ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ทำไมกลับมาระบาดอีก?

ทำไมกลับมาระบาดอีก?

ทำไม​กลับ​มา​ระบาด​อีก?

ประมาณ 40 ปี​ที่​แล้ว ผู้​คน​คิด​กัน​ว่า โรค​ที่​มี​แมลง​เป็น​พาหะ​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี อย่าง​เช่น มาลาเรีย, ไข้​เหลือง, และ​ไข้​เลือด​ออก​นั้น​ถูก​ขจัด​ออก​ไป​จน​เกือบ​หมด​แล้ว​จาก​พื้น​ที่​กว้าง​ใหญ่​ของ​โลก. แต่​แล้ว​สิ่ง​ที่​ไม่​คาด​คิด​ก็​เกิด​ขึ้น โรค​เหล่า​นั้น​กลับ​มา​ระบาด​อีก​ครั้ง.

ทำไม? เหตุ​ผล​หนึ่ง​คือ แมลง​บาง​ชนิด​และ​จุล​ชีพ​ที่​พวก​มัน​นำ​มา​นั้น​ได้​พัฒนา​ความ​สามารถ​ที่​จะ​ต้านทาน​ยา​ฆ่า​แมลง​และ​ยา​ต่าง ๆ ที่​เคย​ใช้​ควบคุม​มัน. กระบวนการ​ปรับ​ตัว​ซึ่ง​เป็น​ไป​ตาม​ธรรมชาติ​นี้​ได้​รับ​การ​เกื้อ​หนุน​ไม่​เพียง​แต่​จาก​การ​ใช้​ยา​ฆ่า​แมลง​มาก​เกิน​ไป​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ใช้​ยา​อย่าง​ผิด​วิธี​อีก​ด้วย. หนังสือ​ยุง (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “ใน​ครอบครัว​ที่​ยาก​จน​หลาย​ครอบครัว ผู้​คน​รับ​ยา​แล้ว​กิน​ยา​นั้น​แค่​พอ​ให้​อาการ​ทุเลา​ลง แล้ว​ก็​เก็บ​ยา​ที่​เหลือ​ไว้​เผื่อ​เวลา​ป่วย​คราว​หน้า.” ด้วย​การ​รักษา​แบบ​กระท่อนกระแท่น​เช่น​นั้น จุล​ชีพ​ที่​แข็งแรง​กว่า​อาจ​เหลือ​รอด​อยู่​ใน​ร่าง​กาย​ของ​คน​เรา​และ​ขยาย​พันธุ์​ใหม่​กลาย​เป็น​จุล​ชีพ​ที่​ดื้อ​ยา.

การ​เปลี่ยน​แปลง​ของ​ภูมิ​อากาศ

ปัจจัย​สำคัญ​ซึ่ง​ทำ​ให้​โรค​ที่​มี​แมลง​เป็น​พาหะ​กลับ​มา​ระบาด​อีก​ครั้ง​คือ การ​เปลี่ยน​แปลง​ทั้ง​ใน​ธรรมชาติ​และ​ใน​สังคม. ตัว​อย่าง​ที่​เด่น​คือ การ​เปลี่ยน​แปลง​ของ​ภูมิ​อากาศ​ทั่ว​โลก. นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​คาด​การณ์​ว่า สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​ร้อน​ขึ้น​ทั่ว​โลก​ทำ​ให้​อาณา​เขต​ของ​แมลง​ซึ่ง​เป็น​พาหะ​นำ​โรค​ขยาย​เข้า​ไป​สู่​บริเวณ​ที่​ปัจจุบัน​มี​อากาศ​หนาว​เย็น​กว่า. มี​หลักฐาน​บาง​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​สิ่ง​นี้​อาจ​เกิด​ขึ้น​แล้ว. นาย​แพทย์​พอล อาร์. เอปสไตน์ แห่ง​ศูนย์​สุขภาพ​และ​สิ่ง​แวด​ล้อม​โลก วิทยาลัย​แพทย์​ฮาร์เวิร์ด กล่าว​ว่า “ปัจจุบัน มี​รายงาน​ว่า มี​การ​พบ​ทั้ง​แมลง​และ​โรค​ที่​มี​แมลง​เป็น​พาหะ (รวม​ทั้ง​มาลาเรีย​และ​ไข้​เลือด​ออก) ใน​พื้น​ที่​ระดับ​สูง​ขึ้น​ใน​แอฟริกา, เอเชีย, และ​ลาติน​อเมริกา.” ใน​คอสตาริกา ไข้​เลือด​ออก​แพร่​กระจาย​ข้าม​เทือก​เขา ซึ่ง​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​เคย​จำกัด​ขอบ​เขต​โรค​นั้น​ให้​อยู่​เฉพาะ​แถบ​ชายฝั่ง​แปซิฟิก แต่​ตอน​นี้​โรค​ไข้​เลือด​ออก​ได้​แพร่​ระบาด​ไป​ทั่ว​ประเทศ​แล้ว.

แต่​อากาศ​ที่​อุ่น​ขึ้น​อาจ​ส่ง​ผล​มาก​กว่า​นั้น. ใน​บาง​พื้น​ที่ มัน​ทำ​ให้​แม่น้ำ​กลาย​เป็น​แอ่ง​โคลน ส่วน​บาง​พื้น​ที่​มัน​ทำ​ให้​เกิด​ฝน​ตก​น้ำ​ท่วม​และ​หลัง​จาก​นั้น​ก็​กลาย​เป็น​บริเวณ​ที่​มี​น้ำ​ท่วม​ขัง. ใน​ทั้ง​สอง​กรณี น้ำ​ที่​ขัง​อยู่​นิ่ง ๆ เป็น​แหล่ง​เพาะ​พันธุ์​ยุง​ที่​เหมาะ​มาก. อากาศ​ที่​ร้อน​ขึ้น​ยัง​ทำ​ให้​วัฏจักร​ของ​การ​แพร่​พันธุ์​สั้น​ลง​ด้วย โดย​ทำ​ให้​ยุง​มี​อัตรา​การ​ขยาย​พันธุ์​เร็ว​ขึ้น และ​ทำ​ให้​ฤดู​ที่​มี​ยุง​ชุม​ยาว​นาน​ขึ้น. เมื่อ​อากาศ​ร้อน​ขึ้น ยุง​ก็​บิน​ว่อน​มาก​ขึ้น. อุณหภูมิ​ที่​ร้อน​ขึ้น​ถึง​กับ​ส่ง​ผล​กระทบ​ไป​ถึง​ข้าง​ใน​ตัว​ยุง​และ​ส่ง​ผล​ให้​จุล​ชีพ​ที่​เป็น​ตัว​ก่อ​โรค​มี​อัตรา​การ​แพร่​พันธุ์​สูง​ขึ้น ด้วย​เหตุ​นี้ โอกาส​ติด​โรค​จึง​มี​เพิ่ม​ขึ้น​แม้​จะ​กัด​เพียง​ครั้ง​เดียว. แต่​ยัง​มี​เรื่อง​น่า​เป็น​ห่วง​อื่น ๆ อีก.

กรณี​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​โรค

ความ​เปลี่ยน​แปลง​ใน​สังคม​มนุษย์​ยัง​อาจ​เป็น​ปัจจัย​หนึ่ง​ด้วย​ซึ่ง​ทำ​ให้​มี​โรค​ที่​มี​แมลง​เป็น​พาหะ. เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ว่า​เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร เรา​ต้อง​พิจารณา​บทบาท​ของ​แมลง​ให้​ละเอียด​ยิ่ง​ขึ้น. ใน​หลาย​โรค แมลง​อาจ​เป็น​เพียง​หนึ่ง​ใน​หลาย ๆ ตัว​เชื่อม​ที่​อยู่​ใน​กระบวนการ​แพร่​เชื้อ. สัตว์​หรือ​นก​อาจ​เป็น​พาหะ​นำ​โรค​โดย​นำ​แมลง​ติด​ไป​กับ​ตัว​มัน​หรือ​มี​จุล​ชีพ​อยู่​ใน​กระแส​เลือด​มัน. ถ้า​พาหะ​ตัว​นั้น​อยู่​รอด​ได้ มัน​ก็​อาจ​เป็น​แหล่ง​เพาะ​โรค​ด้วย.

ลอง​พิจารณา​โรค​ไลม์​เป็น​ตัว​อย่าง มี​การ​กล่าว​ถึง​โรค​นี้​ใน​ปี 1975 และ​ตั้ง​ชื่อ​ตาม​เมือง​ไลม์ รัฐ​คอนเนตทิคัต สหรัฐ​อเมริกา ที่​ซึ่ง​มี​การ​พบ​เห็น​เป็น​ครั้ง​แรก. เชื้อ​แบคทีเรีย​ที่​เป็น​สาเหตุ​ของ​โรค​ไลม์​อาจ​มา​ถึง​อเมริกา​เหนือ​เมื่อ​หนึ่ง​ร้อย​ปี​มา​แล้ว​โดย​ทาง​หนู​หรือ​ปศุสัตว์​บน​เรือ​ที่​มา​จาก​ยุโรป. หลัง​จาก​เห็บ​ไอโซดิส (Ixodes) ตัว​จิ๋ว​ดูด​เลือด​สัตว์​ที่​ติด​เชื้อ แบคทีเรีย​ก็​จะ​อยู่​ใน​ตัว​เห็บ​ตลอด​ชีวิต​ของ​มัน. ต่อ​มา เมื่อ​เห็บ​กัด​สัตว์​ตัว​อื่น​หรือ​กัด​มนุษย์ มัน​ก็​อาจ​แพร่​เชื้อ​แบคทีเรีย​ไป​ยัง​กระแส​เลือด​ของ​เหยื่อ.

ใน​ภาค​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​ของ​สหรัฐ โรค​ไลม์​เป็น​โรค​ประจำ​ถิ่น ซึ่ง​มี​อยู่​ที่​นั่น​นาน​มา​แล้ว. แหล่ง​เพาะ​เชื้อ​แบคทีเรีย​ที่​สำคัญ​ของ​โรค​ไลม์​คือ​หนู​ตีน​ขาว. หนู​ชนิด​นี้​ยัง​มี​เห็บ​เกาะ​อยู่​ที่​ตัว​มัน โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ช่วง​ที่​เห็บ​กำลัง​เจริญ​เติบโต. เห็บ​ที่​โต​เต็ม​วัย​มัก​ชอบ​เกาะ​ตัว​กวาง​มาก​กว่า ซึ่ง​มัน​จะ​ดูด​เลือด​และ​ผสม​พันธุ์. เมื่อ​กิน​เลือด​จน​อิ่ม​หนำ ตัว​เมีย​ที่​โต​เต็ม​วัย​ก็​จะ​กระโดด​ลง​มา​วาง​ไข่​ที่​พื้น และ​ไม่​นาน​ไข่​ก็​ฟัก​เป็น​ตัว​อ่อน​เพื่อ​เริ่ม​วัฏจักร​ใหม่.

สภาพการณ์​เปลี่ยน​ไป

จุลินทรีย์​อยู่​ร่วม​กับ​สัตว์​และ​แมลง​มา​หลาย​ปี​โดย​ไม่​ได้​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​โรค. แต่​สภาพการณ์​ที่​เปลี่ยน​ไป​ทำ​ให้​โรค​ประจำ​ถิ่น​กลาย​เป็น​โรค​ระบาด ซึ่ง​แพร่​ไป​สู่​คน​จำนวน​มาก​ใน​ชุมชน. ใน​กรณี​ของ​โรค​ไลม์ มี​สภาพการณ์​อะไร​บ้าง​ที่​เปลี่ยน​ไป?

เมื่อ​ก่อน สัตว์​นัก​ล่า​ทำ​ให้​เห็บ​กวาง​แทบ​ไม่​มี​โอกาส​สัมผัส​กับ​มนุษย์ โดย​การ​ควบคุม​ประชากร​กวาง. เมื่อ​ผู้​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​ชาว​ยุโรป​ยุค​แรก ๆ หัก​ร้าง​ถาง​พง​เพื่อ​ทำ​การ​เกษตร จำนวน​ประชากร​กวาง​ก็​ลด​น้อย​ลง​ไป​อีก และ​สัตว์​ที่​ล่า​กวาง​เป็น​อาหาร​ก็​อพยพ​ไป. แต่​ใน​ช่วง​กลาง​ศตวรรษ​ที่ 19 ฟาร์ม​หลาย​แห่ง​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​เนื่อง​จาก​ชาว​นา​ย้าย​ถิ่น​ฐาน​ไป​ทาง​ตะวัน​ตก และ​ป่า​ก็​เริ่ม​แผ่​คลุม​ผืน​ดิน​อีก​ครั้ง. กวาง​อพยพ​กลับ​มา แต่​สัตว์​นัก​ล่า​ตาม​ธรรมชาติ​ไม่​ได้​กลับ​มา​ด้วย. ดัง​นั้น ประชากร​กวาง​จึง​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​อย่าง​รวด​เร็ว และ​ประชากร​เห็บ​ก็​เช่น​กัน.

ต่อ​มา แบคทีเรีย​ที่​ทำ​ให้​เกิด​โรค​ไลม์​ปรากฏ​ขึ้น​และ​อาศัย​อยู่​ใน​สัตว์​ที่​เป็น​พาหะ​นาน​หลาย​สิบ​ปี​จน​กระทั่ง​กลาย​เป็น​ภัย​คุกคาม​ต่อ​มนุษย์. อย่าง​ไร​ก็​ดี เมื่อ​เริ่ม​มี​การ​สร้าง​ชาน​เมือง​ขึ้น​ตาม​ชาย​ป่า เด็ก​และ​ผู้​ใหญ่​จำนวน​มาก​ขึ้น​ก็​เริ่ม​เข้า​ไป​สู่​ถิ่น​ที่​อยู่​ของ​เห็บ. เห็บ​ก็​เริ่ม​เกาะ​บน​มนุษย์​และ​มนุษย์​ก็​ติด​โรค​ไลม์.

โรค​ภัย​ใน​โลก​ที่​ไม่​มั่นคง

เหตุ​การณ์​ที่​กล่าว​ข้าง​ต้น​เป็น​เพียง​หนึ่ง​ใน​หลาย​ทาง​ที่​ทำ​ให้​โรค​แพร่​ระบาด และ​เป็น​เพียง​ตัว​อย่าง​หนึ่ง​ที่​แสดง​ว่า​การ​กระทำ​ของ​มนุษย์​ส่ง​ผล​ต่อ​การ​เกิด​โรค. นัก​อนุรักษ์​สิ่ง​แวด​ล้อม​ชื่อ​ยู​จีน ลินเดน เขียน​ใน​หนังสือ​ของ​เขา​ชื่อ​อนาคต​ที่​มอง​เห็น​ได้​อย่าง​แจ่ม​ชัด (ภาษา​อังกฤษ) ว่า “โรค​ที่​พัฒนา​ขึ้น​ใหม่​เกือบ​ทุก​โรค​หวน​กลับ​มา​อีก​ก็​เพราะ​มนุษย์​เข้า​ไป​ยุ่ง.” ตัว​อย่าง​อื่น ๆ เช่น: การ​เดิน​ทาง​ใน​สมัย​ใหม่​ซึ่ง​เป็น​ที่​นิยม​กัน​และ​มี​ความ​รวด​เร็ว​มาก​อาจ​ทำ​ให้​เชื้อ​โรค​และ​พาหะ​นำ​โรค​นั้น​แพร่​ไป​ทั่ว​โลก​ได้. ความ​เสียหาย​ต่อ​ถิ่น​ที่​อยู่​ของ​สัตว์​ใหญ่​สัตว์​เล็ก​ล้วน​ทำ​ให้​ความ​หลาก​หลาย​ทาง​ชีวภาพ​ตก​อยู่​ใน​อันตราย. ลินเดน​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “มลพิษ​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​อากาศ​และ​น้ำ ทำ​ให้​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ของ​ทั้ง​สัตว์​และ​มนุษย์​อ่อนแอ​ลง.” เขา​ยก​ข้อ​สรุป​ของ​นาย​แพทย์​เอปสไตน์ ขึ้น​มา​กล่าว ที่​ว่า “โดย​พื้น​ฐาน​แล้ว การ​ที่​มนุษย์​รบกวน​ระบบ​นิเวศ​ได้​ทำ​ให้​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ของ​โลก​อ่อนแอ​ลง และ​ทำ​ให้​เกิด​สภาพ​ที่​เอื้อ​ประโยชน์​แก่​จุล​ชีพ.”

ความ​ไม่​มั่นคง​ทาง​การ​เมือง​นำ​ไป​สู่​สงคราม​ซึ่ง​ทำ​ความ​เสียหาย​ต่อ​ระบบ​นิเวศ และ​ทำลาย​สาธารณูปโภค​ที่​เป็น​พื้น​ฐาน​ของ​การ​รักษา​พยาบาล​และ​การ​แจก​จ่าย​อาหาร. นอก​จาก​นั้น ไบโอบุลเลติน ของ​พิพิธภัณฑ์​ประวัติศาสตร์​ธรรมชาติ​ของ​อเมริกา​ยัง​ชี้​ว่า “ผู้​ลี้​ภัย​ซึ่ง​ขาด​อาหาร​และ​อ่อนแอ​มัก​จำ​ต้อง​อยู่​ใน​ค่าย​ซึ่ง​มี​ผู้​คน​แออัด​และ​มี​สภาพ​ที่​ไม่​ถูก​สุขลักษณะ​ทำ​ให้​ผู้​คน​มี​โอกาส​ติด​เชื้อ​ได้​หลาย​อย่าง.”

ความ​ไม่​มั่นคง​ทาง​เศรษฐกิจ​ทำ​ให้​ผู้​คน​อพยพ​ย้าย​ถิ่น ทั้ง​ที่​ย้าย​ไป​ต่าง​ประเทศ​และ​ภาย​ใน​ประเทศ ซึ่ง​ส่วน​ใหญ่​จะ​ย้าย​เข้า​ไป​อยู่​ใน​เขต​เมือง​ที่​แออัด. ไบโอบุลเลติน อธิบาย​ว่า “เชื้อ​โรค​เจริญ​เติบโต​ได้​ดี​ใน​ที่​ซึ่ง​ผู้​คน​อยู่​กัน​อย่าง​แออัด.” ขณะ​ที่​ประชากร​ใน​เมือง​เพิ่ม​ขึ้น​อย่าง​รวด​เร็ว “บ่อย​ครั้ง​มาตรการ​ด้าน​สาธารณสุข​ที่​จำเป็น​อย่าง​เช่น การ​ให้​การ​ศึกษา​ขั้น​พื้น​ฐาน, โภชนาการ, และ​โครงการ​ฉีด​วัคซีน​ก็​ไม่​สามารถ​ตาม​ได้​ทัน.” การ​ที่​ผู้​คน​อยู่​กัน​อย่าง​แออัด​ยัง​ทำ​ให้​ต้อง​แบก​ภาระ​เพิ่ม​ขึ้น​อีก​ทั้ง​ใน​เรื่อง​น้ำ, สิ่ง​ปฏิกูล, และ​ระบบ​กำจัด​ของ​เสีย ทำ​ให้​การ​รักษา​สภาพ​ที่​ถูก​สุขอนามัย​กลาย​เป็น​เรื่อง​ยาก และ​ใน​เวลา​เดียว​กัน​ก็​ทำ​ให้​เกิด​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​เหมาะ​แก่​การ​แพร่​พันธุ์​ของ​แมลง​และ​พาหะ​นำ​โรค​อื่น ๆ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม สภาพการณ์​ยัง​ไม่​สิ้น​หวัง ดัง​ที่​บทความ​ถัด​ไป​จะ​แสดง​ให้​เห็น.

[คำ​โปรย​หน้า 11]

“โรค​ที่​พัฒนา​ขึ้น​ใหม่​เกือบ​ทุก​โรค​หวน​กลับ​มา​อีก​ก็​เพราะ​มนุษย์​เข้า​ไป​ยุ่ง”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 7]

ไวรัส​เวสต์​ไนล์​จู่​โจม​สหรัฐ

ไวรัส​เวสต์​ไนล์ ซึ่ง​มี​ยุง​เป็น​ตัวการ​สำคัญ​ใน​การ​แพร่​เชื้อ​สู่​มนุษย์ ถูก​ค้น​พบ​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​ปี 1937 ใน​ประเทศ​ยูกันดา​และ​ต่อ​มา​มี​การ​พบ​ไวรัส​ชนิด​นี้​ทาง​ตะวัน​ออก​กลาง, เอเชีย, แถบ​โอเชียเนีย, และ​ยุโรป. ไม่​เคย​พบ​ไวรัส​ชนิด​นี้​ทาง​ซีก​โลก​ตะวัน​ตก​จน​กระทั่ง​ใน​ปี 1999. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ตั้ง​แต่​นั้น​มา มี​รายงาน​ว่า มี​ผู้​ติด​เชื้อ​กว่า 3,000 ราย​ใน​สหรัฐ และ​มาก​กว่า 200 คน​ได้​เสีย​ชีวิต​แล้ว.

คน​ที่​ติด​เชื้อ​ส่วน​ใหญ่​ไม่​รู้​ว่า​ตัว​เอง​ติด​เชื้อ แม้​ว่า​บาง​คน​อาจ​มี​อาการ​คล้าย​เป็น​ไข้หวัด. แต่​มี​อยู่​ไม่​กี่​เปอร์เซ็นต์​ที่​เป็น​โรค​ร้ายแรง รวม​ทั้ง​เป็น​ไข้​สมอง​อักเสบ​และ​ไข​สัน​หลัง​อักเสบ. ขณะ​นี้​ยัง​ไม่​มี​วัคซีน​ป้องกัน​หรือ​รักษา​ไวรัส​เวสต์​ไนล์​โดย​เฉพาะ. ศูนย์​ควบคุม​และ​ป้องกัน​โรค​แห่ง​สหรัฐ​เตือน​ว่า ไวรัส​เวสต์​ไนล์​อาจ​ติด​ต่อ​ได้​โดย​การ​ปลูก​ถ่าย​อวัยวะ​หรือ​การ​ถ่าย​เลือด​จาก​ผู้​บริจาค​ที่​ติด​เชื้อ​ด้วย. สำนัก​ข่าว​รอยเตอร์​รายงาน​ใน​ปี 2002 ว่า “ใน​ปัจจุบัน​ยัง​ไม่​มี​วิธี​ตรวจ​หา​ไวรัส​เวสต์​ไนล์​ใน​เลือด.”

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

CDC/James D. Gathany

[กรอบ/ภาพ หน้า 8, 9]

คุณ​จะ​ป้องกัน​ตัว​เอง​ได้​อย่าง​ไร? สิ่ง​ที่​ควร​ทำ​และ​ไม่​ควร​ทำ

ตื่นเถิด! ได้​ปรึกษา​ผู้​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เขต​ต่าง ๆ ทั่ว​โลก​ซึ่ง​มี​แมลง​และ​มี​โรค​ที่​เกิด​จาก​แมลง​เพื่อ​จะ​ได้​คำ​แนะ​นำ​ใน​เรื่อง​การ​รักษา​สุขภาพ. คุณ​อาจ​พบ​ว่า​คำ​แนะ​นำ​ของ​พวก​เขา​นำ​ไป​ใช้​ได้​ใน​เขต​ที่​คุณ​อาศัย​อยู่.

ความ​สะอาด—การ​ป้องกัน​ด่าน​แรก​ของ​คุณ

ดู​แล​รักษา​บ้าน​ให้​สะอาด​อยู่​เสมอ

“ปิด​ภาชนะ​ที่​ใช้​เก็บ​อาหาร. เก็บ​อาหาร​ที่​ทำ​เสร็จ​แล้ว​ให้​มิดชิด​จน​กว่า​จะ​เสิร์ฟ. ทำ​ความ​สะอาด​บริเวณ​ที่​อาหาร​หก​เปื้อน​ทันที. อย่า​แช่​จาน​ที่​ใช้​แล้ว​ไว้​ค้าง​คืน​หรือ​โยน​ขยะ​ที่​เป็น​เศษ​อาหาร​ไป​นอก​บ้าน​เพื่อ​นำ​ไป​ทิ้ง​ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น. จง​กลบ​หรือ​ฝัง​ขยะ​เหล่า​นั้น เนื่อง​จาก​แมลง​และ​หนู​จะ​ออก​มา​หา​อาหาร​ใน​ตอน​กลางคืน. นอก​จาก​นั้น การ​เท​คอนกรีต​บาง ๆ บน​พื้น​ดิน​จะ​ช่วย​ให้​รักษา​ความ​สะอาด​บ้าน​ได้​ง่าย​ขึ้น​และ​ทำ​ให้​ปลอด​แมลง.”—แอฟริกา.

“เก็บ​ผลไม้​หรือ​สิ่ง​ที่​ล่อ​แมลง​ไว้​นอก​บ้าน. อย่า​ให้​สัตว์​ที่​เลี้ยง​ใน​ฟาร์ม เช่น แพะ, หมู, หรือ​ไก่ เข้า​มา​ใน​บ้าน. ปิด​ห้อง​สุขา​นอก​บ้าน​ให้​มิดชิด. กลบ​มูล​สัตว์​โดย​เร็ว​หรือ​โรย​ปูน​ขาว​ไว้​เพื่อ​ไม่​ให้​แมลงวัน​ตอม. แม้​ว่า​เพื่อน​บ้าน​จะ​ไม่​ทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้ แต่​คุณ​ก็​สามารถ​ควบคุม​จำนวน​แมลง​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง​และ​เป็น​การ​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ด้วย.”—อเมริกา​ใต้.

[รูปภาพ]

การ​ทิ้ง​อาหาร​หรือ​ขยะ​ไว้​โดย​ไม่​ปิด​ก็​เหมือน​เชิญ​แมลง​ให้​มา​กิน​อาหาร​กับ​คุณ

สุขอนามัย​ส่วน​บุคคล

“สบู่​เป็น​ของ​ที่​ไม่​แพง ดัง​นั้น จง​ล้าง​มือ​และ​ซัก​เสื้อ​ผ้า​บ่อย ๆ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​หลัง​จาก​สัมผัส​ผู้​คน​หรือ​สัตว์. พยายาม​อย่า​ถูก​ต้อง​ซาก​สัตว์. อย่า​เอา​มือ​มา​สัมผัส​ปาก, จมูก, และ​ดวง​ตา​ของ​คุณ. ควร​ซัก​เสื้อ​ผ้า​เป็น​ประจำ​แม้​ดู​เหมือน​ว่า​ยัง​สะอาด​อยู่. อย่าง​ไร​ก็​ตาม แมลง​ชอบ​กลิ่น​บาง​ชนิด ดัง​นั้น จง​หลีก​เลี่ยง​สบู่​และ​ผลิตภัณฑ์​ทำ​ความ​สะอาด​ที่​แต่ง​กลิ่น.”—แอฟริกา.

มาตรการ​ป้องกัน

ขจัด​แหล่ง​เพาะ​พันธุ์​ยุง

ปิด​ฝา​แท็งก์​น้ำ​และ​อ่าง​น้ำ. กำจัด​ภาชนะ​ที่​ไม่​มี​ฝา​ปิด​ทั้ง​หมด​ซึ่ง​มี​น้ำ​เข้า​ไป​ขัง​ได้. อย่า​ให้​มี​น้ำ​ขัง​ใน​กระถาง​ต้น​ไม้. ยุง​สามารถ​ขยาย​พันธุ์​ใน​แอ่ง​ใด ๆ ก็​ตาม​ที่​มี​น้ำ​ขัง​อยู่​นาน​กว่า​สี่​วัน.—เอเชีย​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้.

หลีก​เลี่ยง​แมลง​ให้​มาก​ที่​สุด

หลีก​เลี่ยง​การ​ออก​ไป​ใน​เวลา​และ​สถาน​ที่​ที่​แมลง​ชอบ​ออก​หา​กิน. ดวง​อาทิตย์​ตก​เร็ว​ใน​เขต​ร้อน ดัง​นั้น กิจกรรม​ประจำ​วัน​หลาย​อย่าง​จึง​ทำ​กัน​ใน​ตอน​ค่ำ ซึ่ง​เป็น​ช่วง​ที่​มี​แมลง​มาก. การ​นั่ง​หรือ​นอน​หลับ​นอก​บ้าน​ทำ​ให้​คุณ​เสี่ยง​มาก​ขึ้น​เมื่อ​โรค​ที่​มี​แมลง​เป็น​พาหะ​กำลัง​ระบาด.—แอฟริกา.

[รูปภาพ]

การ​นอน​หลับ​นอก​บ้าน​ใน​เขต​ที่​มี​ยุง​ชุม​ก็​เหมือน​เชิญ​พวก​มัน​ให้​กิน​คุณ​เป็น​อาหาร

ใส่​เสื้อ​ผ้า​ที่​ปิด​คลุม​ร่าง​กาย​ให้​มาก​ที่​สุด โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​อยู่​ใน​ป่า. ทา​ยา​กัน​ยุง​ที่​เสื้อ​ผ้า​และ​ผิวหนัง ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ใน​ฉลาก​เสมอ. ตรวจ​ดู​ร่าง​กาย​ของ​คุณ​และ​ลูก ๆ ว่า​มี​เห็บ​ติด​มา​หรือ​ไม่​หลัง​จาก​ออก​ไป​นอก​บ้าน. ดู​แล​สัตว์​เลี้ยง​ให้​มี​สุขภาพ​ดี​และ​อย่า​ให้​มี​หมัด​หรือ​เห็บ.—อเมริกา​เหนือ.

สัมผัส​สัตว์​ที่​เลี้ยง​ใน​ฟาร์ม​ให้​น้อย​ที่​สุด เพราะ​แมลง​อาจ​แพร่​โรค​จาก​สัตว์​เหล่า​นั้น​มา​ยัง​มนุษย์.—เอเชีย​กลาง.

ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ควร​ใช้​มุ้ง ซึ่ง​จะ​ดี​มาก​ถ้า​เป็น​ชนิด​ที่​อาบ​ยา​ฆ่า​แมลง​มา​แล้ว. หน้าต่าง​ควร​มี​มุ้ง​ลวด และ​คอย​ดู​แล​ให้​มุ้ง​ลวด​อยู่​ใน​สภาพ​ดี​เสมอ. ปิด​ช่อง​ใต้​ชายคา​ให้​มิดชิด​ซึ่ง​แมลง​อาจ​เข้า​มา​ได้. มาตรการ​ป้องกัน​เหล่า​นี้​อาจ​ต้อง​เสีย​เงิน​บ้าง แต่​คุณ​จะ​เสีย​เงิน​มาก​กว่า​นั้น​ด้วย​ซ้ำ​ถ้า​คุณ​ต้อง​พา​ลูก​ไป​โรง​พยาบาล​หรือ​ถ้า​ผู้​หา​เลี้ยง​ครอบครัว​เกิด​ล้ม​ป่วย​ทำ​งาน​ไม่​ได้.—แอฟริกา.

[รูปภาพ]

มุ้ง​ที่​อาบ​ยา​ฆ่า​แมลง​ถูก​กว่า​ค่า​ยา​และ​ค่า​โรง​พยาบาล

ขจัด​ที่​ที่​แมลง​ชอบ​ไป​แอบ​ซ่อน​ใน​บ้าน​ของ​คุณ. ฉาบ​ปูน​ที่​ผนัง​และ​เพดาน และ​อุด​รู​รวม​ทั้ง​รอย​แตก​ร้าว​ด้วย. เอา​ผ้า​ที่​กัน​แมลง​ได้​มา​ขึง​ไว้​บน​เพดาน​ใต้​หลังคา​ที่​มุง​ด้วย​จาก. ขจัด​ของ​ที่​ทำ​ให้​ห้อง​รก เช่น กอง​กระดาษ​หรือ​กอง​เสื้อ​ผ้า หรือ​รูป​ภาพ​ที่​แขวน​ไว้​ติด ๆ กัน​บน​ผนัง ที่​ซึ่ง​แมลง​ชอบ​ซ่อน​อยู่.—อเมริกา​ใต้.

บาง​คน​ถือ​ว่า​แมลง​และ​หนู​เป็น​แขก​ประจำ​บ้าน. แต่​มัน​ไม่​ใช่! อย่า​ให้​มัน​เข้า​มา​ใน​บ้าน. ใช้​ยา​ไล่​แมลง​และ​ยา​ฆ่า​แมลง แต่​ต้อง​ทำ​ตาม​คำ​บ่ง​ใช้​ใน​ฉลาก​อย่าง​เคร่งครัด. ใช้​ที่​ดัก​แมลงวัน​และ​ไม้​ตี​แมลงวัน. จง​รู้​จัก​ประดิษฐ์ เช่น ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​เย็บ​ผ้า​เป็น​ถุง​ยาว ๆ ใส่​ทราย​เข้า​ไป และ​นำ​ไป​อุด​ช่อง​ใต้​ประตู​เพื่อ​ไม่​ให้​แมลง​เข้า.—แอฟริกา.

[รูปภาพ]

แมลง​ไม่​ควร​เป็น​แขก​ใน​บ้าน​ของ​เรา. จง​ไล่​มัน​ไป!

วิธี​ป้องกัน​ตัว​เอง

รักษา​ภูมิ​ต้านทาน​ให้​แข็งแรง​เสมอ​โดย​รับประทาน​อาหาร, พักผ่อน​และ​ออก​กำลัง​กาย​ให้​เพียง​พอ. ลด​ความ​เครียด.—แอฟริกา.

นัก​เดิน​ทาง: รู้​ข้อมูล​ล่า​สุด​เกี่ยว​กับ​ความ​เสี่ยง​ใน​การ​ติด​โรค. ขอ​ข้อมูล​ได้​ที่​กระทรวง​สาธารณสุข​และ​เว็บไซต์​ของ​รัฐบาล. ก่อน​ออก​เดิน​ทาง จง​ใช้​มาตรการ​ป้องกัน​ที่​เหมาะ​สม​สำหรับ​พื้น​ที่​ที่​คุณ​จะ​ไป.

ถ้า​คุณ​รู้สึก​ไม่​สบาย

พบ​แพทย์​โดย​เร็ว

โรค​ส่วน​ใหญ่​สามารถ​รักษา​ได้​ง่าย​กว่า​หาก​ตรวจ​พบ​เสีย​แต่​เนิ่น ๆ.

ระวัง​การ​วินิจฉัย​ผิด

หา​แพทย์​ที่​ชำนาญ​ด้าน​โรค​ที่​มี​แมลง​เป็น​พาหะ​และ​โรค​ใน​เขต​ร้อน ถ้า​คุณ​เดิน​ทาง​ไป​ที่​เขต​ร้อน. บอก​แพทย์​ให้​ครบ​ถ้วน​ว่า​คุณ​มี​อาการ​อย่าง​ไร​บ้าง​และ​คุณ​เดิน​ทาง​ไป​ที่​ไหน​มา​บ้าง แม้​แต่​ใน​อดีต. ใช้​ยา​ปฏิชีวนะ​เฉพาะ​เมื่อ​จำเป็น​จริง ๆ และ​ใช้​ให้​ครบ​ตาม​ที่​กำหนด.

[รูปภาพ]

โรค​ที่​เกิด​จาก​แมลง​อาจ​มี​อาการ​คล้าย​กัน​กับ​โรค​อื่น ๆ. จง​เล่า​ให้​แพทย์​ฟัง​อย่าง​ละเอียด​ว่า​คุณ​เดิน​ทาง​ไป​ที่​ไหน​มา​บ้าง

[ที่​มา​ของ​รูปภาพ]

Globe: Mountain High Maps® Copyright © 1997 Digital Wisdom, Inc.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 10]

แมลง​แพร่​เชื้อ​เอช​ไอ​วี​ได้​ไหม?

หลัง​จาก​ตรวจ​สอบ​และ​ค้น​คว้า​วิจัย​มา​กว่า​สิบ​ปี นัก​กีฏวิทยา​และ​นัก​วิทยาศาสตร์​เวชกรรม​ไม่​พบ​หลักฐาน​ว่า​ยุง​หรือ​แมลง​ชนิด​อื่น​ถ่ายทอด​เชื้อ​เอช​ไอ​วี คือ​ไวรัส​เอดส์​ได้.

เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ใน​กรณี​ของ​ยุง ส่วน​ปาก​ของ​มัน​ไม่​เหมือน​กับ​เข็ม​ฉีด​ยา​ซึ่ง​เป็น​ช่อง​ทาง​เดียว​ที่​สามารถ​ฉีด​เลือด​กลับ​ไป​ใหม่​ได้. แต่​ยุง​ดูด​เลือด​เข้า​ทาง​ช่อง​หนึ่ง​แล้ว​ก็​ปล่อย​น้ำลาย​ออก​อีก​ทาง​หนึ่ง. โทมัส ดามาสโซ ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​เชื้อ​เอช​ไอ​วี​ซึ่ง​อยู่​ใน​คณะ​ทำ​งาน​ที่​ดู​แล​ด้าน​สุขภาพ​ระดับ​ภูมิภาค​ใน​เมือง​มอง​กู ประเทศ​แซมเบีย อธิบาย​ว่า ระบบ​ย่อย​อาหาร​ของ​ยุง​จะ​ย่อย​สลาย​เลือด และ​ทำลาย​ไวรัส. เรา​ไม่​พบ​ว่า​มี​เชื้อ​เอช​ไอ​วี​อยู่​ใน​มูล​ยุง. และ​ไม่​เหมือน​เชื้อ​มาลาเรีย เชื้อ​เอช​ไอ​วี​ไม่​เข้า​ไป​ใน​ต่อม​น้ำลาย​ของ​ยุง.

ที่​จะ​ติด​เชื้อ​เอช​ไอ​วี​ได้​นั้น คน​เรา​ต้อง​ได้​รับ​เชื้อ​โรค​จำนวน​มาก. ถ้า​ยุง​ถูก​ขัด​จังหวะ​ขณะ​ที่​กำลัง​ดูด​เลือด และ​มัน​บิน​ไป​เกาะ​อีก​คน​หนึ่ง​ทันที เลือด​ที่​ยัง​อาจ​ค้าง​อยู่​ใน​ส่วน​ปาก​ของ​มัน​ก็​มี​น้อย​จน​ไม่​อาจ​ก่อ​ผล​ใด ๆ ได้. ผู้​เชี่ยวชาญ​กล่าว​ว่า แม้​แต่​การ​ตบ​ยุง​ที่​มี​เชื้อ​เอชไอวี​บน​แผล ก็​จะ​ไม่​ทำ​ให้​ติด​เชื้อ​เอช​ไอ​วี.

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

CDC/James D. Gathany

[ภาพ​หน้า 7]

เห็บ​กวาง (ที่​เห็น​ใน​ภาพ​ขยาย​ด้าน​ขวา) แพร่​โรค​ไลม์​สู่​มนุษย์

ซ้าย​ไป​ขวา: ตัว​เมีย​ที่​โต​เต็ม​วัย, ตัว​ผู้​ที่​โต​เต็ม​วัย, และ​ตัว​อ่อน, ทั้ง​หมด​ขนาด​เท่า​ของ​จริง

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

All ticks: CDC

[ภาพ​หน้า 10, 11]

อุทกภัย, สภาพ​ที่​ไม่​ถูก​สุขลักษณะ, และ​การ​อพยพ​ย้าย​ถิ่น​ของ​มนุษย์​มี​ส่วน​ทำ​ให้​โรค​ที่​มี​แมลง​เป็น​พาหะ​แพร่​ระบาด

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

FOTO UNACIONES (from U.S. Army)