ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

หลังพายุสงบ—งานบรรเทาทุกข์ในฝรั่งเศส

หลังพายุสงบ—งานบรรเทาทุกข์ในฝรั่งเศส

หลัง​พายุ​สงบ—งาน​บรรเทา​ทุกข์​ใน​ฝรั่งเศส

โดย​ผู้​สื่อ​ข่าว ตื่นเถิด! ใน​ฝรั่งเศส

ฟรังซวาส์​เปิด​ประตู​เพื่อ​จะ​ออก​ไป​เก็บ​ฟืน​มา​ใส่​เตา​ผิง. เธอ​เล่า​ว่า “ดิฉัน​ไม่​อยาก​เชื่อ​สายตา​ตัว​เอง​เลย. น้ำ​ท่วม​ขึ้น​มา​ถึง​บันได​หน้า​ประตู และ​คลื่น​ลูก​ใหญ่​กำลัง​ทะลัก​เข้า​มา​ทาง​ประตู​รั้ว.” เทียรี สามี​ของ​เธอ ลุย​น้ำ​ที่​สูง​ถึง​คอ​ไป​เอา​บันได​มา​จาก​โรง​รถ. ครอบครัว​นี้​พา​กัน​ปีน​ขึ้น​ไป​บน​ห้อง​ใต้​หลังคา แล้ว​เขา​ก็​เจาะ​ช่อง​ขึ้น​หลังคา. ทั้ง​เปียก​โชก​และ​หวาด​กลัว สามี​ภรรยา​คู่​นี้​และ​ลูก​อีก​สาม​คน​รอ​นาน​ถึง​สี่​ชั่วโมง​เพื่อ​ให้​คน​มา​ช่วย. ใน​ที่​สุด เฮลิคอปเตอร์​ตำรวจ​ฝรั่งเศส​ก็​พบ​พวก​เขา​และ​ใช้​กว้าน​ดึง​พวก​เขา​ขึ้น​ไป​ยัง​ที่​ปลอด​ภัย.

ฝน​ตก​หนัก​มาก​จน​ทำ​ให้​แม่น้ำ​เอ่อ​ล้น​ท่วม​ฝั่ง ทำ​ให้​เขื่อน​แตก​และ​สะพาน​ต่าง ๆ พัง​เสียหาย. คลื่น​น้ำ​โคลน ซึ่ง​บาง​ครั้ง​สูง​กว่า 10 เมตร กวาด​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​ขวาง​หน้า​ไป. มี​ผู้​เสีย​ชีวิต​ตอน​เกิด​พายุ​กว่า 30 คน—โดย​ที่​ติด​อยู่​ใน​รถ​หรือ​จม​น้ำ​ขณะ​กำลัง​นอน​หลับ. ผู้​ประสบ​ภัย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​เปรียบ​คืน​เดือน​พฤศจิกายน​อัน​เลว​ร้าย​นั้น​เหมือน​กับ “จุด​จบ​ของ​เวลา.” ภาค​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​ทั้ง​หมด​ของ​ฝรั่งเศส ซึ่ง​มี​เมือง​และ​หมู่​บ้าน 329 แห่ง ได้​รับ​การ​ประกาศ​ว่า​เป็น​เขต​ภัย​พิบัติ.

ช่วง​ที่​เลว​ร้าย​ที่​สุด​ยัง​มา​ไม่​ถึง

ภาค​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​ยัง​ไม่​ทัน​ฟื้น​จาก​ความ​หายนะ​ครั้ง​นี้​ภัย​พิบัติ​ก็​กระหน่ำ​เข้า​มา​อีก. ความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ที่​ต่ำ​อย่าง​มาก​เหนือ​มหาสมุทร​แอตแลนติก​ทำ​ให้​เกิด​ลม​ซึ่ง​มี​ความ​แรง​ระดับ​พายุ​เฮอร์ริเคน. พายุ​เกล​ลูก​แรก​พัด​ผ่าน​ภาค​เหนือ​ของ​ฝรั่งเศส​ใน​วัน​ที่ 26 ธันวาคม 1999 และ​ลูก​ที่​สอง​ถล่ม​ภาค​ใต้​ใน​คืน​ถัด​มา. ความ​เร็ว​ลม​ที่​บันทึก​ได้​นั้น​สูง​กว่า 200 กิโลเมตร​ต่อ​ชั่วโมง. ตาม​บันทึก​อย่าง​เป็น​ทาง​การ ฝรั่งเศส​ไม่​เคย​ประสบ​พายุ​ร้ายแรง​ขนาด​นี้​อย่าง​น้อย​ตั้ง​แต่​ศตวรรษ​ที่ 17.

เอเลน​ตั้ง​ครรภ์​ได้​แปด​เดือน​ตอน​ที่​พายุ​เกล​กระหน่ำ. เธอ​เล่า​ว่า “ดิฉัน​ตกใจ​กลัว​มาก. สามี​ของ​ดิฉัน​กำลัง​ขี่​มอเตอร์ไซค์​กลับ​มา​บ้าน และ​ดิฉัน​เห็น​กิ่ง​ไม้​ข้าง​นอก​ปลิว​ว่อน​ไป​ทั่ว. ดิฉัน​อด​คิด​ไม่​ได้​ว่า​เขา​อาจ​ไม่​มี​วัน​ได้​เห็น​หน้า​ลูก. สามี​ของ​ดิฉัน​มา​ถึง​บ้าน​พอ​ดี​ตอน​ที่​น้ำ​เริ่ม​ทะลัก​เข้า​มา​ใน​บ้าน. เรา​ต้อง​กระโดด​ออก​ทาง​หน้าต่าง.”

ใน​ฝรั่งเศส มี​ผู้​เสีย​ชีวิต​อย่าง​น้อย 90 คน. ถ้า​ไม่​จม​น้ำ​ก็​ถูก​กระเบื้อง​มุง​หลังคา, ปล่อง​ไฟ, หรือ​ต้น​ไม้​ล้ม​ทับ. อีก​หลาย​ร้อย​คน​บาดเจ็บ​สาหัส รวม​ทั้ง​นัก​กู้​ภัย​ที่​เป็น​พลเรือน​และ​ทหาร​หลาย​คน. พายุ​เกล​นี้​ยัง​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ประเทศ​เพื่อน​บ้าน​อีก​ด้วย โดย​ทำ​ให้​มี​ผู้​เสีย​ชีวิต​กว่า 40 คน​ใน​บริเตน, เยอรมนี, สเปน, และ​สวิตเซอร์แลนด์.

ผล​ที่​ตาม​มา​ภาย​หลัง

ใน​เขต​การ​ปกครอง​ของ​ฝรั่งเศส​ทั้ง​หมด 96 เขต มี 69 เขต​ที่​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ว่า​เป็น “เขต​ภัย​พิบัติ​ธรรมชาติ.” ความ​เสียหาย​ประมาณ​ว่า​มี​ถึง​เจ็ด​หมื่น​ล้าน​ฟรังก์ (385,000 ล้าน​บาท). ความ​เสียหาย​ใน​เมือง, หมู่​บ้าน, และ​ท่า​เรือ​บาง​แห่ง​ทำ​ให้​นึก​ถึง​เขต​สงคราม. มี​ต้น​ไม้​หัก​โค่น​กีด​ขวาง​ตาม​ถนน​และ​ทาง​รถไฟ​หลาย​สาย. หลังคา​อาคาร​ต่าง ๆ ปลิว​หาย, ปั้น​จั่น​สำหรับ​การ​ก่อ​สร้าง​พัง​ลง​มา, และ​เรือ​ก็​ขึ้น​มา​เกย​อยู่​บน​ท่า. ชาว​สวน​หลาย​พัน​คน​ที่​เพาะ​พันธุ์​ไม้​ขาย​ต่าง​สูญ​เสีย​เครื่อง​มือ​หา​เลี้ยง​ชีพ​ของ​ตน เนื่อง​จาก​เรือน​กระจก​และ​เรือก​สวน​ถูก​ทำลาย.

ใน​ไม่​กี่​ชั่วโมง พายุ​นั้น​ได้​ทำลาย​ป่า​ไม้​และ​สวน​สาธารณะ​ต่าง ๆ จน​ย่อยยับ ผลาญ​พื้น​ที่​ป่า​หลาย​แสน​ไร่​ราบ​เป็น​หน้า​กลอง. ตาม​รายงาน​ของ​กรม​ป่า​ไม้​ฝรั่งเศส ต้น​ไม้​ราว ๆ 300 ล้าน​ต้น​ถูก​ทำลาย. ต้น​ไม้​ใหญ่ ๆ อายุ​หลาย​ร้อย​ปี​ถูก​ถอน​ราก​หรือ​หัก​โค่น​เหมือน​กับ​ก้าน​ไม้​ขีด. ลม​พายุ​ทำลาย​ป่า​ไม้​ใน​เขต​อะควีเตน​และ​เขต​ลอร์เรน​จน​พัง​พินาศ​ไป​เป็น​แถบ ๆ.

เบอร์นาร์ด พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​เจ้าหน้าที่​ป่า​ไม้​กล่าว​ว่า “หลัง​จาก​วัน​ที่​เกิด​พายุ ผม​เข้า​ไป​ใน​ป่า. เป็น​เรื่อง​น่า​ตกตะลึง​จริง ๆ. ใคร​ก็​ไม่​อาจ​ทำ​ใจ​ได้​เมื่อ​เห็น​ภาพ​นั้น! ที่​นี่ พี่​น้อง​ใน​ประชาคม​ของ​ผม 80 เปอร์เซ็นต์​พึ่ง​อาศัย​ป่า​ไม้​นั้น​ใน​การ​หา​เลี้ยง​ชีพ. ผู้​คน โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ผู้​สูง​อายุ หวาด​กลัว​อย่าง​มาก.” ใน​บริเวณ​พระ​ราชวัง​แวร์ซาย ต้น​ไม้ 10,000 ต้น​หัก​โค่น. หัวหน้า​คน​สวน​คน​หนึ่ง​คร่ำ​ครวญ​ว่า “จะ​ต้อง​ใช้​เวลา​ถึง​สอง​ร้อย​ปี​เพื่อ​สวน​แห่ง​นี้​จะ​กลับ​คืน​สู่​สภาพ​เดิม.”

เมื่อ​สาย​ไฟ​ถูก​ตัด​ขาด ประชากร​กว่า​หนึ่ง​ใน​หก​ของ​ฝรั่งเศส​ต้อง​อยู่​ใน​ความ​มืด. แม้​ว่า​หน่วย​งาน​ที่​ให้​บริการ​ด้าน​สาธารณูปโภค​จะ​ใช้​ความ​พยายาม​อย่าง​น่า​ชมเชย แต่​หลาย​หมื่น​คน​ก็​ยัง​ไม่​มี​ไฟฟ้า​หรือ​โทรศัพท์​ใช้​กว่า​สอง​สัปดาห์​หลัง​พายุ​สงบ. หมู่​บ้าน​เล็ก ๆ บาง​แห่ง​ถูก​ตัด​ขาด​โดย​สิ้นเชิง. หลาย​ครอบครัว​ซึ่ง​จำ​ต้อง​ตัก​น้ำ​จาก​บ่อ​และ​ใช้​เทียน​รู้สึก​เหมือน​กับ​ว่า​พวก​เขา​กำลัง​มี​ชีวิต​อยู่​เมื่อ​หนึ่ง​ร้อย​ปี​ที่​แล้ว​มาก​กว่า​จะ​อยู่​ที่​ธรณี​ประตู​แห่ง​ศตวรรษ​ที่ 21.

พายุ​ไม่​ได้​ละ​เว้น​อาคาร​สาธารณะ, ปราสาท, หรือ​โบสถ์​ต่าง ๆ. อาคาร​ทาง​ศาสนา​หลาย​แห่ง รวม​ทั้ง​หอ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา 15 แห่ง​ได้​รับ​ความ​เสียหาย. ใน​บาง​แห่ง การ​ประชุม​ต้อง​จัด​ขึ้น​ภาย​ใต้​แสง​เทียน​หรือ​ตะเกียง​น้ำมัน​ก๊าด.

พยาน​พระ​ยะโฮวา​ประมาณ 2,000 ครอบครัว​ที่​ได้​รับ​ความ​เสียหาย​จาก​พายุ ต้อง​สูญ​เสีย​ทรัพย์​สิน​ของ​ตน ซึ่ง​มี​ตั้ง​แต่​ต้น​ไม้​หัก​โค่น​หรือ​กระเบื้อง​มุง​หลังคา​ปลิว​หาย​ไป​จน​ถึง​บ้าน​ทั้ง​หลัง​ถูก​ทำลาย​โดย​สิ้นเชิง​เมื่อ​แม่น้ำ​เอ่อ​ล้น​ท่วม​ฝั่ง. พยาน​ฯ หลาย​คน​ได้​รับ​บาดเจ็บ. น่า​เศร้า ใน​เขต​ชารานต์ พยาน​ฯ วัย 77 ปี​คน​หนึ่ง​จม​น้ำ​เสีย​ชีวิต​ขณะ​ที่​ภรรยา​ของ​เขา​มอง​ดู​โดย​ช่วย​อะไร​ไม่​ได้. คน​อื่น​ก็​รอด​มา​ได้​หวุดหวิด. ชิลแบร์ วัย 70 ปี​เล่า​ว่า “เป็น​เรื่อง​อัศจรรย์​ที่​ผม​ไม่​ตาย. ประตู​เปิด​ผัวะ​และ​น้ำ​ก็​ทะลัก​เข้า​มา​ด้วย​พลัง​มหาศาล. ทันใด​นั้น​ผม​อยู่​ใน​น้ำ​ลึก​เมตร​ครึ่ง. ผม​รอด​มา​ได้​เพราะ​เกาะ​ตู้​เสื้อ​ผ้า.”

การ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ที่​จำเป็น

พายุ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน​อย่าง​น่า​ทึ่ง​ใน​ฝรั่งเศส​และ​ตลอด​ทั่ว​ยุโรป. หนังสือ​พิมพ์​เลอ มิดิ ลีเบรอ ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “มี​บาง​ครั้ง​ที่​การ​กุศล​แทบ​จะ​เหมือน​กับ​พันธะ​หน้า​ที่ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ไป​โดย​ธรรมชาติ, โดย​มิตรภาพ, หรือ​โดย​มโนธรรม.”

ทันที​หลัง​จาก​พายุ​สงบ มี​การ​ตั้ง​คณะ​กรรมการ​บรรเทา​ทุกข์​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ขึ้น​เพื่อ​ช่วย​สมาชิก​ของ​ประชาคม​ใน​ท้องถิ่น​รวม​ทั้ง​คน​อื่น ๆ ที่​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​ภัย​พิบัติ​นี้. คณะ​กรรมการ​ก่อ​สร้าง​ประจำ​ภูมิภาค ซึ่ง​ปกติ​จะ​ทำ​การ​ก่อ​สร้าง​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร ก็​ได้​จัด​ทีม​งาน​อาสา​สมัคร​ขึ้น. หลัง​จาก​เกิด​พายุ​ทาง​ภาค​ใต้​ใน​เดือน​พฤศจิกายน พยาน​ฯ 3,000 คน​เข้า​ร่วม​ใน​งาน​กู้​ภัย​และ​ทำ​ความ​สะอาด โดย​ช่วย​ผู้​ประสบ​ภัย​ตัก​โคลน​กับ​น้ำ​ที่​ท่วม​บ้าน​ออก. พยาน​ฯ เป็น​อาสา​สมัคร​กลุ่ม​แรก ๆ ที่​ไป​ถึง​ใน​หมู่​บ้าน​บาง​แห่ง. พยาน​ฯ ได้​ทำ​ความ​สะอาด​อาคาร​สาธารณะ เช่น โรง​เรียน, ที่​ทำ​การ​ไปรษณีย์, ศาลา​ว่า​การ​เมือง, บ้าน​พัก​คน​ชรา, และ​แม้​แต่​สุสาน. ใน​หลาย​กรณี​พวก​เขา​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​หน่วย​กู้​ภัย.

มี​การ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​แก่​ทุก​คน ไม่​ว่า​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​ของ​เขา​จะ​เป็น​เช่น​ไร. พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “เรา​ช่วย​บาทหลวง​ประจำ​หมู่​บ้าน. เรา​ทำ​ความ​สะอาด​ห้อง​ใต้​ดิน​ใน​บ้าน​ของ​เขา.” เมื่อ​เล่า​ถึง​คน​ที่​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พยาน​ฯ เขา​เสริม​ว่า “ผู้​คน​มอง​เหมือน​กับ​ว่า​เรา​หล่น​มา​จาก​ฟ้า​เพื่อ​มา​ช่วย​พวก​เขา.” เจ้าหน้าที่​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “คุณ​อาจ​ถือ​ว่า​นี่​เป็น​วิธี​ของ​พวก​เขา​ใน​การ​อ่าน​กิตติคุณ​และ​ช่วยเหลือ​เพื่อน​บ้าน​ของ​ตน. ผม​คิด​ว่า​คน​เหล่า​นี้​ที่​มา​ช่วย​เป็น​ผู้​ที่​ปฏิบัติ​ตาม​กิตติคุณ​และ​ศาสนา​ของ​ตน.” พยาน​ฯ อาสา​สมัคร​คน​หนึ่ง​ออก​ความ​เห็น​ว่า “หัวใจ​ของ​คุณ​กระตุ้น​ให้​คุณ​มา​ช่วย. นับ​เป็น​ความ​ยินดี​จริง ๆ ที่​สามารถ​ทำ​อะไร​เพื่อ​เพื่อน​บ้าน​ของ​เรา.”

หลัง​จาก​เกิด​พายุ​เกล​สอง​ลูก​ใน​เดือน​ธันวาคม ครอบครัว​พยาน​ฯ หลาย​สิบ​ครอบครัว​ถูก​ตัด​ขาด​จาก​พี่​น้อง​คริสเตียน​ของ​ตน​เป็น​เวลา​หลาย​วัน. ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ของ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​และ​ผู้​ปกครอง​ใน​ท้องถิ่น มี​การ​จัด​ระเบียบ​เพื่อ​ช่วยเหลือ​บรรเทา​ทุกข์. เนื่อง​จาก​ถนน​ขาด​และ​สาย​โทรศัพท์​เสีย บาง​ครั้ง​จึง​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​ติด​ต่อ​เพื่อน​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​เพียง​ไม่​กี่​กิโลเมตร. เพื่อ​จะ​ช่วย​สมาชิก​ใน​ประชาคม​ที่​อยู่​โดด​เดี่ยว พยาน​ฯ บาง​คน​บุก​ป่า​ฝ่า​ดง​โดย​เดิน​เท้า​หรือ​ขี่​จักรยาน แม้​ว่า​ต้อง​เสี่ยง​อันตราย​อย่าง​มาก​จาก​ต้น​ไม้​ที่​อาจ​จะ​ล้ม​ลง​มา. อีก​ครั้ง​หนึ่ง อาสา​สมัคร​ทำ​งาน​อย่าง​หนัก​เพื่อ​ทำ​ความ​สะอาด​โรง​เรียน, ห้อง​สมุด, สถาน​ที่​ตั้ง​เต็นท์, และ​บ้าน​ของ​เพื่อน​บ้าน​รวม​ทั้ง​ขจัด​สิ่ง​กีด​ขวาง​ทาง​ใน​ป่า.

การ​สร้าง “บรรยากาศ​แห่ง​ความ​รัก”

ผู้​ประสบ​ภัย​หลาย​คน โดย​เฉพาะ​เด็ก ๆ และ​คน​สูง​อายุ หวาด​ผวา​กับ​ประสบการณ์​นั้น. คน​ที่​สูญ​เสีย​บ้าน​หรือ​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ไป​คง​ต้องการ​เวลา​และ​การ​เกื้อ​หนุน​อีก​มาก​จาก​ครอบครัว​และ​มิตร​สหาย​เพื่อ​สร้าง​ชีวิต​ใหม่. หลัง​จาก​อุทกภัย​ใน​เขต​โอด นาย​แพทย์​กาเบรียล คอตเตง จาก​คณะ​กรรมาธิการ​เวชศาสตร์​และ​จิตวิทยา​ฉุกเฉิน ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “การ​เกื้อ​หนุน​ใด ๆ จาก​คน​ที่​อยู่​ใน​ศาสนา​เดียว​กัน​กับ​ผู้​ประสบ​ภัย​ก็​ถือ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​ด้วย.”

พยาน​พระ​ยะโฮวา​มอง​ความ​ช่วยเหลือ​เหล่า​นั้น​ว่า​เป็น​พันธะ​หน้า​ที่​ทาง​ศีลธรรม​และ​เป็น​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์. อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ว่า “ไม่​ให้​มี​การ​แก่ง​แย่ง​กัน​ใน​กาย [ประชาคม​คริสเตียน​แท้], แต่​ให้​อวัยวะ​ทั้ง​สิ้น​มี​ความ​เอื้อเฟื้อ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน. ถ้า​อวัยวะ​อัน​หนึ่ง​เจ็บ, อวัยวะ​ทั้ง​ปวง​ก็​พลอย​เจ็บ​ด้วย​กัน.”—1 โกรินโธ 12:25, 26.

เอเลน​ที่​กล่าว​ถึง​ข้าง​ต้น ซึ่ง​ตอน​นี้​เป็น​คุณ​แม่​ของ​เด็ก​หญิง​ที่​ร่าเริง​แจ่ม​ใส กล่าว​ว่า “ไม่​กี่​ชั่วโมง​หลัง​พายุ​ผ่าน​ไป พี่​น้อง​คริสเตียน​ชาย​หญิง​หลาย​สิบ​คน​มา​ที่​บ้าน​ของ​เรา​เพื่อ​ช่วย​ทำ​ความ​สะอาด​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง. แม้​แต่​พยาน​ฯ ซึ่ง​ตัว​เอง​ก็​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​พายุ​ก็​มา​ช่วย​เรา. เป็น​การ​ช่วยเหลือ​ที่​ยอด​เยี่ยม​มาก—คือ​เป็น​ไป​ตาม​ธรรมชาติ​และ​ออก​มา​จาก​หัวใจ!”

โอเดต ซึ่ง​บ้าน​ของ​เธอ​ถูก​ทำลาย​ใน​อุทกภัย พูด​ถึง​เพื่อน​พยาน​ฯ ว่า “พวก​เขา​ปลอบโยน​ดิฉัน​อย่าง​มาก. คุณ​ไม่​อาจ​พรรณนา​ความ​รู้สึก​ของ​คุณ​ออก​มา​ได้. ดิฉัน​รู้สึก​ซาบซึ้ง​จริง ๆ สำหรับ​ทุก​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ทำ​เพื่อ​ดิฉัน.” อีก​คน​หนึ่ง​พูด​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​หลาย​คน​โดย​ร้อง​ออก​มา​ด้วย​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ว่า “พวก​เรา​อยู่​ใน​บรรยากาศ​แห่ง​ความ​รัก​จริง ๆ!”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 18, 19]

“น้ำ​ทะเล​สี​ดำ”

กลาง​เดือน​ธันวาคม ไม่​นาน​ก่อน​เกิด​พายุ เรือ​บรรทุก​น้ำมัน​ขนาด​ใหญ่​ชื่อ​เอริกา จม​ลง​ใน​ทะเล​ที่​ปั่นป่วน​ประมาณ 50 กิโลเมตร​นอก​ชายฝั่ง​ตะวัน​ตก​ของ​ฝรั่งเศส ทำ​ให้​น้ำมัน 10,000 ตัน​รั่ว​ไหล​สู่​ทะเล ทำ​ให้​ชายฝั่ง​ที่​ยาว​ประมาณ 400 กิโลเมตร​ตั้ง​แต่​แคว้น​บริตตานี​จน​ถึง​เวน​เด​ปน​เปื้อน. พายุ​ทำ​ให้​ภัย​พิบัติ​ทาง​ระบบ​นิเวศน์​นี้​ร้ายแรง​ยิ่ง​ขึ้น​โดย​ทำ​ให้​คราบ​น้ำมัน​กระจาย​ตัว, แพร่​มลพิษ​ออก​ไป, และ​ทำ​ให้​การ​ขจัด​น้ำมัน​เป็น​เรื่อง​ยาก​ยิ่ง​ขึ้น. อาสา​สมัคร​หลาย​พัน​คน ทั้ง​หนุ่ม​และ​แก่ มา​จาก​ทั่ว​ประเทศ​ฝรั่งเศส​เพื่อ​ช่วย​ทำ​ความ​สะอาด​น้ำมัน​อัน​ร้ายกาจ​นี้​จาก​หิน​และ​ทราย.

อุบัติเหตุ​ครั้ง​นี้​ก่อ​ให้​เกิด​การ​ปน​เปื้อน​ทาง​ระบบ​นิเวศน์​อย่าง​ร้ายแรง. อุตสาหกรรม​หอย​นาง​รม​และ​กุ้ง​ได้​รับ​ผล​กระทบ​อย่าง​รุนแรง. ตาม​คำ​กล่าว​ของ​นัก​ปักษิน​วิทยา นก​ทะเล​อย่าง​น้อย 400,000 ตัว—ได้​แก่​นก​พัฟฟิน, นก​กรีบ, นก​แกนเนต, และ​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​นก​กิลลิมอต—ตาย​ไป. นี่​สูง​ถึง​สิบ​เท่า​ของ​จำนวน​นก​ที่​ตาย​เพราะ​เรือ​บรรทุก​น้ำมัน​ขนาด​ใหญ่​ชื่อ​อะโมโค คาดิซ เกยตื้น​นอก​ชายฝั่ง​บริตตานี​ใน​เดือน​มีนาคม 1978. นก​หลาย​ตัว​กำลัง​หนี​หนาว​มา​อยู่​ที่​ชายฝั่ง​ทะเล​ของ​ฝรั่งเศส​หลัง​จาก​อพยพ​มา​จาก​อังกฤษ, ไอร์แลนด์, และ​สกอตแลนด์. ผู้​อำนวย​การ​สโมสร​คุ้มครอง​นก​โรชฟอร์ต​ให้​ความ​เห็น​ว่า “มัน​เป็น​การ​รั่ว​ไหล​ของ​น้ำมัน​ที่​ก่อ​ความ​หายนะ. มัน​เลว​ร้าย​ที่​สุด​เท่า​ที่​เรา​เคย​เห็น. . . . เรา​เกรง​ว่า​นก​พันธุ์​ที่​หา​ยาก​จะ​ลด​จำนวน​ลง​หรือ​ถึง​กับ​หมด​สิ้น​ไป​จาก​ชายฝั่ง​ฝรั่งเศส.”

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© La Marine Nationale, France

[ภาพ​หน้า 15]

หลาย​ร้อย​คน​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​โดย​เฮลิคอปเตอร์ เช่น​ที่​เห็น​นี้​ใน​คูชาก โดด

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

B.I.M.

[ภาพ​หน้า 15]

ท่ามกลาง​สวน​องุ่น​ที่​พัง​พินาศ, ทาง​รถไฟ​ที่​ชำรุด​จน​ไม่​อาจ​ใช้​การ​ได้​อีก​ต่อ​ไป

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

B.I.M.

[ภาพ​หน้า 15]

รถยนต์​ที่​พัง​ยับเยิน​หลาย​ร้อย​คัน​กระจัด​กระจาย​ไป​ทั่ว​เขต

[ภาพ​หน้า 16]

ใน​วิลเดน ชาย​คน​นี้​ติด​อยู่​เป็น​เวลา​เจ็ด​ชั่วโมง

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

J.-M Colombier

[ภาพ​หน้า 16, 17]

ต้น​สน​หัก​เหมือน​กับ​ก้าน​ไม้​ขีด​ไฟ​ใน​เขต​เคริซ

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© Chareyton/La Montagne/MAXPPP

[ภาพ​หน้า 17]

เช้า​วัน​ถัด​มา​ใน​แซง-ปีแยร์-ซู​เออร์-ดีฟ นอร์มังดี

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© M. Daniau/AFP

[ภาพ​หน้า 17]

ใน​สวน​พระ​ราชวัง​แวร์ซาย​แห่ง​เดียว ต้น​ไม้ 10,000 ต้น​หัก​โค่น

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© Charles Platiau/Reuters/MAXPPP

[ภาพ​หน้า 18]

ทีม​งาน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ความ​สะอาด​บ้าน​พัก​คน​ชรา​ใน​ลา เรดอร์ต (บน) และ​ศาลา​ว่า​การ​เมือง​เรซาก โดด (ขวา)