ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

พม่า—“แผ่นดินทอง”

พม่า—“แผ่นดินทอง”

พม่า—“แผ่นดิน​ทอง”

โดย​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! ใน​พม่า

“แผ่นดิน​ทอง” แห่ง​นี้​ตั้ง​อยู่​ระหว่าง​เทือก​เขา​ที่​เป็น​พรม​แดน​ทาง​ธรรมชาติ​กับ​ประเทศ​เพื่อน​บ้าน​ใน​เอเชีย. ทิศ​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​จด​อ่าว​เบงกอล​และ​ทะเล​อันดามัน โดย​มี​ชายฝั่ง​ทะเล​ยาว​กว่า 2,000 กิโลเมตร. ทิศ​ตะวัน​ตก​จด​บังกลาเทศ​และ​อินเดีย; ทิศ​เหนือ​จด​ประเทศ​จีน; และ​ทิศ​ตะวัน​ออก​จด​ลาว​และ​ไทย. ประเทศ​นี้​มี​ขนาด​ใหญ่​กว่า​เกาะ​มาดากัสการ์​และ​เล็ก​กว่า​รัฐ​เทกซัส​ใน​อเมริกา​เหนือ​เล็ก​น้อย. ดินแดน​แห่ง​นี้​มี​ชื่อ​ว่า​อะไร? พม่า.

ผู้​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​กลุ่ม​แรก ๆ เรียก​ดินแดน​แห่ง​นี้​ว่า​แผ่นดิน​ทอง. พม่า​มี​ทรัพยากร​อัน​อุดม​สมบูรณ์ เช่น น้ำมัน​และ​ก๊าซ​ธรรมชาติ, ทองแดง, ดีบุก, เงิน, ทังสเตน, รวม​ทั้ง​แร่​อื่น ๆ และ​อัญมณี​ต่าง ๆ เช่น แซปไฟร์, มรกต, ทับทิม, และ​หยก. ทรัพยากร​อื่น ๆ รวม​ไป​ถึง​ป่า​ดิบ​ชื้น​ซึ่ง​มี​ไม้​หา​ยาก เช่น ไม้​สัก, ไม้​พะยูง, และ​ไม้​ประดู่. ป่า​ยัง​เป็น​ที่​อยู่​ของ​สัตว์​ป่า​หลาย​ชนิด เช่น ลิง, เสือ, หมี, ควาย, และ​ช้าง​เป็น​ต้น. แต่​ทรัพยากร​ที่​แท้​จริง​ของ​แผ่นดิน​ทอง​แห่ง​นี้​ก็​คือ​พลเมือง.

พลเมือง​พม่า

ชาว​พม่า​เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​รัก​สงบ มี​มารยาท​และ​มี​น้ำใจ​รับรอง​แขก​มา​แต่​โบราณ. พวก​เขา​ต้อนรับ​ผู้​มา​เยือน​ด้วย​ความ​นับถือ​และ​ให้​เกียรติ. เด็ก ๆ มัก​เรียก​ผู้​ใหญ่​ว่า​คุณ​ลุง​และ​คุณ​ป้า.

ผู้​มา​เยือน​มัก​กล่าว​ชม​ว่า​ผู้​สูง​อายุ​ใน​พม่า​ไม่​ค่อย​มี​รอย​เหี่ยว​ย่น​บน​ใบ​หน้า. พวก​ผู้​หญิง​จะ​บอก​ว่า​สาเหตุ​หนึ่ง​ที่​คน​พม่า​มี​หน้า​อ่อน​กว่า​วัย​ก็​คือ​พวก​เขา​นิยม​ใช้​เครื่อง​สำอาง​สี​ทอง​อ่อน​ชนิด​หนึ่ง—ทานาคา—ซึ่ง​ได้​มา​จาก​ต้น​ทานาคา. พวก​ผู้​หญิง​จะ​ฝน​กิ่ง​ทานาคา บน​แผ่น​หิน​แบน ๆ ใส่​น้ำ​ลง​ไป​เล็ก​น้อย​แล้ว​เอา​มา​ทา​หน้า​เป็น​ลวด​ลาย​แบบ​ต่าง ๆ. นอก​จาก​จะ​ช่วย​รักษา​ผิว​และ​ทำ​ให้​เย็น​สบาย​แล้ว ทานาคา ยัง​ปก​ป้อง​ผิว​ไว้​จาก​แสง​แดด​อัน​ร้อน​ระอุ​ใน​เขต​ร้อน​ด้วย.

เครื่อง​แต่ง​กาย​โดย​ทั่ว​ไป​สำหรับ​ทั้ง​ผู้​ชาย​และ​ผู้​หญิง​ใน​พม่า​คือ​โสร่ง ซึ่ง​ทำ​ขึ้น​ง่าย ๆ โดย​นำ​ผ้า​ประมาณ​สอง​เมตร​มา​เย็บ​ริม​ด้าน​ข้าง​ให้​ติด​กัน. เมื่อ​ใส่​โสร่ง ผู้​หญิง​ก็​จะ​ทบ​โสร่ง​รอบ​ตัว​เหมือน​นุ่ง​กระโปรง แล้ว​เหน็บ​ชาย​ไว้​ที่​เอว. ส่วน​ผู้​ชาย​ก็​จะ​มัด​ชาย​โสร่ง​ทั้ง​สอง​ข้าง​แบบ​หลวม ๆ ไว้​ที่​หน้า​ท้อง. โสร่ง​แบบ​นี้​ดู​สุภาพ​และ​อากาศ​ถ่าย​เท​ได้​ดี​จึง​เหมาะ​อย่าง​ยิ่ง​กับ​ประเทศ​เขต​ร้อน.

ถ้า​ไป​ชม​ตลาด​ก็​จะ​เห็น​ว่า​ชาว​พม่า​มี​ความ​สามารถ​หลาย​อย่าง เก่ง​ใน​การ​ทอ​ผ้า​ไหม, ทำ​เครื่อง​ประดับ, และ​แกะ​สลัก​ไม้. มี​การ​แกะ​ไม้​สัก, ไม้​ประดู่, และ​ไม้​ชนิด​อื่น ๆ เป็น​รูป​คน, เสือ, ม้า, ควาย, และ​ช้าง​ซึ่ง​ล้วน​แต่​ดู​สวย​งาม. แม้​แต่​ของ​ใช้​ประจำ​วัน​เช่น หน้า​โต๊ะ, ฉาก​กั้น​ห้อง, และ​เก้าอี้​ก็​ประดับ​ด้วย​ลาย​แกะ​สลัก​อัน​ซับซ้อน. แต่​ถ้า​คุณ​คิด​จะ​ซื้อ​จริง ๆ ก็​จง​เตรียม​ตัว​ต่อ​รอง​ราคา​ให้​ดี!

ชาว​พม่า​ยัง​มี​ฝีมือ​เป็น​เลิศ​ใน​เรื่อง​การ​ทำ​เครื่อง​เขิน​อัน​งดงาม​อีก​ด้วย เช่น ถ้วย, จาน, และ​กล่อง​ที่​มี​ฝา​ปิด. แต่​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เครื่อง​เขิน​ของ​พม่า​ไม่​เหมือน​ใคร​ก็​คือ​รูป​แบบ​และ​ลวด​ลาย​ที่​ไม่​ตาย​ตัว. เครื่อง​เขิน​แบบ​ง่าย ๆ เริ่ม​จาก​การ​สาน​ตอก​ไม้​ไผ่. (ของ​ที่​มี​คุณภาพ​สูง​กว่า​จะ​เริ่ม​ด้วย​การ​สาน​ตอก​ไม้​ไผ่​กับ​ขน​ม้า.) ช่าง​จะ​ลง​รัก​บน​โครง​ไม้​ไผ่​นี้​ถึง​เจ็ด​ชั้น น้ำ​รัก​นี้​ได้​จาก​ยาง​ของ​ต้น​ทิเซ หรือ​ต้น​รัก ผสม​กับ​เถ้า​กระดูก​สัตว์​บด​ละเอียด.

พอ​แห้ง​แล้ว​ช่าง​ก็​จะ​ใช้​เหล็ก​แหลม​แกะ​หรือ​ขุด​ลวด​ลาย​ลง​บน​พื้น​ผิว. ภาย​หลัง​ลง​สี​เล็ก​น้อย​และ​ขัด​เงา ผล​งาน​ที่​ออก​มา​ก็​ไม่​ได้​เป็น​เพียง​งาน​ศิลปะ​ชั้น​ยอด​เท่า​นั้น แต่​เป็น​ของ​ที่​มี​ประโยชน์​ใช้สอย​ใน​บ้าน​อีก​ด้วย.

อิทธิพล​อัน​เข้มแข็ง​ของ​ศาสนา

พลเมือง​ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์​ของ​พม่า​นับถือ​ศาสนา​พุทธ; ที่​เหลือ​ส่วน​ใหญ่​อ้าง​ว่า​เป็น​มุสลิม​และ​คริสเตียน. พม่า​ก็​เหมือน​กับ​ประเทศ​อื่น ๆ ใน​เอเชีย​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​ที่​ศาสนา​มี​ส่วน​สำคัญ​ใน​วิถี​ชีวิต​ของ​ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผู้​มา​เยือน​หลาย​คน​อาจ​ไม่​คุ้น​เคย​กับ​ธรรมเนียม​ทาง​ศาสนา​บาง​อย่าง.

ยก​ตัว​อย่าง พระ​สงฆ์​ใน​ศาสนา​พุทธ​ต้อง​รักษา​ศีล​โดย​ห้าม​ถูก​เนื้อ​ต้อง​ตัว​ผู้​หญิง. ดัง​นั้น ด้วย​ความ​นับถือ พวก​ผู้​หญิง​จะ​ไม่​เข้า​ใกล้​พระ​สงฆ์​มาก​เกิน​ไป. ธรรมเนียม​ทาง​ศาสนา​มี​ผล​แม้​กระทั่ง​ใน​การ​โดยสาร​บน​รถ​ประจำ​ทาง. ชาว​ตะวัน​ตก​อาจ​งง​เมื่อ​เห็น​ป้าย​บน​รถ​ประจำ​ทาง​เขียน​ว่า “โปรด​อย่า​ถาม​พนักงาน​ขับ​รถ​ว่า​เรา​จะ​ไป​ถึง​จุด​หมาย​กี่​โมง.” พวก​คน​ขับ​ต่าง​พา​กัน​เบื่อ​หน่าย​ผู้​โดยสาร​ขี้​บ่น​ไหม? เปล่า. ชาว​พุทธ​ใน​พม่า​เชื่อ​ว่า​นัต (เหล่า​วิญญาณ​หรือ​ผี) จะ​ไม่​ชอบ​คำ​ถาม​นี้​และ​อาจ​ทำ​ให้​รถ​ล่า​ช้า​ได้!

ประวัติศาสตร์​พม่า

ประวัติศาสตร์​ตอน​ต้น ๆ ของ​พม่า​นั้น​คลุมเครือ แต่​ดู​เหมือน​ว่า​ชน​เผ่า​ต่าง ๆ หลาย​เผ่า​อพยพ​เข้า​มา​จาก​ดินแดน​ใกล้​เคียง. ดู​เหมือน​ว่า​ชาว​มอญ​คง​เป็น​ผู้​ตั้ง​ชื่อ​ดินแดน​แห่ง​นี้​ว่า​สุวรรณ​ภูมิ ซึ่ง​หมาย​ความ​ว่า “แผ่นดิน​ทอง.” ชาว​ทิเบต-พม่า​อพยพ​มา​จาก​ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​เทือก​เขา​หิมาลัย และ​ชาว​ไทย​อพยพ​มา​จาก​ดินแดน​ซึ่ง​ใน​ปัจจุบัน​คือ​ภาค​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​ของ​จีน. ภูมิ​ประเทศ​ที่​เป็น​เทือก​เขา​สูง ๆ ต่ำ ๆ ของ​พม่า​ทำ​ให้​ชน​เผ่า​ต่าง ๆ อยู่​แยก​จาก​กัน ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​มี​ชน​เผ่า​และ​ภาษา​ต่าง ๆ มาก​มาย.

ตอน​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 19 ชาว​อังกฤษ​เริ่ม​เข้า​มา​จาก​อินเดีย ซึ่ง​เพิ่ง​เป็น​อาณานิคม​ใหม่ ๆ. พวก​อังกฤษ​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​อยู่​ทาง​ภาค​ใต้​ของ​ประเทศ​ก่อน แล้ว​ใน​ที่​สุด​ก็​ยึด​ครอง​ได้​ทั้ง​ประเทศ. พอ​ถึง​ปี 1886 พม่า​ก็​ถูก​ผนวก​เข้า​กับ​อินเดีย​ของ​อังกฤษ.

ใน​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 ดินแดน​แห่ง​นี้​กลาย​เป็น​สมรภูมิ​อัน​ดุเดือด และ​ภาย​ใน​ระยะ​เวลา​ไม่​กี่​เดือน​ใน​ปี 1942 กองทัพ​ญี่ปุ่น​ก็​ขับ​พวก​อังกฤษ​ออก​ไป. ต่อ​มา “ทาง​รถไฟ​สาย​มรณะ” ก็​ถูก​สร้าง​ขึ้น. ทาง​รถไฟ​สาย​นี้​ซึ่ง​มี​ความ​ยาว 400 กิโลเมตร​ตัด​ผ่าน​เขต​ป่า​เขา​ที่​อันตราย​ซึ่ง​เชื่อม​ต่อ​เมือง​ธันบูชายัต​ใน​พม่า​กับ​หนอง​ปลา​ดุก​ใน​ประเทศ​ไทย. เนื่อง​จาก​ขาด​แคลน​โลหะ จึง​มี​การ​รื้อ​ราง​รถไฟ​ส่วน​ใหญ่​มา​จาก​มลายา​กลาง (ปัจจุบัน​คือ​มาเลเซีย) มา​สร้าง​ทาง​รถไฟ​สาย​นี้. การ​สร้าง​สะพาน​ข้าม​แม่น้ำ​แคว​ซึ่ง​เป็น​เพียง​ส่วน​เล็ก ๆ ของ​โครงการ​ถูก​นำ​ไป​สร้าง​เป็น​ภาพยนตร์​อัน​โด่งดัง​ใน​เวลา​ต่อ​มา.

มี​การ​สร้าง​ทาง​รถไฟ​สาย​นี้​โดย​ใช้​ช้าง 400 เชือก​และ​คน​กว่า 300,000 คน​ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​เชลย​ศึก​และ​พลเมือง​ชาว​อินเดีย​และ​พม่า. มี​คน​เสีย​ชีวิต​ระหว่าง​การ​ก่อ​สร้าง​หลาย​หมื่น​คน. เนื่อง​จาก​ถูก​เครื่องบิน​ของ​ฝ่าย​พันธมิตร​ทิ้ง​ระเบิด​บ่อย ๆ ทาง​รถไฟ​สาย​นี้​จึง​ไม่​ค่อย​ถูก​ใช้​งาน​และ​เลิก​ใช้​ไป​ใน​ที่​สุด. ต่อ​มา​ราง​ส่วน​ใหญ่​ก็​ถูก​รื้อ​ไป​ใช้​ใน​ที่​อื่น.

ใน​ที่​สุด ชาว​อังกฤษ​ก็​ต่อ​สู้​จน​กลับ​เข้า​มา​ใน​ประเทศ​ได้​อีก​ครั้ง โดย​ยึด​พม่า​คืน​จาก​ญี่ปุ่น​ใน​ปี 1945. แต่​การ​ปกครอง​ของ​อังกฤษ​ก็​อยู่​ได้​ไม่​นาน เพราะ​พม่า​ได้​รับ​เอกราช​จาก​อังกฤษ​ใน​วัน​ที่ 4 มกราคม 1948. ใน​วัน​ที่ 22 มิถุนายน 1989 สหประชาชาติ​รับรอง​ชื่อ​ใหม่​ของ​ประเทศ​นี้ นั่น​คือ เมียนมาร์ (Myanmar).

ดินแดน​แห่ง​ราชธานี​ทอง

ตลอด​หลาย​ศตวรรษ​พม่า​เคย​มี​นคร​หลวง​หลาย​แห่ง. ตัว​อย่าง​เช่น ใจ​กลาง​ของ​พม่า​เป็น​ที่​ตั้ง​ของ​เมือง​มัณฑะเลย์ หรือ​ที่​นิยม​เรียก​กัน​ว่า​นคร​ทอง. เมือง​นี้​ซึ่ง​มี​ประชากร 500,000 คน มี​เจดีย์​จาก​ทุก​ยุค​ทุก​สมัย​กระจาย​อยู่​ทั่ว​เมือง และ​เป็น​ราชธานี​แห่ง​สุด​ท้าย​ก่อน​ที่​อังกฤษ​จะ​เข้า​มา​ยึด​ครอง. พระเจ้า​มินดง​สืบ​ราชสมบัติ ณ เมือง​มัณฑะเลย์​ใน​ปี 1857 เมื่อ​พระองค์​ทรง​สร้าง​พระ​ราชวัง​อัน​ใหญ่​โต​ขึ้น​ที่​นั่น​สำหรับ​พระองค์​เอง​และ​เหล่า​พระ​มเหสี. เมือง​เก่า​ซึ่ง​มี​พื้น​ที่ 4 ตาราง​กิโลเมตร​นี้​อยู่​ภาย​ใน​กำแพง​ที่​สูง 8 เมตร​และ​มี​ฐาน​หนา 3 เมตร. มี​คู​กว้าง 70 เมตร​ล้อม​รอบ​กำแพง​เมือง.

ใน​ปี 1885 อังกฤษ​เนรเทศ​พระเจ้า​สีป่อ ผู้​สืบ​ราชสมบัติ​ต่อ​จาก​พระเจ้า​มินดง ไป​ประทับ​อยู่​ที่​อินเดีย แต่​พวก​อังกฤษ​ไม่​ได้​แตะ​ต้อง​พระ​ราชวัง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 ไม่​ได้​ละ​เว้น​พระ​ราชวัง​นั้น และ​ก็​ถูก​เผา​ทำลาย​ไป. ด้วย​ความ​มุ่ง​มั่น ชาว​พม่า​สร้าง​พระ​ราชวัง​จำลอง​อัน​งดงาม​ขึ้น​รวม​ทั้ง​เรือน​ไม้​หลัง​ใหญ่​สี​แดง​และ​สี​ทอง​บน​ที่​ตั้ง​เดิม. พระ​ราชวัง​นี้​เปิด​ให้​เข้า​เยี่ยม​ชม​ได้.

จาก​เมือง​มัณฑะเลย์​ลง​มา​ตาม​แม่น้ำ​เป็น​ระยะ​ทาง 200 กิโลเมตร​เป็น​ที่​ตั้ง​ของ​เมือง​พุกาม. เมือง​นี้​เป็น​ราชธานี​เก่า​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่ง​ตั้ง​ขึ้น​ใน​ช่วง​สหัสวรรษ​แรก​ของ​สากล​ศักราช​และ​รุ่งเรือง​ถึง​จุด​สูง​สุด​ใน​ศตวรรษ​ที่ 11; แต่​เมือง​นี้​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​หลัง​จาก​นั้น​เพียง 200 ปี. ถึง​กระนั้น ซาก​ปรัก​หัก​พัง​ของ​วัด​และ​เจดีย์​ต่าง ๆ หลาย​ร้อย​แห่ง​ที่​กระจัด​กระจาย​อยู่​ตาม​หมู่​บ้าน​เล็ก ๆ หลาย​แห่ง​ก็​สะท้อน​ถึง​สง่า​ราศี​ใน​อดีต.

นคร​หลวง​ใน​ปัจจุบัน​คือ​กรุง​ย่างกุ้ง (ชื่อ​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​จน​ถึง​ปี 1989 คือ Rangoon) เมือง​นี้​เป็น​เมือง​ที่​พลุกพล่าน มี​ประชากร​กว่า​สาม​ล้าน​คน มี​รถยนต์, รถ​ประจำ​ทาง, และ​รถ​โดยสาร​ขนาด​เล็ก​วิ่ง​กัน​ขวักไขว่​และ​บีบ​แตร​เสียง​ดัง. แม้​จะ​มี​ตึก​เก่า ๆ หลาย​หลัง​ซึ่ง​ทำ​ให้​นึก​ย้อน​ไป​ถึง​สมัย​ที่​เป็น​อาณานิคม​ของ​อังกฤษ ตั้ง​อยู่​บน​ถนน​กว้าง​ซึ่ง​มี​ต้น​ไม้​เรียง​ราย​อยู่​สอง​ข้าง​ทาง แต่​ปัจจุบัน​เมือง​นี้​ก็​มี​โรงแรม​ทัน​สมัย​และ​มี​อาคาร​สำนักงาน​ด้วย.

เมือง​นี้​ยัง​มี​เจดีย์​ชเวดากอง​ซึ่ง​เป็น​เจดีย์​ยอด​ทอง​สูง 98 เมตร​และ​มี​อายุ 2,500 ปี เจดีย์​นี้​สะท้อน​ถึง​ความ​มั่งคั่ง​และ​ความ​ยอด​เยี่ยม​ทาง​สถาปัตยกรรม​ของ​สมัย​ก่อน. กล่าว​กัน​ว่า มี​เพชร​พลอย​และ​อัญมณี​อื่น ๆ ประมาณ 7,000 เม็ด​ฝัง​อยู่​รอบ ๆ ยอด​เจดีย์​นี้. ปลาย​ยอด​ประดับ​ด้วย​เพชร​เม็ด​หนึ่ง​หนัก 76 กะรัต. เช่น​เดียว​กับ​อาคาร​สมัย​โบราณ​หลาย​หลัง​ใน​พม่า เจดีย์​ชเวดากอง​ได้​รับ​ความ​เสียหาย​จาก​แผ่นดิน​ไหว​และ​สงคราม และ​เจดีย์​องค์​นี้​ก็​ได้​รับ​การ​บูรณะ​ขึ้น​ใหม่​แทบ​ทั้ง​หมด.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม บาง​คน​กล่าว​ว่า​เจดีย์​ทอง​ที่​ชื่อ​สุเล เป็น​ศูนย์กลาง​ของ​กรุง​ย่างกุ้ง​ที่​แท้​จริง. เจดีย์​สุเล​ที่​อายุ 2,000 ปี​และ​สูง 46 เมตร​นี้​เป็น​เกาะ​กลาง​ถนน​ขนาด​ใหญ่​สี​ทอง​อยู่​บน​ทาง​แยก​ที่​ถนน​หลัก​สี่​สาย​มา​บรรจบ​กัน. มี​ร้าน​ขาย​ของ​ตั้ง​อยู่​รอบ​เจดีย์​นี้​ด้วย.

ทองคำ​ฝ่าย​วิญญาณ

ใน​ปี 1914 นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​นานา​ชาติ​สอง​คน (ชื่อ​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​สมัย​นั้น) เดิน​ทาง​จาก​อินเดีย​มา​ถึง​กรุง​ย่างกุ้ง​เพื่อ​เสาะ​หา​ผู้​คน​ที่​หยั่ง​รู้​ค่า​ทองคำ​ที่​มี​ค่า​มาก​กว่า นั่น​คือ​ทองคำ​ฝ่าย​วิญญาณ. ใน​ปี 1928 และ 1930 มี​มิชชันนารี​เดิน​ทาง​มา​สมทบ​เพิ่ม​ขึ้น และ​พอ​ถึง​ปี 1939 มี​การ​ตั้ง​สาม​ประชาคม​ซึ่ง​มี​พยาน​ฯ ทั้ง​หมด 28 คน. สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​ประเทศ​อินเดีย​ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​ใน​เมือง​บอมเบย์​ดู​แล​งาน​ที่​นี่​จน​ถึง​ปี 1938. ตั้ง​แต่​ปี​นั้น​จน​ถึง​ปี 1940 สาขา​ออสเตรเลีย​ดู​แล​งาน​ที่​นี่. หลัง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 มี​การ​เปิด​สำนักงาน​สาขา​ของ​พม่า​เอง​ใน​กรุง​ย่างกุ้ง​เมื่อ​ปี 1947.

ใน​เดือน​มกราคม 1978 สำนักงาน​สาขา​ย้าย​ไป​ยัง​ถนน​อินยา. อาคาร​สำนักงาน​ใหญ่​ขนาด​สาม​ชั้น​ถูก​เรียก​ว่า​สำนัก​เบเธล​พม่า. สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล 52 คน​กำลัง​ทำ​งาน​อย่าง​ขันแข็ง​ใน​การ​เอา​ใจ​ใส่​ความ​จำเป็น​ของ​พยาน​ฯ ประมาณ 3,000 คน​ซึ่ง​ทำ​งาน​อยู่​ใน​ประเทศ​นี้. การ​ที่​มี​ภาษา​เผ่า​ต่าง ๆ มาก​มาย​ใน​พม่า​ทำ​ให้​การ​แปล​เป็น​งาน​หลัก​ของ​สาขา​นี้. งาน​หนัก​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​มี ‘ทองคำ’ อีก​ชนิด​หนึ่ง​เพิ่ม​เข้า​กับ​ทรัพยากร​ที่​มี​มาก​มาย​ใน​แผ่นดิน​ทอง​แห่ง​นี้.

[แผนที่​หน้า 17]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

บังกลาเทศ

อินเดีย

จีน

ลาว

ไทย

พม่า

มัณฑะเลย์

พุกาม

ย่างกุ้ง

อ่าว​เบงกอล

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Mountain High Maps® Copyright © 1997 Digital Wisdom, Inc.

[ภาพ​หน้า 17]

จาก​บน: ผู้​ชาย​และ​ผู้​หญิง​นุ่ง​โสร่ง; สาม​เณร​ใน​ศาสนา​พุทธ; ผู้​หญิง​พอก​หน้า​ด้วย “ทา​นา​คา”

[ภาพ​หน้า 18]

การ​ประกาศ​ใน​ไร่​ถั่ว​ลิสง

[ภาพ​หน้า 18]

ไม้​แกะ​สลัก​วาง​ขาย​ใน​ตลาด​ท้องถิ่น

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

chaang.com

[ภาพ​หน้า 18]

การ​ขุด​ลวด​ลาย​ลง​บน​พื้น​ผิว​ของ​หน้า​โต๊ะ​เครื่อง​เขิน

[ภาพ​หน้า 18]

ถ้วย​เครื่อง​เขิน​ที่​ได้​รับ​การ​ประดับ​อย่าง​งดงาม

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

chaang.com

[ภาพ​หน้า 20]

สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​พม่า

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 16]

© Jean Leo Dugast/Panos