ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจบนทางหลวงหมายเลข 1

การเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจบนทางหลวงหมายเลข 1

การ​เดิน​ทาง​ที่​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ​บน​ทาง​หลวง​หมาย​เลข 1

โดย​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! ใน​นอร์เวย์

ตลอด​ทั้ง​ปี ทุก ๆ เย็น​จะ​มี​เรือ​ลำ​หนึ่ง​ออก​จาก​เมือง​เบอร์เกน​บน​ชายฝั่ง​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​ของ​นอร์เวย์ มุ่ง​ขึ้น​ไป​ทาง​เหนือ​เพื่อ​เดิน​ทาง​เป็น​เวลา 11 วัน ด้วย​ระยะ​ทาง​ประมาณ 4,500 กิโลเมตร. เรือ​ลำ​นี้​จะ​แล่น​ผ่าน​เกาะ​หลาย​พัน​เกาะ แล่น​ผ่าน​อ่าว​และ​ช่องแคบ​ต่าง ๆ มาก​มาย ขณะ​ที่​มัน​แวะ​จอด​ตาม​เมือง​ใหญ่​น้อย​และ​หมู่​บ้าน​ต่าง ๆ เลียบ​แนว​ชายฝั่ง​ที่​ขรุขระ​และ​สวย​งาม​ของ​นอร์เวย์.

แม้​หลาย​คน​ถือ​ว่า เส้น​ทาง​เดิน​เรือ​ของ​เรือ​ด่วน​ชายฝั่ง​นอร์เวย์​นี้​เป็น​เส้น​ทาง​การ​เดิน​เรือ​ที่​สวย​งาม​ที่​สุด​ใน​โลก แต่​เรือ​ด่วน​ชายฝั่ง​นี้​ยัง​มี​ประโยชน์​สำหรับ​การ​ใช้​งาน​จริง ๆ ด้วย นั่น​คือ​เพื่อ​ขน​ส่ง​สินค้า, ไปรษณียภัณฑ์, และ​ผู้​โดยสาร​ตาม​เส้น​ทาง​ไป​จน​ถึง​ท่า​เรือ​ปลาย​ทาง​ที่​เมือง​เคอร์เคเนส ซึ่ง​อยู่​เลย​เส้น​อาร์กติก​เซอร์เคิล​ขึ้น​ไป​อีก.

เรือ​เหล่า​นี้​เดิน​ทาง​ใน​น่าน​น้ำ​แถบ​ขั้ว​โลก​ได้​อย่าง​ไร โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง ใน​ฤดู​หนาว​ซึ่ง​มี​น้ำ​แข็ง​ขวาง​กั้น​เรือ​ไม่​ให้​ไป​ถึง​แถบ​อาร์กติก? เนื่อง​จาก​ตำแหน่ง​ที่​ตั้ง​ของ​นอร์เวย์​เอง ทำ​ให้​ประเทศ​นี้​ได้​รับ​อิทธิพล​ของ​กระแส​น้ำ​อุ่น​จาก​มหาสมุทร​แอตแลนติก​เหนือ​และ​ลม​อ่อน ๆ ที่​พัด​มา​จาก​ทิศ​ตะวัน​ตก. ทั้ง​สอง​ปัจจัย​นี้​ทำ​ให้​ภูมิ​อากาศ​ของ​นอร์เวย์​ไม่​หนาว​จน​เกิน​ไป โดย​อุ่น​กว่า​ที่​ควร​เป็น​เมื่อ​คิด​ถึง​ว่า​ประเทศ​นี้​อยู่​ใน​เส้น​ละติจูด​สูง. ที่​จริง ท่า​เรือ​ต่าง ๆ ของ​นอร์เวย์​แทบ​ไม่​มี​น้ำ​แข็ง​เลย​แม้​แต่​ใน​ฤดู​หนาว.

กำเนิด​ของ​ทาง​หลวง​ใน​ทะเล

ใน​ช่วง​ปลาย​ศตวรรษ​ที่ 19 เมื่อ​มี​การ​พิจารณา​ว่า​จะ​ให้​ประชากร​ที่​อยู่​ตาม​ชายฝั่ง​นอร์เวย์​ติด​ต่อ​กัน​โดย​ทาง​ถนน, ทาง​รถไฟ, หรือ​ทาง​ทะเล ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​ชอบ​ทาง​ทะเล​มาก​กว่า. แต่​ใน​ตอน​นั้น​แม้​แต่​เส้น​ทาง​เดิน​เรือ​ก็​มี​ปัญหา​หลาย​อย่าง เพราะ​ถึง​ทะเล​จะ​ไม่​เป็น​น้ำ​แข็ง แต่​การ​เดิน​เรือ​ตอน​กลางคืน​และ​ตอน​ที่​อากาศ​ไม่​ดี​ก็​มี​อันตราย.

ส่วน​ใหญ่​เป็น​เพราะ​จินตนาการ​และ​ความ​ตั้งใจ​จริง​ของ​กัปตัน​เรือ​ริคาร์ด วิท เส้น​ทาง​เดิน​เรือ​เป็น​ประจำ​จึง​กำเนิด​ขึ้น​เมื่อ​วัน​ที่ 2 กรกฎาคม 1893. ใน​วัน​นั้น เรือ​ด่วน​ชายฝั่ง​ลำ​แรก​ออก​จาก​เมือง​ทรอนด์เฮม มุ่ง​หน้า​ไป​ยัง​เมือง​ฮัมเมอร์เฟสต์ ที่​อยู่​เหนือ​สุด​ของ​ยุโรป. ทั้ง ๆ ที่​มี​การ​คาด​หมาย​ใน​แง่​ลบ แต่​เส้น​ทาง​เดิน​เรือ​นี้​ก็​ประสบ​ความ​สำเร็จ. ที่​จริง ต่อ​มา​มี​การ​ขยาย​เส้น​ทาง​นี้​ไป​ถึง​ท่า​เรือ 34 แห่ง​จาก​เมือง​เบอร์เกน​จน​ถึง​เมือง​เคอร์เคเนส ซึ่ง​เป็น​จุด​สิ้น​สุด​ของ​เส้น​ทาง​การ​เดิน​เรือ​สาย​นี้​มา​จน​ถึง​ปัจจุบัน. หลักฐาน​ของ​ความ​สำเร็จ​และ​ความ​สำคัญ​ของ​ทาง​หลวง​ใน​ทะเล​สาย​นี้ อาจ​สะท้อน​ให้​เห็น​จาก​ชื่อ​ที่​ไม่​เป็น​ทาง​การ​ซึ่ง​ผู้​คน​ที่​อยู่​ตาม​ชายฝั่ง​ตั้ง​ให้ นั่น​คือ​ทาง​หลวง​หมาย​เลข 1.

ปัจจุบัน​นี้ มี​เรือ​ที่​ทัน​สมัย 11 ลำ แล่น​ตาม​ทาง​หลวง​หมาย​เลข 1 นี้​ทุก ๆ 24 ชั่วโมง. แต่​เนื่อง​จาก​ถนน​และ​ทาง​รถไฟ​ที่​เชื่อม​ต่อ​กับ​เมือง​ตาม​ชายฝั่ง​ทะเล​หลาย​เมือง​ได้​รับ​การ​ปรับ​ปรุง​ให้​ดี​ขึ้น​มาก หน้า​ที่​ของ​เรือ​ด่วน​ชายฝั่ง​จึง​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​กลาย​เป็น​เรือ​สำหรับ​การ​ท่อง​เที่ยว​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ซึ่ง​เห็น​ได้​จาก​การ​ออก​แบบ​เรือ.

ภาพ​ที่​ปรากฏ​แก่​สายตา

ส่วน​ใหญ่​แล้ว เรือ​ด่วน​แล่น​ไป​ตาม​ทาง​ซึ่ง​มี​เกาะ​ใหญ่​น้อย​เป็น​ที่​กำบัง​คลื่น​ลม. ด้วย​เหตุ​นี้ ผู้​โดยสาร​จึง​สามารถ​มอง​เห็น​บาง​ส่วน​ของ​ภูมิ​ทัศน์​ที่​งดงาม​ที่​สุด​ของ​นอร์เวย์​เป็น​เวลา​ถึง 11 วัน เช่น หมู่​บ้าน​เล็ก ๆ ที่​ดู​อบอุ่น​เป็น​มิตร​ใน​ทุ่ง​หญ้า​ที่​เขียว​ขจี, หมู่​บ้าน​ชาว​ประมง, ธาร​น้ำ​แข็ง, อ่าว, ภูเขา​ที่​มี​ยอด​ปก​คลุม​ด้วย​หิมะ, หน้าผา​ที่​สามารถ​มอง​เห็น​นก​ทะเล​นับ​ไม่​ถ้วน, น้ำ​ตก​ที่​สูง​ตระหง่าน, และ​แม้​กระทั่ง​ปลา​วาฬ.

เหมือน​กับ​เป็น​รายการ​แถม​พิเศษ ผู้​โดยสาร​สามารถ​ขึ้น​ไป​เที่ยว​ชม​บน​ฝั่ง​ได้​เมื่อ​เรือ​เทียบ​ท่า. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ที่​เมือง​มอลเดอ เรา​สามารถ​ชม​ทัศนียภาพ​อัน​ตระการตา​ของ​ยอด​เขา​ที่​มี​หิมะ​ปก​คลุม​ถึง 87 ยอด​ใน​เทือก​เขา​แอลป์​ช่วง​รุมสดาล. ที่​เมือง​ออเลซุนด์​และ​ทรอนด์เฮม นัก​ท่อง​เที่ยว​อาจ​ถึง​กับ​มี​เวลา​ช่วง​สั้น ๆ ที่​จะ​ขึ้น​ฝั่ง​ไป​เดิน​เล่น​ตาม​ถนน​ที่​มี​สถาปัตยกรรม​ท้องถิ่น​ที่​โดด​เด่น. ณ บาง​เมือง ผู้​โดยสาร​จะ​เช่า​รถยนต์​และ​ไป​ขึ้น​เรือ​อีก​ที่​เมือง​ท่า​ถัด​ไป.

หลัง​จาก​ออก​เมือง​บูเดอ เรือ​ด่วน​ชายฝั่ง​ก็​จะ​แล่น​ผ่าน​อ่าว​เวสต์​และ​มุ่ง​หน้า​ไป​ยัง​หมู่​เกาะ​โลโฟเตน ซึ่ง​มี​ความ​ยาว 175 กิโลเมตร​และ​มี​ยอด​เขา​หลาย​ลูก​และ​หมู่​บ้าน​ชาว​ประมง​ที่​ดู​อบอุ่น​เป็น​มิตร. บาง​เกาะ​ที่​อยู่​นอก​สุด​ใน​หมู่​เกาะ​โลโฟเตน​เป็น​แค่​พืด​หิน​ใต้​น้ำ, เป็น​เกาะ​เล็ก ๆ ที่​เป็น​หิน, และ​เป็น​หน้าผา​ที่​โผล่​ขึ้น​มา​จาก​ท้อง​ทะเล ซึ่ง​บาง​แห่ง​ก็​มี​ประภาคาร​ตั้ง​อยู่. กลุ่ม​เกาะ​นี้​ยัง​มี​นก​ทะเล​อาศัย​อยู่​รวม​กัน​เป็น​กลุ่ม​ที่​ใหญ่​ที่​สุด​บาง​กลุ่ม​ของ​โลก อย่าง​เช่น นก​นาง​นวล, นก​นาง​นวล​แกลบ, เป็ด​ไอเดอร์, นก​พัฟฟิน, นก​ดำ​น้ำ, นก​กาน้ำ, นก​นาง​นวล​ทะเล​แอตแลนติก, นก​กระเต็น, และ​นก​นางแอ่น​ทะเล. มี​นก​หลาย​ล้าน​ตัว​ที่​นี่.

ทุก ๆ ฤดู​หนาว ทะเล​รอบ ๆ หมู่​เกาะ​โลโฟเตน​จะ​เนืองแน่น​ไป​ด้วย​เรือ​ประมง​ที่​ออก​ไป​จับ​ปลา​สเกร ซึ่ง​เป็น​ปลา​คอด​ชนิด​หนึ่ง. บริเวณ​นี้​ยัง​เป็น​ที่​รู้​กัน​ว่า​มี​ปลา​วาฬ. ผู้​โดยสาร​จะ​ตื่นเต้น​สัก​เพียง​ไร​เมื่อ​สัตว์​เลี้ยง​ลูก​ด้วย​นม​ขนาด​ยักษ์​เหล่า​นี้​กระโจน​ขึ้น​เหนือ​ผิว​น้ำ​และ​พ่น​น้ำ​ใน​ระยะ​ที่​มอง​เห็น​ได้​จาก​เรือ!

ใน​ฤดู​ร้อน เรือ​ด่วน​ชายฝั่ง​จะ​แล่น​อ้อม​เข้า​ไป​ใน​อ่าว​ทรอลล์ฟยูร์. ทาง​เข้า​อ่าว​นี้​แคบ​มาก​จน​คุณ​รู้สึก​ราว​กับ​ว่า​คุณ​สามารถ​ยื่น​มือ​ออก​ไป​แตะ​หน้าผา​หิน​สูง​ชัน​นั้น​ได้. ที่​นี่ คน​ขับ​เรือ​จะ​ไม่​บีบ​แตร​เพราะ​เกรง​ว่า​อาจ​จะ​ทำ​ให้​หิน​ถล่ม​ลง​มา! ด้าน​หลัง​ชายฝั่ง​บริเวณ​นี้​เป็น​ภูเขา​ที่​มี​หิมะ​ปก​คลุม​อยู่​บน​ยอด ทำ​ให้​ทัศนียภาพ​แถบ​นี้​เป็น​เหมือน​ความ​ฝัน​ของ​นัก​ถ่าย​ภาพ!

หลัง​จาก​จอด​แวะ​ตาม​เมือง​และ​หมู่​บ้าน​ชาว​ประมง​อีก​หลาย​แห่ง เรือ​ก็​เลี้ยว​ไป​ทาง​ตะวัน​ออก มุ่ง​หน้า​ไป​ยัง​บริเวณ​ชายฝั่ง​ที่​หลาย​คน​คิด​ว่า​เป็น​จุด​เด่น​ของ​การ​เดิน​ทาง. ตัว​อย่าง​เช่น จาก​เมือง​ท่า​ฮอนนิงสวอก ผู้​โดยสาร​อาจ​ไป​ชม​แหลม​นอร์ท​เคป ซึ่ง​มี​หน้าผา​สูง​ตั้ง​ตระหง่าน​ขึ้น​มา​จาก​มหาสมุทร​อาร์กติก​สูง​ประมาณ 300 เมตร อัน​เป็น​ภาพ​ที่​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ​มาก.

เรือ​ด่วน​ชายฝั่ง​จอด​เทียบ​ท่า​เพียง​ไม่​กี่​ชั่วโมง​ที่​เมือง​เคอร์เคเนส เมือง​ปลาย​ทาง​ด้าน​เหนือ แล้ว​ก็​เริ่ม​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​เบอร์เกน. การ​เดิน​ทาง​ล่อง​ใต้​ทำ​ให้​ผู้​โดยสาร​ได้​มอง​เห็น​ภาพ​ที่​พวก​เขา​อาจ​ไม่​ได้​เห็น​ขณะ​นอน​หลับ​ระหว่าง​ที่​เดิน​ทาง​ขึ้น​เหนือ. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ณ เส้น​อาร์กติก​เซอร์เคิล เรา​อาจ​เห็น​พืด​น้ำ​แข็ง​สวาร์ทีเซน​อัน​มหึมา​ซึ่ง​ครอบ​คลุม​พื้น​ที่​ประมาณ 370 ตาราง​กิโลเมตร. จาก​นั้น เรือ​ก็​จะ​แล่น​ผ่าน​เทือก​เขา​ที่​สวย​งาม​ชื่อ เจ็ด​สาว​พี่​น้อง และ​ผ่าน​เขา​ทอร์กฮาตเทน ซึ่ง​เป็น​ภูเขา​เตี้ย ๆ กลม ๆ ที่​มี​ช่อง​ทะลุ​ขนาด​ใหญ่​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​เอง​ตาม​ธรรมชาติ ที่​ทำ​ให้​มัน​ดู​เหมือน​หมวก​ใบ​ใหญ่​ที่​มี​รู​ตรง​ส่วน​บน​ของ​หมวก. ระหว่าง​เมือง​มอ​เลย​กับ​เมือง​ฟลูเรอ เรือ​ด่วน​จะ​แล่น​ผ่าน​เขา​ฮูร์เนเลน ซึ่ง​สูง 860 เมตร​และ​ชัน​มาก​จน​คน​ขับ​เรือ​ไม่​กล้า​บีบ​แตร​เพราะ​เกรง​ว่า​จะ​ทำ​ให้​หิน​ถล่ม​ลง​มา​ได้​เช่น​กัน.

อาทิตย์​เที่ยง​คืน​และ​ค่ำ​คืน​ที่​ขั้ว​โลก

นัก​ท่อง​เที่ยว​ที่​เดิน​ทาง​ใน​ฤดู​ร้อน​จะ​ได้​เห็น​แสง​อาทิตย์​แทบ​ทุก​เวลา​ตลอด​การ​เดิน​ทาง. ที่​จริง ราว ๆ ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​ทาง​หลวง​หมาย​เลข 1 นี้​อยู่​ใน “ดินแดน​อาทิตย์​เที่ยง​คืน” คือ​เหนือ​เส้น​อาร์กติก​เซอร์เคิล​ขึ้น​ไป. ที่​นี่​ใน​ฤดู​ร้อน ดวง​อาทิตย์​จะ​ส่อง​แสง​ตลอด​คืน. ตัว​อย่าง​เช่น ที่​นอร์ท​เคป ดวง​อาทิตย์​ไม่​ตก​ดิน​เลย​เกือบ 12 สัปดาห์!

ผู้​ที่​เดิน​ทาง​ใน​ฤดู​หนาว​จะ​ได้​เห็น​สิ่ง​ที่​ตรง​กัน​ข้าม นั่น​คือ ค่ำ​คืน​ขั้ว​โลก​ที่​ยาว​นาน. แต่​ฤดู​หนาว​ก็​มี​ความ​งดงาม​ใน​แบบ​ของ​มัน เมื่อ​ท้องฟ้า, น้ำ​ทะเล, ภูเขา, และ​หิมะ​สะท้อน​สี​อัน​นวล​ตา​ของ​แสง​เงิน​แสง​ทอง​ขณะ​ที่​ดวง​อาทิตย์​มา​ใกล้ แต่​ไม่​ขึ้น​เหนือ​เส้น​ขอบ​ฟ้า. นอก​จาก​นั้น ท้องฟ้า​ใน​ฤดู​หนาว​ยัง​เป็น​ฉาก​ที่​สมบูรณ์​แบบ​สำหรับ​การ​แสดง​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด นั่น​คือ​แสง​ออโรรา หรือ​แสง​เหนือ​ที่​โด่งดัง. เมื่อ​ลม​สุริยะ​ซึ่ง​เป็น​อนุภาค​ที่​มี​ประจุ​ไฟฟ้า​ผ่าน​ทะลุ​เข้า​มา​ใน​ท้องฟ้า​แถบ​ขั้ว​โลก​ก็​จะ​เกิด​แสง​สี​เขียว​และ​สี​เหลือง​อม​เขียว และ​บาง​ครั้ง​มี​สี​ออก​แดง ๆ บน​ท้องฟ้า​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ดวง​ดาว ราว​กับ​ผืน​ผ้า​หรือ​ม่าน​อัน​น่า​เกรง​ขาม​ที่​โบก​พลิ้ว​ไป​ตาม​จังหวะ​ของ​เอกภพ.

แน่นอน คุณ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​อยู่​ใน​เรือ​ด่วน​ชายฝั่ง​เพื่อ​จะ​ได้​ชม​บรรดา​ทัศนียภาพ​ที่​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ​เหล่า​นี้. เนื่อง​จาก​มี​การ​ขยาย​ถนน​และ​ทาง​รถไฟ​เชื่อม​ต่อ​กัน​มาก​ขึ้น ผู้​คน​จึง​สามารถ​มอง​เห็น​ทัศนียภาพ​ส่วน​ใหญ่​ของ​นอร์เวย์​ได้​จาก​ทาง​หน้าต่าง​รถยนต์​หรือ​รถไฟ. สำหรับ​คน​ที่​มี​งบประมาณ​จำกัด การ​เดิน​ทาง​โดย​วิธี​เหล่า​นี้​ก็​อาจ​ประหยัด​มาก​กว่า. กระนั้น ไม่​ว่า​คุณ​จะ​เลือก​เดิน​ทาง​โดย​วิธี​ใด มี​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​แน่นอน​คือ คุณ​จะ​ไม่​มี​วัน​เบื่อ​ภาพ​ที่​ปรากฏ​ต่อ​สายตา​ซึ่ง​เปลี่ยน​ไป​ทุก ๆ กิโลเมตร และ​ทุก ๆ ฤดู​ตาม​ชายฝั่ง​ที่​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ​ของ​นอร์เวย์.

[แผนที่​หน้า 13]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

ฟินแลนด์

สวีเดน

นอร์เวย์

ออสโล

เส้น​ทาง​เดิน​เรือ

▿ ▵ เบอร์เกน

▿ ▵ ฟลอเรอ

▿ ▵ มอเลย

▿ ▵ ออเลซุนด์

▿ ▵ มอลเดอ

▿ ▵ ทรอนด์เฮม

เส้น​อาร์กติก​เซอร์เคิล

อนุสาวรีย์​บน​เส้น​อาร์กติก​เซอร์เคิล

▿ ▵ บูเดอ

▿ ▵ หมู่​เกาะ​โลโฟเตน

อ่าว​ทรอลล์ฟยูร์

▿ ▵ ทรอมเซอ

▿ ▵ ฮัมเมอร์เฟสต์

▿ ▵ ฮอนนิงสวอก

▿ ▵ เคอร์เคเนส

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Based on map: Hurtigruten

[ภาพ​หน้า 15]

ใน​อ่าว​ทรอลล์ฟยูร์ ซึ่ง​ล้อม​รอบ​ด้วย​ยอด​เขา​ใน​เทือก​เขา​แอลป์

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

TO-FOTO AS, Harstad

[ภาพ​หน้า 15]

หมู่​เกาะ​โลโฟเตน​เป็น​ที่​อยู่​ของ​นก​ทะเล​หลาย​ชนิด รวม​ทั้ง​นก​นาง​นวล, นก​ดำ​น้ำ​ปาก​หนา, และ​นก​พัฟฟิน

[ภาพ​หน้า 16]

ทาง​หลวง​หมาย​เลข 1 เริ่ม​ที่​เมือง​เบอร์เกน

[ภาพ​หน้า 16]

อนุสาวรีย์​บน​เส้น​อาร์กติก​เซอร์เคิล

[ภาพ​หน้า 16]

อาทิตย์​เที่ยง​คืน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

TO-FOTO AS, Harstad

[ภาพ​หน้า 16, 17]

เทือก​เขา​เจ็ด​สาว​พี่​น้อง

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Per Eide

[ภาพ​หน้า 17]

หมู่​บ้าน​ชายฝั่ง​ใน​ฤดู​หนาว​อัน​มืด​มิด

[ภาพ​หน้า 17]

แสง​ออโรรา หรือ​แสง​เหนือ

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© TO-FOTO AS, Harstad

[ภาพ​หน้า 17]

การ​เดิน​ทาง​สิ้น​สุด​ลง​ที่​เมือง​เคอร์เคเนส

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Hallgeir Henriksen

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 13]

Nancy Bundt