บทความศึกษา 12
คุณมองเห็นอย่างที่เศคาริยาห์เห็นไหม?
“เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ . . . เพราะพลังของเรา’”—ศคย. 4:6
เพลง 73 ขอช่วยให้เรากล้าหาญ
ใจความสำคัญ *
1. ชาวยิวตื่นเต้นเรื่องอะไร?
ตอนนั้นชาวยิวคงต้องตื่นเต้นมาก ๆ “พระยะโฮวาได้กระตุ้นความคิดจิตใจกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซีย” ให้ปล่อยชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลนมาหลายสิบปี ไซรัสประกาศว่าชาวยิวสามารถกลับบ้านเกิดของพวกเขา “เพื่อไปสร้างวิหารของพระยะโฮวาพระเจ้าของอิสราเอลขึ้นใหม่” ได้ (อสร. 1:1, 3) มันน่าตื่นเต้นจริง ๆ นี่หมายความว่าการนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้จะได้รับการฟื้นฟูในแผ่นดินที่พระองค์ให้กับพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง
2. ชาวยิวที่กลับไปบ้านเกิดทำอะไรสำเร็จเป็นอย่างแรก?
2 ในปี 537 ก่อนคริสต์ศักราช ชาวยิวกลุ่มแรกได้กลับมาถึงกรุงเยรูซาเล็มที่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรยูดาห์ที่อยู่ทางใต้ พอมาถึง พวกเขาก็เริ่มสร้างวิหาร และในปีถัดมาซึ่งเป็นปี 536 ก่อน ค.ศ. พวกเขาก็วางฐานรากเสร็จแล้ว
3. ชาวยิวเจอการต่อต้านอะไร?
3 พอชาวยิวเริ่มก่อสร้างวิหาร พวกเขาก็เจอการต่อต้านอย่างหนัก “ชาติต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบก็พยายามทำลายขวัญกำลังใจของชาวยูดาห์จนพวกเขาท้อแท้ไม่อยากสร้างวิหาร” (อสร. 4:4) พอถึงปี 522 ก่อน ค.ศ. อาร์ทาเซอร์ซิสขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของเปอร์เซีย * สถานการณ์ก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก พวกผู้ต่อต้านเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะหยุดงานก่อสร้างวิหารอย่างถาวรได้ พวกเขาเสนอกษัตริย์ให้ “ออกกฎหมายเพื่อสร้างความเดือดร้อน” (สด. 94:20) พวกเขาบอกกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซิสว่าชาวยิวมี แผนจะกบฏต่อต้านท่าน (อสร. 4:11-16) กษัตริย์ก็หลงเชื่อพวกเขาเลยสั่งห้ามการก่อสร้างวิหาร (อสร. 4:17-23) นี่เลยทำให้ชาวยิวหยุดทำงานของพวกเขา—อสร. 4:24
4. พระยะโฮวาทำอะไรเมื่อมีคนต่อต้านการสร้างวิหารของพระองค์? (อิสยาห์ 55:11)
4 คนในแผ่นดินนั้นที่ไม่ได้นมัสการพระยะโฮวาและเจ้าหน้าที่บางคนของเปอร์เซียตั้งใจหยุดงานก่อสร้างวิหารให้ได้ แต่พระยะโฮวาจะไม่ยอมให้อะไรมาหยุดงานนี้ และความประสงค์ของพระองค์ก็สำเร็จเสมอ (อ่านอิสยาห์ 55:11) พระยะโฮวาแต่งตั้งผู้พยากรณ์ที่ใจกล้าคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ พระองค์ให้เขาเห็นนิมิต 8 เรื่องที่น่าตื่นเต้น เศคาริยาห์ต้องไปเล่าให้ชาวยิวฟังเกี่ยวกับนิมิตเหล่านี้เพื่อที่พวกเขาจะได้กำลังใจ นิมิตเหล่านี้ช่วยชาวยิวให้เห็นว่าพวกเขาไม่ต้องกลัวพวกผู้ต่อต้าน และยังช่วยพวกเขาให้ตั้งใจทำงานที่พระองค์มอบหมายให้สำเร็จ นิมิตที่ 5 ที่เศคาริยาห์เห็นเป็นนิมิตเกี่ยวกับเชิงตะเกียงและต้นมะกอก 2 ต้น
5. เราจะคุยเรื่องอะไรบ้างในบทความนี้?
5 เราทุกคนหนีไม่พ้นเรื่องที่ทำให้ท้อใจในบางครั้ง เราจะได้กำลังใจแน่ ๆ จากนิมิตเรื่องที่ 5 ที่พระยะโฮวาให้เศคาริยาห์เห็น นิมิตนี้จะช่วยให้เรารับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ตอนที่เจอการต่อต้าน ตอนที่เจอการเปลี่ยนแปลง และตอนที่ได้รับคำแนะนำที่เราไม่เข้าใจเหตุผล เราจะดูเรื่องเหล่านี้ในบทความนี้ด้วยกัน
ตอนที่เจอการต่อต้าน
เศคาริยาห์เห็นนิมิต ในนิมิตนั้นมีต้นมะกอก 2 ต้น และมีน้ำมันมะกอกไหลออกจากต้นลงมาที่เชิงตะเกียงซึ่งมีตะเกียง 7 ดวง (ดูข้อ 6)
6. นิมิตเรื่องเชิงตะเกียงและต้นมะกอก 2 ต้นในเศคาริยาห์ 4:1-3 ช่วยชาวยิวยังไงให้มีความกล้า? (ดูภาพหน้าปก)
6 อ่านเศคาริยาห์ 4:1-3 นิมิตเรื่องเชิงตะเกียงและต้นมะกอก 2 ต้นช่วยชาวยิวให้มีความกล้าเมื่อเจอการต่อต้าน นิมิตนี้ช่วยพวกเขายังไง? เศคาริยาห์เห็นเชิงตะเกียง 1 อันที่มีตะเกียง 7 ดวงตั้งอยู่ระหว่างต้นมะกอก 2 ต้น น้ำมันจากต้นมะกอกไหลลงในถ้วยที่อยู่เหนือเชิงตะเกียงตลอดเวลา เลยทำให้ไฟตะเกียงไม่มีวันดับ เศคาริยาห์ถามว่า “ท่านครับ ที่ผมเห็นนี้หมายความว่าอะไร?” พระยะโฮวาตอบเขาผ่านทางทูตสวรรค์ว่า “เรายะโฮวาผู้เป็นจอมทัพบอกว่า ‘เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เพราะกำลังทหารหรือกำลังอย่างอื่น แต่เพราะพลังของเรา’” (ศคย. 4:4, 6) น้ำมันมะกอกในนิมิตนี้หมายถึงพลังบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาที่ไม่มีวันหมด กองทัพทั้งหมดของจักรวรรดิเปอร์เซียไม่มีทางสู้กับพลังบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาได้ และเพราะพระยะโฮวาอยู่กับชาวยิวที่สร้างวิหาร ศัตรูเลยไม่สามารถจะหยุดงานของพวกเขาได้ พวกเขาจะสร้างวิหารของพระองค์เสร็จแน่นอน เรื่องนี้ให้กำลังใจชาวยิวจริง ๆ สิ่งที่ชาวยิวเหล่านั้นต้องทำคือพวกเขาต้องไว้วางใจพระยะโฮวาและกลับไปทำงานของตัวเอง แล้วพวกเขาก็กลับไปทำงานของตัวเองจริง ๆ แม้จะถูกสั่งห้ามอยู่
7. มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นซึ่งช่วยชาวยิวที่กำลังสร้างวิหาร?
7 ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยชาวยิวที่กำลังสร้างวิหาร การเปลี่ยนแปลงที่ว่าคืออะไร? เปอร์เซียมีกษัตริย์องค์ใหม่ชื่อดาริอัสที่ 1 และในปี 520 ก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นปีที่ 2 ที่เขาปกครอง เขารู้มาว่าการสั่งห้ามสร้างวิหารเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง เขาเลยบอกให้ชาวยิวสร้างต่อให้เสร็จ (อสร. 6:1-3) ไม่เพียงเท่านั้น กษัตริย์ยังทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขาบอกไม่ให้ใครไปยุ่งหรือขัดขวางการสร้างวิหารนี้ด้วย แถมยังให้เงินและสิ่งที่ชาวยิวจำเป็นต้องมี (อสร. 6:7-12) ในปี 515 ก่อน ค.ศ. ชาวยิวเลยสร้างวิหารเสร็จโดยใช้เวลา 4 ปีกว่า—อสร. 6:15
พึ่งพลังของพระยะโฮวาตอนที่เจอการต่อต้าน (ดูข้อ 8)
8. แม้จะเจอการต่อต้าน ทำไมคุณถึงกล้าหาญได้?
8 ทุกวันนี้พยานฯ หลายคนเจอการต่อต้าน เช่น ในบางประเทศที่งานของเราไม่มีอิสระเต็มที่ พี่น้องอาจถูกจับและ “ถูกนำตัวไปอยู่ต่อหน้าผู้ว่าราชการและกษัตริย์” แต่นี่ก็ทำให้พวกเขาได้ประกาศกับคนเหล่านั้น (มธ. 10:17, 18) บางครั้งอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการปกครองในประเทศเหล่านั้นซึ่งทำให้พี่น้องมีอิสระในการนมัสการพระเจ้ามากขึ้น หรือผู้พิพากษาบางคนที่มีความยุติธรรมอาจตัดสินคดีต่าง ๆ ในแบบที่เป็นประโยชน์ต่องานของเรา นอกจากนั้น พยานฯ ยังอาจเจอการต่อต้านในรูปแบบอื่นด้วย เช่น หลายคนอาจอยู่ในประเทศที่งานของเรามีอิสระ แต่กลับเจอการต่อต้านจากครอบครัวให้เลิกรับใช้พระยะโฮวา (มธ. 10:32-36) แต่หลายครั้งญาติของพี่น้องเหล่านี้ก็รู้สึกว่าที่พวกเขาบอกให้พี่น้องของเราเลิกรับใช้พระเจ้า มันไม่ได้ผลก็เลยไม่ห้ามพี่น้องของเราอีก และบางครั้งคนที่เคยต่อต้านอย่างหนักก็ถึงกับเข้ามาเป็นพยานฯที่กระตือรือร้นด้วย ดังนั้น ถ้าคุณเจอการต่อต้านก็อย่าเพิ่งท้อ ให้กล้าหาญเข้าไว้ คุณมีพระยะโฮวาและพลังบริสุทธิ์ของพระองค์อยู่กับคุณ คุณไม่มีอะไรต้องกลัว
ตอนที่เจอการเปลี่ยนแปลง
9. ทำไมบางคนที่เห็นฐานรากของวิหารหลังใหม่ถึงรู้สึกผิดหวัง?
9 หลังจากมีการวางฐานรากของวิหารเสร็จ ชาวยิวที่สูงอายุบางคนก็ร้องไห้ (อสร. 3:12) พวกเขาทำใจไม่ได้เพราะพวกเขาเคยเห็นวิหารหลังเก่าที่สวยงามที่โซโลมอนสร้าง พวกเขารู้สึกว่าวิหารหลังใหม่นี้ “เทียบกันไม่ได้เลย” กับหลังเก่า (ฮกก. 2:2, 3) แต่นิมิตของเศคาริยาห์ช่วยพวกเขาให้กลับมามีความสุขอีกครั้ง นิมิตนี้ช่วยพวกเขายังไง?
10. คำพูดของทูตสวรรค์ที่เศคาริยาห์ 4:8-10 ช่วยชาวยิวที่กำลังผิดหวังยังไง?
10 อ่านเศคาริยาห์ 4:8-10 ทูตสวรรค์หมายความว่ายังไงที่บอกว่าชาวยิว “จะดีใจที่เห็นเศรุบบาเบล [ผู้ว่าราชการชาวยิว] ถือสายดิ่ง”? สายดิ่งเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้วัดว่าสิ่งที่กำลังวัดอยู่นั้นตั้งตรงหรือไม่ ที่ทูตสวรรค์พูดแบบนี้เป็นการรับรองกับชาวยิวว่าถึงบาง คนรู้สึกว่าวิหารหลังใหม่นี้จะด้อยกว่าวิหารหลังเก่า แต่จริง ๆ แล้ววิหารหลังนี้ก็มีทุกอย่างครบถ้วนตามมาตรฐานของพระยะโฮวาแล้ว ถ้าพระยะโฮวาพอใจวิหารหลังนี้ชาวยิวมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ชอบ สิ่งสำคัญสำหรับพระยะโฮวาก็คือชาวยิวต้องนมัสการพระองค์ในวิหารใหม่นี้ตามวิธีที่พระองค์บอก ถ้าชาวยิวไม่ได้ให้ความสำคัญที่ตัววิหารแต่เน้นที่การนมัสการพระยะโฮวาและทำให้พระองค์พอใจ พวกเขาก็จะมีความสุขเหมือนเดิม
ตอนที่เจอการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ให้คิดบวก (ดูข้อ 11-12) *
11. ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาบางคนในทุกวันนี้เจอปัญหาอะไร?
11 ทุกวันนี้พวกเราหลายคนก็เจอการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเหมือนกัน บางคนเคยเป็นผู้รับใช้เต็มเวลาประเภทพิเศษมานานหลายปีแต่ก็ถูกเปลี่ยนงานมอบหมาย ส่วนบางคนก็ต้องหยุดจากงานรับใช้ที่พวกเขารักเพราะอายุมาก ถ้าเราเจอการเปลี่ยนแปลงนี้ก็เป็นธรรมดาที่เราจะรู้สึกผิดหวัง ตอนแรกเราอาจไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกเปลี่ยนงานมอบหมายหรืออาจรู้สึกไม่เห็นด้วย เราอาจคิดถึงวันเวลาเก่า ๆ และอาจรู้สึกท้อ เราอาจรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์กับพระยะโฮวาแล้ว (สภษ. 24:10) ให้เรามาดูว่านิมิตของเศคาริยาห์ช่วยเรายังไงให้รับใช้พระยะโฮวาอย่างดีที่สุดเท่าที่เราทำได้
12. นิมิตของเศคาริยาห์ช่วยเรายังไงให้ยังมีความสุข ถึงสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตเราจะเปลี่ยนไป?
12 ถ้าเรามองสิ่งต่าง ๆ อย่างที่พระยะโฮวามองก็จะช่วยให้เรารับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น ในทุกวันนี้พระยะโฮวากำลังทำหลายอย่างให้สำเร็จและเราก็มีสิทธิพิเศษที่ได้เป็นเพื่อนร่วมงานของพระองค์ (1 คร. 3:9) ถึงแม้งานมอบหมายของเราอาจจะเปลี่ยนไป แต่พระยะโฮวาจะรักเราไม่เปลี่ยนแปลงเลย ถ้าองค์การของพระเจ้ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่มีผลกระทบกับคุณโดยตรง อย่ามัวแต่คิดถึงเหตุผลว่าทำไมเขาต้องเปลี่ยนแบบนี้ และอย่าเอาแต่คิดว่า “ทำไมเมื่อก่อนดีกว่าเดี๋ยวนี้?” ให้คุณอธิษฐานขอพระยะโฮวาช่วยคุณให้เห็นข้อดีของการเปลี่ยนแปลง (ปญจ. 7:10) ขอให้คุณพยายามคิดถึงสิ่งที่ทำได้ตอนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คุณทำไม่ได้ นิมิตของเศคาริยาห์สอนเราว่าเราต้องพยายามคิดบวกอยู่เสมอ ถ้าเราทำแบบนั้น เราก็จะรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์และมีความสุขถึงแม้สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของเราจะเปลี่ยนไป
ตอนที่ได้รับคำแนะนำที่เราไม่เข้าใจเหตุผล
13. ทำไมคนยิวบางคนถึงคิดว่าไม่ฉลาดเลยที่จะกลับมาสร้างวิหารอีกครั้ง?
13 ถึงตอนนั้นชาวยิวจะถูกสั่งห้ามไม่ให้สร้างวิหาร แต่มหาปุโรหิตเยชูอา (โยชูวา) กับผู้ว่าราชการเศรุบบาเบล “ก็เริ่มสร้างวิหารของพระเจ้า” (อสร. 5:1, 2) ชาวยิวคนอื่นคงมองว่าเขาสองคนตัดสินใจไม่ฉลาดเลย เพราะศัตรูที่อยู่รอบ ๆ ก็มองเห็นว่าพวกเขาทำอะไรและคงพยายามทำทุกวิถีทางที่จะหยุดพวกเขา โยชูวากับเศรุบบาเบลต้องอยากได้การรับรองจากพระยะโฮวาแน่ ๆ ว่าพระองค์ชี้นำพวกเขา แล้วพระยะโฮวาก็ทำอย่างนั้นจริง ๆ พระองค์ทำยังไง?
14. จากเศคาริยาห์ 4:12, 14 พระยะโฮวารับรองกับโยชูวาและเศรุบบาเบลยังไง?
14 อ่านเศคาริยาห์ 4:12, 14 ในนิมิต เศคาริยาห์เห็นทูตสวรรค์บอกเขาว่า ต้นมะกอก 2 ต้นหมายถึง “ผู้ถูกเจิม 2 คน” ซึ่งก็คือโยชูวากับเศรุบบาเบล ทูตสวรรค์บอกว่าเขา 2 คน “ยืนอยู่ข้าง ๆ พระเจ้าผู้เป็นเจ้าของโลกทั้งโลก” ซึ่งหมายถึงพระยะโฮวา คิดดูสิว่าเขา 2 คนมีสิทธิพิเศษมากขนาดไหน และนี่ก็แสดงว่าพระยะโฮวาต้องไว้ใจพวกเขามาก ๆ ฉะนั้นชาวยิวก็น่าจะไว้ใจการตัดสินใจของโยชูวากับเศรุบบาเบลเหมือนกัน เพราะพระยะโฮวาแต่งตั้งเขาสองคนให้นำหน้าชาวยิวในสมัยนั้น
15. เราต้องทำยังไงเพื่อจะแสดงว่าเรายอมรับการชี้นำของพระยะโฮวาผ่านทางคัมภีร์ไบเบิล?
15 วิธีหนึ่งที่พระยะโฮวาชี้นำคนของพระองค์ในทุกวันนี้ก็คือทางคัมภีร์ไบเบิล คัมภีร์ไบเบิลทำให้เรารู้ว่าเราจะนมัสการพระองค์อย่างที่พระองค์พอใจได้ยังไง ถ้าอย่างนั้น เราต้องทำยังไงเพื่อจะแสดงว่าเรายอมรับการชี้นำของพระยะโฮวา? เราต้องใช้เวลาอ่าน คิดใคร่ครวญ และพยายามเข้าใจสิ่งที่เราอ่าน ให้เราถามตัวเองว่า ‘ตอนที่ฉันอ่านคัมภีร์ไบเบิล บทความหรือหนังสือขององค์การ ฉันหยุดและคิดใคร่ครวญไหม หรือฉันแค่อ่านไปเรื่อย ๆ? ถ้ามีบางเรื่อง “ที่เข้าใจยาก” ฉันค้นคว้าเพิ่มเติมไหม หรือฉันแค่อ่านผ่าน ๆ ให้จบ ๆ?’ (2 ปต. 3:16) ถ้าเราใช้เวลาคิดใคร่ครวญว่าพระยะโฮวากำลังสอนอะไรเรา เราก็จะทำตามการชี้นำของพระองค์และรับใช้อย่างประสบความสำเร็จได้—1 ทธ. 4:15, 16
ไว้ใจคำแนะนำจาก “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” (ดูข้อ 16) *
16. ถ้าเราได้รับคำแนะนำจาก “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” ที่เราไม่เข้าใจเหตุผล อะไรจะช่วยเราได้?
16 อีกวิธีหนึ่งที่พระยะโฮวาชี้นำเราก็คือโดยทาง “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” (มธ. 24:45) บางครั้งทาสที่ซื่อสัตย์อาจจะแนะนำให้เราทำบางอย่างแบบที่เราไม่เข้าใจเหตุผล ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจแนะนำวิธีที่เราจะรอดชีวิตผ่านภัยพิบัติซึ่งเราอาจจะรู้สึกว่าไม่มีทางเกิดแถวบ้านเราแน่ ๆ หรือเราอาจจะรู้สึกว่าทาสที่ซื่อสัตย์กังวลมากเกินไปเรื่องโควิด-19 ถ้าอย่างนั้นเราควรทำยังไงถ้ารู้สึกว่าคำแนะนำของพวกเขาไม่มีเหตุผลหรือคิดว่าเอามาใช้จริงไม่ได้? ให้เราคิดถึงตัวอย่างของชาวยิว พอพวกเขาทำตามคำแนะนำของโยชูวากับเศรุบบาเบล พวกเขาก็ได้รับประโยชน์ หรือเราอาจจะคิดถึงเรื่องราวอื่น ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลก็ได้ เราเห็นว่าหลายครั้งคนของพระยะโฮวาได้รับคำแนะนำบางอย่างที่สำหรับมนุษย์แล้วอาจจะดูไม่มีเหตุผล แต่เมื่อพวกเขาทำตาม พวกเขาก็รอดชีวิต—วนฉ. 7:7; 8:10
มองสิ่งต่าง ๆ อย่างที่เศคาริยาห์เห็น
17. นิมิตเรื่องเชิงตะเกียงและต้นมะกอกสองต้นมีผลยังไงกับชาวยิว?
17 ถึงนิมิตที่ 5 ที่เศคาริยาห์เห็นจะสั้น ๆ แต่นี่ก็ช่วยชาวยิวให้มองงานที่พวกเขาได้รับมอบหมายในแง่บวกและกระตือรือร้นในการนมัสการมากขึ้น พอพวกเขาทำตามสิ่งที่ได้เรียนจากนิมิตของเศคาริยาห์ พวกเขาก็รู้เลยว่าพระยะโฮวารักพวกเขา คอยช่วยเหลือพวกเขา และชี้นำพวกเขาอยู่ พระยะโฮวาให้พลังบริสุทธิ์กับพวกเขา พวกเขาก็เลยทำงานต่อไปได้และกลับมามีความสุขอีกครั้ง—อสร. 6:16
18. นิมิตของเศคาริยาห์มีผลกับคุณยังไง?
18 อย่างที่เราได้คุยกันไปแล้ว นิมิตเรื่องเชิงตะเกียงกับต้นมะกอก 2 ต้นมีผลกับชีวิตของคุณมาก นิมิตนี้จะช่วยให้คุณมีกำลังที่จะรับมือกับการต่อต้านได้ และช่วยให้คุณมีความสุขได้ถึงจะต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต และยังช่วยให้คุณไว้ใจและเชื่อฟังคำแนะนำถึงแม้จะไม่เข้าใจเหตุผล ถ้าคุณต้องเจอกับปัญหาหลายอย่างในชีวิต คุณจะต้องทำยังไง? อย่างแรกให้คุณมองสิ่งต่าง ๆ อย่างที่เศคาริยาห์เห็น คุณต้องมองว่าพระยะโฮวากำลังดูแลคนของพระองค์อยู่ แล้วให้คุณทำตามสิ่งที่คุณเห็นโดยไว้ใจพระยะโฮวาเสมอและนมัสการพระองค์สุดหัวใจ (มธ. 22:37) ถ้าคุณทำอย่างนั้นพระยะโฮวาก็จะช่วยให้คุณรับใช้พระองค์อย่างมีความสุขตลอดไป—คส. 1:10, 11
เพลง 7 พระยะโฮวาทำให้เราเข้มแข็ง
^ วรรค 5 พระยะโฮวาให้ผู้พยากรณ์เศคาริยาห์เห็นนิมิตหลายเรื่องที่ทำให้เขาและคนของพระองค์มีกำลังที่จะฟื้นฟูการนมัสการบริสุทธิ์ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และนิมิตเหล่านี้ก็จะช่วยให้เรารับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ต่อไปได้ถึงจะเจอกับปัญหาหลายอย่าง ในบทความนี้เราจะได้คุยกันเกี่ยวกับบทเรียนจากนิมิตของเศคาริยาห์เรื่องเชิงตะเกียงและต้นมะกอก
^ วรรค 3 หลายปีต่อมา ในสมัยของเนหะมีย์ก็มีกษัตริย์ที่ชื่ออาร์ทาเซอร์ซิสเหมือนกัน แต่กษัตริย์คนนี้ชอบชาวยิว