ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เอกภพและชีวิตเกิดขึ้นมาอย่างไร?

เอกภพและชีวิตเกิดขึ้นมาอย่างไร?

เอกภพ​และ​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร?

“วิทยาศาสตร์​ที่​ปราศจาก​ศาสนา​ก็​พิการ ศาสนา​ที่​ปราศจาก​วิทยาศาสตร์​ก็​ตา​บอด.”—อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์.

ยุค​นี้​เป็น​ยุค​แห่ง​ความ​ตื่น​ตะลึง​อย่าง​ที่​ไม่​เคย​มี​มา​ก่อน. การ​ค้น​พบ​ใหม่ ๆ ใน​อวกาศ​ทำ​ให้​นัก​ดาราศาสตร์​จำ​ต้อง​แก้ไข​ความ​คิด​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​เอกภพ. คน​มาก​มาย​รู้สึก​อัศจรรย์​ใจ​กับ​เอกภพ​ที่​เป็น​ระเบียบ และ​กำลัง​ตั้ง​คำ​ถาม​เก่า​แก่​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​เนื่อง​จาก​การ​ดำรง​อยู่​ของ​เรา​ใน​เอกภพ ที่​ว่า เอกภพ​และ​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร​และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

แม้​แต่​เมื่อ​มอง​ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง คือ​ใน​ตัว​ของ​เรา​เอง การ​ถอด​รหัส​พันธุกรรม​ของ​มนุษย์​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​ทำ​ให้​เกิด​คำ​ถาม​ว่า สิ่ง​มี​ชีวิต​มาก​มาย​มหาศาล​ถูก​สร้าง​ขึ้น​อย่าง​ไร? และ​ถ้า​มี​ผู้​สร้าง ผู้​นั้น​คือ​ใคร? ความ​ซับซ้อน​อย่าง​ยิ่งยวด​ของ​แบบ​พิมพ์​เขียว​ทาง​พันธุกรรม​ของ​เรา​กระตุ้น​ให้​ประธานาธิบดี​แห่ง​สหรัฐ​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “เรา​กำลัง​เรียน​ภาษา​ที่​พระเจ้า​ทรง​ใช้​ใน​การ​สร้าง​ชีวิต.” นัก​วิทยาศาสตร์​ชั้น​นำ​คน​หนึ่ง​ที่​ร่วม​ใน​การ​ถอด​รหัส​พันธุกรรม​ครั้ง​นี้​ก็​กล่าว​ด้วย​ความ​ถ่อม​ใจ​ว่า “เรา​เพิ่ง​ค้น​พบ​เพียง​ส่วน​น้อย​นิด​ของ​หนังสือ​คู่มือ​ชีวิต​เรา ซึ่ง​ก่อน​หน้า​นี้​มี​พระเจ้า​เท่า​นั้น​ที่​ทราบ.” แต่​คำ​ถาม​ยัง​คง​อยู่​ที่​ว่า ชีวิต​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร​และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

“หน้าต่าง​สอง​บาน”

นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​ยืน​ยัน​ว่า การ​ทำ​งาน​ของ​เอกภพ​สามารถ​อธิบาย​ได้​ด้วย​การ​วิเคราะห์​ตาม​หลัก​เหตุ​ผล ไม่​จำเป็น​ต้อง​อาศัย​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า. แต่​หลาย​คน ซึ่ง​รวม​ทั้ง​นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​ด้วย ไม่​สบาย​ใจ​กับ​ความ​คิด​แบบ​นี้. พวก​เขา​พยายาม​เข้าใจ​ความ​เป็น​จริง​โดย​มอง​ทั้ง​ด้าน​วิทยาศาสตร์​และ​ศาสนา. พวก​เขา​รู้สึก​ว่า​วิทยาศาสตร์​เพ่งเล็ง​เรื่อง​ที่​ว่า​ตัว​เรา​และ​เอกภพ​ของ​เรา​เกิด​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร ส่วน​ศาสนา​โดย​หลัก​แล้ว​เพ่งเล็ง​ที่​สาเหตุ.

เมื่อ​อธิบาย​แนว​คิด​สอง​อย่าง​ดัง​กล่าว นัก​ฟิสิกส์​ชื่อ ฟรีแมน ไดสัน กล่าว​ว่า “วิทยาศาสตร์​และ​ศาสนา​เป็น​เหมือน​หน้าต่าง​สอง​บาน ซึ่ง​ผู้​คน​มอง​ออก​มา​เพื่อ​พยายาม​จะ​เข้าใจ​เอกภพ​อัน​ใหญ่​โต​ที่​อยู่​ภาย​นอก.”

นัก​เขียน​ชื่อ​วิลเลียม รีส์-มอกก์ ให้​ความ​เห็น​ว่า “วิทยาศาสตร์​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สิ่ง​ที่​วัด​ได้ ศาสนา​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สิ่ง​ที่​วัด​ไม่​ได้.” เขา​กล่าว​ว่า “วิทยาศาสตร์​พิสูจน์​ไม่​ได้​ว่า​พระเจ้า​มี​จริง​และ​ก็​พิสูจน์​ไม่​ได้​ว่า​พระเจ้า​ไม่​มี​จริง เช่น​เดียว​กับ​ที่​วิทยาศาสตร์​ไม่​สามารถ​พิสูจน์​หรือ​หักล้าง​แนว​คิด​ด้าน​ศีลธรรม​หรือ​ด้าน​สุนทรียภาพ. ไม่​มี​เหตุ​ผล​ตาม​หลัก​วิทยาศาสตร์​ที่​ให้​รัก​เพื่อน​บ้าน​หรือ​นับถือ​ชีวิต​มนุษย์ . . . การ​โต้​แย้ง​ว่า​สิ่ง​ใด ๆ ซึ่ง​พิสูจน์​ไม่​ได้​ตาม​หลัก​วิทยาศาสตร์​ไม่​มี​อยู่​จริง​นั้น​เป็น​ความ​ผิด​พลาด​ที่​ร้ายแรง​ที่​สุด ซึ่ง​จะ​ลบ​ล้าง​แทบ​ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​ถือ​ว่า​มี​คุณค่า​ใน​ชีวิต ไม่​ใช่​แค่​พระเจ้า​หรือ​เชาวน์​ปัญญา​ของ​มนุษย์​เท่า​นั้น แต่​ยัง​รวม​ถึง​ความ​รัก, บท​กวี, และ​ดนตรี​อีก​ด้วย.”

“ศาสนา” แห่ง​วิทยาศาสตร์

บ่อย​ครั้ง​ดู​เหมือน​ว่า ทฤษฎี​ของ​นัก​วิทยาศาสตร์​พึ่ง​อาศัย​สมมุติฐาน​ที่​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ถึง​จะ​ยอม​รับ​ทฤษฎี​เหล่า​นั้น​ได้. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต นัก​วิวัฒนาการ​ส่วน​ใหญ่​ยึด​มั่น​กับ​แนว​คิด​ที่​อาศัย​ความ​เชื่อ​ใน “หลัก​คำ​สอน” บาง​อย่าง. ข้อ​เท็จ​จริง​ถูก​นำ​ไป​ปน​กับ​ทฤษฎี. และ​เมื่อ​นัก​วิทยาศาสตร์​ใช้​ความ​น่า​เชื่อถือ​ของ​ตัว​เอง​ยืน​ยัน​ความ​เชื่อ​ที่​ไม่​มี​เหตุ​ผล​ใน​วิวัฒนาการ ที่​จริง​แล้ว​พวก​เขา​ก็​กำลัง​บอก​ว่า ‘คุณ​ไม่​ต้อง​รับผิดชอบ​การ​กระทำ​ของ​คุณ​เอง เพราะ​คุณ​เป็น​เพียง​ผล​ผลิต​จาก​กระบวนการ​ทาง​ชีววิทยา, เคมี, และ​ฟิสิกส์.’ นัก​ชีววิทยา ริชาร์ด ดอว์กินส์ กล่าว​ว่า ใน​เอกภพ ‘ไม่​มี​การ​ออก​แบบ, ไม่​มี​จุด​มุ่ง​หมาย, ไม่​มี​ความ​ชั่ว​และ​ความ​ดี, ไม่​มี​อะไร​เลย​นอก​จาก​ความ​เย็นชา​ไร้​จุด​หมาย.’

เพื่อ​ยึด​มั่น​กับ​ความ​เชื่อ​เช่น​นั้น นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​จงใจ​มอง​ข้าม​การ​ค้นคว้า​วิจัย​อย่าง​ถี่ถ้วน​ของ​นัก​วิทยาศาสตร์​คน​อื่น ๆ ซึ่ง​ขัด​แย้ง​กับ​หลัก​พื้น​ฐาน​แห่ง​ทฤษฎี​ของ​พวก​เขา​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต. แม้​ว่า​เวลา​จะ​ผ่าน​ไป​หลาย​พัน​หลาย​หมื่น​ล้าน​ปี การ​อุบัติ​ขึ้น​โดย​บังเอิญ​ของ​โมเลกุล​ต่าง ๆ ที่​ซับซ้อน​ซึ่ง​จำเป็น​ต่อ​การ​ก่อ​ตัว​ขึ้น​เป็น​เซลล์​ที่​มี​ชีวิต​นั้น ได้​รับ​การ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ไม่​มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​ใน​ทาง​คณิตศาสตร์. * ด้วย​เหตุ​นี้ ทฤษฎี​ที่​พิสูจน์​ไม่​ได้​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต​ซึ่ง​ปรากฏ​อยู่​ใน​แบบ​เรียน​หลาย​เล่ม​จึง​ต้อง​ถือ​ว่า​ใช้​ไม่​ได้.

การ​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​ชีวิต​เกิด​จาก​ความ​บังเอิญ​ที่​ไร้​จุด​มุ่ง​หมาย​ต้อง​อาศัย​ความ​เชื่อ​ศรัทธา​มาก​กว่า​การ​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​ชีวิต​เกิด​จาก​การ​ทรง​สร้าง​เสีย​อีก. นัก​ดาราศาสตร์​ชื่อ​เดวิด บล็อก กล่าว​ว่า “คน​ที่​ไม่​เชื่อ​เรื่อง​พระ​ผู้​สร้าง​จะ​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ศรัทธา​มาก​กว่า​คน​ที่​เชื่อ. เมื่อ​ยืน​ยัน​ว่า​ไม่​มี​พระเจ้า คน​นั้น​ก็​พูด​เหมา​รวม​แบบ​ที่​ไม่​มี​หลักฐาน​สนับสนุน คือ​พูด​โดย​อาศัย​ความ​เชื่อ.”

การ​ค้น​พบ​ทาง​วิทยาศาสตร์​อาจ​ทำ​ให้​นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​รู้สึก​เกรง​ขาม. อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยอม​รับ​ว่า “ใน​ท่ามกลาง​ผู้​ที่​มี​จิตใจ​ฝักใฝ่​ทาง​วิทยาศาสตร์​อย่าง​ลึกซึ้ง คุณ​แทบ​จะ​ไม่​พบ​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​รู้สึก​ทาง​ศาสนา​ของ​เขา​เอง. . . . ความ​รู้สึก​ทาง​ศาสนา​แสดง​ให้​เห็น​จาก​ความ​อัศจรรย์​ใจ​ที่​มี​อย่าง​ท่วมท้น​เมื่อ​ได้​เห็น​ความ​สอดคล้อง​กัน​ของ​กฎ​ธรรมชาติ ซึ่ง​เผย​ถึง​เชาวน์​ปัญญา​ที่​ยอด​เยี่ยม​กว่า จน​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว ความ​คิด​และ​การ​กระทำ​ที่​เป็น​ระบบ​ทุก​อย่าง​ของ​มนุษย์​ดู​ด้อย​ไป​เลย​ที​เดียว.” กระนั้น ความ​รู้สึก​เกรง​ขาม​นี้​ก็​ไม่​ได้​ทำ​ให้​นัก​วิทยาศาสตร์​เชื่อ​ใน​พระ​ผู้​สร้าง​ที่​เป็น​บุคคล​เสมอ​ไป.

ข้อ​จำกัด​ของ​วิทยาศาสตร์

นับ​ว่า​เหมาะ​ที​เดียว​ที่​จะ​แสดง​ความ​นับถือ​อย่าง​สม​ควร​ต่อ​ความ​รู้​และ​ความ​สำเร็จ​ทาง​วิทยาศาสตร์. อย่าง​ไร​ก็​ตาม หลาย​คน​จะ​เห็น​พ้อง​ว่า ถึง​แม้​วิทยาศาสตร์​เป็น​วิธี​หนึ่ง​ใน​การ​เรียน​รู้ แต่​วิทยาศาสตร์​ไม่​ใช่​แหล่ง​ความ​รู้​เพียง​แหล่ง​เดียว. จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​วิทยาศาสตร์​คือ​ที่​จะ​อธิบาย​ปรากฏการณ์​ใน​โลก​ธรรมชาติ​และ​ช่วย​ใน​การ​หา​คำ​ตอบ​ว่า​ปรากฏการณ์​เหล่า​นั้น​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร.

วิทยาศาสตร์​ทำ​ให้​เรา​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​เอกภพ​ที่​เป็น​วัตถุ​ธาตุ ซึ่ง​หมาย​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​มอง​เห็น​ได้. แต่​ไม่​ว่า​การ​ค้นคว้า​ทาง​วิทยาศาสตร์​จะ​ก้าว​หน้า​ไป​ถึง​ขั้น​ไหน วิทยาศาสตร์​ก็​ไม่​สามารถ​ตอบ​คำ​ถาม​เกี่ยว​กับ​จุด​มุ่ง​หมาย​ได้​ที่​ว่า เหตุ​ใด​เอกภพ​จึง​เกิด​ขึ้น​ใน​ตอน​เริ่ม​แรก.

นัก​เขียน​ชื่อ​ทอม อัตลีย์ กล่าว​ว่า “มี​คำ​ถาม​บาง​ข้อ​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​ไม่​มี​วัน​ตอบ​ได้. เป็น​ไป​ได้​ที่ว่าการ​ระเบิด​ใหญ่ (บิกแบง) อาจ​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​หนึ่ง​หมื่น​สอง​พัน​ล้าน​ปี​ก่อน. แต่​ทำไม มัน​เกิด​ขึ้น? . . . อนุภาค​ต่าง ๆ เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร​ใน​ตอน​แรก? มี​อะไร​ก่อน​หน้า​นั้น?” อัตลีย์​ลง​ความ​เห็น​ว่า “ดู​เหมือน . . . เป็น​ที่​ชัดเจน​ยิ่ง​กว่า​ที่​แล้ว ๆ มา​ว่า วิทยาศาสตร์​จะ​ไม่​มี​วัน​สนอง​ความ​กระหาย​ใคร่​รู้​ของ​มนุษย์​ที่​จะ​ได้​คำ​ตอบ.”

ความ​รู้​ทาง​วิทยาศาสตร์​ที่​ได้​จาก​การ​สืบ​ค้น​เช่น​นั้น​ไม่​ได้​พิสูจน์​เลย​ว่า​ไม่​จำเป็น​ต้อง​มี​พระเจ้า แต่​เป็น​เพียง​ข้อ​ยืน​ยัน​ว่า​โลก​ที่​เรา​อยู่​นี้​สลับ​ซับซ้อน, ละเอียด​ประณีต, และ​น่า​เกรง​ขาม​มาก​สัก​เพียง​ไร. คน​ช่าง​คิด​หลาย​คน​พบ​ว่า​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ลง​ความ​เห็น​ว่า​กฎ​ทาง​กายภาพ​และ​ปฏิกิริยา​เคมี​ต่าง ๆ รวม​ทั้ง​ดีเอ็นเอ​และ​ความ​หลาก​หลาย​อัน​น่า​ทึ่ง​ของ​ชีวิต​ล้วน​ชี้​ว่า​ต้อง​มี​พระ​ผู้​สร้าง. ไม่​มี​ข้อ​พิสูจน์​อัน​หนักแน่น​ใด ๆ จะ​หักล้าง​เรื่อง​นี้​ได้.

“ความ​เชื่อ​มี​ความ​จริง​อยู่”

ถ้า​มี​ผู้​สร้าง​เอกภพ เรา​ไม่​อาจ​คาด​หมาย​ได้​ว่า​จะ​รู้​จัก​พระองค์​หรือ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​โดย​การ​ใช้​กล้อง​โทรทรรศน์, กล้อง​จุลทรรศน์, หรือ​เครื่อง​มือ​อื่น​ใด​ทาง​วิทยาศาสตร์. ลอง​คิด​ถึง​ช่าง​ทำ​เครื่อง​ปั้น​ดิน​เผา​กับ​ภาชนะ​ที่​เขา​ได้​ปั้น. ไม่​ว่า​จะ​วิเคราะห์​ภาชนะ​นั้น​มาก​เท่า​ไร​เรา​ก็​ไม่​มี​ทาง​ทราบ​ว่า​มัน​ถูก​ทำ​ขึ้น​มา​เพื่อ​อะไร. เพื่อ​จะ​ทราบ​เรื่อง​นี้​เรา​ต้อง​ถาม​ผู้​ที่​เป็น​ช่าง​ปั้น.

นัก​ชีววิทยา​โมเลกุล​ชื่อ​ฟรานซิส คอลลินส์ อธิบาย​ว่า ความ​เชื่อ​และ​ความ​ศรัทธา​ทาง​ศาสนา​อาจ​ช่วย​เติม​ความ​ว่าง​เปล่า​ที่​วิทยาศาสตร์​ละ​เอา​ไว้. เขา​กล่าว​ว่า “ผม​ไม่​คาด​หมาย​ว่า​ศาสนา​เป็น​เครื่อง​มือ​ที่​เหมาะ​สำหรับ​การ​ถอด​รหัส​จีโนม​มนุษย์ และ​ใน​ทำนอง​เดียว​กัน ผม​ก็​ไม่​คาด​ว่า​จะ​ใช้​วิทยาศาสตร์​ใน​การ​ค้น​หา​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​เหนือ​ธรรมชาติ. แต่​สำหรับ​คำ​ถาม​ที่​สำคัญ​กว่า​ซึ่ง​น่า​สนใจ​อย่าง​แท้​จริง เช่น ‘ทำไม​เรา​มา​อยู่​ที่​นี่?’ หรือ ‘ทำไม​มนุษย์​จึง​ต้องการ​ศาสนา?’ ผม​พบ​ว่า​วิทยาศาสตร์​ไม่​สามารถ​ให้​คำ​ตอบ​ที่​จุ​ใจ​ได้. การ​เชื่อ​โชค​ลาง​หลาย​อย่าง​มี​อยู่​แล้ว​ก็​ค่อย ๆ สูญ​หาย​ไป. แต่​ความ​เชื่อ​ไม่​สูญ​หาย​ไป ซึ่ง​บ่ง​ชี้​ว่า​ความ​เชื่อ​มี​ความ​จริง​อยู่.”

อธิบาย​เหตุ​ผล

ศาสนา​แท้​ไม่​เพียง​ตอบ​คำ​ถาม​ว่า​ทำไม​และ​อธิบาย​ความ​หมาย​ของ​ชีวิต แต่​ยัง​เสนอ​มาตรฐาน​สำหรับ​ค่า​นิยม, ศีลธรรม, และ​จริยธรรม​รวม​ทั้ง​คำ​ชี้​นำ​สำหรับ​ชีวิต​ด้วย. นัก​วิทยาศาสตร์​ชื่อ​แอลลัน แซนเดจ กล่าว​อย่าง​นี้ “เพื่อ​จะ​รู้​ว่า​ควร​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​ไร​ผม​คง​ไม่​ศึกษา​ตำรา​ชีววิทยา.”

หลาย​ล้าน​คน​ทั่ว​โลก​คิด​ว่า​พวก​เขา​รู้​แล้ว​ว่า​จะ​เรียน​รู้​วิธี​ดำเนิน​ชีวิต​ได้​จาก​ที่​ไหน. นอก​จาก​นั้น พวก​เขา​คิด​ว่า​ได้​พบ​คำ​ตอบ​ที่​จุ​ใจ​จริง ๆ สำหรับ​คำ​ถาม​ที่​ว่า ทำไม​เรา​มา​อยู่​ที่​นี่? และ​เรา​จะ​มุ่ง​ไป​ที่​ไหน? คำ​ตอบ​มี​อยู่. แต่​ที่​ไหน​ล่ะ? ก็​ใน​หนังสือ​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​เก่า​แก่​ที่​สุด​และ​มี​อยู่​แพร่​หลาย​ที่​สุด นั่น​คือ​คัมภีร์​ไบเบิล.

คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ว่า พระเจ้า​ทรง​จัด​เตรียม​แผ่นดิน​โลก​โดย​คำนึง​ถึง​มนุษย์​เป็น​พิเศษ. ยะซายา 45:18 กล่าว​ถึง​แผ่นดิน​โลก​ว่า “พระเจ้า . . . สร้าง​โลก​ไว้​มิ​ใช่​ให้​สับสน​อลหม่าน, แต่​เพื่อ​ให้​เป็น​ที่​อาศัย.” และ​พระองค์​ทรง​เตรียม​แผ่นดิน​โลก​ให้​มี​ทุก​สิ่ง​ที่​มนุษย์​จำ​ต้อง​มี ไม่​เพียง​แค่​พอ​อยู่​ได้ แต่​ให้​เพลิดเพลิน​กับ​ชีวิต​อย่าง​เต็ม​ที่.

มนุษย์​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​ผู้​ดู​แล​รักษา​แผ่นดิน​โลก “ทำ​งาน​รักษา​สวน.” (เยเนซิศ 2:15) นอก​จาก​นั้น คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​อธิบาย​ว่า​ความ​รู้​และ​สติ​ปัญญา​เป็น​ของ​ประทาน​จาก​พระเจ้า​และ​บอก​ว่า​เรา​ควร​แสดง​ความ​รัก​และ​ความ​ยุติธรรม​ต่อ​กัน​และ​กัน. (โยบ 28:20, 25, 27; ดานิเอล 2:20-23) ด้วย​เหตุ​นี้ มนุษย์​จะ​พบ​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​ชีวิต​ได้​ก็​ต่อ​เมื่อ​พวก​เขา​ค้น​พบ​และ​ยึด​มั่น​ใน​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​มุ่ง​หมาย​ไว้​สำหรับ​พวก​เขา. *

คน​ช่าง​คิด​ใน​สมัย​นี้​ประสาน​ความ​ไม่​ลง​รอย​กัน​ที่​ดู​เหมือน​ว่า​มี​อยู่​ระหว่าง​เหตุ​ผล​ตาม​หลัก​วิทยาศาสตร์​กับ​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​ได้​อย่าง​ไร? หลักการ​ซึ่ง​ให้​การ​ชี้​นำ​อะไร​บ้าง​ที่​อาจ​ช่วย​คน​เรา​ให้​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้?

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 11 ดู​หนังสือ​พระ​ผู้​สร้าง​ผู้​ใฝ่​พระทัย​ใน​ตัว​คุณ​มี​ไหม? บท 3 “อะไร​คือ​ต้น​กำเนิด​ของ​ชีวิต?” จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

^ วรรค 26 สำหรับ​การ​พิจารณา​โดย​ละเอียด ดู​จุลสาร​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​ชีวิต​คือ​อะไร? คุณ​จะ​พบ​ได้​อย่าง​ไร? จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 7]

สิ่ง​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​กล่าว

บาง​คน​คิด​ว่า นัก​วิทยาศาสตร์​ส่วน​ใหญ่​หลีก​เลี่ยง​ประเด็น​เรื่อง​ทาง​ศาสนา​และ​เทววิทยา​เพราะ​พวก​เขา​ไม่​สนใจ​เรื่อง​ศาสนา​หรือ​ไม่​ต้องการ​เข้า​ไป​ยุ่ง​เกี่ยว​กับ​การ​ถกเถียง​กัน​ระหว่าง​วิทยาศาสตร์​กับ​ศาสนา. นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​เป็น​อย่าง​นั้น แต่​ไม่​ใช่​ทุก​คน. ขอ​สังเกต​สิ่ง​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​กล่าว.

“เอกภพ​มี​จุด​เริ่ม​ต้น แต่​ที่​นัก​วิทยาศาสตร์​อธิบาย​ไม่​ได้​คือ เพราะ​เหตุ​ใด. คำ​ตอบ​คือ​พระเจ้า.” “ผม​มอง​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หนังสือ​แห่ง​ความ​จริง​และ​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า. ต้อง​มี​เชาวน์​ปัญญา​อยู่​เบื้อง​หลัง​ความ​สลับ​ซับซ้อน​ของ​ชีวิต.”—เคน ทานากะ นัก​ธรณี​วิทยา​ดาว​เคราะห์​แห่ง​สำนัก​สำรวจ​ทาง​ธรณี​วิทยา​สหรัฐ.

“ช่อง​ว่าง​ระหว่าง​ความ​รู้​ชนิด​ต่าง ๆ (ทาง​วิทยาศาสตร์​และ​ศาสนา) เป็น​เพียง​สิ่ง​ที่​คิด​กัน​ขึ้น. . . . ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​ผู้​สร้าง​และ​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​เกี่ยว​ข้อง​กัน​อย่าง​ใกล้​ชิด.”—เอนริเก เออร์นานเดส นัก​วิจัย​และ​อาจารย์​ภาค​วิชา​ฟิสิกส์​และ​เคมี​ทฤษฎี ประจำ​มหาวิทยาลัย​อิสระ​แห่ง​เม็กซิโก.

“ขณะ​ที่​เรา​พัฒนา​ความ​รู้ [เกี่ยว​กับ​จีโนม​มนุษย์] ความ​รู้​นั้น​จะ​เผย​ถึง​ความ​ซับซ้อน​และ​ความ​เกี่ยว​โยง​กัน​ของ​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้. ความ​รู้​นั้น​จะ​บ่ง​ชี้​ว่า​ต้น​กำเนิด​คือ​พระ​ผู้​สร้าง​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา หรือ​พลัง​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา.”—ดเวน ที. กิช นัก​ชีวเคมี.

“ไม่​มี​ความ​ขัด​แย้ง​กัน​ระหว่าง​วิทยาศาสตร์​กับ​ศาสนา. ทั้ง​สอง​แสวง​หา​ความ​จริง​เรื่อง​เดียว​กัน. วิทยาศาสตร์​แสดง​ว่า​พระเจ้า​มี​จริง.”—ดี. เอช. อาร์. บาร์ตัน อาจารย์​เคมี เทกซัส.

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

NASA/U.S. Geological Survey

Photo: www.comstock.com

NASA and The Hubble Heritage Team (STScI/AURA)

[ภาพ​หน้า 5]

การ​ค้นคว้า​ทาง​วิทยาศาสตร์​จะ​ตอบ​ได้​ไหม​ว่า ทำไม​เรา​มา​อยู่​ที่​นี่?

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Courtesy Arecibo Observatory/David Parker/Science Photo Library

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 6]

Stars on pages 2, 3, 5, and top of page 7: National Optical Astronomy Observatories