ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วิธีที่ความฝันของฉันเป็นจริง

วิธีที่ความฝันของฉันเป็นจริง

วิธี​ที่​ความ​ฝัน​ของ​ฉัน​เป็น​จริง

เล่า​โดย​อะเลนา ซิดนิโกวา

เมื่อ​ฉัน​เติบโต​ใน​เชโกสโลวะเกีย ประเทศ​บริวาร​ของ​โซเวียต ครอบครัว​ของ​เรา​ใฝ่ฝัน​จะ​เห็น​โลก​ที่​สงบ​สุข​ตาม​ที่​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​สัญญา​ไว้. อย่าง​ไร​ก็​ดี ความ​ฝัน​ของ​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​ใน​เรื่อง​การ​สร้าง​สังคม​ที่​มี​ความ​สุข​และ​สมาน​ฉันท์​สิ้น​สุด​ลง​เมื่อ​สหภาพ​โซเวียต​ล่ม​สลาย​ใน​ปี 1991. ฉัน​ขอ​เล่า​ให้​ฟัง​ว่า​มี​อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​ความ​ฝัน​ของ​ฉัน​เป็น​จริง.

ฉัน​เกิด​วัน​ที่ 12 กันยายน 1962 ใน​ครอบครัว​ที่​ศรัทธา​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​อย่าง​แรง​กล้า ที่​หมู่​บ้าน​ฮอร์นี เบเนชอฟ ซึ่ง​ไกล​จาก​กรุง​ปราก​ประมาณ 290 กิโลเมตร. พ่อ​ของ​ฉัน​ไว้​วางใจ​อุดมการณ์​ของ​คอมมิวนิสต์​และ​ดำเนิน​ชีวิต​สอดคล้อง​กับ​อุดม​การณ์​เหล่า​นั้น. อนึ่ง พ่อ​ยัง​ได้​อบรม​เลี้ยง​ดู​พี่​ชาย​สอง​คน​และ​พี่​สาว​คู่​แฝด​กับ​ฉัน​ตาม​อุดม​การณ์​ดัง​กล่าว​ด้วย. ท่าน​สั่ง​สอน​พวก​เรา​ว่า​เมื่อ​ทุ่มเท​กำลัง​ทำ​งาน​หนัก​และ​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​ทาง​ที่​ดี เรา​สามารถ​ช่วย​กัน​สร้าง​สังคม​ที่​ดี​กว่า​เดิม​ได้. ท่าน​ถือ​ว่า​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​เป็น​ระบอบ​การ​ปกครอง​ที่​ดี​ที่​สุด​และ​จึง​ได้​ส่ง​เสริม​สนับสนุน​ระบอบ​นี้​อย่าง​จริงจัง.

พ่อ​มัก​เข้า​ร่วม​ประชุม​ใน​ที่ ๆ มี​การ​ยกย่อง​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์. ท่าน​เหยียด​หยาม​ศาสนา​เนื่อง​จาก​ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ใน​คริสตจักร​ต่าง ๆ และ​พวก​เรา​ถูก​สอน​จน​เกิด​ความ​เชื่อ​ว่า​ไม่​มี​พระเจ้า. พ่อ​เชื่อ​ว่า​จริง ๆ แล้ว ใน​ที่​สุด​ปวง​ประชา​จะ​มี​บ้าน​อยู่​และ​มี​อาหาร​พอ​เพียง พวก​เขา​จะ​เป็น​ประชาชน​ที่​ดี​และ​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​สงบ​สุข. นั่น​เป็น​ความ​หวัง​อัน​สดใส​งดงาม​ตาม​ที่​ฉัน​ได้​ยิน​ได้​ฟัง​มา​มาก​ตลอด​ช่วง​เวลา​ที่​ฉัน​เติบโต. ฉัน​เชื่อ​ทุก​อย่าง​ที่​พ่อ​สอน​พวก​เรา และ​ฉัน​เอง​ก็​มุ่ง​มั่น​จะ​สนับสนุน​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​เหมือน​กัน.

เมื่อ​ฉัน​ยัง​เป็น​เด็ก​หญิง​ตัว​เล็ก ๆ ฉัน​เตรียม​ตัว​จะ​เป็น​ไพโอเนียร์ ดัง​ที่​สมาชิก​องค์การ​ยุวชน​ไพโอเนียร์​วัย​หนุ่ม​สาว​ที่​นิยม​กัน​ของ​พรรค​คอมมิวนิสต์​ถูก​เรียก​กัน. พวก​ไพโอเนียร์​เหล่า​นี้​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​พัฒนา​คุณลักษณะ​ที่​ดี​หลาย ๆ ด้าน​และ​ให้​เป็น​ผู้​รัก​ชาติ. ตอน​อายุ​เก้า​ขวบ ฉัน​กล่าว​คำ​ปฏิญาณ​ตน​เป็น​ไพโอเนียร์​อย่าง​ตั้งใจ​จริง​และ​ได้​รับ​มอบ​ผ้า​พัน​คอ​สี​แดง​ใช้​ผูก​แสดง​สถานะ. นอก​จาก​นั้น เขา​ยัง​อนุญาต​ให้​ฉัน​แต่ง​เครื่อง​แบบ​ไพโอเนียร์​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​ได้​ใน​โอกาส​พิเศษ. ฉัน​พยายาม​ทำ​ตัว​เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​ดี. เมื่อ​ได้​ยิน​เพื่อน ๆ ที่​โรง​เรียน​ใช้​คำ​หยาบคาย ฉัน​มัก​ว่า​กล่าว​ตักเตือน​พวก​เขา​ว่า​เด็ก​สาว​ไพโอเนียร์​ไม่​สม​ควร​พูด​แบบ​นั้น.

แต่​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​ฉัน​เริ่ม​รู้​ว่า​หลาย​คน​ที่​อ้าง​ตัว​เป็น​คอมมิวนิสต์​ไม่​ได้​สนับสนุน​อุดมการณ์​ของ​คอมมิวนิสต์. แทน​ที่​จะ​ต้านทาน​แนว​โน้ม​เอียง​ของ​มนุษย์​ใน​เรื่อง​ของ​ความ​โลภ​หรือ​ความ​อิจฉา​ริษยา พวก​เขา​กลับ​ขโมย​ทรัพย์​สิน​อัน​เป็น​สา​ธาร​ณ​สมบัติ. แม้​ว่า​หลาย​คน​ได้​กระตุ้น​เตือน​ผู้​คน​ให้​สร้าง​คุณประโยชน์​เพื่อ​ประชาชน แต่​ตัว​เขา​เอง​กลับ​ไม่​ทำ​อย่าง​นั้น​เลย. ที่​จริง คำ​พูด​ซึ่ง​ชอบ​พูด​กัน​มาก​คือ “คน​ที่​ไม่​ขโมย​ก็​ได้​ขโมย​จาก​ครอบครัว​ของ​เขา​เอง.” ฉัน​เริ่ม​ถาม​ตัว​เอง ‘ทำไม​ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​มี​อยู่​ดาษ​ดื่น? ทำไม​คน​ที่​พยายาม​ส่ง​เสริม​อุดมการณ์​ดี ๆ ของ​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​จึง​มี​น้อย​เหลือ​เกิน? ทำไม​ความ​บากบั่น​พยายาม​จึง​ไม่​บรรลุ​ผล​สำเร็จ?’

เวลา​ที่​ต้อง​ทบทวน​กัน​ใหม่

ตอน​เป็น​สาว​วัยรุ่น ฉัน​ได้​ใช้​เวลา​พัก​ร้อน​ช่วง​หนึ่ง​กับ​อะเลนา เพื่อน​ที่​เรียน​หนังสือ​ด้วย​กัน. เย็น​วัน​หนึ่ง เพื่อน​ของ​อะเลนา​ที่​อายุ​มาก​กว่า​ชื่อ​ทันยา​ได้​แวะ​มา​หา​เรา. เธอ​บอก​ว่า “ฉัน​ต้อง​พูด​เรื่อง​สำคัญ​มาก ๆ กับ​เธอ​ทั้ง​สอง​คน ฉัน​มั่น​ใจ​ที​เดียว​ว่า​พระเจ้า​มี​จริง.” เรา​รู้สึก​ประหลาด​ใจ​ที่​ทันยา​สรุป​แบบ​นั้น. หลัง​จาก​หาย​งง​แล้ว เรา​ระดม​ถาม​เธอ​หลาย​ข้อ. อาทิ “เธอ​มี​ข้อ​พิสูจน์​อะไร​ที่​จะ​ยืน​ยัน​เรื่อง​นี้?” “พระเจ้า​มี​รูป​ร่าง​ลักษณะ​เช่น​ไร?” “พระองค์​อยู่​ที่​ไหน?” “ทำไม​พระองค์​ไม่​เข้า​แทรกแซง​ช่วย​เหลือ​มนุษย์​ล่ะ?”

ทันยา​ตอบ​คำ​ถาม​ของ​เรา​เป็น​เรื่อง ๆ ไป. เธอ​อธิบาย​ให้​เรา​เข้าใจ​ว่า​การ​ที่​แผ่นดิน​โลก​ถูก​สร้าง​เป็น​สวน​ธรรมชาติ​ให้​มนุษย์​อยู่​อาศัย​นั้น​เป็น​พระ​ประสงค์​แรก​เดิม​ของ​พระเจ้า แล้ว​เธอ​ยัง​อธิบาย​ต่อ​ไป​อีก​ว่า​ใน​ที่​สุด​พระ​ประสงค์​นี้​จะ​สำเร็จ​ได้​อย่าง​ไร. เมื่อ​เธอ​ชี้​ให้​เรา​ดู​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ถึง​คำ​สัญญา​ต่าง ๆ เกี่ยว​กับ​แผ่นดิน​โลก​ที่​สะอาด, คน​ดี​มี​ศีลธรรม​และ​มี​สุขภาพ​ร่าง​กาย​แข็งแรง, คน​ที่​เอื้อ​อาทร​กัน​จะ​ได้​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น คำ​สัญญา​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​ฉัน​นึก​ถึง​คำ​สัญญา​คล้าย ๆ กัน​ที่​ฉัน​เชื่อ​อยู่. แต่​ฉัน​แน่​ใจ​ว่า​ถ้า​พ่อ​ได้​ฟัง​คำ​บอก​เล่า​ถึง​เรื่อง​ต่าง ๆ ที่​ดี​วิเศษ​เช่น​นี้​ว่า​จะ​สัมฤทธิ์​ผล​โดย​ทาง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า ไม่​ใช่​จาก​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์ ท่าน​คง​จะ​ไม่​พอ​ใจ​แน่ ๆ.

ที่​จริง ครั้ง​หนึ่ง​ตอน​ที่​ฉัน​อายุ​ราว ๆ หก​หรือ​เจ็ด​ขวบ เด็ก​ผู้​หญิง​ใกล้​บ้าน​ชวน​ฉัน​ไป​โบสถ์​โดย​ที่​พ่อ​แม่​ไม่​รู้. บาทหลวง​เล่า​เรื่อง​หนึ่ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ฉัน​เอง​ชอบ​มาก​ถึง​กับ​อยาก​จะ​รู้​ข้อมูล​มาก​ขึ้น. ฉัน​ยัง​รับ​หนังสือ​ที่​มี​เรื่อง​ราว​เกี่ยว​กับ​ศาสนา​มา​อ่าน​ด้วย​ซ้ำ. พอ​ฉัน​บอก​พ่อ​แม่ ท่าน​ห้าม​ฉัน​ไป​โบสถ์​อย่าง​เด็ดขาด และ​ท่าน​ยัง​ทำลาย​ทุก​สิ่ง​ที่​ฉัน​นำ​เข้า​บ้าน. เพื่อ​เน้น​คำ​สั่ง​ห้าม​ให้​หนักแน่น​ยิ่ง​ขึ้น พ่อ​ฟาด​ฉัน​อย่าง​แรง.

หลัง​จาก​นั้น ไม่​มี​การ​พูด​ถึง​เรื่อง​พระเจ้า​ใน​บ้าน​ของ​เรา​อีก​เลย. ฉัน​พลอย​เชื่อ​ตาม​ที่​ว่า​กัน​ว่า​คน​คร่ำครึ​ไร้​การ​ศึกษา​เท่า​นั้น​ที่​เชื่อ​เรื่อง​พระเจ้า และ​ศาสนา​เป็น​สิ่ง​ที่​มนุษย์​คิด​ค้น​ขึ้น​เอง. เรา​ได้​รับ​การ​สอน​ที่​โรง​เรียน​ว่า เนื่อง​จาก​พวก​เรา​ไม่​สามารถ​เข้าใจ​ปรากฏการณ์​ธรรมชาติ​บาง​อย่าง มนุษย์​จึง​แต่ง​แนว​คิด​เรื่อง​พระเจ้า​ขึ้น​มา. แต่​ตอน​นี้​ทันยา สตรี​ที่​เฉลียวฉลาด​อยู่​ที่​นี่ อัน​ที่​จริง​เธอ​เป็น​ครู​และ​เชื่อ​เรื่อง​พระเจ้า! ฉัน​รำพึง: ‘สิ่ง​ที่​เธอ​พูด​นั้น​คง​ต้อง​มี​ความ​จริง​อยู่​บ้าง!’

ทันยา​พูด​ได้​จับ​ใจ​มาก​จน​เรา​มั่น​ใจ​ว่า​เธอ​เชื่อ​อย่าง​ที่​เธอ​พูด. ฉะนั้น เรา​ถาม​ว่า “ทันยา อะไร​ทำ​ให้​เธอ​มั่น​ใจ​ว่า​พระเจ้า​มี​อยู่​จริง?”

เธอ​ตอบ​ว่า “คัมภีร์​ไบเบิล​น่ะ​ซี. ทุก​ข้อ​ที่​เธอ​ถาม​นั้น คำ​ตอบ​ทั้ง​หมด​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. เธอ​อยาก​จะ​เข้าใจ​มาก​กว่า​นี้​ไหม?”

ฉัน​รู้​ดี​ว่า​พ่อ​แม่​คง​ไม่​พอ​ใจ​ถ้า​ฉัน​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. ถึง​อย่าง​ไร​ฉัน​ก็​กระหาย​เหลือ​เกิน​ที่​จะ​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น. ดัง​นั้น ทันยา​ได้​ฝาก​ที่​อยู่​ของ​ลุดมีลา​ไว้​กับ​ฉัน เธอ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อยู่​ใกล้​บ้าน​ของ​เรา​ที่​ฮอร์นี เบเนซอฟ. ขณะ​ที่​ฉัน​พิจารณา​กับ​ลุดมีลา​ถึง​เรื่อง​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก ฉัน​มัก​จะ​ถาม​ตัว​เอง ‘ฉัน​มี​คำ​รับรอง​อะไร​ที่​ว่า​คำ​สัญญา​เหล่า​นี้​จะ​เป็น​จริง?’

ลุดมีลา​บอก​ว่า​ฉัน​จำเป็น​ต้อง​เรียน​เรื่อง​พระเจ้า​มาก​ขึ้น​เพื่อ​จะ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระองค์​และ​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์​ได้. จาก​การ​ที่​ฉัน​ศึกษา ฉัน​เริ่ม​มั่น​ใจ​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ว่า​แผ่นดิน​โลก​และ​รูป​แบบ​ชีวิต​หลาก​หลาย​ที่​สลับ​ซับซ้อน​บน​แผ่นดิน​โลก​หา​ใช่​ผล​ผลิต​ของ​ความ​บังเอิญ​ไม่. ฉัน​ยอม​รับ​ว่า​จะ​ต้อง​มี​พระ​ผู้​สร้าง​ที่​ทรง​ไว้​ซึ่ง​สติ​ปัญญา​สูง​ส่ง. ฉัน​ได้​มา​เข้าใจ​ถ้อย​คำ​ที่​ช่าง​สม​เหตุ​ผล​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ว่า “แน่นอน บ้าน​ทุก​หลัง​ย่อม​มี​คน​สร้าง แต่​ผู้​ที่​ได้​สร้าง​สรรพสิ่ง​ทั้ง​ปวง​คือ​พระเจ้า.”—เฮ็บราย 3:4, ล.ม.

ฉัน​อยาก​ให้​ครอบครัว​ของ​ฉัน​ศึกษา​เรื่อง​เหล่า​นี้. แต่​ก็​แคลง​ใจ​ว่า​พวก​เขา​คง​ไม่​สนใจ ดัง​นั้น ฉัน​จึง​ยัง​ไม่​ได้​เล่า​ให้​เขา​ฟัง. อยู่​มา​วัน​หนึ่ง จาก​บรรดา​ข้าวของ​ส่วน​ตัว​ของ​ฉัน แม่​พบ​กระดาษ​แผ่น​หนึ่ง​หลุด​จาก​พระ​คัมภีร์​เล่ม​เก่า​คร่ำคร่า​ซึ่ง​มี​คน​ให้​ฉัน​มา. พ่อ​กับ​แม่​ต่าง​ก็​รู้สึก​วุ่นวาย​ใจ​มาก ๆ.

โต้​เหตุ​ผล​กับ​พ่อ

เมื่อ​ความ​ระแวง​ของ​พ่อ​ที่​ว่า​ฉัน​ติด​ต่อ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​นั้น​ได้​รับ​การ​ยืน​ยัน​ชัด​แจ้ง ท่าน​จึง​ชวน​ฉัน​ออก​ไป​เดิน​เล่น. ท่าน​กล่าว​เตือน​ว่า “ลูก​ต้อง​ตัด​ความ​สัมพันธ์​ทุก​อย่าง​จาก​คน​เหล่า​นั้น​ทันที. หาก​ลูก​ไม่​ทำ​ตาม​ที่​พ่อ​บอก พ่อ​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​เป็น​เทศมนตรี​ใน​หมู่​บ้าน​ของ​เรา​ได้​อีก​ต่อ​ไป. ลูก​จะ​เป็น​ผู้​ทำลาย​อาชีพ​ของ​พ่อ. พ่อ​จะ​ต้อง​ออก​จาก​สำนักงาน​และ​กลับ​ไป​โรง​งาน​ที่​พ่อ​เคย​ทำ​เมื่อ​ก่อน. ลูก​จะ​ทำ​ให้​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​อับอาย​ขายหน้า.”

ฉัน​วิงวอน​ว่า “แต่​พ่อ​คะ, คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หนังสือ​ที่​มี​เหตุ​ผล​นะ​คะ และ​มี​คำ​แนะ​นำ​ที่​ดี​เยี่ยม​ใน​เรื่อง​การ​ดำเนิน​ชีวิต.”

“ไม่​หรอก อะเลนกา” พ่อ​อธิบาย “พ่อ​มี​ความ​สุข​โดย​ไม่​ต้อง​มี​คัมภีร์​ไบเบิล​หรือ​พระเจ้า. พ่อ​ทำ​ทุก​อย่าง​ด้วย​มือ​ของ​พ่อ​แท้ ๆ. ไม่​มี​ใคร​ช่วย​พ่อ. พ่อ​แปลก​ใจ​ที่​ลูก​เชื่อ​เรื่อง​ไร้​สาระ​เช่น​นั้น! ลูก​ต้อง​อยู่​กับ​ความ​เป็น​จริง​ของ​ชีวิต แต่งงาน​มี​เหย้า​มี​เรือน​และ​มี​ลูก แล้ว​ลูก​จะ​รู้​เอง​ว่า​ลูก​มี​ความ​สุข​ได้​โดย​ไม่​ต้อง​พึ่ง​พระเจ้า.”

คำ​พูด​ที่​หนักแน่น​ของ​พ่อ​ประทับใจ​ฉัน​มาก. ขณะ​นั้น​ฉัน​ชัก​เริ่ม​สงสัย​ความ​เชื่อ​ที่​ฉัน​มี​อยู่​ซึ่ง​พื้น​ฐาน​ยัง​ไม่​มั่นคง. จริง​อยู่ ฉัน​รู้​จัก​พ่อ​มา​นาน นาน​กว่า​ที่​ได้​มา​รู้​จัก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เสีย​อีก และ​ฉัน​รู้สึก​ปลอด​ภัย​ตลอด​เวลา​ที่​อยู่​บ้าน. พ่อ​มี​เจตนา​ดี ฉัน​แน่​ใจ​ใน​ข้อ​นี้. ฉัน​รู้​ว่า​ท่าน​รัก​ฉัน ดัง​นั้น ฉัน​ให้​สัญญา​กับ​พ่อ​ว่า​จะ​เลิก​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ตอน​อายุ 18 ปี ฉัน​เรียน​จบ​และ​ไป​ทำ​งาน​ใน​กรุง​ปราก เมือง​หลวง​ของ​ประเทศ​เรา.

ชีวิต​ฉัน​ใน​กรุง​ปราก

ฉัน​ได้​งาน​ทำ​ที่​ธนาคาร​แห่ง​หนึ่ง และ​เฝ้า​รอ​จะ​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​จริง ๆ ตาม​ที่​พ่อ​บอก​ว่า​จะ​บรรลุ​ความ​สำเร็จ​โดย​ทาง​รัฐบาล​คอมมิวนิสต์. อย่าง​ไร​ก็​ดี ภาย​ใน​เวลา​สั้น ๆ ฉัน​มอง​เห็น​ว่า​ผู้​คน​ใน​เมือง​ใหญ่​ก็​ใช่​ว่า​จะ​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​คน​ชนบท. อัน​ที่​จริง การ​ประพฤติ​ผิด​ศีลธรรม, ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด, ความ​เห็น​แก่​ตัว, และ​การ​ดื่ม​อย่าง​หัวราน้ำ​เป็น​รูป​แบบ​ชีวิต​ปกติ​ทั่ว ๆ ไป.

ใน​ที่​สุด พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ใกล้​บ้าน​ฉัน​ใน​เมือง​ฮอร์นี เบเนซอฟ ซึ่ง​ไป​ที่​กรุง​ปราก​ได้​เตรียม​การ​เพื่อ​ให้​พยาน​ฯ ติด​ต่อ​ฉัน​ได้. ด้วย​วิธี​นี้ ฉัน​จึง​ได้​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​อีก​ครั้ง​กับ​ผู้​หญิง​ที่​ชื่อ​อีวา​ใน​กรุง​ปราก. ทุก​ครั้ง​เมื่อ​ศึกษา​เสร็จ​แล้ว อีวา​มัก​ถาม​ว่า “เธอ​อยาก​ให้​ฉัน​กลับ​มา​ศึกษา​ด้วย​กัน​อีก​ไหม​ใน​สัปดาห์​หน้า?” อีวา​ไม่​เคย​ยัดเยียด​ความ​คิด​เห็น​ส่วน​ตัว​ของ​เธอ​ให้​ฉัน แม้​บาง​ครั้ง​ยัง​เคย​ถาม​เธอ​ด้วย​ซ้ำ​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​หาก​ตก​อยู่​ใน​ภาวะ​อย่าง​ฉัน.

“ฉัน​บอก​ไม่​ได้​ว่า​คุณ​ควร​ทำ​อย่าง​นี้​อย่าง​นั้น” เธอ​พูด. ครั้น​แล้ว​เธอ​ชี้​ให้​ฉัน​ดู​บาง​สิ่ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​ได้​ช่วย​ฉัน​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ. ความ​ห่วงใย​หลัก​คือ​สาย​สัมพันธ์​ระหว่าง​ฉัน​กับ​พ่อ​แม่ ฉะนั้น ฉัน​จึง​ถาม​ว่า​ควร​หรือ​ไม่​ที่​จะ​ตัด​ขาด​จาก​ท่าน. อีวา​เปิด​ไป​ที่​เอ็กโซโด 20:12 ซึ่ง​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​เรา​ต้อง​นับถือ​บิดา​มารดา. แล้ว​เธอ​ได้​ถาม​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น สม​ควร​ไหม​ที่​จะ​ถือ​ว่า​ผู้​อื่น​สำคัญ​กว่า​พ่อ​แม่​ของ​เรา?”

เนื่อง​จาก​ฉัน​ไม่​แน่​ใจ เธอ​เปิด​คัมภีร์​ไบเบิล​อ่าน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ที่​ว่า “ผู้​ใด​ที่​รัก​บิดา​มารดา​หรือ​รัก​บุตร​ชาย​หญิง​ยิ่ง​กว่า​รัก​เรา, ผู้​นั้น​ก็​ไม่​สม​กับ​เรา.” (มัดธาย 10:37) ด้วย​เหตุ​นี้ ฉัน​ได้​มา​เข้าใจ​ว่า​แม้​พ่อ​แม่​สม​ควร​ได้​รับ​ความ​นับถือ​จาก​ฉัน แต่​พระ​เยซู​และ​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​ผู้​สถิต​ใน​ภาค​สวรรค์​ยิ่ง​สม​ควร​จะ​ได้​รับ​ความ​รัก​มาก​กว่า​ด้วย​ซ้ำ. อีวา​พยายาม​ยก​เอา​หลักการ​อัน​สูง​ส่ง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ออก​มา​ใช้​เสมอ ครั้น​แล้ว​ปล่อย​ให้​ฉัน​ตัดสิน​ใจ​เอง.

ขัด​ความ​สนใจ

ใน​ที่​สุด เดือน​กันยายน 1982 ฉัน​ถูก​รับ​เข้า​เป็น​นัก​ศึกษา​ใน​วิทยาลัย​แห่ง​หนึ่ง​ใน​กรุง​ปราก ซึ่ง​ฉัน​ได้​เรียน​ด้าน​บริหาร​การ​เกษตร. แต่​ไม่​นาน ฉัน​รู้​ตัว​ว่า​ฉัน​ไม่​สามารถ​เอา​ใจ​ใส่​หลัก​สูตร​ต่าง ๆ ใน​วิทยาลัย​เท่า​ที่​ควร และ​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​เอา​ใจ​ใส่​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ตาม​ที่​ฉัน​ต้องการ. ดัง​นั้น ฉัน​แจ้ง​ให้​อาจารย์​ท่าน​หนึ่ง​ทราบ​ว่า​ฉัน​คิด​จะ​ลา​ออก​จาก​วิทยาลัย. ท่าน​บอก​ว่า “ฉัน​จะ​ส่ง​เธอ​ไป​หา​ผู้​หนึ่ง​ซึ่ง​จะ​เข้าใจ​และ​ช่วย​เธอ​ได้.” แล้ว​ท่าน​ก็​จัด​การ​ให้​ฉัน​ได้​คุย​กับ​คณบดี.

คณบดี​ต้อนรับ​ฉัน​และ​ถาม​ว่า “ทำไม​นัก​เรียน​คน​เก่ง​ที่​สุด​ของ​เรา​คิด​จะ​ลา​ออก?”

ฉัน​ตอบ​ว่า “เพราะ​ดิฉัน​ไม่​มี​เวลา​ทำ​สิ่ง​อื่น ๆ ซึ่ง​ดิฉัน​สนใจ​เหมือน ๆ กัน.” เนื่อง​จาก​ประเทศ​เชโกสโลวะเกีย​สมัย​นั้น​สั่ง​ห้าม​กิจการ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ฉัน​ตั้งใจ​จะ​ไม่​บอก​เขา​ว่า​ทำไม​ฉัน​คิด​จะ​ลา​ออก. แต่​เมื่อ​ได้​สนทนา​กับ​เขา​ประมาณ​สอง​ชั่วโมง ฉัน​เลย​คิด​ว่า​เขา​เป็น​คน​ไว้​ใจ​ได้. ดัง​นั้น​ฉัน​จึง​บอก​เขา​ว่า​ฉัน​กำลัง​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​อยู่.

คณบดี​พูด​ว่า “ศึกษา​ทั้ง​คัมภีร์​ไบเบิล​ควบ​ไป​กับ​ลัทธิ​มาร์กซ์​สิ แล้ว​ค่อย​ตัดสิน​ใจ​เลือก​เอา.” ดู​เหมือน​เขา​จะ​สนับสนุน​ให้​ฉัน​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย​ซ้ำ!

ร่วม​กัน​ออก​อุบาย​แต่​ไม่​สำเร็จ

อย่าง​ไร​ก็​ดี วัน​รุ่ง​ขึ้น ทั้ง​อาจารย์​และ​คณบดี​ได้​เดิน​ทาง​ไป​หา​พ่อ​แม่​ของ​ฉัน​ที่​ชนบท. เขา​เตือน​พ่อ​แม่​ว่า​ฉัน​ติด​ต่อ​กับ​นิกาย​อันตราย​และ​เป็น​นิกาย​ที่​ถูก​สั่ง​ห้าม​ด้วย แถม​บอก​พ่อ​แม่​ถึง​เรื่อง​ที่​ฉัน​ต้องการ​ลา​ออก​จาก​วิทยาลัย. คณบดี​สัญญา​กับ​พ่อ​ดัง​นี้: “ถ้า​ลูก​สาว​ของ​คุณ​ตัดสิน​ใจ​ลา​ออก​จาก​วิทยาลัย เรา​จะ​จัด​การ​ไม่​ให้​เธอ​ได้​งาน​ทำ​ใน​กรุง​ปราก แล้ว​ที​นี้​เธอ​ต้อง​ยอม​กลับ​มา​หา​คุณ และ​จะ​เลิก​ติด​ต่อ​นิกาย​นั้น.”

ฉัน​ออก​จาก​วิทยาลัย​เดือน​มกราคม 1983. เพื่อน​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​เหมือน​กัน​ได้​ช่วยเหลือ​ฉัน​หา​ห้อง​เช่า​จาก​สตรี​สูง​อายุ​คน​หนึ่ง. เนื่อง​จาก​ฉัน​ไม่​รู้​เรื่อง​ที่​คณบดี​ไป​พบ​พ่อ​แม่​ของ​ฉัน​และ​ที่​เขา​สัญญา​กับ​พ่อ ฉัน​ไม่​เฉลียว​ใจ​สัก​นิด​ว่า​ทำไม​ฉัน​จึง​หา​งาน​ไม่​ได้ ทั้ง ๆ ที่​ฉัน​พยายาม​ทุก​วิธี​แล้ว. เจ้าของ​ห้อง​เช่า​ก็​แปลก​ใจ​เช่น​กัน ด้วย​ความ​อยาก​รู้ เธอ​ไป​พบ​คณบดี​และ​ไถ่​ถาม​ถึง​สาเหตุ​ที่​ฉัน​ออก​จาก​วิทยาลัย.

“ระวัง​นะ!” เขา​เตือน. “เด็ก​คน​นี้​เป็น​สมาชิก​คณะ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​เป็น​นิกาย​อันตราย. เพราะ​เหตุ​นี้​เธอ​จึง​ต้อง​ออก​จาก​วิทยาลัย. เธอ​จะ​ต้อง​กลับ​ไป​อยู่​บ้าน​และ​เลิก​เกี่ยว​ข้อง​กับ​นิกาย​นี้. ผม​จะ​คอย​ดู​ไม่​ให้​เธอ​ได้​งาน​ทำ​ใน​กรุง​ปราก​แน่!”

เมื่อ​หญิง​เจ้าของ​ห้อง​เช่า​กลับ​บ้าน​คืน​นั้น เธอ​เรียก​ฉัน​ไป​พบ​และ​พูด​ว่า “นี่​อะเลนกา วัน​นี้​ฉัน​ไป​วิทยาลัย​ที่​หนู​เคย​เรียน.” ฉัน​คิด​ใน​ใจ​ว่า​ฉัน​คง​ต้อง​เก็บ​ข้าวของ​ลง​กระเป๋า​และ​ออก​จาก​ห้อง​เช่า​คืน​นั้น​ที​เดียว. แต่​เธอ​พูด​ว่า “ฉัน​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การ​กระทำ​ของ​คณบดี. หนู​จะ​เชื่อ​อะไร​ก็​ได้​ตาม​ที่​ใจ​ปรารถนา แต่​สิ่ง​สำคัญ​คือ​หนู​ประพฤติ​ตน​อย่าง​ไร​ต่าง​หาก. ฉัน​จะ​ช่วย​หนู​ให้​ได้​งาน​ทำ.” คืน​นั้น ฉัน​อธิษฐาน​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​พระองค์​ทรง​โปรด​ช่วย.

ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น พ่อ​มา​ที่​กรุง​ปราก​เพื่อ​จะ​รับ​ฉัน​กลับ​บ้าน. แต่​ข้อ​โต้​แย้ง​ของ​ท่าน​คราว​นี้​ไม่​ได้​โน้ม​น้าว​ใจ​ฉัน. ความ​เชื่อ​ศรัทธา​ใน​พระ​ยะโฮวา​และ​คำ​สัญญา​ต่าง ๆ ของ​พระองค์​มี​รากฐาน​มั่นคง​ยิ่ง​กว่า​ที่​แล้ว ๆ มา. ท้าย​ที่​สุด พ่อ​กลับ​บ้าน​เพียง​ลำพัง​โดย​ที่​ฉัน​ไม่​ได้​ไป​ด้วย และ​ฉัน​เห็น​พ่อ​ร้องไห้​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​ชีวิต. แม้​การ​พบ​กัน​ครั้ง​นั้น​ก่อ​ความ​สะเทือน​ใจ ทว่า​เป็น​ประสบการณ์​ที่​นำ​ฉัน​เข้า​ใกล้​ชิด​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น. ฉัน​ต้องการ​อยู่​ฝ่าย​พระ​ยะโฮวา​และ​รับใช้​พระองค์. ดัง​นั้น วัน​ที่ 19 พฤศจิกายน 1983 ฉัน​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​โดย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​อ่าง​อาบ​น้ำ​ที่​อพาร์ตเมนต์​แห่ง​หนึ่ง​ใน​กรุง​ปราก.

การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ฉัน​มี​บำเหน็จ

ต่อ​มา ฉัน​เข้า​ไป​ช่วย​งาน​ผลิต​สรรพหนังสือ​ของ​เหล่า​พยาน​ฯ ที่​ถูก​ห้าม​จำหน่าย. งาน​นี้​จำ​ต้อง​มี​มาตรการ​ความ​ปลอด​ภัย​ที่​เข้มงวด เนื่อง​จาก​พวก​เจ้าหน้าที่​ได้​คุม​ขัง​บาง​คน​เมื่อ​จับ​ได้​ว่า​ผลิต​หนังสือ. ภารกิจ​แรก​ของ​ฉัน​คือ​การ​ทำ​สำเนา​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ที่​แปล​ออก​เป็น​ภาษา​เชก​โดย​ใช้​เครื่อง​พิมพ์ดีด. จาก​นั้น​สำเนา​เหล่า​นี้​ก็​ถูก​นำ​ไป​แจก​จ่าย​แก่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​ใช้​ใน​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล.

ต่อ​มา ฉัน​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ร่วม​กับ​กลุ่ม​ที่​ไป​พบ​กัน​ใน​อพาร์ตเมนต์​ใน​กรุง​ปราก​เพื่อ​ทำ​หนังสือ. เครื่อง​เรือน​ส่วน​ใหญ่​ภาย​ใน​ห้อง​ถูก​ย้าย​ออก​ไป แล้ว​พวก​เรา​ก็​เอา​หน้า​หนังสือ​แต่​ละ​หน้า​ที่​พิมพ์​แล้ว​ซึ่ง​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ยาว​กลาง​ห้อง​มา​เรียง​เข้า​ด้วย​กัน. ต่อ​จาก​นั้น​ก็​ทา​กาว​หรือ​ไม่​ก็​เย็บ​เป็น​เล่ม. ฉัน​คิด​บ่อย ๆ ว่า​น่า​เพลิดเพลิน​เพียง​ใด​หาก​ได้​ทำ​งาน​นี้​เต็ม​เวลา.

ตอน​ที่​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​องค์การ​หนุ่ม​สาว​คอมมิวนิสต์ ฉัน​เคย​พยายาม​สอน​เด็ก​ให้​เป็น​คน​ดี. ใน​ฐานะ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ฉัน​ยัง​คง​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​คน​หนุ่ม​สาว และ​ได้​ช่วย​หลาย​คน​เข้า​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​รับ​บัพติสมา​แล้ว. ถึง​แม้​สมาชิก​ครอบครัว​ของ​ฉัน​ยัง​ไม่​มี​ใคร​เป็น​พยาน​ฯ แต่​ดัง​คำ​สัญญา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ฉัน​มี​ทั้ง​บิดา​และ​มารดา รวม​ถึง​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ฝ่าย​วิญญาณ​มาก​มาย.—มาระโก 10:29, 30.

ปี 1989 การ​ปกครอง​ระบอบ​ประชาธิปไตย​เข้า​มา​แทน​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​ใน​ประเทศ​ของ​เรา. การ​เปลี่ยน​แปลง​ครั้ง​นี้​ทำ​ให้​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​เสรีภาพ​ตาม​กฎหมาย ซึ่ง​ยัง​ผล​ให้​พวก​เรา​สามารถ​จัด​การ​ประชุม​ได้​อย่าง​เปิด​เผย​เพื่อ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล, ออก​เผยแพร่​ตาม​บ้าน​เรือน​ได้​โดย​ไม่​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​จับ​กุม, และ​ที่​จะ​เดิน​ทาง​ออก​นอก​ประเทศ​เพื่อ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​นานา​ชาติ. ยิ่ง​กว่า​นั้น เรา​ไม่​ต้อง​วิตก​กังวล​อีก​ต่อ​ไป​ใน​เรื่อง​ของ​การ​สืบสวน, การ​จับ​กุม, หรือ​การ​ขู่​ขวัญ!

ทำ​การ​รับใช้​ร่วม​กับ​สามี

ปี 1990 ฉัน​แต่งงาน​กับ​ปีเตอร์ ซึ่ง​เป็น​คริสเตียน​เช่น​เดียว​กับ​ฉัน. เดือน​เมษายน 1992 เรา​สอง​คน​ได้​บรรลุ​เป้าหมาย​การ​เป็น​ไพโอเนียร์ ดัง​ที่​พยาน​ฯ เรียก​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ทำ​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. ใน​ที่​สุด เดือน​มิถุนายน 1994 เรา​ได้​รับ​เชิญ​ไป​ทำ​งาน​ที่​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​กรุง​ปราก. ตอน​นี้ แทน​ที่​จะ​ผลิต​สรรพหนังสือ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​แบบ​หลบ ๆ ซ่อน ๆ เรา​สามารถ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​รับใช้​อย่าง​เปิด​เผย​เพื่อ​ผล​ประโยชน์​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ประชาชน​ทั่ว​สาธารณรัฐ​เชก.

เมื่อ​ไม่​กี่​ปี​ก่อน​หน้า​นี้ ฉัน​กับ​ปีเตอร์​ปลื้ม​ใจ​เหลือ​ล้น​เมื่อ​พ่อ​กับ​แม่​ตอบรับ​การ​เชิญ​ของ​เรา​โดย​ที่​ท่าน​ได้​มา​เยี่ยม​ชม​อาคาร​ที่​ทำ​งาน​ของ​เรา​และ​ที่​อยู่​อาศัย​ของ​สมาชิก​ครอบครัว​มาก​กว่า 60 คน. หลัง​จาก​สำรวจ​ตรวจตรา​ที่​อยู่​อาศัย​และ​ห้อง​ทำ​งาน​ของ​พวก​เรา​อย่าง​ละเอียด​แล้ว พ่อ​พูด​ดัง​นี้: “ใช่​แล้ว พ่อ​รู้สึก​ว่า​ความ​รัก​แท้​มี​อยู่​ท่ามกลาง​พวก​คุณ.” คำ​พูด​นี้​แสน​ไพเราะ​เสนาะ​หู​เท่า​ที่​ฉัน​สามารถ​ได้​ยิน​จาก​พ่อ.

พอ​ใจ​สิ่ง​ที่​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​สัญญา​ไว้

ความ​หวัง​ของ​เรา​ที่​จะ​ชื่นชม​โลก​ที่​ดี​กว่า​จาก​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​นั้น จริง ๆ แล้ว​มัน​เป็น​แค่​ความ​เพ้อ​ฝัน​เท่า​นั้น. ประวัติศาสตร์​มนุษยชาติ​เผย​ให้​เห็น​ว่า แม้​แต่​ความ​พยายาม​บากบั่น​อย่าง​จริง​ใจ​ที่​สุด​ของ​มนุษย์​ก็​ไม่​อาจ​สร้าง​สังคม​ที่​ชอบธรรม​ได้​สำเร็จ. ฉัน​เชื่อ​ว่า​ยัง​มี​ผู้​คน​อีก​มาก​มาย​ซึ่ง​จะ​สำนึก​ว่า​มนุษย์​ไม่​อาจ​ชื่นชม​กับ​ชีวิต​ที่​สุข​สบาย​ได้​หาก​ไม่​ได้​รับ​การ​สงเคราะห์​จาก​พระเจ้า.—ยิระมะยา 10:23.

บ่อย​ครั้ง ฉัน​มัก​นึก​ถึง​ความ​ปรารถนา​ดี​ของ​พ่อ​ที่​อยาก​ให้​ฉัน​ได้​ชื่นชม​กับ​สิ่ง​ที่​ท่าน​เรียก​ว่า “ชีวิต​แท้” ซึ่ง​ท่าน​สอน​เรา​ว่า​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​สามารถ​บันดาล​ได้. กระนั้น ฉัน​ได้​มา​รู้​ประจักษ์​ชัด​จาก​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​สิ่ง​ที่​เรียก​ว่า “ชีวิต​แท้”—ชีวิต​ใน​โลก​ใหม่​ที่​ชอบธรรม​ของ​พระเจ้า—เป็น​คำ​สัญญา​ที่​แน่นอน​เพียง​อย่าง​เดียว​ซึ่ง​มนุษย์​วางใจ​ได้. (1 ติโมเธียว 6:19, ล.ม.) ฉัน​พูด​เช่น​นี้​เพราะ​ถึง​แม้​เป็น​ทาส​บาป​และ​ความ​ไม่​สมบูรณ์ แต่​เมื่อ​คน​เหล่า​นั้น​มุ่ง​มั่น​ตั้งใจ​นำ​คำ​สอน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ใช้​ใน​ชีวิต เขา​สามารถ​จะ​อยู่​ร่วม​กัน​ด้วย​ความ​สงบ​สุข​ได้​อย่าง​น่า​ทึ่ง​ที​เดียว. พวก​เขา​บรรลุ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​ต้านทาน​ความ​พยายาม​ทั้ง​สิ้น​ที่​คอย​บั่น​ทอน​ความ​เป็น​เอกภาพ​ท่ามกลาง​พวก​เขา หรือ​ที่​จะ​ทำลาย​ความ​ผูก​พัน​อัน​ซื่อ​สัตย์​ภักดี​ซึ่ง​เขา​ได้​อุทิศ​แด่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า.

เรื่อง​นี้​ประทับใจ​ฉัน​เป็น​พิเศษ​ใน​คราว​ที่​ฉัน​กับ​สามี​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ฐานะ​แขก​รับ​เชิญ​ไป​ร่วม​การ​อุทิศ​สำนักงาน​สาขา​แห่ง​ใหม่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใกล้​เมือง​ลวิฟ สาธารณรัฐ​ยูเครน เมื่อ​วัน​ที่ 19 พฤษภาคม 2001. ที่​นั่น ฉัน​พบ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​อื่น ๆ ซึ่ง​เคย​เป็น​สมาชิก​องค์การ​ไพโอเนียร์​ยุวชน​ของ​พวก​คอมมิวนิสต์. คน​เหล่า​นี้​เคย​หวัง​เช่น​เดียว​กัน​กับ​ฉัน​ว่า ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​จะ​ทำ​ให้​มวล​มนุษย์​มี​สันติภาพ​และ​เอกภาพ​อย่าง​แท้​จริง. วลาดิเมียร์ กรีกอริฟ ซึ่ง​เวลา​นี้​ทำ​งาน​รับใช้​กับ​ภรรยา​ที่​สำนักงาน​สาขา​ใน​รัสเซีย​ก็​เคย​เป็น​หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​ไพโอเนียร์​ยุวชน.

เป็น​เรื่อง​น่า​แปลก​ที่​ตอน​นี้​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​ก่อ​สร้าง​สำนักงาน​สาขา​แห่ง​ใหม่​ขึ้น ณ บริเวณ​ซึ่ง​เคย​เป็น​ค่าย​พัก​ฤดู​ร้อน​สำหรับ​ไพโอเนียร์​ยุวชน. เนื่อง​จาก​สาขา​แห่ง​นี้​มี​พื้น​ที่​จำกัด จึง​มี​เพียง 839 คน​จาก 35 ประเทศ​ที่​ได้​เข้า​ร่วม​ระเบียบ​วาระ​การ​อุทิศ​อาคาร​สำนักงาน. อย่าง​ไร​ก็​ดี เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น ณ สนาม​ฟุตบอล​ใน​เมือง​ลวิฟ​มี 30,881 คน​ได้​ฟัง​คำ​บรรยาย​ซึ่ง​ทบทวน​ระเบียบ​วาระ​ของ​วัน​ก่อน. * ใน​กลุ่ม​ที่​มา​ร่วม​ประชุม​นี้ บาง​คน​ได้​ใช้​เวลา​เดิน​ทาง​ถึง​หก​ชั่วโมง​หรือ​มาก​กว่า​จาก​ที่​ห่าง​ไกล​เพื่อ​จะ​อยู่​ที่​นั่น.

กระนั้น เมื่อ​ผู้​คน​เหล่า​นี้​รู้​ว่า​มี​การ​จัด​เตรียม​นำ​ชม​อาคาร​สาขา​ใหม่ พวก​เขา​ได้​ขึ้น​รถ​บัส​นับ​สิบ ๆ คัน​ซึ่ง​ได้​นำ​พวก​เขา​มา​ยัง​สนาม​กีฬา. พอ​ตก​บ่าย รถ​บัส​เหล่า​นั้น​ได้​ทยอย​ไป​ถึง​สาขา​เพื่อ​จะ​เดิน​ชม​ให้​ทั่ว​อาคาร​เหล่า​นั้น ซึ่ง​ฉัน​กับ​สามี​ถือ​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​เป็น​แขก​พัก​ค้าง​คืน. ตก​เย็น เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ซึ่ง​เป็น​ที่​รัก​ของ​เรา​กว่า 16,000 คน​ก็​เสร็จ​สิ้น​การ​เดิน​ชม​อย่าง​ทั่ว​ถึง​แล้ว​จึง​ขึ้น​รถ​กลับ สำหรับ​หลาย​คน​ถือ​ว่า​เป็น​การ​เดิน​ทาง​ระยะ​ไกล​มาก!

ที่​สาธารณรัฐ​ยูเครน​ก็​เหมือน​กับ​ประเทศ​อื่น​ทาง​ยุโรป​ตะวัน​ออก หลาย​ล้าน​คน​เคย​เชื่อ​ว่า​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​เป็น​ความ​หวัง​อัน​ดี​เยี่ยม​ใน​การ​สร้าง​สังคม​ใหม่​ให้​ผาสุก. แต่​เวลา​นี้ เฉพาะ​ที่​ยูเครน​แห่ง​เดียว มาก​กว่า 120,000 คน​มี​ส่วน​บอก​เล่า​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​แก่​ผู้​อื่น. แท้​จริง พวก​เรา​หลาย​คน​ซึ่ง​แต่​ก่อน​เป็น​คอมมิวนิสต์​ได้​เข้า​มา​เชื่อ​ว่า​รัฐบาล​นี้​ของ​พระเจ้า​เป็น​ความ​หวัง​แท้​เพียง​อย่าง​เดียว​ที่​บันดาล​ให้​เกิด​ภราดรภาพ​และ​สันติ​สุข​อย่าง​แท้​จริง​ท่ามกลาง​ประชาชาติ​ทั้ง​ปวง!

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 51 อีก 41,143 คน​ได้​ร่วม​ประชุม​ใน​เวลา​เดียว​กัน ณ สนาม​กีฬา​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เมือง​เคียฟ ห่าง​ออก​ไป​ประมาณ 500 กิโลเมตร ที่​นี่​ก็​เช่น​กัน พวก​เขา​ได้​ฟัง​การ​ทบทวน​ระเบียบ​วาระ​การ​อุทิศ​ดัง​กล่าว. ผู้​ฟัง​ทั้ง​หมด​ที่​ถูก​รวบ​รวม​เข้า​มา 72,024 คน​ทำ​ให้​การ​ชุมนุม​ครั้ง​นี้​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​เท่า​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เคย​จัด​ขึ้น​ใน​ยูเครน.

[ภาพ​หน้า 12]

เมื่อ​อายุ​สิบ​ขวบ ไม่​นาน​หลัง​จาก​ฉัน​เข้า​ร่วม​กับ​ไพโอเนียร์​ยุวชน​แห่ง​พรรค​คอมมิวนิสต์

[ภาพ​หน้า 16]

กับ​ปีเตอร์ สามี​ของ​ฉัน

[ภาพ​หน้า 16]

วลาดิเมียร์ อดีต​ไพโอเนียร์​ยุวชน​แห่ง​พรรค​คอมมิวนิสต์ ซึ่ง​ฉัน​ได้​พบ​เขา​เมื่อ​มี​การ​อุทิศ​สำนักงาน​สาขา​ใน​ยูเครน

[ภาพ​หน้า 16, 17]

มาก​กว่า 30,000 คน​ได้​ฟัง​การ​ทบทวน​ระเบียบ​วาระ​การ​อุทิศ

[ภาพ​หน้า 17]

มาก​กว่า 16,000 คน​เข้า​เที่ยว​ชม​อาคาร​สำนักงาน​สาขา