ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วันที่อาคารแฝดถล่ม

วันที่อาคารแฝดถล่ม

วัน​ที่​อาคาร​แฝด​ถล่ม

เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​วัน​ที่ 11 กันยายน 2001 ใน​นคร​นิวยอร์ก, กรุง​วอชิงตัน ดี. ซี., และ​เพนซิลเวเนีย คง​จะ​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​ชาว​โลก​หลาย​ล้าน​หรือ​ไม่​ก็​หลาย​พัน​ล้าน​คน​อย่าง​ไม่​มี​วัน​ลบ​เลือน. คุณ​อยู่​ที่​ไหน​ตอน​ที่​เห็น​หรือ​ได้​ยิน​ข่าว​เรื่อง​การ​โจมตี​เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์​ใน​นคร​นิวยอร์ก​และ​เพนทากอน​ใน​กรุง​วอชิงตัน?

การ​ทำลาย​ล้าง​ที่​รวด​เร็ว​จน​เหลือเชื่อ​ทั้ง​ทรัพย์​สิน​มาก​มาย​และ​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​นั้น​คือ​การ​ทำลาย​ชีวิต​คน​จำนวน​มาก​ทำ​ให้​มนุษยชาติ​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​หยุด​และ​คิด​ใคร่ครวญ.

เรา​ได้​เรียน​รู้​อะไร​บ้าง​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​เรา​ถือ​ว่า​สำคัญ​เป็น​อันดับ​แรก​และ​ทาง​เลือก​ใน​ชีวิต​ของ​เรา? โศกนาฏกรรม​ครั้ง​นี้​ทำ​ให้​คุณลักษณะ​ที่​ดี​บาง​อย่าง​ของ​มนุษยชาติ เช่น ความ​เสีย​สละ, ความ​เมตตา​สงสาร, ความ​อด​ทน, และ​ความ​ไม่​เห็น​แก่​ตัว เด่น​ชัด​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร? บทความ​นี้​และ​บทความ​ถัด​ไป​จะ​พยายาม​ตอบ​คำ​ถาม​ข้อ​หลัง.

ผู้​รอด​ชีวิต​เล่า​เหตุ​การณ์

ทันที​หลัง​จาก​เกิด​ความ​หายนะ​ใน​นคร​นิวยอร์ก มี​การ​ปิด​ระบบ​รถไฟ​ใต้​ดิน คน​จำนวน​มาก​จึง​ต้อง​ออก​จาก​ย่าน​แมนฮัตตัน​ทาง​ใต้​โดย​การ​เดิน​เท้า หลาย​คน​เดิน​ข้าม​สะพาน​บรุกลิน​และ​สะพาน​แมนฮัตตัน. พวก​เขา​เห็น​สำนักงาน​และ​โรง​งาน​ของ​สำนักงาน​ใหญ่​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​อย่าง​ชัดเจน. ไม่​นาน​นัก ผู้​ที่​หนี​จาก​ภัย​พิบัติ​นั้น​บาง​คน​ก็​ไป​ที่​อาคาร​เหล่า​นี้.

อาลีชา (ขวา) ซึ่ง​เป็น​ลูก​สาว​ของ​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง อยู่​ใน​กลุ่ม​แรก ๆ ที่​มา​ถึง. ตัว​เธอ​เต็ม​ไป​ด้วย​ฝุ่น​และ​ขี้เถ้า. * เธอ​เล่า​ว่า “ตอน​ที่​ฉัน​อยู่​บน​รถไฟ​กำลัง​ไป​ทำ​งาน ฉัน​เห็น​ควัน​ไฟ​พุ่ง​ออก​จาก​ตึก​เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์. พอ​ฉัน​มา​ถึง​บริเวณ​ที่​เกิด​เหตุ มี​เศษ​กระจก​กลาด​เกลื่อน​เต็ม​พื้น และ​ฉัน​รู้สึก​ได้​ถึง​ไอ​ร้อน. ผู้​คน​แตก​ตื่น​วิ่ง​กัน​ไป​คน​ละ​ทาง พวก​ตำรวจ​ก็​พยายาม​อพยพ​ผู้​คน​ออก​จาก​บริเวณ​นั้น. ที่​นั่น​ดู​เหมือน​เขต​สงคราม.

“ฉัน​วิ่ง​ไป​หลบ​ที่​ตึก​ข้าง ๆ. จาก​นั้น​ฉัน​ก็​ได้​ยิน​เสียง​ระเบิด​เมื่อ​เครื่องบิน​ลำ​ที่​สอง​ชน​ตึก​ใต้. เหตุ​การณ์​ตอน​นั้น​ไม่​อาจ​จะ​บรรยาย​ได้ มี​ควัน​ดำ​เต็ม​ไป​หมด. มี​คน​บอก​ให้​เรา​ออก​ไป​จาก​เขต​อันตราย. ฉัน​ได้​ลง​เรือ​ข้าม​แม่น้ำ​อีสต์​มา​ที่​บรุกลิน. พอ​ฉัน​มา​ถึง​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง ฉัน​เงย​หน้า​ขึ้น​แล้ว​ก็​เห็น​ป้าย​ใหญ่​เขียน​ว่า ‘ว็อชเทาเวอร์.’ สำนักงาน​ใหญ่​ของ​ศาสนา​แม่​ฉัน​เอง! ฉัน​รีบ​เดิน​ไป​ที่​อาคาร​สำนักงาน​ทันที. ฉัน​รู้​ว่า​จะ​ได้​รับ​การ​ดู​แล​อย่าง​ดี​ที่​สุด. ฉัน​ล้าง​เนื้อ​ล้าง​ตัว​แล้ว​ก็​โทรศัพท์​หา​พ่อ​แม่​ของ​ฉัน.”

เวนเดลล์ (ขวา) เป็น​พนักงาน​เฝ้า​ประตู​ที่​โรงแรม​แมริออท​ซึ่ง​อยู่​ระหว่าง​อาคาร​ทั้ง​สอง. เขา​เล่า​ว่า “ตอน​ที่​เกิด​ระเบิด​ครั้ง​แรก​ผม​ทำ​งาน​อยู่​ใน​ห้อง​โถง​รับรอง​แขก. ผม​เห็น​เศษ​วัสดุ​ต่าง ๆ ร่วง​หล่น​ลง​มา​รอบ​ตึก. ผม​มอง​ไป​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ของ​ถนน​เห็น​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​มี​ไฟ​ลุก​ท่วม​ตัว​กำลัง​นอน​อยู่​ที่​พื้น. ผม​ถอด​เสื้อ​แจ็กเกต​กับ​เสื้อ​เชิ้ต​แล้ว​วิ่ง​เข้า​ไป​พยายาม​ดับ​ไฟ. คน​ที่​เดิน​ผ่าน​มา​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​เข้า​มา​ช่วย​ด้วย. เสื้อ​ผ้า​ของ​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ถูก​ไฟ​ไหม้​หมด​เหลือ​แต่​ถุง​เท้า​กับ​รอง​เท้า. จาก​นั้น​เจ้าหน้าที่​ดับ​เพลิง​ก็​นำ​เขา​ไป​ส่ง​โรง​พยาบาล.

“จาก​นั้น​ไม่​นาน ไบรอันต์ กัมเบล จาก​รายการ​ข่าว​สถานี​โทรทัศน์​ซีบีเอส​ก็​โทรศัพท์​มา​ให้​ผม​เล่า​เรื่อง​ที่​เห็น​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น. ด้วย​เหตุ​นี้ ครอบครัว​ของ​ผม​ที่​หมู่​เกาะ​เวอร์จิน​จึง​รู้​ว่า​ผม​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​เพราะ​เห็น​ผม​ใน​ทีวี.”

โดนัลด์ ชาย​ร่าง​ใหญ่​สูง 195 เซนติเมตร​ซึ่ง​เป็น​พนักงาน​ที่​เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์ อยู่​บน​ชั้น​ที่ 31 ใน​ตึก​ของ​เขา​และ​กำลัง​มอง​มา​ที่​อาคาร​แฝด​และ​โรงแรม​แมริออท. เขา​บอก​ว่า “ผม​ตะลึง​และ​กลัว​มาก​กับ​สิ่ง​ที่​ได้​เห็น. มี​คน​ตก​ลง​มา​และ​มี​คน​กระโดด​ลง​มา​จาก​หน้าต่าง​ของ​ตึก​เหนือ. ผม​ตกใจ​มาก​และ​วิ่ง​ออก​มา​จาก​ตึก​ที่​ผม​อยู่​อย่าง​เร็ว​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​ทำ​ได้.”

ประสบการณ์​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​เป็น​ของ​มารดา​วัย 60 เศษ ๆ และ​บุตร​สาว​สอง​คน​ใน​วัย 40 เศษ ๆ. รูท​กับ​น้อง​สาว​ของ​เธอ​ชื่อ​โจนี​พัก​อยู่​กับ​แจนิซ มารดา​ของ​พวก​เธอ ที่​โรงแรม​แห่ง​หนึ่ง​ใกล้​กับ​อาคาร​แฝด. รูท ซึ่ง​เป็น​พยาบาล​วิชา​ชีพ เล่า​เหตุ​การณ์​ว่า “ตอน​นั้น​ฉัน​กำลัง​อาบ​น้ำ. จู่ ๆ แม่​กับ​น้อง​สาว​ก็​ตะโกน​ให้​ฉัน​ออก​มา. เรา​อยู่​บน​ชั้น​ที่ 16 และ​แม่​กับ​น้อง​เห็น​เศษ​วัสดุ​ต่าง ๆ หล่น​ผ่าน​หน้าต่าง​ลง​ไป. ที่​จริง แม่​เห็น​ร่าง​ของ​ชาย​คน​หนึ่ง​กระเด็น​ข้าม​หลังคา​ตึก​ใกล้​เคียง​เหมือน​กับ​ว่า​เขา​ถูก​ดีด​ออก​มา​จาก​ที่​ไหน​สัก​แห่ง.

“ฉัน​รีบ​แต่ง​ตัว​และ​เรา​เริ่ม​เดิน​ลง​บันได. มี​หลาย​คน​กรีด​ร้อง. เรา​ออก​ไป​ที่​ถนน. เรา​ได้​ยิน​เสียง​ระเบิด​และ​เห็น​ประกาย​ไฟ. เรา​ได้​รับ​คำ​สั่ง​ให้​วิ่ง​ไป​ทาง​ใต้​ไป​ที่​แบตเตอรี่​ปาร์ก ซึ่ง​มี​เรือ​ข้าม​ฟาก​ไป​เกาะ​สแตเทน. ระหว่าง​ทาง เรา​พลัด​หลง​กับ​แม่ ซึ่ง​เป็น​โรค​หืด​เรื้อรัง. แม่​จะ​รอด​จาก​ควัน, ขี้เถ้า, และ​ฝุ่น​เหล่า​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? เรา​ตาม​หา​แม่​อยู่​ครึ่ง​ชั่วโมง​แต่​ไม่​มี​วี่แวว. อย่าง​ไร​ก็​ดี ตอน​แรก​เรา​ไม่​เป็น​ห่วง​มาก​นัก​เพราะ​แม่​เป็น​คน​เก่ง​และ​ควบคุม​สติ​ได้​ดี.

“ใน​ที่​สุด มี​คน​บอก​ให้​เรา​เดิน​ไป​ที่​สะพาน​บรุกลิน​และ​ข้าม​ไป​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง. คิด​ดู​สิ​ว่า​เรา​โล่ง​ใจ​สัก​เพียง​ไร​เมื่อ​ไป​ถึง​ฝั่ง​บรุกลิน​แล้ว​เห็น​ป้าย​ขนาด​ใหญ่​ที่​เขียน​ว่า ‘ว็อชเทาเวอร์’! เรา​รู้​ว่า​ปลอด​ภัย​แล้ว.

“เรา​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​และ​ได้​ที่​พัก. เรา​ยัง​ได้​รับ​เสื้อ​ผ้า​ด้วย เพราะ​เรา​เหลือ​แต่​เสื้อ​ผ้า​ที่​ใส่​ติด​ตัว​อยู่. แต่​แม่​อยู่​ไหน? เรา​พยายาม​ตาม​หา​แม่​ทั้ง​คืน​ที่​โรง​พยาบาล​หลาย​แห่ง​แต่​ไม่​พบ. วัน​รุ่ง​ขึ้น​ประมาณ 11:30 น. เรา​ก็​ได้​ข่าว. แม่​อยู่​ข้าง​ล่าง​ที่​ห้อง​รับ​แขก! เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​แม่?”

แจนิซ ผู้​เป็น​แม่ เล่า​ต่อ​ว่า “ตอน​ที่​เรา​รีบ​ออก​มา​จาก​โรงแรม​นั้น ฉัน​เป็น​ห่วง​เพื่อน​ที่​สูง​อายุ​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​หนี​ออก​มา​กับ​เรา​ไม่​ได้. ฉัน​อยาก​จะ​กลับ​ไป​อุ้ม​เธอ​ออก​มา​เอง. แต่​มัน​อันตราย​เกิน​ไป. ตอน​ที่​โกลาหล​กัน​อยู่​นั้น ฉัน​ก็​พลัด​กับ​ลูก​สาว. อย่าง​ไร​ก็​ดี ฉัน​ไม่​เป็น​ห่วง​มาก​นัก เพราะ​เธอ​สอง​คน​เป็น​คน​สุขุม​และ​รูท​ก็​เป็น​พยาบาล​ที่​มี​ความ​สามารถ.

“ฉัน​มอง​ไป​ที่​ไหน​ก็​เห็น​แต่​คน​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​พวก​เด็ก ๆ และ​ทารก. ฉัน​ช่วย​หลาย​คน​เท่า​ที่​จะ​ทำ​ได้. ฉัน​ไป​ที่​บริเวณ​คัด​แยก​ผู้​บาดเจ็บ ซึ่ง​มี​การ​คัด​ผู้​ประสบ​ภัย​และ​รักษา​ตาม​ความ​หนัก​เบา. ฉัน​ช่วย​ล้าง​มือ​และ​ล้าง​หน้า​ให้​ตำรวจ​และ​เจ้าหน้าที่​ดับ​เพลิง ซึ่ง​มี​เขม่า​และ​ฝุ่น​เกาะ​อยู่​เต็ม​ไป​หมด. ฉัน​อยู่​ที่​นั่น​จน​ถึง​ตี 3. จาก​นั้น​ฉัน​ก็​ขึ้น​เรือ​ข้าม​ฟาก​เที่ยว​สุด​ท้าย​ไป​เกาะ​สแตเทน. ตอน​นั้น​ฉัน​คิด​ว่า​ลูก​สาว​ของ​ฉัน​หลบ​ภัย​อยู่​ที่​นั่น. แต่​ฉัน​ไม่​พบ​ลูก​สาว.

“ตอน​เช้า​ฉัน​พยายาม​ขึ้น​เรือ​ข้าม​ฟาก​เที่ยว​แรก​กลับ​ไป​ที่​แมนฮัตตัน แต่​ฉัน​ไป​ไม่​ได้​เพราะ​ฉัน​ไม่​ใช่​เจ้าหน้าที่​กู้​ภัย. จาก​นั้น ฉัน​เห็น​ตำรวจ​คน​หนึ่ง​ที่​ฉัน​เคย​ช่วย. ฉัน​ร้อง​ว่า ‘จอห์น! ฉัน​ต้อง​กลับ​ไป​ที่​แมนฮัตตัน.’ เขา​ตอบ​ว่า ‘ตาม​ผม​มา​เลย​ครับ.’

“เมื่อ​ฉัน​ไป​ถึง​แมนฮัตตัน ฉัน​กลับ​ไป​ที่​โรงแรม​แมริออท. บาง​ที​อาจ​ยัง​มี​โอกาส​ช่วย​เพื่อน​ผู้​สูง​อายุ. แต่​ไม่​มี​ทาง! โรงแรม​นั้น​เหลือ​แต่​ซาก. ย่าน​ใจ​กลาง​เมือง​ทั้ง​หมด​เป็น​อัมพาต ไม่​มี​กิจกรรม​ใด ๆ เลย. มี​แต่​ตำรวจ​และ​เจ้าหน้าที่​ดับ​เพลิง​ซึ่ง​มี​หน้า​ตา​เศร้า​หมอง.

“ฉัน​เดิน​ไป​ที่​สะพาน​บรุกลิน. ขณะ​ที่​ฉัน​ใกล้​จะ​ถึง​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง ฉัน​เห็น​ป้าย​ที่​คุ้น​ตา ‘ว็อชเทาเวอร์.’ บาง​ที​ฉัน​อาจ​พบ​ลูก​สาว​ของ​ฉัน​ที่​นี่​ก็​ได้. แน่​ล่ะ พวก​เธอ​ลง​มา​หา​ฉัน​ที่​ห้อง​รับ​แขก. เรา​กอด​กัน​และ​ร้องไห้!

“น่า​ทึ่ง​ที่​โรค​หืด​ของ​ฉัน​ไม่​กำเริบ​เลย​แม้​แต่​ครั้ง​เดียว ทั้ง ๆ ที่​มี​ควัน, ฝุ่น, และ​ขี้เถ้า​มาก​มาย. ฉัน​อธิษฐาน​ตลอด เพราะ​ฉัน​ต้องการ​ทำ​ตัว​ให้​เป็น​ประโยชน์ ไม่​ใช่​เป็น​ภาระ.”

“ไม่​มี​ที่​ที่​จะ​ร่อน​ลง​จอด​ได้!”

เรเชล หญิง​สาว​วัย 20 เศษ ๆ บอก​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! คน​หนึ่ง​ว่า “ตอน​นั้น​ฉัน​เดิน​อยู่​บน​ถนน​ใน​ย่าน​แมนฮัตตัน​ทาง​ใต้​แล้ว​ก็​ได้​ยิน​เสียง​เครื่องบิน​อยู่​ข้าง​บน. เสียง​เครื่องบิน​นั้น​ดัง​มาก​จน​ฉัน​ต้อง​แหงน​หน้า​ขึ้น​ไป​ดู. ฉัน​ไม่​ยาก​เชื่อ มี​เครื่องบิน​ไอพ่น​ลำ​ใหญ่​กำลัง​บิน​ต่ำ​ลง​มา​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด. ฉัน​สงสัย​ว่า​ทำไม​มัน​ถึง​บิน​ต่ำ​และ​เร็ว​ขนาด​นั้น. ไม่​มี​ที่​ที่​จะ​ร่อน​ลง​จอด​ได้! นัก​บิน​อาจ​จะ​ควบคุม​เครื่อง​ไม่​ได้. จาก​นั้น​ฉัน​ก็​ได้​ยิน​เสียง​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​กรีด​ร้อง ‘เครื่องบิน​ลำ​นั้น​เพิ่ง​จะ​ชน​ตึก!’ ลูก​ไฟ​ขนาด​มหึมา​พุ่ง​ออก​มา​จาก​ตึก​เหนือ. ฉัน​เห็น​ช่อง​โหว่​สี​ดำ​ขนาด​ใหญ่​ที่​ตึก​นั้น.

“มัน​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​กลัว​ที่​สุด​เท่า​ที่​ฉัน​เคย​เห็น​ใน​ชีวิต. มัน​ดู​เหมือน​ไม่​ใช่​เรื่อง​จริง. ฉัน​ได้​แต่​ยืน​อ้า​ปาก​ค้าง​อยู่​ตรง​นั้น. ภาย​ใน​ชั่ว​เวลา​สั้น ๆ เครื่องบิน​อีก​ลำ​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​ชน​ตึก​หลัง​ที่​สอง และ​ใน​ที่​สุด​ตึก​ทั้ง​สอง​ก็​ถล่ม​ลง​มา. ฉัน​กลัว​มาก. มัน​เกิน​กว่า​ที่​ฉัน​จะ​รับ​ได้!”

“ถ้า​ฉัน​ต้อง​ว่าย​น้ำ ฉัน​ก็​จะ​ว่าย​ไป”

เดนิส วัย 16 ปี เพิ่ง​มา​ถึง​โรง​เรียน​ของ​เธอ​ซึ่ง​อยู่​ติด​กับ​ตลาด​หลักทรัพย์​แห่ง​อเมริกา​และ​อยู่​ถัด​จาก​เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์​ลง​ไป​ทาง​ใต้​สาม​ช่วง​ตึก. “ตอน​นั้น​เพิ่ง​จะ 9:00 น. หนู​รู้​ว่า​มี​อะไร​บาง​อย่าง​เกิด​ขึ้น แต่​หนู​ไม่​รู้​ว่า​อะไร. หนู​อยู่​บน​ชั้น​ที่ 11 ของ​โรง​เรียน กำลัง​เรียน​วิชา​ประวัติศาสตร์. นัก​เรียน​ทุก​คน​ดู​หวาด​กลัว. คุณ​ครู​ก็​ยัง​คง​ต้องการ​ให้​เรา​ทำ​ข้อ​สอบ. เรา​ต้องการ​จะ​ออก​จาก​โรง​เรียน​และ​กลับ​บ้าน.

“แล้ว​ตึก​ก็​สั่น​สะเทือน​เมื่อ​เครื่องบิน​ลำ​ที่​สอง​พุ่ง​ชน​ตึก​ใต้. แต่​เรา​ก็​ยัง​ไม่​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น. ทันใด​นั้น หนู​ได้​ยิน​เสียง​จาก​วิทยุ​สื่อสาร​ของ​คุณ​ครู​ว่า ‘มี​เครื่องบิน​สอง​ลำ​พุ่ง​ชน​อาคาร​แฝด!’ หนู​คิด​ใน​ใจ​ว่า ‘ไม่​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​อยู่​ใน​โรง​เรียน. นี่​เป็น​การ​ก่อ​การ​ร้าย และ​ตลาด​หลักทรัพย์​ก็​จะ​เป็น​เป้าหมาย​ต่อ​ไป.’ เรา​จึง​ออก​มา​ข้าง​นอก.

“เรา​วิ่ง​ไป​ที่​แบตเตอรี่​ปาร์ก. หนู​เหลียว​ไป​ดู​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น. หนู​รู้​เลย​ว่า​ตึก​ใต้​กำลัง​จะ​ถล่ม. จาก​นั้น​หนู​ก็​คิด​ว่า​จะ​มี​ปรากฏการณ์​โดมิโน คือ​ตึก​สูง ๆ ทุก​หลัง​จะ​ถล่ม​ตาม​ไป​ด้วย. หนู​หายใจ​ไม่​ออก เพราะ​มี​ขี้เถ้า​และ​ฝุ่น​อัด​อยู่​เต็ม​จมูก​และ​คอ​ของ​หนู. หนู​วิ่ง​ไป​ทาง​แม่น้ำ​อีสต์ โดย​คิด​ว่า ‘ถ้า​ฉัน​ต้อง​ว่าย​น้ำ ฉัน​ก็​จะ​ว่าย​น้ำ​ไป.’ ขณะ​ที่​หนู​หนี​อยู่​นั้น หนู​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ขอ​ทรง​ช่วย​หนู​ให้​รอด.

“ใน​ที่​สุด หนู​ก็​ได้​ลง​เรือ​ข้าม​ฟาก​ไป​นิวเจอร์ซีย์. มาก​กว่า​ห้า​ชั่วโมง​ต่อ​มา​คุณ​แม่​ถึง​จะ​หา​ตัว​หนู​พบ แต่​อย่าง​น้อย​หนู​ก็​ปลอด​ภัย!”

“นี่​เป็น​วัน​สุด​ท้าย ใน​ชีวิต​ของ​ผม​หรือ?”

โจชัว วัย 28 ปี จาก​เมือง​พรินซ์ตัน รัฐ​นิวเจอร์ซีย์ กำลัง​สอน​ใน​ชั้น​เรียน​บน​ชั้น​ที่ 40 ของ​ตึก​เหนือ. เขา​เล่า​ว่า “จู่ ๆ ผม​ก็​รู้สึก​เหมือน​กับ​ว่า​มี​การ​ระเบิด​เกิด​ขึ้น. มี​การ​สั่น​สะเทือน แล้ว​ผม​ก็​คิด​ว่า ‘ไม่​ใช่​หรอก เป็น​แผ่นดิน​ไหว.’ ผม​มอง​ออก​ไป​ข้าง​นอก และ​มัน​เป็น​เรื่อง​เหลือเชื่อ มี​ควัน​และ​เศษ​วัสดุ​ต่าง ๆ กระจาย​อยู่​รอบ​ตึก. ผม​บอก​นัก​เรียน​ใน​ชั้น​ว่า ‘ทุก​คน ทิ้ง​ของ​ไว้. หนี​กัน​เถอะ!’

“เรา​ลง​มา​ทาง​บันได ซึ่ง​เต็ม​ไป​ด้วย​ควัน และ​ที่​ฉีด​น้ำ​ก็​ฉีด​น้ำ​ออก​มา. แต่​ไม่​มี​ความ​โกลาหล. ผม​อธิษฐาน​อยู่​ตลอด​ขอ​ให้​เรา​เลือก​บันได​ถูก​เพื่อ​จะ​ไม่​เจอ​กับ​ไฟ.

“ขณะ​ที่​ผม​วิ่ง​ลง​บันได​มา​นั้น ผม​คิด​ว่า ‘นี่​เป็น​วัน​สุด​ท้าย​ใน​ชีวิต​ของ​ผม​หรือ?’ ผม​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ตลอด และ​ผม​รู้สึก​สงบ​อย่าง​น่า​ประหลาด. ผม​ไม่​เคย​รู้สึก​สงบ​ใจ​แบบ​นั้น​มา​ก่อน. ผม​จะ​ไม่​มี​วัน​ลืม​ชั่ว​ขณะ​นั้น​เลย.

“ใน​ที่​สุด เมื่อ​เรา​ออก​มา​จาก​ตึก​นั้น​ได้ ตำรวจ​กำลัง​พา​ทุก​คน​ออก​ไป. ผม​มอง​ขึ้น​ไป​บน​ตึก​และ​เห็น​ตึก​ทั้ง​สอง​มี​ช่อง​โหว่​ขนาด​ใหญ่. มัน​เหมือน​ไม่​ใช่​ความ​จริง.

“จาก​นั้น​ผม​ก็​ได้​ยิน​เสียง​แปลก ๆ ความ​เงียบ​อย่าง​ประหลาด​เหมือน​กับ​ว่า​คน​นับ​พัน ๆ คน​กำลัง​กลั้น​หายใจ. ดู​เหมือน​ว่า​นิวยอร์ก​หยุด​นิ่ง​อยู่​กับ​ที่. แล้ว​ก็​ตาม​มา​ด้วย​เสียง​กรีด​ร้อง. ตึก​ใต้​ถล่ม​ลง​มา! คลื่น​ของ​ควัน, ขี้เถ้า, และ​ฝุ่น​พุ่ง​มา​หา​เรา. มัน​เหมือน​เทคนิค​พิเศษ​ใน​ภาพยนตร์. แต่​มัน​เป็น​เรื่อง​จริง. พอ​กลุ่ม​ควัน​ลอย​มา​ถึง​เรา เรา​ก็​แทบ​หายใจ​ไม่​ออก.

“ผม​วิ่ง​ไป​ถึง​สะพาน​แมนฮัตตัน แล้ว​ก็​หัน​หลัง​กลับ​ไป​ดู​เห็น​ตึก​เหนือ​และ​เสา​ทีวี​ขนาด​ยักษ์​ถล่ม​ลง​มา. ขณะ​ที่​ผม​ข้าม​สะพาน ผม​ก็​ได้​แต่​อธิษฐาน​ตลอด​ขอ​ให้​ผม​ไป​ถึง​เบเธล สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ตลอด​ชีวิต​ของ​ผม ไม่​มี​ครั้ง​ใด​ที่​ผม​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​เห็น​สถาน​ที่​แห่ง​นั้น​เท่า​กับ​ครั้ง​นี้​เลย. และ​ที่​นั่น​เอง บน​ผนัง​ของ​โรง​งาน​มี​ป้าย​ใหญ่​ซึ่ง​หลาย​พัน​คน​มอง​เห็น​ทุก​วัน​ที่​ว่า ‘จง​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​บริสุทธิ์​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ทุก​วัน’! ผม​คิด​ใน​ใจ​ว่า ‘ผม​เกือบ​จะ​ถึง​อยู่​แล้ว. เดิน​ต่อ​ไป​เรื่อย ๆ.’

“ขณะ​ที่​ผม​คิด​ทบทวน​เหตุ​การณ์​เหล่า​นี้ มัน​ทำ​ให้​ผม​ตระหนัก​ว่า​ผม​จำเป็น​ต้อง​จัด​ลำดับ​ความ​สำคัญ​ให้​ถูก สิ่ง​ที่​เป็น​อันดับ​แรก​ใน​ชีวิต​ควร​อยู่​ใน​อันดับ​แรก​จริง ๆ.”

“ฉัน​เห็น​คน​กระโดด​ออก​มา​จาก​ตึก”

เจสซิกา วัย 22 ปี เห็น​เหตุ​การณ์​ขณะ​ที่​เธอ​ออก​มา​จาก​สถานี​รถไฟ​ใต้​ดิน​ย่าน​แมนฮัตตัน​ทาง​ใต้. “ฉัน​มอง​ขึ้น​ไป​เห็น​ขี้เถ้า, เศษ​วัสดุ​ต่าง ๆ, และ​ชิ้น​ส่วน​โลหะ​ทุก​ชนิด​ตก​ลง​มา. ผู้​คน​รอ​จะ​ใช้​โทรศัพท์​สาธารณะ และ​หวาด​กลัว​กัน​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ เพราะ​ความ​ล่า​ช้า. ฉัน​อธิษฐาน​ขอ​ให้​ตั้ง​สติ​ได้. จาก​นั้น​ก็​มี​การ​ระเบิด​อีก​ครั้ง. เหล็ก​และ​กระจก​หล่น​ลง​มา​จาก​ฟ้า. ฉัน​ได้​ยิน​เสียง​ตะโกน​ว่า ‘นั่น​มัน​เครื่องบิน​อีก​ลำ!’

“ฉัน​แหงน​หน้า​มอง​และ​มัน​ดู​น่า​กลัว​มาก มี​คน​กระโดด​ลง​มา​จาก​ชั้น​สูง ๆ ซึ่ง​มี​ควัน​ไฟ​และ​เปลว​ไฟ​พุ่ง​ออก​มา. ภาพ​นั้น​ยัง​ติด​ตา​ฉัน​อยู่ ผู้​ชาย​กับ​ผู้​หญิง​อีก​คน​หนึ่ง. ทั้ง​สอง​เกาะ​อยู่​ที่​หน้าต่าง​ชั่ว​ขณะ​หนึ่ง. จาก​นั้น​ทั้ง​สอง​ก็​ต้อง​ปล่อย​มือ แล้ว​เขา​ก็​ร่วง​หล่น​ลง​มา. ฉัน​แทบ​จะ​ทน​ดู​ไม่​ได้.

“ใน​ที่​สุด ฉัน​ก็​ไป​ถึง​สะพาน​บรุกลิน แล้ว​ก็​ถอด​รอง​เท้า​ออก​เพราะ​ใส่​ไม่​สบาย​และ​วิ่ง​ไป​ที่​ฝั่ง​บรุกลิน. ฉัน​เดิน​เข้า​ไป​ใน​อาคาร​สำนักงาน​ของ​ว็อชเทาเวอร์ แล้ว​ก็​มี​คน​มา​ช่วย​ปลอบ​ฉัน​ทันที.

“ที่​บ้าน​คืน​นั้น ฉัน​อ่าน​ตื่นเถิด! (ภาษา​อังกฤษ) ฉบับ 22 สิงหาคม 2001 บทความ ‘การ​รับมือ​กับ​ความ​เครียด​หลัง​เหตุ​สะเทือน​ขวัญ.’ ฉัน​ต้องการ​ความ​รู้​นั้น​มาก​สัก​เพียง​ใด!”

ความ​ร้ายกาจ​ของ​ภัย​พิบัติ​ครั้ง​นี้​กระตุ้น​ผู้​คน​ที่​จะ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ใน​ทุก​วิถี​ทาง​ที่​ทำ​ได้. บทความ​ถัด​ไป​จะ​อธิบาย​เรื่อง​ราว​ส่วน​นี้.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 7 ตื่นเถิด! ได้​สัมภาษณ์​ผู้​รอด​ชีวิต​อีก​หลาย​คน​ซึ่ง​ไม่​สามารถ​นำ​มา​ลง​ไว้​ใน​บทความ​สั้น ๆ นี้​ได้. ความ​ร่วม​มือ​ของ​พวก​เขา​ช่วย​ให้​เรื่อง​นี้​ครบ​ถ้วน​และ​ช่วย​ยืน​ยัน​ความ​น่า​เชื่อถือ.

[แผนภูมิ/ภาพ​หน้า 8, 9]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

พัง​ทลาย

1 ตึก​เหนือ 1 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

2 ตึก​ใต้ 2 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

3 โรงแรม​แมริออท 3 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

7 7 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

เสียหาย​อย่าง​หนัก

4 4 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

5 5 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

L 1 ลิเบอร์ตีพลาซา

D ธนาคาร​ดอยท์เช 130 ถนน​ลิเบอร์ตี

6 อาคาร​ศุลกากร​สหรัฐ 6 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

N เหนือ​และ​ใต้ สะพาน​คน​เดิน​ข้าม

เสียหาย​บาง​ส่วน

2F 2 เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์

3F 3 เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์

W วินเทอร์การ์เดน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

As of October 4, 2001 3D Map of Lower Manhattan by Urban Data Solutions, Inc.

[ภาพ​หน้า 8]

บน​สุด: ตึก​ใต้​ถล่ม​ลง​มา​ก่อน

บน: บาง​คน​วิ่ง​ไป​หลบ​ภัย​ที่​อาคาร​ของ​ว็อชเทาเวอร์

ขวา: เจ้าหน้าที่​ดับ​เพลิง​และ​หน่วย​กู้​ภัย​หลาย​ร้อย​คน​ทำ​งาน​อย่าง​ไม่​รู้​จัก​เหน็ด​เหนื่อย​ที่​กราวนด์​ซีโร

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 8]

AP Photo/Jerry Torrens

Andrea Booher/FEMA News Photo

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 3]

AP Photo/Marty Lederhandler

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 4]

AP Photo/Suzanne Plunkett