จากผู้อ่านของเรา
จากผู้อ่านของเรา
จากบรรณาธิการ: บทความชุด “ชีวิตยังมีค่า” (8 พฤศจิกายน 2001) ได้รับการตอบรับมากมายจากผู้อ่าน. สิ่งนี้นับว่าน่ายินดี เพราะ “ตื่นเถิด!” พยายามนำเสนอความรู้ที่ใช้ได้จริงในปัจจุบันและอาศัยคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยผู้คนจากทุกเชื้อชาติ, ทุกเผ่าพันธุ์, และทุกภูมิหลังทางศาสนาให้รับมือกับปัญหาในปัจจุบัน.
ดิฉันอ่านตื่นเถิด! มาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยมีอะไรกระตุ้นใจดิฉันมากเท่ากับบทความชุด “ชีวิตยังมีค่า.” เมื่อปีที่แล้ว ดิฉันจมปลักอยู่กับความสิ้นหวังและดิฉันคิดอยากตาย. บทความนี้ให้คำรับรองกับดิฉันอีกครั้งว่าพระเจ้าทรงเข้าใจความอ่อนแอของเรา.
เอส. เอช., ญี่ปุ่น
ดิฉันรู้สึกหดหู่ใจมากเนื่องจากการโจมตีอาคารแฝดที่นิวยอร์ก. บางครั้งดิฉันเคยคิดจะฆ่าตัวตายแต่ไม่เคยยอมรับความจริงที่ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติในตัวดิฉัน. ดิฉันจะขอความช่วยเหลือที่จำเป็นและทำตามคำแนะนำที่ให้ไว้ในบทความนี้.
เอ็ม. เอ็ม., สหรัฐ
เนื่องจากดิฉันมีสุขภาพไม่ดี ดิฉันเคยคิดจะทำให้ทุกอย่างจบไปเสีย. ดิฉันเคยพูดถึงเรื่องนี้ บางครั้งก็พูดเล่น ๆ เพื่อจะสังเกตว่าคนอื่นมีปฏิกิริยาอย่างไร. ดิฉันน้ำตาไหลเมื่ออ่านว่าพระเจ้าทรงพร้อมจะฟังเราเสมอและที่ว่าพระองค์ทรงใฝ่พระทัยเรา. วารสารนี้ทำให้ทัศนะที่ดิฉันมีต่อชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง.
ที. อี. เจ., แคนาดา
ดิฉันรับมือกับโรคซึมเศร้ามาหลายปี และเมื่อไม่นานมานี้ดิฉันคิดอย่างจริงจังถึงเรื่องที่จะจบชีวิตตัวเอง. ขณะที่ดิฉันกำลังจะเดินออกประตูไป ดิฉันนึกขึ้นได้ว่าเรื่องสุดท้ายของบทความชุดในตื่นเถิด! บอกให้พูดกับใครสักคน. ดิฉันจึงบอกสามี. การชะลอเวลานั้นทำให้ดิฉันไม่ได้ดำเนินตามแผน. บทความชุดนี้ช่วยชีวิตดิฉันไว้!
เอ็ม. บี., สหรัฐ
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่วารสารนี้จะออกมา ดิฉันนั่งมองยานอนหลับที่มีอยู่เต็มถ้วยและเผชิญกับสภาพที่กระอักกระอ่วนใจเหมือนที่พรรณนาไว้ในบทความนี้ นั่นคือ “ควรจะกินมันหรือไม่?” วารสารของคุณช่วยให้ดิฉันมีความตั้งใจที่ดิฉันจำต้องมีเพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อไป. โรคบางอย่างส่งผลกระทบต่อจิตใจจนถึงขั้นที่ทำให้เราไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่นับว่าน่าซาบซึ้งใจที่เห็นว่าพระเจ้าทรงใฝ่พระทัยแม้แต่กับคนที่ดูเหมือนว่าหมดความหยั่งรู้ค่าในของประทานแห่งชีวิต.
อี. เอส., อิตาลี
ดิฉันสามารถนำข้อมูลในบทความเหล่านี้ไปให้แก่แพทย์ของดิฉัน. ดิฉันบอกเขาว่าบทความนี้ช่วยดิฉันมากเพียงไร. เพียงแค่ได้รับการรับรองอีกครั้งว่าดิฉันมีค่าสำหรับพระเจ้าก็ทำให้ดิฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป. ดิฉันมักจะอธิษฐานเสมอว่า ขอให้คุณเขียนบทความลักษณะนี้อีก!
เจ. เอส., สหรัฐ
ดิฉันคิดว่าไม่มีใครเข้าใจดิฉันเลย และดิฉันเริ่มคิดว่าการตายไปคงจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก. แต่บทความเหล่านี้ทำให้ดิฉันนึกถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต. ดิฉันจะไม่คิดเรื่องอยากตายอีกต่อไป!
เอ็ม. เอ็ม., ญี่ปุ่น
การอธิษฐาน ขอบคุณสำหรับบทความ “หนุ่มสาวถามว่า . . . การอธิษฐานช่วยฉันได้อย่างไร?” (8 สิงหาคม 2001) การได้อ่านว่าการอธิษฐานช่วยหนุ่มสาวหลายคนอย่างไรให้รับมือกับปัญหาของพวกเขากระตุ้นใจดิฉันให้เปิดใจกับพระยะโฮวามากขึ้น.
ดี. บี., อิตาลี