ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

โรมในหลายโฉมหน้า

โรมในหลายโฉมหน้า

โรม​ใน​หลาย​โฉม​หน้า

โดย​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! ใน​อิตาลี

“สำหรับ​ข้าพเจ้า​แล้ว​ดู​เหมือน​ว่า โรมูลุส [บุคคล​ใน​ตำนาน​ซึ่ง​ก่อ​ตั้ง​กรุง​โรม​ใน​ปี 753 ก่อน ส.ศ.] คง​ต้อง​รู้สึก​ตั้ง​แต่​เริ่ม​แรก​แล้ว​ว่า สัก​วัน​หนึ่ง​กรุง​นี้​จะ​เป็น​ที่​ตั้ง​ของ​จักรวรรดิ​อัน​เกรียง​ไกร.” ซิเซโร นัก​พูด​และ​รัฐบุรุษ​ชาว​โรมัน ศตวรรษ​ที่​หนึ่ง ก่อน ส.ศ.

เช่น​เดียว​กับ​เมือง​อื่น ๆ ซึ่ง​มี​ประวัติ​อัน​ยาว​นาน​นับ​พัน ๆ ปี กรุง​โรม​มี​หลาย​โฉม​หน้า และ​ขณะ​ที่​ศตวรรษ​ต่าง ๆ ผ่าน​ไป โฉม​หน้า​เหล่า​นั้น​ก็​ทิ้ง​ร่องรอย​ไว้. คุณ​อยาก​จะ​เห็น​โฉม​หน้า​เหล่า​นั้น​ไหม? ตอน​นี้​เป็น​ช่วง​ที่​เหมาะ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ถ้า​คุณ​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ซึ่ง​จะ​จัด​ขึ้น​ใน​วัน​ที่ 10-12 สิงหาคม 2001 ณ กรุง​โรม, บารี, ตูริน, และ​มิลาน.

แต่​คุณ​อยาก​จะ​เห็น​โฉม​หน้า​ไหน​ของ​กรุง​โรม​ล่ะ? มี​โรม​ยุค​โบราณ, โรม​ยุค​สาธารณรัฐ, และ​โรม​ยุค​จักรวรรดิ. ที่​ใกล้​สมัย​เรา​ขึ้น​มา​อีก​ก็​มี​โรม​ยุค​กลาง, โรม​ยุค​ฟื้นฟู​ศิลปวิทยา, โรม​ยุค​บาโรก, และ​สุด​ท้าย​คือ​โรม​ยุค​ใหม่. เพื่อ​ให้​ได้​ภาพ​ครบ​ก็​มี​โรม​ของ​โปป, โรม​ของ​สามัญ​ชน, และ​โรม​ของ​ชน​ชั้น​สูง. มี​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​ประหลาด​ใจ​อยู่​ทุก​หน​ทุก​แห่ง​ใน​มหา​นคร​แห่ง​นี้.

นคร​ยุค​โบราณ

การ​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​ที่​เก่า​แก่​ที่​สุด​ซึ่ง​เป็น​หมู่​บ้าน​กระท่อม​ใน​ยุค​เหล็ก​ดู​เหมือน​ปรากฏ​ขึ้น​เป็น​เวลา​นาน​ก่อน​ศตวรรษ​ที่​แปด​ก่อน ส.ศ. โดย​ตั้ง​อยู่​บน​เขา​ลูก​ต่าง ๆ บริเวณ​กรุง​โรม และ​ล้อม​รอบ​แอ่ง​ซึ่ง​อยู่​ใกล้​ที่​ลุย​น้ำ​ข้าม​ฟาก​ใน​สมัย​โบราณ​ของ​แม่น้ำ​ไทเบอร์. เนื่อง​จาก​ใน​สมัย​ก่อน เนิน​เขา​รอบ ๆ บริเวณ​นั้น​สูง​เด่น จึง​มี​คำ​กล่าว​ว่า​นคร​นี้​ถูก​สร้าง​ขึ้น​บน​เขา​เจ็ด​ลูก—ควิรินัล, วีมีนัล, เอสควิไลน์, ซีลีอัน, อะเวนไทน์, ปาลาไตน์, และ​แคพีโทไลน์. จน​ถึง​สมัย​นี้ มี​การ​ตั้ง​ชื่อ​บาง​พื้น​ที่​ใน​กรุง​นี้​ตาม​ชื่อ​เขา​เหล่า​นี้​บาง​ลูก.

ถ้า​คุณ​ตัดสิน​ใจ​จะ​ไป​เที่ยว​โรม อย่า​ลืม​นำ​หนังสือ​คู่มือ​การ​ท่อง​เที่ยว​ที่​ถูก​ต้อง​และ​แผนที่​ไป​ด้วย. คุณ​อาจ​นึก​ภาพ​ได้​ว่า​ชาว​โรมัน​โบราณ​เห็น​อะไร​บ้าง​เมื่อ​ประมาณ 2,000 ปี​ที่​แล้ว.

ให้​เรา​ไป​ชม​ลาน​ประชาคม

หนังสือ​คู่มือ​การ​ท่อง​เที่ยว​เล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า “ลาน​ประชาคม​เป็น​ศูนย์​รวม​ของ​ชีวิต​ทาง​การ​เมือง, การ​ค้า​และ​ตุลาการ​ใน​กรุง​โรม​สมัย​โบราณ.” ทาง​เข้า​หลัก​สู่​บริเวณ​นี้​อยู่​ที่​วีอา เดอี โฟรี อิมเปรีอาลี. รถไฟ​ใต้​ดิน​และ​รถ​ประจำ​ทาง​หลาย​สาย​จะ​พา​คุณ​ไป​ที่​นั่น.

บรรดา​อนุสรณ์​สถาน​ที่​มี​ชื่อเสียง​มาก​ที่​สุด​แห่ง​หนึ่ง​ใน​บริเวณ​นี้​คือ​โคโลเซียม ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ด้วย​ว่า​โรง​มหรสพ​แห่ง​ฟลาเวียน สัญลักษณ์​แห่ง​ยุค​จักรวรรดิ. โคโลเซียม​มี​ความ​สูง​ถึง 48 เมตร เท่า​กับ​ตึก​สมัย​ใหม่​ที่​สูง 16 ชั้น มี​ความ​ยาว​ประมาณ 190 เมตร​และ​กว้าง​ประมาณ 155 เมตร. มี​ประตู​ทาง​เข้า 80 ประตู​และ​จุ​ผู้​ชม​ได้ 55,000 คน! จักรพรรดิ​เวสปาเชียน​บัญชา​ให้​สร้าง​ขึ้น​ใน​ปี ส.ศ. 72. ลอง​คิด​ถึง​เรื่อง​นี้​เมื่อ​คุณ​ยืน​อยู่​ใกล้ ๆ. หาก​กำแพง​สามารถ​บอก​เรื่อง​ราว​ได้ . . .

การ​ค้น​พบ​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​แสดง​ว่า​โคโลเซียม​สร้าง​เสร็จ​ได้​เนื่อง​จาก​ทรัพย์​สมบัติ​ที่​กอง​ทหาร​โรมัน​ยึด​ได้​และ​นำ​กลับ​มา​ที่​กรุง​นี้​หลัง​จาก​การ​รบ​ชนะ​ที่​แคว้น​ยูเดีย ซึ่ง​ถึง​จุด​สุด​ยอด ณ การ​ทำลาย​กรุง​เยรูซาเลม​ใน​ปี ส.ศ. 70. (มัดธาย 24:1, 2; ลูกา 21:5, 6) เป็น​เวลา​หลาย​ศตวรรษ โรง​มหรสพ​แห่ง​นี้​มี​เกมส์​การ​ต่อ​สู้​อัน​โหด​ร้าย. แต่​ต่าง​กับ​ความ​คิด​ที่​แพร่​หลาย​ของ​คน​ทั่ว​ไป ดู​เหมือน​ว่า​ไม่​มี​คริสเตียน​สละ​ชีวิต​เพื่อ​ความ​เชื่อ​ที่​นี่. *

ใกล้​กับ​โคโลเซียม​คือ​ประตู​โค้ง​แห่ง​ทิทุส ซึ่ง​ถูก​สร้าง​ขึ้น​เพื่อ​ฉลอง​ชัย​การ​รบ​ครั้ง​เดียว​กัน​นั้น. ภาย​ใน​ประตู​โค้ง คุณ​จะ​เห็น​ภาพ​ขบวน​ฉลอง​ชัย โดย​มี​เชลย​ชาว​ยิว​และ​เครื่อง​ประดับ​ศักดิ์สิทธิ์​จาก​พระ​วิหาร​ใน​ขบวน​แห่​นั้น. เชลย​ชาว​ยิว​คง​ได้​เดิน​ผ่าน ณ จุด​นี้​เอง!

โบราณ​สถาน​ที่​มี​ชื่อเสียง​อีก​แห่ง​หนึ่ง ซึ่ง​น่า​ประทับใจ​และ​ได้​รับ​การ​รักษา​ไว้​เป็น​อย่าง​ดี คือ​วิหาร​ปันเตออน. วิหาร​นี้​เคย​เป็น​วิหาร​นอก​รีต​ซึ่ง​อุทิศ​แด่​เทพเจ้า​ทั้ง​มวล; ตอน​นี้​เป็น​โบสถ์​คาทอลิก. จักรพรรดิ​เฮเดรียน (ส.ศ. 76-138) ซึ่ง​มี​ชื่อเสียง​จาก​การ​สร้าง​กำแพง​ป้องกัน​ทาง​ตอน​เหนือ​ของ​อังกฤษ เป็น​ผู้​สร้าง​ผล​งาน​ชิ้น​เอก​ทาง​วิศวกรรม​ของ​ชาว​โรมัน​นี้​ใน​ช่วง​ปี ส.ศ. 118-128. ความ​สูง​และ​เส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง​ของ​อาคาร​รูป​โดม​นั้น​เท่า​กัน​พอ​ดี—43.4 เมตร.

เซอร์คุส มักซิมุส, เขา​ปาลาไตน์, รวม​ทั้ง​สถาน​ที่​และ​อนุสรณ์​สถาน​อื่น ๆ เชื้อเชิญ​เรา​ให้​เดิน​ทาง​ย้อน​ไป​กับ​กาล​เวลา. สิ่ง​ที่​เตือน​ใจ​เรา​มาก​ยิ่ง​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ความ​สง่า​และ​ความ​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​มหาอำนาจ​โลก​ที่​หก​ตาม​ประวัติศาสตร์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คือ​เสา​ยอด​แหลม​และ​เสา​สลัก​โบราณ เช่น เสา​ของ​ทราจัน​และ​มาร์คุส เอาเรลีอุส ซึ่ง​ยัง​คง​ตั้ง​อยู่​ตาม​จุด​ต่าง ๆ ใน​กรุง​นี้.

โรม​สมัย​อัครสาวก

แม้​ว่า​ไม่​นาน​นัก ศาสนา​คริสเตียน​ของ​เหล่า​อัครสาวก​ก็​ถูก​แทน​ที่​โดย​คริสต์​ศาสนจักร​ที่​ออก​หาก แต่​เรื่อง​ราว​ของ​ชีวิต​คริสเตียน​ยุค​แรก​ก็​ยัง​พอ​มอง​เห็น​ได้​ใน​กรุง​โรม. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​ไป​ชม​ทาง​หลวง​แอปเปียน เวย์ เรา​คง​อด​ไม่​ได้​ที่​จะ​นึก​ถึง​เรื่อง​ราว​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ตอน​ที่​พี่​น้อง​คริสเตียน​มา​ส่ง​ท่าน​ไกล​ถึง​กรุง​นี้. (กิจการ 28:14-16) แต่​เรา​ต้อง​ระวัง​ที่​จะ​ไม่​เชื่อ​เรื่อง​ที่​เล่า​สืบ​กัน​มา​ทุก​อย่าง. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ใกล้​กับ​ลาน​ประชาคม​มี​คุก​ที่​เรียก​กัน​ว่า คุก​แมเมอร์ทีน ซึ่ง​เชื่อ​กัน​ว่า​เป็น​สถาน​ที่​ซึ่ง​อัครสาวก​เปโตร​ถูก​ขัง. แต่​ไม่​มี​หลักฐาน​ใด ๆ เลย​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​เปโตร​เคย​มา​ที่​เมือง​นี้.

เมื่อ​ไป​เยี่ยม​ชม​บริเวณ​ทาง​หลวง​แอปเปียน เวย์ คุณ​อาจ​ต้องการ​ไป​เยี่ยม​ชม​สุสาน​ใต้​ดิน​ที่​มี​ชื่อเสียง—อุโมงค์​ใต้​ดิน​ที่​ยาว​หลาย​ร้อย​กิโลเมตร​ซึ่ง​ใช้​เป็น​ที่​เก็บ​ศพ. การ​ค้น​พบ​เกี่ยว​กับ​การ​นมัสการ​คน​ตาย​และ​ผู้​สละ​ชีพ​เพื่อ​ความ​เชื่อ​ทั้ง​หลาย​และ​แนว​คิด​เรื่อง​จิตวิญญาณ​เป็น​อมตะ​บ่ง​ชี้​ว่า​ผู้​ใช้​สุสาน​โบราณ​เหล่า​นี้​ไม่​ได้​เป็น​สาวก​แท้​ซึ่ง​ติด​ตาม​คำ​สอน​ดั้งเดิม​ของ​พระ​เยซู​อีก​ต่อ​ไป. *

ยุค​ฟื้นฟู​ศิลปวิทยา​เปลี่ยน​แปลง​โรม​อย่าง​ไร?

นับ​ตั้ง​แต่​ยุค​ฟื้นฟู​ศิลปวิทยา (ศตวรรษ​ที่ 14 ถึง 16) กรุง​โรม​ประสบ​การ​เปลี่ยน​แปลง​อย่าง​มาก ซึ่ง​ส่วน​หนึ่ง​เป็น​ผล​มา​จาก​การ​ที่​โปป​มี​อำนาจ​และ​อิทธิพล​เพิ่ม​ขึ้น. ศิลปิน, สถาปนิก, และ​ช่าง​ฝีมือ​ถูก​เรียก​ตัว​มา​ที่​ราชสำนัก​ของ​โปป. ศิลปิน​ที่​มี​ชื่อเสียง​ที่​สุด​คน​หนึ่ง​คือ ไมเคิลแอนเจโล. ผล​งาน​ชิ้น​เอก​ของ​เขา​บาง​ชิ้น​ถูก​เก็บ​รักษา​ไว้​ใน​นครรัฐ​วาติกัน. ผล​งาน​ที่​มี​ชื่อเสียง​ของ​เขา​ได้​แก่ “เดอะ ลาส จัดจ์เมนต์” (วัน​ล้าง​โลก) ใน​โบสถ์​เล็กซิสติน​และ​ภาพ​ปูน​เปียก​บน​เพดาน​โบสถ์​นี้​จะ​เห็น​ได้​เมื่อ​เข้า​ไป​ทาง​พิพิธภัณฑสถาน​วาติกัน. น่า​สังเกต​ว่า “เดอะ ลาส จัดจ์เมนต์” ไม่​มี​ภาพ​ไฟ​ชำระ.

ผล​งาน​อีก​ชิ้น​หนึ่ง​ของ​ไมเคิลแอนเจโล​คือ​รูป​ปั้น​ของ​โมเซ ซึ่ง​พบ​ใน​โบสถ์​เซนต์ปีเตอร์ อิน เชนส์. เรา​ยัง​เห็น​อิทธิพล​ของ​เขา​ได้​จาก​ราย​ละเอียด​หลาย​อย่าง​ของ​มหา​วิหาร​เซนต์ปีเตอร์. โบสถ์​แห่ง​นั้น​มี​ผล​งาน​ชิ้น​เอก​หลาย​ชิ้น รวม​ทั้ง​รูป​ประติมากรรม “ปีเอตา” ซึ่ง​สร้าง​โดย​ไมเคิลแอนเจโล. รูป​นี้​เป็น​รูป​พระ​ศพ​ของ​พระ​คริสต์​ใน​อ้อม​แขน​ของ​มารดา​ของ​พระองค์.

สิ่ง​ที่​น่า​สนใจ​สำหรับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คือ​ที่​ว่า​มหา​วิหาร​หลัง​นั้น​มี​เททรากรัมมาทอน​อักขระ​ภาษา​ฮีบรู​ซึ่ง​เป็น​พระ​นาม​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ปรากฏ​อยู่​หลาย​แห่ง. ลอง​มอง​หา​ดู​ได้​ที่​สุสาน​รำลึก​ของ​เคลเมนต์​ที่ 13 และ​ที่​โบสถ์​เล็ก​แห่ง​การ​ถวาย.

โรม​ยุค​บาโรก​อัน​ตระการตา

โฉม​หน้า​อัน​ตระการตา​ที่​สุด​ของ​โรม​อาจ​เป็น​เมือง​ใน​ยุค​บาโรก. สารานุกรม​ฉบับ​หนึ่ง​กล่าว​ว่า ศิลปะ​แบบ​บาโรก “มี​ขนาด​ใหญ่​และ​เต็ม​ไป​ด้วย​ราย​ละเอียด​อัน​งดงาม.” ศิลปะ​แบบ​นี้​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ช่วง​ปลาย​ศตวรรษ​ที่ 16 และ​พอ​ถึง​ศตวรรษ​ที่ 18 ก็​กลาย​เป็น​รูป​แบบ​ที่​อบอุ่น​และ​เป็น​กัน​เอง​มาก​กว่า คือ​แบบ​โรโกโก. งาน​ศิลปะ​แบบ​บาโรก​ที่​มี​ชื่อเสียง​ชิ้น​หนึ่ง​คือ​อนุสาวรีย์​ของ​โปป​อะเล็กซานเดอร์​ที่ 7 โดย​เบร์นีนี ใน​มหา​วิหาร​เซนต์ปีเตอร์. เบร์นีนี​เป็น​ศิลปิน​คน​โปรด​ของ​โปป. เขา​แปลง​โฉม​โบสถ์, วัง, รูป​ปั้น, และ​น้ำพุ​ต่าง ๆ ใน​กรุง​โรม. ลอง​เข้า​ไป​ชม​ใน​ปี​อัซซา (จัตุรัส) หน้า​มหา​วิหาร​เซนต์ปีเตอร์​ดู​สิ จะ​เห็น​เสา​หิน​อัน​งดงาม​ของ​เบร์นีนี​เรียง​ราย​อยู่​เป็น​ระยะ ๆ หรือ​เข้า​ไป​ชม​ใน​ปี​อัซซา เดล โปโปโล ซึ่ง “เป็น​ห้อง​โถง​ทรง​สมมาตร​ขนาด​ใหญ่​สู่​ใจ​กลาง​ของ​กรุง​โรม.” ศิลปะ​แบบ​บาโรก​กับ​ผล​งาน​ของ​เบร์นีนี​มี​อยู่​ทุก​หน​ทุก​แห่ง! ขอ​อย่า​พลาด​ชม​ภาพ​เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ที่​น้ำพุ​เทรวี​หรือ​ที่​น้ำพุ​ใน​ปี​อัซซา นาโวนา เช่น ผล​งาน​ของ​เบร์นีนี โฟนตานา เดย์ ฟีอูมี (น้ำพุ​แห่ง​แม่น้ำ​สี่​สาย) และ​โฟนตานา เดล โมโร (น้ำพุ​แห่ง​พวก​มัวร์).

เมือง​ยุค​ใหม่

ปัจจุบัน​นี้​แทบ​ไม่​มี​แนว​คิด​ใหม่ ๆ ใน​การ​วาง​ผัง​เมือง. โครงการ​ขนาด​ใหญ่​ล่า​สุด​นั้น​ย้อน​ไป​ถึง​ทศวรรษ 1930 คือ​การ​ก่อ​สร้าง​เอสโปซิซีออนเน อูนิเวอร์ซาเล ดิ โรมา (เอ.อู.แอร์เร.). ตำบล​นั้น​ถูก​สร้าง​ขึ้น​เพื่อ​เสริม​บารมี​แก่​ระบอบ​ฟาสซิสต์​ระหว่าง​การ​ปกครอง​ของ​มุสโสลินี.

ตอน​นี้​ผู้​บริหาร​นคร​กำลัง​มุ่ง​ไป​ที่​การ​อนุรักษ์​และ​ให้​ความ​สำคัญ​ตาม​สม​ควร​ต่อ​มรดก​ทาง​ศิลปะ​อัน​ประมาณ​ค่า​มิ​ได้​ของ​กรุง​โรม ซึ่ง​จะ​ชื่นชม​ได้​ไม่​เฉพาะ​ตาม​ถนน​และ​จัตุรัส​ต่าง ๆ เท่า​นั้น แต่​ใน​พิพิธภัณฑสถาน​กว่า 100 แห่ง​ทั่ว​เมือง​ด้วย. แต่​ก่อน​ที่​จะ​ไป​เยี่ยม​ชม​พิพิธภัณฑสถาน, อนุสาวรีย์, และ​สถาน​ที่​ทาง​โบราณคดี​ต่าง ๆ คง​เป็น​การ​สุขุม​ที่​จะ​หา​ข้อมูล​ใน​เรื่อง​เวลา​เปิด​ให้​เข้า​ชม​โดย​ตรวจ​ดู​ที่​เว็บไซต์​ที่​เหมาะ​สม​ใน​อินเทอร์เน็ต​หรือ​คู่มือ​การ​ท่อง​เที่ยว​ที่​ดี​สัก​เล่ม​หนึ่ง.

ถึง​แม้​เป็น​ที่​รู้​กัน​ว่า​กรุง​โรม​เป็น​ที่​ตั้ง​ของ​นครรัฐ​วาติกัน แต่​กรุง​นี้​ก็​มี​ความ​หลาก​หลาย​ทาง​ศาสนา​ด้วย. พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​สำนักงาน​สาขา​และ​หอ​ประชุม​ใหญ่​ที่​นั่น. ใน​เขต​นคร​และ​ปริมณฑล มี​พยาน​ฯ เกือบ 10,000 คน​ซึ่ง​ประชุม​กัน​ใน​ประชาคม​และ​กลุ่ม​ต่าง ๆ 130 แห่ง. พวก​เขา​จัด​การ​ประชุม​ใน 12 ภาษา​นอก​จาก​ภาษา​อิตาลี. คุณ​จะ​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​ที่​ซาลา เดล เรญโญ (หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร) ไม่​ว่า​ที่​ใด​ก็​ตาม.

ดัง​นั้น ไม่​ว่า​คุณ​อยาก​ชม​กรุง​โรม​ใน​โฉม​หน้า​ไหน​จาก​หลาย ๆ โฉม​หน้า​ที่​มี​อยู่ เรา​ก็​ขอ​เชิญ​คุณ​มา เพราะ​ดัง​ที่​นัก​เขียน​ชาว​เยอรมัน​ชื่อ โยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเท เขียน​ไว้ “มี​แต่​ใน​โรม​เท่า​นั้น​ที่​คน​เรา​จะ​เรียน​รู้​เรื่อง​ของ​โรม​ได้.”

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 12 ดู​ตื่นเถิด! ฉบับ 8 เมษายน 1991 หน้า 18-21.

^ วรรค 18 ดู​ตื่นเถิด! ฉบับ 8 สิงหาคม 1995 หน้า 12-16.

[กรอบ/รูปภาพ​หน้า 18, 19]

บารี—เมือง​หลวง​ที่​มี​ชีวิต​ชีวา​ของ​อะปูลีอา

อะปูลีอา​เป็น​แคว้น​ซึ่ง​เป็น​ส่วน “ส้น” ของ “รอง​เท้า​บูต” อิตาลี. (ดู​แผนที่​ใน​หน้า 14.) แคว้น​นี้​มี​ชื่อเสียง​เรื่อง​น้ำมัน​มะกอก​และ​ไวน์. บารี​เป็น​เมือง​หลวง​ของ​แคว้น​นี้ มี​ประชากร​ประมาณ 350,000 คน. เชื่อ​กัน​ว่า​เมือง​นี้​มี​อายุ​ย้อน​ไป​ก่อน​สมัย​โรมัน. ครั้ง​หนึ่ง​เมือง​นี้​เคย​ตก​อยู่​ภาย​ใต้​อิทธิพล​กรีก. พวก​โรมัน​ซึ่ง​บุก​เข้า​มา​ใน​แถบ​นี้​ใน​ศตวรรษ​ที่​สี่​ก่อน ส.ศ. เรียก​เมือง​นี้​ว่า​บารีอุม และ​ทำ​ให้​เมือง​นี้​เป็น​มูนีคิบยุม คือ​เป็น​ที่​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​ซึ่ง​พลเมือง​โรมัน​อาศัย​อยู่​และ​คง​ไว้​ซึ่ง​ความ​เป็น​เอกราช​ด้าน​การ​บริหาร.

ตั้ง​แต่​สมัย​สงคราม​ครูเสด​ครั้ง​แรก (ส.ศ. 1096) บารี​มี​ความ​สำคัญ​เพิ่ม​ขึ้น​ใน​ฐานะ​ทาง​ผ่าน​ไป​สู่​ประเทศ​ทาง​ตะวัน​ออก. เมือง​นี้​ยัง​เป็น​เมือง​ท่า​ที่​เรือ​ครูเสด​หลาย​ลำ​ออก​เดิน​ทาง​ด้วย.

เมือง​แห่ง “คุณ​พ่อ​คริสต์มาส” หรือ?

อนุสรณ์​สถาน​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​บารี​มี​ความ​เกี่ยว​พัน​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​เหตุ​การณ์​ใน​ประวัติศาสตร์. อาคาร​หลัง​หนึ่ง​ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ประวัติศาสตร์​ของ​บารี​โดย​เฉพาะ​คือ​บาซิลิกา ดิ ซาน นิโคลา. กล่าว​กัน​ว่า​นิโคลา​คน​นี้​คือ​บิชอป​แห่ง​ไมรา เมือง​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เอเชีย​น้อย อยู่​ใน​ศตวรรษ​ที่​สี่ ส.ศ. ใน​สมัย​โบราณ ราย​ละเอียด​ของ​ชีวิต​เขา​ถูก​นำ​ไป​สับสน​กับ​บาทหลวง​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ชื่อ​เหมือน​กัน ซึ่ง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​ศตวรรษ​ที่​หก ส.ศ. ดัง​นั้น จึง​มี​ตำนาน​เล่า​ขาน​ซึ่ง​มี​ที่​มา​ต่าง ๆ กัน​เกี่ยว​ข้อง​กับ​บุคคล​นี้. หนึ่ง​ใน​ตำนาน​หลาย​เรื่อง​เรียก​นิโคลา​ผู้​นี้​ว่า​ผู้​คุ้มครอง​เด็ก ๆ เนื่อง​จาก​กล่าว​กัน​ว่า​เขา​ปลุก​เด็ก​สาม​คน​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย ซึ่ง​เด็ก​เหล่า​นี้​ถูก​เจ้าของ​โรงแรม​ที่​ชั่ว​ร้าย​หั่น​เป็น​ชิ้น ๆ แล้ว​นำ​ไป​ดอง! ดัง​นั้น ไม่​น่า​แปลก​ใจ​ที่​ระหว่าง​ยุค​กลาง การ​นมัสการ​บุคคล​ผู้​นี้​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​จึง​แพร่​ไป​ทั่ว​และ​สิ่ง​ที่​คิด​กัน​ว่า​เป็น​เถ้า​กระดูก​ของ​เขา​จึง​เป็น​ที่​นิยม​กัน​มาก.

หนังสือ​ปุกเลีย-ดัล การ์กาโน อัล ซาเลนโต กล่าว​ว่า นิโคลา​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​ภาษา​ลาติน​ว่า​ซางตุส นิโคลาอุส “กลาย​มา​เป็น​ซานตาคลอส​ใน​ดินแดน​ทาง​เหนือ​ของ​เทือก​เขา​แอลป์ และ​ต่อ​มา​ใน​อเมริกา​เหนือ; เสื้อ​คลุม​ตำแหน่ง​บิชอป​ของ​เขา​ถูก​เปลี่ยน​เป็น​เสื้อ​แคสซอก​ขลิบ​ด้วย​ขน​สัตว์, หมวก​ไมเตอร์​เปลี่ยน​เป็น​ผ้า​คลุม​ที่​ติด​กับ​คอ​เสื้อ, และ​นัก​บุญ​เปลี่ยน​เป็น​คน​แก่​เครา​ขาว​ท่า​ทาง​ใจ​ดี​แบก​ถุง​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ของ​ขวัญ.” นี่​แหละ คุณ​พ่อ​คริสต์มาส! *

มี​อนุสรณ์​สถาน​ที่​น่า​สนใจ​อีก​หลาย​แห่ง​ใน​เมือง​นี้ แต่​สำหรับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แล้ว อาคาร​ที่​น่า​สนใจ​เป็น​พิเศษ​อาจ​เป็น​โบสถ์​แห่ง​ตรีเอกานุภาพ​บริสุทธิ์​และ​นัก​บุญ​คอสมา​และ​ดามีอาโน ซึ่ง​สร้าง​ใน​ปี 1960. มุข​โค้ง​ด้าน​สกัด​ของ​โบสถ์​นี้​มี​ภาพ​โมเสก​เขียน​เป็น​อักขระ​เททรากรัมมาทอน.

คุณ​เคย​เห็น​ทรูลโล​แล้ว​หรือ​ยัง?

คุณ​ไม่​ต้อง​ออก​ไป​ไกล​นัก​จาก​บารี​ก็​มี​สถาน​ที่​น่า​สนใจ​ให้​เยี่ยม​ชม​มาก​มาย. ใน​เมือง​อัลเบโรเบลโล ประมาณ 55 กิโลเมตร​ทาง​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​ของ​บารี มี​ทรูลโล​ที่​มี​ชื่อเสียง. ทรูลโล​เหล่า​นี้​คือ​อาคาร​สี​ขาว​รูป​ร่าง​แปลก​ประหลาด​และ​มี​หลังคา​ทรง​กรวย. อาคาร​เหล่า​นี้​ถูก​เรียก​ว่า​กระโจม​หิน​และ​ศาลา​ประหลาด​ซึ่ง​สร้าง​ขึ้น​ท่ามกลาง​หมู่​ต้น​ไม้. มัน​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ด้วย​การ​วาง​หิน​ซ้อน​กัน​โดย​ไม่​ได้​ใช้​ปูน. วิธี​ก่อ​สร้าง​อาจ​ทำ​ให้​ทรูลโล​ดู​ไม่​ค่อย​มั่นคง หรือ​กระทั่ง​ไม่​ปลอด​ภัย กระนั้น​มัน​ก็​ทนทาน​อยู่​ได้. ทรูลโล​หลาย​หลัง​มี​อายุ​นาน​นับ​ศตวรรษ. มัน​ยัง​กัน​ความ​ร้อน​และ​ความ​เย็น​ได้​ดี​อีก​ด้วย ซึ่ง​ทำ​ให้​เย็น​ใน​ฤดู​ร้อน​และ​อบอุ่น​ใน​ฤดู​หนาว.

ถ้า​คุณ​ชอบ​ถ่าย​ภาพ คุณ​อาจ​อยาก​จะ​ถ่าย​ภาพ​ปราสาท​คาสเทล เดล มอนเต อัน​น่า​ประทับใจ ซึ่ง​อยู่​ประมาณ 40 กิโลเมตร​ไป​ทาง​ตะวัน​ตก​ของ​บารี. ปราสาท​หลัง​นี้​เริ่ม​สร้าง​โดย​พวก​นอร์มัน​ใน​ศตวรรษ​ที่ 12. ดัง​ที่​หนังสือ​คู่มือ​การ​ท่อง​เที่ยว​เล่ม​หนึ่ง​กล่าว​ไว้ ปราสาท​หลัง​นี้ “เด่น​กว่า​ปราสาท​หลัง​อื่น ๆ ทั้ง​หมด​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เฟรเดอริก​ที่ 2. นอก​จาก​นี้​ยัง​เป็น​อาคาร​ที่​ไม่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ศาสนา​ที่​ซับซ้อน​ที่​สุด​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ยุค​กลาง​อีก​ด้วย.” หนังสือ​นั้น​พรรณนา​ว่า​ปราสาท​หลัง​นี้​เป็น “ตัว​อย่าง​อัน​ยอด​เยี่ยม​ของ​สถาปัตยกรรม​แบบ​เรขาคณิต​ซึ่ง​ได้​สัดส่วน มี​สอง​ชั้น ชั้น​ละ​แปด​ห้อง.” อาคาร​ทรง​แปด​เหลี่ยม​นี้​เชื่อม​ติด​กับ​หอ​ข้าง​เคียง​แปด​หอ. นับ​ว่า​คุ้มค่า​ที่​จะ​ไป​เยี่ยม​ชม.

ใน​เมือง​บารี พยาน​พระ​ยะโฮวา​ประมาณ 1,600 คน​และ​ผู้​ที่​สมทบ​กับ​พวก​เขา​ประชุม​กัน​ใน 18 ประชาคม. ทุก​คน​ต่าง​ก็​กระตือรือร้น​ที่​จะ​ต้อนรับ​ตัว​แทน​มาก​มาย​สู่​การ​ประชุม​ภาค​ปี 2001 “ผู้​สอน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า” ซึ่ง​จะ​จัด​ขึ้น​ที่​สนาม​กีฬา​ซาน นิโคลา​ใน​เมือง​นี้.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 39 ดู​หอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 ธันวาคม 1989 หน้า 26-28 และ​ตื่นเถิด! ฉบับ 8 ธันวาคม 1989 หน้า 14.

[รูปภาพ]

อักขระ​เททรากรัมมาทอน​ใน​โบสถ์​แห่ง​ตรีเอกานุภาพ​บริสุทธิ์​และ​นัก​บุญ​คอสมา​และ​ดามีอาโน

ทาง​เดิน​ริม​ทะเล

คาสเทล เดล มอนเต

ทรูลโล​ใน​อัลเบโรเบลโล

[แผนที่​หน้า 14]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

โรม

บารี

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Mountain High Maps® Copyright © 1997 Digital Wisdom, Inc.

[ภาพ​หน้า 14]

ประตู​โค้ง​แห่ง​ทิทุส พร้อม​กับ​ภาพ​สลัก​แสดง​ถึง​ทรัพย์​ที่​ยึด​มา​จาก​พระ​วิหาร​ใน​กรุง​เยรูซาเลม

[ภาพ​หน้า 14]

โคโลเซียม

[ภาพ​หน้า 15]

เสา​ของ​มาร์คุส เอาเรลีอุส

[ภาพ​หน้า 15]

ทาง​หลวง​แอปเปียน เวย์

[ภาพ​หน้า 15]

วิหาร​ปันเตออน เคย​เป็น​วิหาร​นอก​รีต​ซึ่ง​อุทิศ​แด่​เทพเจ้า​ทั้ง​มวล ตอน​นี้​เป็น​โบสถ์​คาทอลิก

[ภาพ​หน้า 16]

ราย​ละเอียด​จาก​ผล​งาน​ของ​ไมเคิลแอนเจโล “เดอะ ลาส จัดจ์เมนต์” ใน​โบสถ์​เล็กซิสติน

[ภาพ​หน้า 16, 17]

น้ำพุ​แห่ง​แม่น้ำ​สี่​สาย​ของ​เบร์นีนี

[ภาพ​หน้า 17]

สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา

[ภาพ​หน้า 17]

น้ำพุ​เทรวี

[ภาพ​หน้า 17]

ตำนาน​กล่าว​ไว้​ว่า​โรมูลุส​กับ​เรมุส ผู้​ก่อ​ตั้ง​กรุง​โรม​ใน​ตำนาน ดูด​นม​หมา​ป่า