การเพ่งดูโลก
การเพ่งดูโลก
อยู่ให้ถึงสหัสวรรษ
ริชาร์ด ซุสแมนจากสถาบันชราภาพแห่งชาติ ในเมืองเบเทสดา รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “มีหลักฐานอย่างแน่นหนาว่าคนที่ป่วยหนักตั้งใจอยู่รอจนถึงเหตุการณ์สำคัญ. เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยวิธีใดนั้นยังเป็นปริศนา แต่ปรากฏการณ์นี้เป็นเรื่องจริงโดยแท้.” หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน แห่งกรุงลอนดอนรายงานว่า เนื่องจากตั้งใจจะอยู่จนเห็นปี 2000 มีคนมากกว่าจำนวนเฉลี่ยได้เสียชีวิตในสัปดาห์แรกของปีใหม่. ในบริเตน มีผู้เสียชีวิตมากขึ้น 65 เปอร์เซ็นต์ในสัปดาห์นั้น และในนครนิวยอร์ก การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสัปดาห์แรกของปี 1999. โรเบิร์ต บัตเลอร์ ประธานศูนย์อายุยืนระหว่างชาติ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นนี้ปรากฏให้เห็นตลอดทั่วโลก. เขากล่าวเสริมว่า “ความปรารถนาจะมีชีวิตอยู่มีพลังจริง ๆ.”
สงครามกำลังเพิ่มขึ้น
หนังสือพิมพ์ซีเกเนอร์ ไซทุง แห่งเยอรมนีรายงานว่า “จำนวนสงครามกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ.” กลุ่มที่ทำการศึกษาเพื่องานวิจัยสาเหตุของสงคราม แห่งมหาวิทยาลัยฮัมบูร์ก นับการต่อสู้โดยใช้อาวุธได้ 35 แห่งในปี 1999 ซึ่งมากกว่าปีก่อน 3 แห่ง. ในบรรดาสงครามเหล่านั้นมี 14 แห่งอยู่ในแอฟริกา, 12 แห่งในเอเชีย, หนึ่งแห่งในยุโรป, และที่เหลืออยู่ในตะวันออกกลางและลาตินอเมริกา. กลุ่มที่ทำการศึกษานั้นกล่าวว่า จุดจบของสงครามยังคงอยู่ไกลเกินเอื้อม. ที่จริง “สงครามแปดแห่งได้ปรากฏในบัญชีรายชื่อของปีนี้เป็นครั้งแรก ในบรรดาสงครามเหล่านั้นก็มีที่เชชเนีย, เนปาล, คีร์กิซสถาน, และไนจีเรีย.” เหตุผลหนึ่งก็คือ สาเหตุบางอย่างของความขัดแย้งอาจคุกรุ่นอยู่เป็นเวลานานก่อนจะปะทุขึ้นกลายเป็นการต่อสู้โดยใช้อาวุธหรือสงครามเต็มรูปแบบ.
ชีวิตนอกโลกไม่น่าเป็นไปได้
หนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ นักดาราศาสตร์จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกาศอย่างเปิดเผยถึงความคิดที่ว่าคงจะมีอารยธรรมต่างดาวกระจัดกระจายอยู่ในหมู่ดวงดาว. ความเชื่อเรื่องชีวิตนอกโลกไม่เพียงแต่กระตุ้นให้มีหนังสือ, ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จำนวนนับไม่ถ้วนเท่านั้น . . . แต่ยังกระตุ้นให้มีการค้นหาทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้จานรับสัญญาณขนาดใหญ่กวาดหาทั่วท้องฟ้าเพื่อจะพบสัญญาณวิทยุอ่อน ๆ จากมนุษย์ต่างดาวที่มีสติปัญญา.” นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญสองคนคือ ดร. ปีเตอร์ ดี. วอร์ด และ ดร. โดนัลด์ ซี. บราวน์ลี ผู้เขียนหนังสือโลกที่น่าพิศวง (ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า การค้นหานี้คงจะล้มเหลว. พวกเขากล่าวว่า การค้นพบใหม่ ๆ ทางดาราศาสตร์, บรรพชีวินวิทยา, และธรณีวิทยาแสดงว่า “องค์ประกอบและเสถียรภาพของโลกเป็นสิ่งที่หาได้ยากจริง ๆ” และยังแสดงว่าสภาพของดาวดวงอื่น ๆ ไม่เหมาะกับสิ่งมีชีวิตที่สลับซับซ้อน. ดร. วอร์ด กล่าวว่า “ในที่สุดเราก็ยอมรับตรง ๆ ในสิ่งที่หลายคนเชื่อกันมานานแล้ว—อย่างน้อยชีวิตที่ซับซ้อนหาได้ยากมาก.” ดร. บราวน์ลี เสริมว่า “ผู้คนกล่าวว่าดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ธรรมดา ๆ ดวงหนึ่ง. นั่นไม่จริง. สภาพแวดล้อมแทบทั้งสิ้นในเอกภพไม่เหมาะกับชีวิต. มีเพียงสถานที่ซึ่งเสมือนสวนเอเดนอย่างโลกของเราเท่านั้นที่ชีวิตดำรงอยู่ได้.”
การเดินเรือโดยคอมพิวเตอร์
หนังสือพิมพ์เดอะ เดลี เทเลกราฟ แห่งกรุงลอนดอนกล่าวว่า เนื่องด้วยเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิก เรือต่าง ๆ อาจไม่ต้องมีแผนที่กระดาษเป็นตั้ง ๆ เพื่อจะเดินเรืออีกต่อไป. ในเดือนพฤศจิกายน 1999 องค์การการเดินเรือระหว่างประเทศ โดยกรมอุทกศาสตร์แห่งเยอรมนี ได้อนุมัติระบบการเดินเรือที่อาศัยคอมพิวเตอร์ทั้งระบบเป็นครั้งแรก. แทนที่จะมีแผนที่กระดาษ คอมพิวเตอร์มีแผนที่อิเล็กทรอนิกสองแบบ—คือที่เป็นสำเนาแผนที่กระดาษที่ถูกสแกนเข้าไปและแบบดิจิทัลซึ่งเรียกกันว่าแผนที่เวกเตอร์. ข้อดีของแผนที่อิเล็กทรอนิกคือมีการแสดงตำแหน่งจริงของเรือตลอดเวลา. และโดยการวางแผนผังเรดาร์ทับบนจอคอมพิวเตอร์ นักเดินเรือจึงมีการตรวจเช็กเป็นพิเศษเกี่ยวด้วยอันตรายที่อาจอยู่ในเส้นทาง. ผู้บังคับการเรือคนหนึ่งตื่นเต้นกับพัฒนาการใหม่นี้โดยกล่าวว่า “มันทำให้ภาระของเราเบาลง . . . เราจึงสามารถจดจ่ออยู่กับการนำร่อง, การสัญจรไปมา, เรือลำอื่น ๆ, และเมื่อกำลังจะถึงอ่าว ก็ดูว่าเจ้าหน้าที่นำร่องของเรากำลังทำอะไร.”
ระเบิดที่ถูกทิ้งไว้
ไม่นานมานี้ชาวประมงในอิตาลีได้อะไรบางอย่างซึ่งพวกเขาไม่ต้องการ—อาวุธเคมี. ตามคำกล่าวของวาเลริโย กาลโซลาโย รองเลขาธิการกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งอิตาลี “ตั้งแต่ปี 1946 จนถึงทศวรรษ 1970 . . . การกำจัดวัตถุระเบิดที่ไม่ใช้แล้วตามปกติคือการทิ้งลงทะเล.” มีการประมาณว่ามีระเบิดราว ๆ 20,000 ลูกกลาด
เกลื่อนอยู่ก้นทะเลเอเดรียติก นอกชายฝั่งตะวันออกของอิตาลี. จนถึงปี 1997 ชาวประมงอิตาลี 5 คนได้เสียชีวิตและอีก 236 คนต้องรับการรักษาพยาบาลเนื่องจากสารเคมีที่เป็นอันตรายถึงชีวิตรั่วไหลออกจากวัตถุระเบิดที่ผุพังซึ่งพวกเขาดึงขึ้นมากับอวน. สิ่งที่ทำให้ปัญหาร้ายแรงขึ้นอีกคือ ระเบิดจำนวนที่ไม่ทราบแน่ชัดถูกทิ้งลงในน่านน้ำเดียวกันโดยเครื่องบินรบในสงครามแถบคาบสมุทรบอลข่านเมื่อเร็ว ๆ นี้ และวัตถุระเบิดเหล่านี้บางชิ้นถูก “จับ” ขึ้นมาในอวนแล้ว. น่านน้ำอิตาลีไม่ใช่แห่งเดียวที่มีวัตถุระเบิด. มีการกะประมาณว่าอาวุธเคมี 100,000 ตันนอนอยู่ก้นทะเลบอลติก และเป็นที่รู้กันว่ามีบริเวณที่ทิ้งระเบิดคล้าย ๆ กันนี้ในน่านน้ำของญี่ปุ่น, สหรัฐ, และบริเตนใหญ่.ตัวเลขเกินจริง
วารสารดิ อิโคโนมิสต์ กล่าวว่า “อย่าเชื่อทุกสิ่งที่คุณอ่านในหนังสือพิมพ์.” นักหนังสือพิมพ์ “ไม่ใช่คนที่ผิดพลาดไม่ได้.” นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ เช่น เมื่อเกิดภัยพิบัติ. ทำไม? บทความนั้นกล่าวว่า “เมื่อยังอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายของภาวะสงคราม หรือความหายนะในยามสงบ เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้แน่ว่ามีกี่คนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ.” เพื่อสนองความอยากรู้ของผู้คน นักหนังสือพิมพ์จะให้ตัวเลขโดยประมาณ ซึ่งมักเป็นตัวเลขที่สูง และ “แทบไม่เคยลดตัวเลขนั้นลงเมื่อเวลาผ่านไป.” เพราะเหตุใด? “นักหนังสือพิมพ์ต้องการทำให้ข่าวดัง, บรรณาธิการต้องการขายหนังสือพิมพ์ได้มาก ๆ, เจ้าหน้าที่อาสาสมัครต้องการส่งเสริมองค์กรของตน. แม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็อาจต้องการความเห็นอกเห็นใจ.” วารสารนั้นแนะให้ผู้อ่าน “ระวัง—ความถูกต้องแม่นยำจอมปลอม, การแสดงตัวเลขสูงจนเห็นได้ชัด, และแนวโน้มที่นักข่าวจะรายงานเกินจริงเสมอ.” วารสารนั้นเสริมว่า “ไม่ว่าพลังของหนังสือพิมพ์โดยทั่วไปมีมากขนาดไหน แต่เมื่อมาถึงเรื่องการฆ่าคนแล้ว ปากกาก็มีพลังมากกว่าดาบอย่างแท้จริง.”
ระวังสัตว์เลี้ยง
ตามรายงานในหนังสือพิมพ์รายวันเลอ มงด์ ของฝรั่งเศส ครัวเรือนในฝรั่งเศส 52 เปอร์เซ็นต์มีสัตว์เลี้ยง. อย่างไรก็ตาม การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยกลุ่มสัตวแพทย์แห่งสถาบันวิทยาภูมิคุ้มกันเปรียบเทียบในสัตว์ ในเมซอง-อัลฟอร์ ฝรั่งเศส แสดงว่า เชื้อราและพยาธิที่อยู่ในแมว 8,400,000 ตัวและสุนัข 7,900,000 ตัวในฝรั่งเศสเป็นเหตุให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นเป็นโรคหลายชนิด. โรคเหล่านี้รวมถึงขี้กลาก, พยาธิตัวกลม, หิด, ลิชมาไนอาซิส, และทอกโซพลาสโมซิส. โรคชนิดสุดท้ายนี้อาจทำให้หญิงมีครรภ์แท้งลูกหรือทำให้ทารกในครรภ์พิการได้. รายงานนั้นยังกล่าวถึงอาการแพ้มากมายซึ่งเกิดจากสัตว์เลี้ยงในบ้านและการติดเชื้อที่เกิดจากการถูกสุนัขกัด—ซึ่งในฝรั่งเศสมีประมาณ 100,000 รายในแต่ละปี.
ระบบนิเวศในช่องปาก
หนังสือพิมพ์เดอะ โทรอนโต สตาร์ รายงานว่า “นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่ไม่มีใดเหมือน 37 ชนิดในระบบนิเวศที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก นั่นคือ ช่องปากของมนุษย์.” นี่ทำให้แบคทีเรียในช่องปากซึ่งเป็นที่รู้จักกันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 500 ชนิด “ความหลากหลายนี้มีมากถึงขนาดที่อาจพอ ๆ กับป่าดิบ ซึ่งถือเป็นสุดยอดของความหลากหลายทางชีววิทยา.” แบคทีเรียเหล่านี้มีอันตรายไหม? หลังจากค้นพบจุลชีพชนิดใหม่ ๆ ในหินปูนภายในช่องปาก ดร. เดวิด เรลแมน นักจุลชีววิทยา กล่าวว่า “ความหลากหลายเช่นนั้นทำให้อุ่นใจทีเดียวเนื่องจากมันทำให้เกิดเสถียรภาพและให้การปกป้องทางชีววิทยา.” หนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ เสริมว่า แบคทีเรียส่วนใหญ่ “เป็นที่เข้าใจว่าให้การช่วยเหลือ, การปกป้องและการทำนุบำรุง.” มีเพียงไม่กี่ชนิดที่ก่อปัญหาเช่น ฟันผุ, โรคเหงือก, และกลิ่นปาก.
คัมภีร์ไบเบิลได้รับการแปล เป็นภาษาต่าง ๆ มากขึ้น
หนังสือพิมพ์เอกเซลซิยอร์ ในเม็กซิโกรายงานว่า “คัมภีร์ไบเบิลยังคงเป็นหนังสือที่มีการแปลมากที่สุดในโลกต่อไป.” ตามรายงานของสมาคมคัมภีร์ไบเบิลแห่งเยอรมนี คัมภีร์ไบเบิลได้รับการแปลอีก 21 ภาษาในปี 1999 ทำให้ตอนนี้มีคัมภีร์ไบเบิลอย่างน้อยบางส่วนใน 2,233 ภาษา. ในบรรดาภาษาเหล่านี้ “มีการแปลพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมและภาคพันธสัญญาใหม่ครบเล่ม 371 ภาษา ซึ่งมากกว่าปี 1998 อยู่ 5 ภาษา.” มีการใช้ภาษาเหล่านี้กันที่ไหนบ้าง? หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นกล่าวว่า “มีการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากที่สุดในแอฟริกาคือ 627 ภาษา, ตามด้วยเอเชีย 553 ภาษา, ออสเตรเลีย/แปซิฟิก 396 ภาษา, ลาตินอเมริกา/แคริบเบียน 384 ภาษา, ยุโรป 197 ภาษา, และสหรัฐ 73 ภาษา.” กระนั้น “คัมภีร์ไบเบิลได้รับการแปลยังไม่ถึงครึ่งของภาษาต่าง ๆ ที่พูดกันในแผ่นดินโลกด้วยซ้ำ.” เพราะเหตุใด? เพราะมีน้อยคนที่ใช้ภาษาเหล่านั้น และการแปลคัมภีร์ไบเบิลเป็นภาษาเหล่านั้นเป็นงานยาก. ยิ่งกว่านั้น หลายคนพูดได้สองภาษา และถ้าไม่มีคัมภีร์ไบเบิลภาษาหนึ่ง เขาก็สามารถอ่านอีกภาษาหนึ่งได้.