ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณสามารถพูดต่อหน้าผู้ฟังได้!

คุณสามารถพูดต่อหน้าผู้ฟังได้!

คุณ​สามารถ​พูด​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง​ได้!

แมรี่​นึก​ขัน​กับ​ความ​พยายาม​ครั้ง​แรก​ของ​เธอ​ใน​การ​พูด​ต่อ​หน้า​คน​กลุ่ม​ใหญ่. “เมื่อ​ฉัน​พูด​ไป​ได้​ไม่​นาน” เธอ​เล่า “ฉัน​ก็​เป็น​ลม​ล้ม​พับ​ไป!”

แม้​จะ​รุนแรง แต่​ประสบการณ์​ของ​แมรี่​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​หลาย​คน​ไม่​ชอบ​พูด​ต่อ​หน้า​สาธารณชน. บาง​คน​มอง​ดู​สิ่ง​นี้​เสมือน​การ​เผชิญ​วิบัติ​ที่​เลวร้าย​ยิ่ง​กว่า​ความ​ตาย​เสีย​อีก! เรื่อง​นี้​ได้​รับ​การ​เปิดเผย​ใน​การ​สำรวจ​ความ​คิดเห็น​ด้วย​คำถาม​ที่​ว่า “คุณ​กลัว​อะไร​มาก​ที่​สุด?” เป็น​ดัง​ที่​คาด​ไว้ “ความ​สูง”, “ปัญหา​ด้าน​การ​เงิน”, “การ​นั่ง​เครื่องบิน”, “ความ​เจ็บป่วย​ร้ายแรง”, และ “ความ​ตาย” อยู่​อันดับ​ต้น ๆ ใน​รายการ. แต่​ที่​อยู่​เหนือ​อันดับ​เหล่า​นี้​ทั้ง​หมด—ความ​กลัว​หมาย​เลข​หนึ่ง—คือ “การ​พูด​ต่อ​หน้า​กลุ่ม​ชน”!

แม้​แต่​บุรุษ​ผู้​มี​ชื่อ​เสียง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​ยัง​แสดง​ออก​ถึง​ความ​กลัว​ใน​ตอน​แรก​ที่​จะ​ต้อง​พูด​ต่อ​หน้า​สาธารณชน. ยิระมะยา​กล่าว​ว่า “ข้าพเจ้า​พูด​ไม่​ได้ ข้าพเจ้า​เป็น​เด็ก​อยู่.” (ยิระมะยา 1:6) ปฏิกิริยา​ของ​โมเซ​ที่​มี​ต่อ​หน้าที่​มอบหมาย​ของ​ท่าน​คือ: ‘ข้าพเจ้า​เป็น​คน​พูด​ไม่​คล่อง ขอ​โปรด​ใช้​ผู้​อื่น​ไป​เถิด.’ (เอ็กโซโด 4:​10, 13) ถึง​กระนั้น ทั้ง​ยิระมะยา​และ​โมเซ​ได้​กลาย​เป็น​นัก​พูด​ที่​โดดเด่น พูด​ต่อ​หน้า​ผู้​นำ​ที่​มี​ชื่อ​เสียง​และ​ชน​กลุ่ม​ใหญ่.

เรื่อง​ทำนอง​เดียว​กัน​นี้​อาจ​เป็น​จริง​กับ​คุณ​ก็​ได้. การ​พูด​ต่อ​หน้า​สาธารณชน​เป็น​ความ​สามารถ​ที่​ซ่อน​อยู่​ภาย​ใน​ซึ่ง​ใคร ๆ ก็​สามารถ​พัฒนา​ขึ้น​มา​ได้. คุณ​จะ​เอา​ชนะ​ความ​กลัว​อัน​เกิด​จาก​การ​พูด​ต่อ​หน้า​สาธารณชน​ได้​โดย​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะนำ​ต่าง ๆ ต่อ​ไป​นี้:

1. อย่า​ตราหน้า​ตัว​เอง

“ฉัน​ขี้อาย​เกิน​ไป.” “ฉัน​เด็ก​เกิน​ไป.” “ฉัน​แก่​เกิน​ไป.” “ฉัน​ประหม่า​เกิน​ไป.” เหล่า​นี้​เป็น​ตัว​อย่าง​ของ​การ​ตราหน้า​ตัว​เอง. สิ่ง​เหล่า​นี้​จะ​กีดกัน​คุณ​จาก​การ​บรรลุ​เป้าหมาย​ซึ่ง​ที่​จริง​คุณ​สามารถ​ทำ​ได้.

การ​ตรา​หน้า​ต่าง ๆ บ่อย​ครั้ง​ทำ​ให้​ตัว​เอง​เป็น​อย่าง​นั้น​จริง ๆ. ตัว​อย่าง​เช่น คน​ที่​ตราหน้า​ตัว​เอง​ว่า “ขี้อาย” จะ​เฝ้า​ปิด​ประตู​ไม่​ให้​มี​โอกาส​ต่าง ๆ ซึ่ง​ท้าทาย​ความ​อาย. ผล​ที่​ตาม​มา​ก็​คือ​พฤติกรรม​เช่น​นี้​ทำ​ให้​เขา​เชื่อ​ว่า​เขา​ขี้อาย​จริง ๆ. ดัง​นั้น จึง​เกิด​เป็น​วัฏจักร​หนึ่ง​โดย​สิ่ง​ซึ่ง​ตัว​เขา​แสดง​ออก​มา​และ​เป็น​การ​เสริม​ตราหน้า​ซึ่ง​ตัว​เขา​เอง​ก่อ​ขึ้น. นัก​จิตวิทยา​คน​หนึ่ง​ระบุ​ว่า: “ถ้า​คุณ​เชื่อ​ว่า​คุณ​ไม่​สามารถ​ทำ​บาง​สิ่ง​บาง​อย่าง​ได้ . . . คุณ​จะ​ปฏิบัติ​ออก​มา​ตาม​วิถี​ทาง​นั้น​และ​กระทั่ง​เป็น​เช่น​นั้น​เสีย​ด้วย​ซ้ำ.”

ดร. ลิน เคลลี่ ประจำ​มหาวิทยาลัย​ฮาร์ตฟอร์ด (สหรัฐ​อเมริกา) อ้าง​ว่า​ความ​อาย​อาจ​เป็น​อาการ​สนอง​ตอบ​ต่อ​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้​มา. อะไร​ก็​ตาม​ที่​เรา​เรียน​รู้​มา เรา​ก็​สามารถ​ลบ​สิ่ง​ที่​เรียน​รู้​มา​นั้น​ได้. เรื่อง​เดียว​กัน​อาจ​เป็น​จริง​กับ​ความ​ประหม่า, การ​ตื่น​เวที และ​อุปสรรค​อื่น ๆ ใน​การ​พูด​ต่อ​สาธารณชน.

2. ทำ​ให้​ความ​ประหม่า​เป็น​ผล​ดี​ต่อ​คุณ

นางเอก​ที่​แสดง​มา​นาน​หลาย​ปี​คน​หนึ่ง​ถูก​ถาม​ว่า​หลัง​จาก​ที่​มี​ประสบการณ์​นาน​หลาย​ปี​เธอ​ยัง​รู้สึก​ประหม่า​ก่อน​การ​แสดง​ไหม? “แน่นอน” เธอ​กล่าว. “ฉัน​ยัง​รู้สึก​กังวล​ก่อน​การ​แสดง​ทุก ๆ ครั้ง. แต่​ตลอด​เวลา​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​ไป​ฉัน​เรียน​รู้​ที่​จะ​ควบคุม​ความ​กังวล​นั้น.”

ดัง​นั้น สิ่ง​ที่​เพ่งเล็ง​คือ​ควบคุม​ความ​ประหม่า​ไม่​ใช่​กำจัด​มัน​ออก​ไป​ทั้ง​หมด. ทำไม? ไม่​ใช่​ความ​ประหม่า​ทุก​ชนิด​เป็น​สิ่ง​ไม่​ดี. ความ​ประหม่า​มี​อยู่​สอง​แบบ. แบบ​หนึ่ง​เกิด​จาก​การ​ขาด​การ​เตรียมตัว. แต่​อีก​แบบ​หนึ่ง​เป็น​ความ​รู้สึก​ประหม่า​ใน​แง่บวก​มาก​กว่า. ความ​รู้สึก​ประหม่า​แบบ​นี้​ดี สำหรับ​คุณ​เพราะ​จะ​กระตุ้น​คุณ​ให้​ทำ​ดี​ที่​สุด. ความ​รู้สึก​ประหม่า​นี้​พิสูจน์​ให้​เห็น​ว่า​คุณ​เอาใจใส่. เพื่อ​ลด​ความ​รู้สึก​ประหม่า​ลง​ให้​น้อย​ที่​สุด ลอง​ติด​ตาม​คำ​แนะนำ​ต่อ​ไป​นี้:

คิด​ถึง​การ​พูด​ของ​คุณ​ว่า​เป็น​การ​สนทนา​แทน​ที่​จะ​เป็น​คำ​บรรยาย. “เป็น​เพียง​การ​พูด​คุย​ธรรมดา ๆ” ชาร์ลส์ ออสกู๊ด ผู้​เชี่ยวชาญ​กล่าว​ไว้ “และ​คุณ​ก็​พูด​คุย​กัน​ตลอด​ทั้ง​วัน​อยู่​แล้ว.” โดย​ส่วน​รวม ผู้​ฟัง​ก็​คือ​คน​ที่​คุณ​สนทนา​ด้วย. เป็น​การ​เหมาะสม​ที่​จะ​ผ่อนคลาย​และ​ยิ้ม​ใน​บาง​ครั้ง. ยิ่ง​การ​พูด​ของ​คุณ​เป็น​แบบ​สนทนา​มาก​เท่าไร คุณ​ก็​จะ​รู้สึก​ผ่อนคลาย​มาก​เท่า​นั้น. อย่างไร​ก็​ดี มี​บางครั้ง​ที่​เนื้อเรื่อง​และ​โอกาส​อาจ​เรียกร้อง​น้ำเสียง​แบบ​ทางการ, จริงจัง, และ​กระทั่ง​มี​พลัง.

จำ​ไว้​ว่า​ผู้​ฟัง​อยู่​ข้าง​คุณ! แม้​ว่า​คุณ​จะ​แสดง​ความ​ประหม่า​ออก​มา แต่​ผู้​ฟัง​ส่วน​มาก​ก็​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​คุณ. ดัง​นั้น จง​มอง​ผู้​ฟัง​เป็น​เสมือน​เพื่อน. พวก​เขา​ต้องการ​ให้​คุณ​ประสบ​ความ​สำเร็จ! คิด​เสีย​ว่า​พวก​เขา​เป็น​แขก​ของ​คุณ​และ​ตัว​คุณ​เอง​เป็น​เจ้าภาพ. แทน​ที่​จะ​คิด​ว่า​ผู้​ฟัง​ควร​ทำ​ให้​คุณ​สบายใจ จง​บอก​ตัว​เอง​ว่า​ใน​ฐานะ​เจ้าภาพ​คุณ​ต้อง​ทำ​ให้​พวก​เขา​สบายใจ. การ​เปลี่ยน​วิธี​คิด​เช่น​นี้​จะ​ช่วย​บรรเทา​ความ​รู้สึก​ประหม่า​ของ​คุณ​ได้.

เพ่งเล็ง​ที่​ข่าวสาร ไม่​ใช่​ที่​ตัว​คุณ​เอง. จง​คิด​ว่า​ตัว​คุณ​เป็น​ผู้​ส่ง​ข่าว​ซึ่ง​กำลัง​ส่ง​โทรเลข. คน​ส่ง​ข่าว​ได้​รับ​ความ​สนใจ​เพียง​น้อย​นิด โทรเลข​ต่างหาก​ที่​ผู้​รับ​ต้องการ. เป็น​ความ​จริง​เช่น​เดียว​กัน​เมื่อ​คุณ​กำลัง​ส่ง​ข่าวสาร​ให้​กับ​ผู้​ฟัง. ส่วน​ใหญ่​แล้ว​ผู้​ฟัง​เพ่งเล็ง​ที่​ข่าวสาร​ไม่​ใช่​ที่​ตัว​คุณ. ยิ่ง​คุณ​กระตือรือร้น​กับ​ข่าวสาร​มาก​เท่าไร ความ​กังวล​เกี่ยว​กับ​ตัว​เอง​ก็​ยิ่ง​น้อย​ลง​เท่า​นั้น.

อย่า​รับประทาน​มาก​เกิน​ไป​ก่อน​พูด. นัก​พูด​อาชีพ​คน​หนึ่ง​จำ​ได้​เมื่อ​รับประทาน​อาหาร​มื้อ​ใหญ่​ก่อน​ให้​คำ​บรรยาย​ความ​ยาว​สอง​ชั่วโมง. เกี่ยว​กับ​คำ​บรรยาย​นั้น​เขา​จำ​ได้​ว่า “เลือด​ซึ่ง​ควร​จะ​ไป​เลี้ยง​สมอง​กลับ​ลง​ไป​ปล้ำสู้​อยู่​กับ​สเต็ก​และ​มันฝรั่ง​ใน​กระเพาะ​อาหาร​ของ​ผม.” อาหาร​มื้อ​ใหญ่​อาจ​เป็น​ศัตรู​ตัว​ฉกาจ​ที่​สุด​เมื่อ​คุณ​ต้อง​ไป​อยู่​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง. ควร​เอาใจใส่​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​ดื่ม​ด้วย​เช่น​เดียว​กัน. กาเฟอีน​อาจ​ทำ​ให้​คุณ​ประสาท​ไว​เกิน​ไป. ส่วน​แอลกอฮอล์​จะ​ทำ​ให้​ประสาท​ตื้อ.

คุณ​อาจ​ประสบ​กับ​คลื่น​แห่ง​ความ​ประหม่า​อยู่​เสมอ​เมื่อ​คุณ​เริ่ม​พูด​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง แต่​โดย​ประสบการณ์​คุณ​จะ​พบ​ว่า​ความ​ประหม่า​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​ตอน​แรก​นี้​ไม่​มี​อะไร​มาก​ไป​กว่า—ความ​ประหม่า​แรก​เริ่ม​ซึ่ง​จะ​สูญหาย​ไป​ไม่​นาน​หลัง​จาก​คุณ​เริ่ม​พูด.

3. จง​เตรียมตัว!

“การ​พูด​เป็น​การ​เดิน​ทาง​ที่​มี​จุดมุ่งหมาย และ​ต้อง​มี​การ​กำหนด​เส้น​ทาง” เดล คาร์เนกี กล่าว​ไว้. “คน​ที่​เริ่ม​บรรยาย​โดย​ไร้​จุด​มุ่งหมาย​ตาม​ปกติ​จะ​ไม่​บรรลุ​ซึ่ง​สิ่ง​ใด ๆ.” เพื่อ​จะ​บรรลุ​เป้าหมาย คุณ​ต้อง​มี​การ​เตรียมตัว​ที่​ดี. พรสวรรค์​ใน​การ​พูด​ได้​อย่าง​คล่องแคล่ว​ไม่​ใช่​ว่า​จะ​เป็น​พร​สำหรับ​ผู้​ฟัง​ของ​คุณ. ดัง​นั้น คุณ​จะ​เตรียมตัว​อย่างไร?

ค้นคว้า​และ​เลือกเฟ้น. อย่า​ทำ​การ​ค้นคว้า​อย่าง​ลวก ๆ. จอห์น วอลฟ์ ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​สื่อสาร​กล่าว​ว่า “วิธี​เดียว​ที่​จะ​รู้สึก​สบาย​เมื่อ​อยู่​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง​คือ​รู้​ว่า​คุณ​กำลัง​พูด​อะไร​อยู่.” ต้อง​เป็น​ผู้​เชี่ยวชาญ​ใน​หัวเรื่อง​ของ​คุณ. สะสม​ข้อมูล​ให้​มาก​กว่า​ที่​คุณ​สามารถ​นำ​ไป​ใช้​ได้. แล้ว​ลง​มือ​เลือกเฟ้น​เนื้อหา​ของ​คุณ แยก “แกลบ” ออก​จาก “ข้าว.” กระนั้น “แกลบ” จะ​ไม่​เสีย​เปล่า—มัน​จะ​ทำ​ให้​คุณ​มี​ความ​มั่นใจ​เพิ่ม​ขึ้น​ใน​ข้อมูล​ที่​คุณ​เลือก​ใช้.

คิด. ไตร่ตรอง​หัวเรื่อง​ของ​คุณ​ใน ‘ยาม​กิน, ยาม​นอน, และ​หายใจ.’ คิด​ถึง​เรื่อง​นั้น​ใน​ใจ​ของ​คุณ​ทุก​โอกาส​ใน​แต่​ละ​วัน. “คิด​ถึง​มัน​ตลอด​เจ็ด​วัน ฝัน​ถึง​มัน​ตลอด​เจ็ด​คืน” เดล คาร์เนกี กล่าว. อัครสาวก​เปาโล​เตือน​ติโมเธียว​ดัง​นี้: “จง​ระวัง​ตัว​และ​คำสอน​ของ​ท่าน​ให้​ดี.” แต่​ก่อน ที่​จะ​กล่าว​เช่น​นี้ เปาโล​แนะนำ​ว่า “เอาใจใส่​ใน​ข้อความ​เหล่า​นี้ ฝัง​ตัว​ท่าน​ไว้​ใน​การ​นี้​ที​เดียว.” ใช่​แล้ว นัก​พูด​ที่​ดี​ต้อง​เป็น​นักไตร่ตรอง​ที่​ดี​ก่อน.—1 ติโมเธียว 4:​15, 16.

คิด​ไตร่ตรอง​จน​กระทั่ง​ความ​สำคัญ​และ​ความ​เร่ง​ด่วน​แห่ง​ข่าวสาร​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​ประหม่า​ของ​คุณ​ไป​ได้. ยิระมะยา​สามารถ​พูด​เกี่ยว​กับ​ข่าวสาร​ของ​ท่าน​ได้​ดัง​นี้: “คำ​ของ​พระองค์​อยู่​ใน​ใจ​ข้าพเจ้า​เหมือน​อย่าง​ไฟ​ปิด​ไว้​ใน​กระดูก​ทั้งปวง​ของ​ตัว​ข้าพเจ้า และ​ข้าพเจ้า​จึง​เหน็ดเหนื่อย​ด้วย​การ​นิ่ง​อยู่​และ​ข้าพเจ้า​จะ​นิ่ง​ต่อ​ไป​มิ​ได้.” (ยิระมายา 20:9) และ​คำพูด​นี้​มา​จาก​คน​เดียว​กัน​ซึ่ง​ก่อน​หน้า​นี้​พูด​ถึง​หน้าที่​มอบหมาย​ของ​ท่าน​ว่า ข้าพเจ้า​ไม่​ทราบ​จะ​พูด​อย่างไร?

คำนึง​ถึง​ผู้​ฟัง​ของ​คุณ. ใส่​เสื้อผ้า​ที่​เรียบร้อย​ที่​สุด. อนึ่ง เรื่อง​ที่​คุณ​ค้นคว้า​มา​ต้อง​ทำ​ให้​เหมาะ​กับ​ผู้​ฟัง​ของ​คุณ. ดัง​นั้น จง​พิจารณา​ความ​คิด​ของ​พวก​เขา: พวก​เขา​เชื่อ​ใน​เรื่อง​อะไร​บ้าง? พวก​เขา​รู้​อะไร​บ้าง​แล้ว​เกี่ยว​กับ​หัวข้อ​ของ​คุณ? เนื้อหา​ของ​คุณ​เหมาะ​กับ​ชีวิต​ประจำ​วัน​ของ​พวก​เขา​อย่างไร? ยิ่ง​คุณ​ใส่ใจ​คำถาม​เหล่า​นี้​มาก​เท่า​ใด ผู้​ฟัง​ก็​ยิ่ง​จะ​ฟัง​คุณ​อย่าง​ตั้งใจ​มาก​เท่า​นั้น มอง​ดู​ข้อมูล​ของ​คุณ​เสมือน​สิ่ง​ที่​ได้​ดัดแปลง​ให้​เข้า​กับ​ความ​ต้องการ​เฉพาะ​ของ​พวก​เขา.

พยายาม​ให้​ดี​ที่​สุด

โลก​ปัจจุบัน​ประกอบ​ด้วย​เครื่องมือ​ติดต่อ​สื่อสาร​แบบ​รวดเร็ว​ทันใจ​ทุก​อย่าง​เท่า​ที่​นึก​คิด​ได้. ถึง​กระนั้น “ใน​สถานการณ์​ส่วน​ใหญ่” หนังสือ เก็ต ทู เดอะ พอยท์ ระบุ​ว่า “เครื่อง​มือ​อัน​บังเกิด​ผล​มาก​ที่​สุด ใน​การ​ติดต่อ​สื่อสาร​คือ​มนุษย์​ต่อ​มนุษย์.” คำ​แนะนำ​ข้าง​ต้น​จะ​ช่วย​คุณ​ให้​ช่ำชอง​ใน​การ​ติดต่อ​สื่อสาร​เช่น​นั้น. แทน​ที่​จะ​ปักใจ​อยู่​กับ​ความ​กลัว​โดย​ไม่​จำเป็น คุณ​จะ​พบ​ว่า​ตน​สามารถ พูด​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง​ได้!

[กรอบ​หน้า 20]

การ​ออกกำลัง​เพื่อ​สงบ​สติ​อารมณ์

เมื่อ​สถานการณ์​เอื้ออำนวย การ​ออกกำลัง​กาย ​ดัง​ต่อ​ไป​นี้​สามารถ​ลด​ความ​ตึงเครียด​ก่อน​การ​เผชิญ ​หน้า​กับ​ผู้​ฟัง.

• ดีด​นิ้ว​มือ, สั่น​ข้อ​มือ​และ​แขน, ยก​ไหล่​ทั้ง​สอง​ขึ้น​แล้ว​ปล่อย​ลง. ทำ​ซ้ำ​กัน​หลาย ๆ ครั้ง.

• ก้ม​ศีรษะ​แล้ว​หัน​ไป​หัน​มา.

• ขยับ​ขากรรไกร​ให้​ส่าย​ไป​มา. อ้า​ปาก​ให้​กว้าง.

• ฮัม​เบา ๆ สลับ​กัน​ระหว่าง​เสียง​สูง​และ​เสียง​ต่ำ.

• หายใจ​ช้า ๆ ลึก ๆ หลาย ๆ ครั้ง.

[กรอบ​หน้า 21]

การ​ปรับปรุง​วิธี​เสนอ​เรื่อง

ปรับ​ให้​เหมาะ​กับ​ขนาด​ของ​หมู่​ผู้​ฟัง: คุณ​ต้อง​เพิ่ม​การ​แสดง​ออก​เมื่อ​พูด​ต่อ​ผู้​ฟัง​กลุ่ม​ใหญ่. การ​ออก​ท่า​ทาง​ควร​จะ​กว้าง​ขึ้น​และ​น้ำเสียง​มี​พลัง​มาก​ขึ้น.

ใส่​ชีวิต​เข้า​ไป​ใน​น้ำเสียง​ของ​คุณ. ลอง​นึกภาพ​การ​เล่น​เครื่อง​ดนตรี​ชิ้น​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​โน้ต​เพียง​ตัว​เดียว! คุณ​จะ​ทำ​ให้​ผู้​ฟัง​รู้สึก​เบื่อ.

เอาใจใส่​การ​ทรงตัว​ของ​คุณ. การ​ยืน​ตัว​ไม่​ตรง​ชวน​ให้​นึก​ถึง​ความ​ไม่​เอาใจใส่. อาการ​เกร็ง​เผย​ให้​เห็น​ความ​กังวล. พยายาม​ให้​สมดุล—ผ่อนคลาย​และ​ตื่น​ตัว แต่​ไม่​ใช่​แบบ​ไม่​เอาใจใส่​หรือ​เครียด.

การ​ออก​ท่าทาง. การ​ออก​ท่าทาง​ไม่​ใช่​เพียง​เพื่อ​เน้น​เท่า​นั้น. การ​ออก​ท่าทาง​ช่วย​ผ่อนคลาย​กล้ามเนื้อ​และ​ปรับปรุง​การ​หายใจ ทำ​ให้​เสียง​และ​ประสาท​สงบ.

แต่งตัว​แบบ​เรียบ ๆ ไม่​สะดุด​ตา. คุณ​กำลัง​เสนอ​ข่าวสาร ไม่​ใช่​เสนอ​ชุด​แต่งกาย​ของ​คุณ. ความ​คิด​ของ​ผู้​ฟัง​เกี่ยว​กับ​การ​ปรากฏ​ตัว​ของ​คุณ​สำคัญ​มาก​เท่า ๆ กับ​ความ​คิด​ของ​คุณ​เอง​หรือ​มาก​กว่า​นั้น​อีก.

รักษา​การ​ติดต่อ​ด้วย​สายตา. เมื่อ​คุณ​ปา​ลูกบอล​ออก​ไป​ใน​การ​เล่น​ขว้าง​บอล คุณ​จะ​มอง​ดู​ว่า​ลูกบอล​ถูก​รับ​ได้​หรือ​ไม่. ความ​คิด​แต่​ละ​อย่าง​ใน​การ​พูด​ของ​คุณ​เป็น​เหมือน “การ​ขว้าง” ไป​ยัง​ผู้​ฟัง. “การ​รับ​ได้” แสดง​ให้​เห็น​ด้วย​อาการ​ตอบรับ​ของ​พวก​เขา—การ​พยักหน้า, รอย​ยิ้ม, การ​มอง​ด้วย​ความ​ตั้งใจ. จง​รักษา​การ​ติดต่อ​ด้วย​สายตา​ให้​ดี ทำ​ให้​แน่ใจ​ว่า​ความ​คิด​ของ​คุณ​ถูก “รับ” ได้.