ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เหตุผลที่ผมเชื่อคัมภีร์ไบเบิล—นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์เล่าอัตชีวประวัติ

เหตุผลที่ผมเชื่อคัมภีร์ไบเบิล—นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์เล่าอัตชีวประวัติ

เหตุ​ผล​ที่​ผม​เชื่อ​คัมภีร์​ไบเบิล—นัก​วิทยาศาสตร์​ด้าน​นิวเคลียร์​เล่า​อัตชีวประวัติ

เล่า​โดย​อัลตัน วิลเลียมส์

ใน​ปี 1978 มี​เหตุ​การณ์​สำคัญ​สอง​อย่าง​เกิด​ขึ้น​ใน​ชีวิต​ของ​ผม. ณ วัน​ที่ 1 กันยายน ผม​ได้​รับ​ปริญญา​สาขา​ฟิสิกส์​นิวเคลียร์ และ​ใน​เดือน​ธันวาคม​ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​เผยแพร่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

เมื่อ​ผู้​คน​รู้​ว่า​ผม​เป็น​นัก​วิทยาศาสตร์​ทั้ง​ยัง​เป็น​พยาน​ฯ อีก​ด้วย พวก​เขา​มัก​จะ​แปลก​ใจ​ว่า​ผม​ทำ​ให้​ความ​รู้​ด้าน​วิทยาศาสตร์​เข้า​กัน​ได้​อย่าง​ไร​กับ​ความ​เชื่อ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. จริง​อยู่ ผม​ต้อง​ยอม​รับ​ว่า​ตัว​เอง​ก็​สงสัย​อยู่​หลาย​ปี​ว่า​ความ​รู้​ด้าน​วิทยาศาสตร์​กับ​ความ​เชื่อ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​จะ​สอดคล้อง​กัน​หรือ​ไม่. แต่​ใน​ที่​สุด ผม​ก็​เกิด​ความ​เชื่อ​มั่น​เต็ม​ที่​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​สอดคล้อง​กับ​ข้อ​เท็จ​จริง​ทาง​วิทยาศาสตร์. ผม​สรุป​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? ก่อน​อื่น ขอ​ให้​ผม​เล่า​ความ​เป็น​มา​ที่​ผม​ได้​กลาย​เป็น​นัก​วิทยาศาสตร์.

โครงการ 19 ปี

ผม​เกิด​ปี 1953 ใน​เมือง​แจ็กสัน รัฐ​มิสซิสซิปปี สหรัฐ​อเมริกา เป็น​คน​ที่​สาม​ใน​จำนวน​บุตร 11 คน. ครอบครัว​ของ​เรา​ยาก​จน. เรา​ต้อง​ย้าย​บ้าน​จาก​หลัง​หนึ่ง​ไป​อีก​หลัง​หนึ่ง​กัน​บ่อย ๆ เพราะ​พ่อ​แม่​ไม่​สามารถ​จ่าย​ค่า​เช่า​ได้. อาหาร​ส่วน​ใหญ่​ที่​เรา​กิน​ได้​รับ​มา​จาก​โครงการ​อาหาร​ของ​รัฐ และ​เสื้อ​ผ้า​ที่​เรา​ใส่​ก็​เป็น​เสื้อ​ผ้า​ใช้​แล้ว​ซึ่ง​ได้​จาก​คน​ที่​แม่​ไป​ทำ​ความ​สะอาด​บ้าน​และ​สำนักงาน​ให้.

พ่อ​แม่​ผม​เคย​เตือน​พวก​เรา​บ่อย ๆ ว่า วิธี​เดียว​ที่​จะ​หลุด​พ้น​จาก​ความ​ยาก​จน​ได้​คือ​ต้อง​มี​การ​ศึกษา​สูง. ด้วย​เหตุ​นี้ ผม​ตั้ง​เป้า​ตั้ง​แต่​เป็น​เด็ก​ว่า​จะ​เรียน​ให้​ได้​ปริญญา. ผม​เริ่ม​เข้า​โรง​เรียน​เมื่อ​อายุ​หก​ขวบ และ​เรียน​ต่อ​เนื่อง​ไม่​ขาด​ช่วง​ตลอด 19 ปี. ผม​ชอบ​วิชา​วิทยาศาสตร์​และ​คณิตศาสตร์ ดัง​นั้น พอ​ผม​เข้า​มหาวิทยาลัย ผม​เริ่ม​มุ่ง​มั่น​ที่​จะ​ยึด​อาชีพ​เป็น​นัก​วิทยาศาสตร์.

ระหว่าง​เรียน​ใน​มหาวิทยาลัย ผม​ได้​รู้​จัก​หญิง​สาว​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เดล. ศาสตราจารย์​ภาค​วิชา​วิทยาศาสตร์​ได้​แนะ​เธอ​ให้​มา​พบ​ผม​เพื่อ​ให้​ผม​ช่วย​สอน​วิชา​วิทยาศาสตร์​ที่​เดล​กำลัง​เรียน​อยู่. แต่​ต่อ​มา​ไม่​นาน การ​สนทนา​ของ​เรา​ไป​ไกล​กว่า​เรื่อง​วิทยาศาสตร์ และ​เรา​ชอบ​พอ​รักใคร่​กัน. เรา​แต่งงาน​กัน​เมื่อ​วัน​ที่ 10 มกราคม 1974 ระหว่าง​ช่วง​พัก​เรียน​สอง​ชั่วโมง! สี่​ปี​ต่อ​มา คือ​ใน​ปี 1978 ผม​ก็​ได้​รับ​ปริญญา​เอก​สาขา​ทฤษฎี​ฟิสิกส์​นิวเคลียร์.

ผม​บรรลุ​เป้าหมาย​ตาม​ที่​ผม​คิด​ว่า​เป็น​วิถี​ทาง​สู่​ความ​สำเร็จ. ผม​เป็น​ถึง​นัก​วิทยาศาสตร์​และ​เป็น​นัก​ฟิสิกส์​นิวเคลียร์​ด้วย​ซ้ำ! ด้วย​ปริญญา​สาขา​ทฤษฎี​ฟิสิกส์​นิวเคลียร์​ที่​ผม​เพิ่ง​ได้​รับ ผม​จะ​เริ่ม​เก็บ​เกี่ยว​ผล​ประโยชน์​จาก​การ​ศึกษา​ที่​ร่ำ​เรียน​มา​เป็น​เวลา​หลาย​ปี. ผม​กระตือรือร้น​อยาก​สร้าง​ชื่อเสียง​ให้​ตัว​เอง​ด้าน​วิทยาศาสตร์. นอก​จาก​นั้น ตอน​นี้​ผม​สามารถ​เลือก​งาน​ที่​มี​ข้อ​เสนอ​หลาย​อย่าง ทั้ง​จาก​ภาค​เอกชน​และ​สถาบัน​ของ​รัฐ ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​ผม​มี​ราย​ได้​สูง.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม วัน​ที่ 30 ธันวาคม 1978 เพียง​ไม่​กี่​เดือน​หลัง​จาก​นั้น ผม​ได้​ตัดสิน​ใจ​ทำ​สิ่ง​ซึ่ง​ใน​ไม่​ช้า​ปรากฏ​ว่า​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ชีวิต​และ​อนาคต​ของ​ผม​ยิ่ง​เสีย​กว่า​ตอน​ที่​ผม​เพิ่ง​ได้​รับ​ปริญญา​ใหม่ ๆ. วัน​นั้น​เป็น​วัน​ที่​ผม​ได้​แสดง​สัญลักษณ์​แห่ง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​โดย​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ และ​ผม​จึง​ได้​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร?

หนังสือ​ที่​จุด​ประกาย​ความ​สนใจ​ของ​ผม

ช่วง​ปลาย​ปี 1977 ขณะ​ที่​ผม​ศึกษา​อยู่​ที่​มหาวิทยาลัย​แมสซาชูเซตส์ ใน​เมือง​อัมเฮิสต์ พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอง​คน​ได้​มา​เคาะ​ประตู​อพาร์ตเมนต์​ของ​ผม. ผม​ไม่​อยู่ แต่​ภรรยา​อยู่​บ้าน​กับ​ลูก​ชาย​วัย​สาม​ขวบ​ครึ่ง และ​ลูก​สาว​ที่​เพิ่ง​เกิด​อีก​คน​หนึ่ง. เดล​ได้​เชิญ​พยาน​ฯ สอง​คน​เข้า​ไป​ใน​บ้าน. หลัง​จาก​สนทนา​กัน​อย่าง​เพลิดเพลิน ภรรยา​ผม​อนุญาต​ให้​พยาน​ฯ มา​เยี่ยม​และ​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​เธอ​สัปดาห์​ละ​ครั้ง.

เมื่อ​ภรรยา​บอก​เรื่อง​ที่​เธอ​จะ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​คัดค้าน​ทันที. ผม​ไม่​ว่า​ถ้า​เธอ​อยาก​สมทบ​กับ​ศาสนา​ใด​ศาสนา​หนึ่ง แต่​ต้อง​ไม่​ใช่​พยาน​พระ​ยะโฮวา! อัน​ที่​จริง ผม​ไม่​รู้​อะไร​มาก​นัก​เกี่ยว​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ทว่า ผม​มี​ความ​คิด​อยู่​ก่อน​แล้ว​ว่า​พวก​พยาน​ฯ เป็น​กลุ่ม​แปลก ๆ ที่​ใช้​พระ​คัมภีร์​หลอก​ลวง​ผู้​คน. ดัง​นั้น เพื่อ​ช่วย​ภรรยา​ให้​พ้น​จาก​แรง​ชักจูง​ของ​พวก​พยาน​ฯ ผม​จึง​คิด​จะ​ใช้​ความ​รู้​ด้าน​วิทยาศาสตร์​หักล้าง​คำ​สอน​ของ​เขา.

มี​อยู่​สัปดาห์​หนึ่ง ผม​ปลีก​เวลา​จาก​งาน​วิจัย​ที่​มหาวิทยาลัย​กลับ​มา​บ้าน​เพื่อ​จะ​อยู่​กับ​ภรรยา​ระหว่าง​ที่​เธอ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. แต่​ผม​มา​ถึง​บ้าน​ช้า​กว่า​ที่​ตั้งใจ​ไว้ และ​ผู้​หญิง​ที่​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ก็​จวน​จะ​กลับ​อยู่​แล้ว. เธอ​ให้​หนังสือ​ผม​เล่ม​หนึ่ง​ชื่อ​มนุษย์​เกิด​ขึ้น​มา​โดย​วิวัฒนาการ​หรือ​การ​ทรง​สร้าง? (ภาษา​อังกฤษ) * นอก​จาก​นี้ เธอ​ยัง​บอก​ภรรยา​ผม​ว่า​ใน​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ตาม​ที่​กำหนด​ไว้​สำหรับ​สัปดาห์​หน้า​จะ​พิจารณา​คำ​พยากรณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ปี 1914 เป็น​ปี​สำคัญ. นั่น​ตรง​กับ​ความ​ต้องการ​ของ​ผม​พอ​ดี! ผม​บอก​พยาน​ฯ ว่า​คราว​หน้า​ผม​จะ​อยู่​บ้าน​ร่วม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย. ผม​ต้องการ​ตรวจ​สอบ​ความ​ถูก​ต้อง​เกี่ยว​กับ​การ​คำนวณ​ปี 1914 ซึ่ง​เธอ​จะ​นำ​ขึ้น​มา​พิจารณา.

ใน​คืน​นั้น​เอง​ผม​เริ่ม​อ่าน​หนังสือ​ที่​พยาน​ฯ ให้​ไว้. พูด​ตาม​ตรง เนื้อหา​ใน​หนังสือ​นั้น​ประทับใจ​ผม. แนว​การ​เขียน​ของ​หนังสือ​นี้​ถูก​ต้อง​ตาม​หลัก​เหตุ​ผล และ​มี​ข้อ​อ้างอิง​มาก​มาย​ทาง​วิทยาศาสตร์​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​วิวัฒนาการ. ผม​ต้อง​ประหลาด​ใจ​ที่​เรียน​รู้​ว่า คัมภีร์​ไบเบิล​มี​ข้อมูล​ที่​ถูก​ต้อง​แม่นยำ​เรื่อง​การ​สร้าง​โลก​มาก​ยิ่ง​กว่า​ที่​ผม​เคย​รู้​มา. ผม​ตรวจ​สอบ​หนังสือ​เล่ม​นั้น​เสร็จ​ภาย​ใน​เวลา​สอง​สาม​วัน และ​ต้อง​ยอม​รับ​ว่า​จริง ๆ แล้ว​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​การ​สร้าง​โลก​ไม่​ขัด​แย้ง​กับ​ข้อ​เท็จ​จริง​ทาง​วิทยาศาสตร์​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​กัน​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก.

ตั้งใจ​สืบ​ค้น​เรื่อง​ที่​ขัด​แย้ง​กัน

ถึง​กระนั้น ผม​ยัง​คง​สงสัย​เกี่ยว​กับ​หลัก​คำ​สอน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​ผม​เฝ้า​รอ​วัน​ที่​จะ​ได้​ตรวจ​สอบ​คำ​พยากรณ์​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​ปี 1914 โดย​ทาง​คณิตศาสตร์. ผม​คิด​ว่า การ​ทำ​เช่น​นี้​คง​จะ​สร้าง​ความ​หวาด​หวั่น​ให้​แก่​พยาน​ฯ แน่ ๆ และ​ผม​หวัง​จะ​ช่วย​ภรรยา​ให้​มอง​เห็น​ข้อ​ผิด​พลาด​ใน​หลัก​ข้อ​เชื่อ​ที่​พวก​พยาน​ฯ สอน.

สัปดาห์​ต่อ​มา พยาน​ฯ คน​นั้น​กลับ​มา​พร้อม​กับ​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​ท้องถิ่น​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ผู้​ปกครอง​เป็น​ผู้​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. เขา​พิจารณา​คำ​พยากรณ์​หลาย​ข้อ​ใน​พระ​ธรรม​ดานิเอล​บท 4 และ​บท 9 ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​การ​ปรากฏ​ตัว​ของ​พระ​เยซู​ฐานะ​มาซีฮา​และ​กษัตริย์. ผม​ตั้งใจ​จะ​ดู​ว่า​การ​คำนวณ​ผิด​พลาด​ตรง​จุด​ไหน​บ้าง แต่​กลับ​ไม่​พบ​เลย. ตรง​กัน​ข้าม ผม​เป็น​ฝ่าย​รู้สึก​ประทับใจ​อีก​ครั้ง​เพราะ​ข้อมูล​ที่​มี​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​นั้น​ถูก​ต้อง​ตาม​หลัก​เหตุ​ผล.

กระทั่ง​ถึง​จุด​นี้ ผม​ก็​ยัง​คิด​ว่า​ความ​เชื่อ​เรื่อง​พระเจ้า​ขึ้น​อยู่​กับ​อารมณ์​ความ​รู้สึก​มาก​กว่า​เหตุ​ผล. แต่​ผม​เข้าใจ​ผิด​ถนัด! ผม​ขอบคุณ​พยาน​ฯ สำหรับ​การ​พิจารณา​ที่​ให้​ความ​รู้ และ​ผม​บอก​ว่า​อยาก​จะ​ร่วม​ใน​การ​ศึกษา​สัปดาห์​ต่อ ๆ ไป. นับ​แต่​นั้น ผม​ยัง​คง​ศึกษา​ที่​มหาวิทยาลัย และ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​ฯ พร้อม​กับ​ภรรยา. นอก​จาก​นั้น ทั้ง​ภรรยา​และ​ตัว​ผม​เริ่ม​เข้า​ร่วม​ประชุม​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ณ หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​อีก​ด้วย.

เพียง​ไม่​กี่​เดือน ผม​ได้​เรียน​รู้​ความ​จริง​ใหม่ ๆ หลาย​เรื่อง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล และ​จาก​นั้น​ไม่​นาน ผม​ก็​มี​คุณสมบัติ​จะ​สมทบ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​งาน​เผยแพร่​ตาม​บ้าน. ผม​ทำ​เช่น​นี้​จน​กระทั่ง​ถึง​ช่วง​สุด​ท้าย​ของ​การ​ทำ​ปริญญา​เอก​ที่​มหาวิทยาลัย ซึ่ง​ทำ​ให้​ผม​ต้อง​ใช้​เวลา​มาก​จริง ๆ. ผม​ทำ​วิทยา​นิพนธ์​เสร็จ​ใน​ช่วง​ฤดู​ร้อน​ปี 1978 และ​ย้าย​ไป​ที่​รัฐ​แอละแบมา ซึ่ง​ผม​ได้​เริ่ม​สอน​วิชา​ฟิสิกส์​ใน​มหาวิทยาลัย​แอละแบมา เอ. แอนด์ เอ็ม. ใน​เมือง​ฮันต์สวิลล์. เรา​รีบ​ติด​ต่อ​พยาน​ฯ ใน​ถิ่น​ที่​อยู่​ใหม่​ของ​เรา​ทันที และ​มี​ผู้​ปกครอง​คน​หนึ่ง​พร้อม​กับ​ภรรยา​ได้​มา​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​เรา​ต่อ. สอง​สาม​เดือน​ถัด​ไป ผม​และ​ภรรยา​ได้​รับ​บัพติสมา​ใน​วัน​เดียว​กัน.

ทำ​งาน​เป็น​นัก​วิทยาศาสตร์​และ​ผู้​เผยแพร่

สำหรับ​ผม การ​เป็น​นัก​วิทยาศาสตร์​ปรากฏ​ว่า​ไป​กัน​ได้​กับ​การ​เป็น​พยาน​ของ​พระ​ยะโฮวา. ใน​ปี 1983 ผม​เริ่ม​งาน​ฐานะ​นัก​ดาราศาสตร์​ฟิสิกส์​ที่​ศูนย์​การ​บิน​อวกาศ​จอร์จ ซี. มาร์แชล ของ​นาซา (องค์การ​บริหาร​การ​บิน​และ​อวกาศ​แห่ง​ชาติ) ที่​เมือง​ฮันต์สวิลล์​ด้วย. * ผม​ทำ​งาน​ทั้ง​ใน​ภาค​ทฤษฎี​และ​ภาค​ปฏิบัติ​เกี่ยว​กับ​กล้อง​โทรทรรศน์​รังสี​เอกซ์. (ใน​ปี 1999 ยาน​ขน​ส่ง​อวกาศ​ชื่อ​โคลัมเบีย สามารถ​ส่ง​กล้อง​โทรทรรศน์​ที่​ชื่อ​สถานี​สังเกตการณ์​รังสี​เอกซ์​จันทรา​เข้า​สู่​วงโคจร​ได้​สำเร็จ.) ผม​ชอบ​ทำ​งาน​ใน​โครงการ​นี้ ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​วิเคราะห์​รังสี​เอกซ์​ที่​แผ่​ออก​มา​จาก​ดวง​ดาว​และ​กาแล็กซี​ต่าง ๆ ด้วย​ความ​พยายาม​จะ​เข้าใจ​เอกภพ​ให้​ดี​ขึ้น.

งาน​ของ​ผม​ทำ​ให้​ผม​ชื่นชม​ยินดี​เป็น​ทวีคูณ เพราะ​ผม​ไม่​เพียง​แต่​ทำ​งาน​ที่​น่า​สนใจ​ด้าน​วิทยาศาสตร์ แต่​ยัง​เกิด​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​ลึกซึ้ง​ใน​เรื่อง​อำนาจ​และ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​อีก​ด้วย. ที่​จริง ถ้อย​คำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ผ่าน​ทาง​ผู้​พยากรณ์​ยะซายา​ใน​ยุค​โบราณ​นั้น​มี​ความ​หมาย​ต่อ​ผม​มาก​เป็น​พิเศษ. พระ​ผู้​สร้าง​ตรัส​ดัง​นี้: “จง​เงย​หน้า​ขึ้น​และ​มอง​ดู. ใคร​ได้​สร้าง​สิ่ง​เหล่า​นี้? พระองค์​นั่น​แหละ​ที่​ทรง​นำ​กองทัพ​ของ​สิ่ง​เหล่า​นี้​ออก​มา​ตาม​จำนวน พระองค์​ถึง​กับ​ทรง​เรียก​พวก​มัน​ทั้ง​สิ้น​ตาม​ชื่อ. เนื่อง​ด้วย​พลังงาน​อัน​ล้น​เหลือ อีก​ทั้ง​พระองค์​ทรง​มี​กำลัง​แข็งขัน จึง​ไม่​มี​สัก​หนึ่ง​เดียว​ใน​สิ่ง​เหล่า​นี้​ขาด​ไป.” (ยะซายา 40:26, ล.ม.) ยิ่ง​ผม “เงย​หน้า​ขึ้น” เพื่อ​พินิจ​ดู​ความ​กว้าง​ใหญ่​ไพศาล, ความ​ซับซ้อน, และ​ความ​งดงาม​ของ​เอกภพ ผม​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​หยั่ง​รู้​ค่า​ผล​งาน​ของ​ผู้​ออก​แบบ​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา​ซึ่ง​ได้​สร้าง​สรรพสิ่ง​ทั้ง​ปวง​และ​ตั้ง​กฎ​ควบคุม​สิ่ง​ต่าง ๆ ใน​เอกภพ​ให้​ดำเนิน​ไป​อย่าง​มี​ระเบียบ.

ใน​ช่วง​นั้น ผม​วุ่น​อยู่​กับ​การ​จัด​พิมพ์​ข้อมูล​ข่าวสาร​ใหม่ ๆ ซึ่ง​จะ​ลง​ใน​วารสาร​ทาง​วิทยาศาสตร์​โดย​อาศัย​งาน​วิจัย​ของ​ผม​เกี่ยว​กับ​ดาราศาสตร์​ฟิสิกส์​ด้าน​รังสี​เอกซ์. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​ก็​ยัง​ขยัน​ขันแข็ง​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ด้วย. ผม​รับใช้​ฐานะ​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​และ​ใช้​เวลา​กว่า 20 ชั่วโมง​ทุก​เดือน​เพื่อ​ทำ​งาน​เผยแพร่​แก่​สาธารณชน. ใน​เวลา​เดียว​กัน ภรรยา​ของ​ผม​ก็​เข้า​สู่​งาน​ให้​การ​ศึกษา​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ประเภท​เต็ม​เวลา.

หลัง​จาก​ทำ​งาน​ที่​องค์การ​นาซา​ได้​ราว ๆ สี่​ปี ผม​ปรารถนา​จะ​อุทิศ​เวลา​มาก​ขึ้น​ใน​การ​ทำ​งาน​อาสา​สมัคร​เพื่อ​ช่วย​อีก​หลาย​คน​ให้​มา​เรียน​ความ​จริง​อัน​เยี่ยมยอด​ซึ่ง​พบ​ได้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. ทว่า ผม​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? หลัง​จาก​ได้​หารือ​กับ​ภรรยา และ​ทูล​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ ผม​ตระหนัก​ดี​ว่า​ผม​ต้อง​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​สำคัญ​บาง​อย่าง.

การ​ตัดสิน​ใจ​ครั้ง​สำคัญ

ผม​เข้า​พบ​หัวหน้า​งาน​ที่​ทำ​งาน​ใกล้​ชิด​กับ​ผม​ใน​องค์การ​นาซา​และ​บอก​เขา​ว่า​ผม​ต้องการ​เปลี่ยน​เวลา​ทำ​งาน​จาก​สัปดาห์​ละ​ห้า​วัน​เป็น​สี่​วัน. แน่นอน ผม​จะ​ยอม​รับ​ราย​ได้​ที่​ลด​ลง. ผม​ชี้​แจง​แก่​หัวหน้า​ว่า​ผม​ต้องการ​ใช้​เวลา​สาม​วัน​นอก​นั้น​เพื่อ​ทำ​งาน​เผยแพร่. หัวหน้า​งาน​ตอบ​ตก​ลง แม้​ไม่​เคย​มี​การ​จัด​เตรียม​เช่น​นี้​มา​ก่อน​สำหรับ​นัก​วิทยาศาสตร์​คน​ใด ๆ ที่​ทำ​งาน​ใน​องค์การ​นาซา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เขา​บอก​ผม​ให้​ไป​พูด​กับ​หัวหน้า​ใหญ่​ของ​เขา. ผม​เข้า​พบ​หัวหน้า​ใหญ่​และ​รู้สึก​ประหลาด​ใจ​ทั้ง​ยินดี​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​หัวหน้า​ผู้​มี​ตำแหน่ง​สูง​ตก​ลง​ตาม​ที่​ผม​ขอ​เช่น​กัน. ดัง​นั้น ใน​เดือน​กันยายน 1987 ผม​จึง​เริ่ม​งาน​ประจำ​ชีพ​ฐานะ​เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา ผม​ใช้​เวลา​ใน​การ​ประกาศ​ตาม​บ้าน​และ​ใน​งาน​รับใช้​ด้าน​อื่น ๆ เดือน​ละ​ประมาณ 90 ชั่วโมง.

ต่อ​มา อธิการบดี​มหาวิทยาลัย​แอละแบมา เอ. แอนด์ เอ็ม. ใน​เมือง​ฮันต์สวิลล์​ได้​โทรศัพท์​คุย​กับ​ผม. เขา​เสนอ​ให้​ผม​เป็น​อาจารย์​ใน​ภาค​วิชา​ฟิสิกส์. ผม​ตอบ​ว่า ผม​จะ​รับ​งาน​นั้น​ได้​ต่อ​เมื่อ​ผม​สามารถ​ใช้​เวลา​ส่วน​ใหญ่​ออก​ทำ​งาน​เผยแพร่. แต่​ผม​ก็​รับรอง​กับ​เขา​ว่า กิจกรรม​ใด ๆ ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​งาน​เผยแพร่​จะ​ไม่​ทำ​ให้​คุณภาพ​การ​สอน​ของ​ผม​ลด​ลง. อธิการบดี​ตอบ​ตก​ลง. เวลา​นี้ ผม​ยัง​สอน​ที่​มหาวิทยาลัย​และ​รับใช้​ฐานะ​เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​ด้วย. ผม​ถึง​กับ​มี​เวลา​เรียน​ภาษา​สเปน​ด้วย​ซ้ำ. เวลา​นี้ ผม​กับ​ภรรยา​รับใช้​ใน​ประชาคม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​พูด​ภาษา​สเปน​ใน​เมือง​ฮันต์สวิลล์.

วิทยาศาสตร์​กับ​ความ​เชื่อ

ใน​ช่วง​หลาย​ปี​ที่​ผม​ทำ​การ​ค้นคว้า​ทาง​วิทยาศาสตร์ ผม​ไม่​เคย​พบ​ข้อ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​ข้อ​เท็จ​จริง​ทาง​วิทยาศาสตร์​ที่​ได้​รับ​การ​พิสูจน์​แล้ว​กับ​คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. บ่อย​ครั้ง สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​ขัด​แย้ง​กัน​มัก​เกิด​จาก​การ​ขาด​ความ​รู้ ไม่​ว่า​ด้าน​การ​สอน​ทาง​วิทยาศาสตร์​หรือ​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ไว้​จริง ๆ. ยก​ตัว​อย่าง นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​และ​คน​อื่น ๆ คิด​ผิด​ไป​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ว่า​พืช, สัตว์, และ​มนุษย์​ล้วน​เกิด​ขึ้น​มา​บน​แผ่นดิน​โลก​ภาย​ใน​เวลา​หก​วัน​ซึ่ง​แต่​ละ​วัน​มี 24 ชั่วโมง. เรื่อง​นี้​ย่อม​ขัด​แย้ง​กับ​ข้อ​เท็จ​จริง​ทาง​วิทยาศาสตร์​ซึ่ง​เป็น​ที่​ทราบ​กัน. แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​สอน​เช่น​นั้น. คัมภีร์​ไบเบิล​เปิด​เผย​ว่า “วัน” แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​นั้น​นาน​หลาย​พัน​ปี. *

นอก​จาก​นั้น ความ​สับสน​ยัง​เกิด​จาก​ความ​เข้าใจ​ผิด​ที่​ว่า ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​เป็น​เพียง​ประสบการณ์​ด้าน​อารมณ์​ความ​รู้สึก​เท่า​นั้น. ใน​ทาง​กลับ​กัน ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​อาศัย​ข้อ​เท็จ​จริง​ซึ่ง​สามารถ​พิสูจน์​ได้. ดัง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​นิยาม​ไว้ “ความ​เชื่อ​คือ​ความ​คาด​หมาย​ที่​แน่นอน​ใน​สิ่ง​ซึ่ง​หวัง​ไว้ เป็น​การ​แสดง​ออก​เด่น​ชัด​ถึง​สิ่ง​ที่​เป็น​จริง [หรือ “หลักฐาน​ที่​เชื่อ​ได้,” เชิงอรรถ] ถึง​แม้​ไม่​ได้​เห็น​สิ่ง​นั้น​ก็​ตาม.” (เฮ็บราย 11:1, ล.ม.) ถูก​แล้ว ความ​เชื่อ​ย่อม​อาศัย​หลักฐาน. คำ​พยากรณ์​หลาย​ร้อย​ข้อ​ได้​สำเร็จ​สม​จริง​ทั้ง​ใน​อดีต​และ​ใน​สมัย​ของ​เรา. ด้วย​เหตุ​นี้ แม้​จะ​ใช้​วิธี​การ​ทาง​วิทยาศาสตร์​ซึ่ง​บรรดา​นัก​วิทยาศาสตร์​ใช้​กัน​เพื่อ​ตั้ง​ทฤษฎี​ขึ้น​มา แต่​เรา​มี​ความ​มั่น​ใจ​อย่าง​เต็ม​ที่​ว่า​คำ​พยากรณ์​ต่าง ๆ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​เหตุ​การณ์​ใน​อนาคต​ย่อม​จะ​สำเร็จ​เป็น​จริง.

หนึ่ง​ใน​คำ​พยากรณ์​เหล่า​นั้น​ได้​แก่​คำ​สัญญา​ที่​ว่า เรา​จะ​ชื่นชม​กับ​สภาพ​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก​ได้​ใน​อนาคต​อัน​ใกล้​นี้. ผล​กระทบ​ที่​ยัง​ความ​เสียหาย​ของ​วัย​ชรา, ความ​เจ็บ​ป่วย, ความ​ตาย, สงคราม, และ​ความ​อยุติธรรม​จะ​ไม่​มี​อีก​ต่อ​ไป. (วิวรณ์ 21:3, 4) ครั้น​แล้ว​เรา​ก็​จะ​มี​เวลา​สำรวจ​และ​ศึกษา​อย่าง​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​น่า​พิศวง​ทั้ง​มวล​ที่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ได้​สร้าง​ขึ้น รวม​ทั้ง​กฎ​ต่าง ๆ มาก​มาย​ที่​พระองค์​ทรง​ตั้ง​ไว้​เพื่อ​ควบคุม​เอกภพ​อัน​น่า​สะพรึงกลัว​นี้.

ผม​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ที่​ทรง​ช่วย​ผม​ให้​ค้น​พบ​ทาง​ที่​นำ​ไป​สู่​ความ​สุข​แท้ นั่น​คือ​ความ​จริง​อัน​น่า​มหัศจรรย์​ซึ่ง​พบ​ได้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระองค์. ผม​อธิษฐาน​ขอ​ให้​คน​อื่น​อีก​หลาย​คน รวม​ทั้ง​นัก​วิทยาศาสตร์ ได้​ค้น​พบ​ข้อมูล​อัน​มี​ค่า​ยิ่ง​นี้.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 14 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​ตอน​นี้​งด​พิมพ์​แล้ว.

^ วรรค 22 นาซา​คือ​องค์กร​ของ​รัฐบาล​สหรัฐ​ซึ่ง​ปฏิบัติ​งาน​โดย​ไม่​ขึ้น​กับ​หน่วย​งาน​อื่น​ของ​รัฐบาล.

^ วรรค 30 โปรด​ดู​บท 6 เรื่อง “บันทึก​เก่า​แก่​เรื่อง​การ​ทรง​สร้าง—คุณ​ไว้​ใจ​ได้​ไหม?” ใน​หนังสือ​พระ​ผู้​สร้าง​ผู้​ใฝ่​พระทัย​ใน​ตัว​คุณ​มี​ไหม? จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

[คำ​โปรย​หน้า 14]

ผม​เคย​คิด​ว่า​ความ​เชื่อ​เรื่อง​พระเจ้า​ขึ้น​อยู่​กับ​อารมณ์​ความ​รู้สึก​มาก​กว่า​เหตุ​ผล

[คำ​โปรย​หน้า 16]

ผม​ไม่​เคย​พบ​ข้อ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​ข้อ​เท็จ​จริง​ทาง​วิทยาศาสตร์​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​พิสูจน์​แล้ว​กับ​คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล

[ภาพ​หน้า 15]

ผม​เลี้ยง​ดู​ครอบครัว​ด้วย​การ​สอน​ซึ่ง​ไม่​ต้อง​ทำ​ทุก​วัน

[ภาพ​หน้า 17]

สถานี​สังเกตการณ์​รังสี​เอกซ์​จันทรา​ของ​นาซา​ใน​วงโคจร​และ​ภาพ​รังสี​เอกซ์​ของ​หลุม​ดำ​ใน​ระบบ​ดาว​คู่

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 17]

NASA Photo

NASA/CfA/J. McClintock et al.

[ภาพ​หน้า 17]

ผม​กับ​ภรรยา​เพลิดเพลิน​ใน​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา