ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การทำให้วิทยาศาสตร์กับศาสนาลงรอยกัน

การทำให้วิทยาศาสตร์กับศาสนาลงรอยกัน

การ​ทำ​ให้​วิทยาศาสตร์​กับ​ศาสนา​ลง​รอย​กัน

“วิทยาศาสตร์​กับ​ศาสนา​ไม่​ได้​ถูก​มอง​ว่า​ขัด​แย้ง​กัน​อีก​ต่อ​ไป.”—หนังสือ​พิมพ์ เดอะ เดลี เทเลกราฟ แห่ง​ลอนดอน ฉบับ​วัน​ที่ 26 พฤษภาคม 1999.

ทั้ง​วิทยาศาสตร์​และ​ศาสนา​ใน​รูป​แบบ​ที่​สูง​ส่ง​ที่​สุด​ล้วน​แต่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ค้น​หา​ความ​จริง. วิทยาศาสตร์​ค้น​พบ​โลก​ที่​เป็น​ระเบียบ​อย่าง​น่า​ทึ่ง เอกภพ​ที่​มี​ข้อ​บ่ง​ชี้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ได้​รับ​การ​ออก​แบบ​ที่​ชาญ​ฉลาด. ศาสนา​แท้​ทำ​ให้​การ​ค้น​พบ​เหล่า​นั้น​มี​ความ​หมาย​โดย​สอน​ว่า​เชาวน์​ปัญญา​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​อยู่​เบื้อง​หลัง​การ​ออก​แบบ​ที่​ปรากฏ​อยู่​ใน​โลก​ธรรมชาติ.

ฟรานซิส คอลลินส์ นัก​ชีววิทยา​โมเลกุล กล่าว​ว่า “ผม​สังเกต​ว่า ความ​เข้าใจ​ทาง​วิทยาศาสตร์​ของ​ผม​มี​ความ​หมาย​ขึ้น​มาก​เนื่อง​จาก​ศาสนา.” เขา​กล่าว​ต่อ​ว่า “เมื่อ​ผม​ค้น​พบ​อะไร​บาง​อย่าง​เกี่ยว​กับ​จีโนม​มนุษย์ ผม​เกิด​ความ​รู้สึก​เกรง​ขาม​ใน​ความ​ลึกลับ​แห่ง​ชีวิต แล้ว​ผม​ก็​พูด​กับ​ตัว​เอง​ว่า ‘โอ้​โฮ พระเจ้า​เท่า​นั้น​ที่​รู้​เรื่อง​นี้​มา​ก่อน.’ นั่น​เป็น​ความ​รู้สึก​ที่​ปีติ​ยินดี​และ​ตื้นตัน​ใจ​อย่าง​มาก ซึ่ง​ช่วย​ให้​ผม​หยั่ง​รู้​ค่า​พระเจ้า​และ​ซ้ำ​ยัง​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​พึง​พอ​ใจ​ใน​วิทยาศาสตร์​มาก​ขึ้น.”

อะไร​จะ​ช่วย​คน​เรา​ทำ​ให้​วิทยาศาสตร์​กับ​ศาสนา​ลง​รอย​กัน?

การ​แสวง​หา​ที่​ไม่​หยุด​ยั้ง

ยอม​รับ​ขีด​จำกัด: การ​แสวง​หา​คำ​ตอบ​เกี่ยว​กับ​เอกภพ, อวกาศ, และ​เวลา​ที่​เป็น​อนันต์​นั้น​ไม่​มี​ที​ท่า​ว่า​จะ​สิ้น​สุด. นัก​ชีววิทยา ลูวิส โทมัส ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “การ​แสวง​หา​นี้​จะ​ไม่​มี​วัน​จบ​สิ้น เนื่อง​จาก​มนุษย์​อยาก​รู้​อยาก​เห็น​ไม่​รู้​จัก​พอ เรา​กำลัง​สำรวจ, ค้น​หา, และ​พยายาม​เข้าใจ​สิ่ง​ต่าง ๆ. เรา​จะ​ไม่​มี​วัน​ไข​ปัญหา​เหล่า​นี้​ได้. ผม​นึก​ภาพ​ไม่​ออก​ว่า​จะ​มี​จุด​สิ้น​สุด​ที่​ทุก​คน​ถอน​หายใจ​ด้วย​ความ​โล่ง​อก​และ​พูด​ว่า ‘ตอน​นี้​เรา​เข้าใจ​ทุก​อย่าง​แล้ว.’ สิ่ง​เหล่า​นั้น​จะ​ยัง​เป็น​สิ่ง​ที่​เรา​ไม่​เข้าใจ​ต่อ​ไป.”

คล้าย​กัน ใน​เรื่อง​ความ​จริง​ทาง​ศาสนา การ​แสวง​หา​ก็​ไม่​มี​ที​ท่า​ว่า​จะ​สิ้น​สุด. เปาโล ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “บัด​นี้​เรา​ทั้ง​หลาย​ยัง​เห็น​มัว ๆ เหมือน​ดู​ใน​กระจก . . . เดี๋ยว​นี้​ข้าพเจ้า​รู้​แต่​ส่วน​หนึ่ง.”—1 โกรินโธ 13:12.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ความ​รู้​ส่วน​หนึ่ง​เกี่ยว​กับ​ทั้ง​วิทยาศาสตร์​และ​ศาสนา​ก็​ไม่​ได้​กีด​กัน​เรา​จาก​การ​ลง​ความ​เห็น​อย่าง​หนักแน่น​โดย​อาศัย​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​เรา​มี​อยู่. เรา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​รู้​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​ต้น​กำเนิด​ของ​ดวง​อาทิตย์​เพื่อ​จะ​แน่​ใจ​จริง ๆ ว่า​วัน​พรุ่ง​นี้​ดวง​อาทิตย์​จะ​ขึ้น.

พิจารณา​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ทราบ​กัน​อยู่​แล้ว: ใน​การ​แสวง​หา​คำ​ตอบ เรา​ต้อง​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​จาก​หลักการ​ที่​ถูก​ต้อง. ถ้า​เรา​ไม่​ได้​ยึด​อยู่​กับ​หลักฐาน​ที่​มี​มาตรฐาน​สูง​ที่​สุด เรา​อาจ​ถูก​นำ​ไป​ผิด​ทาง​ได้​โดย​ง่าย​เมื่อ​เรา​แสวง​หา​ความ​จริง​ทาง​วิทยาศาสตร์​และ​ศาสนา. ตาม​จริง​แล้ว ไม่​มี​ใคร​ใน​พวก​เรา​จะ​เริ่ม​ประเมิน​ค่า​ความ​รู้​และ​แนว​คิด​ทาง​วิทยาศาสตร์​ทั้ง​หมด​ได้ ซึ่ง​ใน​ปัจจุบัน​มี​อยู่​เต็ม​ห้อง​สมุด​ใหญ่. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง คัมภีร์​ไบเบิล​มี​คำ​สอน​ใน​แง่​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​เรา​ศึกษา​ได้​ง่าย. คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​โดย​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ทราบ​กัน​อยู่​แล้ว. *

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​เรื่อง​ความ​รู้​ทั่ว ๆ ไป​แล้ว จำ​ต้อง​ใช้​ความ​พยายาม​อย่าง​จริงจัง​เพื่อ​จะ​แยกแยะ​ระหว่าง​ข้อ​เท็จ​จริง​กับ​การ​คาด​เดา ระหว่าง​ความ​จริง​กับ​การ​หลอก​ลวง ทั้ง​ใน​แวดวง​วิทยาศาสตร์​และ​ศาสนา. ดัง​ที่​เปาโล​ซึ่ง​เป็น​ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​แนะ​นำ เรา​ต้อง​ปฏิเสธ “ความ​รู้​อัน​เท็จ​ซึ่ง​มี​ข้อ​แย้ง​กัน​อยู่​เสมอ​ที่​เขา​เรียก​ผิด​ไป​ว่า​เป็น​ความ​รู้.” (1 ติโมเธียว 6:20) ที่​จะ​ทำ​ให้​วิทยาศาสตร์​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ลง​รอย​กัน​ได้​นั้น เรา​ต้อง​พิจารณา​ข้อ​เท็จ​จริง โดย​วิธี​นั้น​จึง​หลีก​เลี่ยง​การ​ด่วน​สรุป​และ​การ​คาด​เดา จาก​นั้น​วิเคราะห์​ว่า​ข้อ​เท็จ​จริง​แต่​ละ​อย่าง​สนับสนุน​และ​ส่ง​เสริม​ข้อ​เท็จ​จริง​อื่น ๆ อย่าง​ไร.

ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​เรา​เข้าใจ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​คำ “วัน” เพื่อ​แสดง​ถึง​ช่วง​เวลา​ต่าง ๆ เรา​ก็​เข้าใจ​ว่า บันทึก​เรื่อง​หก​วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ขัด​แย้ง​กับ​ข้อ​สรุป​ทาง​วิทยาศาสตร์​ที่​ว่า​โลก​มี​อายุ​ราว ๆ สี่​พัน​ห้า​ร้อย​ล้าน​ปี. ตาม​ที่​กล่าว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ก่อน​วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​เริ่ม​ขึ้น โลก​มี​อยู่​แล้ว​นาน​เท่า​ไร​ไม่​ได้​มี​การ​ระบุ​ไว้. (ดู​กรอบ “วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง—วัน​ละ 24 ชั่วโมง​หรือ?”) แม้​ว่า​วิทยาศาสตร์​เอง​จะ​มี​การ​แก้ไข​และ​บอก​อายุ​โลก​ของ​เรา​ใหม่ ข้อ​ความ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​ยัง​เป็น​ความ​จริง. แทน​ที่​จะ​ขัด​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล ใน​ประเด็น​นี้​และ​ใน​เรื่อง​อื่น ๆ อีก​หลาย​เรื่อง ที่​จริง​แล้ว​วิทยาศาสตร์​ให้​ข้อมูล​เพิ่ม​เติม​อีก​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​โลก​รอบ​ตัว​เรา​ทั้ง​ใน​อดีต​และ​ปัจจุบัน.

ความ​เชื่อ​ไม่​ใช่​ความ​งมงาย: คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ความ​รู้​แก่​เรา​เรื่อง​พระเจ้า​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​อย่าง​ที่​ไม่​อาจ​หา​ได้​จาก​แหล่ง​อื่น​ใด. ทำไม​เรา​ควร​วางใจ​คัมภีร์​ไบเบิล? คัมภีร์​ไบเบิล​เอง​เชิญ​เรา​ให้​ตรวจ​สอบ​ความ​ถูก​ต้อง​แม่นยำ​ของ​คัมภีร์. ลอง​พิจารณา​ความ​น่า​เชื่อถือ​ทาง​ประวัติศาสตร์, การ​ใช้​การ​ได้​จริง, ความ​ตรง​ไป​ตรง​มา​ของ​ผู้​เขียน, และ​ความ​สัตย์​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. โดย​ตรวจ​สอบ​ความ​ถูก​ต้อง​แม่นยำ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล รวม​ทั้ง​ข้อ​ความ​ทาง​ด้าน​วิทยาศาสตร์ และ​ที่​น่า​เชื่อถือ​ยิ่ง​ขึ้น​ไป​อีก​คือ ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ที่​ไม่​ผิด​พลาด​ของ​คำ​พยากรณ์​หลาย​ร้อย​ข้อ​ตลอด​หลาย​ยุค​หลาย​สมัย​จน​มา​ถึง​สมัย​ของ​เรา คน​เรา​จะ​สามารถ​มี​ความ​เชื่อ​มั่นคง​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. ความ​เชื่อ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ใช่​ความ​งมงาย แต่​เป็น​ความ​มั่น​ใจ​ที่​ได้​รับ​การ​พิสูจน์​แล้ว​ใน​เรื่อง​ความ​ถูก​ต้อง​ของ​ข้อ​ความ​ใน​พระ​คัมภีร์.

นับถือ​วิทยาศาสตร์; ยอม​รับ​ความ​เชื่อ: พยาน​พระ​ยะโฮวา​เชิญ​คน​ที่​มี​ใจ​เปิด ทั้ง​คน​ที่​สนใจ​ทาง​วิทยาศาสตร์​และ​คน​ที่​สนใจ​ทาง​ศาสนา ให้​มา​ร่วม​แสวง​หา​ความ​จริง​อย่าง​จริง​ใจ​จาก​ทั้ง​สอง​ด้าน. ใน​ประชาคม​ของ​พยาน​ฯ พวก​เขา​สนับสนุน​ให้​มี​ความ​นับถือ​อย่าง​สม​ควร​ต่อ​วิทยาศาสตร์​และ​การ​ค้น​พบ​ทาง​วิทยาศาสตร์​ที่​ได้​รับ​การ​พิสูจน์​แล้ว​รวม​ทั้ง​ความ​เชื่อ​อัน​ลึกซึ้ง​ที่​ว่า​ความ​จริง​ทาง​ศาสนา​จะ​พบ​ได้​เฉพาะ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ซึ่ง​ยืน​ยัน​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ว่า​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​พร้อม​ด้วย​หลักฐาน​อัน​หนักแน่น. อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ว่า “เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​รับ​คำ​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​ท่าน​ได้​ยิน​จาก​เรา, ท่าน​ไม่​ได้​รับ​ไว้​อย่าง​เป็น​คำ​ของ​มนุษย์, แต่​ได้​รับ​ไว้​อย่าง​เป็น​คำ​ของ​พระเจ้า.”—1 เธซะโลนิเก 2:13.

แน่นอน เช่น​เดียว​กับ​วิทยาศาสตร์ ศาสนา​ก็​ถูก​แทรกซึม​ด้วย​ความ​เท็จ​และ​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​ก่อ​ความ​เสียหาย. ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​มี​ทั้ง​ศาสนา​แท้​และ​ศาสนา​เท็จ. นี่​คือ​เหตุ​ผล​ที่​หลาย​คน​ออก​จาก​ศาสนา​ใหญ่ ๆ ที่​ผู้​คน​ทั่ว​ไป​นับถือ​แล้ว​เข้า​มา​เป็น​สมาชิก​ของ​ประชาคม​คริสเตียน​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา. พวก​เขา​ผิด​หวัง​ที่​ศาสนา​เดิม​ของ​พวก​เขา​ไม่​เต็ม​ใจ​จะ​ปฏิเสธ​ประเพณี​ของ​มนุษย์​และ​เทพนิยาย​เพื่อ​จะ​ยอม​รับ​ความ​จริง​ที่​มี​การ​เปิด​เผย.

ยิ่ง​กว่า​นั้น คริสเตียน​แท้​พบ​ความ​หมาย​และ​จุด​มุ่ง​หมาย​ที่​แท้​จริง​ของ​ชีวิต ซึ่ง​อาศัย​ความ​รู้​อัน​ถ่องแท้​เกี่ยว​กับ​พระ​ผู้​สร้าง ดัง​ที่​พระองค์​ทรง​เผย​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​พระ​ประสงค์​ที่​พระองค์​ทรง​แถลง​ไว้​สำหรับ​มนุษยชาติ​และ​โลก​ที่​เรา​อยู่. พยาน​พระ​ยะโฮวา​พึง​พอ​ใจ​กับ​คำ​ตอบ​ที่​มี​เหตุ​ผล​ซึ่ง​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก​สำหรับ​คำ​ถาม​ต่าง ๆ อย่าง​เช่น ทำไม​เรา​มา​อยู่​ที่​นี่? เรา​กำลัง​จะ​ไป​ที่​ไหน? พวก​เขา​จะ​ยินดี​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​บอก​เล่า​ความ​รู้​นี้​แก่​คุณ.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 10 ดู​จุลสาร​หนังสือ​สำหรับ​ทุก​คน จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

[กรอบ​หน้า 10]

วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง—วัน​ละ 24 ชั่วโมง​หรือ?

ผู้​ที่​ถือ​คติ​นิยม​เคร่งครัด​ใน​แบบ​แผน​เดิม​บาง​คน​อ้าง​ว่า​คติ​นิยม​การ​ทรง​สร้าง​สามารถ​อธิบาย​ประวัติศาสตร์​ยุค​ก่อน​มี​มนุษย์​ได้ ไม่​ใช่​วิวัฒนาการ. พวก​เขา​ยืน​ยัน​ว่า สิ่ง​ทรง​สร้าง​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​รอบ​ตัว​เรา​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ภาย​ใน​แค่​หก​วัน​ซึ่ง​แต่​ละ​วัน​มี 24 ชั่วโมง ใน​ช่วง​ใด​ช่วง​หนึ่ง​ระหว่าง 6,000 ถึง 10,000 ปี​ที่​แล้ว. แต่​โดย​การ​ยืน​ยัน​เช่น​นี้ พวก​เขา​ส่ง​เสริม​คำ​สอน​ที่​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​ซึ่ง​เป็น​เหตุ​ให้​หลาย​คน​เยาะเย้ย​คัมภีร์​ไบเบิล.

วัน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี 24 ชั่วโมง​ตาม​ตัว​อักษร​เสมอ​ไป​ไหม? เยเนซิศ 2:4 พูด​ถึง “วัน​ที่​พระ​ยะโฮวา​เจ้า​ได้​ทรง​สร้าง​ฟ้า​และ​แผ่นดิน.” วัน​เดียว​นี้​ครอบ​คลุม​วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​ทั้ง​หก​วัน​ใน​เยเนซิศ​บท 1. ตาม​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้ วัน​คือ​ระยะ​เวลา​ช่วง​หนึ่ง​ซึ่ง​อาจ​ยาว​นาน​นับ​พัน​ปี​หรือ​หลาย​พัน​ปี​ก็​ได้. วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​อาจ​ยาว​นาน​วัน​ละ​หลาย​พัน​หลาย​หมื่น​ปี. นอก​จาก​นั้น แผ่นดิน​โลก​ก็​มี​อยู่​แล้ว​ก่อน​ที่​วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​จะ​เริ่ม​ขึ้น. (เยเนซิศ 1:1) ดัง​นั้น ใน​เรื่อง​นี้ เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​จึง​ลง​รอย​กับ​วิทยาศาสตร์​แท้.—2 เปโตร 3:8.

เมื่อ​ให้​ความ​เห็น​เกี่ยว​กับ​คำ​กล่าว​อ้าง​ที่​ว่า วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​คือ​วัน​ที่​มี​เพียง 24 ชั่วโมง​ตาม​ตัว​อักษร นัก​ชีววิทยา​โมเลกุล ฟรานซิส คอลลินส์ กล่าว​ว่า “คติ​นิยม​การ​ทรง​สร้าง​ได้​ก่อ​ผล​เสีย​ต่อ​แนว​คิด​ที่​จริงจัง​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​มาก​กว่า​สิ่ง​ใด​ใน​ประวัติศาสตร์​สมัย​ใหม่.”

[กรอบ​หน้า 11]

วิทยาศาสตร์​มี​ความ​สูง​ส่ง​ด้าน​ศีลธรรม​ไหม?

เป็น​ที่​เข้าใจ​ได้ คน​ที่​มี​ใจ​มุ่ง​ทาง​ด้าน​วิทยาศาสตร์​หลาย​คน​ปฏิเสธ​ศาสนา​เพราะ​ศาสนา​เคย​ต่อ​ต้าน​ความ​ก้าว​หน้า​ทาง​วิทยาศาสตร์, มี​ประวัติ​อัน​มืดมน, รวม​ทั้ง​มี​ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​และ​ความ​โหด​เหี้ยม. อาจารย์​ภาค​วิชา​จุล​ชีววิทยา จอห์น โพสต์เกต ชี้​ว่า “ศาสนา​ต่าง ๆ ของ​โลก . . . ก่อ​ให้​เกิด​ความ​ขน​พอง​สยอง​เกล้า​ใน​เรื่อง​การ​บูชา​มนุษย์, สงคราม​ครูเสด, การ​สังหาร​หมู่​และ​ศาล​ศาสนา. ใน​โลก​สมัย​ใหม่ ด้าน​มืด​ของ​ศาสนา​กลาย​เป็น​อันตราย. เพราะ​ไม่​เหมือน​วิทยาศาสตร์ ศาสนา​ไม่​เป็น​กลาง.”

เมื่อ​เทียบ​ด้าน​มืด​นั้น​กับ​ความ​มี​เหตุ​ผล, การ​มอง​ตาม​ความ​เป็น​จริง, และ​การ​มี​หลักการ​ซึ่ง​เชื่อ​กัน​ว่า​วิทยาศาสตร์​มี โพสต์เกต​อ้าง​ว่า “วิทยาศาสตร์​ได้​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​มี​ความ​สูง​ส่ง​ด้าน​ศีลธรรม.”

วิทยาศาสตร์​มี​ความ​สูง​ส่ง​ด้าน​ศีลธรรม​จริง ๆ ไหม? คำ​ตอบ​คือ​ไม่. โพสต์เกต​เอง​ยอม​รับ​ว่า “วงการ​วิทยาศาสตร์​ก็​มี​ความ​อิจฉา, ความ​โลภ, อคติ​และ​ความ​ริษยา​เช่น​กัน.” เขา​เสริม​ว่า “นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​แสดง​ว่า​สามารถ​ทำ​การ​ฆาตกรรม​เพื่อ​การ​วิจัย​ได้ ดัง​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​ค่าย​กัก​กัน​ของ​ญี่ปุ่น​และ​เยอรมนี​สมัย​นาซี.” และ​เมื่อ​วารสาร​แนชันแนล จีโอกราฟิก มอบหมาย​ให้​ผู้​สื่อ​ข่าว​เชิง​สอบสวน​คน​หนึ่ง​ค้น​หา​สาเหตุ​ว่า เหตุ​ใด​ฟอสซิล​ปลอม​จึง​ได้​รับ​การ​ตี​พิมพ์​ใน​วารสาร​นั้น ผู้​สื่อ​ข่าว​คน​นั้น​พูด​ถึง “เรื่อง​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ที่​ทำ​ให้​เข้าใจ​ผิด​และ​ความ​ไว้​วางใจ​ผิด​ที่, เรื่อง​ความ​ขัด​แย้ง​อย่าง​รุนแรง​ของ​คน​ที่​ยึด​ถือ​ทัศนะ​ของ​ตัว​เอง​เป็น​หลัก, การ​ยกย่อง​ตัว​เอง​เกิน​กว่า​ที่​เป็น​จริง, การ​เชื่อ​ตาม​ที่​อยาก​จะ​เชื่อ, การ​ทึกทัก​โดย​พา​ซื่อ, ความ​ผิด​พลาด​ของ​มนุษย์, ความ​ดื้อดึง, การ​ยัก​ย้าย​ถ่าย​เท, การ​พูด​ให้​ร้าย​คน​อื่น, การ​โกหก​หลอก​ลวง, [และ] การ​คอร์รัปชัน.”

และ​แน่นอน วิทยาศาสตร์​นั่น​แหละ​ที่​ได้​สร้าง​เครื่อง​มือ​อัน​น่า​กลัว​ให้​มนุษย์​ไว้​ทำ​สงคราม เช่น อาวุธ​เชื้อ​โรค, แก๊ส​พิษ, ขีปนาวุธ, ระเบิด “สมาร์ต,” และ​ระเบิด​นิวเคลียร์.

[ภาพ​หน้า 8, 9]

เนบิวลา​มด (เมน​เซล 3) จาก​กล้อง​โทรทรรศน์​อวกาศ​ฮับเบิล

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

NASA, ESA and The Hubble Heritage Team (STScI/AURA)

[ภาพ​หน้า 9]

วิทยาศาสตร์​ค้น​พบ​โลก​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ข้อ​บ่ง​ชี้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ได้​รับ​การ​ออก​แบบ​อย่าง​ชาญ​ฉลาด

[ภาพ​หน้า 10]

พยาน​พระ​ยะโฮวา​สนับสนุน​ให้​นับถือ​วิทยาศาสตร์​แท้​และ​ความ​เชื่อ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล