การเพ่งดูโลก
การเพ่งดูโลก
ความเสียหายจากอุทกภัยในโมซัมบิก
เดือนที่แล้วเป็นการครบรอบหนึ่งปีที่เกิดน้ำท่วมในโมซัมบิกซึ่งทำให้มากกว่าห้าแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย, ไร่ข้าวโพดประมาณหนึ่งในสามของประเทศถูกทำลาย, และปศุสัตว์มากกว่า 20,000 ตัวจมน้ำตาย. ขณะที่ประเทศกำลังฟื้นตัวจากอุทกภัยครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1948 หลายคนได้ถามว่าเหตุใดจึงเกิดอุทกภัยครั้งนี้และเกิดขึ้นอย่างไร. วารสารชีวิตสัตว์ป่าในแอฟริกา (ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า การขยายเมือง, การเพาะปลูกที่ทุ่งหญ้า, และการเลี้ยงสัตว์ล้นที่ในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ทางต้นน้ำเหนือประเทศโมซัมบิก เป็นการทำลายความสามารถทางธรรมชาติของทุ่งหญ้าและที่ราบลุ่มของประเทศในการดูดซับน้ำที่ท่วม. ดังนั้น เมื่อฝนตกหนัก จึงกลายเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากในที่สุด. เดวิด ลินด์ลี ผู้ประสานงานโครงการที่ลุ่มชื้นแฉะแห่งแอฟริกาใต้กล่าวดังนี้: “สิ่งที่มนุษย์ทำด้วยความหยิ่งและขาดวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลอย่างยิ่งนั้น เป็นการทำลายความสมบูรณ์ของที่ลุ่มชื้นแฉะและส่งผลทำให้แม่น้ำของเราเสื่อมสภาพลง.”
ปรับปริมาณน้ำมันสำรองของโลกเพิ่มขึ้น
วารสารไซเยนติฟิก อเมริกัน รายงานว่า “หลังจากการศึกษาวิจัยห้าปี หน่วยสำรวจธรณีแห่งสหรัฐ [ยูเอสจีเอส] ได้ปรับปริมาณน้ำมันดิบสำรองของโลกเพิ่มขึ้นจากการประเมินครั้งก่อนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ คือรวมทั้งหมด 649,000 ล้านบาร์เรล.” ซูซาน วีดแมน ผู้ประสานงานฝ่ายการประเมินปิโตรเลียมของโลกปี 2000 แห่งยูเอสจีเอส กล่าวว่า “สิ่งที่เราทำคือมองไปยังอนาคตและทำนายว่าจะมีการค้นพบ [น้ำมัน] มากน้อยเท่าไรในอีก 30 ปีข้างหน้า.” วารสารฉบับนั้นกล่าวว่า นอกจากจะค้นพบแหล่งน้ำมันสำรองใหม่แล้ว ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการขุดเจาะน้ำมันจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองของโลก โดยบริษัทปิโตรเลียมต่าง ๆ จะ “สูบน้ำมันจากแหล่งน้ำมันได้มากขึ้น.”
แต่งกายแบบลำลอง —ทำงานแบบสบาย ๆ หรือ?
การสำรวจทั่วประเทศออสเตรเลียพบว่า พนักงานบางคนเชื่อว่าการทำงานโดยแต่งกายแบบลำลองจะก่อให้เกิดความขี้เกียจ หนังสือพิมพ์เดอะ ซันเดย์ เทเลกราฟ รายงาน. เดี๋ยวนี้พนักงานในบริษัทคอมพิวเตอร์ของออสเตรเลียเกือบ 42 เปอร์เซ็นต์แต่งกายแบบลำลองทุกวัน และ 40 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทออสเตรเลียมี “วันศุกร์ลำลอง” ซึ่งในวันนั้นพนักงานจะสวมชุดลำลองหรือไม่ก็ได้. ถึงแม้การสวมชุดลำลองไปทำงานกำลังได้รับความนิยมในหมู่พนักงานก็ตาม แต่จากการสำรวจ มีหัวหน้าคนงาน 17 เปอร์เซ็นต์ที่คิดว่าการแต่งกายแบบลำลองส่งผลต่อประสิทธิภาพของลูกจ้าง. ตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับความเห็นของพนักงานเอง โดยผู้หญิง 21 เปอร์เซ็นต์และผู้ชาย 18 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าการสวมชุดลำลองส่งผลในแง่ลบต่อผลิตภัณฑ์.
จงเรียนต่อไป ขณะที่อายุมากขึ้น
หนังสือพิมพ์เดอะ โทรอนโต สตาร์ รายงานว่า การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในที่ทำงาน เช่น ระบบคอมพิวเตอร์และระบบการสื่อสารอาจเป็นเหตุให้ผู้ทำงานสูงอายุบางคนเกิดความเครียด. ผู้ตรวจสอบงานอาชีพ แอน เอบี กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ มักจะเกี่ยวข้องกับวิธีที่เขาเรียนรู้ แทนที่จะเกิดจากเรื่องที่เขากำลังเรียนรู้. จูเลีย เคนเนดี ประธานศูนย์พัฒนาและอบรมแห่งแอกเซียม อธิบายว่า “เมื่อเราอายุมากขึ้น ประสาทของเราสั่งงานช้าลง แต่สมองยังคงดีอยู่.” เคนเนดีให้ข้อสังเกตว่า ไม่เหมือนเด็กซึ่งชำนาญในการเรียนแบบท่องจำโดยไม่สนใจความหมายของเรื่องนั้น แต่ “ผู้ใหญ่ต้องนำสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว (ประสบการณ์ในชีวิต) มาเชื่อมเข้ากับสิ่งที่เขาเพิ่งเรียนรู้.” ถึงแม้ผู้ทำงานสูงอายุอาจใช้เวลามากกว่าเพื่อเรียนรู้งานที่ซับซ้อน กระนั้นพวกเขาก็ยังคงมีความสามารถที่จะเรียนรู้ได้. เคนเนดีให้คำแนะนำแก่ผู้ทำงานสูงอายุซึ่งกำลังพยายามเรียนรู้งานใหม่และยากดังต่อไปนี้: หากเป็นได้ คุณควรจัดตารางการฝึกไว้ในช่วงเช้า, พยายามคิดถึงภาพรวมแทนที่จะคิดถึงรายละเอียดทุกอย่าง, และหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบตัวคุณเองกับคนอื่น ๆ.
โคและก๊าซเรือนกระจก
กล่าวกันว่าก๊าซมีเทนมีศักยะมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 20 เท่าในการทำให้โลกร้อนขึ้น. ประมาณกันว่าตลอดทั่วโลก มีก๊าซมีเทนเกิดขึ้นราว 100 ล้านตันทุกปีจากปศุสัตว์, แกะ, และแพะประมาณสองพันล้านตัว. ตามรายงานจากหนังสือพิมพ์เดอะ แคนเบอร์รา
ไทมส์ ก๊าซเรือนกระจกที่กระจายอยู่ในออสเตรเลียเกิดจากพวกปศุสัตว์ 13 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่นิวซีแลนด์ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 46 เปอร์เซ็นต์. จุลินทรีย์ในกระเพาะของสัตว์จำพวกเคี้ยวเอื้องจะย่อยอาหารและผลิตก๊าซมีเทน ซึ่งจะปล่อยก๊าซนี้ออกมาทางปาก. โดยพยายามลดก๊าซนี้ที่มาจากสัตว์ซึ่งทำให้โลกร้อนขึ้น บัดนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังทดลองวิธีเพิ่มผลิตภัณฑ์นมต่อโคหนึ่งตัวขณะที่จะลดการเกิดก๊าซมีเทนจากสัตว์.ตำนานการสูบบุหรี่ถูกเปิดโปง
หนังสือพิมพ์โกลบ แอนด์ เมล์ แห่งแคนาดารายงานว่า “ถ้าพูดในแง่เศรษฐศาสตร์แล้ว การชักเหตุผลที่ว่าผู้สูบบุหรี่แบกภาระด้านการดูแลสุขภาพน้อยกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่เนื่องจากเขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรนั้นเป็นเรื่องไม่จริง.” นักวิจัยชาวดัตช์ซึ่งศึกษาสถานภาพสุขภาพของชาวดัตช์และชาวอเมริกันประมาณ 13,000 คนพบว่า ผู้ไม่สูบบุหรี่มีช่วงชีวิตที่เจ็บป่วยสั้นกว่าผู้สูบบุหรี่. ดร. วิลมา นุชเชลเดอร์ จากภาควิชาสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยเอราสมุสแห่งรอตเทอร์ดัมเขียนดังนี้: “การเลิกสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่จะยืดชีวิตให้ยืนยาวขึ้นและเพิ่มจำนวนปีที่ไม่เจ็บป่วยแต่ยังทำให้ช่วงชีวิตที่เจ็บป่วยสั้นลงอีกด้วย.” ตามรายงานของโกลบ “มีผู้สูบบุหรี่ตลอดทั่วโลกเกือบ 1,150 ล้านคน หนึ่งในสามของประชากรโลกที่เป็นผู้ใหญ่. ผู้สูบบุหรี่ประมาณ 943 ล้านคนอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา.”
โรคติดต่อทางเพศและเด็ก
“เด็กอายุแค่ 11 ขวบกำลังได้รับการรักษาเนื่องจากเป็นโรคติดต่อทางเพศ” รายงานจากหนังสือพิมพ์เดอะ ไทมส์ แห่งลอนดอน. เมืองหนึ่งในอังกฤษมีคนเป็นโรคหนองในมากกว่าเฉลี่ยของทั้งประเทศถึงสองเท่า และเด็กสาววัยรุ่น 1 ใน 8 คนติดโรคคลามีเดีย. มีการติดเชื้อคลามีเดียในอังกฤษเกือบสองเท่านับตั้งแต่ปี 1995 และเพิ่มขึ้นโดยเพียงแค่ปีที่แล้ว มีถึงหนึ่งในห้าของวัยรุ่นติดโรคนี้. ในช่วงห้าปีมีผู้เป็นโรคหนองในทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 56 เปอร์เซ็นต์และส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเป็นวัยรุ่น.
ใช้หัว
นางพญามดพันธุ์เบลฟาริเดตตา โคนอปส์ ซึ่งมีหัวกลมแบนและใหญ่นั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนาของบราซิล. ตามรายงานที่แนชันแนล จีโอกราฟิก ฉบับของบราซิลกล่าว นางพญามดใช้หัวที่ไม่ธรรมดานี้ปิดทางเข้ารังของมันซึ่งเป็นที่เก็บไข่, ตัวอ่อน, และตัวดักแด้, และเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้จากใคร ๆ ที่อาจเป็นศัตรู. พวกมดงานสร้างผนังรังของนางพญามดโดยใช้ส่วนต่าง ๆ ของซากแมลงที่มันเก็บรวบรวมเอาไว้. หลังจากดูดของเหลวและขจัดกล้ามเนื้อออกจากซากของแมลงเหล่านั้นอย่างระมัดระวังแล้ว พวกมดงานจะสร้างผนังล้อมนางพญามดไว้และเหลือทางเข้าให้พอดีกับหัวของนางพญา. พวกมดงานสามารถเข้าสู่รังพิเศษนี้ได้โดยเคาะที่หัวของนางพญามดเบา ๆ ซึ่งเป็นเหมือนรหัสผ่านแบบหนึ่ง.
ขโมยไฟฟ้า
องค์กรสาธารณูปโภคทั่วสหรัฐอเมริกากำลังเริ่มจัดการกับปัญหาที่กำลังเพิ่มมากขึ้น—การขโมยไฟฟ้า. ตามข้อสังเกตจากหนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล หลายปีก่อนดูเหมือนไม่คุ้มที่จะขโมยไฟฟ้า แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ค่าไฟฟ้าพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้การขโมยไฟฟ้าเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น. ยกตัวอย่าง บริษัท เอดิสัน ดีทรอยต์ ประมาณว่าในปี 1999 บริษัทต้องสูญเสียเงิน 40 ล้านดอลลาร์จากการถูกขโมยไฟฟ้า. เป็นที่รู้กันว่า พวกขโมยที่มักไม่ตระหนักถึงอันตราย ใช้เครื่องมือง่าย ๆ อย่างเช่น สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์, สายพ่วงที่ใช้กันในบ้าน, และท่อทองแดง. อีกวิธีหนึ่งคือขุดลงไปใต้ดินเพื่อต่อสายเข้ากับสายไฟใหญ่ของบริษัท.
ไม่มีใครคิดถึงเขาเลยหรือ?
เมื่อไม่นานมานี้มีการพบซากศพแห้งแล้วของชายคนหนึ่งในอพาร์ตเมนต์ที่เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์. ช่างซ่อมบำรุงคนหนึ่งซึ่งเข้าไปในอพาร์ตเมนต์เพื่อติดตั้งสัญญาณเตือนอัคคีภัย ได้สังเกตเห็นหน้าห้องหนึ่งมีจดหมายกองโตและมีกลิ่นเหม็นออกมาจากห้อง. ตำรวจซึ่งได้รับแจ้งเรื่องนี้พบว่าผู้รับเงินสงเคราะห์วัย 55 ปีรายนี้อาศัยอยู่ในห้องเพียงคนเดียวและเสียชีวิตนานกว่าหกปีแล้ว. ดังรายงานในหนังสือพิมพ์เฮลซิงกิน ซาโนเมต ได้กล่าว ตลอดช่วงเวลานั้นสำนักประกันสังคมส่งเบี้ยบำนาญให้กับเขาและสำนักงานสวัสดิการก็จ่ายค่าเช่าให้เขา กระนั้นไม่เคยมีใครไปเยี่ยมเขา. ลูก ๆ ที่โตแล้วของเขาซึ่งอยู่ในเมืองหลวง นี้ก็ไม่เคยคิดถึงเขาด้วย. นางเอาลิกกิ กานาโนจา ผู้อำนวยการกองบริการสังคมในเฮลซิงกิให้ข้อสังเกตว่า “เป็นเวลาหกปีที่ชายคนนี้อยู่ในสังคมมนุษย์—คือไม่ใช่บนเกาะที่อ้างว้าง แต่ในสังคมเมือง—และไม่มีใครคิดถึงเขาพอที่อยากจะรู้ว่าเขาไปไหนหรือเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง.”