การรับมือกับความเศร้าสลดซึ่งสุดจะพรรณนาได้
การรับมือกับความเศร้าสลดซึ่งสุดจะพรรณนาได้
เล่าโดยเจมส์ จาร์ราโน
การได้เป็นคุณตาคุณยายเป็นความปลื้มใจอย่างใหญ่หลวงในชีวิต. ด้วยความคาดหวังสูง ผมกับวิกกีภรรยาต่างก็ตั้งใจรอคอยการเกิดของหลานคนแรกของเรา. เทเรซาลูกสาวพร้อมด้วยโจนาทานสามีของเธอหวังจะเห็นทารกคลอดต้นเดือนตุลาคม ปี 2000. เราไม่เคยนึกเลยว่าเราต้องประสบเรื่องเศร้าสลดซึ่งสุดจะพรรณนาได้.
ผมกับภรรยา พร้อมด้วยลูกชายและภรรยาของเขาได้ไปพักตากอากาศเมื่อวันเสาร์ที่ 23 กันยายน. เรากะจะพบญาติคนอื่น ๆ และค้างอยู่ที่เอาเทอร์แบงส์ในรัฐนอร์ทแคโรไลนาประมาณหนึ่งสัปดาห์. เทเรซากับโจนาทานตัดสินใจไม่ไปพักร้อนกับพวกเรา เนื่องจากเธอมีครรภ์แก่เก้าเดือนแล้วและการขับรถระยะไกล คือจากบ้านของเราในรัฐโอไฮโอไปที่นั่นก็ร่วม 11 ชั่วโมง.
เราอยากเลื่อนการพักร้อนออกไป แต่เทเรซาคะยั้นคะยอให้เราไป. เธอรับรองกับเราว่าเธอปกติดีทุกอย่าง. นอกจากนั้น แพทย์ประจำตัวก็เข้าใจว่าเธอจะครบกำหนดคลอดในสองสัปดาห์ข้างหน้า.
วันพุธที่ 27 กันยายน 2000 วันนั้นอากาศสดชื่นแจ่มใส ทำให้ผมนึกถึงเหตุผลที่ครอบครัวเราเลือกภูมิภาคแห่งนี้เป็นสถานพักตากอากาศในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้. เราไม่นึกเลยว่าก่อนสิ้นวันนั้น ชีวิตของพวกเราจะเปลี่ยนชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ.
“เทเรซาหายตัวไป!”
เย็นวันนั้นผมได้รับโทรศัพท์จากน้องชายที่อยู่ในรัฐโอไฮโอ. เขาอึกอักและกระสับกระส่ายมาก. ในที่สุดเขาบอกว่า “เทเรซาหายตัวไป!” ตำรวจได้มาสอบสวน เนื่องจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงที่เทเรซาหายไปนั้นน่าสงสัย. ตอนที่โจนาทานกลับถึงบ้านบ่ายวันนั้น เขาพบว่าประตูหน้าบ้านไม่ใส่กุญแจ. อาหารมื้อเช้าของเทเรซายังวางอยู่บนโต๊ะ และเธอก็ไม่เอากระเป๋าสตางค์ติดตัวไปด้วย. อีกอย่างที่ดูผิดสังเกต คือ รองเท้าคู่เดียวที่เธอใส่ได้ในช่วงใกล้คลอดก็ยังวางอยู่ข้างประตู.
โจนาทานได้โทรศัพท์ไปที่บ้านราว ๆ 9:30 น. เทเรซาบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งโทรศัพท์มาว่าเธออยากดูรถยนต์คันที่เขากำลังบอกขาย. หลังจากนั้น เทเรซาก็จะออกไปทำธุระข้างนอกสักพักหนึ่ง. โจนาทานโทรศัพท์กลับไปอีกตอนเที่ยง แต่ไม่สามารถติดต่อได้. ช่วงบ่าย เขาโทรศัพท์ถึงภรรยาหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย. เมื่อเขากลับถึงบ้านตอน 16:15 น. เขาสังเกตว่าไม่มีรถจอดอยู่ที่บ้าน. เขาโทรศัพท์ติดต่อกับโรงพยาบาลเพราะคิดว่าบางทีเทเรซาอาจเจ็บท้องคลอด. เธอไม่ได้อยู่ที่นั่น. เขาโทรศัพท์ถามสมาชิกบางคนในครอบครัวด้วย แต่ไม่มีใครพบเห็นเธอ. เขาหัวปั่นจนแทบเสียสติ ฉะนั้นเขาจึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ. ประมาณ 18:00 น. ตำรวจพบรถยนต์คันนั้นจอดไม่ไกลจากบ้านของเขา. แต่เทเรซายังไม่ปรากฏตัว.
ไกลออกไปในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เราต่างตะลึงงันกับข่าวที่ได้รับ. ผมพร้อมกับภรรยา ลูกชายและลูกสะใภ้พากันเก็บของลงกระเป๋าและมุ่งหน้ากลับบ้าน. มันเป็นการขับรถที่ยาวนานและมีแต่ความว้าวุ่นใจ. เราเดินทางตลอดทั้งคืนและกลับถึงรัฐโอไฮโอเช้าวันรุ่งขึ้น.
ในที่สุดก็ได้เบาะแส
ระหว่างนั้น โจนาทานพร้อมทั้งญาติ ๆ บางคน, เพื่อนสนิท, และคนอื่น ๆ ได้ร่วมมือกับตำรวจในการติดตามหาเทเรซา โดยทำงานกันตลอดคืน. การค้นหาดำเนินไปด้วยความปวดร้าวตลอดห้าวัน. ในที่สุด วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม ก็เริ่มได้เบาะแส. พอถึงตอนนั้น ตำรวจแกะรอยคนที่โทรศัพท์ไปที่บ้านเทเรซาตอนเช้าวันพุธได้แล้ว. ผู้หญิงซึ่งอาศัยอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ช่วงถนนเป็นผู้โทรศัพท์หาเธอ โดยใช้โทรศัพท์มือถือ.
ภายหลังการซักถามหญิงคนนั้น ตำรวจเกิดความสงสัย. ตกเย็นวันเดียวกัน ตำรวจย้อนกลับไปที่บ้านของหญิงคนนั้น. พอเดินไปถึงประตูก็มีเสียงปืนดังขึ้น. เมื่อพังประตูเข้าไป ตำรวจพบเธอสิ้นใจเสียแล้ว. เธอปลิดชีวิตตัวเอง. สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือ ตำรวจพบทารกแรกเกิดเพศชายอยู่ในห้องชั้นบน. ไม่น่าเชื่อ ทารกหลับปุ๋ยตลอดเวลาที่มีเหตุการณ์วุ่นวายนั้น!
ถึงกระนั้น ยังไม่ปรากฏวี่แววของเทเรซา. สองสามชั่วโมงถัดมา ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้านเพื่อหาหลักฐานว่าเธอได้มาที่นั่น. การค้นหาสิ้นสุดลงตอนก่อนรุ่งเช้าวันอังคารภายในโรงรถ. ที่นั่น ตำรวจพบร่างเทเรซาในหลุมตื้น ๆ. ต่อมาเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพได้ลงความเห็นว่าเธอถูกตีจนหมดสติ แล้วถูกยิงที่หลัง. เธอเสียชีวิตทันที และมีการผ่าเอาทารกออกจากครรภ์ของเธอ. เมื่อคิดย้อนหลัง การที่ทราบว่าเทเรซาไม่ได้รับความทรมานก็ช่วยบรรเทาความเศร้าสลดไปบ้าง.
ทารกแรกเกิดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผลการตรวจปรากฏว่าเด็กมีสุขภาพดีเยี่ยม ตามร่างกายไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย! ผลการตรวจดีเอ็นเอของทารกตามที่มีคำสั่งได้ยืนยันว่าเขาเป็นหลานของเราจริง ๆ. โจนาทานตั้งชื่อทารกว่า ออสการ์ กาวิน ซึ่งชื่อนี้เขากับเทเรซาเลือกไว้ก่อนแล้ว. หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลชั่วเวลาสั้น ๆ หลานของเราซึ่งหนักเกือบ 4 กิโลกรัมก็กลับสู่อ้อมกอดของบิดาเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ตรงกับวันพฤหัสบดี. เราตื่นเต้นดีใจมากที่ได้หลานชายคนนี้ แต่ก็สุดจะพรรณนาได้ว่าเราเศร้าเสียใจเพียงไรที่เทเรซาไม่มีโอกาสได้อุ้มลูกของเธอ.
ปฏิกิริยาจากชุมชน
ผมและทุกคนในครอบครัวปลื้มใจจนน้ำตาไหลเมื่อได้รับการเกื้อหนุนอย่างท่วมท้น หลายกรณีมาจากคนที่เราไม่เคยรู้จัก. ระหว่างหลายวันที่เทเรซาหายตัวไป ผู้อาสาสมัครนับร้อยช่วยกันสืบหา. หลายคนบริจาคเงินช่วยเหลือ. ร้านจำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานหลายร้านในท้องถิ่นได้จัดพิมพ์ใบปลิวแจ้งข่าวหลายพันแผ่นโดยไม่คิดมูลค่า. และอาสาสมัครได้แจกจ่ายใบปลิวไปทั่วพื้นที่โดยรอบหลายกิโลเมตรจากบ้านของเทเรซา.
พี่น้องหญิงคริสเตียนคนหนึ่งทำงานกับทนายความในท้องที่ และเมื่อเธอเล่าถึงสถานการณ์ของเราในตอนนั้นให้ทนายทราบ เขาจึงได้เสนอการช่วยเหลือ. และการที่เราตอบรับข้อเสนอของเขาจึงเป็นพระพรอย่างล้นเหลือ. เขาช่วยเราติดต่อกับสื่อสารมวลชน รวมทั้งจัดการกับประเด็นทางกฎหมายบางอย่างที่เกิดขึ้น. นอกจากนั้น เขาแนะนำให้รู้จักนักสืบเอกชนสองนาย ซึ่งก็ช่วยคลี่คลายคดีได้มาก. ความห่วงใยอย่างแท้จริงของพวกเขาทำให้เราซาบซึ้งตรึงใจเสียจริง ๆ.
หลังจากช่วยชีวิตหลานชายกลับมาได้ การช่วยเหลือยิ่งเพิ่มทวี. ร้านขายของชำหลายร้านจัดส่งอาหารและของใช้ประจำบ้านมาให้เรา. หลายคนบริจาคเสื้อผ้าให้ออสการ์ รวมไปถึงผ้าอ้อมชนิดใช้แล้วทิ้ง, อาหารสำหรับเด็กอ่อน, และของเล่น. เราได้รับสิ่งของมากเกินกว่าที่ออสการ์จะใช้ ดังนั้นเราจึงได้มอบสิ่งของมากเหลือเฟือเหล่านั้นแก่แผนกสูติกรรมของโรงพยาบาลท้องถิ่น. เนื่องจากหนังสือพิมพ์ประโคมข่าว เราได้รับจดหมายและไปรษณียบัตรหลายพันฉบับ ไม่เฉพาะจากชุมชนของเราเท่านั้น แต่จากทั่วโลก.
การเกื้อหนุนที่หลั่งไหลมานั้นปรากฏอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในงานศพของเทเรซา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม. เรารู้ว่าหลายคนประสงค์จะร่วมงาน แต่ผู้คนมากันมากเกินความคาดหมาย. จึงมีการเตรียมงานโดยใช้ห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียนมัธยมในท้องถิ่น และคนมาร่วมมีมากกว่า 1,400 คน ห้องประชุมก็เลยแน่นขนัด. ผู้เข้าร่วมได้แก่สมาชิกครอบครัว, มิตรสหาย, นายตำรวจ, นายก
เทศมนตรี, และผู้คนในชุมชนแห่งนั้น. ผู้สื่อข่าวหลายคนได้มาร่วมด้วยช่วยกัน และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นได้ถ่ายภาพการบรรยายงานศพ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตด้วย. นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายร้อยคนต้องยืนในห้องรับรองของโรงเรียน หรือไม่ก็ยืนเบียดกันใต้ร่มหลบสายฝนอันเย็นเยือกอยู่นอกอาคาร ฟังคำบรรยายจากเครื่องขยายเสียงที่พ่วงต่อกัน. คำบรรยายครั้งนี้เป็นการให้คำพยานที่กว้างไกลเกี่ยวด้วยความเชื่อที่ยึดคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลัก.ต่อจากนั้น ผู้คนหลายร้อยยืนรอคิวอย่างอดทนเพื่อแสดงความเสียใจ. เราอยู่ที่นั่นร่วมสามชั่วโมง โอบกอดและกล่าวขอบคุณด้วยความหยั่งรู้ค่าคนเหล่านั้นทุกคนที่ได้มาร่วมงาน. จากนั้น ด้วยความเอื้อเฟื้อ โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองได้บริการอาหารกว่า 300 ที่สำหรับสมาชิกครอบครัวของเรา, รวมทั้งเพื่อนสนิท, และคนอื่น ๆ ที่ได้ช่วยติดตามหาหลานชายของเราจนได้ตัวกลับคืนมา.
เราไม่อาจสรรหาถ้อยคำมากล่าวได้ว่าเรารู้สึกหยั่งรู้ค่ามากสักเพียงไรที่ประชาชนได้ช่วยเหลือเรา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่เราไม่รู้จัก. ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เรามุ่งมั่นตั้งใจยิ่งกว่าแต่ก่อนที่จะร่วมกิจกรรมคริสเตียนให้เต็มที่ เพราะมีผู้คนไม่น้อยมีน้ำใจดี ซึ่งเราต้องการบอกเขาเกี่ยวกับข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้า.—มัดธาย 24:14.
การตอบสนองของประชาคมเป็นอย่างไร
นับตั้งแต่แรกที่เกิดเรื่องยุ่งยาก เราได้รับการเกื้อหนุนมิได้ขาดจากพี่น้องคริสเตียนชายหญิงของเรา. การเกื้อหนุนแบบไม่มีทีท่าจะยุติเช่นนี้มาจากประชาคมพยานพระยะโฮวาของพวกเราเองและประชาคมอื่นที่อยู่ล้อมรอบ.
แม้แต่ก่อนเรากลับจากนอร์ทแคโรไลนามาถึงบ้าน พวกผู้ปกครองในประชาคมของเราได้จัดกำลังคนออกไปช่วยค้นหาเทเรซาอยู่แล้ว. พี่น้องชายหญิงหลายคนถึงกับลางานช่วยค้นหา. บางคนบอกนายจ้างว่าเขายอมให้หักเงินเดือน แต่มีบางรายที่นายจ้างอนุญาตให้ลางานแต่จ่ายค่าจ้างตามปกติ. ในช่วงที่ยังตามหาเทเรซาอยู่นั้น พี่น้องชายฝ่ายวิญญาณบางคนได้อยู่เป็นเพื่อนโจนาทานเพื่อเขาจะไม่ว้าเหว่. พี่น้องชายหญิงบางคนแวะมาช่วยทำความสะอาดบ้านและจัดข้าวของของเราให้เรียบร้อย. และบางคนช่วยทำอาหารเลี้ยงอาสาสมัครและช่วยรับโทรศัพท์.
ประมาณหกสัปดาห์ภายหลังการตายของเทเรซา ภรรยาของผมและโจนาทานต้องเผชิญกับข้อท้าทายที่หนักหนาสาหัส นั่นคือการเก็บข้าวของส่วนตัวของเทเรซาออกไปให้หมด. โจนาทานรู้สึกว่าเขาไม่สามารถทนอยู่ต่อไปในบ้านที่เคยอยู่กับเทเรซา ดังนั้นเขาตัดสินใจขายบ้าน. การจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ของเทเรซาก่อความปวดร้าวใจ ของทุกอย่างทำให้ภรรยาของผมและลูกเขยระลึกถึงเทเรซาและอาลัยอาวรณ์เธอมาก. แต่ ณ ตอนนี้ พี่น้องชายหญิงของเราก็เข้ามาให้การช่วยเหลือด้วย. พวกเขาเก็บสมบัติของเทเรซาใส่กล่อง แถมซ่อมแซมบางส่วนของบ้านเตรียมไว้สำหรับขายด้วย.
ที่สำคัญอย่างยิ่ง พี่น้องชายหญิงได้เกื้อหนุนครอบครัวของเราทั้งฝ่ายวิญญาณและทางอารมณ์ความรู้สึก. เขาโทรศัพท์มาหาพวกเราและแวะมาเยี่ยมให้การหนุนกำลังใจ. หลายคนส่งการ์ดและจดหมายที่ซาบซึ้งกินใจเรามาก.
การเกื้อหนุนอันเปี่ยมด้วยความรักมีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่สองสามวันหรือสัปดาห์แรก ๆ เท่านั้น แต่นานหลายเดือนทีเดียว.พี่น้องชายหญิงของเราหลายคนกำชับเราให้บอกพวกเขาได้ทุกเมื่อหากเราต้องการใครสักคนคอยรับฟัง และเรารับปากจะทำตามข้อเสนอของเขาที่แสดงน้ำใจกรุณาเช่นนั้น. ช่างเป็นการปลอบประโลมอย่างแท้จริงที่คนเราสามารถระบายความรู้สึกกับเพื่อนที่เรารักและไว้ใจได้! จริง ๆ แล้ว พวกเขาเป็นแบบอย่างตามถ้อยคำในสุภาษิตแห่งคัมภีร์ไบเบิลที่ว่า “มิตรแท้ย่อมรักอยู่ทุกเวลา และเป็นพี่น้องซึ่งเกิดมาเพื่อยามที่มีความทุกข์ยาก.”—สุภาษิต 17:17, ล.ม.; 18:24.
ผลกระทบต่อครอบครัวของเรา
ผมขอบอกว่าการที่ผมและครอบครัวต้องรับมือกับเรื่องเทเรซาถูกฆาตกรรมนั้นไม่ง่าย. เหตุการณ์นี้ได้พลิกผันชีวิตของเราโดยสิ้นเชิง. หลายครั้งผมรู้สึกโกรธเพราะไม่มีเทเรซาอยู่ด้วย. ผมคิดถึงการโอบกอดและรอยจูบของเธอ.
ภรรยาของผมยิ่งแล้วใหญ่ เธอใกล้ชิดเทเรซามากเหลือเกิน. ไม่มีแม้แต่วันเดียวที่คนทั้งสองไม่ได้พูดคุยกัน. เขาคุยกันนับครั้งไม่ถ้วนเรื่องการตั้งครรภ์ของเทเรซา. เขาช่วยกันเตรียมห้องนอนสำหรับลูกน้อย.
วิกกีพรรณนาความรู้สึกของเธอดังนี้: “ฉันคิดถึงหลายสิ่งเหลือเกิน. ฉันคิดถึงการร่วมงานประกาศกับเธอ. ฉันคิดถึงการไปจับจ่ายซื้อของด้วยกัน. สิ่งที่เจ็บปวดมากที่สุดคือจะไม่เห็นเธอตระกองกอดลูกน้อยของเธอ นี่แหละที่ทำให้หัวใจฉันแตกสลาย. ฉันรู้ว่าเธอรักออสการ์มากเพียงใด รักเขาตั้งแต่ก่อนคลอดเสียด้วยซ้ำ. เธอรู้ว่าจะได้ลูกผู้ชาย. หลังจากฉันเย็บผ้าห่มสำหรับทารกและมอบให้เธอ เทเรซาเขียนการ์ดขอบคุณฉันดังนี้:
‘แม่จ๋า,
ขอบคุณแม่เป็นอย่างมากสำหรับผ้าห่มผืนงามที่แม่เย็บให้ทารกตัวน้อย ๆ. ลูกหยั่งรู้ค่าความพากเพียรที่แม่ตั้งใจทำผ้าห่มผืนนี้. ลูกอยากขอบคุณแม่อีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือทุกอย่างและการหนุนกำลังใจจากแม่ที่ช่วยลูกจนผ่านพ้นบางช่วงเวลาที่ยากลำบากยิ่งในชีวิต. ลูกจะจดจำไว้และขอบคุณแม่สำหรับสิ่งนี้เสมอ. ลูกเคยได้ยินมาว่าวันหนึ่งเราจะโตขึ้นและตระหนักว่าเพื่อนที่ดีที่สุดก็คือแม่ของเรา. ลูกได้แต่ขอบคุณพระยะโฮวาทุก ๆ วันที่ลูกไม่ต้องใช้เวลานานเกินไปกว่าจะตระหนักถึงเรื่องนี้. ลูกรักแม่เสมอและรักตลอดไป.’”
เราพลอยรู้สึกปวดร้าวใจไปด้วยเมื่อเห็นสภาพที่ลูกเขยต้องจำทน. ระหว่างออสการ์อยู่ในโรงพยาบาล โจนาทานได้เผชิญปัญหาหนักหน่วงอย่างยิ่งเท่าที่เขาเคยประสบ. เนื่องจากเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่กับเราชั่วคราว เขาจำเป็นต้องย้ายห้องเลี้ยงเด็กซึ่งเขากับเทเรซาช่วยกันตกแต่งไว้ในบ้าน. เขาเก็บม้าโยกใส่กล่อง, เตียงเด็กที่มีรั้วกั้น, และตุ๊กตาสัตว์ขนนุ่ม แล้วขนย้ายมาไว้ที่บ้านของเรา.
สิ่งที่ช่วยเราให้รับมือได้
เมื่อคนเราสูญเสียคนรักไปอย่างน่าสลดใจเช่นนี้ จึงเกิดมีคำถามซึ่งทำให้สับสนและวุ่นวายใจผุดขึ้นมากมาย. มีหลายครั้งที่ผมฐานะคริสเตียนผู้ปกครองเคยพยายามให้การปลอบประโลมผู้อื่นที่งุนงงกับคำถามและความรู้สึกดังกล่าว. แต่ครั้นตัวเองเป็นทุกข์โศกเศร้า อารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นก็บดบังความคิดที่แจ่มชัดได้เหมือนกัน.
ตัวอย่างเช่น การรู้ถึงสภาพการณ์ของเทเรซาและที่เราต้องจากไปนานสัปดาห์หนึ่ง ทำให้ผมอธิษฐานขอพระยะโฮวาได้โปรดคุ้มครองเธอ. ครั้นรู้ว่าเธอถูกฆาตกรรม ผมต้องสารภาพว่าผมเริ่มสงสัยว่าทำไมการอธิษฐานของผมไม่มีคำตอบ. จริงอยู่ ผมรู้ว่าพระยะโฮวาไม่ทรงรับรองเรื่องการคุ้มครองไพร่พลของพระองค์ด้วยการอัศจรรย์เป็นรายบุคคล. ผมอธิษฐานไม่ละลดเพื่อจะเกิดความเข้าใจ. ผมได้รับการชูใจจากความรู้ที่ว่าพระยะโฮวาให้การคุ้มครองฝ่ายวิญญาณแก่ไพร่พลของพระองค์ กล่าวคือพระองค์ทรงจัดเตรียมสิ่งจำเป็นแก่เราเพื่อปกป้องสัมพันธภาพของเรากับพระองค์. การป้องกันแบบนี้สำคัญที่สุด เพราะมีผลกระทบต่ออนาคตอันยั่งยืนตลอดไปของเรา. ในแง่นี้ พระยะโฮวาทรงคุ้มครองเทเรซา เธอรับใช้พระองค์ด้วยความซื่อสัตย์จนกระทั่งเธอเสียชีวิต. ผมสงบใจได้เมื่อรู้ว่าความคาดหวังเรื่องชีวิตอนาคตของเธออยู่ในพระหัตถ์อันกอปรด้วยความรักของพระองค์.
คัมภีร์หลายข้อให้การชูใจเป็นพิเศษ. มีบางข้อดังต่อไปนี้ช่วยผมรับมือได้:
“จะมีการกลับเป็นขึ้นจากตายทั้งของคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรม.” (กิจการ 24:15, ล.ม.) ผมเชื่อคำสัญญาของคัมภีร์ไบเบิลมานานแล้วเกี่ยวกับการเป็นขึ้นจากตายสู่อุทยานทางแผ่นดินโลก แต่พอถึงตอนนี้ ความหวังดังกล่าว ยิ่งเป็นจริงสำหรับผม. เพียงรู้ว่าผมจะได้โอบกอดเทเรซาอีก ผมก็มีเรี่ยวแรงจะอดทนต่อไปได้แต่ละวัน.
“พระเจ้า [ยะโฮวา] มิได้เป็นพระเจ้าของคนตาย, แต่เป็นพระเจ้าของคนเป็น ด้วยว่าจำเพาะพระเจ้า คนทุกคนยังเป็นอยู่.” (ลูกา 20:37, 38) ข้อนี้ปลอบประโลมใจได้มากแม้ในปัจจุบัน เมื่อรู้ว่าวันหนึ่งคนตายผู้ซึ่งจะได้รับการปลุกให้เป็นขึ้น “ทุกคนยังเป็นอยู่” จำเพาะพระยะโฮวา. ดังนั้น จากทัศนะของพระองค์ เทเรซาที่รักของพวกเรายังเป็นอยู่.
วิกกีอยากยกข้อคัมภีร์บางข้อซึ่งเสริมความเข้มแข็งแก่เธอเป็นพิเศษ:
“‘เป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าจะตรัสมุสา.’ (เฮ็บราย 6:18, ล.ม.; ติโต 1:2) เพราะพระเจ้าตรัสมุสาไม่ได้ ฉันรู้ว่าพระองค์จะปลุกคนตายให้เป็นขึ้นตามที่ทรงสัญญาไว้.
“‘อย่าประหลาดใจในข้อนี้ เพราะจะมีเวลาที่บรรดาผู้ซึ่งอยู่ในอุโมงค์ รำลึกจะได้ยินพระสุรเสียงของ [พระเยซู] และจะออกมา.’ (โยฮัน 5:28, 29, ล.ม.) คำ ‘อุโมงค์รำลึก’ ชวนให้เข้าใจว่าเทเรซาอยู่ในความทรงจำของพระยะโฮวาจนกว่าพระองค์จะทรงให้พระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ปลุกเธอเป็นขึ้นจากตาย. ฉันรู้ว่าไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยสำหรับเธอ นอกจากการอยู่ในความทรงจำที่สมบูรณ์ของพระยะโฮวา.
“‘ในทุกสิ่งจงทูลขอต่อพระเจ้าโดยการอธิษฐานและการวิงวอนพร้อมด้วยการขอบพระคุณ; แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าที่เหนือกว่าความคิดทุกอย่างจะป้องกันรักษาหัวใจและความสามารถในการคิดของท่านไว้โดยพระคริสต์เยซู.’ (ฟิลิปปอย 4:6, 7, ล.ม.) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันอธิษฐานขอพระวิญญาณของพระยะโฮวาเพื่อฉันจะมีกำลังเข้มแข็ง. ยามใดฉันรู้สึกหดหู่มาก ๆ ฉันจะทูลต่อพระยะโฮวาว่า ‘ข้าฯ ต้องการพระวิญญาณของพระองค์มากกว่าที่มีอยู่’ และพระองค์ทรงช่วยฉันผ่านไปได้อีกวันหนึ่ง. บางครั้งฉันไม่สามารถแม้แต่จะเปล่งเสียงพูด แต่พระองค์โปรดให้ฉันมีกำลังก้าวต่อไปได้.”
จริง ๆ แล้ว พระยะโฮวาทรงช่วยเราให้สามารถรับมือกับความเศร้าสลดครั้งนี้ซึ่งสุดจะพรรณนาได้. แน่นอน เรายังคงโศกเศร้าคิดถึงเทเรซาลูกรักของเรา. เราคิดว่าความโศกเศร้าคงจะไม่มีวันลบเลือนหมดสิ้นจนกว่าเราจะได้สวมกอดเธออีกครั้งในโลกใหม่ของพระยะโฮวา. ระหว่างนั้น เราตั้งใจแน่วแน่ยิ่งกว่าแต่ก่อนที่จะรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์. โจนาทานมุ่งมั่นตั้งใจจะอบรมเลี้ยงดูออสการ์ให้รักและรับใช้พระยะโฮวา ส่วนวิกกีและผมก็จะสนับสนุนเขาทุกทางเท่าที่ทำได้. ความปรารถนาในหัวใจของเราคืออยากอยู่พร้อมในโลกใหม่เพื่อต้อนรับการกลับมาของเทเรซา และแนะนำเธอให้รู้จักลูกชายซึ่งเธอไม่เคยได้อุ้มกอดเลย.
[ภาพหน้า 19]
เทเรซาลูกสาวของเรากำลังฟังเสียงหัวใจทารกเต้น
[ภาพหน้า 21]
เราตระหนักถึงการเกื้อหนุนที่หลั่งไหลเข้ามา ณ งานศพ
[ภาพหน้า 23]
กับวิกกี ภรรยาของผม ในวันแต่งงานของเทเรซา
[ภาพหน้า 23]
ออสการ์ หลานชายของเรา