ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การมองเข้าไปในสิ่งที่ตาเปล่ามองไม่เห็น—พบอะไรบ้าง?

การมองเข้าไปในสิ่งที่ตาเปล่ามองไม่เห็น—พบอะไรบ้าง?

การ​มอง​เข้า​ไป​ใน​สิ่ง​ที่​ตา​เปล่า​มอง​ไม่​เห็น—พบ​อะไร​บ้าง?

มนุษย์​บรรลุ​ผล​สำเร็จ​อะไร​บ้าง​เมื่อ​ใช้​ประดิษฐกรรม​ใหม่ ๆ เปิด​สิ่ง​ที่​เป็น​เหมือน​ม่าน​บัง​สายตา และ​เห็น​อะไร ๆ ที่​แต่​ก่อน​พวก​เขา​ไม่​สามารถ​เห็น​ได้? การ​ใช้​ประดิษฐกรรม​ดัง​กล่าว​ช่วย​ทำ​ให้​สิ่ง​ซึ่ง​แต่​ก่อน​ไม่​รู้​ไม่​เข้าใจ​กลาย​เป็น​ที่​รู้​แน่ชัด​ใน​ระดับ​หนึ่ง.—ดู​กรอบ​ข้าง​ล่าง.

ครั้ง​หนึ่ง เคย​เชื่อ​กัน​โดย​ทั่ว​ไป​ว่า​โลก​เป็น​ศูนย์กลาง​ของ​เอกภพ. แต่​แล้ว​กล้อง​โทรทัศน์​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ดาว​เคราะห์​ต่าง ๆ รวม​ทั้ง​โลก โคจร​รอบ​ดวง​อาทิตย์​ตาม​ตำแหน่ง​แหล่ง​ที่​ของ​มัน. ไม่​นาน​มา​นี้ มนุษย์​ได้​พินิจ​พิจารณา​อะตอม​ด้วย​กล้อง​จุลทรรศน์​ที่​มี​กำลัง​ขยาย​สูง และ​ได้​เห็น​วิธี​ที่​อะตอม​บาง​ชนิด​รวม​ตัว​กับ​ชนิด​อื่น ๆ เกิด​เป็น​สิ่ง​ที่​เรียก​ว่า​โมเลกุล.

ขอ​พิจารณา​องค์​ประกอบ​ของ​โมเลกุล​น้ำ​ซึ่ง​เป็น​สสาร​ที่​จำเป็น​ยิ่ง​ต่อ​ชีวิต. เนื่อง​จาก​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​มัน ไฮโดรเจน​สอง​อะตอม​จะ​รวม​ตัว​กับ​ออกซิเจน​หนึ่ง​อะตอม​ใน​วิธี​ที่​ไม่​เหมือน​ใคร​เพื่อ​ก่อ​ตัว​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​โมเลกุล—ซึ่ง​ใน​น้ำ​แต่​ละ​หยด​มี​นับ​พัน ๆ ล้าน​โมเลกุล! เรา​อาจ​เรียน​รู้​อะไร​ได้​จาก​การ​ตรวจ​วิเคราะห์​โมเลกุล​ของ​น้ำ และ​จาก​การ​พิจารณา​คุณสมบัติ​ของ​มัน​ภาย​ใต้​สภาพการณ์​ต่าง ๆ?

ความ​มหัศจรรย์​ของ​น้ำ

แม้​น้ำ​แต่​ละ​หยด​จะ​ดู​เป็น​สิ่ง​ธรรมดา​มาก แต่​น้ำ​ก็​เป็น​สสาร​ที่​สลับ​ซับซ้อน​อย่าง​ยิ่ง. ที่​จริง ดร. จอห์น เอ็มสลีย์ นัก​เขียน​เรื่อง​ทาง​วิทยาศาสตร์​ประจำ​วิทยาลัย​อิมพีเรียล​ใน​ลอนดอน ประเทศ​อังกฤษ​บอก​ว่า น้ำ​เป็น “หนึ่ง​ใน​บรรดา​สาร​เคมี​ที่​มี​การ​ศึกษา​วิจัย​มาก​ที่​สุด แต่​ก็​ยัง​คง​เป็น​สิ่ง​ที่​เข้าใจ​น้อย​ที่​สุด.” วารสาร​นิว ไซเยนติสต์ กล่าว​ว่า “น้ำ​เป็น​ของ​เหลว​ที่​ผู้​คน​บน​โลก​รู้​จัก​คุ้น​เคย​มาก​ที่​สุด แต่​ก็​เป็น​สิ่ง​ลึกลับ​ที่​สุด​อย่าง​หนึ่ง​ด้วย.”

ดร. เอ็มสลีย์​อธิบาย​ว่า แม้​องค์​ประกอบ​ของ​น้ำ​จะ​ดู​เรียบ​ง่าย​แต่ “ไม่​มี​อะไร​ซับซ้อน​เท่า​คุณสมบัติ​ของ​มัน.” เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง เขา​บอก​ว่า “H​2O น่า​จะ​เป็น​ก๊าซ . . . แต่​กลับ​เป็น​ของ​เหลว. ยิ่ง​กว่า​นั้น เมื่อ​เย็น​จัด . . . มัน​จะ​กลาย​เป็น​น้ำ​แข็ง​ที่​ลอย​น้ำ ไม่​จม” ซึ่ง​ตาม​ปกติ​แล้ว​น่า​จะ​จม. เกี่ยว​ด้วย​คุณสมบัติ​ที่​แปลก​พิสดาร​นี้ ดร. พอล อี. คล็อปสเตก อดีต​ประธาน​สมาคม​เพื่อ​ความ​ก้าว​หน้า​ทาง​วิทยาศาสตร์​แห่ง​อเมริกา ให้​ข้อ​สังเกต​ดัง​นี้:

“สิ่ง​นี้​ปรากฏ​ว่า​เป็น​การ​ออก​แบบ​ที่​น่า​ทึ่ง​เพื่อ​ค้ำจุน​สัตว์​น้ำ อย่าง​เช่น พวก​ปลา. คิด​ดู​ก็​แล้ว​กัน​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​น้ำ​ที่​เย็น​ถึง​จุด​เยือก​แข็ง​ไม่​มี​คุณสมบัติ​ดัง​กล่าว. น้ำ​แข็ง​จะ​ก่อ​ตัว​และ​หนา​ขึ้น​เรื่อย ๆ จน​กระทั่ง​น้ำ​ทั้ง​ทะเลสาบ​กลาย​เป็น​น้ำ​แข็ง​คร่า​ชีวิต​สัตว์​น้ำ​ส่วน​ใหญ่​หรือ​ทั้ง​หมด.” ดร. คล็อปสเตก บอก​ว่า คุณสมบัติ​ของ​น้ำ​ที่​คาด​ไม่​ถึง​นี้​เป็น “หลักฐาน​แสดง​ถึง​ความ​คิด​จิตใจ​ที่​ล้ำ​เลิศ​และ​เต็ม​ไป​ด้วย​จุด​มุ่ง​หมาย​ซึ่ง​ปฏิบัติการ​อยู่​ใน​เอกภพ.”

ตาม​รายงาน​ใน​วารสาร​นิว ไซเยนติสต์ ปัจจุบัน​นัก​วิจัย​คิด​ว่า​พวก​เขา​ทราบ​เหตุ​ผล​ที่​ว่า​ทำไม​น้ำ​จึง​มี​คุณสมบัติ​แปลก​พิสดาร​เช่น​นี้. พวก​เขา​ได้​คิด​ค้น​แบบ​จำลอง​ทาง​ทฤษฎี​แบบ​แรก​ขึ้น​มา​ซึ่ง​ทำนาย​การ​ขยาย​ตัว​ของ​น้ำ​ได้​อย่าง​แม่นยำ. พวก​นัก​วิจัย​ตระหนัก​ว่า “กุญแจ​ไข​ความ​ลึกลับ​นี้​อยู่​ที่​ช่อง​ว่าง​ระหว่าง​อะตอม​ออกซิเจน​ซึ่ง​เป็น​องค์​ประกอบ​ของ​น้ำ​และ​น้ำ​แข็ง.”

น่า​ทึ่ง​มิ​ใช่​หรือ? โมเลกุล​ที่​ดู​เรียบ​ง่าย​กลับ​ท้าทาย​ความ​เข้าใจ​ของ​มนุษย์. และ​คิด​ดู​สิ น้ำหนัก​ตัว​ของ​เรา​ประกอบ​ด้วย​น้ำ​เป็น​ส่วน​ใหญ่! จาก​ความ​มหัศจรรย์​ของ​โมเลกุล​นี้​ซึ่ง​มี​เพียง​สาม​อะตอม​จาก​ธาตุ​สอง​ชนิด คุณ​เห็น​ด้วย​ไหม​ว่า​มี “หลักฐาน​แสดง​ถึง​ความ​คิด​จิตใจ​ที่​ล้ำ​เลิศ​และ​เต็ม​ไป​ด้วย​จุด​มุ่ง​หมาย​ปฏิบัติการ​อยู่”? กระนั้น โมเลกุล​น้ำ​ก็​เล็ก​มาก และ​ยัง​ซับซ้อน​น้อย​กว่า​โมเลกุล​อื่น ๆ อีก​หลาย​ชนิด.

โมเลกุล​ที่​ซับซ้อน​อย่าง​ยิ่ง

บาง​โมเลกุล​ประกอบ​ด้วย​อะตอม​นับ​พัน ๆ จาก​ธาตุ​หลาย​ชนิด​ใน​บรรดา 88 ชนิด​ที่​มี​อยู่​ใน​ธรรมชาติ​บน​แผ่นดิน​โลก. ยก​ตัว​อย่าง โมเลกุล​ดีเอ็นเอ (ชื่อ​ย่อ​ของ​กรด​ดีออกซิไรโบนิวคลีอิก) ซึ่ง​บรรจุ​ด้วย​รหัส​ข้อมูล​ทาง​พันธุกรรม​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทุก​ชนิด อาจ​มี​หลาย​ล้าน​อะตอม​จาก​ธาตุ​หลาย​อย่าง!

ทั้ง ๆ ที่​มี​ความ​ซับซ้อน​เหลือเชื่อ แต่​โมเลกุล​ดีเอ็นเอ​ก็​มี​เส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง​เพียง 0.0000025 มิลลิเมตร เล็ก​เกิน​กว่า​จะ​เห็น​ได้​เว้น​แต่​จะ​ใช้​กล้อง​จุลทรรศน์​ที่​มี​กำลัง​ขยาย​สูง. พอ​ถึง​ปี 1944 นัก​วิทยาศาสตร์​ก็​ค้น​พบ​ว่า​ดีเอ็นเอ​เป็น​ตัว​กำหนด​ลักษณะ​ทาง​พันธุกรรม​ของ​คน​เรา. การ​ค้น​พบ​ดัง​กล่าว​กระตุ้น​ให้​เกิด​การ​วิจัย​อย่าง​คร่ำ​เคร่ง​เกี่ยว​กับ​โมเลกุล​ที่​ซับซ้อน​ยิ่ง​นี้.

กระนั้น ดีเอ็นเอ​และ​น้ำ​เป็น​เพียง​สอง​อย่าง​เท่า​นั้น​ใน​บรรดา​โมเลกุล​หลาย​ชนิด​ที่​ประกอบ​เป็น​โครง​สร้าง​ของ​สิ่ง​ต่าง ๆ. และ​เนื่อง​จาก​พบ​ว่า​โมเลกุล​หลาย​ชนิด​เป็น​ส่วน​ประกอบ​ของ​ทั้ง​สิ่ง​มี​ชีวิต​และ​สิ่ง​ไม่​มี​ชีวิต เรา​ควร​ลง​ความ​เห็น​ไหม​ว่า มี​วิธี​ใด​วิธี​หนึ่ง​ที่​เป็น​เหมือน​บันได​หรือ​สะพาน​เชื่อม​ระหว่าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​กับ​สิ่ง​ไม่​มี​ชีวิต?

เป็น​เวลา​นาน​ที่​หลาย​คน​เชื่อ​อย่าง​นั้น. ไมเคิล เดนตัน นัก​จุล​ชีววิทยา อธิบาย​ว่า “ผู้​เชี่ยวชาญ​หลาย​คน​ใน​ทศวรรษ 1920 และ 1930 แสดง​ความ​หวัง​เป็น​พิเศษ​ว่า​ความ​รู้​ทาง​ชีวเคมี​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​จะ​เชื่อม​ช่อง​ว่าง​ได้.” แต่​ใน​เวลา​ต่อ​มา​มี​การ​ค้น​พบ​อะไร​จริง ๆ?

ชีวิต​เป็น​สิ่ง​พิเศษ​สุด​ไม่​มี​ใด​เหมือน

แม้​นัก​วิทยาศาสตร์​คาด​หมาย​ว่า​จะ​พบ​ตัว​คั่น​กลาง​ที่​อยู่​ระหว่าง​การ​เปลี่ยน​แปลง หรือ​ขั้น​ตอน​ที่​ค่อย​เป็น​ค่อย​ไป​ระหว่าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​กับ​สิ่ง​ไม่​มี​ชีวิต แต่​เดนตัน​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า การ​มี​ช่อง​ว่าง​ที่​แน่นอน “ใน​ที่​สุด​ก็​ได้​รับ​การ​ยืน​ยัน​หลัง​จาก​การ​ค้น​พบ​ทาง​ชีววิทยา​โมเลกุล อัน​นำ​มา​ซึ่ง​การ​เปลี่ยน​แปลง​ขนาน​ใหญ่​ใน​ช่วง​ต้น​ทศวรรษ 1950.” เกี่ยว​ด้วย​ข้อ​เท็จ​จริง​อัน​น่า​สนใจ​ซึ่ง​ปัจจุบัน​เป็น​ที่​ประจักษ์​ชัด​แก่​บรรดา​นัก​วิทยาศาสตร์​นั้น เดนตัน​อธิบาย​ต่อ​ไป​ดัง​นี้:

“ปัจจุบัน เรา​รู้​ไม่​เพียง​การ​มี​ช่อง​ว่าง​ระหว่าง​อาณาจักร​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​กับ​สิ่ง​ไม่​มี​ชีวิต​เท่า​นั้น แต่​ยัง​รู้​ว่า​ช่อง​ว่าง​ดัง​กล่าว​น่า​ทึ่ง​และ​เป็น​พื้น​ฐาน​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​ช่อง​ว่าง​ทั้ง​สิ้น​ใน​ธรรมชาติ. ระหว่าง​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต​เซลล์​หนึ่ง​กับ​ระบบ​โมเลกุล​ที่​ซับซ้อน​ที่​สุด​ใน​สิ่ง​ไม่​มี​ชีวิต เช่น ผลึก​หรือ​เกล็ด​หิมะ มี​ช่อง​ว่าง​ที่​มหึมา​และ​สัมบูรณ์​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​จินตนาการ​ได้.”

นี่​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​การ​สร้าง​โมเลกุล​หนึ่ง​ขึ้น​มา​เป็น​เรื่อง​ง่าย. หนังสือ​จาก​โมเลกุล​ถึง​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต (ภาษา​อังกฤษ) อธิบาย​ว่า “การ​ประกอบ​ส่วน​ต่าง ๆ ของ​โมเลกุล​ขนาด​เล็ก​เข้า​ด้วย​กัน ใน​ตัว​มัน​เอง​แล้ว​เป็น​เรื่อง​สลับ​ซับซ้อน.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม หนังสือ​นี้​เสริม​ว่า การ​สร้าง​โมเลกุล​เช่น​ว่า “เป็น​ของ​เด็ก​เล่น​ไป​เลย​เมื่อ​เทียบ​กับ​สิ่ง​ที่​ต้อง​ทำ​เพื่อ​สร้าง​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต​เซลล์​แรก.”

เซลล์​ต่าง ๆ อาจ​ดำรง​อยู่​โดย​ลำพัง​เป็น​เซลล์​อิสระ เช่น แบคทีเรีย, หรือ​อาจ​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​หลาย​เซลล์ เช่น มนุษย์. จะ​ต้อง​ใช้​เซลล์​ขนาด​เฉลี่ย​ทั่ว​ไป​ถึง 500 เซลล์​จึง​จะ​ใหญ่​เท่า​กับ​จุด​มหัพภาค​ท้าย​ประโยค​นี้. ฉะนั้น จึง​ไม่​ใช่​เรื่อง​แปลก​ที่​การ​ทำ​งาน​ของ​เซลล์​เป็น​สิ่ง​ที่​มอง​ด้วย​ตา​เปล่า​ไม่​เห็น. แล้ว​การ​ใช้​กล้อง​จุลทรรศน์​ส่อง​ดู​เซลล์​เซลล์​หนึ่ง​ของ​ร่าง​กาย​มนุษย์​เผย​ให้​เห็น​อะไร?

เซลล์—เกิด​ขึ้น​โดย​บังเอิญ​หรือ​มี​การ​ออก​แบบ?

แรก​ที​เดียว ใคร ๆ ก็​คง​อด​ทึ่ง​ไม่​ได้​เมื่อ​เห็น​ความ​สลับ​ซับซ้อน​ของ​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต. นัก​เขียน​เรื่อง​ทาง​วิทยาศาสตร์​คน​หนึ่ง​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “การ​เจริญ​เติบโต​โดย​ปกติ​ของ​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต แม้​เซลล์​ที่​เรียบ​ง่าย​ที่​สุด​ก็​ยัง​ต้อง​อาศัย​การ​เกิด​ปฏิกิริยา​ทาง​เคมี​นับ​หมื่น ๆ ปฏิกิริยา​ที่​ประสาน​สัมพันธ์​กัน.” เขา​ถาม​ว่า “จะ​ควบคุม​ปฏิกิริยา​ทั้ง 20,000 ปฏิกิริยา​ที่​เกิด​ใน​เวลา​เดียว​กัน​ภาย​ใน​เซลล์​เล็ก ๆ เซลล์​หนึ่ง​ได้​อย่าง​ไร?”

ไมเคิล เดนตัน ถึง​กับ​เปรียบ​เทียบ​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต​ที่​เล็ก​ที่​สุด​กับ “โรง​งาน​ซึ่ง​ย่อ​ส่วน​ให้​มี​ขนาด​เล็ก​จริง ๆ จน​มอง​ด้วย​ตา​เปล่า​ไม่​เห็น โดย​มี​ชิ้น​ส่วน​เครื่องจักร​โมเลกุล​ที่​สลับ​ซับซ้อน​นับ​หมื่น​นับ​แสน​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ออก​แบบ​อย่าง​วิจิตร​งดงาม ประกอบ​ด้วย​อะตอม​ทั้ง​หมด​รวม​แล้ว​หนึ่ง​แสน​ล้าน​อะตอม ซับซ้อน​ยิ่ง​กว่า​เครื่องจักร​ใด ๆ ที่​มนุษย์​สร้าง​ขึ้น และ​ไม่​มี​อะไร​เทียบ​ได้​เลย​ใน​อาณาจักร​ของ​สิ่ง​ไม่​มี​ชีวิต.”

เหล่า​นัก​วิทยาศาสตร์​ยัง​คง​งุนงง​กับ​ความ​สลับ​ซับซ้อน​ของ​เซลล์ ดัง​หนังสือ​พิมพ์​เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ฉบับ 15 กุมภาพันธ์ 2000 ให้​ข้อ​สังเกต​ไว้​ว่า “ยิ่ง​นัก​ชีววิทยา​เข้าใจ​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต​มาก​เท่า​ไร ภารกิจ​ใน​การ​ศึกษา​วิจัย​การ​ทำ​งาน​ทุก​อย่าง​ของ​เซลล์​ก็​ดู​เหมือน​จะ​น่า​อ่อนใจ​ยิ่ง​ขึ้น​เท่า​นั้น. เซลล์​ของ​มนุษย์​โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​เล็ก​เกิน​กว่า​จะ​เห็น​ได้​ด้วย​ตา​เปล่า กระนั้น ไม่​ว่า​เวลา​ใด​ก็​ตาม ยีน 30,000 ยีน​จาก​จำนวน 100,000 ยีน​ใน​เซลล์​เซลล์​หนึ่ง อาจ​กำลัง​รับ​ส่ง​สัญญาณ​เพื่อ​จัด​การ​กับ​ภารกิจ​ประจำ​ของ​เซลล์​นั้น ๆ หรือ​ไม่​ก็​เพื่อ​ตอบรับ​ข่าวสาร​จาก​เซลล์​อื่น ๆ.”

หนังสือ​พิมพ์ ไทมส์ ถาม​ว่า “จะ​มี​ทาง​วิเคราะห์​เครื่องจักร​ที่​เล็ก​และ​ซับซ้อน​มาก​อย่าง​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? และ​ถึง​แม้​จะ​มี​ทาง​เข้าใจ​เซลล์​มนุษย์​เซลล์​หนึ่ง​ได้​จริง​ถ้า​ออก​ความ​พยายาม​อย่าง​หนัก แต่​อย่าง​น้อย​ก็​มี​เซลล์​ถึง 200 ชนิด​ใน​ร่าง​กาย​มนุษย์.”

บทความ “เครื่องจักร​แท้​จริง​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง” ใน​วารสาร​เนเจอร์ ได้​รายงาน​เรื่อง​การ​ค้น​พบ​เครื่อง​ยนต์​ขนาด​จิ๋ว​ภาย​ใน เซลล์​แต่​ละ​เซลล์​ของ​ร่าง​กาย. เครื่อง​ยนต์​เหล่า​นี้​หมุน​เพื่อ​สร้าง อดีโนซีน ไตรฟอสเฟต ซึ่ง​เป็น​แหล่ง​พลังงาน​ของ​เซลล์. นัก​วิทยาศาสตร์​คน​หนึ่ง​รำพึง​ว่า “เรา​บรรลุ​ผล​สำเร็จ​อะไร​บ้าง​เมื่อ​เรา​เรียน​รู้​วิธี​ออก​แบบ​และ​สร้าง​ระบบ​กลไก​โมเลกุล​ที่​คล้ายคลึง​กับ​ระบบ​โมเลกุล​ที่​เรา​พบ​ใน​เซลล์​ต่าง ๆ?”

ลอง​คิด​ถึง​วิสัย​สามารถ​เชิง​สร้าง​สรรค์​ของ​เซลล์! จำนวน​ข้อมูล​ที่​บรรจุ​อยู่​ใน​ดีเอ็นเอ​ของ​เซลล์​เซลล์​เดียว​ใน​ร่าง​กาย​เรา หาก​เขียน​ลง​ใน​กระดาษ​ขนาด​เท่า​หน้า​วารสาร​นี้​จะ​ได้​ประมาณ​หนึ่ง​ล้าน​หน้า​กระดาษ! ยิ่ง​กว่า​นั้น แต่​ละ​ครั้ง​ที่​เซลล์​เซลล์​หนึ่ง​แบ่ง​ตัว​เพื่อ​สร้าง​เซลล์​ใหม่ ข้อมูล​เดียว​กัน​นี้​ก็​จะ​ส่ง​ผ่าน​ไป​ยัง​เซลล์​ใหม่​ด้วย. คุณ​คิด​อย่าง​ไร​ที่​แต่​ละ​เซลล์—ซึ่ง​ทั้ง​หมด​มี 100 ล้าน​ล้าน​เซลล์​ใน​ร่าง​กาย​ของ​คุณ—ถูก​ใส่​ชุด​คำ​สั่ง​ไว้​ด้วย​ข้อมูล​นี้? มัน​เกิด​ขึ้น​โดย​บังเอิญ หรือ​โดย​ผู้​ออก​แบบ​ชั้น​ยอด?

บาง​ที​คุณ​อาจ​ลง​ความ​เห็น​เช่น​เดียว​กับ​นัก​ชีววิทยา​รัสเซลล์ ชาลส์ อาร์ติสต์. เขา​กล่าว​ว่า “เรา​เผชิญ​กับ​ความ​ยุ่งยาก​สุด​แสน ไม่​อาจ​เอา​ชนะ​ได้​ด้วย​ซ้ำ ใน​การ​พยายาม​อธิบาย​การ​เริ่ม​ต้น [ของ​เซลล์] และ​การ​ที่​มัน​ดำรง​อยู่​ต่อ ๆ ไป เว้น​แต่​เรา​จะ​ยืน​ยัน​ด้วย​หลัก​เหตุ​ผล​และ​ตรรกวิทยา​ที่​ว่า เซลล์​ดัง​กล่าว​เกิด​จาก​เชาวน์​ปัญญา​และ​ความ​คิด​จิตใจ.”

เป็น​ระเบียบ​อย่าง​น่า​ทึ่ง

หลาย​ปี​มา​แล้ว เคิร์ตลีย์ เอฟ. มาเทอร์ ได้​ลง​ความ​เห็น​ตอน​ที่​เขา​เป็น​ศาสตราจารย์​ทาง​ธรณี​วิทยา​ประจำ​มหาวิทยาลัย​ฮาร์เวิร์ด ดัง​ต่อ​ไป​นี้: “เรา​อยู่​ใน​เอกภพ ไม่​ใช่​โดย​บังเอิญ​หรือ​โดย​อุบัติเหตุ แต่​โดย​กฎ​และ​ระเบียบ. กลไก​ต่าง ๆ ใน​เอกภพ​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​เหตุ​ผล​อย่าง​สมบูรณ์ และ​ควร​ค่า​แก่​การ​นับถือ​อย่าง​สุด​ซึ้ง. ลอง​พิจารณา​รูป​แบบ​ทาง​คณิตศาสตร์​อัน​น่า​ทึ่ง​ของ​ธรรมชาติ​ที่​ทำ​ให้​เรา​จัด​หมาย​เลข​อะตอม​ให้​แก่​ธาตุ​ทุก​ชนิด​ได้​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​สัมพันธ์​กัน.”

ให้​เรา​พิจารณา​สั้น ๆ เกี่ยว​กับ “รูป​แบบ​ทาง​คณิตศาสตร์​อัน​น่า​ทึ่ง​ของ​ธรรมชาติ.” ธาตุ​ต่าง ๆ  * ที่​คน​ใน​สมัย​โบราณ​รู้​จัก​กัน​ก็​คือ ทองคำ, เงิน, ทองแดง, ตะกั่ว และ​เหล็ก. ส่วน​สาร​หนู, บิสมัท, และ​พลวง ค้น​พบ​โดย​นัก​เล่น​แร่​แปร​ธาตุ​ระหว่าง​ยุค​กลาง และ​ต่อ​มา​ใน​ระหว่าง​ศตวรรษ​ที่ 18 ก็​มี​การ​ค้น​พบ​อีก​หลาย​ธาตุ. ใน​ปี 1863 สเปกโทรสโคป ซึ่ง​สามารถ​แยก​แถบ​สี​ที่​ไม่​เหมือน​ใคร​ซึ่ง​แต่​ละ​ธาตุ​เปล่ง​ออก​มา ก็​ถูก​ใช้​เพื่อ​ระบุ​ธาตุ​อินเดียม ซึ่ง​เป็น​ธาตุ​ที่ 63 ที่​มี​การ​ค้น​พบ.

ใน​ตอน​นั้น นัก​เคมี​ชาว​รัสเซีย​ชื่อ ดมิตรัย อีวาโนวิช เมนเดเลเยฟ ลง​ความ​เห็น​ว่า​ธาตุ​ต่าง ๆ ไม่​ได้​ถูก​สร้าง​อย่าง​ไร้​แบบ​แผน. ใน​ที่​สุด วัน​ที่ 18 มีนาคม 1869 ก็​มี​การ​อ่าน​ข้อ​เขียน​ของ​เขา​ชื่อ “โครง​สร้าง​ของ​ระบบ​ธาตุ” ต่อ​สมาคม​เคมี​แห่ง​รัสเซีย. ใน​ข้อ​เขียน​นั้น เขา​แถลง​ดัง​นี้: “ข้าพเจ้า​ประสงค์​จะ​ตั้ง​ระบบ​ที่​ไม่​ได้​เป็น​ไป​โดย​ความ​บังเอิญ แต่​โดย​หลัก​บาง​อย่าง​ที่​แน่นอน​และ​แม่นยำ.”

ใน​เอกสาร​อัน​ลือ​ชื่อ​นี้ เมนเดเลเยฟ​ทำนาย​ว่า “เรา​ควร​คาด​หมาย​ต่อ​ไป​ว่า​จะ​ค้น​พบ​ธาตุ​ธรรมดา ๆ ซึ่ง​ไม่​เป็น​ที่​รู้​จัก อีก​หลาย​ธาตุ ยก​ตัว​อย่าง ธาตุ​ที่​คล้าย​กับ​อะลูมิเนียม​และ​ซิลิคอน ซึ่ง​เป็น​ธาตุ​ที่​มี​น้ำหนัก​อะตอม​ระหว่าง 65 ถึง 75.” เมนเดเลเยฟ​เว้น​ช่อง​ว่าง​ไว้​สำหรับ​ธาตุ​ใหม่ 16 ธาตุ. เมื่อ​มี​การ​ขอ​ให้​พิสูจน์​คำ​ทำนาย​ของ​เขา เขา​ตอบ​ว่า “ผม​ไม่​จำเป็น​ต้อง​พิสูจน์. กฎ​ธรรมชาติ​ไม่​เหมือน​กฎ​ไวยากรณ์ เป็น​เรื่อง​แน่นอน​ไม่​มี​กรณี​ยก​เว้น.” เขา​เสริม​ว่า “ผม​คิด​ว่า​เมื่อ​มี​การ​ค้น​พบ​ธาตุ​ต่าง ๆ ที่​ผม​ยัง​ไม่​รู้​จัก ผู้​คน​มาก​ขึ้น​จะ​หัน​มา​สนใจ​พวก​เรา.”

แล้ว​สิ่ง​นี้​ก็​เกิด​ขึ้น​จริง ๆ! สารานุกรม อเมริกานา อธิบาย​ว่า “ใน​ช่วง 15 ปี​ต่อ​จาก​นั้น การ​ค้น​พบ​แกลเลียม, สแกนเดียม, เจอร์เมเนียม ซึ่ง​มี​คุณสมบัติ​สอดคล้อง​ต้อง​กัน​กับ​ที่​เมนเดเลเยฟ​ทำนาย​ไว้ ได้​ยืน​ยัน​ความ​ถูก​ต้อง​ของ​ตาราง​ธาตุ​และ​นำ​ชื่อเสียง​มา​สู่​ผู้​ค้น​พบ.” พอ​ถึง​ช่วง​ต้น ๆ ของ​ศตวรรษ​ที่ 20 ธาตุ​ทั้ง​หมด​ที่​มี​อยู่​ก็​ถูก​ค้น​พบ.

เป็น​ที่​ประจักษ์​ชัด ดัง​ที่​เอลเมอร์ ดับเบิลยู. เมาเรอร์ นัก​เคมี​วิจัย​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “การ​จัด​ระเบียบ​อย่าง​สวย​งาม​นี้​คง​จะ​ไม่​เกิด​ขึ้น​โดย​บังเอิญ.” เกี่ยว​กับ​ความ​เป็น​ไป​ได้​ที่​ลำดับ​ธาตุ​ซึ่ง​ประสาน​สัมพันธ์​กัน​จะ​เกิด​โดย​บังเอิญ​นั้น ศาสตราจารย์​ทาง​เคมี​ชื่อ จอห์น คลีฟแลนด์ คอทแรน ให้​ข้อ​สังเกต​ดัง​นี้: “การ​ค้น​พบ​ธาตุ​ทั้ง​หมด​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ซึ่ง [เมนเดเลเยฟ] ได้​ทำนาย​ไว้ และ​คุณสมบัติ​ต่าง ๆ ที่​เกือบ​จะ​ตรง​กับ​ที่​เขา​ทำนาย​นั้น แท้​จริง​แล้ว ขจัด​ความ​เป็น​ไป​ได้​ทุก​อย่าง​ใน​เรื่อง​ของ​การ​เกิด​โดย​บังเอิญ. ถ้อย​แถลง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​เขา​ไม่​เคย​ถูก​เรียก​ว่า ‘โอกาส พีริออดิก’ แต่​เรียก​ว่า ‘กฎ พีริออดิก’ (กฎ​การ​จัด​ลำดับ​ธาตุ).”

การ​ศึกษา​ธาตุ​ต่าง ๆ อย่าง​พินิจ​พิเคราะห์ และ​การ​รู้​วิธี​ที่​มัน​ประกอบ​เข้า​ด้วย​กัน​อย่าง​เหมาะเจาะ​เพื่อ​ก่อ​ตัว​เป็น​สรรพสิ่ง​ใน​เอกภพ​ทำ​ให้ พี. เอ. เอ็ม. ดิแรก นัก​ฟิสิกส์​ผู้​มี​ชื่อเสียง ซึ่ง​เป็น​ศาสตราจารย์​ทาง​คณิตศาสตร์​ประจำ​มหาวิทยาลัย​เคมบริดจ์ พูด​ว่า “บาง​ที​เรา​อาจ​พรรณนา​สถานการณ์​นี้​โดย​กล่าว​ว่า พระเจ้า​เป็น​ยอด​นัก​คณิตศาสตร์ และ​พระองค์​ทรง​ใช้​หลัก​คณิตศาสตร์​ชั้น​สูง​ยิ่ง​ใน​การ​สร้าง​เอกภพ.”

จริง​ที​เดียว เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​หลงใหล​ตรึง​ใจ​เมื่อ​มอง​เข้า​ไป​ใน​อาณาจักร​ของ​สิ่ง​ที่​มอง​ไม่​เห็น ไม่​ว่า​จะ​เป็น​อะตอม, โมเลกุล, และ​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต​ซึ่ง​เล็ก​เหลือ​ประมาณ ตลอด​จน​กาแล็กซี​มหึมา​ที่​ประกอบ​ด้วย​ดวง​ดาว​ต่าง ๆ ซึ่ง​อยู่​ไกล​เกิน​วิสัย​ที่​ตา​เปล่า​จะ​เห็น​ได้! สิ่ง​ที่​ได้​เห็น​ทำ​ให้​ต้อง​เจียม​ตัว. ใน​ส่วน​ตัว​แล้ว คุณ​ได้​รับ​ผล​กระทบ​อย่าง​ไร? สิ่ง​เหล่า​นี้​สะท้อน​ให้​คุณ​เห็น​อะไร? คุณ​เห็น​มาก​กว่า​ที่​ตา​จริง ๆ ของ​คุณ​สามารถ​มอง​เห็น​ไหม?

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 31 สาร​หลัก​มูล​ที่​ประกอบ​ด้วย​อะตอม​ชนิด​เดียว​กัน. ใน​โลก​มี​ธาตุ​เพียง 88 ชนิด​เท่า​นั้น​ที่​มี​อยู่​ใน​ธรรมชาติ.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 5]

เร็ว​เกิน​กว่า​ที่​ตา​จะ​เห็น​ได้

เนื่อง​จาก​ม้า​ที่​กำลัง​ควบ​อยู่​นั้น​เคลื่อน​ไหว​เร็ว​มาก พวก​ผู้​ชาย​ใน​ศตวรรษ​ที่ 19 จึง​ถกเถียง​กัน​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า ณ จังหวะ​ใด​จังหวะ​หนึ่ง​กีบ​เท้า​ทุก​ข้าง​ของ​มัน​จะ​ลอย​จาก​พื้น​ดิน​พร้อม​กัน​หรือ​ไม่. ใน​ที่​สุด ใน​ปี 1872 เอ็ดเวิร์ด ไมย์บริดจ์ ได้​เริ่ม​ทำ​การ​ทดลอง​ถ่าย​ภาพ ซึ่ง​ต่อ​มา​ช่วย​ไข​ความ​กระจ่าง​ใน​เรื่อง​นี้. เขา​คิด​ค้น​เทคนิค​การ​ถ่าย​ภาพยนตร์​เรื่อง​แรก​ที่​มี​วัตถุ​เคลื่อน​ที่​ด้วย​ความ​เร็ว​สูง.

ไมย์บริดจ์​ตั้ง​กล้อง​ถ่าย​รูป 24 ตัว เรียง​เป็น​แนว​หน้า​กระดาน โดย​เว้น​ระยะ​ห่าง​กัน​เล็ก​น้อย. เขา​ขึง​เชือก​จาก​ชัตเตอร์​ของ​กล้อง​แต่​ละ​ตัว​ตัด​ผ่าน​ลู่​วิ่ง เพื่อ​ม้า​ที่​ควบ​มา​จะ​เตะ​เชือก​แล้ว​กระตุก​ชัตเตอร์​ให้​ทำ​งาน. การ​วิเคราะห์​ผล​จาก​ภาพ​ถ่าย​ปรากฏ​ว่า บาง​จังหวะ ม้า​ลอย​อยู่​เหนือ​พื้น​ดิน​จริง ๆ.

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Courtesy George Eastman House

[ภาพ​หน้า 7]

ทำไม​น้ำ​แข็ง​จึง​ลอย ไม่​จม?

[ภาพ​หน้า 7]

โมเลกุล​ดีเอ็นเอ​มี​เส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง 0.0000025 มิลลิเมตร กระนั้น ข้อมูล​ที่​บรรจุ​อยู่​ข้าง​ใน​มี​มาก​ถึง​หนึ่ง​ล้าน​หน้า​กระดาษ

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Computerized model of DNA: Donald Struthers/Tony Stone Images

[ภาพ​หน้า 8]

ใน​แต่​ละ​เซลล์​ของ​ตัว​เรา—ซึ่ง​ทั้ง​หมด​มี 100 ล้าน​ล้าน​เซลล์—มี​ปฏิกิริยา​ทาง​เคมี​เกิด​ขึ้น​นับ​หมื่น ๆ ปฏิกิริยา​ใน​แบบ​ที่​ประสาน​สัมพันธ์​กัน

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 8]

Copyright Dennis Kunkel, University of Hawaii

[ภาพ​หน้า 9]

โดย​ใช้​ตาราง​ธาตุ​ของ​เขา เมนเดเลเยฟ​นัก​เคมี​ชาว​รัสเซีย ลง​ความ​เห็น​ว่า​ธาตุ​ต่าง ๆ ไม่​ได้​ถูก​สร้าง​อย่าง​ไร้​แบบ​แผน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Courtesy National Library of Medicine