ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ไวน์, ไม้โอ๊ก, และงานหัตถศิลป์ของช่างทำถัง

ไวน์, ไม้โอ๊ก, และงานหัตถศิลป์ของช่างทำถัง

ไวน์, ไม้​โอ๊ก, และ​งาน​หัตถศิลป์​ของ​ช่าง​ทำ​ถัง

ช็อกโกแลต, จันทน์เทศ, วานิลลา, หรือ​ฝาด​เฝื่อน—ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​คำ​ที่​คน​ทำ​ไวน์​คิด​ขึ้น​เพื่อ​พรรณนา​รสชาติ​ของ​ไวน์. อะไร​ทำ​ให้​ไวน์​มี​กลิ่น​รส​แบบ​นั้น? ความ​หลาก​หลาย​ของ​พันธุ์​องุ่น, คุณภาพ​ของ​ดิน, และ​สภาพ​อากาศ​ล้วน​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​ด้วย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ตั้ง​แต่​สมัย​ศตวรรษ​แรก​แล้ว​ที่​คน​ทำ​ไวน์​ได้​เพิ่ม​สิ่ง​หนึ่ง​เข้า​กับ​ส่วน​ประกอบ​อื่น ๆ กว่า 400 ชนิด​ที่​มี​ผล​ต่อ​กลิ่น​และ​รส​ของ​ไวน์. สิ่ง​ที่​ว่า​นี้​ก็​คือ​ไม้—ไม่​ใช่​ไม้​อะไร​ก็​ได้ แต่​เป็น​ไม้​ชนิด​ที่​เรียก​กัน​ว่า ไม้​โอ๊ก​ขาว.

ไวน์​กับ​ไม้​มา​เกี่ยว​ข้อง​กัน​ได้​อย่าง​ไร? และ​ทำไม​ผู้​ผลิต​ไวน์​ที่​มี​คุณภาพ​จึง​เลือก​ใช้​แต่​ไม้​โอ๊ก?

ไม้​มา​แทน​ที่​หนัง​สัตว์​และ​ดิน​เหนียว

มนุษย์​ค้น​พบ​วิธี​ทำ​ไวน์​มา​ตั้ง​แต่​ตอน​เริ่ม​ต้น​ประวัติศาสตร์​ที่​มี​การ​บันทึก​ไว้. (เยเนซิศ 9:20, 21) คน​ทำ​ไวน์​ใน​สมัย​ก่อน​จะ​เท​น้ำ​องุ่น​ใส่​ใน​ภาชนะ​ดิน​เหนียว​หรือ​ใน​ขวด​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์​และ​หมัก​ทิ้ง​ไว้. มี​การ​ใช้​ภาชนะ​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์​และ​ดิน​เหนียว​เพื่อ​เก็บ​และ​ขน​ส่ง​ไวน์​มา​จน​ถึง​สมัย​พระ​คริสต์. (มัดธาย 9:17) อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​ช่วง​นี้​เอง​ที่​วิธี​เก็บ​และ​ขน​ส่ง​อีก​วิธี​หนึ่ง​ได้​เริ่ม​เป็น​ที่​นิยม.

พลินี​ผู้​อาวุโส นัก​ประวัติศาสตร์​สมัย​ศตวรรษ​แรก​ได้​บันทึก​ไว้​ว่า พวก​ช่าง​ฝีมือ​ที่​อยู่​ใน​แคว้น​โกล ซึ่ง​ปัจจุบัน​คือ​ฝรั่งเศส ได้​คิด​วิธี​การ​นำ​ไม้​มา​ขึ้น​รูป​และ​ต่อ​ให้​เป็น​ถัง. ช่าง​ฝีมือ​เหล่า​นี้​ซึ่ง​เรียก​ว่า ช่าง​ทำ​ถัง ได้​ถ่ายทอด​ทักษะ​ต่าง ๆ ที่​จำเป็น​ใน​การ​ทำ​ภาชนะ​ที่​เป็น​ประโยชน์​นี้​จาก​รุ่น​สู่​รุ่น. นอก​จาก​จะ​ทำ​ถัง​ไม้​ที่​ปิด​ได้​แน่น​ซึ่ง​สามารถ​ใส่​ของ​เหลว เช่น ไวน์​หรือ​น้ำมัน​แล้ว ช่าง​ทำ​ถัง​ยัง​ทำ​ถัง​ไม้​อีก​แบบ​หนึ่ง​ด้วย​ซึ่ง​น้ำ​ซึม​ออก​ได้. แต่​ถัง​ไม้​แบบ​นี้​เหมาะ​มาก​สำหรับ​ใส่​ของ​แห้ง เช่น แป้ง​หรือ​ตะปู. ใน​ยุค​ที่​การ​ขน​ส่ง​สินค้า​ต้อง​อาศัย​แรง​คน​หรือ​สัตว์ การ​ที่​มี​ผู้​คิด​ทำ​ถัง​ไม้​ขึ้น​มา​ถือ​เป็น​ความ​ก้าว​หน้า​ขั้น​สำคัญ​ที​เดียว. ทำไม​จึง​เป็น​เช่น​นั้น?

ความ​ก้าว​หน้า​ทาง​เทคโนโลยี

รูป​ทรง​ที่​ป่อง​ตรง​กลาง​นอก​จาก​จะ​ทำ​ให้​ถัง​ไม้​มี​ความ​แข็งแรง​มาก​แล้ว ยัง​ใช้​แทน​ล้อ​ได้​ด้วย. ลัง​ไม้​สี่​เหลี่ยม​ที่​มี​ของ​หนัก​บรรจุ​อยู่​เต็ม หาก​จะ​ขน​ย้าย​ก็​ต้อง​ใช้​คน​หลาย​คน​หรือ​ใช้​สัตว์ แต่​ถัง​ไม้​ที่​บรรจุ​สิ่ง​ของ​ปริมาณ​เท่า​กัน​สามารถ​กลิ้ง​ไป​ได้​โดย​ใช้​คน​เพียง​คน​เดียว. เนื่อง​จาก​ถัง​ไม้​แข็งแรง​ทนทาน​กว่า​ภาชนะ​ดิน​เหนียว​และ​ขน​ย้าย​ได้​ง่าย​กว่า​ลัง ถัง​เหล่า​นี้​จึง​ช่วย​ทำ​ให้​การ​ค้า​ขาย​สินค้า​ทุก​ชนิด​เจริญ​ก้าว​หน้า​ขึ้น​มาก​ตลอด​หลาย​ศตวรรษ.

ปัจจุบัน มี​การ​นำ​ภาชนะ​ที่​ทำ​จาก​เหล็ก, พลาสติก, และ​กระดาษ​การ์ด​แข็ง​มา​ใช้​แทน​ถัง​ไม้​แบบ​เก่า​กัน​มาก. ถึง​กระนั้น งาน​หัตถศิลป์​ของ​ช่าง​ทำ​ถัง​ก็​ไม่​เพียง​มี​ใช้​กัน​อยู่ แต่​ยัง​เป็น​ที่​ต้องการ​มาก​ที​เดียว. เฉพาะ​ใน​รัฐ​แคลิฟอร์เนีย​ของ​สหรัฐ​อเมริกา​เพียง​แห่ง​เดียว อุตสาหกรรม​การ​ทำ​ถัง​บ่ม​ไวน์​ได้​จ้าง​คน​งาน​ประมาณ 12,000 คน​และ​ทำ​ราย​ได้​มาก​กว่า​ปี​ละ 211 ล้าน​ดอลลาร์​สหรัฐ. เพียง​โรง​งาน​เดียว​ใน​นาปา แวลเลย์ (เขต​ผลิต​ไวน์​ที่​มี​ชื่อ​ของ​แคลิฟอร์เนีย) ก็​ผลิต​ถัง​ไม้​ได้​มาก​กว่า 100,000 ถัง​ต่อ​ปี. ถัง​ไม้​เหล่า​นี้​เขา​ทำ​กัน​อย่าง​ไร?

จาก​ป่า​สู่​โรง​อบ

ถัง​ไม้​ที่​มี​ราคา​สูง​กว่า​เพื่อน​มี​แหล่ง​กำเนิด​ใน​ป่า​โอ๊ก​ของ​ฝรั่งเศส. เนื่อง​จาก​ไม้​ที่​นี่​มี​คุณภาพ​ดี​และ​มี​ปริมาณ​มาก ถัง​ไวน์​ประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์​ที่​ใช้​กัน​ทั่ว​โลก​จึง​ผลิต​ขึ้น​ใน​ประเทศ​นี้. หลัง​จาก​ที่​คน​โค่น​ต้น​ไม้​ล้ม​ต้น​โอ๊ก​อายุ​ระหว่าง 100 ถึง 200 ปี​ลง​มา​แล้ว โรง​เลื่อย​จะ​ตัด​ไม้​เหล่า​นี้​เป็น​ท่อน ๆ และ​ทำ​ให้​เป็น​แผ่น​โดย​ผ่า​ตาม​แนว​เสี้ยน​ไม้​อย่าง​ระมัดระวัง แล้ว​จะ​ได้​แผ่น​ไม้​หยาบ ๆ ที่​เรียก​ว่า ไม้​ทำ​ถัง. หาก​ผ่า​ไม้​ไม่​ถูก​วิธี แผ่น​ไม้​ทำ​ถัง​นี้​ก็​จะ​แตก​เมื่อ​ถูก​ดัด หรือ​ไม่​ก็​รั่ว​เมื่อ​ใส่​ไวน์​เข้า​ไป. แผ่น​ไม้​เหล่า​นี้​จะ​ถูก​วาง​ซ้อน​กัน​บน​ลาน​กลางแจ้ง​ให้​ถูก​แดด, ลม, และ​ฝน เพื่อ​ให้​แทนนิน​ใน​ไม้​หมด​ไป และ​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​ช่วย​ทำ​ให้​ไม้​โอ๊ก​หอม​ขึ้น. จะ​ต้อง​ตาก​ไม้​ทำ​ถัง​เหล่า​นี้​ไว้​หนึ่ง​ถึง​สี่​ปี​ก่อน​จะ​นำ​ไป​ใช้.

เมื่อ​ก้าว​เข้า​ไป​ใน​โรง​งาน​ทำ​ถัง​ไวน์​ก็​เหมือน​กับ​เดิน​ย้อน​กลับ​ไป​ใน​อดีต. อากาศ​ที่​อบ​อวล​ไป​ด้วย​กลิ่น​ไม้​โอ๊ก เคล้า​ด้วย​เสียง​เลื่อย, เครื่อง​ไส​ไม้, และ​ค้อน. ตาม​วิธี​ที่​ทำ​กัน​มา​แต่​โบราณ ช่าง​จะ​นำ​แผ่น​ไม้​ทำ​ถัง​มา​ขึ้น​รูป​ให้​ตรง​กลาง​ป่อง​ออก​และ​ปลาย​ทั้ง​สอง​ด้าน​เรียว​แคบ. ช่าง​จะ​ตัด​ขอบ​ด้าน​ข้าง​ของ​ไม้​ทำ​ถัง​ให้​ได้​มุม​พอ​ดี เพื่อ​ว่า​เมื่อ​นำ​ไม้​เหล่า​นี้​มา​ต่อ​เรียง​กัน​ก็​จะ​ได้​เป็น​ถัง​ทรง​กระบอก. จาก​นั้น​ช่าง​จะ​ตอก​แถบ​เหล็ก​ที่​แข็งแรง​รอบ​ปลาย​ด้าน​หนึ่ง​ของ​ถัง​ไม้ ทำ​ให้​ถัง​ไม้​ที่​ยัง​ไม่​เสร็จ​สมบูรณ์​นี้​ดู​คล้าย​กระโปรง​ปลาย​บาน.

ช่าง​จะ​อบ​ไม้​โดย​ยก​ถัง​ไม้​ที่​หนัก​อึ้ง​ครอบ​บน​กอง​ไฟ​ซึ่ง​ก่อ​บน​พื้น. จาก​นั้น​ก็​จะ​ทำ​ให้​ด้าน​ใน​ของ​ถัง​ที่​ยัง​ไม่​เสร็จ​เรียบร้อย​นี้​ชื้น​ขึ้น​โดย​อบ​ด้วย​ไอ​น้ำ​เพื่อ​ให้​ไม้​อ่อน​ตัว. ขั้น​ต่อ​ไป ช่าง​จะ​เอา​เชือก​หรือ​สาย​ลวด​รัด​รอบ​ถัง​ไม้​ด้าน​ที่​อ้า​อยู่​แล้ว​ดึง​ให้​แน่น เพื่อ​ดัด​แผ่น​ไม้​ให้​มี​รูป​ทรง​เหมือน​ถัง​ไม้​โอ๊ก​ที่​เรา​เคย​เห็น​กัน. ต่อ​มา​ช่าง​จะ​ตอก​แถบ​เหล็ก​ที่​เหลือ​เข้า​กับ​ขอบ​ปลาย​ถัง​อีก​ด้าน​หนึ่ง ซึ่ง​จะ​ใช้​เพียง​ชั่ว​คราว จน​กว่า​จะ​นำ​แถบ​เหล็ก​จริง​มา​ใส่​ใน​ภาย​หลัง. ถึง​ตอน​นี้ ถัง​ไม้​ทั้ง​สอง​ด้าน​ยัง​เปิด​อยู่.

เอา​ถัง​ไป “อัง​ไฟ”

เมื่อ​ประกอบ​ไม้​ให้​เป็น​ถัง​แล้ว ช่าง​จะ​เซาะ​ขอบ​ด้าน​ใน​ถัง​ทั้ง​สอง​ข้าง​ให้​เป็น​ร่อง เพื่อ​ภาย​หลัง​จะ​ปิด​ถัง​ด้วย​แผ่น​ไม้​กลม ๆ ที่​เรียก​ว่า ฝา​ปิด​ถัง. ฝา​ปิด​ถัง​นี้​ทำ​จาก​ไม้​โอ๊ก​แผ่น​เล็ก ๆ ที่​มี​กก​หรือ​อ้อ​เส้น​บาง ๆ สอด​อยู่​ตรง​กลาง. กก​หรือ​อ้อ​จะ​เป็น​ตัว​อุด​รอย​รั่ว​เพื่อ​กัน​ไม่​ให้​ของ​เหลว​ใน​ถัง​ไม้​ซึม​ออก​มา​ได้ ใน​กรณี​ที่​ไม้​บวม​หรือ​หด​ตัว​ไม่​เสมอ​กัน.

ก่อน​ใส่​ฝา​ปิด​ถัง ช่าง​อาจ​นำ​ถัง​ไม้​ไป​ครอบ​ไฟ​อีก​ครั้ง เพื่อ​อัง​หรือ​เผา​ส่วน​ด้าน​ใน​ของ​ถัง​เล็ก​น้อย​ด้วย​เปลว​ไฟ. การ​อัง​ไฟ​นี้​มี​หลาย​ระดับ ตั้ง​แต่​เผา​เพียง​เล็ก​น้อย​ไป​จน​ถึง​เผา​จน​ไหม้​เกรียม ทั้ง​นี้​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​ต้องการ​ของ​ผู้​ผลิต​ไวน์​ที่​สั่ง​ถัง​ไม้. การ​นำ​ไม้​ไป​อัง​ไฟ​จะ​ช่วย​เพิ่ม​กลิ่น​รส​ของ​ไม้​ที่​จะ​ซึมซาบ​เข้า​ไป​ใน​ไวน์. ฝา​ปิด​ถัง​อาจ​ถูก​นำ​ไป​อัง​ไฟ​แยก​ต่าง​หาก. หลัง​จาก​นั้น ช่าง​ทำ​ถัง​จะ​ใส่​ฝา​และ​เจาะ​รู​ที่​ข้าง​ถัง​ไม้​โอ๊ก​เพื่อ​จะ​บรรจุ​หรือ​ถ่าย​ไวน์​ออก​จาก​ถัง​ได้. ขั้น​ตอน​สุด​ท้าย ช่าง​จะ​ขัด​ด้าน​นอก​ของ​ถัง​ด้วย​กระดาษ​ทราย​แล้ว​ส่ง​ให้​โรง​งาน​ผลิต​ไวน์.

‘หิ้ง​เครื่อง​ปรุง’ ของ​ผู้​ผลิต​ไวน์

บ็อบ ผู้​จัด​การ​โรง​งาน​ผลิต​ไวน์​แห่ง​หนึ่ง​ใน​แคลิฟอร์เนีย บอก​ว่า “ไม้​โอ๊ก​เป็น​ไม้​ที่​เหมาะ​ที่​สุด​สำหรับ​ทำ​ถัง​บ่ม​ไวน์​ของ​เรา.” ขณะ​ที่​พา​นัก​ท่อง​เที่ยว​กลุ่ม​หนึ่ง​ชม​โรง​งาน​ผลิต​ไวน์ เขา​อธิบาย​ว่า “ไม้​โอ๊ก​เป็น​ไม้​ชนิด​เดียว​ซึ่ง​นอก​จาก​จะ​มี​ความ​แข็ง ทำ​ให้​ผลิต​ถัง​ไม้​ที่​ทนทาน​ได้​แล้ว ยัง​มี​คุณสมบัติ​ที่​ช่วย​ให้​ไวน์​ที่​หมัก​ใน​ถัง​มี​กลิ่น​รส​ดี​ขึ้น​ด้วย.” บ็อบ​ชี้​ไป​ยัง​ถัง​ไม้​ที่​ตั้ง​เรียง​เป็น​แถว และ​พูด​ว่า “ขณะ​ที่​ไวน์​ถูก​บ่ม​อยู่​ใน​ถัง ถัง​จะ​ทำ​หน้า​ที่​เหมือน​กับ​ปอด. ออกซิเจน​จะ​ค่อย ๆ ซึม​ผ่าน​แผ่น​ไม้​เข้า​ไป​ใน​ถัง ทำ​ให้​ไวน์​ได้​รับ​ออกซิเจน. ขั้น​ตอน​ดัง​กล่าว​จะ​ทำ​ให้​สี​ของ​ไวน์​คงที่​และ​มี​รส​นุ่ม​ละมุน. ขณะ​เดียว​กัน ถัง​ไม้​จะ​ปล่อย​แอลกอฮอล์​และ​น้ำ​ออก​มา ซึ่ง​จะ​ระเหย​ไป​ใน​อากาศ. กาก​หรือ​ตะกอน​ของ​ยีสต์​จะ​ตก​อยู่​ที่​ก้น​ถัง และ​น้ำตาล​กับ​แทนนิน​จาก​ไม้​โอ๊ก​จะ​ค่อย ๆ ซึมซาบ​เข้า​ไป​ใน​ไวน์ ทำ​ให้​เกิด​กลิ่น​รส​ที่​เป็น​ลักษณะ​เฉพาะ​ตัว. ไวน์​ที่​ทำ​ใน​แต่​ละ​ครั้ง​จะ​ถูก​บ่ม​ไว้​ใน​ถัง​นาน 18 เดือน​หรือ​มาก​กว่า​นั้น ขึ้น​อยู่​กับ​ชนิด​ของ​ไวน์ หลัง​จาก​นั้น​จึง​จะ​บรรจุ​ลง​ใน​ขวด.”

บ็อบ​อธิบาย​ต่อ​ว่า “ถัง​ไวน์​มี​อายุ​การ​ใช้​งาน​จำกัด. เรา​จะ​บ่ม​ไวน์​ชั้น​ยอด​ของ​เรา​ใน​ถัง​ไม้​โอ๊ก​ใหม่​เท่า​นั้น เพราะ​หลัง​จาก​ใช้​งาน​ไป​ครั้ง​หนึ่ง​แล้ว​กลิ่น​รส​ของ​ไม้​จะ​ถูก​ดูด​ออก​ไป​เกือบ​หมด. ถัง​ไม้​สามารถ​ใช้​ได้​มาก​กว่า​หนึ่ง​ครั้ง แต่​ถ้า​ใช้​หลาย​ครั้ง​ก็​อาจ​ทำ​ให้​ไวน์​มี​กลิ่น​รส​ที่​ไม่​พึง​ประสงค์​ได้.”

เมื่อ​อธิบาย​ว่า​เพราะ​เหตุ​ใด​แหล่ง​ที่​มา​ของ​ไม้​โอ๊ก​จึง​เป็น​เรื่อง​สำคัญ บ็อบ​กล่าว​ว่า “ไม้​โอ๊ก​ขาว​ซึ่ง​ปลูก​ที่​ลิมูแซง ใน​ฝรั่งเศส จะ​ให้​กลิ่น​รส​ที่​เป็น​แบบ​เฉพาะ ซึ่ง​ต่าง​จาก​กลิ่น​รส​ที่​ได้​จาก​ไม้​โอ๊ก​ขาว​ที่​ปลูก​ใน​รัฐ​มิสซูรี​ของ​สหรัฐ.” ทำไม​จึง​เป็น​เช่น​นั้น? “องค์​ประกอบ​ของ​ดิน, สภาพ​อากาศ, และ​อายุ​ของ​ป่า​ไม้​เป็น​ปัจจัย​ส่วน​หนึ่ง. นอก​จาก​นั้น วิธี​ทำ​ให้​ไม้​แห้ง ไม่​ว่า​จะ​ด้วย​การ​อบ​ใน​เตา​เผา​หรือ​ด้วย​การ​ผึ่ง​ลม ก็​ทำ​ให้​ไม้​โอ๊ก​มี​ผล​ต่อ​ไวน์​แตกต่าง​ออก​ไป​ด้วย. ถัง​ไวน์​ที่​ดี​ที่​สุด​จะ​ต้อง​ทำ​จาก​ไม้​ที่​ทำ​ให้​แห้ง​โดย​การ​ผึ่ง​ลม​เท่า​นั้น. ถัง​ไม้​ที่​เรา​ใช้​ส่วน​ใหญ่​ทำ​จาก​ไม้​โอ๊ก​ของ​อเมริกา​หรือ​ไม่​ก็​ฝรั่งเศส หรือ​จาก​สอง​แห่ง​ผสม​กัน แต่​ไม้​โอ๊ก​ที่​ปลูก​ใน​ประเทศ​จีน​หรือ​ยุโรป​ตะวัน​ออก​ก็​เหมาะ​สำหรับ​ทำ​ถัง​ไวน์​เช่น​กัน.”

เมื่อ​การ​เที่ยว​ชม​โรง​งาน​สิ้น​สุด​ลง บ็อบ​บอก​ว่า “ตัว​เลือก​ทั้ง​หมด​นี้ ตั้ง​แต่​ชนิด​ของ​ไม้​โอ๊ก​ที่​ใช้, ระดับ​การ​อัง​ไฟ, และ​ระยะ​เวลา​การ​บ่ม​ไวน์​ใน​ถัง เป็น​เสมือน​เครื่อง​ปรุง​บน​หิ้ง​ที่​ผู้​ผลิต​ไวน์​จะ​เลือก​หยิบ​มา​ใช้​เพื่อ​ทำ​ให้​กลิ่น​รส​ของ​ไวน์​ออก​มา​แตกต่าง​กัน. ดัง​นั้น คราว​หน้า​ถ้า​คุณ​ได้​ลิ้ม​รส​ไวน์​แดง​คุณภาพ​ดี​แก้ว​หนึ่ง ขอ​ให้​นึก​ถึง​ไม่​เพียง​เวลา​และ​ความ​พยายาม​ที่​ใช้​ใน​การ​ผลิต​เท่า​นั้น แต่​นึก​ถึง​ทักษะ​ที่​เกี่ยว​ข้อง​ใน​การ​ทำ​ถัง​ที่​ใช้​บ่ม​ไวน์​ด้วย.”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 26]

ถัง​ไม้​โอ๊ก​หรือ​ผง​ไม้​โอ๊ก?

ไวน์​ขาว​บาง​ชนิด เช่น ชาร์ดอนเนย์ จะ​ถูก​บ่ม​ใน​ถัง​ไม้​โอ๊ก. แต่​ไม่​ใช่​ไวน์​ขาว​ทุก​ชนิด​จะ​บ่ม​ใน​ถัง​ไม้​โอ๊ก. ผู้​ผลิต​ไวน์​บาง​คน​ทำ​ให้​ไวน์​มี​กลิ่น​รส​ของ​ไม้​โอ๊ก​โดย​ใส่​แผ่น​ไม้​โอ๊ก​เข้า​ไป​ใน​ถัง​ไวน์​ที่​ทำ​จาก​สเตนเลส หรือ​มิ​ฉะนั้น​ก็​เติม​เศษ​หรือ​ผง​ไม้​โอ๊ก​ลง​ใน​ไวน์​ที่​บ่ม​ใน​ถัง​สเตนเลส​หรือ​คอนกรีต.

[ภาพ​หน้า 24]

ไม้​ที่​ใช้​ทำ​ถัง​ไวน์​ต้อง​เป็น​ไม้​โอ๊ก​คุณภาพ​เยี่ยม​เท่า​นั้น

[ภาพ​หน้า 24]

ท่อน​ไม้​ถูก​ผ่า​ด้วย​เครื่อง​ไฮดรอลิก

[ภาพ​หน้า 24]

ต้อง​ผ่า​ไม้​ตาม​แนว​เสี้ยน​ไม้ มิ​ฉะนั้น​จะ​เก็บ​ของ​เหลว​ไม่​อยู่

[ภาพ​หน้า 25]

แผ่น​ไม้​หยาบ​ที่​พร้อม​จะ​ทำ​เป็น​ไม้​ทำ​ถัง

[ภาพ​หน้า 25]

เมื่อ​เอา​ถัง​ไป​อัง​ไฟ​แล้ว จะ​ใช้​แถบ​เหล็ก​รัด​แผ่น​ไม้​เข้า​ด้วย​กัน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Seguin-Moreau, France

[ภาพ​หน้า 25]

ไวน์​ถูก​บ่ม​ใน​ถัง​ไม้​โอ๊ก​เพื่อ​เพิ่ม​กลิ่น​รส

[ภาพ​หน้า 26]

ช่าง​ทำ​ถัง​ใน​ปารีส ตอน​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 20

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© Cliché Bibliothèque nationale de France, Paris

[ภาพ​หน้า 27]

การ​ชิม​ไวน์​ที่​บ่ม​ใน​ถัง​จน​ได้​ที่​แล้ว ประมาณ​ปี 1900

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© Cliché Bibliothèque nationale de France, Paris

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 24]

© Sandro Vannini/CORBIS