จากผู้อ่านของเรา
จากผู้อ่านของเรา
การนอกใจ ขอขอบคุณสำหรับบทความชุดในตื่นเถิด! ฉบับ 8 พฤษภาคม 1999 เรื่อง “เมื่อคู่สมรสนอกใจ.” ดิฉันเคยถูกนอกใจ. แม้ว่าดิฉันหย่ามาสามปีแล้ว แต่ดิฉันก็ยังคงปวดร้าวมาก. บทความเหล่านี้ช่วยดิฉันให้ตระหนักว่า ดิฉันต้องเลิกครุ่นคิดถึงความเจ็บปวดนั้น, กลับคืนสู่กิจวัตรปกติ, และดำเนินชีวิตของดิฉันต่อไป.
วี. บี., ตรินิแดด
ดิฉันเคยค้นคว้าเรื่องนี้ แต่ไม่เคยเห็นการอธิบายที่ดีอย่างนี้มาก่อน. นับตั้งแต่ที่ดิฉันได้ยินข่าวสารของคัมภีร์ไบเบิลเป็นครั้งแรก ดิฉันก็เข้าใจว่านั่นคือความจริง. ตอนนี้พระยะโฮวาประทานอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ดิฉันเชื่อเช่นนั้น.
จี. บี., อิตาลี
การหย่าร้างทำให้ดิฉันมีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง, ขาดความนับถือตัวเอง, และมีปัญหาสุขภาพสารพัด. แม้ว่าความปวดร้าวยังคงมีอยู่ แต่ดิฉันก็ได้รับการปลอบโยนอย่างมากจากความเชื่อของดิฉันในคำสัญญาของพระยะโฮวารวมทั้งความรักและการเกื้อหนุนทางอารมณ์จากประชาคมของดิฉัน!
เอ. บี., แคนาดา
เก้าเดือนผ่านไปหลังจากดิฉันกับสามีแยกกันอยู่ ดิฉันก็ยังคงปวดร้าวเนื่องจากการอยู่คนเดียว. ดิฉันจะเดินไปตามถนนโดยไม่มีใครกุมมือดิฉันได้อย่างไร? ใครจะนั่งข้าง ๆ ดิฉันในการประชุมคริสเตียน? ใครจะเป็นเพื่อนไปหาหมอกับดิฉัน? ขอขอบคุณที่เตือนดิฉันว่าพระยะโฮวาไม่ทรงละทิ้งคู่สมรสที่ไม่มีความผิด.
อี. เอส., บราซิล
กรอบ “ใครต้องรับผิดชอบ?” ให้การปลอบประโลมดิฉันมาก. ดิฉันเลือกที่จะหย่าหลังจากสามีของดิฉันนอกใจ. เหมือนกับโยบ บางครั้งดิฉันอยากตาย. (โยบ 17:11-13) แต่การเกื้อหนุนจากสมาชิกครอบครัวและพี่น้องคริสเตียนค้ำจุนดิฉันไว้.
เอ็ม. โอ., อาร์เจนตินา
ดิฉันไม่เพียงแต่อ่านบทความชุดนี้—ดิฉันอ่านอย่างใจจดใจจ่อทีเดียว! ดิฉันเคยหย่ามาก่อน และบทความชุดนี้ได้พิจารณาข้อสงสัยและความกังวลทุกอย่างที่เกิดขึ้น. ขอบคุณที่ใสใจในพวกเรา.
อี. แอล., ฝรั่งเศส
พ่อทิ้งครอบครัวไปเมื่อผมอายุเจ็ดขวบ. มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก. หลายปีต่อมา พ่อขอให้เรารับท่านกลับมา. ผมกับพี่ชายคัดค้านเรื่องนี้อย่างหนักแน่น แต่แม่กลับตอบรับ. หลังจากอ่านบทความของคุณแล้ว ผมก็เริ่มเข้าใจสาเหตุที่แม่ทำการตัดสินใจในเรื่องที่ยากเช่นนั้น.
เอ. เอ., บราซิล
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ สำหรับบทความชุดนี้! นับว่าเป็นการปลอบประโลมใจที่ได้รู้ว่าความรู้สึกและอารมณ์ของเรานั้นคล้ายกับคนอื่น ๆ ที่เผชิญสถานการณ์แบบเดียวกัน. อย่างไรก็ตาม คุณบอกว่า “อาจเป็นได้ที่คุณไม่ได้ให้ความรัก, ความทะนุถนอม, การชมเชย, และไม่ได้ให้เกียรติมากพอแก่ความต้องการของคู่สมรส.” ข้อความนี้ก่อความเจ็บปวดสำหรับพวกเราที่ได้พยายามแก้ไขสายสมรสที่มีปัญหา. เมื่อใครคนหนึ่งคิดนอกใจ เขาอาจกลายเป็นคนที่น่ารังเกียจมาก และยากที่จะรักใคร่คนแบบนี้.
แอล. ดับเบิลยู., สหรัฐ
เราขออภัยถ้าข้อความเหล่านี้ก่อความเจ็บปวดให้แก่ผู้อ่านคนใดก็ตาม. แต่เราไม่มีเจตนาจะทำให้เข้าใจว่าผู้มีชู้จะสามารถตำหนิคู่สมรสสำหรับความประพฤติผิดของตน. ในกรอบ “ใครต้องรับผิดชอบ?” เราเน้นว่า ฝ่ายที่นอกใจต้องรับผิดชอบต่อการประพฤติผิดของตัวเอง ไม่ว่า “ความไม่สมบูรณ์ของฝ่ายที่ไม่ผิด” จะเป็นอย่างไร. ข้อความที่กำลังกล่าวถึงเป็นส่วนของการพิจารณาเรื่องการคืนดีกัน. เราเพียงแต่เน้นเรื่องความจำเป็นของการสื่อความที่ดี โดยสนับสนุนคู่สมรสที่กำลังจะคืนดีกันให้ระบุส่วนที่เป็นปัญหาในสายสมรสของตนซึ่งอาจจำเป็นต้องมีการเอาใจใส่โดยด่วน. อาจจะมีความขุ่นเคืองที่ซ่อนอยู่ซึ่งต้องนำขึ้นมาพูดกันอย่างเปิดอก. ตามปกติ การพิจารณาเช่นนั้นยังผลให้ทั้งสองฝ่ายยอมรับความผิดพลาดบางอย่างของตัวเอง. ถึงอย่างไร “เราทุกคนต่างก็พลาดพลั้งกันหลายครั้ง.” (ยาโกโบ 3:2, ล.ม.) และขณะที่การพิจารณาเช่นนั้นมักจะก่อความปวดร้าวอย่างยิ่ง แต่ดังที่บทความของเรากล่าวไว้ “การกระทำดังกล่าวเป็นขั้นตอนสำคัญในการกอบกู้ความไว้วางใจกลับคืนมา.”—บก.