ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ตามที่จารึกนั้นฉันจะได้พบพ่อ

ตามที่จารึกนั้นฉันจะได้พบพ่อ

ตาม​ที่​จารึก​นั้น​ฉัน​จะ​ได้​พบ​พ่อ

เล่า​โดย​โรซาเลีย ฟิลลิปส์

“คุณ​จะ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ครั้ง​ยิ่ง​ใหญ่! ความ​สามารถ​พิเศษ​ของ​คุณ​จะ​พา​คุณ​ไป​สู่​ความ​สำเร็จ!” ขณะ​ที่​นั่ง​อยู่​ข้าง​เปียโน วาทยกร​ประจำ​วง​ของ​เรา​กล่าว​ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​กับ​ฉัน​เพียง​เสี้ยว​นาที​ก่อน​ม่าน​เวที​เปิด. นัก​ร้อง​อีก​สี่​คน​ใน​วง​ให้​สัญญาณ​ต้อนรับ​ฉัน. ฉัน​อยู่​ใน​ชุด​กระโปรง​ยาว​สี​แดง ปัก​เลื่อม​แพรว​พราย​เป็น​นัก​ร้อง​ใหม่​ล่า​สุด​ใน​วง. ฉัน​ประหม่า​และ​ตื่นเต้น​มาก. ที่​นี่ ณ โรง​ละคร​ที่​เด่น​ดัง​ที่​สุด​โรง​หนึ่ง​ใน​กรุง​เม็กซิโก​ซิตี ฉัน​ปรากฏ​ตัว​ครั้ง​แรก​เพื่อ​ก้าว​เข้า​สู่​วงการ​ธุรกิจ​บันเทิง! ตอน​นั้น​เป็น​เดือน​มีนาคม 1976 อีก​เดือน​เดียว​ฉัน​จะ​อายุ​ครบ 18 ปี.

พ่อ​ฉัน​เสีย​ชีวิต​ไป​เมื่อ​สาม​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น และ​ใน​ความ​คิด​จิตใจ​ของ​ฉัน​ยัง​ไม่​วาย​ระลึก​ถึง​พ่อ​เสมอ. ผู้​คน​ทั่ว​ไป​ก็​ยัง​จำ​ท่าน​ได้​ดี​เช่น​กัน. ท่าน​เป็น​คน​ที่​ใคร ๆ ก็​รัก​และ​นิยม​ชม​ชอบ​เนื่อง​จาก​ท่าน​เป็น​นัก​แสดง​ตลก​ชาย​อันดับ​ต้น ๆ ของ​ประเทศ โดย​แสดง​ภาพยนตร์​มาก​กว่า 120 เรื่อง​ระหว่าง​ช่วง​ที่​รู้​กัน​ว่า​เป็น​ยุค​ทอง​แห่ง​ภาพยนตร์​เม็กซิโก. ชื่อ​ของ​พ่อ เคอร์มัน บัลเดส หรือ “ทิน-ทัน” มัก​ปรากฏ​หรา​อยู่​หน้า​โรง​ละคร​ทั่ว​อเมริกา​กลาง​และ​อเมริกา​ใต้ รวม​ทั้ง​สหรัฐ​และ​ยุโรป​ใน​ท้องถิ่น​ที่​ผู้​คน​พูด​ภาษา​สเปน. แม้​แต่​ทุก​วัน​นี้ ทั้ง ๆ ที่​พ่อ​เสีย​ชีวิต​ไป​นาน​กว่า 30 ปี​แล้ว ก็​ยัง​มี​การ​นำ​ภาพยนตร์​ที่​พ่อ​แสดง​ออก​มา​ฉาย​ซ้ำ​ทาง​โทรทัศน์​หลาย​ต่อ​หลาย​ครั้ง.

ตั้ง​แต่​ฉัน​เป็น​เด็ก​ตัว​เล็ก ๆ บ้าน​ของ​ฉัน​มัก​เป็น​ที่​พบ​ปะ​ชุมนุม​กัน​ของ​คน​มี​ชื่อเสียง. แม่​กับ​น้า​สาว​ของ​ฉัน​รวม​ตัว​กัน​ตั้ง​วง​นัก​ร้อง​ประสาน​เสียง​สาม​คน​ชื่อ ลัส เออร์มานีตัส คูเลียน (สาม​สาว​คูเลียน). คูลีโอ คูเลียน น้อง​ชาย​ของ​แม่​เป็น​นัก​ร้อง​โอเปร่า​เสียง​เทเนอร์​ที่​โด่งดัง​ใน​ยุโรป ส่วน​กอนชีตา โดมิงเกซ ภรรยา​ชาว​สเปน​เป็น​นัก​ร้อง​เสียง​โซปราโน. ยิ่ง​กว่า​นั้น น้อง​ชาย​สอง​คน​ของ​พ่อ​คือ มานูเอล บัลเดส หรือ “โลโก” (คน​บ้า) กับ รามอน บัลเดส หรือ​รู้​จัก​กัน​ดี​ว่า ดอน รา​มอน เป็น​นัก​แสดง​ตลก​ทาง​โทรทัศน์​ที่​มี​ชื่อเสียง.

โรง​ถ่าย​ทำ​ภาพยนตร์, โรง​ละคร, และ​ห้อง​อัดเสียง​ล้วน​เป็น​สถาน​ที่​ที่​ฉัน​กับ​คาร์ลอส​พี่​ชาย​เห็น​จน​ชิน​ตา เนื่อง​จาก​พ่อ​พา​พวก​เรา​ไป​บ่อย ๆ เวลา​ที่​ท่าน​ไป​ทำ​งาน​และ​ตระเวน​แสดง​ละคร​ใน​ที่​ต่าง ๆ นี่​แหละ​เป็น​วิธี​ที่​พ่อ​ทำ​ให้​ครอบครัว​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน. ช่าง​แตกต่าง​กัน​เสีย​จริง ๆ ระหว่าง​โลก​มายา​ที่​มี​แต่​ความ​ไม่​จริง​ใจ​กับ​บ้าน​ของ​เรา​ซึ่ง​ความ​สามัคคี​กลมเกลียว​และ​ความ​รัก​แผ่​ซ่าน​ไป​ทั่ว! ฉัน​จำ​ได้​ว่า​พ่อ​เป็น​คน​มี​ใจ​เมตตา, เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก, กระปรี้กระเปร่า, และ​ชื่นชม​กับ​ชีวิต. ท่าน​เป็น​คน​โอบอ้อม​อารี​อย่าง​ยิ่ง บาง​ครั้ง​เผื่อแผ่​มาก​เกิน​ควร​ด้วย​ซ้ำ. ท่าน​สอน​ฉัน​ว่า​ความ​สุข​ไม่​ได้​อยู่​ที่​การ​มี​ทรัพย์​สมบัติ แต่​อยู่​ที่​การ​ให้.

การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​ก่อ​ความ​เศร้า​สลด

ใกล้​สิ้น​ปี 1971 แม่​บอก​ข่าว​ร้าย​แก่​ฉัน​และ​พี่​ชาย​ว่า พ่อ​ได้​รับ​การ​วินิจฉัย​ว่า​ป่วย​เป็น​โรค​ที่​ไม่​มี​ทาง​เยียว​ยา​ได้. เป็น​เวลา​ปี​ครึ่ง​ที่​ฉัน​เฝ้า​มอง​ท่าน​ทน​ทุกข์​ทรมาน ขณะ​เมื่อ​ท่าน​พยายาม​ต่อ​สู้​ฤทธิ์​ยา​ที่​ใช้​ใน​การ​บำบัด​รักษา.

ฉัน​ยัง​จำ​วัน​นั้น​ได้​เมื่อ​รถ​พยาบาล​มา​ที่​บ้าน และ​รับ​พ่อ​ไป. ฉัน​รู้​ว่า​พ่อ​จะ​ไม่​ได้​กลับ​มา​อีก. ฉัน​ไม่​อาจ​บรรยาย​ความ​ปวด​ร้าว​ใจ​ของ​ฉัน​เป็น​ถ้อย​คำ​ได้. ฉัน​คิด​ว่า​เมื่อ​พ่อ​เจ็บ​ปวด ฉัน​ก็​ควร​เจ็บ​ปวด​ไป​ด้วย. ฉัน​จึง​ขยี้​บุหรี่​ที่​ฝ่า​มือ​แล้ว​ร้องไห้​สะอึกสะอื้น. พ่อ​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​วัน​ที่ 29 มิถุนายน 1973. ฉัน​เริ่ม​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ทำไม​หนอ​คน​ดี ๆ อย่าง​พ่อ​ซึ่ง​มี​แต่​หยิบ​ยื่น​ความ​สุข​ให้​คน​อื่น​จึง​ต้อง​จาก​เรา​ไป? ตอน​นี้​พ่อ​อยู่​ที่​ไหน? พ่อ​จะ​ได้​ยิน​ไหม​ถ้า​ฉัน​พูด​กับ​พ่อ? ตอน​นี้​ชีวิต​ฉัน​จะ​มี​ความ​หมาย​อะไร​เล่า​ใน​เมื่อ​ขาด​พ่อ​เสีย​แล้ว?’

อาชีพ​ที่​ไร้​จุด​หมาย

หลัง​จาก​ใช้​เวลา​ช่วง​หนึ่ง​ทำ​ใจ​ได้​แล้ว ฉัน​ก็​เริ่ม​เรียน​ตกแต่ง​ภาย​ใน. แต่​บาง​ครั้ง ฉัน​ค่อนข้าง​เป็น​คน​หัว​รั้น จึง​เลิก​เรียน​กลาง​คัน. ฉัน​กับ​แม่​ตัดสิน​ใจ​เข้า​สังคม​มาก​ขึ้น. เรา​เข้า​ร่วม​งาน​เลี้ยง​ที่​หรูหรา​ซึ่ง​คน​ใน​วงการ​บันเทิง​จัด​ขึ้น. บ่อย​ครั้ง ก่อน​งาน​เลี้ยง​สิ้น​สุด​ลง เจ้าภาพ​มัก​พูด​ว่า “โรซาเลีย กรุณา​ร้อง​เพลง​ให้​เรา​ฟัง​สัก​เพลง.” พวก​เขา​ชอบ​น้ำ​เสียง​และ​อารมณ์​ความ​รู้สึก​ที่​ฉัน​ถ่ายทอด​ออก​มา​ใน​เพลง เขา​บอก​ว่า​ฉัน​สืบ​ทอด​ความ​สามารถ​นี้​จาก​พ่อ​แม่.

ณ งาน​สังสรรค์​คราว​หนึ่ง นัก​แต่ง​เพลง​และ​วาทยกร​ประจำ​วง​อาร์ทูโร คาสโตร แอนด์ ฮิส คาสโตร 76 ได้​ฟัง​เพลง​ที่​ฉัน​ร้อง เขา​จึง​เชิญ​ชวน​ให้​มา​ร่วม​งาน​ด้วย​กัน. ที​แรก ฉัน​ไม่​อยาก​เข้า​วง. แม้​ว่า​ฉัน​เป็น​คน​รัก​ดนตรี​และ​เล่น​กีตาร์​แต่ง​เพลง​ตั้ง​แต่​อายุ 14 ปี ฉัน​ก็​ไม่​อยาก​เป็น​นัก​ร้อง​อาชีพ. ทว่า แม่​คะยั้นคะยอ​ฉัน​และ​ครอบครัว​ของ​เรา​มี​ความ​จำเป็น​ด้าน​การ​เงิน ด้วย​เหตุ​นี้ ใน​ที่​สุด​ฉัน​จึง​ตอบ​ตก​ลง. ทั้ง​นี้​ทำ​ให้​ฉัน​เริ่ม​ก้าว​เข้า​สู่​วงการ​บันเทิง​ดัง​กล่าว​ไว้​ข้าง​ต้น.

ตั้ง​แต่​เริ่ม​อาชีพ​นี้ ฉัน​มี​งาน​เข้า​มา​อย่าง​สม่ำเสมอ. วง​ของ​เรา​ตระเวน​แสดง​ทั่ว​ประเทศ​เม็กซิโก โดย​เปิด​แสดง​คืน​ละ​สอง​รอบ. เรา​ตระเวน​แสดง​ใน​กัวเตมาลา, เวเนซุเอลา, นิวยอร์ก, และ​ลาสเวกัส. ฉัน​อยู่​กับ​วง​นี้​สอง​ปี. แล้ว​มี​การ​เสนอ​โอกาส​ให้​ฉัน​แสดง​ภาพยนตร์. ฉัน​รับ​บท​เป็น​ดารา​สมทบ​สอง​เรื่อง​และ​ดารา​นำ​หนึ่ง​เรื่อง ซึ่ง​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​รับ​รางวัล​ใหญ่​สอง​รางวัล.

วัน​หนึ่ง บริษัท​ผลิต​รายการ​โทรทัศน์​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ประเทศ​ได้​โทรศัพท์​ติด​ต่อ​ฉัน. พวก​เขา​เสนอ​ให้​ฉัน​เซ็น​สัญญา​ผูก​ขาด​เข้า​เป็น “ดารา​คน​สำคัญ” ของ​บริษัท และ​ตั้ง​ชื่อ​นัก​แสดง​นำ​ใน​ละคร​ชุด​ตาม​ชื่อ​ของ​ฉัน. ฉัน​จะ​มี​โอกาส​ได้​เป็น​ดารา​ดัง​ของ​โลก​บันเทิง. ฉัน​จะ​มี​ราย​ได้​ดี ถึง​แม้​ไม่​ได้​ทำ​งาน​เป็น​ประจำ. เมื่อ​ฉัน​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​คู่​ควร​กับ​ข้อ​เสนอ​เหล่า​นั้น​และ​เกรง​ว่า​จะ​ไม่​มี​อิสระ ฉัน​จึง​บอก​ปัด​สัญญา​นั้น. ฉัน​ตก​ลง​รับ​งาน​แสดง​ละคร แต่​มี​เงื่อนไข​ให้​ฉัน​มี​เวลา​เรียน​การ​ละคร​ต่อ​ที่​มหาวิทยาลัย​ด้วย. กระนั้น ฉัน​ไม่​สบาย​ใจ​ที่​เห็น​นัก​แสดง​หลาย​คน​ได้​บากบั่น​พยายาม​เป็น​เวลา​หลาย​ปี​กว่า​จะ​ได้​เป็น​นัก​แสดง​นำ ส่วน​ฉัน​กลับ​ได้​รับ​บทบาท​นี้​เพราะ​เป็น​ลูก​สาว​ของ​ทิน-ทัน.

จาก​นั้น ฉัน​เริ่ม​ทำ​งาน​ด้าน​อัดเสียง. งาน​ชุด​แรก​มี​เพลง​ประกอบ​ละคร​รวม​อยู่​ด้วย ซึ่ง​ฉัน​เอง​เป็น​ผู้​แต่ง​เนื้อร้อง​และ​ทำนอง​เพลง. ต่อ​มา ฉัน​ได้​อัดเสียง​ใน​ห้อง​อัด​ชื่อ​ดัง​ของ​ลอนดอน. ฉัน​รับ​งาน​อัดเสียง, เล่น​หนัง, และ​เล่น​ละคร​มาก​ขึ้น. หน้า​แรก​ของ​ข่าว​บันเทิง​ใน​หนังสือ​พิมพ์​เริ่ม​ลง​เรื่อง​ราว​ของ​ฉัน ดัง​นั้น คุณ​อาจ​พูด​ว่า​ฉัน​ได้​ประสบ​ความ​สำเร็จ​สูง​สุด​แล้ว​สิ. กระนั้น​ก็​ดี ยัง​ขาด​อะไร​บาง​อย่าง​ไป. ฉัน​สังเกต​ว่า​พวก​นัก​แสดง​ชอบ​ถือ​ตัว​และ​ชิง​ดี​ชิง​เด่น​กัน และ​ท่ามกลาง​พวก​เขา​มัก​มี​การ​ประพฤติ​ผิด​ศีลธรรม​อย่าง​แพร่​หลาย​และ​ไม่​จริง​ใจ​ต่อ​กัน. ฉัน​เกิด​ความ​ไม่​มั่น​ใจ​ใน​ผู้​คน.

ครั้น​แล้ว ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง​ปี 1980 ฉัน​ได้​พบ​กับ​คูลีโอ​น้อง​ชาย​ของ​แม่​ใน​วัน​รวม​ญาติ. เขา​ได้​ตัดสิน​ใจ​เลิก​ร้อง​เพลง​โอเปร่า และ​ฉัน​ฟัง​เขา​พูด​เรื่อง​อุทยาน​ที่​พระเจ้า​สัญญา​ไว้. น้า​คู​ลีโอ​บอก​ว่า ความ​อยุติธรรม​และ​ความ​ทุกข์​โศก​เศร้า​จะ​หมด​ไป​จาก​แผ่นดิน​โลก และ​ทั้ง​โลก​จะ​มี​แต่​ความ​รัก. เขา​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​คือ​ยะโฮวา. สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​ฉัน​สนใจ​มาก​ที่​สุด​คือ การ​ได้​ยิน​ว่า​คน​ที่​เรา​รัก​ซึ่ง​ตาย​ไป​จะ​ถูก​ปลุก​ให้​มี​ชีวิต​อีก​ใน​อุทยาน. ความ​หวัง​จะ​ได้​พบ​พ่อ​อีก​ครั้ง​ทำ​ให้​ฉัน​เต็ม​ตื้น​ด้วย​ความ​ยินดี. ฉัน​ยัง​คง​อาลัย​คิด​ถึง​พ่อ​ไม่​วาย และ​ปรารถนา​จะ​ได้​รับ​การ​ชู​ใจ​และ​ความ​รักใคร่​จาก​ท่าน. จะ​ดี​วิเศษ​สัก​เพียง​ใด​ที่​จะ​ได้​พ่อ​กลับ​คืน​มา​อีก! แต่​ใน​ใจ​ลึก ๆ ฉัน​รู้สึก​ว่า​ไม่​น่า​จะ​เป็น​ไป​ได้. น้า​คู​ลีโอ​มอบ​พระ​คัมภีร์​เล่ม​หนึ่ง​ให้​ฉัน และ​ชวน​ฉัน​กับ​แม่​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ซึ่ง​จะ​จัด​ขึ้น​ใน​อีก​ไม่​กี่​สัปดาห์​ข้าง​หน้า. เรา​บอก​เขา​ว่า​เรา​อาจ​จะ​ไป.

ฉัน​ตัดสิน​ใจ​เปลี่ยน​แปลง​ชีวิต

คืน​หนึ่ง ฉัน​สูบ​บุหรี่​บน​เตียง​นอน​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ที่​น้า​ชาย​ให้​ไว้. การ​อ่าน​พระ​ธรรม​สุภาษิต​ทำ​ให้​ฉัน​สรุป​ได้​ว่า ความ​สว่าง, ความ​เข้าใจ, และ​ชีวิต​เกิด​มา​จาก​พระเจ้า ส่วน​ความ​มืด, ความ​สับสน, และ​ความ​ตาย​มา​จาก​แหล่ง​ตรง​กัน​ข้าม. คืน​นั้น​เอง ฉัน​ดับ​บุหรี่​มวน​สุด​ท้าย​ใน​ชีวิต​ของ​ฉัน และ​คอย​แม่​กลับ​มา. ฉัน​ร้องไห้​ขอ​แม่​ช่วย​สนับสนุน​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​สำคัญ​บาง​อย่าง​ของ​ฉัน. จาก​นั้น ฉัน​ไป​โรง​ละคร ซึ่ง​ที่​นั่น​ฉัน​ฝึก​ซ้อม​บท​เป็น​คอร์ดิเลีย​ใน​ละคร​เรื่อง​คิง​เลียร์ ของ​เชกสเปียร์. ฉัน​ถอน​ตัว​จาก​การ​แสดง​และ​บอก​เลิก​เพื่อน​ชาย​ซึ่ง​เป็น​นัก​แสดง​นำ​คน​หนึ่ง.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ฉัน​ยัง​ไม่​ได้​เรียน​รู้​ที่​จะ​รับใช้​พระเจ้า ฉัน​จึง​ไม่​รู้​จะ​หมาย​พึ่ง​ใคร. ฉัน​จม​อยู่​ใน​ภาวะ​ซึมเศร้า. ฉัน​อธิษฐาน​ขอ​พระเจ้า​โปรด​ช่วย​ให้​ฉัน​มั่น​ใจ​ว่า​ตัว​เอง​มี​ค่า ไม่​ใช่​เพราะ​การ​มี​พรสวรรค์​หรือ​มี​ชื่อเสียง​โด่งดัง. ฉัน​เลิก​คบหา​กับ​เพื่อน​ฝูง​ทั้ง​หมด​และ​ไม่​ทำ​กิจกรรม​ใด ๆ ทั้ง​สิ้น.

เส้น​ทาง​สู่​ความ​สำเร็จ​แท้

ใน​ช่วง​ที่​ฉัน​สับสน ฉัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​น้า​ชาย​เคย​ชวน​ฉัน​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค. ฉัน​จึง​โทรศัพท์​หา​น้า และ​เขา​ได้​พา​ฉัน​ไป​ที่​สนาม​กีฬา. สิ่ง​ที่​ได้​พบ​เห็น​ที่​นั่น​ดึงดูด​ใจ​ฉัน​มาก. ฉัน​เห็น​ผู้​คน​เป็น​ระเบียบ​เรียบร้อย ไม่​พูด​หยาบคาย, ไม่​สูบ​บุหรี่, และ​ไม่​ทำ​ตัว​เป็น​จุด​เด่น. สิ่ง​ที่​ได้​ฟัง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​ฉัน​นึก​ถึง​เรื่อง​ที่​เคย​อ่าน​ใน​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ชื่อ​พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล​เป็น​พระ​วจนะ​ของ​พระเจ้า​จริง ๆ หรือ? * ซึ่ง​ฉัน​เจอ​ใน​บ้าน​หลัง​จาก​พ่อ​เสีย​ชีวิต​ไป​ได้​ไม่​นาน.

ประมาณ​ช่วง​เวลา​นี้ ฉัน​ได้​รับ​ข้อ​เสนอ​ให้​เล่น​เป็น​ดารา​นำ​ใน​ละคร​ชุด​อีก​ครั้ง. ฉัน​ชอบ​บทบาท​นี้ เพราะ​ดู​เหมือน​เชิดชู​ค่า​นิยม​ที่​พระเจ้า​พอ​พระทัย​ตาม​ที่​ฉัน​ได้​เรียน​รู้​จาก​การ​ประชุม​ภาค. เมื่อ​พิจารณา​ดู​แล้ว ฉัน​ตก​ลง​รับ​แสดง​บท​นี้. อีก​ด้าน​หนึ่ง ทัศนะ​ของ​พระ​คัมภีร์​ยัง​คง​วน​เวียน​อยู่​ใน​ใจ​ฉัน​ที่​บอก​ว่า “อย่า​เข้า​เทียม​แอก​ด้วย​กัน​กับ​คน​ที่​ไม่​เชื่อ. เพราะ​ว่า . . . ความ​สว่าง​จะ​เข้า​สนิท​กัน​กับ​ความ​มืด​ได้​อย่าง​ไร?”—2 โกรินโธ 6:14.

ความ​ปรารถนา​อย่าง​จริง​ใจ​ที่​อยาก​จะ​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย​เพิ่ม​พูน​ขึ้น​ภาย​ใน​หัวใจ​ฉัน. ฉัน​อยาก​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​กับ​น้า​ชาย​และ​น้า​สาว. การ​เดิน​ทาง​จาก​บ้าน​ไป​ยัง​ประชาคม​ที่​พวก​เขา​สมทบ​อยู่​ต้อง​ใช้​เวลา​ประมาณ​หนึ่ง​ชั่วโมง แต่​ฉัน​ก็​ได้​ไป​สาม​อาทิตย์​ติด​ต่อ​กัน. น้า​ชาย​ตัดสิน​ใจ​พา​ฉัน​ไป​ยัง​ประชาคม​ที่​อยู่​ใกล้​บ้าน. เมื่อ​ไป​ถึง การ​ประชุม​ก็​เลิก​พอ​ดี และ​ตอน​นั้น​แหละ​ฉัน​ได้​พบ​อิซาเบล หญิง​สาว​วัย​เดียว​กัน. เธอ​เป็น​คน​ซื่อ ๆ ไม่​โอ้อวด​และ​ใจ​ดี. เมื่อ​น้า​ชาย​แนะ​นำ​เธอ​ให้​รู้​จัก​ฉัน​โดย​เอ่ย​ชื่อ​โรซาเลีย บัลเดส เธอ​ไม่​สนใจ​ชื่อ​ของ​ฉัน​แม้​แต่​น้อย. ฉัน​ชอบ​คน​แบบ​นี้​แหละ. เธอ​เสนอ​จะ​ไป​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​ฉัน​ที่​บ้าน.

เรา​เริ่ม​ศึกษา​โดย​ใช้​หนังสือ​ความ​จริง​ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ชีวิต​ถาวร. * อิซาเบล​ยินดี​และ​เต็ม​ใจ​ปรับ​เปลี่ยน​เวลา​ให้​เหมาะ​กับ​ตาราง​เวลา​ของ​ฉัน. บาง​ครั้ง​เธอ​ต้อง​รอ​จน​ดึกดื่น​กว่า​ฉัน​จะ​เสร็จ​งาน​ถ่าย​ละคร. ฉัน​รู้สึก​อบอุ่น​จริง ๆ ที่​มี​คน​หนึ่ง​ให้​ความ​สนใจ เพียง​เพราะ​ฉัน​ต้องการ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์! อิซาเบล​เป็น​คน​จริง​ใจ​ซื่อ​สัตย์​และ​สุภาพ​เรียบร้อย ฉัน​เคย​คิด​ว่า​เพื่อ​จะ​มี​คุณสมบัติ​เหล่า​นี้​ได้​ต้อง​เรียน​ปรัชญา​และ​ศิลปะ​เท่า​นั้น. เรา​ใช้​เวลา​ศึกษา​หลาย​ชั่วโมง บาง​ที​ก็​หลาย​ครั้ง​ใน​หนึ่ง​สัปดาห์.

ตอน​เริ่ม​ต้น ฉัน​รู้สึก​ว่า​ยาก​ที่​จะ​ขจัด​แนว​คิด​ผิด ๆ ของ​ตัว​เอง แต่​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ค่อย ๆ ซึมซาบ​เข้า​มา​แทน​แนว​คิด​ผิด ๆ เหล่า​นั้น. ฉัน​จำ​ได้​ว่า​ตัว​เอง​รู้สึก​เบิกบาน​ยินดี​สัก​เพียง​ไร​เนื่อง​ด้วย​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​ที่​ว่า “เพราะ​ว่า​ยัง​อีก​หน่อย​หนึ่ง, คน​ชั่ว​จะ​ไม่​มี: ท่าน​จง​เพ่ง​ตา​หา​ที่​ของ​เขา, แต่​ไม่​มี​แล้ว. แต่​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​มี​ใจ​ถ่อม​ลง​จะ​ได้​แผ่นดิน​เป็น​มฤดก, และ​เขา​จะ​ชื่นชม​ยินดี​ด้วย​ความ​สงบ​สุข​อัน​บริบูรณ์.” (บทเพลง​สรรเสริญ 37:10, 11) อนึ่ง ใน​เวลา​เดียว​กัน ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​พบ​พ่อ​ของ​ฉัน​อีก​ใน​อุทยาน​เริ่ม​เป็น​จริง​มาก​ขึ้น. บ่อย​ครั้ง ฉัน​มัก​คิด​ถึง​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​อย่า​ประหลาด​ใจ​ใน​ข้อ​นี้​เลย เพราะ​เวลา​จะ​มา​เมื่อ​บรรดา​คน​ที่​อยู่​ใน​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​จะ​ได้​ยิน​สำเนียง​ของ​พระองค์, และ​จะ​ได้​เป็น​ขึ้น​มา ผู้​ที่​ได้​ประพฤติ​ดี​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​สู่​ชีวิต, แต่​ผู้​ที่​ได้​ประพฤติ​ชั่ว​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​สู่​การ​พิพากษา.”—โยฮัน 5:28, 29.

พอ​ฉัน​เสร็จ​งาน​ถ่าย​ละคร​ชุด​แล้ว มี​การ​เสนอ​ให้​ฉัน​แสดง​เรื่อง​อื่น​ทันที. ถึง​แม้​โครงการ​เหล่า​นั้น​ดู​เหมือน​จะ​สร้าง​ชื่อเสียง​ให้​ฉัน​มาก​ขึ้น แต่​ถ้า​ฉัน​มี​ส่วน​ร่วม นั่น​แสดง​นัย​ว่า​ฉัน​เห็น​ดี​เห็น​งาม​กับ​การ​ประพฤติ​ผิด​ศีลธรรม, การ​บูชา​รูป​เคารพ, และ​แนว​คิด​อื่น ๆ ที่​ไม่​ถูก​ต้อง. ฉัน​ได้​เรียน​รู้​ว่า​ซาตาน​มี​อยู่​จริง และ​มัน​ไม่​ต้องการ​ให้​เรา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. ดัง​นั้น ฉัน​จึง​บอก​ปัด​ข้อ​เสนอ​นั้น​แล้ว​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ทุก​รายการ. เป็น​ธรรมดา​ที่​แม่​และ​พี่​ชาย​ของ​ฉัน​ไม่​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​ฉัน​ถึง​ได้​ปล่อย​ให้​โอกาส​และ​เงิน​ทอง​ตั้ง​มาก​มาย​หลุด​มือ​ไป. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เวลา​เดียว​กัน​เขา​สังเกต​ว่า​ฉัน​เปลี่ยน​ไป จาก​ที่​เคย​เป็น​คน​ไม่​มี​ความ​สุข ท้อ​แท้​สิ้น​หวัง​กลับ​กลาย​เป็น​คน​ช่าง​พูด มี​ชีวิต​ชีวา​และ​ร่าเริง. ใน​ที่​สุด ฉัน​ก็​มี​เป้าหมาย​ใน​ชีวิต!

ฉัน​อยาก​บอก​เล่า​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้​แก่​คน​อื่น ๆ และ​ต่อ​มา​ไม่​นาน​ฉัน​ได้​เป็น​ผู้​ประกาศ​ข่าวสาร​อัน​น่า​พอ​ใจ​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. เมื่อ​ไป​ประกาศ บาง​ครั้ง​ยาก​ที่​จะ​ทำ​ให้​เจ้าของ​บ้าน​ตั้งใจ​ฟัง เพราะ​หลาย​คน​จำ​ได้​ว่า​ฉัน​เป็น​นัก​แสดง. หลาย​ครั้ง ฉัน​กับ​เพื่อน​ร่วม​งาน​มา​ถึง​หน้า​บ้าน​ผู้​คน​ขณะ​ที่​ละคร​ชุด​ที่​ฉัน​แสดง​กำลัง​ออก​อากาศ​ทาง​โทรทัศน์​อยู่​พอ​ดี. เจ้าของ​บ้าน​แทบ​ไม่​เชื่อ​สายตา​ตัว​เอง​ว่า​ฉัน​กำลัง​ยืน​อยู่​ที่​บันได​บ้าน​เขา!

ฉัน​รับ​บัพติสมา​เป็น​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​เมื่อ​วัน​ที่ 11 กันยายน 1982. มา​บัด​นี้ ชีวิต​ฉัน​มี​จุด​มุ่ง​หมาย​ที่​แท้​จริง และ​งาน​ประจำ​ชีพ​ที่​ไม่​เหมือน​เดิม​รอ​อยู่​เบื้อง​หน้า. การ​ที่​อิซาเบล​รับใช้​อย่าง​กระตือรือร้น​ช่วย​กระตุ้น​ฉัน. เธอ​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ประจำ ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​เรียก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​รับใช้​เต็ม​เวลา. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ฉัน​สมทบ​กับ​เธอ​ใน​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​คน​อื่น. อิซาเบล​กลาย​เป็น​เพื่อน​ที่​ดี​ที่​สุด​ของ​ฉัน.

แท้​จริง ฉัน​เกือบ​เลิก​อาชีพ​นัก​แสดง​ไป​เลย ด้วย​เหตุ​นี้ ฉัน​กับ​แม่​จึง​ต้อง​เป็น​คน​สมถะ​และ​ลด​มาตรฐาน​ความ​เป็น​อยู่​ของ​เรา. ขณะ​เดียว​กัน ฉัน​ได้​แต่ง​เพลง​อัด​อัลบัม​ชุด​ที่​สี่ ซึ่ง​มี​เพลง​ต่าง ๆ เกี่ยว​กับ​ค่า​นิยม​และ​ความ​เชื่อ​ใหม่​ของ​ฉัน​รวม​อยู่​ด้วย. ฉัน​แต่ง​เพลง​หนึ่ง​ที่​แสดง​ให้​รู้​ถึง​ความ​หวัง​อัน​มั่นคง​ของ​ฉัน​ที่​จะ​พบ​กับ​พ่อ​อีก. ฉัน​ให้​ชื่อ​เพลง​นั้น​ว่า “ตาม​ที่​จารึก​นั้น ฉัน​จะ​ได้​พบ​พ่อ.” ที​แรก​ฉัน​ร้อง​เพลง​นี้​ให้​แม่​ฟัง แม่​ซาบซึ้ง​มาก. ท่าน​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​เชื่อ​มั่น​ที่​แท้​จริง​ของ​ฉัน. ฉัน​ดีใจ​มาก​เมื่อ​แม่​ต้องการ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. สอง​ปี​ต่อ​มา ท่าน​ก็​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​เช่น​กัน. ท่าน​ยัง​คง​ขยัน​ขันแข็ง​ใน​งาน​รับใช้​ตราบ​จน​ทุก​วัน​นี้.

เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป ฉัน​รู้สึก​ว่า​ง่าย​ขึ้น​เมื่อ​ต้อง​บอก​ปัด​ข้อ​เสนอ​ต่าง ๆ เกี่ยว​กับ​งาน​แสดง. และ​เมื่อ​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำบาก​และ​การ​ล่อ​ใจ การ​นึก​ภาพ​ว่า​มี​พ่อ​อยู่​กับ​พวก​เรา​ใน​อุทยาน​อัน​สวย​งาม ช่วย​เสริม​ความ​เชื่อ​มั่น​ของ​ฉัน​ให้​เข้มแข็ง​ยิ่ง​ขึ้น​และ​ทำ​ให้​ฉัน​ตั้งใจ​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ต่อ ๆ ไป.

วัน​หนึ่ง มี​คน​มา​ติด​ต่อ​ขอ​ให้​ฉัน​แสดง​ใน​รายการ​ทีวี​เพื่อ​เด็ก เรื่อง​เซซามี สตรีต ภาค​ภาษา​สเปน. ฉัน​พิจารณา​และ​เห็น​ว่า​ไม่​อาจ​แสดง​ได้ จึง​ชี้​แจง​ให้​ผู้​อำนวย​การ​ผลิต​ทราบ​ว่า​ฉัน​ยึด​มั่น​กับ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​ทำ​ให้​ฉัน​ไม่​อาจ​ส่ง​เสริม​วัน​นักขัตฤกษ์​และ​วัน​เกิด. ผู้​อำนวย​การ​ผลิต​ตอบ​ว่า​ถ้า​ฉัน​ยอม​แสดง เขา​จะ​นับถือ​ความ​เชื่อ​ของ​ฉัน และ​จะ​เซ็น​สัญญา​ที่​อธิบาย​จุด​ยืน​ของ​ฉัน​อย่าง​ละเอียด. ดัง​นั้น ฉัน​ตอบ​ตก​ลง​และ​ได้​ถ่าย​รายการ​นี้​ไว้ 200 ตอน. นั่น​เป็น​งาน​ชิ้น​สุด​ท้าย​ที่​ฉัน​ทำ​ใน​ฐานะ​นัก​แสดง.

ฉัน​ยัง​ค้าง​สัญญา​อีก​ฉบับ​หนึ่ง​กับ​บริษัท​เพลง ดัง​นั้น ฉัน​จึง​นำ​เอา​สิบ​เพลง​ที่​ฉัน​เรียบเรียง​เอง​มา​อัด รวม​ทั้ง​เพลง​ที่​ฉัน​แต่ง​เกี่ยว​กับ​พ่อ​และ​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. ฉัน​มี​โอกาส​ได้​ร้อง​เพลง​นั้น​ออก​ทีวี​และ​ใน​งาน​โชว์​ตัว ซึ่ง​ระหว่าง​นั้น​ฉัน​มัก​จะ​อ้าง​ถึง​ความ​เชื่อ​ของ​ฉัน​เสมอ. อย่าง​ไร​ก็​ดี บริษัท​เพลง​เริ่ม​กดดัน​ฉัน​ให้​แต่ง​ตัว​ดู​ยั่วยวน​มาก​ขึ้น. ฉัน​จึง​ยื่น​ใบ​ลา​ออก.

มี​ความ​สุข​ใน​งาน​รับใช้​พระเจ้า

เดือน​ธันวาคม 1983 ฉัน​กับ​อิซาเบล​ได้​ไป​เยี่ยม​ชม​อาคาร​สำนักงาน​และ​โรง​พิมพ์​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก. ที่​นั่น ฉัน​พบ​รัสเซลล์ ฟิลลิปส์ ชาย​ซึ่ง​กลาย​เป็น​สามี​ของ​ฉัน​ใน​เวลา​ต่อ​มา. เรา​ติด​ต่อ​กัน​ทาง​จดหมาย​นาน​เกือบ​สอง​ปี. ฉัน​ยัง​จำ​วัน​นั้น​ได้​ดี คือ​วัน​ที่​ฉัน​เริ่ม​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ เป็น​วัน​ที่​รัสเซลล์​ส่ง​ช่อ​กุหลาบ​จาก​นิวยอร์ก​มา​ให้​กำลังใจ​ฉัน!

ฉัน​ร่วม​งาน​ไพโอเนียร์​กับ​อิซาเบล​ประมาณ​หนึ่ง​ปี. ครั้น​แล้ว​เธอ​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ไป​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เม็กซิโก. สิ่ง​ที่​เธอ​พูด​คุย​เรื่อง​งาน​มอบหมาย​ใหม่​ได้​จุด​ประกาย​ความ​ปรารถนา​ของ​ฉัน​ให้​อยาก​ขยาย​งาน​รับใช้​ออก​ไป​อีก และ​หาก​เป็น​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา ฉัน​อยาก​รับใช้​ที่​สำนักงาน​เบเธล​ด้วย.

รัสเซลล์​เป็น​พระ​พร​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ใน​ชีวิต​ของ​ฉัน. เนื่อง​จาก​เขา​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​รัก​องค์การ​ของ​พระองค์ ฉัน​จึง​ได้​เรียน​รู้​ที่​จะ​ยึด​มั่น​กับ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา. เขา​รัก​เบเธล​และ​ทำ​งาน​รับใช้​สาม​ปี​ใน​เบเธล​บรุกลิน. หลัง​จาก​เรา​แต่งงาน เรา​รับใช้​ด้วย​กัน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ประจำ​ที่​รัฐ​โคโลราโด สหรัฐ​อเมริกา. ต่อ​มา เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​ร่วม​ใน​โครงการ​ก่อ​สร้าง​นานา​ชาติ เพื่อ​ไป​สร้าง​อาคาร​สาขา​แห่ง​ใหม่​ใน​ประเทศ​อื่น. เรา​ประหลาด​ใจ​และ​ตื่นเต้น​มาก​เพียง​ใด​เมื่อ​รู้​ว่า​เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​ทำ​งาน​ที่​เม็กซิโก! เดือน​เมษายน 1990 เรา​ตอบรับ​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​เป็น​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​ใน​เม็กซิโก. แบบ​อย่าง​ของ​รัสเซลล์​ช่วย​ชู​กำลังใจ​ฉัน​อย่าง​มาก. ฉัน​ชื่น​ชอบ​เขา​ที่​มี​น้ำใจ​เสีย​สละ เขา​ยอม​จาก​บ้าน​เกิด​และ​ครอบครัว​เพื่อ​มา​ส่ง​เสริม​ผล​ประโยชน์​แห่ง​ราชอาณาจักร​ใน​ประเทศ​เม็กซิโก​นี้.

ฉัน​กับ​รัสเซลล์​ยินดี​มาก​ที่​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ทำ​งาน​ใน​สาขา​เม็กซิโก. แต่​แล้ว​สิ่ง​ต่าง ๆ เปลี่ยน​ไป​ทันที​เมื่อ​ฉัน​ตั้ง​ครรภ์. ข่าว​นี้​ทำ​ให้​เรา​ตกใจ​มาก. แต่​กระนั้น เรา​มัก​นึก​ชม​บิดา​มารดา​เหล่า​นั้น​เสมอ​ที่​ได้​อบรม​เลี้ยง​ดู​บุตร​ของ​เขา​ใน​ทาง​แห่ง​ความ​จริง เรา​จึง​รับ​เอา​หน้า​ที่​ใหม่​นี้​ด้วย​ความ​รู้สึก​ขอบคุณ. อีวาน​เกิด​ใน​เดือน​ตุลาคม 1993 และ​ต่อ​มา​อีก​สอง​ปี​ครึ่ง จี​อันนา​ก็​เกิด. แม้​ว่า​การ​เลี้ยง​ลูก​ต้อง​พากเพียร​ตลอด​เวลา แต่​เรา​รู้สึก​ว่า​คุ้มค่า​ทุก​ครั้ง​ที่​เห็น​ลูก​ของ​เรา​วัย​สิบ​เอ็ด​ขวบ​และ​แปด​ขวบ​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​ขณะ​ที่​ร่วม​งาน​ประกาศ.

ปัจจุบัน รัสเซลล์​รับใช้​เป็น​หนึ่ง​ใน​คณะ​กรรมการ​ก่อ​สร้าง​หอ​ประชุม​ภูมิภาค ส่วน​ฉัน​เพิ่ง​กลับ​ไป​รับใช้​เต็ม​เวลา​ฐานะ​ไพโอเนียร์​อีก. ตลอด​เวลา 20 ปี​ที่​ผ่าน​มา ฉัน​สามารถ​ช่วย​สมาชิก​ครอบครัว 12 คน และ​คน​อื่น​อีก 8 คน​ให้​เรียน​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​เข้า​มา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา.

เมื่อ​ลูก ๆ ถาม​ฉัน​ว่า “ยาก​ไหม​ที่​แม่​หัน​หลัง​ให้​วงการ​บันเทิง?” ฉัน​อ้าง​ถึง​คำ​พูด​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​ว่า “แท้​จริง ข้าพเจ้า​ถือ​ว่า​สิ่ง​สารพัตร​เป็น​ที่​ไร้​ประโยชน์​เพราะ​เห็น​แก่​ความ​ประเสริฐ​แห่ง​ความ​รู้​ถึง​พระ​เยซู​คริสต์​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า. เพราะ​เหตุ​พระองค์​นั้น​ข้าพเจ้า​ได้​ยอม​สละ​สิ่ง​สารพัตร, และ​ถือ​ว่า​สิ่ง​เหล่า​นั้น​เป็น​เหมือน​หยากเยื่อ​เพื่อ​ข้าพเจ้า​จะ​ได้​พระ​คริสต์.” (ฟิลิปปอย 3:8) ฉัน​รู้สึก​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ ที่​พระองค์​นำ​ชีวิต​ฉัน​ให้​พ้น​จาก​ความ​เปล่า​ประโยชน์ และ​ช่วย​ฉัน​จน​ได้​มา​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ประชาชน​ที่​น่า​พิศวง​ของ​พระองค์! ฉัน​ไม่​เคย​อ่อน​ระอา​ที่​จะ​ขอบคุณ​พระองค์​สำหรับ​พระ​พร​มาก​มาย​ที่​ทรง​จัด​เตรียม​ผ่าน​ทาง​พระ​เยซู​คริสต์. บ่อย​ครั้ง ฉัน​เปล่ง​เสียง​ร้อง​เพลง​ด้วย​ความ​ชื่นชม​ยินดี เพลง​ที่​ฉัน​แต่ง​เนื้อร้อง​พูด​ถึง​พ่อ. ฉัน​เชื่อ​มั่น​ว่า​ฉัน​จะ​พบ​กับ​พ่อ​อีก.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 21 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​ปัจจุบัน​นี้​งด​พิมพ์​แล้ว.

^ วรรค 24 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​ปัจจุบัน​นี้​งด​พิมพ์​แล้ว.

[ภาพ​หน้า 10]

กับ​พ่อ​แม่​และ​พี่​ชาย ตอน​ที่​ฉัน​อายุ​หนึ่ง​ขวบ

[ภาพ​หน้า 12, 13]

ร้อง​เพลง​กับ​วง​อาร์ทูโร คาสโตร แอนด์ ฮิส คาสโตร 76

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Angel Otero

[ภาพ​หน้า 14]

กับ​ครอบครัว​ของ​ฉัน​ใน​ปัจจุบัน

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 10]

Activa, 1979