ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

รับการสอนตั้งแต่เด็กให้รักพระเจ้า

รับการสอนตั้งแต่เด็กให้รักพระเจ้า

รับ​การ​สอน​ตั้ง​แต่​เด็ก​ให้​รัก​พระเจ้า

เล่า​โดย อะนาทอลี เมลนิค

หลาย​คน​มัก​จะ​เรียก​ผม​อย่าง​รักใคร่​ว่า​คุณ​ตา. คำ​นี้​ทำ​ให้​ผม​ตื้นตัน​ใจ​มาก เพราะ​ชวน​ให้​ผม​นึก​ถึง​คุณ​ตา​ของ​ผม​เอง ท่าน​เป็น​ผู้​ที่​ผม​รัก​อย่าง​ยิ่ง​และ​ผม​ยัง​เป็น​หนี้​บุญคุณ​ท่าน​มาก​ที​เดียว. ขอ​ให้​ผม​เล่า​เรื่อง​คุณ​ตา​คุณ​ยาย​และ​อิทธิพล​ใหญ่​หลวง​ที่​ท่าน​มี​ต่อ​ชีวิต​ของ​สมาชิก​ครอบครัว รวม​ถึง​ชีวิต​ของ​อีก​หลาย​คน.

ผม​เกิด​ที่​หมู่​บ้าน​ฮลีนา ทาง​ตอน​เหนือ​ของ​ประเทศ​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​ปัจจุบัน​ว่า​มอลโดวา. * ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1920 มี​ผู้​เดิน​ทาง​เผยแพร่​ที่​ได้​รู้​จัก​กัน​ว่า​พวก​พิลกริม เดิน​ทาง​ข้าม​พรม​แดน​โรมาเนีย​มา​ยัง​ภูมิภาค​ของ​เรา​ซึ่ง​เป็น​เนิน​เขา​ที่​สวย​งาม. คุณ​ตา​และ​คุณ​ยาย​ตอบรับ​ข่าว​ดี​ทันที​เมื่อ​ท่าน​ได้​ฟัง​คำ​สอน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล. ปี 1927 ท่าน​ทั้ง​สอง​มา​เป็น​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ ชื่อ​ที่​เรียก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​สมัย​นั้น. เมื่อ​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​เริ่ม​ขึ้น​ใน​ปี 1939 ที่​หมู่​บ้าน​เล็ก ๆ ของ​เรา​มี​ประชาคม​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อยู่​แล้ว.

ผม​เกิด​ปี 1936 ตอน​นั้น​ญาติ ๆ ทุก​คน​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา ยก​เว้น​พ่อ​เท่า​นั้น​ที่​ยัง​ไป​โบสถ์​ออร์โทด็อกซ์. ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง พ่อ​เริ่ม​ไตร่ตรอง​อย่าง​จริงจัง​เกี่ยว​กับ​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​ชีวิต และ​ใน​ที่​สุด​ท่าน​ก็​ได้​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า พระ​ผู้​สร้าง​ของ​เรา และ​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​ด้วย​การ​จุ่ม​ตัว​มิด​ใน​น้ำ. คุณ​ตา​มี​บทบาท​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​การ​ช่วย​ครอบครัว​ของ​เรา​ให้​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ. ท่าน​มี​ความ​รัก​อัน​แรง​กล้า​ต่อ​คัมภีร์​ไบเบิล และ​จำ​ข้อ​คัมภีร์​หลาย​ร้อย​ข้อ​ได้​ขึ้น​ใจ. ไม่​ว่า​จะ​เป็น​การ​สนทนา​เรื่อง​ใด ๆ ท่าน​ก็​สามารถ​นำ​เรื่อง​นั้น ๆ เข้า​สู่​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​ทุก​เรื่อง.

ผม​มัก​จะ​นั่ง​ตัก​คุณ​ตา​และ​ฟัง​ท่าน​เล่า​เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. ท่าน​ได้​ปลูกฝัง​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​ไว้​ใน​หัวใจ​ของ​ผม. ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​ท่าน​มาก​เหลือ​เกิน! เมื่อ​ผม​อายุ​แปด​ขวบ ผม​ไป​ประกาศ​ครั้ง​แรก​กับ​คุณ​ตา. เรา​ได้​ชี้​ให้​ชาว​บ้าน​ดู​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​พระ​ยะโฮวา​คือ​ผู้​ใด และ​จะ​เข้า​ใกล้​พระองค์​โดย​วิธี​ใด.

กดขี่​จาก​ระบอบ​คอมมิวนิสต์

ปี 1947 ภาย​ใต้​อำนาจ​บังคับ​ตาม​นโยบาย​คอมมิวนิสต์ และ​คริสตจักร​ออร์โทด็อกซ์ เจ้าหน้าที่​บ้าน​เมือง​เริ่ม​ข่มเหง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​มอลโดวา. หน่วย​งาน​หนึ่ง​ที่​ภาย​หลัง​เรียก​ว่า​เค​จี​บี รวม​ทั้ง​ตำรวจ​ท้อง​ที่​ได้​มา​ที่​บ้าน​ของ​เรา แล้ว​ซัก​ถาม​เรา​ว่า​ใคร​นำ​หน้า​ใน​การ​ประกาศ, สรรพหนังสือ​ส่ง​มา​จาก​ไหน, และ​เรา​ประชุม​นมัสการ​พระเจ้า​ที่​ไหน. พวก​เขา​บอก​ว่า​จะ​ต้อง​เลิก​ล้ม​กิจกรรม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ด้วย​การ​อ้าง​ว่า​พยาน​ฯ “ขัด​ขวาง​ความ​ก้าว​หน้า​ของ​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​ใน​ประเทศ.”

เวลา​นั้น พ่อ​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ที่​มี​การ​ศึกษา​ดี​ได้​มา​รัก​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​ลึกซึ้ง​เช่น​กัน. ทั้ง​พ่อ​และ​คุณ​ตา​รู้​ว่า​จะ​ตอบ​ผู้​ซัก​ถาม​อย่าง​ไร​เพื่อ​จะ​ไม่​เผย​ชื่อ​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ของ​เรา. ท่าน​ทั้ง​สอง​เป็น​คน​กล้า​หาญ​และ​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รักใคร่ คอย​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​สวัสดิภาพ​ของ​พี่​น้อง​ร่วม​ความ​เชื่อ. แม่​เป็น​คน​ใจ​เย็น​และ​ควบคุม​อารมณ์​ได้​เสมอ.

ปี 1948 พ่อ​ถูก​จับ​กุม​ตัว​ไป. เรา​ไม่​เคย​ได้​รับ​แจ้ง​เลย​ว่า​พ่อ​ทำ​ความ​ผิด​ด้วย​ข้อ​หา​อะไร. พ่อ​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​เจ็ด​ปี​ใน​เรือน​จำ​ที่​มี​การ​รักษา​ความ​ปลอด​ภัย​อย่าง​เข้มงวด และ​ยัง​ต้อง​โทษ​เนรเทศ​อีก​สอง​ปี. ใน​ที่​สุด พ่อ​ก็​ถูก​ส่ง​ตัว​ไป​ที่​มากาดาน ภูมิภาค​ที่​อยู่​ไกล​ขึ้น​ไป​ทาง​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​ของ​รัสเซีย ห่าง​จาก​บ้าน​เรา 7,000 กว่า​กิโลเมตร. เรา​ไม่​ได้​พบ​กัน​นาน​ถึง​เก้า​ปี. ความ​เป็น​อยู่​ของ​พวก​เรา​ยาก​ลำบาก​มาก​เมื่อ​ไม่​มี​พ่อ​อยู่​ด้วย แต่​คุณ​ตา​เป็น​ผู้​ให้​การ​ช่วยเหลือ​เกื้อกูล​และ​ให้​การ​ชู​ใจ​อย่าง​แท้​จริง.

เนรเทศ​ไป​อยู่​ต่าง​ถิ่น

คืน​วัน​ที่ 6 มิถุนายน 1949 เจ้าหน้าที่​พร้อม​กับ​พล​ทหาร​อีก 2 นาย​ได้​บุก​เข้า​มา​ใน​บ้าน​ของ​เรา. พวก​เขา​สั่ง​เรา​ให้​ออก​จาก​บ้าน​ภาย​ใน​สอง​ชั่วโมง​แล้ว​ไป​ขึ้น​รถ​ของ​เขา. ไม่​มี​การ​ชี้​แจง​ใด ๆ ทั้ง​สิ้น. เขา​เพียง​แต่​บอก​ว่า​พวก​เรา​จะ​ถูก​เนรเทศ​และ​จะ​ไม่​มี​วัน​ได้​กลับ​มา​อีก. ดัง​นั้น ผม​ถูก​ส่ง​ไป​ไซบีเรีย​พร้อม​กับ​แม่, คุณ​ตา​คุณ​ยาย, และ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ. ตอน​นั้น​ผม​อายุ​แค่ 13 ปี. เพียง​ไม่​กี่​สัปดาห์​ต่อ​จาก​นั้น เรา​ก็​มา​ถึง​ที่​ลุ่ม​ชื้น​แฉะ​กลาง​ป่า​สน​ไทกา​ที่​หนา​ทึบ. ที่​นี่​ช่าง​ต่าง​กัน​ลิบลับ​เมื่อ​เทียบ​กับ​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​บ้าน​เกิด​ของ​ผม ซึ่ง​ผม​รัก​มาก! บาง​ครั้ง​เรา​ร้องไห้. ถึง​กระนั้น เรา​เชื่อ​มั่น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ละ​ทิ้ง​พวก​เรา​เป็น​แน่.

หมู่​บ้าน​เล็ก ๆ ที่​พวก​เขา​ส่ง​เรา​ไป​อยู่​นั้น​ประกอบ​ด้วย​กระท่อม​ไม้​ซุง​สิบ​หลัง. พยาน​ฯ บาง​กลุ่ม​ถูก​เนรเทศ​ไป​อยู่​ตาม​หมู่​บ้าน​ต่าง ๆ ทั่ว​ป่า​ไทกา. เพื่อ​จะ​ให้​คน​ใน​ท้องถิ่น​หวาด​กลัว​และ​มี​อคติ​ต่อ​พวก​เรา พวก​เจ้าหน้าที่​ได้​บอก​ชาว​บ้าน​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พวก​กิน​มนุษย์. อย่าง​ไร​ก็​ดี ใน​ไม่​ช้า​ประชาชน​ก็​ตระหนัก​ว่า​นี่​เป็น​เรื่อง​โกหก​และ​ไม่​มี​เหตุ​ผล​จะ​ต้อง​กลัว​พวก​เรา.

หลัง​จาก​พวก​เรา​ไป​ถึง​ที่​นั่น ใน​ช่วง​สอง​เดือน​แรก​เรา​อาศัย​อยู่​รวม​กัน​ใน​กระท่อม​เก่า ๆ หลัง​หนึ่ง. แต่​เรา​ต้อง​สร้าง​ที่​อาศัย​ให้​เหมาะ​และ​ดี​กว่า​เดิม​ก่อน​ที่​ฤดู​หนาว​อัน​แสน​ทารุณ​จะ​มา​ถึง. คุณ​ตา​คุณ​ยาย​ช่วย​ผม​กับ​แม่​ปลูก​กระท่อม​แบบ​ง่าย ๆ ซึ่ง​ส่วน​ครึ่ง​บน​ของ​ตัว​กระท่อม​อยู่​เหนือ​ดิน และ​ส่วน​ครึ่ง​ล่าง​อยู่​ต่ำ​ลง​ไป. เรา​อาศัย​ใน​กระท่อม​หลัง​นี้​สาม​ปี​กว่า. พวก​เรา​ถูก​ห้าม​ออก​จาก​หมู่​บ้าน​ก่อน​ได้​รับ​อนุญาต และ​ก็​ไม่​เคย​ได้​รับ​อนุญาต​สัก​ครั้ง​เดียว.

ใน​เวลา​ต่อ​มา ผม​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ไป​โรง​เรียน. เนื่อง​จาก​ผม​มี​ทัศนะ​ทาง​ศาสนา​ต่าง​ไป​จาก​พวก​เด็ก​อื่น ๆ ใน​โรง​เรียน พวก​ครู​และ​เพื่อน​นัก​เรียน​มัก​จะ​ถาม​ผม​บ่อย ๆ. เมื่อ​ผม​กลับ​มา​บ้าน​เล่า​ให้​คุณ​ตา​ฟัง​ว่า​ผม​อธิบาย​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​อย่าง​ไร แวว​ตา​ของ​ท่าน​ก็​จะ​เปล่ง​ประกาย​ด้วย​ความ​ยินดี.

มี​อิสระ​มาก​ขึ้น​เล็ก​น้อย

หลัง​จาก​สตาลิน​ผู้​เผด็จการ​ถึง​แก่​อสัญกรรม​ใน​ปี 1953 ความ​เป็น​อยู่​ของ​พวก​เรา​กระเตื้อง​ขึ้น​บ้าง. มี​การ​อนุญาต​ให้​เรา​ออก​จาก​หมู่​บ้าน​ได้. ทั้ง​นี้​ทำ​ให้​เรา​มี​โอกาส​คบหา​สมาคม​กับ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​และ​เข้า​ร่วม​ประชุม​ใน​หมู่​บ้าน​ของ​เพื่อน​พยาน​ฯ ที่​ถูก​เนรเทศ​ไป​อยู่​ที่​นั่น. เพื่อ​จะ​ไม่​เป็น​ที่​ผิด​สังเกต เรา​จึง​จัด​ประชุม​เป็น​กลุ่ม​เล็ก. การ​จะ​ไป​ถึง​ที่​นั่น เรา​เดิน​ประมาณ 30 กิโลเมตร บาง​ครั้ง​ก็​ลุย​หิมะ​สูง​ท่วม​เข่า​และ​อุณหภูมิ​ลบ 40 องศา​เซลเซียส.. วัน​รุ่ง​ขึ้น เรา​จะ​เดิน​ทาง​ไกล​กลับ​บ้าน. ระหว่าง​ทาง เรา​กิน​แตงกวา​ดอง​และ​น้ำตาล​สอง​สาม​ก้อน​เล็ก ๆ. กระนั้น เรา​ก็​มี​ความ​ยินดี​ล้น​เหลือ เหมือน​กับ​ที่​ดาวิด​สมัย​โบราณ​ได้​ประสบ!—บทเพลง​สรรเสริญ 122:1.

ใน​ปี 1955 ผม​รับ​บัพติสมา​ซึ่ง​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา. ไม่​นาน​ก่อน​หน้า​นั้น ณ การ​ประชุม​ประชาคม​ใน​หมู่​บ้าน​ใกล้ ๆ ผม​ได้​พบ​ลีดิยา หญิง​สาว​ผม​ดำ ท่า​ทาง​สุภาพ​เรียบร้อย. เธอ​กับ​ครอบครัว​เป็น​พยาน​ฯ ที่​ถูก​เนรเทศ​จาก​มอลโดวา​เหมือน​กับ​เรา. เธอ​ร้อง​เพลง​ได้​ไพเราะ​จริง ๆ และ​ใน​หนังสือ​เพลง​ที่​เรา​ใช้​สมัย​นั้น​มี 337 เพลง เธอ​จำ​เนื้อ​เพลง​ได้​เกือบ​ทั้ง​หมด. เรื่อง​นี้​ประทับใจ​ผม​มาก เพราะ​ผม​เอง​ก็​ชื่น​ชอบ​ดนตรี​และ​บทเพลง​ของ​เรา​อยู่​แล้ว. เรา​ตก​ลง​แต่งงาน​กัน​ใน​ปี 1956.

ผม​เขียน​จดหมาย​ถึง​พ่อ เรา​รู้​มา​ว่า​พ่อ​ถูก​เนรเทศ​ไป​ที่​เมือง​มากาดาน และ​วัน​แต่งงาน​ถูก​เลื่อน​ออก​ไป​จน​กว่า​เรา​ได้​รับ​ความ​เห็น​ชอบ​จาก​ท่าน. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น พ่อ​ได้​รับ​การ​ปล่อย​ตัว​และ​สามารถ​มา​สมทบ​กับ​เรา​ใน​บ้าน​ที่​เรา​อยู่​ระหว่าง​ถูก​เนรเทศ. ท่าน​เล่า​ให้​เรา​ฟัง​ว่า ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​พระเจ้า ท่าน​และ​เพื่อน​คริสเตียน​รอด​พ้น​สภาพการณ์​อัน​เลว​ร้าย​ใน​ค่าย​แรงงาน​มา​ได้​อย่าง​ไร. เรื่อง​ราว​ดัง​กล่าว​เสริม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ให้​มั่นคง.

หลัง​จาก​พ่อ​กลับ​มา​ได้​ไม่​นาน แม่​ประสบ​อุบัติเหตุ​ร้ายแรง​ขณะ​เตรียม​น้ำมัน​สำหรับ​ทาสี​บ้าน​และ​น้ำมัน​ชัก​เงา. หม้อ​เคี่ยว​น้ำมัน​ใบ​ใหญ่​พลิก​คว่ำ น้ำมัน​ใน​หม้อ​หก​ราด​แม่​ทั่ว​ทั้ง​ตัว. แม่​ไป​สิ้น​ใจ​ที่​โรง​พยาบาล. พวก​เรา​เศร้า​โศก​อาลัย​ถึง​ท่าน​เป็น​อย่าง​มาก. ต่อ​มา พ่อ​คลาย​ความ​โศก​เศร้า และ​ใน​ที่​สุด​ท่าน​ก็​แต่งงาน​กับ​ตัตยานา พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​จาก​หมู่​บ้าน​ใกล้ ๆ.

แผ่​ขยาย​งาน​รับใช้​ของ​เรา

ปี 1958 ผม​กับ​ลีดิยา​ได้​ย้าย​จาก​คีซัค หมู่​บ้าน​ที่​เรา​อยู่​ไป​ยัง​หมู่​บ้าน​ลิบไยเย​ที่​ใหญ่​กว่า ห่าง​จาก​ที่​เดิม​ราว ๆ 100 กิโลเมตร. เรา​เคย​อ่าน​พบ​ว่า​คริสเตียน​ใน​ประเทศ​อื่น​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน​เรือน. ฉะนั้น เรา​จึง​พยายาม​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน​ใน​ถิ่น​ใหม่​ของ​เรา. จริง​อยู่ มี​การ​สั่ง​ห้าม​หอสังเกตการณ์ และ​ตื่นเถิด! ทว่า เรา​ได้​รับ​วารสาร​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ลอบ​นำ​เข้า​มา​จาก​ที่​อื่น. ตอน​นี้ เรา​ได้​รับ​แจ้ง​ว่า เรา​จะ​รับ​ได้​แต่​วารสาร​ฉบับ​ภาษา​รัสเซีย​เท่า​นั้น. เท่า​ที่​ผ่าน​มา เรา​ได้​วารสาร​ฉบับ​ภาษา​มอลดาเวีย​ด้วย. ดัง​นั้น เรา​บากบั่น​ตั้งใจ​เรียน​ภาษา​รัสเซีย​มาก​ขึ้น. แม้​ใน​ปัจจุบัน ผม​ไม่​เพียง​แต่​จำ​ชื่อ​บทความ​เหล่า​นั้น​ได้ แต่​จำ​แนว​คิด​หลัก​บาง​อย่าง​ที่​อยู่​ใน​บทความ​เหล่า​นั้น​ได้​ด้วย.

เพื่อ​จะ​ประคับประคอง​ตัว​เอง​ได้ ลีดิยา​จึง​ไป​ทำ​งาน​ที่​ฉาง​เก็บ​ธัญพืช ส่วน​ผม​ก็​ขน​ท่อน​ไม้​ลง​จาก​รถ​บรรทุก. งาน​นี้​ทำ​ให้​ผม​เหน็ด​เหนื่อย​เมื่อย​ล้า และ​ได้​ค่า​จ้าง​ต่ำ​ด้วย. ทั้ง​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​การ​กล่าว​ขาน​ว่า​เป็น​คน​งาน​ที่​ซื่อ​ตรง แต่​เรา​ก็​ไม่​ได้​รับ​สวัสดิการ​หรือ​บำเหน็จ​รางวัล​ใด ๆ. เจ้าหน้าที่​ของ​รัฐ​พูด​ตรง ๆ เลย​ว่า “พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ถูก​นับ​อยู่​ใน​สังคม​คอมมิวนิสต์.” กระนั้น พวก​เรา​ยัง​คง​ชื่นชม​ยินดี​ใน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ซึ่ง​เป็น​จริง​ใน​กรณี​ของ​เรา​ที่​ว่า “เขา​ไม่​อยู่​ฝ่าย​โลก​เหมือน​ข้าพเจ้า​ไม่​อยู่​ฝ่าย​โลก.”—โยฮัน 17:16.

ปัญหา​ใหม่​ที่​เพิ่ม​เข้า​มา

วาเลนตินา ลูก​สาว​ของ​เรา​เกิด​ใน​ปี 1959. จาก​นั้น​ไม่​นาน คลื่น​การ​ข่มเหง​ลูก​ใหม่​ได้​เริ่ม​ขึ้น. สารานุกรม​บริแทนนิกา กล่าว​ดัง​นี้: “นายก​รัฐมนตรี​นิกิตา ครุชชอฟ ได้​เริ่ม​ขบวนการ​ต่อ​ต้าน​ศาสนา​แบบ​ใหม่​ขึ้น​ใน​ปี 1959-1964.” สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ความ​มั่นคง​แห่ง​ชาติ​บอก​พวก​เรา​ว่า เป้าหมาย​ของ​รัฐบาล​โซเวียต​คือ​กำจัด​ทุก​ศาสนา โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

เมื่อ​วาเลนตินา​อายุ​ยัง​ไม่​ถึง​หนึ่ง​ขวบ ผม​ถูก​เกณฑ์​เป็น​ทหาร. ครั้น​ผม​ไม่​ยอม จึง​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​ห้า​ปี​เนื่อง​จาก​การ​รักษา​ความ​เป็น​กลาง. มี​ครั้ง​หนึ่ง เมื่อ​ลีดิยา​มา​เยี่ยม​ผม ตำรวจ​ลับ​ยศ​พัน​เอก​บอก​เธอ​ว่า “เรา​ได้​รับ​แจ้ง​จาก​เครมลิน​ว่า​ภาย​ใน​สอง​ปี​นี้​จะ​ไม่​ให้​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แม้​แต่​คน​เดียว​เหลือ​อยู่​ใน​สหภาพ​โซเวียต.” แล้ว​เขา​ก็​เตือน​ว่า “คุณ​ต้อง​ปฏิเสธ​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ ถ้า​ไม่​อย่าง​นั้น คุณ​จะ​ต้อง​ติด​คุก.” พัน​เอก​คน​นั้น​คิด​ว่า​การ​ข่มขู่​เช่น​นั้น​คง​ทำ​ให้​ผู้​หญิง​ปิด​ปาก​เงียบ โดย​อ้าง​ว่า “ผู้​หญิง​พวก​นี้​อ่อน​ปวกเปียก​ทำ​อะไร​ไม่​ได้​หรอก.”

ภาย​ใน​เวลา​อัน​สั้น ผู้​ชาย​พยาน​ฯ ส่วน​ใหญ่​ก็​ถูก​คุม​ขัง​ใน​คุก​และ​ใน​ค่าย​แรงงาน. กระนั้น สตรี​คริสเตียน​ที่​กล้า​หาญ​ยัง​คง​ทำ​การ​ประกาศ​อย่าง​ต่อ​เนื่อง. และ​พวก​เธอ​ได้​ลอบ​นำ​สรรพหนังสือ​ไป​ให้​พวก​ที่​ถูก​คุม​ขัง​และ​ใน​ค่าย​แรงงาน​อย่าง​ที่​ต้อง​เสี่ยง​อันตราย​มาก. ลีดิยา​ต้อง​เผชิญ​การ​ทดลอง​ต่าง ๆ ดัง​กล่าว. นอก​จาก​นั้น บ่อย​ครั้ง​เธอ​ถูก​พวก​ผู้​ชาย​ฉวย​โอกาส​พยายาม​จะ​ล่วง​เกิน​เธอ​ระหว่าง​ที่​ผม​ติด​คุก. ยิ่ง​กว่า​นั้น มี​คน​บอก​เธอ​ว่า​ผม​จะ​ไม่​มี​วัน​ถูก​ปล่อย​เป็น​อิสระ. แต่​ผม​หลุด​มา​ได้!

การ​ปลด​ปล่อย​และ​ย้าย​ไป​ยัง​คาซัคสถาน

คดีความ​ของ​ผม​ถูก​นำ​ขึ้น​มา​พิจารณา​อีก​ครั้ง​ใน​ปี 1963 และ​ผม​ได้​รับ​การ​ปล่อย​ตัว​หลัง​จาก​ถูก​ขัง​คุก​สาม​ปี. แต่​เรา​ไม่​สามารถ​จะ​ได้​ใบ​อนุญาต​การ​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน ไม่​ว่า​ที่​ไหน​ทั้ง​สิ้น ฉะนั้น ผม​ไม่​สามารถ​จะ​หา​งาน​ได้. กฎหมาย​ของ​รัฐ​กำหนด​ไว้​ว่า “บุคคล​ผู้​ไม่​มี​ใบ​อนุญาต​การ​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​ถาวร ไม่​มี​สิทธิ์​ได้​งาน​ทำ.” ใน​คำ​อธิษฐาน​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​นั้น​เรา​ได้​อ้อน​วอน​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา. ครั้น​แล้ว เรา​ตัดสิน​ใจ​ย้าย​ไป​ที่​เมือง​เปโตรปาฟล์ ทาง​ตอน​เหนือ​ของ​คาซัคสถาน. อย่าง​ไร​ก็​ดี เจ้าหน้าที่​ท้องถิ่น​ได้​รับ​แจ้ง​ล่วง​หน้า​แล้ว​เกี่ยว​กับ​ประวัติ​ของ​พวก​เรา และ​ไม่​อนุญาต​ให้​เรา​อยู่​หรือ​ทำ​งาน​ที่​นั่น. พยาน​ฯ ประมาณ 50 คน​ใน​เมือง​นี้​ถูก​กดขี่​ข่มเหง​เช่น​เดียว​กัน.

เรา​กับ​สามี​ภรรยา​พยาน​ฯ อีก​คู่​หนึ่ง​ได้​ย้าย​ไป​ยัง​ชูชินสค์ เมือง​เล็ก ๆ ทาง​ตอน​ใต้​ซึ่ง​อยู่​ไกล​ออก​ไป​อีก. ไม่​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อาศัย​ใน​เมือง​นี้ และ​เจ้าหน้าที่​ไม่​รู้​เรื่อง​งาน​ประกาศ​ของ​พวก​เรา. ผม​กับ​อีวาน เรา​สอง​คน​ได้​ออก​ไป​หา​งาน​อยู่​หนึ่ง​สัปดาห์ ระหว่าง​นั้น​ภรรยา​ของ​เรา​รอ​อยู่​ที่​สถานี​รถไฟ ซึ่ง​เรา​อาศัย​นอน​ตอน​กลางคืน. ใน​ที่​สุด​เรา​ได้​งาน​ทำ​ที่​โรง​งาน​แก้ว. เรา​เช่า​ห้อง​เล็ก ๆ มี​พื้น​ที่​พอ​สำหรับ​สอง​เตียง​นอน และ​เหลือ​ที่​แคบ ๆ เพียง​เล็ก​น้อย​สำหรับ​สอง​ครอบครัว​ใช้​ร่วม​กัน แต่​เรา​ก็​พอ​ใจ.

ผม​และ​อีวาน​ทำ​งาน​อย่าง​ทุ่มเท และ​นาย​จ้าง​ก็​รู้สึก​พอ​ใจ​มาก. พอ​ถึง​คราว​ที่​ผม​ถูก​เรียก​เข้า​ประจำการ​ใน​กองทัพ​อีก ผู้​จัด​การ​โรง​งาน​รู้​ว่า สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​ผม​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​คง​ไม่​ปล่อย​ให้​ผม​เข้า​ร่วม​ใน​การ​ฝึก​ทหาร. น่า​ประหลาด​ใจ ผู้​จัด​การ​ได้​ติด​ต่อ​เสนาธิการ​ทหาร​บก​และ​บอก​เขา​ว่า​ผม​และ​อีวาน​เป็น​คน​ชำนาญ​งาน และ​ทาง​โรง​งาน​คง​จะ​ดำเนิน​งาน​ต่อ​ไป​ไม่​ได้​หาก​ไม่​มี​เรา​สอง​คน. ดัง​นั้น เรา​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ทำ​งาน​ต่อ​ไป.

เลี้ยง​ดู​บุตร​และ​รับใช้​คน​อื่น

ลูก​สาว​คน​รอง​ของ​เรา​ชื่อ​ลิลยา เกิด​ใน​ปี 1966. หนึ่ง​ปี​ต่อ​มา เรา​ได้​ย้าย​ไป​ที่​เมือง​เบลีเยโวดี ทาง​ใต้​ของ​คาซัคสถาน ใกล้​กับ​ชายแดน​ประเทศ​อุซเบกิสถาน มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​กลุ่ม​เล็ก ๆ ที่​นั่น. ไม่​ช้า​ไม่​นาน​ก็​มี​การ​ตั้ง​ประชาคม​ขึ้น และ​ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​ผู้​เป็น​ประธาน. ปี 1969 เรา​ได้​ลูก​ชาย​ชื่อ​โอลเยก, อีก​สอง​ปี​ถัด​มา เรา​มี​นาตาชา​เป็น​ลูก​สาว​คน​สุด​ท้อง. ผม​กับ​ลีดิยา​ระลึก​อยู่​เสมอ​ว่า​ลูก​เป็น​มรดก​จาก​พระ​ยะโฮวา. (บทเพลง​สรรเสริญ 127:3) เรา​หารือ​กัน​ถึง​เรื่อง​ที่​เรา​ต้อง​ทำ​เพื่อ​อบรม​เลี้ยง​ดู​ลูก ๆ ให้​รัก​พระ​ยะโฮวา.

แม้​ล่วง​เข้า​ทศวรรษ 1970 แล้ว ผู้​ชาย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ส่วน​ใหญ่​ก็​ยัง​คง​อยู่​ใน​ค่าย​แรงงาน. ประชาคม​หลาย​แห่ง​ต้องการ​ผู้​ดู​แล​ที่​มี​ความ​สามารถ​และ​ให้​การ​ชี้​นำ​ได้. ดัง​นั้น ระหว่าง​ที่​ลีดิยา​มี​บทบาท​สำคัญ​ใน​การ​เลี้ยง​ดู​ลูก เธอ​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ทั้ง​พ่อ​และ​แม่​ใน​บาง​ครั้ง​บาง​คราว ผม​ก็​ปฏิบัติ​งาน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง. ผม​เยี่ยม​หลาย​ประชาคม​ใน​สาธารณรัฐ​คาซัคสถาน, สาธารณรัฐ​โซเวียต​ที่​อยู่​ใกล้​เคียง​คือ​ทาจิกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน, และ​อุซเบกิสถาน. ใน​เวลา​เดียว​กัน ผม​ก็​ทำ​งาน​หา​เลี้ยง​ครอบครัว​ไป​ด้วย ทั้ง​ลีดิยา​และ​ลูก ๆ ต่าง​ก็​เต็ม​ใจ​ให้​ความ​ร่วม​มือ​อย่าง​ดี.

แม้​บาง​ครั้ง​ผม​ต้อง​จาก​บ้าน​นาน​หลาย​สัปดาห์ แต่​ใน​ฐานะ​เป็น​พ่อ ผม​พยายาม​แสดง​ความ​รัก​และ​ห่วงใย และ​สนับสนุน​ลูก ๆ เพื่อ​ความ​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ. ผม​กับ​ลีดิยา​อธิษฐาน​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า ทูล​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ลูก ๆ ของ​เรา และ​เรา​พูด​คุย​กับ​ลูก​ถึง​วิธี​ที่​จะ​เอา​ชนะ​การ​กลัว​หน้า​มนุษย์ และ​พัฒนา​ความ​สัมพันธ์​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​พระเจ้า. ถ้า​ผม​ไม่​ได้​การ​สนับสนุน​อย่าง​ใจ​กว้าง​จาก​ภรรยา​ที่​น่า​รัก ผม​ก็​คง​ไม่​สามารถ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​การ​งาน​ฐานะ​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ให้​บรรลุ​ผล​ได้. ลีดิยา​และ​พี่​น้อง​หญิง​พยาน​ฯ คน​อื่น ๆ ไม่​ใช่ “คน​ที่​อ่อน​ปวกเปียก​ทำ​อะไร​ไม่​ได้” อย่าง​ที่​นาย​ทหาร​คน​นั้น​อ้าง. พี่​น้อง​หญิง​เหล่า​นี้​ทรหด​อด​ทน มี​พละกำลัง​ฝ่าย​วิญญาณ​มาก​จริง ๆ!—ฟิลิปปอย 4:13.

ปี 1988 เมื่อ​ลูก​ทุก​คน​โต​กัน​หมด​แล้ว ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ประจำ. หมวด​ที่​ผม​เยี่ยม​ประจำ​เป็น​ประเทศ​ต่าง ๆ ใน​เอเชีย​กลาง​เกือบ​ทั้ง​หมด. หลัง​จาก​งาน​ประกาศ​เผยแพร่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​การ​รับรอง​ตาม​กฎหมาย​ใน​ประเทศ​อดีต​สหภาพ​โซเวียต​เมื่อ​ปี 1991 ผู้​ชาย​คน​อื่น ๆ ที่​อาวุโส​ฝ่าย​วิญญาณ​และ​มี​ความ​สามารถ​ก็​เริ่ม​ต้น​ทำ​งาน​รับใช้​ใน​สาธารณรัฐ​ทาง​แถบ​เอเชีย ซึ่ง​ประเทศ​เหล่า​นี้​เคย​ขึ้น​อยู่​กับ​อดีต​สหภาพ​โซเวียต. ปัจจุบัน มี​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง 14 คน​รับใช้​ใน​ประเทศ​เหล่า​นี้ และ​เมื่อ​ปี​กลาย​มี​มาก​กว่า 50,000 คน​ที่​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​อนุสรณ์​ระลึก​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์!

การ​เชิญ​ที่​ไม่​ได้​คาด​หมาย

ช่วง​ต้น​ปี 1998 ผม​ได้​รับ​โทรศัพท์​จาก​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​รัสเซีย. มี​การ​ถาม​ผม​ว่า “คุณ​อะนาทอลี คุณ​กับ​ภรรยา​คิด​ที่​จะ​ทำ​งาน​รับใช้​ประเภท​เต็ม​เวลา​ไหม?” จริง​อยู่ เรา​เคย​คิด​ถึง​สิทธิ​พิเศษ​เช่น​นี้​สำหรับ​ลูก​ของ​เรา. อัน​ที่​จริง โอลเยก​ลูก​ชาย​ก็​ได้​เข้า​ไป​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา​รัสเซีย​ประมาณ​ห้า​ปี​แล้ว.

เมื่อ​ผม​บอก​ลีดิยา​เรื่อง​คำ​เชิญ​ที่​เสนอ​ให้​เรา เธอ​ถาม​ว่า “แต่​บ้าน​ของ​เรา, สวน​ของ​เรา, และ​ข้าวของ​ต่าง ๆ ของ​เรา​ล่ะ?” หลัง​จาก​ได้​อธิษฐาน​และ​หารือ​กัน เรา​ตัดสิน​ใจ​ว่า​เรา​จะ​อยู่​พร้อม​และ​เต็ม​ใจ​รับ​เอา​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​นี้. ใน​ที่​สุด เรา​ก็​ได้​รับ​เชิญ​ไป​รับใช้​ที่​ศูนย์​ศาสนา​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เมือง​อิสเซก สาธารณรัฐ​คาซัคสถาน ใกล้​อัลมา-อะทา​ซึ่ง​เป็น​เมือง​ใหญ่. งาน​ที่​ทำ​กัน​ที่​นี่​คือ​การ​แปล​สรรพหนังสือ​ของ​เรา​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เป็น​ภาษา​ถิ่น​ที่​พูด​กัน​ทั่ว​ภูมิภาค​นั้น.

ครอบครัว​ของ​เรา​ใน​ปัจจุบัน

พวก​เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​พระเจ้า​มาก​เพียง​ใด​ที่​พระองค์​ทรง​ช่วย​เรา​ใน​การ​สอน​ความ​จริง​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​ลูก ๆ ของ​เรา! วาเลนตินา ลูก​สาว​คน​โต​แต่งงาน​แล้ว เธอ​กับ​สามี​ย้าย​ไป​ที่​อิงเงิลไฮม์ เยอรมนี​ใน​ปี 1993. ทั้ง​สอง​มี​ลูก​สาม​คน ลูก​ทุก​คน​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​รับ​บัพติสมา​แล้ว.

ลิลยา ลูก​สาว​คน​รอง​มี​ครอบครัว​แล้ว​เหมือน​กัน. เธอ​กับ​สามี​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​เบลีเยโวดี ก็​ได้​อบรม​เลี้ยง​ดู​ลูก​ชาย​สอง​คน​ให้​รัก​พระเจ้า. โอลเยก​แต่งงาน​กับ​นาตาชา สตรี​คริสเตียน​พยาน​ฯ จาก​มอสโก, ทั้ง​สอง​รับใช้​ด้วย​กัน​ที่​สำนักงาน​สาขา​รัสเซีย​ใกล้​กรุง​เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก. ปี 1995 นาตาชา​ลูก​สาว​คน​เล็ก​แต่งงาน และ​เวลา​นี้​เธอ​กับ​สามี​รับใช้​ใน​ประชาคม​ภาษา​รัสเซีย​ที่​ประเทศ​เยอรมนี.

บาง​โอกาส เรา​มัก​จะ​รวม​ญาติ​พบ​กัน​เป็น​ครอบครัว​ใหญ่. ลูก​ของ​เรา​มัก​จะ​เล่า​ให้​ลูก ๆ ของ​เขา​ฟัง​ถึง​วิธี​ที่ “พ่อ” และ “แม่” เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา​และ​อบรม​เลี้ยง​ดู​ลูก​ของ​ท่าน​ให้​รัก​และ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เที่ยง​แท้. ผม​เห็น​ว่า​การ​พูด​คุย​กัน​แบบ​นี้​ช่วย​หลาน​ของ​เรา​วัฒนา​ขึ้น​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. หลาน​ชาย​คน​เล็ก​สุด​นี้​เหมือน​ผม​ตอน​เป็น​เด็ก. บาง​ครั้ง​หลาน​ก็​ขึ้น​มา​นั่ง​บน​ตัก และ​ขอ​ให้​ผม​เล่า​เรื่อง​ใน​พระ​คัมภีร์​ให้​ฟัง. ผม​กลั้น​น้ำตา​ไว้​ไม่​ได้​เมื่อ​นึก​ถึง​ตอน​ที่​ผม​ขึ้น​ไป​นั่ง​บน​ตัก​คุณ​ตา และ​การ​ที่​ท่าน​ได้​ช่วย​ผม​ให้​มี​ความ​รัก​และ​รับใช้​พระ​ผู้​สร้าง​องค์​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​เรา.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 4 ชื่อ​ประเทศ​มอลโดวา​ที่​ใช้​กัน​อยู่​ใน​ปัจจุบัน​จะ​ปรากฏ​ตลอด​บทความ​นี้ แทน​ชื่อ​มอลดาเวีย​ใน​อดีต​หรือ​สาธารณรัฐ​มอลดาเวีย.

[ภาพ​หน้า 11]

ถ่าย​กับ​พ่อ​แม่​ของ​ผม​ข้าง​นอก​บ้าน​ใน​มอลโดวา ไม่​นาน​ก่อน​พ่อ​ถูก​จำ​คุก

[ภาพ​หน้า 12]

กับ​ลีดิยา ระหว่าง​ถูก​เนรเทศ​ปี 1959

[ภาพ​หน้า 13]

ลีดิยา​กับ​วาเลนตินา​ลูก​สาว ขณะ​ที่​ผม​อยู่​ใน​คุก

[ภาพ​หน้า 15]

กับ​ลีดิยา​ใน​ปัจจุบัน

[ภาพ​หน้า 15]

กับ​ลูก​หลาน​ของ​เรา ซึ่ง​ทุก​คน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา!