ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การอยู่กับความเจ็บป่วยของคุณอย่างประสบความสำเร็จ—โดยวิธีใด?

การอยู่กับความเจ็บป่วยของคุณอย่างประสบความสำเร็จ—โดยวิธีใด?

การ​อยู่​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​อย่าง​ประสบ​ความ​สำเร็จ—โดย​วิธี​ใด?

จง​มั่น​ใจ​ว่า​ความ​รู้สึก​ที่​อาจ​กำลัง​โถม​ทับ​คุณ​นั้น​เป็น​เรื่อง​ที่​มี​เหตุ​ผล. แม้​ว่า​ใน​ทาง​กาย​คุณ​ป่วย​หรือ​ทุพพลภาพ​จริง แต่​จิตใจ​ของ​คุณ​ยัง​ไม่​ยอม​รับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​ความ​เจ็บ​ป่วย​นั้น​ก่อ​ขึ้น. อาจ​ดู​เหมือน​ว่า​คุณ​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​กำลัง​ต่อ​สู้​กัน เป็น​การ​ต่อ​สู้​ระหว่าง​สิ่ง​ที่​คุณ​เคย​เป็น​กับ​สิ่ง​ที่​คุณ​อาจ​กำลัง​จะ​เป็น. และ​ตอน​นี้​ดู​เหมือน​ว่า​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​กำลัง​ได้​เปรียบ. กระนั้น คุณ​ก็​สามารถ​พลิก​สถานการณ์​ได้. โดย​วิธี​ใด?

ดร. คิตตี สไตน์​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “เมื่อ​เกิด​การ​สูญ​เสีย​อัน​เนื่อง​มา​จาก​ความ​เจ็บ​ป่วย ความ​รู้สึก​นี้​จะ​เหมือน​กับ​การ​สูญ​เสีย​เนื่อง​ด้วย​ความ​ตาย​มาก​ที​เดียว.” ด้วย​เหตุ​นี้ เมื่อ​คุณ​สูญ​เสีย​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​คุณ​รัก​มาก​อย่าง​สุขภาพ​ของ​คุณ ก็​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​ต้อง​ให้​เวลา​สำหรับ​การ​โศก​เศร้า​และ​ร้องไห้ เหมือน​กับ​ที่​คุณ​จะ​ร้องไห้​คร่ำ​ครวญ​เมื่อ​คน​ที่​คุณ​รัก​เสีย​ชีวิต. ที่​จริง คุณ​อาจ​สูญ​เสีย​มาก​กว่า​สุขภาพ​ของ​คุณ. ดัง​ที่​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​อธิบาย​ไว้ “ดิฉัน​ต้อง​ออก​จาก​งาน. . . . ดิฉัน​ไม่​สามารถ​พึ่ง​พา​ตน​เอง​อย่าง​ที่​ดิฉัน​เคย​ทำ​มา​ตลอด.” แม้​กระนั้น จง​มอง​ความ​สูญ​เสีย​ของ​คุณ​ด้วย​ทัศนะ​ที่​ถูก​ต้อง. ดร. สไตน์​ซึ่ง​ตัว​เธอ​เอง​เป็น​โรค​ปลอก​ประสาท​เสื่อม​แข็ง​เสริม​ว่า “คุณ​ต้อง​โศก​เศร้า​ใน​สิ่ง​ที่​เสีย​ไป แต่​คุณ​ก็​ต้อง​เข้าใจ​ด้วย​ว่า​ยัง​มี​อะไร​เหลือ​อยู่​บ้าง.” ที่​จริง เมื่อ​คุณ​ฝ่า​ฟัน​ผ่าน​ความ​โศก​เศร้า​ใน​ช่วง​แรก​ไป​แล้ว คุณ​ก็​จะ​เห็น​ว่า​คุณ​ยัง​มี​สิ่ง​สำคัญ​หลาย​อย่าง​ซึ่ง​ไม่​ได้​สูญ​เสีย​ไป. อย่าง​หนึ่ง​คือ คุณ​มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​ปรับ​ตัว.

นัก​เดิน​เรือ​ไม่​สามารถ​ควบคุม​พายุ​ได้ แต่​เขา​สามารถ​ฝ่า​ฟัน​พายุ​ได้​โดย​การ​ปรับ​ใบ​เรือ​ของ​เขา. คล้าย​กัน คุณ​ไม่​สามารถ​ควบคุม​ความ​เจ็บ​ป่วย​ซึ่ง​ถา​โถม​เข้า​มา​ใน​ชีวิต​ของ​คุณ​ราว​กับ​พายุ​ได้ แต่​คุณ​สามารถ​รับมือ​กับ​มัน​ได้​โดย​ปรับ “ใบ​เรือ” ของ​คุณ ซึ่ง​ก็​คือ​ความ​สามารถ​ทาง​กาย, จิตใจ, และ​ความ​รู้สึก. อะไร​ได้​ช่วย​คน​อื่น ๆ ที่​ป่วย​เรื้อรัง​ให้​ทำ​เช่น​นั้น?

เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ

หลัง​จาก​ผ่าน​ความ​รู้สึก​ใน​ช่วง​แรก ๆ ซึ่ง​เกิด​จาก​การ​วินิจฉัย​โรค​แล้ว หลาย​คน​รู้สึก​ว่า​การ​รู้​ข้อ​เท็จ​จริง​อัน​เจ็บ​ปวด​นั้น​ดี​กว่า​การ​เผชิญ​กับ​ความ​กลัว​ที่​ซ้อน​เร้น. ความ​กลัว​อาจ​ทำ​ให้​คุณ​ทำ​อะไร​ไม่​ได้ แต่​การ​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​คุณ​อาจ​ช่วย​คุณ​ให้​คิด​ว่า​จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง—และ​เรื่อง​นี้​ใน​ตัว​มัน​เอง​แล้ว​มัก​จะ​ส่ง​ผล​กระทบ​ใน​ทาง​ดี. นาย​แพทย์​เดวิด สปีเกิล​แห่ง​มหาวิทยาลัย​สแตนฟอร์ด​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “สังเกต​ดู​สิ​ว่า​คุณ​รู้สึก​ดี​ขึ้น​สัก​เพียง​ไร​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​คุณ​กังวล​ถ้า​คุณ​มี​แผนการ​ที่​จะ​รับมือ​กับ​มัน. นาน​ก่อน​ที่​คุณ​จะ​ลง​มือ​ทำ​อะไร​จริง ๆ คุณ​ก็​ลด​ความ​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ​ลง​ได้​โดย​วาง​แผน​ว่า​จะ​ทำ​อะไร.”

คุณ​อาจ​รู้สึก​ว่า​จำ​ต้อง​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​สภาพการณ์​ของ​คุณ. ดัง​ที่​สุภาษิต​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ไว้ “ชาย​ที่​มี​ความ​รู้​ก็​มี​กำลัง​มาก​ขึ้น.” (สุภาษิต 24:5, ล.ม.) ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ต้อง​นอน​ป่วย​อยู่​บน​เตียง​แนะ​นำ​ให้ “หา​หนังสือ​จาก​ห้อง​สมุด​มา​อ่าน. เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​มาก​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​ทำ​ได้.” ขณะ​ที่​คุณ​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​การ​รักษา​ที่​มี​อยู่​และ​วิธี​การ​ต่าง ๆ ใน​การ​รับมือ คุณ​อาจ​พบ​ว่า​สภาพการณ์​ของ​คุณ​นั้น​อาจ​ไม่​ได้​แย่​อย่าง​ที่​คุณ​เคย​คิด. คุณ​อาจ​เห็น​เหตุ​ผล​บาง​อย่าง​ที่​ควร​จะ​มอง​ใน​แง่​ดี​ด้วย​ซ้ำ.

กระนั้น การ​เข้าใจ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​ด้วย​เหตุ​ผล​ไม่​ใช่​เป้าหมาย​สุด​ท้าย​ของ​คุณ. นาย​แพทย์​สปีเกิล​อธิบาย​ว่า “การ​รวบ​รวม​ข้อมูล​นี้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ขั้น​ตอน​สำคัญ​ใน​การ​รับมือ​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย, การ​เข้าใจ​ความ​เจ็บ​ป่วย​นั้น, การ​มอง​ความ​เจ็บ​ป่วย​นั้น​ด้วย​ทัศนะ​ที่​ถูก​ต้อง.” การ​ยอม​รับ​ว่า​ชีวิต​ของ​คุณ​ได้​เปลี่ยน​ไป​แต่​ยัง​ไม่​จบ​สิ้น​นั้น​เป็น​ขั้น​ตอน​อัน​ละเอียดอ่อน​และ​มัก​เป็น​ไป​อย่าง​ช้า ๆ. แต่​ขั้น​ตอน​ที่​ก้าว​ไป​ข้าง​หน้า​นี้—จาก​การ​เข้าใจ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ด้วย​เหตุ​ผล​ไป​สู่​การ​ยอม​รับ​ทาง​ความ​รู้สึก—เป็น​ขั้น​ตอน​ที่​คุณ​สามารถ ทำ​ได้. โดย​วิธี​ใด?

การ​พบ​ความ​มั่นคง​อัน​ละเอียดอ่อน

คุณ​อาจ​ต้อง​ปรับ​ทัศนะ​ของ​คุณ​ว่า​การ​ยอม​รับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​นั้น​หมาย​ถึง​อะไร. ถ้า​จะ​ว่า​ไป การ​ยอม​รับ​ว่า​คุณ​ป่วย​ไม่​ได้​เป็น​สัญญาณ​ของ​ความ​ล้มเหลว เช่น​เดียว​กับ​การ​ที่​นัก​เดิน​เรือ​ยอม​รับ​ว่า​กำลัง​เกิด​พายุ​ก็​ไม่​ได้​เป็น​สัญญาณ​ว่า​เขา​ล้มเหลว. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น การ​มอง​พายุ​ตาม​สภาพ​จริง​กระตุ้น​ให้​เขา​ลง​มือ​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน การ​ยอม​รับ​ว่า​คุณ​ป่วย​ไม่​ใช่​ความ​ล้มเหลว แต่​หมาย​ถึง “การ​ก้าว​หน้า​ไป​ใน​ทิศ​ทาง​ใหม่” ดัง​ที่​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ป่วย​เรื้อรัง​ให้​ข้อ​สังเกต.

แม้​ว่า​ความ​สามารถ​ทาง​กาย​ของ​คุณ​อาจ​ลด​ลง คุณ​อาจ​ต้อง​เตือน​ตัว​เอง​ว่า​คุณลักษณะ​ด้าน​จิตใจ, ด้าน​อารมณ์​ความ​รู้สึก, และ​ด้าน​จริยธรรม​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ผล​กระทบ. ตัว​อย่าง​เช่น คุณ​ยัง​มี​เชาวน์​ปัญญา​และ​ความ​สามารถ​ใน​การ​จัด​การ​และ​การ​หา​เหตุ​ผล​อยู่​ไหม? บาง​ที​คุณ​อาจ​ยัง​มี​รอย​ยิ้ม​อัน​อ่อน​ละมุน, ความ​สนใจ​ใน​ผู้​อื่น, และ​ความ​สามารถ​ที่​จะ​เป็น​ผู้​ฟัง​ที่​ดี​และ​เพื่อน​แท้. และ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด คุณ​ยัง​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า.

นอก​จาก​นั้น จง​จำ​ไว้​ว่า​แม้​คุณ​ไม่​สามารถ​เปลี่ยน​สภาพการณ์​ของ​คุณ​ได้​ทั้ง​หมด แต่​คุณ​ก็​ยัง​สามารถ​ตัดสิน​ว่า​คุณ​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ต่อ​สภาพการณ์​เหล่า​นั้น. ไอรีน พอลลิน จาก​สถาบัน​มะเร็ง​แห่ง​สหรัฐ กล่าว​ว่า “คุณ​เป็น​คน​กำหนด​ว่า​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ต่อ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ. คุณ​มี​อำนาจ​ใน​เรื่อง​นี้​ไม่​ว่า​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​จะ​ก่อ​ผล​เช่น​ไร​บ้าง.” เฮเลน หญิง​วัย 70 ปี​ซึ่ง​เป็น​โรค​ปลอก​ประสาท​เสื่อม​แข็ง​ขั้น​รุนแรง​ยืน​ยัน​ว่า “ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​มาก​เท่า​ใด​นัก แต่​ขึ้น​อยู่​กับ​ปฏิกิริยา​ของ​คุณ​ต่อ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ต่าง​หาก​ที่​ตัดสิน​ว่า​คุณ​จะ​ได้​ความ​มั่นคง​ทาง​จิตใจ​กลับ​คืน​มา​อีก​หรือ​ไม่.” ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ต้อง​รับมือ​กับ​ความ​ทุพพลภาพ​มา​เป็น​เวลา​หลาย​ปี​กล่าว​ว่า “เจตคติ​ใน​แง่​บวก​เป็น​เหมือน​กระดูก​งู​เรือ​ที่​ทำ​ให้​เรือ​ทรง​ตัว​ได้.” ที่​จริง สุภาษิต 18:14 กล่าว​ว่า “จิตต์​ของ​คน​จะ​ประคอง​ตน​ไว้​ใน​เวลา​ที่​เขา​อ่อน​กำลัง; แต่​เมื่อ​มี​จิตต์​ใจ​ชอก​ช้ำ​ใคร​เล่า​จะ​ทน​ได้?”

การ​สามารถ​ควบคุม​ชีวิต​ได้​อีก

ขณะ​ที่​คุณ​รู้สึก​มั่นคง​ทาง​อารมณ์​อีก​ครั้ง คำ​ถาม​เช่น ‘ทำไม​เรื่อง​นี้​จึง​เกิด​กับ​ฉัน?’ อาจ​กลาย​เป็น ‘ใน​เมื่อ​เรื่อง​นี้​เกิด​กับ​ฉัน ฉัน​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี?’ ถึง​ตอน​นี้​คุณ​อาจ​เลือก​จะ​ดำเนิน​ใน​ขั้น​ต่อ​ไป​เพื่อ​จะ​ก้าว​ไป​ไกล​กว่า​สถานการณ์​ที่​เป็น​อยู่​ใน​ปัจจุบัน. ขอ​ให้​เรา​มา​พิจารณา​บาง​เรื่อง.

ประเมิน​สถานการณ์​ของ​คุณ คิด​ถึง​สิ่ง​ที่​คุณ​ต้อง​ปรับ แล้ว​หา​ทาง​เปลี่ยน​แปลง​สิ่ง​ที่​เปลี่ยน​ได้. นาย​แพทย์​สปีเกิล​กล่าว​ว่า “ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​ให้​โอกาส​ที่​จะ​ประเมิน​ค่า​ชีวิต​อีก​ครั้ง—เป็น​สัญญาณ​กระตุ้น​ให้​ตื่น ไม่​ใช่​ลาง​มรณะ.” จง​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘อะไร​เคย​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​สำหรับ​ฉัน​ก่อน​ที่​ฉัน​จะ​ป่วย? เรื่อง​นี้​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​ไร?’ การ​ตั้ง​คำ​ถาม​ลักษณะ​นี้​ไม่​ใช่​เพื่อ​สำรวจ​ว่า​มี​อะไร​บ้าง​ที่​คุณ​ทำ​ไม่​ได้​อีก​ต่อ​ไป แต่​เพื่อ​ดู​ว่า​มี​อะไร​บ้าง​ที่​คุณ​ยัง​ทำ​ได้ บาง​ที​โดย​การ​ทำ​ใน​วิธี​ที่​ต่าง​ออก​ไป. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ลอง​พิจารณา​เฮเลน​ที่​อ้าง​ถึง​ข้าง​ต้น.

โรค​ปลอก​ประสาท​เสื่อม​แข็ง​ที่​เป็น​มา​ถึง 25 ปี​ได้​ทำ​ให้​กล้ามเนื้อ​ของ​เธอ​อ่อนแอ​ลง. ตอน​แรก เธอ​ใช้​เครื่อง​ช่วย​เดิน​เพื่อ​จะ​เดิน​ได้. ต่อ​มา​เมื่อ​เธอ​ไม่​สามารถ​ใช้​มือ​ขวา​ได้​อีก เธอ​ก็​เปลี่ยน​มา​ใช้​มือ​ซ้าย. จาก​นั้น มือ​ซ้าย​ของ​เธอ​ก็​ใช้​การ​ไม่​ได้. แล้ว​ประมาณ​แปด​ปี​ที่​แล้ว เธอ​ก็​เดิน​ไม่​ได้​อีก​ต่อ​ไป. ตอน​นี้​เธอ​ต้อง​ให้​คน​อื่น​อาบ​น้ำ, ป้อน​อาหาร, และ​แต่ง​ตัว​ให้​เธอ. เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​เธอ​เศร้า​ใจ แต่​กระนั้น เธอ​ก็​กล่าว​ว่า “คติ​ประจำ​ใจ​ของ​ดิฉัน​ยัง​เหมือน​เดิม คือ ‘คิด​ถึง​สิ่ง​ที่​คุณ​ทำ​ได้ ไม่​ใช่​สิ่ง​ที่​คุณ​เคย​ทำ.’ ” และ​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​สามี​ของ​เธอ​และ​พยาบาล​ที่​มา​ดู​แล​เธอ​รวม​ทั้ง​ความ​คิด​สร้าง​สรรค์​ของ​เธอ​เอง เธอ​จึง​สามารถ​ทำ​กิจกรรม​บาง​อย่าง​ที่​เธอ​เคย​ทำ​มา​ตลอด​ได้​ต่อ​ไป. ตัว​อย่าง​เช่น การ​แบ่ง​ปัน​คำ​สัญญา​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เรื่อง​โลก​ใหม่​อัน​สงบ​สุข​ที่​กำลัง​จะ​มา​ถึง​เป็น​ส่วน​ที่​มี​ค่า​ใน​ชีวิต​ของ​เธอ​มา​ตั้ง​แต่​เธอ​มี​อายุ 11 ปี และ​ปัจจุบัน​เธอ​ก็​ยัง​ทำ​อย่าง​นี้​ทุก​สัปดาห์. (มัดธาย 28:19, 20) เฮเลน​อธิบาย​ว่า​เธอ​ทำ​อย่าง​ไร:

“ดิฉัน​ขอ​ให้​พยาบาล​ที่​ดู​แล​ดิฉัน​ถือ​หนังสือ​พิมพ์​ให้. เรา​อ่าน​ข่าว​งาน​ศพ​ด้วย​กัน​และ​เลือก​บาง​งาน. แล้ว​ดิฉัน​ก็​บอก​พยาบาล​ว่า​ดิฉัน​อยาก​ให้​มี​เรื่อง​ใด​บ้าง​อยู่​ใน​จดหมาย​ที่​จะ​ส่ง​ไป​ถึง​ญาติ​ของ​ผู้​ตาย​นั้น แล้ว​พยาบาล​ก็​พิมพ์​จดหมาย. พร้อม​กับ​จดหมาย​ฉบับ​นั้น ดิฉัน​ส่ง​จุลสาร​เมื่อ​คน​ที่​คุณ​รัก​เสีย​ชีวิต *ไป​ด้วย ซึ่ง​อธิบาย​ความ​หวัง​ที่​ให้​การ​ปลอบ​ประโลม​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. ดิฉัน​ทำ​อย่าง​นี้​ทุก​บ่าย​วัน​อาทิตย์. การ​ที่​ดิฉัน​ยัง​สามารถ​แบ่ง​ปัน​ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​กับ​คน​อื่น​ทำ​ให้​ดิฉัน​มี​ความ​สุข.”

ตั้ง​เป้า​ที่​สม​เหตุ​สม​ผล​และ​บรรลุ​ได้. เหตุ​ผล​หนึ่ง​ที่​เฮเลน​พยายาม​เปลี่ยน​แปลง​สิ่ง​ที่​เปลี่ยน​ได้​คือ​สิ่ง​นั้น​ช่วย​ให้​เธอ​ตั้ง​เป้า​และ​บรรลุ​เป้า​นั้น. เรื่อง​นี้​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​สำหรับ​คุณ​ด้วย. เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​การ​ตั้ง​เป้า​ทำ​ให้​คุณ​มุ่ง​ความ​สนใจ​ไป​ยัง​อนาคต และ​การ​บรรลุ​เป้า​ทำ​ให้​คุณ​รู้สึก​ประสบ​ความ​สำเร็จ. การ​ทำ​เช่น​นี้​ยัง​อาจ​ทำ​ให้​ความ​มั่น​ใจ​ของ​คุณ​กลับ​คืน​มา​ได้​บ้าง​ด้วย. กระนั้น จง​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​เป้าหมาย​ที่​คุณ​ตั้ง​ไว้​นั้น​เป็น​แบบ​เจาะจง. ตัว​อย่าง​เช่น คุณ​อาจ​ตั้ง​เป้า​ว่า ‘วัน​นี้​ฉัน​จะ​อ่าน​พระ​คัมภีร์​หนึ่ง​บท.’ และ​จง​ตั้ง​เป้า​ที่​ทำ​ได้​จริง​สำหรับ​คุณ​ด้วย. เนื่อง​จาก​สภาพ​ร่าง​กาย​และ​อารมณ์​ความ​รู้สึก​ของ​คุณ​ต่าง​ไป​จาก​ผู้​ป่วย​ใน​ระยะ​ยาว​ราย​อื่น คุณ​อาจ​ไม่​สามารถ​บรรลุ​เป้า​เดียว​กัน​กับ​ที่​พวก​เขา​ทำ​ได้.—ฆะลาเตีย 6:4.

เลกซ์ ซึ่ง​อยู่​ใน​เนเธอร์แลนด์ กล่าว​ว่า “ไม่​ว่า​เป้าหมาย​ของ​คุณ​จะ​เล็ก​น้อย​เพียง​ใด การ​บรรลุ​เป้าหมาย​นั้น​จะ​เป็น​แรง​บันดาล​ใจ​ให้​คุณ​ทำ​มาก​ขึ้น.” กว่า 20 ปี​ที่​แล้ว​ตอน​ที่​เขา​มี​อายุ 23 ปี เขา​ประสบ​อุบัติเหตุ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เป็น​อัมพาต. ระหว่าง​การ​ทำ​กายภาพ​บำบัด​หลาย​ครั้ง เขา​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​ตั้ง​เป้า เช่น ให้​ล้าง​หน้า​ด้วย​ผ้า​ขน​หนู. นั่น​นับ​เป็น​เรื่อง​ยาก แต่​เขา​ก็​ทำ​สำเร็จ. เมื่อ​เขา​เห็น​ว่า​ตน​สามารถ​บรรลุ​เป้า​นั้น​ได้ เขา​ก็​ตั้ง​เป้า​อีก​อย่าง​หนึ่ง คือ​เปิด​ปิด​หลอด​ยา​สี​ฟัน​ด้วย​ตัว​เอง. อีก​ครั้ง​หนึ่ง เขา​ประสบ​ความ​สำเร็จ. เลกซ์​บอก​ว่า “ถึง​มัน​จะ​ไม่​ง่าย แต่​ผม​ก็​พบ​ว่า​ผม​สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​หลาย​อย่าง​มาก​กว่า​ที่​ผม​เคย​คิด.”

ที่​จริง ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​ทิเนเก ภรรยา​ของ​เขา เลกซ์​ได้​บรรลุ​เป้าหมาย​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​นั้น. ตัว​อย่าง​เช่น โดย​ไป​กับ​ทิเนเก ตอน​นี้​เขา​ออก​ไป​เยี่ยม​ตาม​บ้าน​ด้วย​เก้าอี้​ล้อ​เพื่อ​แบ่ง​ปัน​ความ​รู้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​กับ​คน​อื่น. เขา​ยัง​ไป​เยี่ยม​คน​หนึ่ง​ที่​ทุพพลภาพ​อย่าง​หนัก​ทุก​สัปดาห์​และ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​คน​นั้น. เลกซ์​กล่าว​ว่า “การ​ช่วย​คน​อื่น ๆ ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​พึง​พอ​ใจ​อย่าง​มาก.” ดัง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ยืน​ยัน “การ​ให้​เป็น​เหตุ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​รับ.”—กิจการ 20:35.

คุณ​สามารถ​ตั้ง​เป้า​เพื่อ​ช่วย​คน​อื่น​ได้​เช่น​กัน​ไหม? การ​เป็น​คน​ป่วย​หรือ​คน​ทุพพลภาพ​อาจ​ช่วย​คุณ​ให้​เป็น​ผู้​ปลอบ​ประโลม​ที่​ชำนาญ​เป็น​พิเศษ เนื่อง​จาก​ปัญหา​ของ​คุณ​ทำ​ให้​คุณ​ไว​ต่อ​ความ​เจ็บ​ปวด​ของ​คน​อื่น​มาก​ขึ้น.

ติด​ต่อ​กับ​คน​อื่น. การ​ศึกษา​ทาง​การ​แพทย์​แสดง​ว่า​การ​ติด​ต่อ​สัมพันธ์​ทาง​สังคม​เป็น​สิ่ง​ที่​มี​ประโยชน์​ต่อ​สุขภาพ​ของ​คุณ. แต่​การ​ขาด​การ​ติด​ต่อ​สัมพันธ์​ก็​เป็น​อันตราย​ต่อ​สุขภาพ​ของ​คุณ​ด้วย. นัก​วิจัย​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​ความ​โดด​เดี่ยว​ทาง​สังคม​กับ​ความ​ตาย . . . เกี่ยว​พัน​กัน​มาก​เหมือน​กับ​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​การ​สูบ​บุหรี่ . . . กับ​ความ​ตาย.” เขา​เสริม​ว่า “การ​ปรับ​ปรุง​ความ​สัมพันธ์​ทาง​สังคม​อาจ​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ต่อ​สุขภาพ​ของ​คุณ​มาก​พอ ๆ กับ​การ​เลิก​สูบ​บุหรี่.” ไม่​แปลก​ที่​เขา​ลง​ความ​เห็น​ว่า​ทักษะ​ของ​เรา​ใน​การ​รักษา​ความ​สัมพันธ์​ทาง​สังคม “มี​คุณค่า​เพื่อ​การ​อยู่​รอด”!—สุภาษิต 18:1.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ดัง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​บทความ​ก่อน​หน้า​นี้ ปัญหา​อาจ​อยู่​ที่​ว่า​เพื่อน​ของ​คุณ​บาง​คน​ไม่​ได้​มา​เยี่ยม​คุณ​อีก​ต่อ​ไป. เพื่อ​ประโยชน์​ของ​คุณ​เอง คุณ​ต้อง​ต้านทาน​แนว​โน้ม​ที่​คุณ​จะ​อยู่​ตาม​ลำพัง​มาก​ขึ้น. แต่​โดย​วิธี​ใด? คุณ​อาจ​เริ่ม​ด้วย​การ​เชิญ​เพื่อน ๆ ของ​คุณ​ให้​มา​เยี่ยม.

ทำ​ให้​การ​มา​เยี่ยม​คุณ​เป็น​ประสบการณ์​ที่​น่า​เพลิดเพลิน. * คุณ​จะ​ทำ​อย่าง​นี้​ได้​โดย​จำกัด​การ​พูด​คุย​เรื่อง​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ เพื่อ​ผู้​ที่​มา​เยี่ยม​คุณ​จะ​ไม่​เบื่อ. ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ป่วย​เรื้อรัง​แก้​ปัญหา​นี้​โดย​จำกัด​เวลา​การ​พูด​คุย​เรื่อง​ความ​เจ็บ​ป่วย​กับ​สามี​ของ​เธอ. เธอ​บอก​ว่า “เรา​ต้อง​จำกัด​เรื่อง​นี้.” ที่​จริง ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ปิด​กั้น​เรื่อง​อื่น ๆ ทั้ง​หมด​ที่​คุณ​อาจ​คุย​ได้. หลัง​จาก​ได้​พูด​คุย​กับ​เพื่อน​ที่​ต้อง​นอน​ป่วย​อยู่​บน​เตียง​เกี่ยว​กับ​ศิลปะ, ประวัติศาสตร์, และ​เหตุ​ผล​สำหรับ​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​ใน​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า ผู้​มา​เยี่ยม​ไข้​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “เขา​ไม่​ปล่อย​ให้​ความ​เจ็บ​ป่วย​ควบคุม​ชีวิต​ของ​เขา. น่า​เพลิดเพลิน​จริง ๆ ที่​ได้​คุย​กับ​เขา.”

การ​มี​อารมณ์​ขัน​ก็​จะ​ทำ​ให้​เพื่อน​ที่​มา​เยี่ยม​คุณ​เพลิดเพลิน​เช่น​กัน. นอก​จาก​นั้น การ​หัวเราะ​เป็น​ประโยชน์​กับ​ตัว​คุณ​เอง. ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​โรค​พาร์คินสัน​กล่าว​ว่า “อารมณ์​ขัน​ช่วย​ให้​คุณ​รับมือ​ได้​ทั้ง​ใน สถานการณ์​และ​กับ สถานการณ์​หลาย​อย่าง.” จริง​ที​เดียว การ​หัวเราะ​เป็น​ยา​ที่​ดี​ได้. สุภาษิต 17:22 ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “ใจ​ที่​ร่าเริง​เป็น​เหมือน​โอสถ​วิเศษ.” การ​หัวเราะ​แม้​เพียง​ไม่​กี่​นาที​ก็​ช่วย​คุณ​ได้. ยิ่ง​กว่า​นั้น นัก​เขียน​ชื่อ​ซูซาน มิลสเตรย์ เวลส์ ซึ่ง​ตัว​เธอ​เอง​ก็​ป่วย​เรื้อรัง กล่าว​ว่า “ไม่​เหมือน​กับ​การ​รักษา​วิธี​อื่น ๆ บาง​วิธี​ที่​เรา​เคย​ลอง การ​หัวเราะ​นั้น​ปลอด​ภัย​ร้อย​เปอร์เซ็นต์, ไม่​มี​พิษ​ภัย, และ​สนุก . . . สิ่ง​ที่​เรา​ต้อง​เสีย​ไป​คือ​อารมณ์​ไม่​ดี​เท่า​นั้น.”

หา​วิธี​คลาย​ความ​เครียด. การ​ศึกษา​วิจัย​ยืน​ยัน​ว่า​ความ​เครียด​อาจ​ทำ​ให้​อาการ​ของ​โรค​แย่​ลง ขณะ​ที่​การ​คลาย​ความ​เครียด​ช่วย​ให้​อาการ​ดี​ขึ้น. ดัง​นั้น จง​เปลี่ยน​บรรยากาศ​เป็น​ครั้ง​คราว. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:1, 4) อย่า​หมกมุ่น​อยู่​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​เพียง​อย่าง​เดียว. ถ้า​คุณ​ออก​ไป​ไหน​ไม่​ได้ คุณ​อาจ​ลอง​ลด​ความ​เครียด​ทาง​อารมณ์​ความ​รู้สึก​โดย​ฟัง​เพลง​เบา ๆ, อ่าน​หนังสือ, อาบ​น้ำ​นาน ๆ, เขียน​จดหมาย​หรือ​บท​กลอน, วาด​ภาพ, เล่น​ดนตรี, คุย​กับ​เพื่อน​ที่​คุณ​ไว้​ใจ, หรือ​ทำ​อะไร​ทำนอง​นี้. การ​ทำ​เช่น​นี้​ไม่​สามารถ​แก้​ปัญหา​ของ​คุณ​ได้​อย่าง​ถาวร แต่​อาจ​ทำ​ให้​ปัญหา​ของ​คุณ​บรรเทา​ลง​ชั่ว​คราว.

ถ้า​คุณ​เดิน​ไป​ไหน​มา​ไหน​ได้ ลอง​ออก​ไป​เดิน​เล่น, ซื้อ​ของ, ทำ​สวน, ขับ​รถ​เล่น หรือ​ไป​เที่ยว​ถ้า​เป็น​ไป​ได้. จริง​อยู่ การ​เดิน​ทาง​อาจ​ยุ่งยาก​กว่า​เนื่อง​จาก​คุณ​ป่วย แต่​ด้วย​การ​เตรียม​ตัว​ล่วง​หน้า​และ​การ​รู้​จัก​ดัด​แปลง​บ้าง​ก็​อาจ​เอา​ชนะ​อุปสรรค​ต่าง ๆ ได้. ตัว​อย่าง​เช่น เลกซ์​กับ​ทิเนเก​ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ข้าง​ต้น​ได้​เดิน​ทาง​ไป​เที่ยว​ต่าง​ประเทศ. เลกซ์​บอก​ว่า “ตอน​แรก​ก็​เครียด​นิด​หน่อย แต่​ก็​เป็น​วัน​พักผ่อน​ที่​เรา​สนุก​มาก!” ที่​จริง ความ​เจ็บ​ป่วย​อาจ​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ใน​ชีวิต​คุณ แต่​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ควบคุม​ชีวิต​ของ​คุณ.

ได้​รับ​กำลัง​จาก​ความ​เชื่อ. คริสเตียน​แท้​ซึ่ง​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ใน​การ​รับมือ​กับ​ความ​ทุพพลภาพ​ขั้น​รุนแรง​กล่าว​ว่า​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​รวม​ทั้ง​การ​คบหา​กับ​ประชาคม​คริสเตียน​เป็น​แหล่ง​แห่ง​การ​ปลอบ​ประโลม​และ​ความ​เข้มแข็ง​เสมอ. * ต่อ​ไป​นี้​เป็น​ความ​คิด​เห็น​บาง​ประการ​ของ​พวก​เขา​เกี่ยว​กับ​คุณค่า​ของ​การ​อธิษฐาน, การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล, การ​คิด​ใคร่ครวญ​ถึง​เรื่อง​อนาคต, และ​การ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร.

● “บาง​ครั้ง​ผม​ยัง​รู้สึก​ซึมเศร้า. เมื่อ​ผม​รู้สึก​อย่าง​นั้น ผม​จะ​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา และ​พระองค์​ทรง​ช่วย​ผม​ฟื้น​ความ​ตั้งใจ​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ผม​สามารถ ทำ​ได้​ต่อ ๆ ไป.”—บทเพลง​สรรเสริญ 55:22; ลูกา 11:13.

● “การ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​คิด​รำพึง​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​อ่าน​ช่วย​ผม​ได้​มาก​ที่​จะ​รักษา​ความ​สงบ​ใจ.”—บทเพลง​สรรเสริญ 63:6; 77:11, 12.

● “คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​เตือน​ใจ​ดิฉัน​ว่า​ชีวิต​แท้​ยัง​อยู่​ใน​วัน​ข้าง​หน้า​และ​ดิฉัน​จะ​ไม่​พิการ​ตลอด​ไป.”—ยะซายา 35:5, 6; วิวรณ์ 21:3, 4.

● “การ​มี​ความ​เชื่อ​เกี่ยว​กับ​อนาคต​ที่​สัญญา​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​ผม​มี​กำลัง​ที่​จะ​จัด​การ​กับ​ชีวิต​เป็น​วัน ๆ ไป.”—มัดธาย 6:33, 34; โรม 12:12.

● “การ​อยู่ ณ การ​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​ช่วย​ดิฉัน​ให้​จดจ่อ​กับ​เรื่อง​ที่​เสริม​สร้าง​ไม่​ใช่​เรื่อง​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​ดิฉัน.”—บทเพลง​สรรเสริญ 26:12; 27:4.

● “การ​คบหา​ที่​หนุน​กำลังใจ​กับ​สมาชิก​ใน​ประชาคม​ทำ​ให้​หัวใจ​ของ​ดิฉัน​อบอุ่น.”—กิจการ 28:15.

คัมภีร์​ไบเบิล​รับรอง​กับ​เรา​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ทรง​ไว้​ซึ่ง​ความ​ดี, ทรง​เป็น​สถาน​นิรภัย​ใน​คราว​ภัย​พิบัติ, และ​พระองค์​ทรง​รู้​จัก​พวก​ที่​เข้า​มา​พึ่ง​อาศัย​ใน​พระองค์.” (นาฮูม 1:7) การ​มี​สัมพันธภาพ​อัน​แน่นแฟ้น​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​การ​คบหา​กับ​ประชาคม​คริสเตียน​เป็น​แหล่ง​แห่ง​การ​ปลอบ​ประโลม​และ​ความ​เข้มแข็ง.—โรม 1:11, 12; 2 โกรินโธ 1:3; 4:7.

ให้​เวลา​กับ​ตัว​เอง

นัก​สังคม​สงเคราะห์​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ช่วย​ผู้​คน​รับมือ​กับ​ผล​กระทบ​ของ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ใน​ระยะ​ยาว​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า การ​มี​ชีวิต​อยู่​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​หรือ​ความ​ทุพพลภาพ​ขั้น​รุนแรง​ได้​อย่าง​ประสบ​ผล​สำเร็จ​นั้น​เป็น​กระบวนการ​ที่ “ใช้​เวลา และ​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​ชั่ว​ข้าม​คืน.” ผู้​เชี่ยวชาญ​อีก​คน​หนึ่ง​แนะ​ว่า จง​ให้​เวลา​กับ​ตัว​เอง เพราะ​คุณ​กำลัง​เรียน​รู้ “ทักษะ​ใหม่​โดย​สิ้นเชิง นั่น​คือ​การ​รับมือ​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​อัน​รุนแรง.” จง​ตระหนัก​ว่า​แม้​มี​เจตคติ​ใน​แง่​บวก แต่​ก็​อาจ​มี​บาง​วัน​หรือ​บาง​สัปดาห์​ที่​คุณ​รู้สึก​แย่​เนื่อง​จาก​ความ​เจ็บ​ป่วย​ทำ​ให้​คุณ​อ่อน​ล้า. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป คุณ​อาจ​เห็น​ความ​ก้าว​หน้า. ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​เป็น​เช่น​นี้ เธอ​กล่าว​ว่า “ดิฉัน​ตื่นเต้น​จริง ๆ เมื่อ​รู้​ว่า​วัน​นั้น​ทั้ง​วัน​ผ่าน​ไป​โดย​ที่​ดิฉัน​ไม่​ได้​คิด​ถึง​โรค​มะเร็ง​เลย. . . . ไม่​นาน​มา​นี้​เอง ดิฉัน​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​คง​ไม่​มี​วัน​เป็น​ไป​ได้.”

จริง​ที​เดียว เมื่อ​คุณ​ผ่าน​ความ​กลัว​ใน​ช่วง​แรก​มา​ได้​และ​ตั้ง​เป้าหมาย​ใหม่ ๆ คุณ​อาจ​ประหลาด​ใจ​ที่​รู้​ว่า คุณ​สามารถ​รับมือ​ได้​ดี​เพียง​ไร—ดัง​ที่​บทความ​ถัด​ไป​แสดง​ให้​เห็น.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 17 จัด​พิมพ์​โดย​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แห่ง​นิวยอร์ก.

^ วรรค 24 แน่นอน คำ​แนะ​นำ​เกี่ยว​กับ​วิธี​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​มา​เยี่ยม​ใช้​ได้​กับ​วิธี​ที่​คุณ​ปฏิบัติ​ต่อ​คู่​สมรส, บุตร, หรือ​ผู้​ปรนนิบัติ​ดู​แล​คุณ​ด้วย.

^ วรรค 28 น่า​สนใจ งาน​ศึกษา​วิจัย​ทาง​การ​แพทย์​หลาย​ฉบับ​ระบุ​ว่า​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​ช่วย​ส่ง​เสริม​ให้​มี​สุขภาพ​ดี. ศาสตราจารย์​เดล แมตทิวส์​แห่ง​มหาวิทยาลัย​แพทย์​จอร์จ​ทาวน์​กล่าว​ว่า “ปัจจัย​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ได้​รับ​การ​พิสูจน์​ว่า​มี​คุณค่า.”

[ภาพ​หน้า 7]

การ​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ของ​คุณ​สามารถ​ช่วย​คุณ​ให้​รับมือ​ได้

[ภาพ​หน้า 8]

ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​คน​อื่น เฮเลน​เตรียม​จดหมาย​ที่​หนุน​กำลังใจ

[ภาพ​หน้า 8]

“การ​แบ่ง​ปัน​ข่าว​ดี​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ทำ​ให้​ดิฉัน​มี​ความ​สุข”

[ภาพ​หน้า 9]

“ผม​พบ​ว่า​แม้​ผม​จะ​เป็น​อัมพาต แต่​ผม​ก็​สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​หลาย​อย่าง​มาก​กว่า​ที่​ผม​เคย​คิด.”—เลกซ์