ทำให้ความเชื่อเรื่องความหวังของคุณเข้มแข็ง
“ความเชื่อคือความมั่นใจเพราะมีเหตุผลหนักแน่นว่าสิ่งที่หวังไว้จะเกิดขึ้น”—ฮบ. 11:1
1, 2. (ก) สิ่งที่เราหวังแตกต่างจากสิ่งที่คนอื่น ๆ หวังอย่างไร? (ข) เราจะเรียนอะไรในบทความนี้?
พระยะโฮวาให้ความหวังดี ๆ กับเรามากมาย พระองค์สัญญาว่าจะทำให้ชื่อของพระองค์เป็นที่เคารพนับถือ และทำให้ทุกอย่างบนโลกและบนสวรรค์เป็นอย่างที่พระองค์อยากให้เป็น (มธ. 6:9, 10) สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เรารอคอย และพระยะโฮวายังสัญญากับเราด้วยว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปไม่ว่าจะเป็นชีวิตบนสวรรค์หรือบนโลก นี่เป็นความหวังที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ! (ยน. 10:16; 2 ปต. 3:13) นอกจากนั้น ในสมัยสุดท้าย เรารอคอยที่จะเห็นวิธีที่พระยะโฮวาชี้นำและช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ต่อ ๆ ไป
2 คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ความเชื่อคือความมั่นใจเพราะมีเหตุผลหนักแน่นว่าสิ่งที่หวังไว้จะเกิดขึ้น” นี่หมายความว่าคนที่มีความเชื่อมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าสิ่งที่พระยะโฮวาสัญญาไว้จะเกิดขึ้นจริง (ฮบ. 11:1) ในทุกวันนี้ ผู้คนมากมายหวังและรอคอยที่จะได้บางสิ่ง แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาหวังไว้นั้นจะเป็นจริงหรือไม่ ตัวอย่างเช่น บางคนหวังอยากถูกล็อตเตอรี่ แต่เขาไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าเขาจะถูกรางวัลอย่างที่หวัง ในบทความนี้เราจะดูด้วยกันว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อทำให้ความเชื่อ เกี่ยวกับคำสัญญาของพระเจ้าเข้มแข็งขึ้น และเราจะดูว่าการมีความเชื่อที่เข้มแข็งจะช่วยเราได้อย่างไรในตอนนี้
3. ทำไมเราถึงเชื่อว่าคำสัญญาของพระเจ้าจะเกิดขึ้นจริง?
3 ไม่มีใครเกิดมามีความเชื่อโดยอัตโนมัติ เพื่อจะมีความเชื่อ เราต้องยอมให้พลังบริสุทธิ์ชี้นำหัวใจของเรา (กท. 5:22) พลังบริสุทธิ์สามารถช่วยเราให้รู้จักพระยะโฮวามากขึ้น และพอเราได้รู้ว่าพระยะโฮวามีพลังอำนาจสูงสุดและมีสติปัญญา เราก็มั่นใจว่าพระองค์สามารถทำทุกอย่างที่พระองค์สัญญาไว้ได้ พระยะโฮวามั่นใจว่าสิ่งที่พระองค์สัญญาไว้จะเกิดขึ้นจริงแน่นอน พระองค์พูดถึงคำสัญญาของพระองค์เหมือนกับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว พระองค์พูดว่า “เรื่องทั้งหมดนี้สำเร็จแล้ว” (อ่านวิวรณ์ 21:3-6) พวกเรารู้ดีว่าพระยะโฮวาจะทำตามที่พระองค์สัญญาเสมอ พระองค์ “เป็นพระเจ้าที่ซื่อสัตย์” นี่ทำให้เราเชื่อในทุกสิ่งที่พระองค์บอกเราเกี่ยวกับอนาคต—ฉธบ. 7:9
ผู้รับใช้ของพระเจ้าในอดีตที่มีความเชื่อเข้มแข็ง
4. ผู้รับใช้พระเจ้าในอดีตมีความเชื่อในเรื่องอะไร?
4 หนังสือฮีบรูบท 11 มีรายชื่อของชายหญิงที่ซื่อสัตย์ 16 คนที่มีความเชื่อที่เข้มแข็งในคำสัญญาของพระยะโฮวา ในบทนั้นยังพูดถึงอีกหลายคนที่ทำให้พระเจ้าพอใจ “เพราะมีความเชื่อ” (ฮบ. 11:39) คนเหล่านั้นทั้งหมดรอคอย “ลูกหลาน” ที่พระยะโฮวาสัญญา พวกเขารู้ว่า “ลูกหลาน” คนนี้จะทำลายศัตรูทั้งหมดของพระเจ้าและทำให้โลกเป็นสวนอุทยานอีกครั้ง (ปฐก. 3:15) นอกจากนั้น ผู้รับใช้พระเจ้าเหล่านั้นเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าพระยะโฮวาจะปลุกพวกเขาให้ฟื้นขึ้นจากตาย พวกเขาไม่ได้รอคอยความหวังที่จะฟื้นขึ้นมาอยู่บนสวรรค์ เพราะในตอนนั้นพระเยซูยังไม่ได้ทำให้ความหวังนั้นเกิดขึ้น (กท. 3:16) แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกเขารอคอยความหวังที่จะมีชีวิตตลอดไปในโลกที่เป็นสวนอุทยานที่สวยงาม—สด. 37:11; อสย. 26:19; ฮชย. 13:14
5, 6. อับราฮัมและครอบครัวรอคอยอะไร? และพวกเขารักษาความเชื่อให้เข้มแข็งได้อย่างไร? (ดูภาพแรก)
5 ฮีบรู 11:13 บอกเกี่ยวกับผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวาว่า “คนทั้งหมดนี้ตายไปตอนที่มีความเชื่อ ถึงแม้ยังไม่ได้รับสิ่งที่พระเจ้าสัญญา แต่พวกเขาก็มองเห็นแต่ไกลและรอคอยด้วยความยินดี” พวกเขารอคอยโลกใหม่และคิดจินตนาการว่าตัวเขาเองอยู่ที่นั่น ผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านี้ก็คืออับราฮัม พระเยซูบอกว่าอับราฮัม “ดีใจมากที่รู้ว่าจะได้เห็น . . . วันนั้น” (ยน. 8:56) นอกจากนั้น ก็ยังมีซาราห์ อิสอัค ยาโคบ และผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์อีกหลายคนที่รอคอยเวลาที่รัฐบาลจะปกครองทั่วทั้งโลก ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ “พระเจ้าเป็นผู้ออกแบบและผู้สร้าง”—ฮบ. 11:8-11
6 อับราฮัมและครอบครัวรักษาความเชื่อที่เข้มแข็งได้อย่างไร? พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาอยู่เสมอ บางครั้ง พระเจ้าพูดกับพวกเขาทางทูตสวรรค์ ทางนิมิต หรือทางความฝัน พวกเขาอาจได้เรียนจากผู้สูงอายุที่ซื่อสัตย์คนอื่น ๆ หรือเรียนจากข้อเขียนสมัยก่อน อับราฮัมและครอบครัวชอบคิดใคร่ครวญสิ่งที่พวกเขาได้เรียนและนึกถึงคำสัญญาของพระเจ้าเสมอ ผลก็คือ พวกเขาเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าพระยะโฮวาจะทำตามที่พระองค์สัญญาไว้ พวกเขาจึงซื่อสัตย์ต่อพระองค์ถึงแม้จะต้องเจอกับความทุกข์หรือความยากลำบากต่าง ๆ
7. พระยะโฮวาให้อะไรเพื่อช่วยเรามีความเชื่อเข้มแข็ง? และเราจำเป็นต้องทำอะไร?
7 อะไรจะช่วยเราให้รักษาความเชื่อให้เข้มแข็ง? พระยะโฮวาให้เรามีคัมภีร์ไบเบิลเพื่อสอนเราเกี่ยวกับคำสัญญาต่าง ๆ ของพระองค์ และสอนเราด้วยว่าต้องทำอะไรเพื่อจะมีความสุข นี่เป็นเหตุผลที่เราน่าจะอ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวันและทำตามสิ่งที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิล (สด. 1:1-3; อ่านกิจการ 17:11) นอกจากนั้น พระยะโฮวายังให้เรามี ‘อาหารตามเวลาที่เหมาะสม’ โดยทาง “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” (มธ. 24:45) เหมือนกับประชาชนของพระเจ้าในอดีต พวก เราต้องอ่านเกี่ยวกับคำสัญญาของพระเจ้าและคิดใคร่ครวญอย่างจริงจังเสมอ การทำอย่างนี้จะช่วยเราให้รักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าและรอคอยเวลาที่รัฐบาลของพระองค์จะมาปกครองทั่วทั้งโลก
8. การอธิษฐานช่วยเราให้มีความเชื่อที่เข้มแข็งได้อย่างไร?
8 มีอะไรอีกที่ช่วยผู้รับใช้ของพระยะโฮวาในอดีตให้มีความเชื่อที่เข้มแข็ง? พวกเขาอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา และพอพระองค์ตอบคำอธิษฐานของพวกเขา ความเชื่อของพวกเขาก็เข้มแข็งขึ้น (นหม. 1:4, 11; สด. 34:4, 15, 17; ดนล. 9:19-21) คล้ายกัน ถ้าเราเห็นว่าพระยะโฮวาฟังคำอธิษฐานของเราและช่วยเราตอนที่เราจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือพอดี ความเชื่อที่เรามีในพระองค์ก็เข้มแข็งขึ้นด้วย (อ่าน 1 ยอห์น 5:14, 15) ความเชื่อเป็นผลของพลังบริสุทธิ์ ดังนั้น พวกเราต้อง “ขอต่อไปเรื่อย ๆ” แล้วพระยะโฮวาจะให้พลังบริสุทธิ์กับเรา แล้วเราก็จะมีความเชื่อมากขึ้น—ลก. 11:9, 13
9. เราควรอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง?
9 ตอนที่เราอธิษฐานถึงพระยะโฮวา เราไม่ควรแค่ขอสิ่งที่เราต้องการ แต่เราควรขอบคุณพระองค์และสรรเสริญพระองค์ทุกวันเพราะพระองค์ทำสิ่งดีมากมายให้กับเรา (สด. 40:5) นอกจากนั้น เราควรอธิษฐานเพื่อพี่น้องทั่วโลกด้วย ตัวอย่างเช่น เราควร “คิดถึงคนที่ถูกกักขังอยู่” และอธิษฐานเพื่อ “คนที่นำหน้า” ด้วย เมื่อเราเห็นว่าพระยะโฮวาตอบคำอธิษฐานของเรา ความเชื่อของเราก็จะเข้มแข็งขึ้น และเราก็จะสนิทกับพระองค์มากขึ้นด้วย—ฮบ. 13:3, 7
พวกเขารักษาความซื่อสัตย์ภักดี
10. อะไรช่วยหลายคนให้มีความกล้าหาญและรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้า?
10 ในฮีบรูบท 11 อัครสาวกเปาโลบอกว่า “พวกผู้หญิงก็รับคนของพวกเธอกลับมาเพราะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตาย ส่วนคนอื่น ๆ บางคนยอมถูกทรมานเพราะไม่ยอมอะลุ่มอล่วยเพื่อแลกกับการปล่อยตัว พวกเขาจะได้รับการปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายแบบที่ดีกว่า” (ฮบ. 11:35) มีหลายคนที่ต้องเจอการทดสอบ แต่ก็สามารถอดทนและยังรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าได้เพราะพวกเขามีความเชื่อที่เข้มแข็งเกี่ยวกับคำสัญญาของพระเจ้าเรื่องการฟื้นขึ้นจากตาย พวกเขารู้ว่าในอนาคตพระยะโฮวาจะปลุกพวกเขาให้กลับมามีชีวิตอีก และพวกเขาจะได้อยู่บนโลกตลอดไป ลองคิดถึงนาโบทและเศคาริยาห์สิ เขาสองคนถูกหินขว้างตายเพราะเชื่อฟังพระเจ้า (1 พก. 21:3, 15; 2 พศ. 24:20, 21) แล้วก็ยังมีดาเนียลที่ถูกโยนลงไปในบ่อสิงโตที่หิวโหย ส่วนเพื่อน ๆ ของเขาก็ถูกโยนไปในเตาไฟ พวกเขาเต็มใจตายแทนที่จะ “อะลุ่มอล่วยเพื่อแลกกับการปล่อยตัว” คนเหล่านั้นมีความเชื่อที่เข้มแข็ง เขามั่นใจว่าพระยะโฮวาพระเจ้าสามารถให้พลังบริสุทธิ์กับเขาและช่วยเขาให้อดทนกับความยากลำบากได้—ดนล. 3:16-18, 20, 28; 6:13, 16, 21-23; ฮบ. 11:33, 34
11. เพราะความเชื่อ ผู้พยากรณ์บางคนต้องอดทนความยากลำบากอะไรบ้าง?
11 เพราะความเชื่อที่พวกเขามีในพระยะโฮวา ผู้พยากรณ์หลายคน เช่น มีคายาห์และเยเรมีย์ “ถูกเยาะเย้ย . . . ถูกขังคุก” ส่วนคนอื่น ๆ เช่น เอลียาห์ ต้อง “ร่อนเร่ไปตามที่กันดาร ตามภูเขา ตามถ้ำ และตามโพรงใต้ดิน” พวกเขาทุกคนอดทนและรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าได้เนื่องจากพวกเขามี “ความมั่นใจเพราะมีเหตุผลหนักแน่นว่าสิ่งที่หวังไว้จะเกิดขึ้น”—ฮบ. 11:1, 36-38; 1 พก. 18:13; 22:24-27; ยรม. 20:1, 2; 28:10, 11; 32:2
12. ใครเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่เราสามารถเลียนแบบได้? และอะไรช่วยท่านให้อดทนกับการทดสอบได้?
12 พระเยซูต้องอดทนกับการทดสอบที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ท่านก็ยังรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวา อะไรช่วยท่านให้อดทน? เปาโลบอกว่า “ท่านยอมทนทุกข์และไม่คิดถึงความอับอายที่ต้องตายบนเสาทรมานเพราะท่านคิดถึงความยินดีที่รออยู่ข้างหน้า และตอนนี้ท่านนั่งอยู่ฮบ. 12:2) แล้วเปาโลก็พูดต่อไปว่า “ขอให้พวกคุณสังเกตดูพระเยซูให้ดี” (อ่านฮีบรู 12:3) เหมือนกับพระเยซู คริสเตียนหลายคนในสมัยศตวรรษแรกยอมตายเพราะรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวา หนึ่งในคนเหล่านั้นก็คืออันทีพาส (วว. 2:13) คริสเตียนเหล่านั้นได้รับรางวัลแล้ว ซึ่งไม่ใช่รางวัลที่จะมีชีวิตบนโลกซึ่งผู้รับใช้ที่มีชีวิตอยู่ก่อนสมัยของพวกเขาหวังว่าจะได้รับ (ฮบ. 11:35) ไม่นานหลังจากที่พระเยซูขึ้นปกครองเป็นกษัตริย์ในปี 1914 คริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ตายไปแล้วถูกปลุกให้มีชีวิตอมตะอยู่บนสวรรค์ พวกเขาจะปกครองมนุษย์ร่วมกับพระเยซู—วว. 20:4
ข้างขวาบัลลังก์ของพระเจ้าแล้ว” (ผู้รับใช้ของพระเจ้าในทุกวันนี้ที่มีความเชื่อเข้มแข็ง
13, 14. รูดอล์ฟ ไกรเคนต้องเจอกับการทดสอบอะไรบ้าง? และอะไรช่วยเขาให้รักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าเสมอ?
13 ผู้รับใช้หลายล้านคนของพระเจ้ากำลังทำตามตัวอย่างของพระเยซู พวกเขาคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับคำสัญญาต่าง ๆ ของพระเจ้า และรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระองค์ถึงจะต้องเจอกับความยากลำบาก ให้เรามาดูตัวอย่างของรูดอล์ฟ ไกรเคน รูดอล์ฟเป็นคนเยอรมัน เขาเกิดในปี 1925 ตอนที่เป็นเด็ก พ่อแม่ของเขาแขวนรูปภาพที่เกี่ยวกับคำสัญญาในคัมภีร์ไบเบิลไว้บนผนังบ้าน เขาเล่าว่า “รูปหนึ่งอสย. 11:6-9) นี่ช่วยให้เรื่องเกี่ยวกับสวนอุทยานบนโลกอยู่ในใจรูดอล์ฟเสมอ และช่วยเขาให้มีความเชื่อเข้มแข็ง ผลคือ รูดอล์ฟรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวาถึงแม้เขาต้องเจอกับการทดสอบอย่างโหดร้าย ซึ่งครั้งแรกพวกหน่วยเกสตาโปของนาซีข่มเหงเขา และต่อมาก็เจอการข่มเหงอีกจากสตาซี ตำรวจลับเยอรมันตะวันออก
เป็นรูปหมาป่ากับลูกแกะ เด็กกับเสือดาว ลูกวัวกับสิงโต สัตว์ทุกตัวอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขโดยมีเด็กตัวเล็ก ๆ เป็นผู้นำของพวกมัน” (14 นอกจากนั้น รูดอล์ฟยังต้องเจอกับการทดสอบอื่น ๆ อีก แม่ของเขาเป็นไข้รากสาดใหญ่และตายในค่ายกักกันราเฟนส์บรึค ส่วนพ่อของเขายอมเซ็นเอกสารที่บอกว่าจะไม่เป็นพยานพระยะโฮวาอีก แต่รูดอล์ฟรักษาความเชื่อเข้มแข็ง หลังจากถูกปล่อยตัว รูดอล์ฟรับใช้เป็นผู้ดูแลหมวด จากนั้น เขาก็ถูกเชิญไปโรงเรียนกิเลียดและได้รับมอบหมายให้ไปรับใช้ที่ชิลี ที่นั่น เขาก็เป็นผู้ดูแลหมวดอีก รูดอล์ฟแต่งงานกับแพตซีพี่น้องมิชชันนารีที่ชิลี แต่หลังจากนั้น 1 ปี ลูกสาวของเขาที่ยังเล็กมากก็ตาย และหลังจากนั้นไม่นาน แพตซีก็ตายจากไปด้วย ตอนนั้นเธออายุแค่ 43 ปี ถึงแม้ต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้ รูดอล์ฟยังรับใช้พระยะโฮวาต่อ ๆ ไป พอเวลาผ่านไปเขาก็มีปัญหาสุขภาพและอายุมากขึ้น แต่เขาก็ยังเป็นผู้ดูแลและเป็นไพโอเนียร์ประจำด้วย เราสามารถอ่านเกี่ยวกับชีวิตของเขาได้ที่วารสารหอสังเกตการณ์ 1 สิงหาคม 1997 หน้า 20-25 [1]
15. ขอยกตัวอย่างพี่น้องชายหญิงในทุกวันนี้ที่รับใช้พระยะโฮวาอย่างมีความสุขทั้ง ๆ ที่ต้องเจอกับการการข่มเหง?
15 ในทุกวันนี้ พี่น้องชายหญิงของเราหลายคนรับใช้พระยะโฮวาอย่างมีความสุขถึงแม้พวกเขาต้องเจอกับการทดสอบที่รุนแรง พวกเขาหลายร้อยคนที่เอริเทรีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ต้องติดคุกเนื่องจากพวกเขาไม่ยอม “ใช้ดาบ” (มธ. 26:52) ตัวอย่างเช่น พี่น้องอิแซก พี่น้องเนเกเด และพี่น้องเปาโลสต้องถูกขังอยู่ในคุกที่เอริเทรียนานกว่า 20 ปีแล้ว พวกเขาถูกกระทำอย่างโหดร้าย และในช่วง 20 ปีนั้น พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะแต่งงานและไม่มีโอกาสดูแลพ่อแม่ แต่พวกเขาก็ยังรักษาความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวาและมีความเชื่อที่เข้มแข็ง แม้กระทั่งผู้คุมในคุกก็ยังนับถือพวกเขา มีรูปของพี่น้องเหล่านี้ในเว็บไซต์ jw.org ของเรา พวกเขายังยิ้มได้ทั้ง ๆ ที่ต้องทนกับการทดสอบที่ยากลำบาก
16. ความเชื่อที่เข้มแข็งจะช่วยคุณให้ทำอะไร?
16 พยานพระยะโฮวาส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกจับเข้าคุกหรือถูกกระทำอย่างโหดร้ายเหมือนกับพี่น้องที่เราเพิ่งพูดถึง แต่พวกเราหลายคนต้องทนกับความยากจน ภัยธรรมชาติ หรือสงครามกลางเมือง ส่วนคนอื่น ๆ ก็กำลังเลียนแบบตัวอย่างของอับราฮัม อิสอัค ยาโคบ และโมเสส พวกเขาทิ้งโอกาสที่จะมีชื่อเสียงและความร่ำรวยเพื่อทุ่มเทกับการรับใช้พระยะโฮวา อะไรช่วยให้พี่น้องเหล่านี้ยังมีความสุขในการรับใช้พระยะโฮวา? พวกเขารักพระองค์และมีความเชื่อที่เข้มแข็งในคำสัญญาของพระองค์ พวกเขารู้ว่าพระเจ้าจะให้รางวัลกับผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์โดยให้พวกเขามีชีวิตตลอดไปในโลกใหม่ซึ่งเป็นที่ที่จะมีแต่ความยุติธรรม—อ่านสดุดี 37:5, 7, 9, 29
17. เราจะมีความเชื่อที่เข้มแข็งได้อย่างไร? และเราจะเรียนอะไรในบทความถัดไป?
17 ในบทความนี้ เราได้เห็นความหมายของข้อคัมภีร์ที่บอกว่า “ความเชื่อคือความมั่นใจเพราะมีเหตุผลหนักแน่นว่าสิ่งที่หวังไว้จะเกิดขึ้น” และเราได้เรียนว่าเพื่อจะมีความเชื่อที่เข้มแข็งและอดทนกับการทดสอบและความยากลำบากได้ เราต้องอธิษฐานถึงพระยะโฮวาและคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับคำสัญญาของพระองค์เสมอ ในบทความถัดไปเราจะคุยกันมากขึ้นว่าการมีความเชื่อยังหมายถึงอะไรด้วย
^ [1] (ข้อ 14) คุณสามารถอ่านเรื่องราวของอันเดรย์ ฮันอัก จากสโลวาเกียในบทความที่ชื่อว่า “แม้เผชิญการทดลองความหวังของผมยังสดใส” ในวารสารตื่นเถิด! 22 เมษายน 2002