ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

สะพานที่ไม่มีใดเหมือนซึ่งทำให้เกาะหนึ่งเปลี่ยนไป

สะพานที่ไม่มีใดเหมือนซึ่งทำให้เกาะหนึ่งเปลี่ยนไป

สะพาน​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน​ซึ่ง​ทำ​ให้​เกาะ​หนึ่ง​เปลี่ยน​ไป

โดย​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! ใน​แคนาดา

เกาะ​ปรินซ์เอดเวิร์ด เกาะ​รูป​จันทร์​เสี้ยว​อัน​เขียว​ชอุ่ม​ที่​ทอด​ตัว​อยู่​ใน​อ่าว​เซนต์​ลอว์เรนซ์​บน​ชายฝั่ง​มหาสมุทร​แอตแลนติก​ของ​แคนาดา เป็น​รัฐ​ที่​เล็ก​ที่​สุด​ของ​แคนาดา. ใน​ศตวรรษ​ที่​สิบ​หก นัก​สำรวจ​ชาว​ฝรั่งเศส​ที่​ชื่อ​ชาก คาร์เทีย พรรณนา​ถึง​เกาะ​นี้​ว่า​เป็น “ดินแดน​ที่​งดงาม​ที่​สุด​เท่า​ที่​อาจ​หา​ดู​ได้.” พลเมือง​กว่า 130,000 คน​เรียก​เกาะ​นี้​ด้วย​ความ​รักใคร่​ว่า “เกาะ” เฉย ๆ เกาะ​ปรินซ์เอดเวิร์ด​ขึ้น​ชื่อ​ใน​เรื่อง​ชาย​หาด​ที่​สะอาด, มันฝรั่ง​ที่​งอก​ขึ้น​ใน​ดิน​สี​แดง​ที่​อุดม​สมบูรณ์, และ​กุ้ง​มังกร​ที่​จับ​ได้​ตาม​ชายฝั่ง. กว่า​หนึ่ง​ศตวรรษ​หลัง​จาก​ที่​เกาะ​นี้​ขึ้น​กับ​แคนาดา​ซึ่ง​เป็น​ประเทศ​ใน​เครือ​จักรภพ​ใน​ปี 1873 มี​การ​เชื่อม​ต่อ​เกาะ​นี้​ไป​ยัง​แผ่นดิน​ใหญ่​ด้วย​สะพาน​สมาพันธรัฐ​ที่​โดด​เด่น​ไม่​เหมือน​ใคร. สะพาน​นี้​มี​ผล​กระทบ​เช่น​ไร​ต่อ​เกาะ​และ​ผู้​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น?

สิ่ง​ที่​แยก​เกาะ​ปรินซ์เอดเวิร์ด​ออก​จาก​แผ่นดิน​ใหญ่​ก็​คือ​ผืน​น้ำ​เล็ก ๆ ซึ่ง​จุด​ที่​ตื้น​และ​แคบ​ที่​สุด​มี​ความ​กว้าง​ประมาณ 13 กิโลเมตร​เท่า​นั้น. กระนั้น ช่องแคบ​นอร์ทอัมเบอร์แลนด์​ซึ่ง​ยาว 300 กิโลเมตร​นี้​มี​ส่วน​ทำ​ให้​ชาว​เกาะ​รู้สึก​ว่า​เขา​ได้​อาศัย​อยู่​ใน​สถาน​ที่​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน ซึ่ง​พวก​เขา​ต่าง​ก็​เทิดทูน​ประวัติศาสตร์, มรดก​ทาง​การ​เกษตร, และ​ความ​สงบ​สุข​ของ​เกาะ​ที่​เป็น​เหมือน​สวน​อัน​สวย​งาม​ของ​ตน.

ใน​เดือน​พฤศจิกายน 1996 สภาพ​การ​แยก​อยู่​ต่าง​หาก​นี้​ก็​เป็น​อัน​สิ้น​สุด​ลง​เมื่อ​ส่วน​สุด​ท้าย​ของ​สะพาน​สมาพันธรัฐ​ถูก​ประกอบ​เข้า​ด้วย​กัน. มี​การ​เปิด​สะพาน​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​ใน​วัน​ที่ 31 พฤษภาคม 1997. นับ​แต่​นั้น​มา ชาว​เกาะ​และ​ผู้​มา​เยือน​ก็​สามารถ​ขับ​รถ​ข้าม​ช่องแคบ​ดัง​กล่าว​ได้​โดย​ใช้​เวลา​ประมาณ 12 นาที ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​สามารถ​ข้าม​ไป​มา​ได้​ตลอด​ทั้ง​ปี.

แต่​อะไร​ดึงดูด​ผู้​คน​ให้​มา​ยัง​เกาะ​ที่​โดด​เดี่ยว​นี้? คำ​ตอบ​ของ​หลาย​คน​คือ เพราะ​หนังสือ​ที่​ชื่อ​แอนน์ ออฟ กรีน เกเบิลส์! ถูก​แล้ว ผู้​ประพันธ์​หนังสือ​ที่​มี​ชื่อเสียง​เล่ม​นี้​คือ ลูซี ม็อด มอนต์โกเมอรี (ปี 1874-1942) จาก​เมือง​คาฟเอนดิช ซึ่ง​บ้าน​ของ​เธอ​ยัง​คง​อยู่​ที่​นั่น. นัก​ท่อง​เที่ยว​มาก​กว่า 200,000 คน​จะ​ไป​เยี่ยม​ชม​บ้าน​หลัง​ดัง​กล่าว​ทุก​ฤดู​ร้อน.

เหตุ​ใด​จึง​เป็น​สะพาน​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน?

ตลอด​ทั่ว​โลก มี​สะพาน​ที่​น่า​ทึ่ง​อยู่​มาก​มาย​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​อัศจรรย์​ทาง​ด้าน​สถาปัตยกรรม​สำหรับ​สมัย​ของ​เรา. ดัง​นั้น อะไร​ทำ​ให้​สะพาน​แห่ง​นี้​คู่​ควร​แก่​การ​กล่าว​ถึง​เป็น​พิเศษ? ไม่​ใช่​เพราะ​เป็น​สะพาน​ที่​ยาว​ที่​สุด​ใน​โลก แต่​มี​การ​กล่าว​อ้าง​ว่า ใน​ช่วง​ฤดู​หนาว นี่​คือ “สะพาน​ข้าม​น้ำ​ที่​ปก​คลุม​ด้วย​น้ำ​แข็ง​ที่​ยาว​ที่​สุด.”

ตาม​ปกติ​แล้ว ช่องแคบ​นอร์ทอัมเบอร์แลนด์​จะ​เต็ม​ไป​ด้วย​น้ำ​แข็ง​ระหว่าง​ช่วง​ฤดู​หนาว​ที่​ยาว​ห้า​เดือน ดัง​นั้น สะพาน​แห่ง​นี้​จึง​ถูก​ออก​แบบ​ให้​ทนทาน​ต่อ​สภาพ​อากาศ​ที่​โหด​ร้าย​เช่น​นั้น. ทาง​ขึ้น​สะพาน​ใน​แผ่นดิน​ใหญ่​อยู่​ที่​เกาะ​จัวริเมน รัฐ​นิวบรันสวิก. จาก​นั้น​จะ​ทอด​ข้าม​ช่องแคบ​และ​สิ้น​สุด​ที่​ชายฝั่ง​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​ที่​เป็น​ผา​หิน​ทราย​ของ​เกาะ​ปรินซ์เอดเวิร์ด ใกล้​กับ​หมู่​บ้าน​เล็ก ๆ ที่​ชื่อ​บอร์เดน. คุณ​อยาก​ลอง​ขับ​รถ​ข้าม​ฝั่ง​โดย​ใช้​ทาง​หลวง​ที่​เป็น​แนว​ยาว​ขนาด​สอง​ช่อง​ทาง​ซึ่ง​กว้าง 11 เมตร​ไหม? ไม่​มี​การ​อนุญาต​ให้​เดิน​หรือ​ขี่​จักรยาน​บน​สะพาน ดัง​นั้น จึง​มี​การ​จัด​เตรียม​รถ​ขน​ส่ง​เพื่อ​นำ​คน​เดิน​เท้า​และ​นัก​ขี่​จักรยาน​ข้าม​ไป. ณ ช่วง​สูง​สุด​ของ​สะพาน คุณ​จะ​อยู่​สูง​ถึง 60 เมตร​เหนือ​ระดับ​น้ำ ซึ่ง​สูง​พอ ๆ กับ​ตึก​ประมาณ 20 ชั้น. ทำไม​จึง​สูง​ขนาด​นั้น? ก็​เพื่อ​จะ​ให้​เรือ​เดิน​สมุทร​แล่น​ผ่าน​ตรง​กลาง​ช่อง​แคบ​ได้.

การ​สร้าง​โดย​คำนึง​ถึง​สิ่ง​แวด​ล้อม

โครงการ​ขนาด​ใหญ่​เช่น​นี้​ต้อง​มี​แผนการ​ประกันภัย​ที่​ซับซ้อน และ​มี​การ​วาง​แผน​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​แวด​ล้อม​เพื่อ​ปก​ป้อง​ระบบ​นิเวศ​รอบ ๆ บริเวณ​นั้น. สิ่ง​ที่​มี​การ​เป็น​ห่วง​มาก​คือ​ผล​กระทบ​ที่​สะพาน​อาจ​จะ​มี​ต่อ​น้ำ​แข็ง​ที่​ไหล​ผ่าน​ช่องแคบ​ใน​ช่วง​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ. การ​ก่อ​ตัว​ของ​น้ำ​แข็ง​อาจ​มี​ผล​กระทบ​อย่าง​ใหญ่​หลวง​ต่อ​ถิ่น​ที่​อยู่​ของ​พืช​และ​สัตว์​ใน​ท้องถิ่น​ทั้ง​บน​บก​และ​ใน​น้ำ และ​ต่อ​อุตสาหกรรม​ประมง. แม้​แต่​สิ่ง​ที่​ขุด​ได้​จาก​ก้น​มหาสมุทร​ก็​ยัง​ถูก​ย้าย​ไป​ไว้​ใน​บริเวณ​ที่​ถูก​เลือก​สรร​เป็น​พิเศษ โดย​หวัง​จะ​สร้าง​ที่​อยู่​อาศัย​ใหม่​ให้​แก่​กุ้ง​มังกร.

เกราะ​ป้องกัน​น้ำ​แข็ง​รูป​กรวย​ที่​ทำ​ด้วย​ทองแดง​ซึ่ง​ติด​ไว้​ที่​เสา​ตอม่อ​แต่​ละ​ต้น ณ ระดับ​น้ำ​ทะเล​นับ​ว่า​เป็น​สิ่ง​ที่​สำคัญ. (ดู​แผน​ภาพ​หน้า 18.) เกราะ​เหล่า​นี้​มี​หน้า​ที่​อะไร? เมื่อ​น้ำ​แข็ง​ลอย​มา​ชน​เกราะ​นี้ น้ำ​แข็ง​จะ​ไถล​ขึ้น​ไป​จน​กระทั่ง​มัน​แตก​ออก​เอง​เพราะ​น้ำหนัก​ของ​มัน. แล้ว​น้ำ​แข็ง​ก็​ร่วง​ลง​สู่​กระแส​น้ำ​และ​ลอย​ผ่าน​ไป​ข้าง ๆ ตอม่อ. เพื่อ​ลด​การ​สะสม​ของ​น้ำ​แข็ง​ที่​ลอย​ผ่าน​ช่องแคบ จึง​มี​การ​ฝัง​ตอม่อ​ลง​ใน​ชั้น​หินดาน​ให้​อยู่​ห่าง​กัน​ราว ๆ 250 เมตร.

ข้อ​ท้าทาย​ใน​การ​ประกอบ​สะพาน

ชิ้น​ส่วน​ขนาด​มหึมา​ของ​สะพาน​นี้​นับ​ว่า​น่า​พรั่นพรึง​ที​เดียว. โครง​สร้าง​พื้น​ฐาน​หลัก ๆ สี่​อย่าง​คือ (1) ฐาน​ตอม่อ​ซึ่ง​ถูก​ฝัง​ติด​กับ​พื้น​ช่องแคบ​บน​ฐาน​ราก​ที่​เตรียม​ไว้​แล้ว​และ​โผล่​ขึ้น​มา​ถึง​ระดับ​ผิว​น้ำ, (2) เสา​ตอม่อ​ซึ่ง​ต่อ​อยู่​บน​ฐาน, (3) คาน​หลัก​ซึ่ง​วาง​อยู่​บน​ยอด​เสา​ตอม่อ, และ (4) ช่วง​สะพาน​ซึ่ง​เชื่อม​อยู่​ระหว่าง​คาน​หลัก. (ดู​แผน​ภาพ​ด้าน​บน.) การ​ก่อ​สร้าง​นี้​ใช้​คน​งาน​มาก​กว่า 6,000 คน และ​งาน​มาก​กว่า 80 เปอร์เซ็นต์​ถูก​ทำ​บน​ชายฝั่ง “ใน​สถาน​ที่​ผลิต​ชิ้น​ส่วน​ที่​มี​ขนาด 375 ไร่​อัน​มหึมา.” ชิ้น​ส่วน​แต่​ละ​ชิ้น​ถูก​ส่ง​จาก​สถาน​ที่​ก่อ​สร้าง​บน​บก​ไป​ยัง​บริเวณ​ที่​มี​การ​ก่อ​สร้าง​ใน​ทะเล​และ​ประกอบ​ขึ้น​ที่​นั่น.

คาน​ที่​ทำ​เสร็จ​แล้ว​วัด​ความ​ยาว​จาก​ปลาย​ข้าง​หนึ่ง​ถึง​ปลาย​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ได้ 192 เมตร. คุณ​อาจ​ถาม​ว่า ‘ชิ้น​ส่วน​ที่​ใหญ่​โต​ขนาด​นี้​จะ​ถูก​ขน​ย้าย​อย่าง​ไร?’ โดย​ใช้​ราง​เลื่อน​แคร่. การ​เห็น​วิธี​ที่​ราง​เลื่อน​นั้น​ทำ​งาน​จะ​ทำ​ให้​คุณ​นึก​ถึง​มด​ตัว​หนึ่ง​ที่​แบก​วัตถุ​ที่​มี​ขนาด​ใหญ่​กว่า​ตัว​มัน​เอง​หลาย​เท่า. การ​ขน​คาน​แต่​ละ​ตัว​ที่​หนัก​ถึง 7,500 ตัน​นั้น​ช่าง​หนัก​หนา​จริง ๆ! เนื่อง​จาก​ราง​เลื่อน​แคร่​จะ​ค่อย ๆ เคลื่อน​ที่​ไป​ตาม​ราง​เหล็ก​ด้วย​ความ​เร็ว​เพียง​สาม​เมตร​ต่อ​นาที มัน​จึง​ไม่​มี​ทาง​ชนะ​การ​วิ่ง​แข่ง​ใด ๆ แน่นอน. ไม่​แปลก​เลย​ที่​ราง​เลื่อน​แคร่​สอง​ตัว​ที่​ใช้​กัน​อยู่​นั้น​จะ​มี​ชื่อ​เล่น​ว่า​เต่า​กับ​กุ้ง​มังกร!

เนื่อง​จาก “มด” เหล่า​นี้​ไม่​ใช่​สัตว์​ครึ่ง​บก​ครึ่ง​น้ำ จึง​มี​การ​นำ​ปั้น​จั่น​ลอย​น้ำ​แบบ​ตัว​เรือ​คู่​ที่​มี​ความ​สูง 102 เมตร​มา​ใช้. ผู้​สื่อ​ข่าว​คน​หนึ่ง​พรรณนา​ถึง​ปั้น​จั่น​ว่า​เป็น “สิ่ง​ที่​ค่อนข้าง​น่า​เกลียด ซึ่ง​มี​คอ​ยาว​และ​มี​เท้า​ใหญ่​โต​เทอะทะ” แต่​ก็ “สง่า​ราว​กับ​หงส์.” ที​แรก มี​การ​สร้าง​ปั้น​จั่น​นี้​ขึ้น​ใน​ปี 1990 เพื่อ​ใช้​ใน​งาน​สร้าง​สะพาน​ระหว่าง​เกาะ​ฟูเนน​กับ​เกาะ​ซี​แลนด์​ของ​เดนมาร์ก จาก​นั้น​ก็​ได้​รับ​การ​บูรณะ​ที่​เมือง​ดังเคิร์ก​ใน​ฝรั่งเศส​และ​ถูก​ส่ง​ข้าม​มา​ที่​นี่. น่า​ทึ่ง​ที่​ว่า ปั้น​จั่น​ที่​ใช้​ยก​ของ​หนัก​นี้ “สามารถ​ยก​ของ​ที่​มี​น้ำหนัก​พอ ๆ กับ​เครื่องบิน​โบอิ้ง 737 ได้​ถึง 30 ลำ​และ​สามารถ​ใช้​งาน​ใน​ทะเล​ใหญ่​ได้​อย่าง​คล่องแคล่ว​แม่นยำ​ราว​กับ​ศัลยแพทย์​ที่​ทำ​การ​ผ่าตัด.” โดย​อาศัย​ระบบ​วิทยุ​นำ​ร่อง​ที่​มี​สถานี​ดาว​เทียม​ช่วย​ใน​การ​ระบุ​ตำแหน่ง ปั้น​จั่น​นี้​จึง​สามารถ​ติด​ตั้ง​คาน​หลัก​และ​ชิ้น​ส่วน​อื่น ๆ ทั้ง​หมด​ได้​อย่าง​แม่นยำ​โดย​คลาดเคลื่อน​น้อย​กว่า​หนึ่ง​นิ้ว.—ดู​ภาพ​หน้า 18.

มี​ผล​กระทบ​เช่น​ไร​ต่อ​เกาะ​นี้?

สะพาน​ใหม่​นี้​เป็น​สัญลักษณ์​แห่ง​ความ​ก้าว​หน้า. อย่าง​ไร​ก็​ตาม สำหรับ​บาง​คน​แล้ว สะพาน​นี้​ได้​ละ​คำ​ถาม​ที่​ยัง​หา​คำ​ตอบ​ไม่​ได้​เกี่ยว​กับ​อนาคต. แม้​ว่า​จะ​ผ่าน​มา​เจ็ด​ปี​แล้ว​หลัง​จาก​ที่​มี​พิธี​เปิด​สะพาน​แห่ง​นี้ คง​ยัง​เร็ว​เกิน​ไป​ที่​จะ​ทำนาย​ว่า อะไร​คือ​ผล​กระทบ​โดย​รวม​ของ​สะพาน โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​เรื่อง​สิ่ง​แวด​ล้อม. ใน​ปี 2002 นัก​วิทยาศาสตร์​ด้าน​กุ้ง​มังกร​รายงาน​ว่า สะพาน​นี้​ดู​เหมือน​ไม่​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​จำนวน​ประชากร​กุ้ง​มังกร. เขา​ยัง​กล่าว​อีก​ว่า “ห้า​ปี​ที่​ผ่าน​มา​เป็น​ช่วง​ที่​ดี​ที่​สุด​สำหรับ​ปู​ใบ้ (Cancer irroratus).” แล้ว​การ​ท่อง​เที่ยว​ล่ะ​ได้​รับ​ผล​กระทบ​เช่น​ไร?

รายงาน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า ระหว่าง​ช่วง​ที่​ผ่าน​มา การ​ท่อง​เที่ยว​เพิ่ม​ขึ้น “อย่าง​ไม่​น่า​เชื่อ​ถึง 61 เปอร์เซ็นต์.” แน่นอน​ว่า นัก​ท่อง​เที่ยว​ส่วน​ใหญ่​จะ​มา​ใน​ช่วง​ฤดู​ร้อน. ยิ่ง​กว่า​นั้น ระหว่าง​ปี 1996 ถึง 2001 การ​ส่ง​ออก​มี​เพิ่ม​ขึ้น​เกือบ​สอง​เท่า. การ​จ้าง​งาน​ก็​เพิ่ม​ขึ้น​ด้วย. ส่วน​ข้อ​เสีย​ก็​คือ หลาย​คน​ที่​เคย​เป็น​ลูกจ้าง​ของ​บริษัท​เรือ​ข้าม​ฟาก​ใน​อดีต​มี​ราย​ได้​ลด​ลง​อย่าง​มาก. ส่วน​บาง​คน​ก็​ร้อง​เรียน​ว่า​ค่า​ผ่าน​ทาง​สูง​เกิน​ไป. แต่​กระนั้น บาง​คน​อาจ​บอก​ว่า ต้อง​ยอม​เสีย​ผล​ประโยชน์​บ้าง​เพื่อ​ความ​ก้าว​หน้า.

การ​เดิน​ทาง​ไป​แผ่นดิน​ใหญ่​ง่าย​ขึ้น​ทำ​ให้​เสน่ห์​ของ​เกาะ​นี้​เปลี่ยน​ไป​ไหม? บาง​คน “จาก​ที่​อื่น” ซึ่ง​มา​เพื่อ​จะ​ชื่นชม​กับ​ความ​สงบ​ของ​เกาะ​นี้​อาจ​สงสัย​ว่า พวก​เขา​จะ​ยัง​คง​พบ​สถาน​ที่​ที่​ปลอด​จาก​ความ​วุ่นวาย​ของ​แผ่นดิน​ใหญ่​ใน​ภูมิทัศน์​ที่​ยัง​เป็น​ธรรมชาติ​กับ​เนิน​ทราย​อเบกวิต หรือ “เปล​ใน​เกลียว​คลื่น” ตาม​ที่​ชน​พื้นเมือง​มิกแมก​เรียก​กัน​ได้​หรือ​ไม่.

ที่​จริง สะพาน​สมาพันธรัฐ​เป็น​ความ​สำเร็จ​ที่​น่า​ประทับใจ​อย่าง​ยิ่ง. คน​ขับ​รถ​จะ​มี​โอกาส​ม่อย​หลับ​ขณะ​ที่​เขา​ขับ​ใน​ระยะ​สั้น ๆ ไหม? คง​ไม่. สะพาน​ที่​ถูก​ออก​แบบ​ให้​เป็น​รูป​ตัว​เอส ยาว ๆ ช่วย​พวก​เขา​ให้​ตื่น​ตัว​และ​สนุก​กับ​การ​ขับ​ขี่. บาง​ที สะพาน​นี้​อาจ​จะ​กระตุ้น​คุณ​ให้​อยาก​มา​เยี่ยม​ชม “สวน​แห่ง​อ่าว” นี้ และ​ลิ้ม​ลอง​วิถี​ชีวิต​ที่​ยัง​คง​สงบ​สุข ไม่​ว่า​คุณ​จะ​ซาบซึ้ง​กับ​หนังสือ​แอนน์ ออฟ กรีน เกเบิลส์ หรือ​ไม่​ก็​ตาม.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 19]

ข้อ​ท้าทาย​ของ​การ​เดิน​ทาง​ใน​ฤดู​หนาว

ไม่​นาน​ผู้​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​ชาว​ยุโรป​ยุค​แรก ๆ ที่​อยู่​บน​เกาะ​ปรินซ์เอดเวิร์ด​ได้​พบ​ว่า​แผ่น​น้ำ​แข็ง​ขนาด​ใหญ่​ที่​ลอย​มา​ทำ​ให้​พวก​เขา​ถูก​ตัด​ขาด​การ​จาก​แผ่นดิน​ใหญ่​เป็น​เวลา​ห้า​เดือน​ทุก​ปี. การ​ข้าม​แพ​น้ำ​แข็ง​ที่​เปลี่ยน​แปลง​อยู่​เสมอ ซึ่ง​มัก​จะ​ถูก​กระแส​ลม​ที่​พัด​รุนแรง​พัด​มา​กอง​รวม​กัน​เป็น​งาน​ที่​ยาก​ลำบาก​อย่าง​ยิ่ง. นั่น​คง​จะ​ทำ​ให้​คน​ขี้​กลัว​ที่​พยายาม​ข้าม​ช่องแคบ​นี้​รู้สึก​ท้อ​ใจ​เป็น​แน่. ผู้​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​พยายาม​ข้าม​ช่องแคบ​นี้​ครั้ง​แรก​ใน​ช่วง​ฤดู​หนาว​ปี 1775 โดย​ใช้​เรือ​แคนู​ลำ​เล็ก ๆ ที่​ติด​คัน​วิ่ง​ซึ่ง​ทำ​ด้วย​ไม้​ยาว​ไว้​ข้าง​ล่าง เป็น​การ​เลียน​แบบ​ชน​พื้นเมือง​เผ่า​มิกแมก. หนังสือ​เชือก​ชูชีพ—เรื่อง​ราว​ของ​เรือ​ข้าม​ฟาก​และ​เรือ​ชายฝั่ง​ใน​แอตแลนติก (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า นับ​จาก​นั้น​เป็น​ต้น​มา ไปรษณีย์​และ​ผู้​โดยสาร​ก็​ข้าม​ช่องแคบ​นี้​เป็น​ประจำ​ตลอด​ช่วง​ฤดู​หนาว แม้​จะ “มี​น้อย​ครั้ง​เต็ม​ที​ที่​มี​ผู้​โดยสาร​ยืน​เข้า​แถว​คอย​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​ที่​จะ​เสี่ยง​ชีวิต​บน​เรือ​ที่​แล่น​บน​น้ำ​แข็ง. เอฟ. เอช. แมกอาเทอร์ กล่าว​ใน​บทความ​เรื่อง​มาริไทม์ แอดโวเคต แอนด์ บีซี อีสต์ ว่า สุภาพสตรี​ที่​จะ​ข้าม​ไป​ต้อง​จ่าย​ค่า​โดยสาร​สอง​เท่า เพราะ​พวก​เธอ​ไม่​ได้​ถูก​คาด​หมาย​ให้​ออก​แรง. ส่วน​ผู้​โดยสาร​ชาย​จะ​ต้อง​เอา​สาย​หนัง​ผูก​ตัว​เอง​ติด​กับ​เรือ ซึ่ง​สาย​หนัง​เหล่า​นี้​มี​ไว้​เพื่อ​จุด​ประสงค์​สอง​อย่าง​คือ เพื่อ​ลาก​เรือ​ไป​บน​น้ำ​แข็ง และ​เพื่อ​ป้องกัน [ผู้​ชาย] ไม่​ให้​จม​ลง​หาก​พวก​เขา​บังเอิญ​ร่วง​ลง​ไป​ใน​น้ำ. เรือ​นี้​มี​ความ​ยาว​ประมาณ 5 เมตร กว้าง 1 เมตร [พร้อม​กับ​มี] หัว​เรือ​ที่​เชิด​ขึ้น​เหมือน​คัน​วิ่ง​ของ​เลื่อน. มี​การ​เสริม​ด้าน​นอก​เรือ​ด้วย​ดีบุก​อย่าง​หนา.” มี​การ​ข้าม​ช่องแคบ​ด้วย​เรือ​ที่​แล่น​บน​น้ำ​แข็ง​เป็น​ครั้ง​สุด​ท้าย​วัน​ที่ 28 เมษายน 1917 หลัง​จาก​ที่​รัฐบาล​ได้​จัด​หา​เรือ​ฝ่า​น้ำ​แข็ง​มา​ซึ่ง​สามารถ​ลุย​ผ่าน​น้ำ​แข็ง​ได้​บ่อย​เท่า​กัน​และ​ปลอด​ภัย​กว่า​เรือ​ที่​แล่น​บน​น้ำ​แข็ง.

[รูปภาพ]

มี​การ​ใช้​เรือ​ที่​แล่น​บน​น้ำ​แข็ง​เพื่อ​ข้าม​ช่องแคบ​นอร์ทอัมเบอร์แลนด์​จน​ถึง​ปี 1917

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Public Archives and Records Office of Prince Edward Island, Accession No. 2301-273

[แผนภูมิ​หน้า 18]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

3 คาน​หลัก 4 ช่วง​สะพาน​ซึ่ง​เชื่อม​อยู่​ระหว่าง​คาน​หลัก

 

2 เสา​ตอ​ม่อ

 

เกราะ​ป้องกัน​น้ำ​แข็ง

 

1 ฐาน​ตอ​ม่อ

[แผนที่​หน้า 16]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

เกาะ​ปรินซ์ เอดเวิร์ด

[ภาพ​หน้า 17]

เกาะ​ปรินซ์เอดเวิร์ด​ดึงดูด​นัก​ท่อง​เที่ยว​นับ​แสน​คน​ทุก​ปี

[ภาพ​หน้า 18]

เอชแอลวี สวาเนน กำลัง​ติด​ตั้ง​คาน​หลัก​บน​เสา​ตอม่อ

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Photo courtesy of Public Works & Government Services Canada and Boily Photo of Summerside

[ภาพ​หน้า 18, 19]

ณ จุด​กึ่งกลาง​สะพาน​มี​ความ​สูง​ประมาณ 60 เมตร​เหนือ​ระดับ​น้ำ​เพื่อ​ให้​เรือ​สามารถ​ผ่าน​ไป​ได้

[ที่​มา​ภาพ​หน้า 17]

Tourism Prince Edward Island/John Sylvester