ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ความเชื่อถูกทดสอบในยุโรปสมัยนาซี

ความเชื่อถูกทดสอบในยุโรปสมัยนาซี

ความ​เชื่อ​ถูก​ทดสอบ​ใน​ยุโรป​สมัย​นาซี

เล่า​โดย​อันตัน เลโตนยา

วัน​ที่ 12 มีนาคม 1938 กองทัพ​ของ​ฮิตเลอร์​บุก​ข้าม​พรม​แดน​เข้า​มา​ใน​ออสเตรีย. สถานี​วิทยุ​เปิด​เพลง​ปลุกใจ​และ​คำ​ขวัญ​ทาง​การ​เมือง​ออก​อากาศ​เสียง​ดัง​สนั่น. คลื่น​แห่ง​ความ​รัก​ชาติ​โถม​กระหน่ำ​ออสเตรีย​บ้าน​เกิด​ของ​ผม.

หลัง​จาก​ฮิตเลอร์​ยึด​อำนาจ​ได้ ผู้​คน​ใน​ออสเตรีย​ต่าง​ก็​รู้สึก​ยินดี. หลาย​คน​หวัง​ว่า “จักรวรรดิ​ไรช์​พัน​ปี” ของ​ฮิตเลอร์​จะ​ทำ​ให้​ความ​ยาก​จน​และ​การ​ตก​งาน​หมด​สิ้น​ไป. แม้​แต่​พวก​บาทหลวง​คาทอลิก​ก็​เข้า​ร่วม​กับ​ความ​คลั่ง​ใน​ลัทธิ​ชาติ​นิยม​ซึ่ง​ครอบ​งำ​ประเทศ​อยู่ และ​แสดง​ความ​เคารพ​แบบ​ฮิตเลอร์.

แม้​ตอน​นั้น​ผม​เป็น​เด็ก​หนุ่ม​อายุ​แค่ 19 ปี แต่​ผม​ก็​ไม่​ได้​หลง​ไป​กับ​คำ​สัญญา​ของ​ฮิตเลอร์. ผม​ไม่​เชื่อ​ว่า​รัฐบาล​ใด ๆ ของ​มนุษย์​จะ​แก้​ปัญหา​ของ​มนุษยชาติ​ได้.

เรียน​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล

ผม​เกิด​เมื่อ​วัน​ที่ 19 เมษายน 1919 ที่​เมือง​โดนาวิตซ์ ประเทศ​ออสเตรีย เป็น​ลูก​คน​ที่​สาม​ซึ่ง​เป็น​คน​สุด​ท้อง​ใน​ครอบครัว. พ่อ​เป็น​คน​งาน​เหมือง​ถ่าน​หิน​ที่​ทำ​งาน​หนัก. ใน​ปี 1923 พ่อ​พา​ครอบครัว​เรา​ย้าย​ไป​ฝรั่งเศส และ​ท่าน​ได้​งาน​ใน​เมือง​ทำ​เหมือง​ที่​ชื่อ​ลีเอแวง. แนว​ความ​คิด​ทาง​การ​เมือง​ของ​พ่อ​ทำ​ให้​พ่อ​ไม่​ไว้​วางใจ​ศาสนา แต่​แม่​เป็น​ชาว​คาทอลิก​ที่​เคร่งครัด. แม่​อบรม​ลูก ๆ ให้​เชื่อ​ใน​พระเจ้า และ​ท่าน​อธิษฐาน​กับ​พวก​เรา​ทุก​คืน. ต่อ​มา พ่อ​ไม่​ไว้​ใจ​ศาสนา​มาก​ขึ้น​จน​ถึง​กับ​ห้าม​แม่​ไป​โบสถ์.

ใน​ช่วง​ปลาย​ทศวรรษ​ปี 1920 เรา​ได้​พบ​กับ​ชาย​หนุ่ม​เชื้อ​สาย​ยูโกสลาฟ​ชื่อ วินเซนซ์ พลาไตส์ หรือ​ที่​เรา​เรียก​ว่า​วิงโก. เขา​ติด​ต่อ​กับ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​ที่​รู้​จัก​กัน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​สมัย​นั้น. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​คน​หนึ่ง​เริ่ม​มา​เยี่ยม​ครอบครัว​ของ​เรา. เนื่อง​จาก​พ่อ​ห้าม​แม่​ไป​โบสถ์ แม่​จึง​ถาม​วิงโก​ว่า​จะ​นมัสการ​พระเจ้า​ที่​บ้าน​ได้​ไหม. วิงโก​ชี้​ให้​ดู​ที่​พระ​ธรรม​กิจการ 17:24 ที่​บอก​ว่า พระเจ้า “มิ​ได้​ทรง​สถิต​อยู่​ใน​โบสถ์​ซึ่ง​มือ​มนุษย์​ได้​กระทำ​ไว้” แล้ว​อธิบาย​ว่า บ้าน​เป็น​สถาน​ที่​หนึ่ง​ที่​เหมาะ​สม​ใน​การ​นมัสการ​พระองค์. แม่​พอ​ใจ​ใน​คำ​ตอบ​และ​เริ่ม​เข้า​ร่วม​ประชุม​ใน​บ้าน​ของ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์.

พ่อ​สั่ง​ให้​แม่​เลิก​ทำ​สิ่ง​ที่​พ่อ​เรียก​ว่า​เป็น​เรื่อง​โง่​เขลา​นั้น. เพื่อ​กีด​กัน​ไม่​ให้​เรา​คบหา​กับ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ พ่อ​ยืนกราน​ให้​เรา​ทุก​คน​เข้า​ร่วม​พิธี​มิสซา​ใน​วัน​อาทิตย์! เนื่อง​จาก​แม่​ไม่​ยอม​ไป​อย่าง​เด็ดขาด พ่อ​จึง​ตั้งใจ​จะ​ให้​ผม​เป็น​เด็ก​ช่วย​งาน​ด้าน​พิธีกรรม​ใน​โบสถ์. แม้​ว่า​ยอม​ให้​กับ​ความ​ต้องการ​ของ​พ่อ​ใน​เรื่อง​นี้ แต่​แม่​ก็​ยัง​คง​ปลูกฝัง​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไว้​ใน​หัวใจ​และ​จิตใจ​ของ​ผม​ต่อ ๆ ไป และ​พา​ผม​ไป​ประชุม​กับ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ด้วย.

ใน​ปี 1928 วิงโก​กับ​พี่​สาว​ของ​ผม โยเซฟีนา หรือ​ที่​เรา​เรียก​กัน​ว่า เปปี ได้​แสดง​สัญลักษณ์​แห่ง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​โดย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ. หลัง​จาก​นั้น​ทั้ง​สอง​ก็​แต่งงาน​กัน. ปี​ถัด​มา​ทั้ง​สอง​ได้​ลูก​สาว​คน​หนึ่ง​ชื่อ ฟีนี ซึ่ง​เกิด​ที่​เมือง​ลีเอแวง. สาม​ปี​ต่อ​มา ทั้ง​สอง​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ใน​ประเทศ​ยูโกสลาเวีย ซึ่ง​งาน​ของ​พยาน​ฯ ยัง​ถูก​จำกัด​อยู่. แม้​ว่า​มี​ความ​ลำบาก​หลาย​อย่าง แต่​ความ​ยินดี​และ​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ที่​ทั้ง​สอง​มี​ต่อ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ลด​น้อย​ลง. ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ของ​ทั้ง​สอง​ปลูกฝัง​ให้​ผม​ต้องการ​เป็น​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา​ด้วย.

ความ​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ

น่า​เศร้า ความ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​พ่อ​กับ​แม่​ทำ​ให้​ท่าน​หย่า​กัน​ใน​ปี 1932. ผม​กับ​แม่​กลับ​ไป​ออสเตรีย ส่วน​วิลเฮล์ม (วิลลี) พี่​ชาย​ของ​ผม​ยัง​อยู่​ใน​ฝรั่งเศส​ต่อ​ไป. หลัง​จาก​นั้น ผม​ก็​แทบ​ไม่​ได้​ติด​ต่อ​กับ​พ่อ​เลย. พ่อ​ยัง​คง​ต่อ​ต้าน​เรา​จน​ถึง​วัน​ที่​ท่าน​เสีย​ชีวิต.

ผม​กับ​แม่​ลง​หลัก​ปัก​ฐาน​ที่​หมู่​บ้าน​กัมลิตซ์​ใน​ออสเตรีย. แม่​พิจารณา​สรรพหนังสือ​ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก​กับ​ผม​เป็น​ประจำ เนื่อง​จาก​ไม่​มี​ประชาคม​อยู่​ใกล้ ๆ. น่า​ดีใจ​ที่ เอดูอาร์ด โวฮินซ์ ปั่น​จักรยาน​จาก​เมือง​กราซ​มา​ที่​บ้าน​เรา​เดือน​ละ​สอง​ครั้ง​เพื่อ​หนุน​กำลังใจ​เรา​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ โดย​เขา​ต้อง​ปั่น​จักรยาน​เที่ยว​ละ​เกือบ 100 กิโลเมตร!

ณ ตอน​เริ่ม​ต้น​แห่ง​การ​ปกครอง​อัน​น่า​หวาด​กลัว​ของ​ฮิตเลอร์​ใน​ปี 1938 บราเดอร์​โวฮินซ์​ถูก​จับ. เรา​เศร้า​โศก​มาก​เมื่อ​รู้​ว่า​เขา​ถูก​ประหาร​ใน​ห้อง​แก๊ส​พิษ​ที่​สถาบัน​การุณยฆาต​แห่ง​เมือง​ลินซ์. ความ​เชื่อ​ที่​โดด​เด่น​ของ​เขา​เสริม​กำลัง​เรา​ให้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ต่อ​ไป​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์.

1938—ปี​ที่​ส่อ​เหตุ​ร้าย

งาน​ของ​พยาน​ฯ ถูก​สั่ง​ห้าม​ใน​ออสเตรีย​ตั้ง​แต่​ปี 1935. เมื่อ​กองทัพ​ของ​ฮิตเลอร์​บุก​เข้า​มา​ใน​ออสเตรีย​ปี 1938 งาน​รับใช้​ของ​เรา​ก็​เสี่ยง​อันตราย​มาก. เพื่อน​บ้าน​รู้​ว่า​แม่​กับ​ผม​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา เรา​จึง​ตัดสิน​ใจ​ที่​จะ​เก็บ​ตัว​อยู่​เงียบ ๆ. ผม​ถึง​กับ​เริ่ม​ไป​อยู่​ที่​โรง​นา​ใน​ตอน​กลางคืน เพื่อ​พวก​นาซี​จะ​จับ​ตัว​ผม​ได้​ยาก​ขึ้น.

เมื่อ​ถึง​ต้น​ปี 1938 ผม​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ขั้น​พื้น​ฐาน​และ​เริ่ม​ทำ​งาน​ที่​ร้าน​ขนมปัง. เนื่อง​จาก​ผม​ไม่​ยอม​พูด​คำ​ว่า “ไฮล์ ฮิตเลอร์” และ​ไม่​ยอม​เป็น​สมาชิก​ของ​องค์กร​ยุวชน​ฮิตเลอร์ ผม​จึง​ถูก​ไล่​ออก​จาก​งาน. กระนั้น ผม​ตั้งใจ​แน่วแน่​ยิ่ง​กว่า​แต่​ก่อน​ที่​จะ​แสดง​สัญลักษณ์​แห่ง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​โดย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ.

ผม​กับ​แม่​รับ​บัพติสมา​ใน​วัน​ที่ 8 เมษายน 1938. คืน​วัน​หนึ่ง เรา​กับ​คน​อื่น ๆ อีก​เจ็ด​คน​มา​ชุมนุม​กัน​ที่​กระท่อม​ใน​ป่า​ซึ่ง​อยู่​ไกล​ตา​ผู้​คน. หลัง​จาก​คำ​บรรยาย​บัพติสมา เรา​เดิน​ตาม​ทาง​แคบ ๆ ไป​ยัง​โรง​ซัก​รีด​ที​ละ​คน โดย​เว้น​ระยะ​ทุก ๆ สิบ​นาที. เรา​รับ​บัพติสมา​ที่​นั่น​ใน​อ่าง​คอนกรีต.

ใน​วัน​ที่ 10 เมษายน 1938 มี​การ​จัด​การ​ลง​คะแนน​เสียง​แบบ​หลอก ๆ ใน​ประเด็น​เรื่อง​การ​ผนวก​ออสเตรีย​เข้า​กับ​เยอรมนี. คำ​เชิญ​ชวน​ให้ “สนับสนุน​ฮิตเลอร์!” ปรากฏ​อยู่​บน​แผ่น​โปสเตอร์​ทั่ว​ประเทศ. ผม​กับ​แม่​ไม่​ถูก​บังคับ​ให้​ลง​คะแนน​เสียง เนื่อง​จาก​เรา​เป็น​บุคคล​ไร้​สัญชาติ เพราะ​เรา​ไป​อยู่​ฝรั่งเศส​นาน​หลาย​ปี ซึ่ง​เป็น​สถานภาพ​ที่​ได้​ช่วย​ชีวิต​ผม​ใน​เวลา​ต่อ​มา. ฟรานซ์ กานสเตอร์ จาก​เมือง​คลาเกนเฟิร์ต​ที่​อยู่​ทาง​ใต้​ของ​ออสเตรีย นำ​หอสังเกตการณ์ มา​ให้​เรา​เป็น​ประจำ. ด้วย​เหตุ​นี้ เรา​จึง​ได้​รับ​กำลัง​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ก่อน​ที่​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 จะ​เริ่ม​สู้​รบ​กัน​อย่าง​ดุเดือด.

วิลลี พี่​ชาย​ของ​ผม

วิลลี​ซึ่ง​อายุ​มาก​กว่า​ผม​สี่​ปี ไม่​ได้​ติด​ต่อ​ผม​กับ​แม่​ตั้ง​แต่​เรา​ย้าย​ออก​จาก​ฝรั่งเศส​เก้า​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น. แม้​ว่า​แม่​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เขา​ตอน​เป็น​วัยรุ่น แต่​เขา​ก็​ถูก​หลอก​จน​เชื่อ​ว่า​นโยบาย​ทาง​การ​เมือง​ของ​ฮิตเลอร์​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ที่​จะ​นำ​ไป​สู่​อนาคต​อัน​รุ่ง​โรจน์. ใน​เดือน​พฤษภาคม 1940 ศาล​ฝรั่งเศส​ตัดสิน​จำ​คุก​วิลลี​เป็น​เวลา​สอง​ปี​เนื่อง​จาก​กิจกรรม​ที่​ผิด​กฎหมาย​ของ​เขา​ใน​ฐานะ​เป็น​พวก​นาซี. แต่​ไม่​นาน​เขา​ก็​ถูก​ปล่อย​ตัว เมื่อ​กองทัพ​เยอรมัน​บุก​ฝรั่งเศส. ใน​ตอน​นั้น​เอง เขา​ได้​ส่ง​ไปรษณียบัตร​จาก​กรุง​ปารีส​มา​ให้​เรา. เรา​ดีใจ​ที่​รู้​ว่า​เขา​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​แต่​ก็​ตกใจ​ที่​รู้​ว่า​เขา​กลาย​เป็น​พวก​นาซี​ไป​แล้ว!

ใน​ช่วง​สงคราม วิลลี​สามารถ​มา​เยี่ยม​เรา​ได้​บ่อย ๆ เนื่อง​จาก​เขา​มี​ความ​สัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​พวก​เอส​เอส (ชูตซ์สตัฟเฟิล กอง​รักษา​การณ์​ชั้น​ยอด​ของ​ฮิตเลอร์). เขา​ประทับใจ​มาก​ใน​ความ​สำเร็จ​ทาง​การ​ทหาร​ของ​ฮิตเลอร์. แทบ​ทุก​ครั้ง​ที่​ผม​พยายาม​ดึง​ความ​สนใจ​ของ​เขา​ไป​ยัง​ความ​หวัง​ของ​เรา​ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก เขา​จะ​ตัดบท​โดย​บอก​ว่า “เหลวไหล! ดู​สงคราม​แบบ​สาย​ฟ้า​แลบ​ของ​ท่าน​ฮิตเลอร์​สิ. อีก​ไม่​นาน​คน​เยอรมัน​จะ​ครอง​โลก​แล้ว!”

ครั้ง​หนึ่ง​เมื่อ​วิลลี​มา​เยี่ยม​บ้าน​ใน​เดือน​กุมภาพันธ์ 1942 ผม​ให้​หนังสือ​ศัตรู แก่​เขา ซึ่ง​จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ผม​แปลก​ใจ​มาก​ที่​เขา​อ่าน​หนังสือ​เล่ม​นั้น​รวด​เดียว​จบ. หนังสือ​นั้น​เริ่ม​ทำ​ให้​เขา​ตระหนัก​ว่า​ระบอบ​การ​ปกครอง​ของ​ฮิตเลอร์​จะ​พ่าย​แพ้​อย่าง​แน่นอน. เขา​เคย​สนับสนุน​ระบบ​ที่​โหด​ร้าย​และ​ตั้งใจ​จะ​แก้ไข​ความ​ผิด​พลาด​ของ​เขา​โดย​ไม่​รอ​ช้า.

วิลลี​ยืนหยัด​อยู่​ฝ่าย​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล

เมื่อ​วิลลี​มา​เยี่ยม​เรา​ใน​เดือน​ถัด​มา เขา​เปลี่ยน​ไป​เป็น​คน​ละ​คน. เขา​บอก​ว่า “อันตัน พี่​เดิน​ผิด​ทาง​มา​ตลอด!”

ผม​บอก​ว่า “วิลลี พี่​รู้​ตัว​สาย​ไป​หน่อย​แล้ว.”

เขา​ตอบ​ว่า “ไม่​สาย​หรอก! คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า ‘เจ้า​ควร​ทำ​สิ่ง​ที่​เจ้า​จะ​ต้อง​ทำ​ตราบ​ใด​ที่​เจ้า​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่’ และ​ต้อง​ขอบคุณ​พระเจ้า​ที่​พี่​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่!”—ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:​10.

ผม​ถาม​ว่า “แล้ว​พี่​ตั้งใจ​จะ​ทำ​อะไร​แน่?”

เขา​ตอบ​ว่า “พี่​ตั้งใจ​จะ​เลิก​เป็น​ทหาร. พี่​จะ​ตัด​ขาด​จาก​พวก​นาซี​และ​ดู​ซิ​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น.”

เขา​รีบ​เดิน​ทาง​ไป​เมือง​ซาเกร็บ​ประเทศ​ยูโกสลาเวีย​ทันที เพื่อ​ไป​เยี่ยม​เปปี พี่​สาว​ของ​เรา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. หลัง​จาก​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พยาน​ฯ ที่​ถูก​สั่ง​ห้าม​ที่​นั่น​ระยะ​หนึ่ง เขา​ก็​รับ​บัพติสมา​อย่าง​ลับ ๆ. ใน​ที่​สุด บุตร​ที่​สุรุ่ยสุร่าย​ก็​กลับ​มา!—ลูกา 15:11-24.

เพื่อ​หนี​จาก​พวก​นาซี​ใน​ฝรั่งเศส วิลลี​พยายาม​ข้าม​พรม​แดน​ไป​ยัง​สวิตเซอร์แลนด์. อย่าง​ไร​ก็​ตาม สารวัตร​ทหาร​เยอรมัน​จับ​เขา​ได้. เขา​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ขึ้น​ศาล​อาญา​ศึก​ใน​กรุง​เบอร์ลิน และ​ใน​วัน​ที่ 27 กรกฎาคม 1942 เขา​ถูก​ตัดสิน​ประหาร​ชีวิต​โทษ​ฐาน​ละ​ทิ้ง​การ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่. ผม​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​เยี่ยม​เขา​ใน​เรือน​จำ​ทหาร​ที่​เบอร์ลิน-เทเกิล. ผม​ถูก​พา​ไป​ที่​ห้อง​เล็ก ๆ และ​ไม่​นาน​วิลลี​ก็​เข้า​มา​ใน​ห้อง โดย​มี​โซ่​ล่าม​ติด​กับ​ยาม​คน​หนึ่ง. เมื่อ​เห็น​เขา​อยู่​ใน​สภาพ​นั้น​ผม​ก็​น้ำตา​คลอ. เรา​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​สวมกอด​กัน​และ​มี​เวลา​แค่ 20 นาที​ที่​จะ​กล่าว​คำ​อำลา.

วิลลี​เห็น​น้ำตา​ของ​ผม​และ​พูด​ว่า “อันตัน นาย​ร้องไห้​ทำไม? นาย​น่า​จะ​ดีใจ​สิ! พี่​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ ที่​ทรง​ช่วย​ให้​พี่​พบ​ความ​จริง​อีก​ครั้ง! ถ้า​พี่​ตาย​เพื่อ​ฮิตเลอร์ พี่​ก็​ไม่​มี​ความ​หวัง​อะไร. แต่​ถ้า​พี่​ตาย​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา พี่​ก็​แน่​ใจ​ว่า​จะ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย แล้ว​เรา​จะ​พบ​กัน​อีก!”

ใน​จดหมาย​อำลา​ฉบับ​สุด​ท้าย​ที่​วิลลี​เขียน​ถึง​เรา เขา​กล่าว​ว่า “พระเจ้า​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ยิ่ง​ของ​พวก​เรา พระเจ้า​ที่​ผม​รับใช้ ทรง​ประทาน​ทุก​สิ่ง​ที่​จำเป็น​แก่​ผม​และ​จะ​ทรง​ค้ำจุน​ผม​จน​ถึง​ที่​สุด​อย่าง​แน่นอน เพื่อ​ผม​จะ​อด​ทน​ได้​และ​มี​ชัย​ชนะ. ผม​ขอ​ย้ำ ขอ​จง​มั่น​ใจ​ว่า​ผม​ไม่​เสียใจ​เลย​และ​ผม​ได้​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​เพื่อ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า!”

วิลลี​ถูก​ประหาร​ใน​ทัณฑสถาน​บรันเดนบูร์ก ใกล้​กรุง​เบอร์ลิน ใน​วัน​ต่อ​มา​คือ​วัน​ที่ 2 กันยายน 1942. เขา​มี​อายุ 27 ปี. แบบ​อย่าง​ของ​เขา​แสดง​ถึง​ความ​จริง​แห่ง​ถ้อย​คำ​ที่​ฟิลิปปอย 4:13 (ล.ม.) ที่​ว่า “ข้าพเจ้า​มี​กำลัง​สำหรับ​ทุก​สิ่ง​โดย​พระองค์​ผู้​ทรง​ประทาน​พลัง​ให้​ข้าพเจ้า.”

วิงโก​ซื่อ​สัตย์​จน​สิ้น​ชีวิต

กองทัพ​เยอรมัน​รุก​เข้า​ไป​ใน​ยูโกสลาเวีย​ใน​ปี 1941 และ​ทำ​ให้​เปปี​กับ​วิงโก สามี​ของ​เธอ และ​ฟีนี ลูก​สาว​วัย 12 ปี​ของ​เขา​ต้อง​กลับ​มา​บ้าน​ที่​ออสเตรีย. จน​ถึง​ตอน​นั้น​พยาน​ฯ ส่วน​ใหญ่​ใน​ออสเตรีย​ถูก​คุม​ขัง​ใน​คุก​หรือ​ไม่​ก็​ใน​ค่าย​กัก​กัน. เนื่อง​จาก​เป็น​บุคคล​ไร้​สัญชาติ หรือ​พูด​อีก​อย่าง​คือ​ไม่​ใช่​สัญชาติ​เยอรมัน ทั้ง​สอง​จึง​ถูก​บังคับ​ให้​ทำ​งาน​ใน​ฟาร์ม​แห่ง​หนึ่ง​ทาง​ใต้​ของ​ออสเตรีย ใกล้​กับ​บ้าน​ของ​เรา.

ต่อ​มา ใน​วัน​ที่ 26 สิงหาคม 1943 พวก​เกสตาโป (ตำรวจ​ลับ​ของ​นาซี) จับ​วิงโก. เมื่อ​ฟีนี​พยายาม​จะ​ลา​พ่อ​ของ​เธอ หัวหน้า​ตำรวจ​ตบ​เธอ​อย่าง​แรง​จน​เธอ​กระเด็น​ไป​อีก​ฟาก​หนึ่ง​ของ​ห้อง. วิงโก​ถูก​สอบสวน​บ่อย​มาก​และ​ถูก​พวก​เกสตาโป​ทุบ​ตี​อย่าง​โหด​ร้าย​และ​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ทัณฑสถาน​ชตาเดลไฮม์​ใน​นคร​มิวนิก.

ใน​วัน​ที่ 6 ตุลาคม 1943 ตำรวจ​จับ​ผม​ใน​ที่​ทำ​งาน และ​ผม​ก็​ถูก​ส่ง​ตัว​ไป​ที่​ทัณฑสถาน​ชตาเดลไฮม์ ที่​เดียว​กับ​วิงโก. เนื่อง​จาก​ผม​พูด​ภาษา​ฝรั่งเศส​ได้​คล่องแคล่ว พวก​เขา​จึง​ใช้​ผม​เป็น​ล่าม​ให้​พวก​เชลย​ชาว​ฝรั่งเศส. ระหว่าง​ช่วง​ที่​เดิน​อยู่​ใน​บริเวณ​เรือน​จำ ผม​มี​โอกาส​แลก​เปลี่ยน​ข่าว​กับ​วิงโก.

ใน​ที่​สุด วิงโก​ก็​ถูก​ตัดสิน​ประหาร​ชีวิต. เขา​ถูก​กล่าวหา​ว่า​เป็น​ผู้​จัด​หา​สรรพหนังสือ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​พวก​พยาน​ฯ และ​ให้​เงิน​ช่วยเหลือ​พวก​ผู้​หญิง​พยาน​ฯ ที่​สามี​ถูก​จำ​อยู่​ใน​ค่าย​กัก​กัน. เขา​ถูก​ย้าย​ไป​ทัณฑสถาน​ใกล้​กรุง​เบอร์ลิน​แห่ง​เดียว​กับ​ที่​วิลลี​ถูก​ประหาร. เขา​ถูก​ตัด​ศีรษะ​ที่​นั่น​เมื่อ​วัน​ที่ 9 ตุลาคม 1944.

ตอน​ที่​วิงโก​พบ​กับ​ครอบครัว​ของ​เขา​เป็น​ครั้ง​สุด​ท้าย​เป็น​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​ปวด​ร้าว​ใจ​มาก. พวก​เขา​เห็น​วิงโก​ถูก​ล่าม​โซ่​และ​ถูก​ตี​จน​บอบช้ำ และ​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​วิงโก​จะ​สวมกอด​พวก​เขา​เนื่อง​จาก​มี​โซ่​ล่าม​อยู่. ฟีนี​อายุ 14 ปี​เมื่อ​เธอ​พบ​พ่อ​เป็น​ครั้ง​สุด​ท้าย. เธอ​ยัง​จำ​คำ​พูด​สุด​ท้าย​ของ​พ่อ​ได้​ที่​ว่า “ฟีนี ดู​แล​แม่​นะ!”

หลัง​จาก​พ่อ​ถูก​ประหาร ฟีนี​ก็​ถูก​พราก​จาก​แม่​และ​ถูก​นำ​ไป​ไว้​กับ​ครอบครัว​นาซี​ซึ่ง​พยายาม​จะ “ดัด​นิสัย” เธอ. เธอ​ถูก​ตี​อย่าง​ทารุณ​บ่อย ๆ. เมื่อ​กองทัพ​รัสเซีย​บุก​เข้า​ออสเตรีย พวก​เขา​ยิง​ครอบครัว​ชาว​เยอรมัน​นั้น​ที่​ทำ​ร้าย​เธอ​อย่าง​ทารุณ. พวก​รัสเซีย​ถือ​ว่า​ครอบครัว​นั้น​เป็น​นาซี​ที่​ขึ้น​ชื่อ.

หลัง​สงคราม​สิ้น​สุด พี่​สาว​ของ​ผม​ยัง​คง​รับใช้​เต็ม​เวลา​ต่อ​ไป. เธอ​รับใช้​เคียง​ข้าง​ฮันส์ เฟอร์สเตอร์ สามี​คน​ที่​สอง​ของ​เธอ ใน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​สวิตเซอร์แลนด์​จน​กระทั่ง​เธอ​เสีย​ชีวิต​ใน​ปี 1998. ฟีนี​ก็​เจริญ​รอย​ตาม​พ่อ​แม่​ของ​เธอ​และ​ปัจจุบัน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ใน​ประเทศ​สวิตเซอร์แลนด์.

ใน​ที่​สุด​ก็​เป็น​อิสระ!

ต้น​ปี 1945 เรือน​จำ​ของ​เรา​ใน​มิวนิก​เป็น​หนึ่ง​ใน​อาคาร​ที่​ถูก​ทิ้ง​ระเบิด. เมือง​นี้​ถูก​ทำลาย​ย่อยยับ. ผม​ติด​คุก​ได้ 18 เดือน​ถึง​จะ​เริ่ม​มี​การ​พิจารณา​คดี​ของ​ผม​ต่อ​หน้า​ผู้​พิพากษา. ตอน​นั้น​เหลือ​อีก​แค่​สอง​สัปดาห์​ก่อน​ที่​สงคราม​จะ​ยุติ​ลง​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​ใน​วัน​ที่ 8 พฤษภาคม 1945. ใน​ระหว่าง​การ​พิจารณา​คดี มี​การ​ถาม​ผม​ว่า “คุณ​เต็ม​ใจ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​เป็น​ทหาร​ไหม?”

ผม​ตอบ​ว่า “นัก​โทษ​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ใส่​เครื่อง​แบบ​หรือ​กล่าว ‘ไฮล์ ฮิตเลอร์.’ ” เมื่อ​เขา​ถาม​ว่า ผม​เต็ม​ใจ​จะ​รับใช้​ใน​กองทัพ​เยอรมัน​หรือ​ไม่ ผม​ตอบ​ว่า “กรุณา​ส่ง​หมาย​เรียก​มา แล้ว​ผม​จะ​แจ้ง​ให้​ท่าน​ทราบ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ผม!”

ไม่​กี่​วัน​ต่อ​มา สงคราม​ก็​ยุติ​ลง และ​ผม​ได้​รับ​แจ้ง​ว่า​ผม​เป็น​อิสระ​แล้ว. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น ผม​ย้าย​ไป​เมือง​กราซ ที่​ซึ่ง​มี​การ​จัด​ตั้ง​ประชาคม​เล็ก ๆ มี​พยาน​ฯ 35 คน. ตอน​นี้​มี​แปด​ประชาคม​กำลัง​ก้าว​หน้า​ใน​เขต​กราซ.

ผู้​ช่วย​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก

ไม่​นาน​หลัง​จาก​สงคราม​ยุติ​ลง ผม​พบ​กับ​เฮเลเน ดุนสต์ ครู​สาว​ซึ่ง​เคย​เป็น​สมาชิก​พรรค​นาซี. เธอ​ผิด​หวัง​อย่าง​มาก​กับ​ลัทธิ​นาซี. ครั้ง​แรก​ที่​ผม​พูด​คุย​กับ​เธอ เธอ​ถาม​ว่า “ทำไม​มี​แต่​พวก​คุณ​เท่า​นั้น​ที่​รู้​ว่า​พระเจ้า​มี​พระ​นาม​ว่า​ยะโฮวา แต่​คน​อื่น​ไม่​รู้?”

ผม​ตอบ​ว่า “ก็​เพราะ​คน​ส่วน​ใหญ่​ไม่​ได้​ตรวจ​สอบ​คัมภีร์​ไบเบิล.” แล้ว​ผม​ก็​ชี้​ให้​เธอ​ดู​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล.

เธอ​ร้อง​ว่า “ถ้า​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระเจ้า​มี​พระ​นาม​ว่า​ยะโฮวา เรา​ก็​น่า​จะ​บอก​ให้​ทุก​คน​รู้​ข้อ​เท็จ​จริง​นี้​สิ!” เฮเลเน​เริ่ม​ประกาศ​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​หนึ่ง​ปี​ต่อ​มา​เธอ​ก็​แสดง​สัญลักษณ์​แห่ง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​โดย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ. เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​วัน​ที่ 5 มิถุนายน 1948.

ใน​วัน​ที่ 1 เมษายน 1953 เรา​ได้​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ใน​ที่​สุด เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​เรียน​ใน​รุ่น​ที่ 31 ของ​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​ที่​เซาท์แลนซิง รัฐ​นิวยอร์ก. ที่​นั่น​เรา​มี​การ​คบหา​ที่​อบอุ่น​จริง ๆ กับ​เพื่อน​นัก​เรียน​จาก​ประเทศ​ต่าง ๆ 64 ประเทศ.

หลัง​จาก​ที่​เรา​สำเร็จ​การ​ศึกษา เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​ออสเตรีย​อีก. ใน​ช่วง​ไม่​กี่​ปี งาน​ของ​เรา​คือ​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ เพื่อ​หนุน​กำลังใจ​พวก​เขา​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. จาก​นั้น​เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​รับใช้​ใน​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​ลักเซมเบิร์ก. ต่อ​มา​มี​การ​ขอ​ให้​เรา​ย้าย​ไป​ยัง​สำนักงาน​สาขา​ที่​ออสเตรีย ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​ที่​กรุง​เวียนนา. ใน​ปี 1972 ขณะ​รับใช้​ที่​นั่น เรา​เริ่ม​เรียน​ภาษา​เซอร์เบีย-โครเอเชีย​เพื่อ​ให้​คำ​พยาน​แก่​คน​งาน​ชาว​ยูโกสลาฟ​หลาย​คน​ที่​เข้า​มา​อยู่​ใน​เวียนนา. ตอน​นี้​มี​ประชาคม​ภาษา​เซอร์เบีย-โครเอเชีย​แปด​ประชาคม​ใน​เวียนนา ซึ่ง​มี​ผู้​คน​จาก​เกือบ​ทุก​ส่วน​ของ​ยุโรป!

ใน​วัน​ที่ 27 สิงหาคม 2001 เฮเลเน​หลับ​ไป​ใน​ความ​ตาย. เธอ​เป็น​ทั้ง​ผู้​ช่วย​และ​เพื่อน​ที่​ล้ำ​ค่า​และ​ไว้​ใจ​ได้​ตลอด​ช่วง​เวลา 53 ปี​แห่ง​ความ​สุข​ที่​เรา​ได้​อยู่​ด้วย​กัน. ตอน​นี้​ความ​หวัง​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ยิ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​ล้ำ​ค่า​มาก​ใน​หัวใจ​ของ​ผม.

ความ​อิ่ม​ใจ​ใน​ความ​รัก​ของ​พระเจ้า

แม้​ว่า​ผม​ได้​ประสบ​โศกนาฏกรรม ผม​ก็​ยัง​อิ่ม​ใจ​ใน​งาน​ของ​ผม​ที่​สำนักงาน​สาขา​ออสเตรีย. สิทธิ​พิเศษ​ที่​ผม​ได้​รับ​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​คือ​การ​เล่า​ประสบการณ์​ส่วน​ตัว​ใน​นิทรรศการ “เหยื่อ​ผู้​ถูก​ลืม​ของ​ระบอบ​นาซี.” ตั้ง​แต่​ปี 1997 นิทรรศการ​นี้​ได้​เปิด​แสดง​ตาม​เมือง​ต่าง ๆ 70 แห่ง​ใน​ออสเตรีย และ​ทำ​ให้​ประจักษ์​พยาน​ที่​รอด​ชีวิต​จาก​เรือน​จำ​และ​ค่าย​กัก​กัน​ของ​นาซี​มี​โอกาส​ได้​เล่า​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​และ​ความ​กล้า​หาญ​ที่​คริสเตียน​แท้​ได้​แสดง​ออก​แม้​เผชิญ​การ​ข่มเหง​จาก​พวก​นาซี.

ผม​ถือ​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​รู้​จัก​ผู้​ซื่อ​สัตย์​เหล่า​นั้น​เป็น​ส่วน​ตัว. พวก​เขา​เป็น​พยาน​หลักฐาน​ที่​น่า​ประทับใจ​ถึง​ความ​จริง​ของ​โรม 8:38, 39 ที่​ว่า “แม้​ความ​ตาย, หรือ​ชีวิต, หรือ​ทูตสวรรค์, หรือ​ผู้​มี​บรรดาศักดิ์, หรือ​สิ่ง​ซึ่ง​มี​อยู่​เดี๋ยว​นี้, หรือ​สิ่ง​ซึ่ง​จะ​เป็น​มา​ภาย​หน้า, หรือ​ฤทธิ์​เดช​ทั้ง​หลาย, หรือ​ความ​สูง, หรือ​ความ​ลึก, หรือ​สิ่ง​ใด ๆ อื่น​ที่​ทรง​สร้าง​แล้ว, จะ​ไม่​อาจ​กระทำ​ให้​เรา​ทั้ง​หลาย​ขาด​จาก​ความ​รัก​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา​ทั้ง​หลาย.”

[ภาพ​หน้า 17]

ครอบครัว​ของ​เรา​ใน​ปี 1930 (ซ้าย​ไป​ขวา): ผม, เปปี, พ่อ, วิลลี, แม่, และ​วิงโก

[ภาพ​หน้า 18]

วิลลี พี่​ชาย​ของ​ผม ไม่​นาน​ก่อน​ถูก​ประหาร

[ภาพ​หน้า 19]

ผม​กับ​วิงโก​เคย​อยู่​ที่​ทัณฑสถาน​ชตาเดลไฮม์ นคร​มิวนิก

[ภาพ​หน้า 19]

ฟีนี ลูก​สาว​ของ​วิงโก เคย​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ไว้​กับ​ครอบครัว​นาซี​ที่​เหี้ยม​โหด; เธอ​ยัง​คง​ซื่อ​สัตย์​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้

[ภาพ​หน้า 20]

เฮเลเน​เป็น​เพื่อน​ที่​ล้ำ​ค่า​ใน​ระหว่าง 53 ปี​ใน​ชีวิต​สมรส​ของ​เรา

[ภาพ​หน้า 20]

บรรยาย​ที่​นิทรรศการ “เหยื่อ​ผู้​ถูก​ลืม​ของ​ระบอบ​นาซี”