บทความศึกษา 11
ทำยังไงถึงจะได้กำลังจากการอ่านคัมภีร์ไบเบิล?
“พระเจ้าช่วยคุณให้อดทน”—รม. 15:5
เพลง 94 ขอบคุณพระองค์ที่ให้คำสอนเรา
ใจความสำคัญ *
1. คนของพระยะโฮวาต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง?
คุณกำลังเจอปัญหาหนัก ๆ อยู่ไหม? อาจจะมีพี่น้องบางคนที่ทำให้คุณเสียใจ (ยก. 3:2) เพื่อนที่ทำงานหรือเพื่อนที่โรงเรียนอาจจะเยาะเย้ยคุณเพราะคุณเป็นพยานพระยะโฮวา (1 ปต. 4:3, 4) หรืออาจจะมีคนในครอบครัวที่พยายามห้ามคุณไม่ให้ไปประชุมหรือไม่ให้คุณพูดความเชื่อของตัวเอง (มธ. 10:35, 36) ถ้าคุณกำลังเจอปัญหาที่หนักมาก คุณอาจจะรู้สึกอยากยอมแพ้และเลิกรับใช้พระยะโฮวา แต่คุณมั่นใจได้ว่าไม่ว่าคุณจะเจอกับปัญหาอะไรก็ตาม พระยะโฮวาจะคอยให้สติปัญญากับคุณเพื่อคุณจะรับมือกับปัญหานั้นและให้กำลังเพื่อคุณจะอดทนได้
2. จากโรม 15:4 การอ่านคัมภีร์ไบเบิลจะช่วยเรายังไง?
2 พระยะโฮวาใช้เปาโลให้เขียนโรม 15:4 (อ่าน) ข้อนี้ทำให้เรารู้ว่าทำไมพระยะโฮวาถึงให้มีเรื่องราวของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ที่ต้องเจอกับปัญหาหนัก ๆ ไว้ในคัมภีร์ไบเบิล พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพื่อให้เราเรียนจากตัวอย่างของพวกเขา เรื่องราวเหล่านี้ช่วยให้เรามีกำลังใจและมีความหวัง แต่แค่อ่านคัมภีร์ไบเบิลอย่างเดียวยังไม่พอ เราต้องให้สิ่งที่อ่านเข้าถึงหัวใจและเปลี่ยนความคิดความรู้สึกของเรา อย่างเช่น ถ้าเราอยากได้คำแนะนำเพื่อจะรับมือกับปัญหาที่เราเจออยู่ เราต้องทำยังไง? ให้เราลองใช้ 4 ขั้นตอนนี้ตอนที่ศึกษาส่วนตัว (1) อธิษฐาน (2) จินตนาการ (3) คิดใคร่ครวญ และ (4) เอาไปใช้ ให้เรามาดูว่าเราต้องทำอะไรบ้างในแต่ละขั้นตอน * แล้วหลังจากนั้นเราจะใช้ 4 ขั้นตอนนี้ตอนที่เราเรียนเรื่องของกษัตริย์ดาวิดกับอัครสาวกเปาโล
3. คุณควรทำอะไรก่อนที่จะอ่านคัมภีร์ไบเบิล? และทำไม?
3 (1) อธิษฐาน ก่อนที่คุณจะอ่านคัมภีร์ไบเบิล ให้คุณขอพระยะโฮวาช่วยคุณให้เห็นบทเรียนจากสิ่งที่คุณอ่าน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากได้คำแนะนำเพื่อจะรับมือกับปัญหา ให้คุณขอพระยะโฮวาช่วยคุณให้เจอหลักการในคัมภีร์ไบเบิลเพื่อคุณจะตัดสินใจเรื่องนั้นได้อย่างถูกต้อง—4. คุณต้องทำยังไงเพื่อจะได้ประโยชน์มากขึ้นจากการอ่านคัมภีร์ไบเบิล?
4 (2) จินตนาการ พระยะโฮวาให้เรามีความสามารถที่จะจินตนาการ นี่เป็นความสามารถที่สุดยอดมาก ดังนั้นตอนที่คุณอ่านเกี่ยวกับเรื่องของใครสักคนในคัมภีร์ไบเบิล ให้คุณพยายามจินตนาการว่าคุณเป็นเขา และนึกภาพว่ารอบตัวคุณมีอะไรบ้าง คุณเห็นอะไรและรู้สึกยังไง ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณจะได้ประโยชน์มากขึ้นจากการอ่านคัมภีร์ไบเบิล
5. การคิดใคร่ครวญหมายถึงอะไร? และคุณจะทำอย่างนั้นได้ยังไง?
5 (3) คิดใคร่ครวญ การคิดใคร่ครวญหมายถึงการคิดอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสิ่งที่คุณอ่าน และคิดว่าเรื่องนั้นเกี่ยวข้องยังไงกับคุณ การคิดใคร่ครวญช่วยให้คุณเชื่อมโยงความคิดหลาย ๆ เรื่องเข้าด้วยกันและทำให้เข้าใจเรื่องที่อ่านได้ดีขึ้น ถ้าคุณอ่านคัมภีร์ไบเบิลแต่ไม่คิดใคร่ครวญก็เหมือนกับคุณกำลังมองชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายอยู่เต็มโต๊ะ แต่ถ้าคุณคิดใคร่ครวญก็เหมือนกับคุณกำลังต่อจิ๊กซอว์แต่ละตัวเข้าด้วยกัน แล้วคุณก็จะเห็นภาพทั้งหมด เพื่อจะคิดใคร่ครวญ คุณอาจจะตั้งคำถามแบบนี้ ‘คนในเรื่องที่ฉันกำลังอ่านเขารับมือกับปัญหายังไง? พระยะโฮวาช่วยเขายังไง? ฉันได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้? ฉันจะเอาบทเรียนนี้ไปใช้ยังไงเพื่อรับมือกับปัญหาที่ฉันเจอ?’
6. ทำไมเราต้องเอาสิ่งที่เรียนไปใช้?
6 (4) เอาไปใช้ พระเยซูบอกว่าถ้าเราไม่เอาสิ่งที่เรียนไปใช้ เราก็เหมือนกับคนที่สร้างบ้านบนทราย ถึงเขาจะทำงานหนักมากแต่ก็เสียแรงเปล่า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? เพราะถ้าบ้านนั้นเจอพายุหรือน้ำท่วมเมื่อไหร่ บ้านนั้นก็จะพัง (มธ. 7:24-27) เหมือนกันถ้าเราอธิษฐาน จินตนาการ และคิดใคร่ครวญ แต่เราไม่เอาสิ่งที่เรียนไปใช้ มันก็เสียแรงเปล่า แล้วถ้าเราเจอปัญหาหรือการต่อต้าน ความเชื่อของเราก็จะไม่เข้มแข็งพอ แต่ถ้าเราศึกษาและเอาไปใช้ เราจะตัดสินใจได้ดีกว่า รู้สึกสงบใจมากกว่า และมีความเชื่อที่เข้มแข็งขึ้น (อสย. 48:17, 18) ตอนนี้ให้เรามาลองใช้ 4 ขั้นตอนนี้ศึกษาตัวอย่างของกษัตริย์ดาวิด และดูว่าเราจะได้บทเรียนอะไรบ้าง
คุณได้บทเรียนอะไรจากกษัตริย์ดาวิด?
7. ตอนนี้เราจะเรียนเรื่องของใคร?
7 คุณเคยถูกเพื่อนหรือคนในครอบครัวทรยศหรือทำให้เสียใจไหม? ถ้าใช่ เรื่องของดาวิดจะช่วยคุณได้มากแน่ ๆ โดยเฉพาะตอนที่เขาถูกอับซาโลมลูกชายของเขาทรยศและพยายามแย่งชิงบัลลังก์จากเขา—2 ซม. 15:5-14, 31; 18:6-14
8. คุณต้องทำยังไงเพื่อให้พระยะโฮวาช่วยคุณ?
8 (1) อธิษฐาน ก่อนที่คุณจะอ่าน ให้อธิษฐานถึงพระยะโฮวา บอกพระองค์ว่าคุณรู้สึกยังไงตอนที่คุณถูกทรยศหรือทำให้เสียใจ (สด. 6:6-9) เล่าให้พระองค์ฟังให้หมดว่าคุณรู้สึกยังไงจริง ๆ แล้วขอพระองค์ช่วย ให้คุณเห็นบทเรียนที่จะช่วยคุณให้รู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อจะรับมือกับปัญหานี้ได้
9. เกิดอะไรขึ้นระหว่างดาวิดกับอับซาโลม?
9 (2) จินตนาการ ลองนึกภาพว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น และจินตนาการว่าดาวิดน่าจะรู้สึกยังไง อับซาโลมลูกชายของดาวิดใช้เวลาหลายปีพยายามทำให้ประชาชนรักเขา (2 ซม. 15:7) พอถึงเวลาเขาก็ส่งคนไปทั่วอิสราเอล เพื่อว่าตอนที่เขายึดอำนาจแล้ว ประชาชนจะได้ยอมรับเขาเป็นกษัตริย์ ไม่ใช่แค่นั้นเขายังเกลี้ยกล่อมอาหิโธเฟลที่เป็นที่ปรึกษาและเพื่อนสนิทของพ่อให้ร่วมมือหักหลังพ่อของเขาด้วย แล้วอับซาโลมก็ตั้งตัวขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาพยายามตามฆ่าดาวิดทั้งที่ตอนนั้นดาวิดอาจจะป่วยหนักมาก (สด. 41:1-9) พอดาวิดรู้แผน เขาก็หนีจากกรุงเยรูซาเล็มทันที ในที่สุดกองทัพของอับซาโลมก็มาสู้กับกองทัพของดาวิด แต่กองทัพของอับซาโลมแพ้ แล้วอับซาโลมก็ถูกฆ่าตาย
10. ดาวิดอาจจะคิดหรือทำอะไรตอนที่เจอเรื่องแบบนี้?
10 ตอนนี้ให้คุณลองคิดดูว่าดาวิดจะรู้สึกยังไงตอนที่เจอเรื่องทั้งหมดนี้ ทั้ง ๆ ที่เขารักอับซาโลมและไว้ใจอาหิโธเฟลมาก แต่สองคนนี้กลับทรยศเขาและพยายามจะฆ่าเขาด้วยซ้ำ นี่ทำให้ดาวิดรู้สึกเจ็บและเสียใจมากจริง ๆ พอเจอเรื่องแบบนี้เขาอาจจะคิดว่าเพื่อนคนอื่นคงทิ้งเขาไปอยู่ข้างอับซาโลมหมดแล้ว ไม่มีใครที่ไว้ใจได้อีกต่อไป หรือดาวิดอาจจะคิดถึงแต่ตัวเองและหนีออกนอกประเทศคนเดียว หรือเขาอาจจะหมดอาลัยตายอยากจนไม่อยากทำอะไรเลย แต่ดาวิดไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาสู้กับปัญหาและเอาชนะมันได้ อะไรช่วยให้เขาทำอย่างนั้นได้?
11. ดาวิดทำยังไงตอนที่เจอปัญหาหนัก?
11 (3) คิดใคร่ครวญ คุณได้เรียนอะไรจากเรื่องนี้? ลองถามตัวเองว่า “ดาวิดรับมือกับปัญหายังไง?” ดาวิดไม่ได้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกหรือรีบตัดสินใจแบบไม่ได้คิด และเขาก็ไม่ได้กลัวหรือกังวลมากจนไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แต่เขาอธิษฐานขอให้พระยะโฮวาช่วยและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเขาด้วย และเขาลงมือทำตามสิ่งที่ตัดสินใจไว้ทันที ถึงเขาจะเจ็บและเสียใจมาก แต่เขาก็ไม่เคียดแค้นหรือไม่ไว้ใจใครอีกต่อไป เขายังไว้ใจพระยะโฮวาและไว้ใจเพื่อนของเขา
12. พระยะโฮวาช่วยดาวิดยังไง?
12 พระยะโฮวาช่วยดาวิดยังไง? ถ้าคุณค้นคว้า คุณก็จะเห็นว่าพระยะโฮวาให้กำลังกับดาวิดเพื่อเขาจะอดทนกับปัญหาได้ (สด. 3:1-8; หัวบท) และพระยะโฮวายังอวยพรการตัดสินใจของดาวิดด้วย นอกจากนั้น พระองค์ยังสนับสนุนเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของดาวิดตอนที่พวกเขาสู้เพื่อปกป้องดาวิด
13. คุณจะเลียนแบบดาวิดได้ยังไงถ้ามีคนมาทำให้คุณเจ็บและเสียใจมาก? (มธ. 18:15-17)
13 (4) เอาไปใช้ ให้ลองถามตัวเองว่า ‘ฉันจะเลียนแบบดาวิดได้ยังไง?’ คุณต้องพยายามจัดการกับปัญหาทันที คุณอาจจะคิดถึงคำแนะนำของพระเยซูที่อยู่ในมัทธิวบท 18 แล้วทำตามคำแนะนำนั้นหรือเอาหลักการในข้อนั้นมาใช้ แล้วแต่ว่าสถานการณ์ของคุณเป็นยังไง (อ่านมัทธิว 18:15-17) แต่อย่ารีบตัดสินใจโดยใช้อารมณ์ ให้คุณอธิษฐานขอพระยะโฮวาช่วยคุณให้มีใจสงบและมีสติปัญญาเพื่อจะรับมือกับปัญหาได้ อย่าเลิกไว้ใจเพื่อนของคุณ และให้ยอมรับความช่วยเหลือจากพวกเขา (สภษ. 17:17) และที่สำคัญที่สุดให้คุณทำตามคำแนะนำของพระยะโฮวาที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิล—สภษ. 3:5, 6
คุณได้บทเรียนอะไรจากเปาโล?
14. เมื่อไหร่ที่คุณอาจได้กำลังใจจาก 2 ทธ. 1:12-16; 4:6-11, 17-22 มากเป็นพิเศษ?
14 คุณกำลังถูกคนในครอบครัวต่อต้านไหม? หรือคุณกำลังอยู่ในประเทศที่งานของพยานพระยะโฮวาถูกสั่งห้ามหรือไม่มีอิสระเต็มที่ไหม? ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณจะได้กำลังใจมากแน่ ๆ ถ้าได้อ่าน 2 ทธ. 1:12-16 และ 4:6-11, 17-22 * เปาโลเขียนข้อคัมภีร์เหล่านี้ตอนที่เขาอยู่ในคุก
15. คุณต้องทำยังไงเพื่อให้พระยะโฮวาช่วยคุณ?
15 (1) อธิษฐาน ก่อนที่คุณจะอ่าน ให้บอกพระยะโฮวาว่าคุณเจอปัญหาอะไรอยู่และมันทำให้คุณรู้สึกยังไง บอกรายละเอียดทั้งหมดและระบายความในใจของคุณให้พระองค์ฟัง แล้วขอพระยะโฮวาช่วยให้คุณเห็นบทเรียนจากเรื่องของเปาโลตอนที่เขาเจอปัญหา และช่วยให้คุณรู้ว่าคุณจะรับมือกับปัญหาได้ยังไง
16. เกิดอะไรขึ้นกับเปาโล?
16 (2) จินตนาการ ลองนึกภาพว่าคุณเป็นเปาโล ตอนนี้เขาอยู่ที่กรุงโรมและถูกล่ามโซ่อยู่ในคุก เขาเคยถูกขังคุกมาหลายรอบแล้ว แต่ครั้งนี้เขารู้ตัวว่าเขาจะถูกประหารแน่ ๆ ไม่ใช่แค่นั้น เพื่อน ๆ บางคนของเขาก็ทิ้งเขาไป และตอนนี้เขาแทบจะไม่มีแรงเหลือเลย—2 ทธ. 1:15
17. เปาโลอาจจะรู้สึกยังไง?
17 เรื่องที่เปาโลเจออาจจะทำให้เขาคิดถึงชีวิตในอดีต แล้วก็อาจจะคิดว่าถ้าเขาไม่มาเป็นคริสเตียนที่ขยันรับใช้ ก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ หรือเขาอาจจะโมโหหรือเสียใจที่พี่น้องในแคว้นเอเชียทิ้งเขาไปจนไม่ไว้ใจเพื่อนคนอื่นอีก แต่เปาโลไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย เปาโลมั่นใจว่าเพื่อน ๆ จะยังซื่อสัตย์กับเขาอยู่และพระยะโฮวาจะอวยพรเขา ทำไมเขาถึงมั่นใจอย่างนั้นได้?
18. เปาโลรับมือกับปัญหายังไง?
18 (3) คิดใคร่ครวญ ลองถามตัวเองว่า “เปาโลรับมือกับปัญหายังไง?” ถึงเปาโลรู้ว่าอีกไม่นานเขาจะต้องตาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็ยังเป็นการทำให้พระยะโฮวาได้รับการยกย่องสรรเสริญ นอกจากนั้น เขายังคิดถึงวิธีที่เขาจะให้กำลังใจคนอื่นด้วย เขาอธิษฐานบ่อย ๆ และพึ่งพระยะโฮวาเสมอ (2 ทธ. 1:3) แทนที่เปาโลจะคิดแต่เรื่องที่พี่น้องพวกนั้นทิ้งเขาไป เขาบอกว่าเขารู้สึกขอบคุณมากที่เพื่อน ๆ ยังซื่อสัตย์กับเขาและคอยช่วยเหลือเขาอยู่ ไม่ใช่แค่นั้น เปาโลยังศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำต่อ ๆ ไป (2 ทธ. 3:16, 17; 4:13) ที่สำคัญที่สุด เขามั่นใจเต็มที่ว่าพระยะโฮวาและพระเยซูรักเขาและไม่มีวันทิ้งเขาไป เขาแน่ใจว่าพระองค์ทั้งสองจะอวยพรเขาที่เขารับใช้อย่างซื่อสัตย์
19. พระยะโฮวาช่วยเปาโลยังไง?
19 พระยะโฮวาบอกเปาโลไว้แล้วว่าเขาจะถูกข่มเหงเพราะเป็นคริสเตียน (กจ. 21:11-13) แล้วพระยะโฮวาช่วยเปาโลยังไง? พระองค์ตอบคำอธิษฐานของเปาโล และหลังจากนั้นก็ให้กำลังกับเขา (2 ทธ. 4:17) พระยะโฮวารับรองกับเขาว่าเขาจะได้รับรางวัลแน่ ๆ เพราะเขาขยันรับใช้และทำงานหนัก และพระองค์ยังใช้เพื่อนที่ซื่อสัตย์ของเปาโลให้ช่วยเขาด้วย
20. จากโรม 8:38, 39 คุณจะเลียนแบบความเชื่อของเปาโลได้ยังไง?
20 (4) เอาไปใช้ ให้ลองถามตัวเองว่า ‘ฉันจะเลียนแบบเปาโลได้ยังไง?’ เหมือนกับเปาโล เราคาดหมายมก. 10:29, 30) เพื่อจะรักษาความซื่อสัตย์ได้ตอนที่เจอปัญหาหรือถูกข่มเหง เราต้องพึ่งพระยะโฮวาโดยการอธิษฐานและศึกษาส่วนตัวเป็นประจำ เราต้องจำไว้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่เราทำได้ก็คือการทำให้พระยะโฮวาได้รับการสรรเสริญ เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะไม่มีวันทิ้งเรา และไม่มีใครจะมาขัดขวางพระองค์ไม่ให้รักเราได้—อ่านโรม 8:38, 39; ฮบ. 13:5, 6
ได้เลยว่าเราจะถูกข่มเหงเพราะรับใช้พระยะโฮวา (เรียนจากคนอื่นในคัมภีร์ไบเบิล
21. อะไรช่วยอายะกับเฮกเตอร์ให้รับมือปัญหาได้?
21 ไม่ว่าเราจะเจอกับปัญหาอะไรก็ตาม ตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิลช่วยเราได้ อายะไพโอเนียร์จากญี่ปุ่นกลัวการประกาศสาธารณะมาก แต่เธอบอกว่าตัวอย่างของโยนาห์ช่วยให้เธอเอาชนะความกลัวนี้ได้ เฮกเตอร์เด็กวัยรุ่นผู้ชายในอินโดนีเซียได้รับกำลังใจจากตัวอย่างของรูธ ถึงพ่อแม่ของเขาจะไม่ได้เป็นพยานฯ แต่ตัวอย่างของรูธทำให้เขาอยากรู้จักพระยะโฮวาและรับใช้พระองค์
22. คุณต้องทำอะไรเพื่อจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากวีดีโอต่าง ๆ ละครเสียง และบทความชุด “เลียนแบบความเชื่อของเขา”?
22 ถ้าคุณอยากได้กำลังใจจากตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิล คุณจะหาได้จากที่ไหน? คุณสามารถดูวีดีโอต่าง ๆ ฟังการอ่านคัมภีร์ไบเบิลแบบละคร และอ่านบทความชุด “เลียนแบบความเชื่อของเขา” * แต่ก่อนจะทำอย่างนั้น ให้คุณอธิษฐานขอพระยะโฮวาช่วยคุณให้เห็นบทเรียนที่คุณจะเอาไปใช้ได้ หลังจากนั้นให้จินตนาการว่าคุณเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์คนนั้นในคัมภีร์ไบเบิล คิดใคร่ครวญว่าเขาทำอะไรบ้างและพระยะโฮวาช่วยเขายังไง แล้วเอาบทเรียนที่คุณได้ไปใช้ นอกจากนั้น ให้ขอบคุณพระยะโฮวาที่พระองค์ช่วยคุณตลอดมา คุณจะแสดงว่าคุณเห็นค่าความช่วยเหลือจากพระองค์ได้โดยพยายามให้กำลังใจและช่วยเหลือคนอื่น
23. จากอิสยาห์ 41:10, 13 พระยะโฮวาสัญญาว่าจะทำอะไร?
23 การใช้ชีวิตในโลกของซาตานไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และบางครั้งเราไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไงดี (2 ทธ. 3:1) แต่เราไม่ต้องกลัวหรือกังวลอะไร พระยะโฮวารู้ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง และถ้าเราล้มลง พระองค์สัญญาว่าจะใช้มือขวาของพระองค์ดึงเราขึ้นมาแน่นอน (อ่านอิสยาห์ 41:10, 13) เรามั่นใจว่าพระยะโฮวาจะช่วยเรา และเราจะได้กำลังจากคัมภีร์ไบเบิลเพื่อจะรับมือกับปัญหาอะไรก็ตามที่เข้ามาในชีวิต
เพลง 96 หนังสือของพระเจ้าเป็นคลังสมบัติ
^ วรรค 5 มีหลายเรื่องในคัมภีร์ไบเบิลที่ทำให้เห็นว่าพระยะโฮวารักผู้รับใช้ของพระองค์มาก และพระองค์จะช่วยให้พวกเขาผ่านปัญหาต่าง ๆ ได้ ในบทความนี้คุณจะได้เห็นว่าจะศึกษาส่วนตัวยังไงเพื่อจะได้ประโยชน์มากขึ้นจากเรื่องที่อ่าน
^ วรรค 2 นอกจากวิธีนี้แล้ว คุณยังหาวิธีศึกษาส่วนตัวแบบอื่นได้อีกในคู่มือค้นคว้าสำหรับพยานพระยะโฮวา ในหัวเรื่อง “คัมภีร์ไบเบิล” แล้วดูในหัวข้อย่อย “การอ่านและการเข้าใจคัมภีร์ไบเบิล”
^ วรรค 14 ไม่ต้องอ่านข้อคัมภีร์เหล่านี้ตอนที่ศึกษาหอสังเกตการณ์ ที่ประชาคม
^ วรรค 22 ดู “เลียนแบบความเชื่อของเขา—ผู้คนในสมัยคัมภีร์ไบเบิล” ในเว็บไซต์ jw.org (ไปที่คำสอนของคัมภีร์ไบเบิล > ความเชื่อในพระเจ้า)