ทำทุกสิ่งอย่างเป็นระเบียบตามที่หนังสือของพระเจ้าบอกไว้
“พระยะโฮวาใช้สติปัญญาวางฐานรากของโลก และใช้ความเข้าใจทำให้ฟ้าสวรรค์มั่นคง”—สภษ. 3:19
1, 2. (ก) บางคนรู้สึกอย่างไรกับความคิดที่ว่าพระเจ้ามีองค์การ? (ข) เราจะเรียนอะไรในบทความนี้?
มีบางคนบอกว่า “คุณไม่ต้องไปเข้าร่วมกับองค์การไหนหรอก แค่คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าก็พอแล้ว” คำพูดนี้ถูกต้องไหม? และจริง ๆ แล้วมันเป็นอย่างไร?
2 ในบทความนี้ เราจะเห็นว่าพระยะโฮวาทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบ และพระองค์ก็จัดระเบียบประชาชนของพระองค์ด้วย นอกจากนั้น เราจะคุยกันว่าเราต้องทำอะไรถ้าองค์การของพระยะโฮวาชี้นำเรา (1 คร. 14:33, 40) ในศตวรรษแรก ประชาชนของพระยะโฮวาทำตามการชี้นำในพระคัมภีร์ ทำให้พวกเขาสามารถประกาศข่าวดีในหลายที่ คล้ายกัน ในทุกวันนี้พวกเราเชื่อฟังการชี้นำที่เราได้รับจากองค์การของพระเจ้า และทำตามสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลบอก ผลคือ เราสามารถประกาศข่าวดีไปทั่วโลก และเรายังรักษาประชาคมให้สะอาด สงบสุข และเป็นหนึ่งเดียวกัน
พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่มีระเบียบ
3. อะไรทำให้คุณมั่นใจว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่มีระเบียบ?
3 ถ้าเราสังเกตสิ่งที่พระเจ้าสร้าง เราเห็นได้ชัดว่าพระองค์เป็นพระเจ้าที่มีระเบียบ พระองค์ “ใช้สติปัญญาวางฐานรากของโลก และใช้ความเข้าใจทำให้ฟ้าสวรรค์มั่นคง” (สภษ. 3:19) มีหลายสิ่งที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งที่พระเจ้าสร้าง ที่จริง “เราได้ยินแค่เสียงกระซิบที่แผ่วเบาของพระองค์เท่านั้น” (โยบ 26:14) แต่ถึงแม้ว่าเราจะรู้ไม่มาก เราก็เห็นชัดเจนว่าเอกภพของเราเป็นระเบียบมากจริง ๆ (สด. 8:3, 4) ดวงดาวเป็นล้าน ๆ ดวงโคจรอยู่ในอวกาศอย่างเป็นระเบียบ เราอาจคิดถึงวิธีที่ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราโคจรรอบดวงอาทิตย์ เรื่องน่าทึ่งนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าพระยะโฮวาไม่ได้จัดระเบียบการโคจรของดวงดาวต่าง ๆ เมื่อเราคิดถึงวิธีที่พระเจ้าสร้างโลกและ “ฟ้าสวรรค์ด้วยสติปัญญา” เราก็อยากจะสรรเสริญพระองค์ นมัสการพระองค์ และซื่อสัตย์ต่อพระองค์—สด. 136:1, 5-9
4. ทำไมนักวิทยาศาสตร์หลายคนไม่สามารถตอบคำถามที่สำคัญ ๆ ได้?
4 นักวิทยาศาสตร์หลายคนใช้สิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาได้เรียนเกี่ยวกับเอกภพและโลกเพื่อทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่สามารถตอบคำถามที่สำคัญหลายข้อ เช่น นักดาราศาสตร์ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเอกภพเกิดขึ้นมาได้อย่างไร หรือทำไมจึงมีมนุษย์ พืช และสัตว์ต่าง ๆ มากมายบนโลก นอกจากนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถอธิบายว่าทำไมมนุษย์จึงไม่อยากตายแต่อยากมีชีวิตอยู่ตลอดไป (ปญจ. 3:11) เหตุผลหนึ่งที่ผู้คนไม่รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้ก็คือ พวกนักวิทยาศาสตร์และคนอื่น ๆ บอกว่าไม่มีพระเจ้า พวกเขาสนับสนุนเรื่องวิวัฒนาการ แต่จริง ๆ แล้วพระเจ้าให้คำตอบในคัมภีร์ไบเบิลหนังสือของพระองค์
5. มนุษย์ต้องพึ่งกฎต่าง ๆ ในธรรมชาติอย่างไร?
5 พระยะโฮวาตั้งกฎต่าง ๆ ในธรรมชาติ กฎเหล่านั้นไม่เปลี่ยนแปลง คนที่เป็นช่างไฟฟ้า ช่างประปา วิศวกร นักบิน หมอผ่าตัด และคนอื่น ๆ ก็พึ่งกฎเหล่านั้นตอนที่พวกเขาทำงาน ตัวอย่างเช่น หัวใจของคนเราจะอยู่ที่เดียวกันเสมอ นี่ทำให้หมอผ่าตัดรู้ว่าหัวใจของผู้ป่วยแต่ละคนอยู่ที่ไหน นอกจากนั้น เราเชื่อฟังกฎต่าง ๆ ในธรรมชาติ เช่น กฎเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง เรารู้ว่าถ้ากระโดดจากที่สูง เราก็จะตกลงมาและตายได้
พระเจ้าได้จัดระเบียบอะไรบ้าง?
6. เรารู้ได้อย่างไรว่าพระยะโฮวาอยากให้ผู้รับใช้ของพระองค์นมัสการพระองค์อย่างมีระเบียบ?
6 พระยะโฮวาจัดระเบียบเอกภพอย่างน่าทึ่งจริง ๆ นี่ทำให้เรามั่นใจว่าพระองค์อยากให้ผู้รับใช้ของพระองค์นมัสการพระองค์อย่างมีระเบียบ พระยะโฮวาให้คัมภีร์ไบเบิลเพื่อสอนเราเกี่ยวกับวิธีนมัสการพระองค์ การทำตามการชี้นำที่พระเจ้าให้เราทางคัมภีร์ไบเบิลและองค์การของพระองค์เป็นวิธีเดียวที่เราจะมีชีวิตที่มีความสุขความยินดี
7. เราได้เรียนอะไรจากวิธีที่คัมภีร์ไบเบิลถูกเขียนขึ้น?
7 คัมภีร์ไบเบิลเป็นของขวัญที่พิเศษจากพระเจ้า ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่าคัมภีร์ไบเบิลก็เป็นแค่หนังสือที่มนุษย์เอาข้อเขียนของพวกยิวกับพวกคริสเตียนมารวม ๆ กัน แต่จริง ๆ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น พระเจ้าเป็นผู้จัดระเบียบและตัดสินใจว่าใครจะเขียนเล่มไหน เขียนเมื่อไร และเขียนอะไร นี่ทำให้หนังสือแต่ละเล่มในคัมภีร์ไบเบิลสอดคล้องกันและช่วยเราให้เข้าใจข่าวสารของพระเจ้า คัมภีร์ไบเบิลทั้งเล่มถ่ายทอดข่าวสารที่เชื่อมโยงกันตั้งแต่ปฐมกาลถึงวิวรณ์ ซึ่งช่วยเราให้รู้ว่าจะมี “ลูกหลาน” ที่จะทำให้โลกกลับเป็นสวนอุทยานอีกครั้ง “ลูกหลาน” ที่พูดถึงนี้ปฐมกาล 3:15; มัทธิว 6:10; วิวรณ์ 11:15
คือพระเยซูคริสต์ และรัฐบาลของท่านจะพิสูจน์ว่าพระยะโฮวามีสิทธิ์ที่จะปกครองทุกคน—อ่าน8. ชาวอิสราเอลได้รับการจัดระเบียบอย่างไร?
8 ชาวอิสราเอลทำตามกฎหมายที่พระเจ้าให้พวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขาถูกจัดให้เป็นระเบียบอย่างดี ตัวอย่างเช่น มี “ผู้หญิงที่ได้รับมอบหมายให้รับใช้ตรงทางเข้าเต็นท์เข้าเฝ้า” (อพย. 38:8) ชาวอิสราเอลยังได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเคลื่อนย้ายค่ายพักและเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์อย่างมีระเบียบ หลังจากนั้น กษัตริย์ดาวิดก็จัดระเบียบปุโรหิตและคนเลวีให้ทำงานแต่ละอย่างในวิหาร (1 พศ. 23:1-6; 24:1-3) ถ้าชาวอิสราเอลเชื่อฟังพระยะโฮวา พระองค์ก็อวยพรพวกเขา พวกเขาได้รับการจัดระเบียบ มีความสงบสุข และเป็นหนึ่งเดียวกัน—ฉธบ. 11:26, 27; 28:1-14
9. ประชาคมต่าง ๆ ในศตวรรษแรกถูกจัดให้เป็นระเบียบอย่างไร?
9 ประชาคมต่าง ๆ ในศตวรรษแรกก็ถูกจัดระเบียบด้วย ตอนนั้น มีคณะกรรมการปกครองซึ่งเป็นกลุ่มพี่น้องชายที่คอยให้การชี้นำประชาคม ในตอนแรก คนเหล่านี้คือกลุ่มอัครสาวก แต่หลังจากนั้นก็มีพวกผู้ดูแลเข้ามาร่วมด้วย (กจ. 6:1-6; 15:6) คณะกรรมการปกครองและคนอื่น ๆ ที่ทำงานใกล้ชิดกับพวกเขาได้รับการชี้นำจากพระยะโฮวาให้เขียนจดหมายแนะนำประชาคมต่าง ๆ (1 ทธ. 3:1-13; ทต. 1:5-9) ประชาคมได้ประโยชน์อย่างไรเมื่อพวกเขาติดตามการชี้นำของคณะกรรมการปกครอง?
10. ผลเป็นอย่างไรเมื่อประชาคมต่าง ๆ ในศตวรรษแรกติดตามการชี้นำของคณะกรรมการปกครอง? (ดูภาพแรก)
10 อ่านกิจการ 16:4, 5 ในศตวรรษแรก พี่น้องชายบางคนไปเยี่ยมประชาคมต่าง ๆ เพื่อ “แจ้งคำตัดสินของพวกอัครสาวกและผู้ดูแลในกรุงเยรูซาเล็ม” ซึ่งก็คือคำตัดสินของคณะกรรมการปกครอง ประชาคมเหล่านั้นทำตามการชี้นำ จึงทำให้พวกเขา “มีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นและมีคนเข้ามาเชื่อเพิ่มขึ้นทุกวัน” เราเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของพวกเขาซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาคมในทุกวันนี้ด้วย?
คุณทำตามการชี้นำไหม?
11. ผู้ดูแลและผู้ช่วยงานรับใช้ควรทำอย่างไรเมื่อได้รับการชี้นำจากพระเจ้า?
11 สมาชิกคณะกรรมการสาขาหรือคณะกรรมการประเทศ ผู้ดูแลหมวด และผู้ดูแลในประชาคมต้องเชื่อฟังคำแนะนำที่ได้รับจากองค์การของพระเจ้า ที่จริง คัมภีร์ไบเบิลหนังสือของพระยะโฮวาบอกให้พวกเราทุกคนเชื่อฟังคนที่นำหน้า (ฉธบ. 30:16; ฮบ. 13:7, 17) คนที่ซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวาจะไม่ต่อต้านหรือบ่นเกี่ยวกับคำแนะนำที่เขาได้รับ เราจะไม่เป็นเหมือนกับดิโอเตรเฟสที่ไม่นับถือคนที่นำหน้า (อ่าน 3 ยอห์น 9, 10) ถ้าเราติดตามการชี้นำที่ได้รับ เราก็มีส่วนช่วยให้ประชาคมสงบสุขและเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น ขอให้ถามตัวเองว่า ‘ฉันสนับสนุนให้พี่น้องซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวาไหม? ฉันทำตามคำแนะนำที่ได้รับจากองค์การของพระเจ้าทันทีไหม?’
12. มีการแต่งตั้งผู้ดูแลและผู้ช่วยงานรับใช้อย่างไร?
12 เมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมการปกครองเปลี่ยนวิธีแต่งตั้งผู้ดูแลและผู้ช่วยงานรับใช้ในประชาคม “คำถามจากผู้อ่าน” ในวารสารหอสังเกตการณ์ 15 พฤศจิกายน 2014 อธิบายว่า ในศตวรรษแรกคณะกรรมการปกครองให้ผู้ดูแลเดินทางมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดูแลและผู้ช่วยงานรับใช้ ดังนั้น ตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 มีการให้ผู้ดูแลหมวดเป็นคนแต่งตั้งพี่น้องชายเหล่านี้ พอผู้ดูแลในประชาคมเสนอชื่อพี่น้องชายคนหนึ่งที่มีคุณสมบัติจะเป็นผู้ดูแลหรือผู้ช่วยงานรับใช้ ผู้ดูแลหมวดก็จะพยายามรู้จัก เขาและครอบครัวของเขามากขึ้น เช่น อาจจะไปรับใช้ด้วยกันกับพี่น้องคนนั้น (1 ทธ. 3:4, 5) หลังจากนั้น ผู้ดูแลหมวดกับพวกผู้ดูแลจะประชุมกัน พวกเขาจะดูข้อคัมภีร์ที่อธิบายเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ดูแลและผู้ช่วยงานรับใช้อย่างละเอียดและคิดอย่างรอบคอบ—1 ทธ. 3:1-10, 12, 13; 1 ปต. 5:1-3
13. เราจะแสดงอย่างไรว่าเราร่วมมือกับการชี้นำของผู้ดูแลในประชาคม?
13 พวกผู้ดูแลให้คำแนะนำจากคัมภีร์ไบเบิลเพราะพวกเขาอยากปกป้องดูแลพี่น้องในประชาคม เราต้องร่วมมือกับพวกเขา เพราะคำแนะนำเหล่านั้นเป็นประโยชน์กับตัวเราเอง (1 ทธ. 6:3) ในศตวรรษแรก พี่น้องบางคน “ทำตัวนอกลู่นอกทาง” พวกเขาไม่ทำงานอะไรเลย แต่เที่ยวไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น พวกผู้ดูแลพยายามว่ากล่าวแก้ไขพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ยอมเปลี่ยน เปาโลบอกพี่น้องในประชาคมเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาควรปฏิบัติกับคนแบบนั้นว่า “ให้หมายเขาไว้และเลิกคบกับเขา” พี่น้องต้องไม่คบหาใกล้ชิดกับคนนั้น แต่อย่าถึงกับมองว่าเขาเป็นศัตรู (2 ธส. 3:11-15) พวกผู้ดูแลในทุกวันนี้ก็พยายามช่วยพี่น้องที่ไม่ทำตามมาตรฐานของพระเจ้า เช่น พี่น้องที่เป็นแฟนกับคนที่ไม่ใช่พยานฯ (1 คร. 7:39) ถ้าพี่น้องคนนั้นไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผู้ดูแลอาจตัดสินใจให้มีคำบรรยายในประชาคมเพื่ออธิบายว่าการกระทำแบบนี้อาจทำให้คนอื่นพูดไม่ดีเกี่ยวกับประชาคมอย่างไร ถ้าผู้ดูแลจัดให้มีคำบรรยายแบบนี้ในประชาคมของคุณ และคุณรู้ว่าพี่น้องที่ทำผิดคือใคร คุณจะทำอย่างไร? ถึงคุณจะคุยกับเขาได้ที่หอประชุมและที่เขตประกาศ แต่คุณจะเชื่อฟังโดยไม่คบหาใกล้ชิดกับเขาไหม? ถ้าคุณทำอย่างนี้ คุณก็กำลังช่วยพี่น้องคนนั้นให้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ดีสำหรับตัวเขาและทำให้พระยะโฮวาไม่พอใจ และอาจช่วยเขาให้เปลี่ยนความคิดได้ [1]
รักษาประชาคมให้สะอาด สงบสุข และเป็นหนึ่งเดียว
14. เราจะช่วยให้ประชาคมสะอาดได้อย่างไร?
14 คัมภีร์ไบเบิลบอกสิ่งที่เราทุกคนควรทำเพื่อจะรักษาประชาคมให้สะอาด ขอดูสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองโครินธ์ เปาโลรักพี่น้องที่นั่น เขาได้ช่วยหลายคนให้มาเรียนความจริง (1 คร. 1:1, 2) ลองคิดดูว่าเปาโลจะรู้สึกอย่างไรที่ได้รู้ว่า มีคนหนึ่งใช้ชีวิตแบบผิดศีลธรรมและพวกพี่น้องก็ยอมให้คนนี้อยู่ในประชาคมต่อไปโดยไม่จัดการอะไร เปาโลบอกพวกผู้ดูแลว่า “ไล่คนนั้นไปอยู่กับซาตาน” นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องตัดสัมพันธ์คนนั้นและไม่ให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอีกต่อไป (1 คร. 5:1, 5-7, 12) ในทุกวันนี้ พวกผู้ดูแลอาจตัดสินใจตัดสัมพันธ์คนที่ทำบาปร้ายแรงและไม่กลับใจ เมื่อมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เราจะปฏิบัติกับคนที่ถูกตัดสัมพันธ์ตามที่คัมภีร์ไบเบิลบอกให้เราทำไหม? ถ้าเราทำแบบนั้น เราก็จะช่วยให้ประชาคมสะอาด และเราอาจช่วยคนนั้นให้รู้ว่าเขาต้องกลับใจและขอให้พระยะโฮวาอภัยให้เขา
15. เราจะรักษาความสงบสุขในประชาคมได้อย่างไร?
15 มีอีกปัญหาหนึ่งในเมืองโครินธ์ มีพี่น้องบางคนฟ้องร้องพี่น้องคนอื่นในศาล เปาโลถามพวกเขาว่า “ทำไมไม่ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ?” (1 คร. 6:1-8) ในทุกวันนี้ คริสเตียนบางคนในประชาคมทำธุรกิจกับพี่น้องแล้วต้องเสียเงินเสียทอง หรือเขาอาจรู้สึกว่าถูกพี่น้องโกง เขาเลยเอาเรื่องนี้ไปฟ้องศาล แต่การทำแบบนี้อาจทำให้คนอื่นพูดไม่ดีเกี่ยวกับพระยะโฮวาและผู้รับใช้ของพระองค์ นอกจากนั้น อาจทำให้เกิดปัญหาในประชาคมด้วย คัมภีร์ไบเบิลหนังสือของพระเจ้าช่วยเราให้เห็นว่าเราต้องรักษาความสงบสุขกับพี่น้อง ถึงแม้ว่าเราต้องเสียทรัพย์สินเงินทองก็ตาม [2] ที่จริง พระเยซูสอนเราเกี่ยวกับวิธีจัดการกับปัญหาหรือข้อขัดแย้งที่รุนแรง (อ่านมัทธิว 5:23, 24; 18:15-17) ถ้าเราเชื่อฟังคำแนะนำของพระเยซู เราก็จะอยู่กันอย่างสงบสุขและเป็นหนึ่งเดียวกันในประชาคม
16. ทำไมประชาชนของพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน?
16 คัมภีร์ไบเบิลหนังสือของพระยะโฮวาบอกว่า “ดูสิ เมื่อพี่น้องอยู่ด้วยกันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวก็เป็นเรื่องดีและน่าชื่นชมจริง ๆ” (สด. 133:1) เมื่อชาวอิสราเอลเชื่อฟังพระยะโฮวา พวกเขาก็อยู่กันอย่างเป็นระเบียบและเป็นหนึ่งเดียว พระเจ้าบอกล่วงหน้าเกี่ยวกับประชาชนของพระองค์ว่า “เราจะให้พวกเขาอยู่ด้วยกันเหมือนแกะในคอก” (มคา. 2:12) พระยะโฮวายังบอกล่วงหน้าว่าประชาชนของพระองค์จะเรียนความจริงในพระคัมภีร์และจะรับใช้พระองค์เป็นหนึ่งเดียว พระองค์บอกว่า “เราจะให้มนุษย์เปลี่ยนไปพูดภาษาบริสุทธิ์ เพื่อทุกคนจะร้องเรียกชื่อยะโฮวาและจะรับใช้เราเคียงบ่าเคียงไหล่กัน” (ศฟย. 3:9) เราดีใจจริง ๆ ที่ได้รับใช้พระยะโฮวาอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน
17. ผู้ดูแลควรทำอย่างไรเมื่อมีคนในประชาคมทำผิดร้ายแรง?
17 ถ้ามีคนทำผิดร้ายแรง ผู้ดูแลต้องรีบว่ากล่าวแก้ไขเขาในแบบที่แสดงความรัก พวกผู้ดูแลรู้ว่าพระยะโฮวาอยากให้พวกเขาปกป้องพี่น้องจากอิทธิพลที่ไม่ดีและช่วยรักษาประชาคมให้สะอาดและมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน (สภษ. 15:3) เหมือนที่เราได้อ่านในจดหมายฉบับแรกที่เปาโลเขียนถึงพี่น้องในเมืองโครินธ์ เขารักพี่น้องในเมืองนั้นมาก เขาจึงว่ากล่าวแก้ไขพวกเขาเมื่อจำเป็น พวกเรารู้ว่าพวกผู้ดูแลในเมืองโครินธ์รีบทำตามการชี้นำของเปาโล เพราะหลังจากนั้นไม่กี่เดือนเปาโลก็ชมเชยพวกเขาในจดหมายที่เขาเขียนฉบับที่สอง ดังนั้น ถ้าพี่น้อง “กำลังก้าวไปผิดทางโดยไม่รู้ตัว” พวกผู้ดูแลก็ควรว่ากล่าวแก้ไขเขาอย่างอ่อนโยน—กท. 6:1
18. (ก) การชี้นำจากพระคัมภีร์ช่วยประชาคมต่าง ๆ ในศตวรรษแรกอย่างไร? (ข) เราจะเรียนอะไรในบทความถัดไป?
18 เห็นได้ชัดว่าเมื่อคริสเตียนในศตวรรษแรกทำตามการชี้นำในหนังสือของพระเจ้า ประชาคมก็สะอาด สงบสุข และเป็นหนึ่งเดียวกัน (1 คร. 1:10; อฟ. 4:11-13; 1 ปต. 3:8) ผลก็คือ พวกพี่น้องสามารถประกาศข่าวดี “ไปทุกแห่งทั่วใต้ฟ้า” (คส. 1:23) ในทุกวันนี้ก็เหมือนกัน ประชาชนของพระยะโฮวาเป็นระเบียบ เป็นหนึ่งเดียวกัน และประกาศข่าวดีไปทั่วโลก ในบทความหน้าจะให้หลักฐานมากขึ้นที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ประชาชนของพระยะโฮวาต้องการมากที่สุดก็คือ ให้เกียรติพระยะโฮวาพระเจ้าองค์ยิ่งใหญ่สูงสุดและเชื่อฟังการชี้นำในคัมภีร์ไบเบิลหนังสือของพระองค์—สด. 71:15, 16
^ [1] (ข้อ 13) ดูหนังสือรวบรวมเป็นองค์การเพื่อทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวา น. 134-136
^ [2] (ข้อ 15) สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์บางอย่างที่คริสเตียนอาจตัดสินใจฟ้องร้องพี่น้องคนอื่น ขอดูหนังสือ “เป็นที่รักของพระเจ้าเสมอ” น. 223, เชิงอรรถ