ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การเพ่งดูโลก

การเพ่งดูโลก

การ​เพ่ง​ดู​โลก

คริสต์​จักร​ใน​โปแลนด์

ราว​สี่​ปี​หลัง​จาก​การ​ล่ม​สลาย​ของ​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​ใน​โปแลนด์ คริสต์​จักร​คาทอลิก​กำลัง​เผชิญ​ความ​ยุ่งยาก​อัน​ร้ายแรง. ตาม​หนังสือ​พิมพ์​ราย​สัปดาห์​การ์เดียน วีกลี แห่ง​กรุง​ลอนดอน การ​สำรวจ​ประชามติ​เปิด​เผย​ว่า “สถานภาพ​อัน​ทรง​เกียรติ​ของ​การ​เป็น​นัก​บวช​ได้​สูญ​เสีย​ไป​มาก.” หนังสือ​พิมพ์​นั้น​เสริม​ว่า “จำนวน​ผู้​สมัคร​เข้า​โรง​เรียน​เทววิทยา​ลด​น้อย​ลง​และ​จำนวน​ผู้​รับ​การ​อบรม​ทาง​ศาสนา​ใน​โรง​เรียน​ก็​ถดถอย.” ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​ที่​ถูก​สอบ​ถาม​เชื่อ​กัน​ว่า อิทธิพล​ของ​คาทอลิก​ที่​มี​ต่อ​ชีวิต​ประชาชน​มี​มาก​เกิน​ไป. การ์เดียน ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า ชาว​โปแลนด์​ที่​เป็น “ปัญญาชน​เชื่อ​กัน​ว่า แม้​ใน​อดีต โปแลนด์​มี​ชื่อเสียง​ใน​เรื่อง​ความ​เร่าร้อน​ทาง​ศาสนา แต่​ที่​แท้ ลัทธิ​คาทอลิก​ใน​โปแลนด์​เป็น​แบบ​ผิว​เผิน​เท่า​นั้น​และ​มุ่ง​แต่​พิธีกรรม.” บาง​คน​มั่น​ใจ​ว่า คริสต์​จักร​โดย​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​เป็น​เครื่อง​มือ​เพื่อ​ต่อ​สู้​คอมมิวนิสต์​และ​คริสต์​จักร​ไม่​อาจ​ยับยั้ง​ชาว​โปแลนด์​คาทอลิก​จาก “การ​หย่าร้าง​หรือ​ทำ​แท้ง​ขณะ​ที่​กฎหมาย​ยัง​อนุญาต​ให้​ทำ.”

พวก​ผู้​หญิง​ได้​รับ​การ​แนะ​ให้​ต้านทาน​ผู้​ข่มขืน

การ​ค้นคว้า​วิจัย​ล่า​สุด​ได้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า พวก​ผู้​หญิง​มี​โอกาส​รอด​พ้น​การ​ถูก​ข่มขืน​และ​บาดเจ็บ​ได้​มาก​กว่า หาก​พวก​เขา​ต่อ​สู้​ตอบ​โต้ แทน​ที่​จะ​อ้อน​วอน​หรือ​ร้องไห้. จาก​บันทึก​การ​สอบสวน​ผู้​หญิง​หลาย​ราย​ที่​เคย​ถูก​โจมตี​ทาง​เพศ นัก​วิจัย ณ มหาวิทยาลัย​บรันดีส์​ใน​วัลท์แฮม รัฐ​แมสซาชูเซตส์ ได้​ค้น​พบ​ว่า พวก​ผู้​หญิง​ซึ่ง​ต่อ​สู้ ตอบ​โต้ หรือ​กรีด​ร้อง และ​วิ่ง​หนี​ได้​ผล​ใน​ทาง​ที่​ดี​กว่า​มาก เมื่อ​เทียบ​กับ​พวก​ที่​ไม่​ได้​ทำ. วารสาร​อเมริกัน เฮลท์ กล่าว​ว่า “ที่​จริง ผู้​หญิง​ซึ่ง​มี​แนว​โน้ม​มาก​ที่​สุด ที่​จะ​ถูก​ข่มขืน​หรือ​ถูก​ทำ​ร้าย​คือ​พวก​ที่​ไม่​ได้​ต่อ​สู้​ตอบ​โต้ แต่​กลับ​วางใจ​ใน​การ​ขอร้อง​หรือ​หา​เหตุ​ผล​กับ​ผู้​ที่​โจมตี​เขา. ดร. ซารา อัล​มัน ผู้​ควบคุม​การ​ศึกษา​วิจัย​ดัง​กล่าว ให้​คำ​แนะ​นำ​ต่อ​ไป​นี้: “ผู้​หญิง​ไม่​ควร​ลังเล​ที่​จะ​ตะโกน, ต่อ​สู้​และ​ต้านทาน​สุด​แรง​เกิด​ของ​เธอ. การ​วิงวอน​ขอร้อง​คง​ไม่​ช่วย​อะไร.”

“จง​ใช้ มิ​ฉะนั้น​จะ​สูญ”

การ​ศึกษา​หลาย​ราย​จาก​ทั่ว​โลก​ได้​เผย​ให้​เห็น​ว่า ยิ่ง​คน​เรา​ใช้​สมอง​เท่า​ไร ยิ่ง​มี​โอกาส​ประสบ​ปัญหา​เรื่อง​สมอง​น้อย​ลง​เท่า​นั้น. “การ​มี​การ​ศึกษา​มาก​กว่า​ไม่​เพียง​หมาย​ความ​ว่า คุณ​สามารถ​พัฒนา​สมอง​ได้​มาก​กว่า​เมื่อ​อายุ​ยัง​น้อย แต่​หมาย​ความ​ว่า​คุณ​ใช้​สมอง​ได้​มาก​กว่า​ตลอด​ชีวิต และ​นั่น​ก่อ​เครื่อง​ป้องกัน​บาง​ชนิด” ต่อ​โรค​จิต. “การ​อ่าน, การ​เขียน​และ​คณิตศาสตร์​อาจ​เป็น​วิธี​ดี​ที่​สุด​ใน​การ​ป้องกัน​สมอง​ของ​คุณ​จาก” สภาพ​เสื่อม​ทาง​จิตใจ ตาม​รายงาน​ของ​หนังสือ​พิมพ์​เดอะ โต​รอน​โต สตาร์ แห่ง​แคนาดา. นัก​จิตวิทยา​ทาง​ประสาท แมริลิน อัลเบิร์ต กล่าว​ว่า “การ​ค้น​พบ​นี้​มี​หลักฐาน​เพียง​พอ​จน​เรา​รู้​ว่า​เป็น​เรื่อง​จริง.” เธอ​เพิ่ม​เติม​ว่า “สำหรับ​สมอง​แล้ว พูด​ได้​ว่า ‘จง​ใช้ มิ​ฉะนั้น​จะ​สูญ.’”

เฝ้า​ชม แต่​ไม่​รับประทาน

การ​ล่า​และ​การ​กิน​ปลา​วาฬ​กลาย​เป็น​ประเด็น​สำคัญ​ใน​ปี​หลัง ๆ นี้. ใน​บาง​ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น บาง​คน​อ้าง​ว่า เนื้อ​ปลา​วาฬ​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​อาหาร​ตาม​ธรรมเนียม​ดั้งเดิม และ​ไม่​พอ​ใจ​การ​ห้าม​จับ​ปลา​วาฬ​เพื่อ​การ​ค้า โดย​องค์กร​อนุรักษ์​ปลา​วาฬ​ระหว่าง​ชาติ. แต่​ชาว​ญี่ปุ่น​บาง​คน​ค้น​พบ​ว่า ปลา​วาฬ​นำ​ประโยชน์​มา​ให้​โดย​ไม่​ต้อง​ล่า​หรือ​รับประทาน​เนื้อ​ของ​มัน. ชาว​เกาะ​โบนิน ทาง​ทิศ​ใต้​ของ​โตเกียว กำลัง​หมกมุ่น​อยู่​กับ​การ​ขยาย​แหล่ง​ดึงดูด​ใจ​ล่า​สุด​สำหรับ​นัก​ท่อง​เที่ยว นั่น​คือ แหล่ง​ชม​ปลา​วาฬ. เมื่อ​เห็น​ปลา​วาฬ​อยู่​ใน​ถิ่น​อาศัย​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​มัน แทน​ที่​จะ​เห็น​เป็น​อาหาร​ใน​จาน ผู้​ชม​ปลา​วาฬ​ส่ง​เสียง​ปลุก​เร้า​ด้วย​ความ​ปีติ​ยินดี โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​ฝูง​ปลา​วาฬ​พ่น​น้ำ​และ​ขณะ​ว่าย​แหวก​น้ำ​แตก​เป็น​คลื่น.

“คลั่ง​ปืน”

ภาย​ใต้​พาด​หัว​ข่าว​นี้ บท​บรรณาธิการ​ใน​นิวยอร์ก ไทมส์ ฉบับ 25 พฤษภาคม​ได้​วิจารณ์​การ​พิจารณา​คดี​ชาย​ผู้​หนึ่ง​แห่ง​หลุยเซียนา ซึ่ง​ถูก​ปล่อย​ตัว​พ้น​ผิด​ฐาน​ฆ่า​คน​ตาย ภาย​หลัง​การ​สังหาร​ชาว​ญี่ปุ่น​ใน​โครงการ​แลก​เปลี่ยน​นัก​ศึกษา เมื่อ​เดือน​ตุลาคม 1992. นัก​ศึกษา​วัย 16 ปี​ผู้​นี้​หลง​ไป​กด​กระดิ่ง​ประตู​บ้าน​ชาย​ผู้​นั้น​ด้วย​ความ​สำคัญ​ผิด. ครั้น​ชาย​เจ้าของ​บ้าน​ออก​คำ​สั่ง​ไม่​ให้​กระดุกกระดิก นัก​ศึกษา​ฟัง​ไม่​เข้าใจ จึง​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม แล้ว​ชาย​ผู้​นั้น​ก็​ยิง​วัยรุ่น​ชาว​ญี่ปุ่น​เข้า​ที่​หน้า​อก. ทนาย​แก้​ต่าง​ให้​ชาย​ผู้​นั้น​กล่าว​ว่า “คุณ​มี​สิทธิ​ตาม​กฎหมาย​ที่​จะ​ใช้​ปืน​จ่อ​คน​ที่​มา​ยัง​ประตู​บ้าน​ของ​คุณ.” บท​บรรณาธิการ​ว่า นั้น​หมาย​ความ​ว่า ใคร​ก็​ตาม​ที่​มา​ยัง​บ้าน​ของ​คุณ รวม​ทั้ง “นัก​บวช​ท้องถิ่น . . . คาด​หมาย​ได้​ว่า​จะ​ถูก​ลูก​กระสุน หาก​เขา​กล้า​ไป​กด​กระดิ่ง​ประตู​บ้าน​ของ​คุณ.” นัก​ข่าว​ชาว​ญี่ปุ่น​กล่าว​ว่า “พวก​เรา​ชาว​ญี่ปุ่น​ไม่​เข้าใจ​สังคม​นิยม​ปืน​ของ​อเมริกา.” บท​บรรณาธิการ​ตอบ​ว่า “อัน​ที่​จริง เป็น​เรื่อง​ง่าย เพียง​แต่​คิด​โง่ ๆ ไม่​ต้อง​อด​ทน​กับ​ใคร​ทั้ง​สิ้น, บิดเบือน​ใน​การ​ตี​ความ​เรื่อง ‘สิทธิ​ที่​จะ​พก​พา​อาวุธ,’ และ​ปฏิเสธ​ที่​จะ​เรียน​รู้​สิ่ง​ใด ๆ” จาก​การ​ตาย​ของ​ผู้​คน​มาก​มาย​นับ​ไม่​ถ้วน​ที่​เสีย​ชีวิต​ก็​เพราะ​ปืน.

ความ​ยุ่งยาก​ของ​วัยรุ่น

“วัยรุ่น​สมัย​นี้ [ใน​สหรัฐ] เผชิญ​ความ​เป็น​จริง​ที่​ไม่​แจ่ม​ใส​และ​เสี่ยง​มาก​กว่า​สมัย​วัยรุ่น​ที่​บิดา​มารดา​และ​ปู่​ย่า​ตา​ยาย​ของ​เขา​จำ​ได้” รายงาน​จาก​อินเตอร์​แนชันแนล เฮรัลด์ ทริบูน. โดย​อ้าง​สถิติ​ใน​สหรัฐ หนังสือ​พิมพ์​ทริบูน บอก​ว่า จำนวน​เด็ก​วัยรุ่น​ดื่ม​เหล้า​เพิ่ม​ขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์​จาก​ช่วง​ทศวรรษ​ปี 1950. การ​ฆ่า​ตัว​ตาย​ของ​วัยรุ่น​มี​อัตรา​สูง​ขึ้น​จาก​ที่​แทบ​จะ​ไม่​เคย​มี มา​อยู่​ใน​อันดับ​สาม​ของ​สาเหตุ​การ​ตาย​ที่​พบ​บ่อย​ที่​สุด ต่อ​จาก​อุบัติเหตุ​และ​การ​ฆาตกรรม. ท่ามกลาง​เด็ก​รุ่น​เยาว์​อายุ​ระหว่าง 10 ถึง 14 ปี การ​ตั้ง​ครรภ์​อัน​ไม่​พึง​ประสงค์​เพิ่ม​ขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์​ใน​ช่วง​ปี 1983 ถึง 1987 และ​อัตรา​คน​เป็น​โรค​หนอง​ใน​สูง​ขึ้น​สี่​เท่า​ระหว่าง​ปี 1960 ถึง 1988. นัก​จิตวิทยา​ต่าง​ก็​คลำ​หา​แนว​ทาง​ใหม่ ๆ เพื่อ​จะ​เข้าใจ​และ​ช่วย​คน​หนุ่ม​สาว.

สถานการณ์​อนามัย​ของ​โลก

อนามัย​ทั่ว​ทั้ง​โลก​เป็น​อย่าง​ไร? ไม่​นาน​มา​นี้ WHO (องค์การ​อนามัย​โลก) ได้​จัด​พิมพ์​รายงาน​ครอบ​คลุม​เนื้อหา​กว้าง​โดย​เผย​ให้​รู้​ทั้ง​ข่าว​ดี​และ​ข่าว​ร้าย. ข่าว​ดี​คือ​ที่​ว่า โรค​หัด, โรค​โปลิโอ, โรค​ไอ​กรน, และ​โรค​บาดทะยัก​ที่​เกิด​กับ​ทารก​คลอด​ใหม่​กำลัง​ลด​น้อย​ลง​เนื่อง​จาก​ความ​พยายาม​ทั่ว​โลก​ที่​จะ​ให้​เด็ก​ได้​รับ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​โรค. เช่น​เดียว​กัน​กับ​โรค​หลอด​เลือด​หัวใจ​ก็​น้อย​ลง​ใน​ส่วน​ใหญ่​ของ​ประเทศ​ที่​พัฒนา​แล้ว. อัตรา​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​ทารก​และ​เด็ก​ลด​ต่ำ​ทั่ว​โลก และ​ช่วง​ชีวิต​ตาม​ที่​คาด​หวัง​ได้ ก็​เพิ่ม​ขึ้น. ส่วน​ข่าว​ร้าย​นั้น WHO รายงาน​ว่า โรค​ต่าง ๆ ใน​เขต​ร้อน เช่น อหิวาตกโรค, ไข้​เหลือง [เกิด​จาก​ยุง], ไข้​เลือด​ออก, และ​ไข้​จับ​สั่น “ดู​เหมือน​ว่า​ได้​แพร่​ระบาด​อย่าง​หนัก.” โรค​เอดส์, วัณโรค และ​โรค​เบาหวาน​กำลัง​เพิ่ม​ทวี​อย่าง​ไม่​หยุด​ยั้ง.

ไก่​เป็น “เอดส์”

ดู​เหมือน​ว่า​โรค​เอดส์​ไม่​ได้​จำกัด​เฉพาะ​ใน​มนุษย์​และ​ลิง​บาง​ประเภท. หนังสือ​พิมพ์​อินเดียน เอ็กซเพรส แห่ง​บอมเบย์ ประเทศ​อินเดีย รายงาน​ว่า โรค​ที่​คล้าย ๆ กับ​เอดส์​ได้​จู่​โจม​สัตว์​ปีก​ของ​ประเทศ​นั้น. ตาม​รายงาน​ใน​หนังสือ​พิมพ์​เอ็กซเพรส โรค​ไวรัส​กัมบาโร ซึ่ง​ก่อ​ให้​เกิด​โรค​ภูมิ​คุ้ม​กัน​บกพร่อง​นั้น “ได้​กลาย​เป็น​โรค​ระบาด​ใน​ประเทศ ซึ่ง​ส่ง​ผล​กระทบ​ถึง​ไก่​หลาย​แสน​ตัว.” ไก่​ที่​วาง​ไข่​กว่า 1.5 ล้าน​ตัว​ได้​ตาย​ไป. รายงาน​อ้าง​ว่า มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​เกิด​การ​ขาด​แคลน​ไข่​อย่าง​เฉียบ​พลัน​ใน​อินเดีย.

ผู้​หญิง​ขับ​รถ

ผู้​หญิง​ที่​นั่ง​หลัง​พวงมาลัย​รถยนต์​มัก​ได้​รับ​การ​จัด​ว่า มี​ความ​ชำนาญ​ใน​การ​ขับ​รถ​ไม่​ดี​เท่า​ผู้​ชาย. ข้อ​เท็จ​จริง​ต่าง ๆ สนับสนุน​คำ​กล่าว​อย่าง​กว้าง ๆ นี้​ไหม? ไม่​เป็น​เช่น​นั้น​ตาม​คำ​กล่าว​ของ​วารสาร​เดอะ มอเตอริสต์ ที่​จัด​พิมพ์​โดย​สมาคม​รถยนต์​แห่ง​แอฟริกา​ใต้. จาก​อุบัติเหตุ​ทุก​ราย​บน​ถนน​ใน​ประเทศ​นั้น​ระหว่าง​หนึ่ง​ปี​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้ มาก​กว่า 83 เปอร์เซ็นต์​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คน​ขับ​รถ​ที่​เป็น​ผู้​ชาย. บริษัท​ประกันภัย​หลาย​แห่ง​จึง​เสนอ​เบี้ย​ประกัน​สำหรับ​คน​ขับ​ผู้​หญิง​ต่ำ​กว่า​ของ​ผู้​ชาย. วารสาร​ข้าง​ต้น​อธิบาย​ว่า “ความ​มั่น​ใจ​ใน​ความ​ชำนาญ​การ​ขับ​รถ​ของ​ผู้​หญิง” มี​ขึ้น​เพราะ​ธุรกิจ​ประกัน “เชื่อ​ว่า​ผู้​หญิง​หลัง​พวงมาลัย​ไม่​ค่อย​จะ​ก้าวร้าว​นัก, ไม่​ค่อย​จะ​คิด​เสี่ยง​ภัย และ​ดู​เหมือน​จะ​ไม่​ค่อย​ฝ่าฝืน​กฎ​จราจร.” วารสาร​นั้น​สรุป​ว่า การ​มี​เจตคติ​ที่​ถูก​ต้อง โดย​ไม่​คำนึง​ว่า​คน​ขับ​รถ​เป็น​เพศ​ไหน คือ​สิ่ง​รับประกัน​นิสัย​การ​ขับ​รถ​ที่​ดี.

มะเร็ง​จาก​รังสี

เจ็ด​ปี​หลัง​จาก​อุบัติเหตุ​นิวเคลียร์​เชอร์โนบิล​ใน​ยูเครน บรรดา​แพทย์​ใน​เบลารุส (เมื่อ​ก่อน​เป็น​เบโล​รุสเซีย) รายงาน​ถึง​การ​เพิ่ม​ขึ้น​อย่าง​ดาษ​ดื่น​ของ​มะเร็ง​ต่อม​ไทรอยด์​ใน​เด็ก. ตาม​วารสาร​การ​แพทย์​ของ​ฝรั่งเศส​เลอ คอนคอร์ส เมดิคัล​รายงาน​ว่า การ​ป่วย​เป็น​มะเร็ง​ต่อม​ไทรอยด์​ของ​เด็ก​ใน​เบลารุส​พุ่ง​ขึ้น​จาก​เฉลี่ย 4 ราย​ต่อ​ปี​ระหว่าง 1986 และ 1989 เป็น 114 ราย​ตั้ง​แต่ 1990 ถึง​เดือน​มิถุนายน 1992. เนื่อง​จาก​มี​การ​แพร่​ปัจจัย​ฐาน​เดียว​กัน​ลักษณะ​ปล่อย​รังสี คือ​ไอโอดีน 131 ตอน​ที่​เกิด​อุบัติเหตุ​ใน​จำนวน​มาก​กว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​ปัจจัย​ปล่อย​รังสี​อื่น ๆ พวก​นัก​วิทยาศาสตร์​หวัง​กัน​ว่า มะเร็ง​ประเภท​อื่น ๆ ที่​เกิด​จาก​รังสี​จะ​มี​จำกัด.

เล่น​พนัน​วิดีโอ

เครื่อง​เล่น​ลอตเตอรี่​วิดีโอ​เป็น “เหมือน​โคเคน​แห่ง​การ​พนัน” และ​ไม่​ควร​อยู่​ใน​สถาน​สาธารณะ เป็น​คำ​พูด​ของ แกรี สมิท ศาสตราจารย์​ประจำ​มหาวิทยาลัย​อัล​เบอร์​ตา. เมื่อ​ถูก​สัมภาษณ์​ใน​ดิ เอ็ด​มัน​ตัน เจอร์นัล แห่ง​แคนาดา สมิท ผู้​ดำเนิน​การ​ศึกษา​วิจัย​ว่า​ด้วย​การ​ติด​พนัน​แบบ​เลิก​ไม่​ได้ ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า การ​ติด​พนัน​วิดีโอ​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้ “ชั่ว​ระยะ​สั้น​แค่​หก​เดือน.” เขา​กล่าว​ว่า การ​เบ่ง​บาน​ของ​การ​พนัน​ทำ​ให้​มี​อาชญากรรม​และ​ปัญหา​ร้ายแรง​อื่น ๆ เพิ่ม​มาก​ขึ้น. นัก​พนัน​ที่​เลิก​ไม่​ได้​สอง​ใน​สาม​คน​จะ​ยักยอก​และ​ปลอม​แปลง, ฉ้อ​โกง, และ​ขโมย​เพียง​เพื่อ​สนอง​นิสัย​ของ​ตัว​เอง. การ​ติด​พนัน​งอมแงม​ทำ​ให้​ซึมเศร้า​และ​อยาก​ฆ่า​ตัว​ตาย ซึ่ง​มี​ส่วน​ทำ​ให้​ขับ​รถ​ประมาท​และ​ก่อ​อุบัติเหตุ นอก​เหนือ​จาก​การ​หลบ​เลี่ยง​หนี้ “และ​ทำ​ให้​ระบบ​การ​ดู​แล​สุขภาพ​เสีย​ค่า​ใช้​จ่าย​มาก.” ตาม​รายงาน​ของ​สมิท “นัก​พนัน​ที่​เลิก​ไม่​ได้​แต่​ละ​คน​ทำ​ให้​สังคม​แคนาดา​สูญ​เสีย​เงิน​หนึ่ง​ล้าน​สี่​แสน​บาท.”

วัยรุ่น​ใน​ทศวรรษ​ปี ’90

วิตโตรีโน อันเดรโอลี จิตแพทย์​ประจำ​มหาวิทยาลัย​เวโรนา อิตาลี รายงาน​ว่า เมื่อ​เปรียบ​เทียบ​กับ​คน​ใน​ชั่ว​อายุ​ก่อน ๆ หนุ่ม​สาว​ใน​ทุก​วัน​นี้ “ขาด​หรือ​มี​การ​รับ​รู้​เกี่ยว​กับ​อนาคต​น้อย​ลง.” เขา​เสริม​ว่า สิ่ง​นี้​ทำ​ให้​เป็น​การ​ยาก​สำหรับ​คน​หนุ่ม​สาว​ที่​จะ “เสีย​สละ​ใน​วัน​นี้​เพื่อ​ความ​สุข​ใน​วัน​หน้า.” อนึ่ง หลาย​คน​ยัง​ขาด “การ​รับ​รู้​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ดี​และ​สิ่ง​เลว” ซึ่ง​หมาย​ความ​ว่า “พฤติกรรม​ทุก​อย่าง​ถูก​บงการ​โดย​อาศัย​สถานการณ์​เท่า​นั้น” แทน​ที่​จะ​เป็น​กฎ​ศีลธรรม​ตาย​ตัว​ใด ๆ. คน​หนุ่ม​สาว​จำนวน​มาก​ใน​ทุก​วัน​นี้​ไม่​เข้าใจ​ว่า​ความ​ตาย​คือ​อะไร. อันเดรโอลี​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “พวก​เขา​รู้​จัก​แต่​ความ​ตาย​ที่​ปรากฏ​ทาง​จอ​โทรทัศน์, จาก​นวนิยาย . . . คน​หนุ่ม​สาว​รู้​ว่า​จะ​ทำ​ให้​ตาย​ได้​อย่าง​ไร แต่​พวก​เขา​ไม่​รู้​ว่า​ความ​ตาย​คือ​อะไร. ดัง​นั้น พวก​เขา​อาจ​ก่อ​ให้​เกิด​การ​ตาย หรือ​แม้​แต่​นำ​ความ​ตาย​มา​สู่​ตน​เอง โดย​มโนภาพ​ผล​ที่​ต่าง​ออก​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง.”