ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

รา—มีทั้งคุณและโทษ!

รา—มีทั้งคุณและโทษ!

รา—มี​ทั้ง​คุณ​และ​โทษ!

โดย​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! ใน​สวีเดน

รา​บาง​ชนิด​ช่วย​รักษา​ชีวิต ส่วน​รา​บาง​ชนิด​ก็​ทำ​ให้​เสีย​ชีวิต. รา​บาง​ชนิด​ช่วย​เพิ่ม​รสชาติ​ให้​กับ​เนย​แข็ง​และ​ไวน์ แต่​บาง​ชนิด​ทำ​ให้​อาหาร​เป็น​พิษ. รา​บาง​ชนิด​ก็​ขึ้น​อยู่​บน​ขอน​ไม้ ส่วน​รา​ชนิด​อื่น​ชอบ​ขึ้น​ใน​ห้อง​น้ำ​และ​หนังสือ. ที่​จริง รา​มี​อยู่​ทุก​หน​ทุก​แห่ง—สปอร์​ของ​มัน​อาจ​กำลัง​ลอย​ผ่าน​จมูก​ของ​คุณ​ก็​ได้​ตอน​ที่​คุณ​อ่าน​ประโยค​นี้.

หาก​คุณ​สงสัย​ว่า​มี​รา​อยู่​รอบ​ตัว​เรา​จริง​หรือ​ไม่ ลอง​เอา​ขนมปัง​แผ่น​หนึ่ง​วาง​ทิ้ง​ไว้​ข้าง​นอก​ดู​สิ หรือ​จะ​เอา​วาง​ไว้​ใน​ตู้​เย็น​ก็​ได้. ไม่​นาน​คุณ​จะ​เห็น​เส้นใย​ฝอย ๆ ขึ้น​บน​ขนมปัง—นั่น​แหละ​รา!

รา​คือ​อะไร?

รา​อยู่​ใน​อาณาจักร​เห็ด​รา (Fungi kingdom) ซึ่ง​มี​มาก​กว่า 100,000 ชนิด รวม​ถึง​รา​ที่​ทำ​ให้​เกิด​โรค​รา​น้ำ​ค้าง, เห็ด​ชนิด​ต่าง ๆ, รา​ที่​ทำ​ให้​เกิด​โรค​ราสนิม​ใน​พืช, และ​ยีสต์. มี​เชื้อ​รา​เพียง 100 ชนิด​เท่า​นั้น​ที่​ทราบ​กัน​ว่า​เป็น​สาเหตุ​ของ​โรค​ที่​เกิด​กับ​คน​และ​สัตว์. ส่วน​รา​อื่น ๆ อีก​หลาย​ชนิด​มี​บทบาท​สำคัญ​ใน​ห่วง​โซ่​อาหาร นั่น​คือ​ทำ​หน้า​ที่​ย่อย​สลาย​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​ตาย​แล้ว​และ​โดย​วิธี​นั้น​สาร​ประกอบ​ที่​จำเป็น​จึง​ถูก​นำ​กลับ​มา​ให้​พืช​ใช้​ได้​อีก. นอก​จาก​นี้ รา​กับ​พืช​ยัง​มี​ความ​สัมพันธ์​แบบ​พึ่ง​พา​อาศัย​กัน โดย​ช่วย​พืช​ดูด​ซึม​สาร​อาหาร​จาก​ดิน. และ​รา​บาง​ชนิด​เป็น​ปรสิต.

จุด​เริ่ม​ต้น​วงจร​ชีวิต​ของ​รา​เกิด​จาก​สปอร์​หนึ่ง​สปอร์​ที่​เล็ก​มาก​จน​มอง​ด้วย​ตา​เปล่า​ไม่​เห็น ปลิว​ล่อง​ลอย​ไป​กับ​สาย​ลม. ถ้า​สปอร์​ตก​ลง​บน​แหล่ง​อาหาร​ที่​เหมาะ​สม​รวม​ทั้ง​มี​องค์​ประกอบ​อื่น ๆ ด้วย เช่น มี​อุณหภูมิ​และ​ความ​ชื้น​พอ​เหมาะ สปอร์​จะ​งอก​เป็น​เซลล์​ที่​มี​ลักษณะ​คล้าย​เส้น​ด้าย​ซึ่ง​เรียก​ว่า ใย​รา (hyphae). ใย​รา​จะ​รวม​กลุ่ม​กัน​เป็น​ก้อน​ฟู ๆ ที่​เรียก​ว่า​กลุ่ม​ใย​รา (mycelium) ซึ่ง​สามารถ​มอง​เห็น​ได้​ด้วย​ตา​เปล่า. รา​อาจ​มี​ลักษณะ​คล้าย​คราบ​สกปรก​หรือ​รอย​เปื้อน เช่น รา​ที่​ขึ้น​ตาม​ปูน​ยา​แนว​กระเบื้อง​ใน​ห้อง​น้ำ.

รา​ขยาย​พันธุ์​เก่ง​มาก. รา​ธรรมดา ๆ ที่​ขึ้น​บน​ขนมปัง​ไรโซปัส สโตโลนิเฟอร์ (Rhizopus stolonifer) มี​ลักษณะ​เป็น​จุด​สี​ดำ​เล็ก ๆ ซึ่ง​ก็​คือ​อับสปอร์. จุด​สี​ดำ​แค่​หนึ่ง​จุด​มี​สปอร์​มาก​กว่า 50,000 สปอร์ แต่​ละ​สปอร์​สามารถ​สร้าง​สปอร์​ใหม่​ได้​หลาย​ร้อย​ล้าน​สปอร์​ภาย​ใน​เวลา​ไม่​กี่​วัน! ถ้า​มี​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​เหมาะ​สม ก็​ง่าย​มาก​ที่​รา​จะ​ขึ้น​บน​หนังสือ, รอง​เท้า​บูต, หรือ​กระดาษ​บุ​ผนัง​เหมือน​กับ​ที่​มัน​ขึ้น​บน​ขอน​ไม้​ใน​ป่า.

รา “กิน” อาหาร​อย่าง​ไร? ไม่​เหมือน​สัตว์​และ​มนุษย์​ซึ่ง​จะ​กิน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ดูด​ซึม​สาร​อาหาร​โดย​อาศัย​ระบบ​ย่อย​อาหาร แต่​รา​มัก​จะ​ใช้​วิธี​กลับ​กัน. เมื่อ​โมเลกุล​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​มี​ขนาด​ใหญ่​หรือ​ซับซ้อน​เกิน​กว่า​จะ​กิน​เข้า​ไป​ได้ รา​จะ​ค่อย ๆ ปล่อย​น้ำ​ย่อย​ออก​มา​เพื่อ​ย่อย​โมเลกุล​ให้​มี​ขนาด​เล็ก​ลง​แล้ว​ก็​ดูด​ซึม​สาร​อาหาร​เข้า​ไป. นอก​จาก​นั้น เนื่อง​จาก​รา​ไม่​สามารถ​ออก​หา​อาหาร​เอง​ได้ มัน​จึง​ต้อง​อาศัย​อยู่​ใน​อาหาร.

รา​สามารถ​ผลิต​สาร​พิษ​เรียก​ว่า สาร​พิษ​จาก​รา (mycotoxin) ซึ่ง​อาจ​ทำ​ให้​เกิด​ปฏิกิริยา​ที่​เป็น​อันตราย​ต่อ​มนุษย์​และ​สัตว์. สาร​พิษ​ดัง​กล่าว​อาจ​มี​ผล​ต่อ​เรา​หาก​หายใจ​เข้า​ไป, กลืน, หรือ​สัมผัส​กับ​ผิวหนัง​โดย​ตรง. แต่​รา​ก็​ไม่​ได้​เป็น​อันตราย​เสมอ​ไป เพราะ​รา​บาง​ชนิด​มี​ประโยชน์​มาก.

ด้าน​ที่​เป็น​คุณประโยชน์​ของ​รา

ใน​ปี 1928 นัก​วิทยาศาสตร์​ชื่อ อะเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง ได้​สังเกต​เห็น​โดย​บังเอิญ​ว่า​เชื้อ​รา​สี​เขียว​สามารถ​ฆ่า​แบคทีเรีย​ได้. ต่อ​มา​มี​การ​ระบุ​ว่า รา​ชนิด​นี้​ก็​คือ​เพนิซิเลียม โนตาตัม (Penicillium notatum) ซึ่ง​ปรากฏ​ว่า​สามารถ​ฆ่า​แบคทีเรีย​ได้ แต่​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​ไม่​เป็น​อันตราย​ต่อ​มนุษย์​และ​สัตว์. การ​ค้น​พบ​ครั้ง​นั้น​เป็น​จุด​เริ่ม​ต้น​ของ​การ​พัฒนา​ยา​เพนิซิลลิน ซึ่ง​ถือ​เป็น “ยา​ชนิด​เดียว​ที่​รักษา​ชีวิต​ได้​ดี​ที่​สุด​ของ​วงการ​แพทย์​สมัย​ใหม่.” เนื่อง​จาก​ผล​งาน​ชิ้น​นี้ เฟลมมิง​และ​เพื่อน​นัก​วิจัย​ของ​เขา​คือ โฮเวิร์ด ฟลอรีย์​และ​เอินสต์ เชน ได้​รับ​รางวัล​โนเบล​สาขา​เวชศาสตร์​ใน​ปี 1945. นับ​แต่​นั้น​มา มี​การ​นำ​รา​มา​ทำ​ยา​ชนิด​อื่น ๆ อีก​หลาย​ชนิด รวม​ไป​ถึง​ยา​ละลาย​ลิ่ม​เลือด, ยา​รักษา​อาการ​ปวด​ศีรษะ​แบบ​ไมเกรน, และ​ยา​รักษา​โรค​พาร์กิน​สัน.

เชื้อ​รา​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​วงการ​อาหาร​ด้วย. ตัว​อย่าง​เช่น ขอ​พิจารณา​เนย​แข็ง. คุณ​รู้​ไหม​ว่า เนย​แข็ง​ชนิด​ต่าง ๆ เช่น บรี, กามองแบร์, เดนิชบลู, กอร์กอนโซลา, โรเกอฟอร์, และ​สติลตัน ซึ่ง​มี​กลิ่น​รส​ที่​เป็น​แบบ​เฉพาะ​ล้วน​แล้ว​แต่​ต้อง​พึ่ง​รา​บาง​ชนิด​ใน​กลุ่ม​เพนิซิเลียม? เช่น​เดียว​กับ ซาลามี, ซอส​ถั่ว​เหลือง, และ​เบียร์​ผลิต​ขึ้น​โดย​ใช้​รา​บาง​ชนิด.

ไวน์​ก็​เช่น​เดียว​กัน. เมื่อ​เก็บ​ผล​องุ่น​บาง​ชนิด​ที่​โต​ได้​ขนาด​ใน​ช่วง​เวลา​ที่​เหมาะ​สม​และ​มี​ปริมาณ​เชื้อ​รา​พอ​เหมาะ​ใน​แต่​ละ​พวง ผล​ผลิต​ที่​ได้​คือ​ไวน์​รส​เลิศ​สำหรับ​ดื่ม​หลัง​อาหาร. รา​บอทรีทิส ซิเนอเรีย (Botrytis cinerea) เป็น​ชนิด​ที่​ทำ​ให้​องุ่น​มี​น้ำตาล​มาก​ขึ้น​และ​ทำ​ให้​ได้​ไวน์​ที่​มี​รสชาติ​ดี​ขึ้น. ใน​ห้อง​บ่ม​ไวน์ รา​คลาโดสโปเรียม เซลลาเร (Cladosporium cellare) ช่วย​เพิ่ม​รสชาติ​ให้​กับ​ไวน์​ขณะ​ที่​มี​การ​บ่ม. ภาษิต​ของ​ผู้​ผลิต​ไวน์​ชาว​ฮังการี​ถอด​ความ​ได้​ว่า ‘ไวน์​ชั้น​เยี่ยม​เป็น​ผล​มา​จาก​รา​ที่​ดี.’

เมื่อ​รา​ให้​โทษ

คุณสมบัติ​ที่​เป็น​อันตราย​ของ​รา​บาง​ชนิด​ก็​มี​ประวัติ​มา​ยาว​นาน​ด้วย. ใน​ศตวรรษ​ที่​หก​ก่อน​สากล​ศักราช ชาว​อัสซีเรีย​ใช้​รา​คลาวิเซปส์ เพอร์เพอเรีย (Claviceps purpurea) เป็น​ยา​พิษ​ใส่​ใน​บ่อ​น้ำ​ของ​ศัตรู—นั่น​เป็น​รูป​แบบ​โบราณ​ของ​สงคราม​ที่​ใช้​อาวุธ​ชีวภาพ. ใน​ยุค​กลาง รา​ชนิด​เดียว​กัน​นี้​ที่​บาง​ครั้ง​ขึ้น​บน​ข้าว​ไรย์ ได้​ทำ​ให้​ผู้​คน​จำนวน​มาก​เป็น​โรค​ลม​ชัก, รู้สึก​ปวด​แสบ​ปวด​ร้อน​เหมือน​ถูก​ไฟ​เผา, เนื้อ​ตาย​เน่า, และ​ประสาท​หลอน. ปัจจุบัน​โรค​นี้​มี​ชื่อ​ว่า​เห็ด​เออร์กอต​เป็น​พิษ แต่​ใน​อดีต​ผู้​คน​เรียก​โรค​นี้​ว่า​ไฟ​ของ​นัก​บุญ​แอนโทนี เพราะ​ผู้​ป่วย​จำนวน​มาก​ซึ่ง​หวัง​ว่า​จะ​หาย​จาก​โรค​โดย​การ​อัศจรรย์​ได้​เดิน​ทาง​ไป​แสวง​บุญ​ที่​อาราม​ของ​นัก​บุญ​แอนโทนี​ใน​ฝรั่งเศส.

สาร​ก่อ​มะเร็ง​ที่​ร้ายแรง​ที่​สุด​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ก็​คือ​อะฟลาทอกซิน เป็น​สาร​พิษ​ที่​เกิด​จาก​รา. ใน​ประเทศ​หนึ่ง​แถบ​เอเชีย มี​ผู้​เสีย​ชีวิต​ปี​หนึ่ง​ราว 20,000 คน​โดย​มี​สาเหตุ​มา​จาก​สาร​อะฟลาทอกซิน. สาร​ประกอบ​ที่​ทำ​ให้​ถึง​ตาย​ได้​นี้​ถูก​ใช้​ใน​อาวุธ​ชีวภาพ​สมัย​ใหม่.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​ได้​รับ​เชื้อ​รา​ทั่ว​ไป​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​ไม่​ทำ​ให้​เจ็บ​ป่วย​ร้ายแรง เพียง​แต่​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​รำคาญ​เท่า​นั้น. จดหมาย​ข่าว​เวลล์เนส​ของ​มหาวิทยาลัย​แคลิฟอร์เนีย​แห่ง​เบิร์กลีย์ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “รา​ส่วน​ใหญ่​ไม่​เป็น​อันตราย​แม้​ว่า​คุณ​จะ​ได้​กลิ่น​มัน​ก็​ตาม.” ตาม​ปกติ​แล้ว คน​ที่​มี​อาการ​แพ้​เมื่อ​ได้​รับ​เชื้อ​รา​ได้​แก่ คน​ที่​มี​ปัญหา​เกี่ยว​กับ​ปอด เช่น โรค​หอบ​หืด; คน​ที่​เป็น​ภูมิ​แพ้, ไว​ต่อ​สาร​เคมี, หรือ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​อ่อนแอ; และ​ชาว​นา​ที่​ได้​รับ​เชื้อ​รา​ใน​ปริมาณ​มาก. ทารก​และ​ผู้​สูง​อายุ​อาจ​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​รา​ง่าย​กว่า.

ตาม​ที่​สำนักงาน​บริการ​สาธารณสุข​แห่ง​แคลิฟอร์เนีย​กล่าว​ไว้ รา​อาจ​ส่ง​ผล​ให้​เกิด​อาการ​ดัง​ต่อ​ไป​นี้: ‘ปัญหา​เกี่ยว​กับ​ระบบ​หายใจ เช่น หายใจ​ขัด​มี​เสียง​ฟืดฟาด, หายใจ​ไม่​ออก, และ​หอบ; อาการ​คัด​ใน​จมูก​และ​โพรง​จมูก; เคือง​ตา (แสบ, น้ำตา​ไหล, หรือ​ตา​แดง); ไอ​แห้ง ๆ; ระคาย​เคือง​ใน​จมูก​และ​คอ; ผิวหนัง​เป็น​ตุ่ม​หรือ​คัน.’

รา​และ​อาคาร

ใน​บาง​ดินแดน เป็น​เรื่อง​ปกติ​ที่​จะ​ได้​ยิน​ข่าว​ว่า มี​การ​ปิด​โรง​เรียน​หรือ​ให้​ผู้​คน​ย้าย​ออก​จาก​บ้าน​หรือ​สำนักงาน​เพราะ​จะ​มี​การ​กำจัด​รา. ต้น​ปี 2002 พิพิธภัณฑ์​ศิลปะ​สมัย​ใหม่​ที่​เพิ่ง​เปิด​ใน​กรุง​สตอกโฮล์ม สวีเดน ต้อง​ปิด​ปรับ​ปรุง​เพราะ​รา. การ​กำจัด​รา​ต้อง​เสีย​ค่า​ใช้​จ่าย​ประมาณ​สอง​ร้อย​ล้าน​บาท! เหตุ​ใด​ตอน​นี้​ปัญหา​ดัง​กล่าว​จึง​กลาย​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​มาก​ยิ่ง​ขึ้น?

คำ​ตอบ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ปัจจัย​หลัก​สอง​ประการ​คือ วัสดุ​ที่​ใช้​ใน​การ​ก่อ​สร้าง​และ​การ​ออก​แบบ. ไม่​กี่​สิบ​ปี​มา​นี้ มี​การ​ใช้​วัสดุ​ก่อ​สร้าง​ชนิด​ที่​เหมาะ​กับ​การ​เจริญ​เติบโต​ของ​รา​มาก​ขึ้น. ตัว​อย่าง​หนึ่ง​คือ ผนัง​เบา​หรือ​แผ่น​ยิปซัม ซึ่ง​มัก​จะ​ผลิต​จาก​ปูน​ปลาสเตอร์​เป็น​แกนกลาง​ของ​แผ่น​โดย​ยึด​ประกบ​ด้วย​กระดาษ​อัด​หลาย ๆ ชั้น. แกนกลาง​มัก​จะ​ดูด​ความ​ชื้น. ดัง​นั้น ถ้า​แผ่น​ยิปซัม​เปียก​อยู่​เป็น​เวลา​นาน สปอร์​ของ​รา​ก็​จะ​งอก​ขึ้น​โดย​อาศัย​กระดาษ​ใน​แผ่น​ยิปซัม​เป็น​อาหาร.

นอก​จาก​นี้ แบบ​อาคาร​ก็​เปลี่ยน​ไป​ด้วย. ก่อน​ทศวรรษ 1970 อาคาร​หลาย​หลัง​ใน​สหรัฐ​และ​หลาย​ดินแดน​ไม่​ค่อย​มี​การ​กรุ​ฉนวน​กัน​ความ​ร้อน และ​ไม่​ได้​เป็น​อาคาร​แบบ​ปิด​แบบ​ใน​ยุค​หลัง ๆ. การ​เปลี่ยน​แปลง​นี้​เป็น​ผล​มา​จาก​ความ​ต้องการ​ที่​จะ​สร้าง​อาคาร​ให้​เป็น​แบบ​ที่​ประหยัด​พลัง​งาน โดย​ลด​การ​ถ่าย​เท​ความ​ร้อน​และ​ทำ​ให้​อากาศ​ไหล​เวียน​น้อย​ลง. ดัง​นั้น ถ้า​ตอน​นี้​มี​น้ำ​เข้า​มา​ใน​อาคาร​ก็​ต้อง​ใช้​เวลา​นาน​ขึ้น​กว่า​ที่​น้ำ​จะ​ระเหย​หมด​ไป ซึ่ง​จะ​ส่ง​ผล​ดี​ต่อ​การ​เจริญ​เติบโต​ของ​รา. ปัญหา​นี้​มี​ทาง​แก้​ไหม?

วิธี​แก้​ปัญหา​ที่​ได้​ผล​ดี​ที่​สุด​หรือ​อย่าง​น้อย​ก็​ลด​ปัญหา​เรื่อง​รา​ก็​คือ พยายาม​ทำ​ให้​ภาย​ใน​อาคาร​สะอาด​และ​แห้ง​อยู่​เสมอ รวม​ทั้ง​รักษา​ความ​ชื้น​ให้​อยู่​ใน​ระดับ​ต่ำ. ถ้า​ที่​ใด​มี​ความ​ชื้น​สะสม​มาก จง​เช็ด​บริเวณ​นั้น​ให้​แห้ง​ทันที​และ​เปลี่ยน​หรือ​ซ่อมแซม​ตาม​ที่​จำเป็น​เพื่อ​ไม่​ให้​น้ำ​ขัง​อีก. ตัว​อย่าง​เช่น พยายาม​ดู​แล​หลังคา​และ​ราง​น้ำ​ให้​สะอาด​และ​ซ่อมแซม​ให้​อยู่​ใน​สภาพ​ดี​เสมอ. และ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​พื้น​ที่​รอบ​อาคาร​เป็น​ที่​ลาด​เอียง​เพื่อ​จะ​ไม่​มี​น้ำ​ขัง​ที่​บริเวณ​ฐาน​ราก​อาคาร. ถ้า​คุณ​ใช้​เครื่อง​ปรับ​อากาศ ให้​ทำ​ความ​สะอาด​ถาด​รอง​น้ำ​และ​ระวัง​ไม่​ให้​ท่อ​ระบาย​น้ำ​ทิ้ง​อุดตัน.

เจ้าหน้าที่​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “การ​ควบคุม​ความ​ชื้น​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​การ​ควบคุม​รา.” มาตรการ​ง่าย ๆ อาจ​ช่วย​ป้องกัน​ไม่​ให้​คุณ​และ​ครอบครัว​ต้อง​ประสบ​กับ​ปัญหา​เรื่อง​รา​ที่​ไม่​พึง​ประสงค์. ใน​บาง​แง่ รา​เปรียบ​เหมือน​ไฟ. มัน​อาจ​เป็น​อันตราย​ก็​จริง แต่​ก็​อาจ​มี​ประโยชน์​มหาศาล ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​เรา​จะ​ใช้​และ​ควบคุม​มัน​อย่าง​ไร. แน่นอน​ว่า ยัง​มี​อีก​มาก​ที่​เรา​ต้อง​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​รา. แต่​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​อัน​น่า​ทึ่ง​ของ​พระเจ้า​ล้วน​แต่​จะ​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​เรา​ทั้ง​นั้น.

[กรอบ/กรอบ​หน้า 14, 15]

มี​การ​กล่าว​ถึง​รา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไหม?

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ถึง “โรค​เรื้อน​ใน​เรือน” นั่น​หมาย​ถึง​ใน​ตัว​บ้าน. (เลวีติโก 14:​34-48) บาง​คน​เคย​คิด​ว่า​ปรากฏการณ์​นี้ ซึ่ง​ถูก​เรียก​เช่น​กัน​ว่า “โรค​ร้าย” คือ​เชื้อ​รา​แบบ​หนึ่ง แต่​ก็​ยัง​ไม่​เป็น​ที่​ทราบ​แน่ชัด. ไม่​ว่า​จะ​เป็น​กรณี​ใด​ก็​ตาม พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า​สั่ง​ว่า เจ้าของ​บ้าน​จะ​ต้อง​ย้าย​หิน​ที่​ติด​เชื้อ​ออก​ไป, ขูด​ปูน​ที่​โบก​ผนัง​ภาย​ใน​บ้าน​ทั้ง​หมด, และ​นำ​สิ่ง​ของ​ที่​สงสัย​ว่า​ติด​เชื้อ​ออก​ไป​ทิ้ง​นอก​เมือง​ที่ “กอง​หยากเยื่อ.” ถ้า​โรค​นั้น​กลับ​มา​อีก จะ​มี​การ​ประกาศ​ว่า​บ้าน​นั้น​ไม่​สะอาด​และ​จะ​ต้อง​รื้อ​บ้าน​หลัง​นั้น​ทิ้ง. คำ​แนะ​นำ​อย่าง​ละเอียด​ของ​พระ​ยะโฮวา​สะท้อน​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​รัก​ประชาชน​ของ​พระองค์​อย่าง​ยิ่ง​และ​ทรง​เป็น​ห่วง​สวัสดิภาพ​ทาง​ร่าง​กาย​ของ​พวก​เขา.

[ภาพ​หน้า 13]

ยา​ที่​ผลิต​จาก​รา​ช่วย​รักษา​ชีวิต​ผู้​คน​มาก​มาย

[ภาพ​หน้า 15]

ผนัง​เบา​และ​ไวนิล​สามารถ​ดูด​ซับ​ความ​ชื้น​ซึ่ง​ทำ​ให้​เชื้อ​รา​เจริญ​เติบโต​ได้​ดี