที่​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​บ้าน เอเธล​กับ​ลูก ๆ ก็​จะ​ไป​ด้วย แต่​ถ้า​ต้อง​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​หรือ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ใน​เขต​ป่า​ดิบ​ชื้น ผม​ก็​จะ​ไป​คน​เดียว

ตอน​ที่​ทำ​งาน​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด ผม​มัก​จะ​นั่ง​เรือ​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​ที่​อยู่​ใน​เขต​โดด​เดี่ยว

ผม​ต้อง​วาง​แผน​อย่าง​ดี​มาก ๆ เพื่อ​จะ​ทำ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ทุก​อย่าง​ได้ ผม​จะ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​ครอบครัว​เรา​มี​การ​นมัสการ​ประจำ​ครอบครัว​ทุก​สัปดาห์ และ​ตอน​ที่​ผม​ต้อง​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​ที่​อยู่​ไกล ๆ เอเธล​ก็​จะ​นำ​การ​นมัสการ​ประจำ​ครอบครัว​กับ​ลูก ๆ แต่​ปกติ​แล้ว​เรา​จะ​ทำ​อะไร ๆ ด้วย​กัน​ทั้ง​ครอบครัว​ให้​มาก​ที่​สุด​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้ นอกจากนั้น ผม​กับ​เอเธล​ยัง​พยายาม​หา​อะไร​สนุก ๆ และ​เป็น​ประโยชน์​กับ​ลูก​มา​ทำ​ด้วย​กัน​เป็น​ประจำ เช่น เรา​จะ​เล่น​เกม​หรือ​ออก​ไป​เที่ยว​ใกล้ ๆ บ้าน​ด้วย​กัน​ทั้ง​ครอบครัว ผม​นอน​ดึก​บ่อย ๆ เพราะ​ต้อง​เตรียม​เกี่ยว​กับ​งาน​มอบหมาย ส่วน​เอเธล​ก็​เป็น​ภรรยา​ที่​ดี​เหมือน​ที่​พูด​ใน​สุภาษิต 31:15 เลย เธอ​จะ​ตื่น​ตั้งแต่​เช้า​มืด​และ​เตรียม​ทุก​อย่าง​ให้​พร้อม​เพื่อ​ที่​เรา​ทุก​คน​จะ​ได้​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​ประจำ​วัน​ด้วย​กัน เสร็จ​แล้ว​ก็​กิน​ข้าว​พร้อม​กัน​ก่อน​ที่​ลูก​จะ​ไป​โรง​เรียน ผม​ขอบคุณ​จริง ๆ ที่​มี​ภรรยา​ที่​เสีย​สละ​และ​ทุ่มเท​ขนาด​นี้​ที่​เต็ม​ใจ​ช่วย​ผม​ให้​ทำ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ต่าง ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​กับ​ผม

ผม​กับ​เอเธล​พยายาม​ทำ​หน้า​ที่​พ่อ​แม่​อย่าง​เต็ม​ที่​เพื่อ​ช่วย​ลูก​ให้​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​รัก​งาน​รับใช้ แต่​เรา​อยาก​ให้​ลูก​ชาย​ของ​เรา​ทั้ง 2 คน​เลือก​เอง​ว่า​อยาก​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา ไม่​ใช่​ทำ​เพราะ​เรา​อยาก​ให้​ทำ เรา​จะ​เน้น​กับ​ลูก​เสมอ​ว่า​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​ขนาด​ไหน ถึง​เรา​จะ​บอก​ให้​ลูก​รู้​ด้วย​ว่า​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​อาจ​ทำ​ให้​เจอ​ความ​ยาก​ลำบาก​บ้าง แต่​เรา​ก็​จะ​เล่า​ด้วย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ครอบครัว​เรา​และ​อวยพร​ครอบครัว​เรา​มาก​แค่​ไหน นอกจากนั้น เรา​ยัง​ช่วย​ลูก​ให้​มี​เพื่อน​ที่​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​ใช้​เวลา​กับ​คน​ที่​ให้​พระองค์​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต

ช่วง​ที่​เรา​เลี้ยง​ลูก พระ​ยะโฮวา​ดู​แล​ให้​เรา​มี​สิ่ง​จำเป็น​ทุก​อย่าง​จริง ๆ แน่นอน​ว่า​ผม​ก็​ต้อง​ทำ​ส่วน​ของ​ผม​ด้วย​เพื่อ​จะ​เลี้ยง​ดู​ครอบครัว ประสบการณ์​ของ​ผม​ตอน​เป็น​โสด​และ​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น​สอน​ผม​ให้​รู้​จัก​วาง​แผน​ล่วง​หน้า​และ​เก็บ​เงิน​ไว้​เพื่อ​ซื้อ​สิ่ง​จำเป็น แต่​บาง​ครั้ง ถึง​เรา​จะ​พยายาม​ทำ​ดี​ที่​สุด​แล้ว​เรา​ก็​อาจ​จะ​ขาด​สิ่ง​จำเป็น​บ้าง แต่​หลัง​จาก​เหตุ​การณ์​แบบ​นั้น​เกิด​ขึ้น ผม​เชื่อ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เรา​ให้​ผ่าน​มัน​มา​ได้ เช่น ตอน​เกิด​สงคราม​กลาง​เมือง​ใน​ซูรินาเม​ใน​ช่วง​ปี 1986-1992 ตอน​นั้น​ประชาชน​ขาด​แคลน​แม้​แต่​สิ่ง​จำเป็น​พื้น​ฐาน แม้​จะ​ลำบาก​แบบ​นั้น พระ​ยะโฮวา​ก็​ดู​แล​เรา​จริง ๆ—มธ. 6:32

มอง​ย้อน​กลับ​ไป

จาก​ซ้าย​ไป​ขวา ผม​กับ​เอเธล

เอทนีเอล​ลูก​ชาย​คน​โต​กับ​นาตาลี​ภรรยา​ของ​เขา

จีโอวานนี่​ลูก​ชาย​คน​ที่​สอง​กับ​คริสตัล​ภรรยา​ของ​เขา

ผม​เห็น​มา​ตลอด​ชีวิต​เลย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดู​แล​เรา​อย่าง​ดี และ​ช่วย​ให้​เรา​มี​ชีวิต​ที่​มี​ความ​สุข​มาก​จริง ๆ ลูก​เป็น​ของ​ขวัญ​ที่​ยอด​เยี่ยม​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​กับ​เรา และ​การ​ได้​เลี้ยง​พวก​เขา​ให้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ก็​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​มาก เรา​ดีใจ​มาก​ที่​ตอน​นี้​ลูก ๆ ก็​เลือก​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ด้วย เอทนีเอล​กับ​จีโอวานนี่​จบ​จาก​โรง​เรียน​ที่​ปัจจุบัน​เรียก​ว่า​โรง​เรียน​ผู้​ประกาศ​ราช​อาณาจักร (SKE) และ​ตอน​นี้​พวก​เขา​กับ​ภรรยา​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา​ซูรินาเม

ตอน​นี้​ผม​กับ​เอเธล​อายุ​มาก​แล้ว แต่​เรา​ยัง​คง​ทำ​งาน​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง เรา​สอง​คน​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ ที่​จริง​เรา​สอง​คน​ยัง​คง​ยุ่ง​มาก​จน​ผม​ยัง​ไม่​มี​เวลา​ไป​เรียน​ว่าย​น้ำ​เลย แต่​ผม​ก็​ไม่​เสียใจ พอ​มอง​ย้อน​กลับ​ไป​ผม​รู้สึก​ว่า​การ​ตัดสิน​ใจ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​เต็ม​เวลา​ตั้งแต่​อายุ​น้อย ๆ เป็น​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​จริง ๆ

b ดู​เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง​ของ​วิลเลม แวน เซจล์​ใน​บทความ “ของ​จริง​มัน​ยิ่ง​กว่า​ที่​ผม​คิด​ไว้​ซะ​อีก” ใน​ตื่นเถิด! (ภาษา​อังกฤษ) 8 ตุลาคม 1999