การช่วยเหลือและการป้องกันเยาวชน
การช่วยเหลือและการป้องกันเยาวชน
นับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้หัวใจแตกสลายเมื่อเด็กสาว—ซึ่งยังเป็นเด็กด้วยซ้ำ—ตั้งครรภ์โดยที่ไม่ได้แต่งงาน. อย่างไรก็ตาม การตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นเป็นปัญหาที่แพร่ระบาดและมีผลกระทบต่อทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง. การตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เป็นเพียงหนึ่งในข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นความถูกต้องแห่งพระบัญชาของพระเจ้าที่ให้ “หลีกหนีจากการล่วงประเวณี.”—1 โกรินโธ 6:18, ฉบับแปล 2002.
กระนั้น บางครั้งเด็กสาวที่ได้รับการสอนแนวทางของพระเจ้าเลือกที่จะเพิกเฉยหรือปฏิเสธสิ่งที่เธอรู้. เธอก้าวเข้าสู่การทำผิดศีลธรรมทางเพศและตั้งครรภ์. คริสเตียนแท้ควรมีปฏิกิริยาอย่างไร? เมื่อเยาวชนที่ออกนอกลู่นอกทางเหล่านั้นแสดงให้เห็นว่าเธอกลับใจจริง ๆ พ่อแม่ของเธอและสมาชิกคนอื่น ๆ ในประชาคมคริสเตียนน่าจะให้การช่วยเหลือและเกื้อหนุนด้วยความรัก.
ขอพิจารณาเรื่องของนิโคลอีกครั้ง. พ่อแม่อบรมเลี้ยงดู
เธอให้เป็นคริสเตียนพยานพระยะโฮวา. ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าทุกข์ใจอย่างยิ่งเมื่อเธอตั้งครรภ์โดยที่ไม่ได้สมรส. กระนั้น นิโคลจำได้ว่า “เพื่อนคริสเตียนได้มาที่บ้านและพยายามสนับสนุนให้ดิฉันศึกษาคัมภีร์ไบเบิลและใกล้ชิดกับพระยะโฮวา.”แน่นอนว่า พยานพระยะโฮวาไม่เห็นชอบกับการประพฤติผิดทางเพศ. แต่พวกเขาทราบว่าผู้กระทำผิดอาจ “เปลี่ยนนิสัยเสียใหม่” ได้โดยการใช้หลักการของคัมภีร์ไบเบิล. (โรม 12:2) พวกเขาเชื่ออย่างมั่นคงว่า พระเจ้าทรงให้อภัยผู้กระทำผิดที่กลับใจ. (เอเฟโซ 1:7) นอกจากนี้ พวกเขายังตระหนักว่า แม้เด็กจะเป็นลูกนอกสมรส แต่เด็กคนนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรผิด. ดังนั้น แทนที่จะรังเกียจเด็ก สมาชิกในประชาคมคริสเตียนจะแสดงความรักใคร่และความเมตตากรุณาต่อเขาเช่นเดียวกับที่แสดงต่อเด็กคนอื่น ๆ.—โกโลซาย 3:12.
มารดาไร้คู่คนหนึ่งเริ่มศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานพระยะโฮวา. เธอตอบรับข่าวสารในคัมภีร์ไบเบิลอย่างรวดเร็วและทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต. เธอกล่าวถึงพยานฯ ว่า “พวกเขาทุกคนแสดงความสนใจอย่างจริงใจในตัวดิฉันและลูก. พวกเขาให้อาหารและเสื้อผ้าเมื่อจำเป็น ทั้งยังให้ความช่วยเหลือทางการเงินด้วย. เมื่อดิฉันมีคุณสมบัติที่จะออกประกาศตามบ้านกับพยานพระยะโฮวา พวกเขาช่วยดูแลลูกให้ดิฉัน. พวกเขาทำทุกสิ่งเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยดิฉันให้พัฒนาความรักแท้ต่อพระยะโฮวา.”
การป้องกัน
กระนั้น นับว่าดีกว่ามากที่จะช่วยเยาวชนให้หลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่แรก. ด้วยเหตุนี้ พยานพระยะโฮวาจึงพยายามสร้างบรรยากาศในครอบครัวให้อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักสำหรับเด็ก ๆ. แทนที่จะใช้วิธีขู่เพื่อทำให้กลัว อย่างเช่น การเน้นถึงอันตรายของโรคเอดส์หรือแม้แต่การตั้งครรภ์ แต่พยานฯ พยายามปลูกฝังให้เยาวชนมีความรักแท้ต่อพระยะโฮวาพระเจ้าและต่อกฎหมายของพระองค์. (บทเพลงสรรเสริญ 119:97) พวกเขาเชื่อว่าเด็ก ๆ จำเป็นต้องได้รับความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องเพศ. ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น พวกเขาเชื่อว่าจำเป็นต้องสอนหลักการทางศีลธรรมในคัมภีร์ไบเบิลให้แก่เด็กตั้งแต่เป็นทารก. (2 ติโมเธียว 3:15) มีการสอนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการที่หอประชุมท้องถิ่นของพยานพระยะโฮวา. อย่างไรก็ตาม บิดามารดาที่เป็นพยานฯ ได้รับการสนับสนุนให้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับบุตรเป็นส่วนตัวด้วย. มีการจัดทำหนังสืออย่างเช่น คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เพื่อช่วยบิดามารดาให้การชี้นำทางศีลธรรมแก่บุตร. *
การติดตามมาตรฐานทางศีลธรรมที่เข้มงวดสวนทางกับกระแสของการผิดศีลธรรมที่แพร่หลายในโลก. แต่นี่เป็นแนวทางชีวิตที่สามารถป้องกันเด็กสาวนับล้านคนไว้จากการตั้งครรภ์ในช่วงวัยรุ่นซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 8 จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.
[ภาพหน้า 12]
คริสเตียนแท้ปฏิบัติต่อมารดาที่ไม่ได้สมรสด้วยความกรุณาและคำนึงถึงความรู้สึก