บทความศึกษา 18
“วิ่งแข่งจนถึงเส้นชัย”
“ผมวิ่งแข่งจนถึงเส้นชัยแล้ว”—2 ทธ. 4:7
เพลง 129 เราจะอดทนต่อ ๆ ไป
ใจความสำคัญ *
1. เราทุกคนต้องทำอะไร?
ถ้าคุณรู้ว่ามีการแข่งวิ่งที่ลำบากมากแล้วคุณก็กำลังป่วยและหมดแรง คุณคิดว่าคุณจะไปวิ่งแข่งไหม? ก็คงไม่ แต่เปาโลบอกว่าคริสเตียนทุกคนกำลังวิ่งแข่งอยู่ (ฮบ. 12:1) เราทุกคนทั้งคนที่อายุมากและคนที่อายุน้อย คนที่มีแรงและคนที่หมดแรง ถ้าเราอยากได้รางวัลที่พระยะโฮวาให้ เราต้องอดทนวิ่งจนถึงที่สุด—มธ. 24:13
2. อย่างที่บอกใน 2 ทิโมธี 4:7, 8 ทำไมเปาโลถึงแนะนำเราได้?
2 เปาโลแนะนำเราเรื่องนี้ได้เพราะเขา “วิ่งแข่งจนถึงเส้นชัยแล้ว” (อ่าน 2 ทิโมธี 4:7, 8) แต่เปาโลกำลังพูดถึงการวิ่งแข่งแบบไหน?
การวิ่งแข่งแบบไหน?
3. เปาโลพูดถึงการวิ่งแข่งแบบไหน?
3 หลายครั้งเปาโลสอนบทเรียนสำคัญโดยใช้ตัวอย่างของการแข่งขันในสมัยกรีกโบราณ (1 คร. 9:25-27; 2 ทธ. 2:5) และก็มีหลายครั้งที่เขาเทียบชีวิตของคริสเตียนกับการวิ่งแข่ง (1 คร. 9:24; ฟป. 2:16; 2 ทธ. 4:7) คนเราเริ่ม “วิ่ง” ในการแข่งนี้เมื่อเขาอุทิศตัวให้กับพระยะโฮวาและรับบัพติศมา (1 ปต. 3:21) และเขาจะเข้าเส้นชัยเมื่อพระยะโฮวาให้รางวัลเป็นชีวิตตลอดไปกับเขา—มธ. 25:31-34, 46; 2 ทธ. 4:8
4. เราจะคุยเรื่องอะไรในบทความนี้?
4 ชีวิตคริสเตียนกับการวิ่งแข่งระยะไกลมีหลายอย่างที่คล้ายกัน ให้เรามาดู 3 อย่างด้วยกัน (1) เราต้องวิ่งในเส้นทางที่ถูกต้อง (2) เราต้องมองไปที่เส้นชัย (3) เราต้องวิ่งต่อไปถึงแม้จะมีอุปสรรคระหว่างทาง
วิ่งในเส้นทางที่ถูกต้อง
เราทุกคนต้องวิ่งในทางของคริสเตียน (ดูข้อ 5-7) *
5. เราต้องอยู่ในเส้นทางไหน? และทำไมเราต้องทำอย่างนั้น?
5 เพื่อนักวิ่งจะได้รางวัล เขาต้องวิ่งในทางที่จัดเอาไว้ คล้ายกันถ้าเราอยากได้รางวัลชีวิตตลอดไป เราต้องอยู่ในเส้นทางของคริสเตียนซึ่งก็คือต้องใช้ชีวิตแบบคริสเตียน (กจ. 20:24; 1 ปต. 2:21) แต่ซาตานและคนที่ติดตามมันไม่อยากให้เราวิ่งในเส้นทางนั้น พวกเขาอยากให้เราใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ เหมือนพวกเขา (1 ปต. 4:4) นอกจากนั้น พวกเขายังเยาะเย้ยทางคริสเตียนของเราและบอกว่าทางของพวกเขาดีกว่าเพราะว่าทำให้มีอิสระ แต่สิ่งที่พวกเขาพูดไม่จริง—2 ปต. 2:19
6. คุณเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของไบรอัน?
6 ใครที่วิ่งกับคนที่ใช้ชีวิตตามมาตรฐานของโลกซาตาน ไม่นานก็จะเจอว่าทางที่เขากำลังวิ่งอยู่นั้นไม่ได้ทำให้มีอิสระจริง ๆ แต่มันกลับทำให้เขากลายเป็นทาส (รม. 6:16) ให้เรามาดูตัวอย่างของไบรอัน ตั้งแต่เขาเป็นเด็ก พ่อแม่ของเขาพยายามช่วยเขาให้อยู่ในทางของคริสเตียน ตอนที่เขาเป็นวัยรุ่น เขาสงสัยว่าการใช้ชีวิตแบบนั้นจะทำให้เขามีความสุขจริง ๆ หรือเปล่า ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะวิ่งกับคนที่ใช้ชีวิตตามมาตรฐานของโลกซาตาน ไบรอันบอกว่า “ผมนึกไม่ถึงเลยว่าอิสรภาพที่ผมใฝ่ฝันกลับทำให้ผมกลายเป็นทาส” เขาเล่าว่า “ต่อมา ผมเริ่มเสพยา ดื่มเหล้า และใช้ชีวิตแบบผิดศีลธรรม ในช่วงหลายปีหลังจากนั้น ผมเสพยาหนักขึ้นและใช้ยาแรงขึ้นจนกลายเป็นทาสยาเสพติดหลายชนิด . . . ผมเริ่มขายยาเสพติดเพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย” ในที่สุดไบรอันตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระยะโฮวา เขาเปลี่ยนมาวิ่งในเส้นทางที่ถูกต้องและรับบัพติศมาในปี 2001 ตอนนี้เขาอยู่ในทางของคริสเตียนและมีความสุขจริง ๆ *
7. อย่างที่บอกไว้ในมัทธิว 7:13, 14 มีสองทางอะไรที่เราต้องเลือก?
7 เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะตัดสินใจวิ่งในเส้นทางที่ถูกต้อง ซาตานอยากให้เราทุกคนเลิกวิ่งในทางแคบที่ “นำไปถึงชีวิต” มันอยากให้เราเปลี่ยนไปวิ่งในทางกว้างซึ่งวิ่งได้ง่ายและใคร ๆ ก็วิ่งกัน แต่ทางนั้น “นำไปถึงความพินาศ” (อ่านมัทธิว 7:13, 14) เพื่อเราจะวิ่งในเส้นทางที่ถูกต้องต่อ ๆ ไปและไม่ไขว้เขวหรือถูกหลอกให้ไปวิ่งในทางอื่น เราต้องไว้ใจพระยะโฮวาและฟังพระองค์
มองไปที่เส้นชัย
เราต้องมองที่เส้นชัยและไม่ทำให้คนอื่นสะดุด (ดูข้อ 8-12) *
8. ถ้านักวิ่งล้ม เขาจะทำอะไร?
8 ในการวิ่งแข่งระยะไกล นักวิ่งต้องมองทางข้างหน้าตลอดเพื่อเขาจะไม่สะดุด ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็มีหลายครั้งที่นักวิ่งอาจจะเกี่ยวขากันโดยไม่ตั้งใจหรือวิ่งสะดุดพื้นที่เป็นหลุมเป็นบ่อ แต่ถ้าเขาล้ม เขาจะลุกแล้วรีบวิ่งต่อ เขาไม่สนใจว่าอะไรทำให้เขาสะดุดแต่สนใจที่เส้นชัยและรางวัล
9. ถ้าเราสะดุดล้ม เราควรทำอะไร?
9 ในการวิ่งแข่งเพื่อชีวิต เราอาจสะดุดล้มเองหลายครั้ง เราอาจทำผิดทั้งโดยคำพูดและการกระทำของเรา นอกจากนั้น พี่น้องที่วิ่งด้วยกันกับเราก็อาจทำให้เราสะดุดล้มด้วยโดยทำผิดกับเราและทำให้เราเจ็บ เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เราทุกคนเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบและเรากำลังวิ่งในทางแคบที่นำไปถึงชีวิตด้วยกัน ตอนวิ่งเราอาจชนกันโดยไม่ตั้งใจ พี่น้องอาจทำให้เราโกรธหรือเราอาจทำให้เขารู้สึกไม่ดีก็ได้ เหมือนที่เปาโลบอกว่าบางทีเราทำให้คนอื่น “มีสาเหตุจะบ่น” เรา และบางครั้งคนอื่นก็ทำแบบนั้นกับเราด้วยเหมือนกัน (คส. 3:13) ถ้าเราสะดุดล้ม แทนที่จะสนใจว่าอะไรทำให้เราสะดุด ให้เราสนใจรางวัลข้างหน้า ลุกขึ้นแล้ววิ่งต่อไป เพราะถ้าเราไม่ทำแบบนั้น ถ้าเราโกรธไม่หายและไม่ยอมลุกขึ้น เราก็จะไม่ถึงเส้นชัยและไม่ได้รางวัล ไม่ใช่แค่นั้น ถ้าเรายังล้มอยู่ตรงนั้น เราก็จะขวางคนอื่นที่กำลังพยายามวิ่งในทางแคบที่นำไปถึงชีวิต
10. เราต้องทำอะไรเพื่อจะไม่ทำให้คนอื่นสะดุดล้มหรือ “เป็นต้นเหตุให้พี่น้องหลงทำผิด”?
10 อีกวิธีหนึ่งที่เราจะพยายามไม่ทำให้คนอื่นสะดุดล้มหรือ “เป็นต้นเหตุให้พี่น้องหลงทำผิด” ก็คือ ยอมรับการตัดสินใจของพี่น้องแทนที่จะบังคับเขาให้ทำแบบที่เราคิดหรือยืนกรานความคิดของตัวเราเอง (รม. 14:13, 19-21; 1 คร. 8:9, 13) เราไม่เหมือนกับนักวิ่งที่วิ่งแข่งในสนามจริง นักวิ่งจะพยายามเอาชนะนักวิ่งคนอื่นทุกคน เขาคิดถึงแต่ตัวเองและพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อตัวเขาจะได้รางวัลคนเดียว ตอนวิ่งเขาก็จะพยายามเบียดคนอื่นเพื่อตัวเขาจะอยู่ข้างหน้า แต่พวกเราไม่เป็นอย่างนั้น เราไม่แข่งกัน (กท. 5:26; 6:4) เป้าหมายของเราคือพยายามช่วยกันและกันให้เข้าเส้นชัยมากที่สุดและได้รางวัลคือชีวิตตลอดไป เราพยายามที่จะทำตามคำแนะนำของเปาโลที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าที่บอกว่า “อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น ให้เห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นด้วย”—ฟป. 2:4
11. นักวิ่งมองที่ไหน? และเขาทำอย่างนั้นทำไม?
11 นอกจากนักวิ่งจะมองทางข้างหน้าแล้ว เขาจะมองไปที่เส้นชัยด้วย ถึงตอนนั้นเขายังมองไม่เห็นเส้นชัย แต่เขาก็จะมีภาพเส้นชัยอยู่ในหัว นึกภาพตัวเขาเองเข้าเส้นชัยและได้รับรางวัล การทำแบบนี้ทำให้เขามีกำลังใจและมีแรงที่จะวิ่งต่อ
12. พระยะโฮวาจะให้อะไรกับเรา?
12 ในการวิ่งแข่งเพื่อชีวิต พระยะโฮวาสัญญากับคนของพระองค์ว่าถ้าพวกเขาเข้าเส้นชัย พวกเขาจะได้รับชีวิตตลอดไปเป็นรางวัลไม่ว่าจะเป็นชีวิตในสวรรค์หรือบนโลกที่เป็นสวนอุทยาน คัมภีร์ไบเบิลช่วยให้เราเห็นภาพรางวัลที่เราจะได้รับว่าเป็นชีวิตที่ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน ยิ่งเราคิดถึงความหวังในอนาคตที่พระยะโฮวาสัญญา เราก็จะยิ่งตั้งใจที่จะอดทนและไม่ยอมให้อะไรมาทำให้เราสะดุดล้มและไม่วิ่งต่อ
วิ่งต่อไปถึงแม้จะเจออุปสรรค
ถึงจะเจออุปสรรค เราอยากวิ่งต่อไปในทางที่นำไปถึงชีวิต (ดูข้อ 13-20) *
13. เราได้เปรียบกว่านักวิ่งอย่างไร?
13 นักวิ่งในสมัยกรีกโบราณเจออุปสรรคหลายอย่าง เช่นเขาอาจเหนื่อยมากและก็อาจจะเจ็บด้วย แต่สิ่งที่ช่วยเขามีแค่การฝึกฝนและกำลังของเขาเอง เราก็ได้รับการฝึกว่าจะวิ่งอย่างไรเหมือนกัน แต่เราได้เปรียบกว่า เรามีพลังที่ไม่จำกัดจากพระยะโฮวา ถ้าเราพึ่งพระยะโฮวา พระองค์จะช่วยเรา พระองค์ไม่ได้แค่สัญญาว่าจะฝึกเราเท่านั้น แต่จะทำให้เราเข้มแข็งด้วย—1 ปต. 5:10
14. ข้อคัมภีร์ที่ 2 โครินธ์ 12:9, 10 ช่วยเราอย่างไรให้รับมือกับอุปสรรคและปัญหา?
14 เปาโลต้องเจออุปสรรคและปัญหาหลายอย่าง นอกจากเขาจะโดนดูถูกและโดนข่มเหง หลายครั้งเขารู้สึกอ่อนแอและต้องรับมือกับ ‘หนามในร่างกาย’ ด้วย (2 คร. 12:7) แต่เขาไม่ยอมแพ้ เขามองว่านั่นเป็นโอกาสที่จะไว้ใจพระยะโฮวา (อ่าน 2 โครินธ์ 12:9, 10) เพราะเปาโลคิดแบบนี้ พระยะโฮวาเลยช่วยเขาตลอดไม่ว่าเขาจะเจออุปสรรคและปัญหาอะไรก็ตาม
15. ถ้าเราเลียนแบบเปาโล เราจะได้รับอะไร?
15 เหมือนกัน เราก็อาจโดนดูถูกหรือโดนข่มเหงเพราะความเชื่อ เราอาจมีสุขภาพไม่ดีหรือรู้สึกเหนื่อยและหมดแรงด้วย แต่ถ้าเราเลียนแบบเปาโล แต่ละครั้งที่เราเจออุปสรรคหรือปัญหา เราจะมีโอกาสได้เห็นความช่วยเหลือและความรักจากพระยะโฮวา
16. ถึงคุณจะสุขภาพไม่ดี คุณก็ทำอะไรได้?
16 คุณกำลังนั่งรถเข็นหรือป่วยจนต้องนอนบนเตียงไหม? คุณแข้งขาไม่ค่อยมีแรงและตาก็ไม่ค่อยดีไหม? แล้วคุณคิดว่าคุณจะวิ่งในทางที่นำไปถึงชีวิตพร้อมกับคนที่อายุน้อยและยังมีสุขภาพดีได้ไหม? ได้แน่นอน! ในพวกเรามีพี่น้องหลายคนที่อายุมากและสุขภาพก็ไม่ค่อยดีแต่ยังวิ่งในทางที่นำไปถึงชีวิต ถ้าพวกเขาพึ่งกำลังของตัวเองคงทำแบบนี้ไม่ได้แน่ ๆ แต่พวกเขาได้รับกำลังจากพระยะโฮวาโดยฟังการประชุมทางโทรศัพท์ หรือบางคนก็ดูวีดีโอการประชุมผ่านทางเว็บไซต์สตรีมมิ่งขององค์การ นอกจากนั้น พวกเขายังทำงานสอนคนให้เป็นสาวกโดยการประกาศกับหมอ พยาบาล หรือญาติ ๆ
17. พระยะโฮวารู้สึกอย่างไรกับคนที่สุขภาพไม่ดี?
สด. 9:10) พระองค์จะใกล้ชิดกับคุณมากขึ้นด้วยซ้ำ พี่น้องหญิงคนหนึ่งที่มีปัญหาสุขภาพบอกว่า “สุขภาพของฉันแย่ลงเรื่อย ๆ ฉันไม่ค่อยจะมีโอกาสพูดเรื่องคัมภีร์ไบเบิลกับคนอื่น ๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่ฉันรู้ว่าถึงฉันจะทำได้น้อยมากแต่ก็ทำให้พระยะโฮวามีความสุข และนั่นแหละทำให้ฉันมีความสุขมากจริง ๆ” เมื่อไรที่คุณรู้สึกแย่หรือท้อ ขอให้จำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว พระยะโฮวาอยู่กับคุณเสมอ และขอให้คุณคิดถึงตัวอย่างของเปาโล และนึกถึงคำพูดของเขาที่ให้กำลังใจที่บอกว่า “เมื่อผมอ่อนแอ . . . ผมก็ยินดี เพราะเมื่อไรที่ผมอ่อนแอ ผมกลับยิ่งเข้มแข็งขึ้น”—2 คร. 12:10
17 ถ้าคุณรู้สึกว่ารับใช้พระยะโฮวาไม่ได้มากอย่างที่อยากทำ อย่าเพิ่งท้อหรือคิดว่าจะวิ่งในทางที่นำไปถึงชีวิตต่อไปไม่ไหวแล้ว พระยะโฮวารักคุณเพราะความเชื่อที่คุณมีและที่คุณรับใช้พระองค์อย่างอดทนมานานหลายปี ตอนนี้คุณต้องให้พระยะโฮวาช่วยมากกว่าที่ผ่านมา และพระองค์จะไม่ทิ้งคุณ (18. พี่น้องบางคนเจออุปสรรคหรือปัญหาหนักอะไร?
18 พี่น้องบางคนที่กำลังวิ่งในทางที่นำไปถึงชีวิตเจออุปสรรคอย่างอื่นด้วย หลายคนเจอกับปัญหาที่คนอื่นไม่เห็นและไม่เข้าใจ เช่น พี่น้องที่เรารักซึ่งรับใช้พระยะโฮวาบางคนซึมเศร้าหรือวิตกกังวลมาก ทำไมนี่ถึงเป็นปัญหาหนัก? เพราะถ้าเราแขนหักหรือนั่งรถเข็น คนอื่นก็จะเห็นว่าเรามีปัญหาอะไรและอยากช่วย แต่พี่น้องที่เจอปัญหาทางจิตใจและทางอารมณ์อาจดูเหมือนไม่มีปัญหาอะไร จริง ๆ แล้วความซึมเศร้าและความวิตกกังวลก็ทำให้เจ็บปวดและเป็นปัญหาหนักเหมือนกับการที่แขนขาหัก แต่เพราะไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นก็เลยอาจจะไม่มีใครช่วยหรือเห็นใจคนที่เป็นแบบนั้น
19. เราเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของเมฟีโบเชท?
19 ถ้าคุณเจอปัญหาหรืออุปสรรคที่ทำให้รู้สึกว่ารับใช้พระยะโฮวาไม่ได้มากอย่างที่อยากทำและรู้สึกว่าคนอื่นไม่เข้าใจคุณ คุณจะได้กำลังใจจากตัวอย่างของเมฟีโบเชท (2 ซม. 4:4) เมฟีโบเชทพิการเป็นง่อย เขาไม่ได้ทำอะไรผิดแต่กลับถูกดาวิดมองอย่างผิด ๆ และทำกับเขาอย่างไม่ยุติธรรม แทนที่เมฟีโบเชทจะปล่อยให้ตัวเองคิดลบและรู้สึกแค้น เขาเห็นค่าสิ่งดี ๆ ที่เขามีในชีวิต เขาขอบคุณดาวิดที่เคยทำดีกับเขา (2 ซม. 9:6-10) พอดาวิดมองเมฟีโบเชทอย่างผิด ๆ และทำกับเขาอย่างไม่ยุติธรรม เขาไม่ได้สนใจแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา เขามองที่ภาพรวม และถึงสิ่งที่ดาวิดทำกับเขาไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้โกรธดาวิดหรือโทษ พระยะโฮวา เขาสนใจว่าตัวเขาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อสนับสนุนดาวิดซึ่งเป็นกษัตริย์ที่พระยะโฮวาแต่งตั้ง (2 ซม. 16:1-4; 19:24-30) พระยะโฮวาให้มีการบันทึกตัวอย่างที่ดีของเมฟีโบเชทไว้ในคัมภีร์ไบเบิลเพื่อประโยชน์สำหรับเรา—รม. 15:4
20. ความกังวลอาจมีผลกับบางคนอย่างไร? แต่พวกเขามั่นใจอะไรได้?
20 เมื่อต้องเจอกับผู้คนในชีวิตประจำวัน พี่น้องของเราบางคนวิตกกังวลมาก ประหม่า และไม่มั่นใจ พวกเขากลัวและเครียดถ้าต้องอยู่กับคนเยอะ ๆ แต่พวกเขาก็ยังไปประชุมประชาคม ประชุมหมวดและประชุมภูมิภาค ถึงพวกเขาจะรู้สึกยากมากที่จะพูดกับคนแปลกหน้าแต่พวกเขาก็ยังไปประกาศ ถ้าคุณเป็นแบบนี้ คุณก็ไม่ได้เป็นคนเดียว มีพี่น้องหลายคนที่เป็นเหมือนคุณ ขอให้คุณจำไว้ว่าพระยะโฮวารู้สึกพอใจในตัวคุณมากที่คุณพยายามสุดชีวิตเพื่อพระองค์ การที่คุณไม่ยอมแพ้แสดงว่าพระยะโฮวากำลังอวยพรคุณและให้กำลังกับคุณ * (ฟป. 4:6, 7; 1 ปต. 5:7) ถ้าคุณยังรับใช้พระยะโฮวาทั้ง ๆ ที่ต้องทนกับปัญหาสุขภาพหรือปัญหาทางจิตใจ ขอให้คุณมั่นใจว่าคุณกำลังทำให้พระยะโฮวาพอใจ
21. เพราะพระยะโฮวาช่วย เราทุกคนสามารถทำอะไรได้?
21 เราดีใจที่การวิ่งที่เปาโลพูดถึงกับการวิ่งจริง ๆ ไม่เหมือนกัน ในการวิ่งแข่งในสมัยกรีกโบราณจะมีคนเดียวเท่านั้นที่ได้รางวัล แต่ทุกคนที่อดทนวิ่งอย่างซื่อสัตย์ในทางของคริสเตียนจะได้รางวัลเป็นชีวิตตลอดไป (ยน. 3:16) ในการวิ่งแข่งจริง ๆ นักวิ่งทุกคนต้องมีความฟิตและมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ถ้าไม่อย่างนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะชนะ ถึงแม้พวกเราหลายคนที่วิ่งในทางที่นำไปถึงชีวิตมีสุขภาพที่ไม่ดี แต่เราก็ยังอดทนวิ่งต่อไปได้ (2 คร. 4:16) และด้วยการช่วยเหลือจากพระยะโฮวา เราทุกคนจะวิ่งเข้าเส้นชัยได้แน่นอน
เพลง 144 สนใจที่รางวัล
^ วรรค 5 ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาหลายคนต้องเจอความลำบากและปัญหาหลายอย่างเพราะอายุมากขึ้นหรือเป็นโรคที่ทำให้เหนื่อยและไม่มีแรง และบางครั้งเราทุกคนก็รู้สึกเหนื่อยและหมดแรงเหมือนกัน หลายคนอาจรู้สึกว่ายากถ้าจะให้วิ่งแข่ง ในบทความนี้เราจะคุยกันเกี่ยวกับการวิ่งแข่งเพื่อชีวิตที่เปาโลพูดถึง และจะดูว่าเราทุกคนจะวิ่งแข่งอย่างอดทนจนถึงเส้นชัยได้อย่างไร
^ วรรค 6 ดูบทความ “คัมภีร์ไบเบิลเปลี่ยนชีวิตคน” ในหอสังเกตการณ์ 1 มกราคม 2013
^ วรรค 20 ดูคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีรับมือกับความกังวลและประสบการณ์ของคนที่รับมือได้สำเร็จในเว็บไซต์ jw.org® ไปที่หนังสือและสื่อต่าง ๆ > รายการโทรทัศน์ JW > รายการประจำเดือน > พฤษภาคม 2019
^ วรรค 63 คำอธิบายภาพ การขยันรับใช้ช่วยให้พี่น้องชายที่สูงอายุคนนี้อยู่ในทางคริสเตียนที่เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง
^ วรรค 65 คำอธิบายภาพ เราอาจทำให้คนอื่นสะดุดล้มถ้าเรากดดันให้พี่น้องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าที่เขาต้องการ หรือถ้าเราไม่ควบคุมการดื่มของเรา
^ วรรค 67 คำอธิบายภาพ ถึงพี่น้องชายจะนอนป่วยที่โรงพยาบาล แต่เขาก็ยังวิ่งอยู่ในทางของคริสเตียนโดยประกาศกับหมอ