ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

จากความสิ้นหวังสู่ความสุข

จากความสิ้นหวังสู่ความสุข

จาก​ความ​สิ้น​หวัง​สู่​ความ​สุข

เล่า​โดย​บีเซนเต กอนซาเลซ

เมื่อ​พวก​เพื่อน​บ้าน​ได้​ข่าว​ว่า​ผม​ยิง​ตัว​เอง​สี่​นัด​แต่​ก็​ยัง​ไม่​ตาย พวก​เขา​จึง​เริ่ม​เรียก​ผม​ว่า​ซูเปอร์​แมน. แต่​ผม​ไม่​ใช่​ซูเปอร์​แมน​แน่ ๆ. ขอ​ให้​ผม​อธิบาย​ว่า​ทำไม​ผม​จึง​พยายาม​ฆ่า​ตัว​ตาย.

ผม​เกิด​เมื่อ​ปี 1951 ใน​เมือง​ไกวอากีล ประเทศ​เอกวาดอร์. พ่อ​แม่​ผม​ปลูก​บ้าน​อยู่​ริม​ทะเล​สำหรับ​ลูก ๆ เก้า​คน​ใน​ที่​ดิน​ที่​บุกรุก​เข้า​ไป​จับ​จอง​กัน. คน​จน​หลาย​ครอบครัว “บุกรุก” เข้า​ไป​ใน​พื้น​ที่​นั้น​อย่าง​ผิด​กฎหมาย แล้ว​สร้าง​บ้าน​ที่​มี​ผนัง​ทำ​ด้วย​ไม้​ไผ่​และ​หลังคา​สังกะสี. เนื่อง​จาก​บ้าน​แถว​นั้น​สร้าง​บน​ดิน​โคลน​และ​อยู่​ใน​หนอง​น้ำ​ป่า​ชาย​เลน จึง​ต้อง​ทำ​เป็น​แบบ​ใต้​ถุน​สูง. เรา​ไม่​มี​ไฟฟ้า​ใช้ เรา​ทำ​กับ​ข้าว​ด้วย​เตา​ถ่าน และ​เรา​ต้อง​เดิน​ไป​ตัก​น้ำ​เที่ยว​ละ​หนึ่ง​กิโลเมตร​เพื่อ​จะ​มี​น้ำ​ดื่ม.

พี่ ๆ ของ​ผม​เริ่ม​ทำ​งาน​ตั้ง​แต่​อายุ​ยัง​น้อย​เพื่อ​ช่วย​หา​เงิน​มา​จุนเจือ​ครอบครัว. เมื่อ​ผม​อายุ 16 ปี ผม​ก็​เลิก​เรียน​หนังสือ​และ​ได้​งาน​เป็น​พนักงาน​ส่ง​เอกสาร​ใน​โรง​งาน​แห่ง​หนึ่ง. ผม​กับ​เพื่อน ๆ เริ่ม​ดื่ม​เหล้า​และ​ประพฤติ​ผิด​ศีลธรรม. คราว​ใด​ที่​ผม​เริ่ม​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ​ที่​ใช้​ชีวิต​อย่าง​นั้น​ผม​ก็​จะ​ไป​สารภาพ​บาป. “ลูก​เอ๋ย ลูก​สารภาพ​บาป​ได้​ดี​แล้ว” บาทหลวง​จะ​พูด​กับ​ผม​อย่าง​นั้น​ก่อน​จะ​บอก​ให้​ผม​ออก​ไป​โดย​ที่​ไม่​ได้​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ใด ๆ เลย. ดัง​นั้น ผม​จึง​ใช้​ชีวิต​แบบ​เดิม​ต่อ​ไป. ใน​ที่​สุด ผม​รู้สึก​ว่า​การ​ทำ​บาป​แล้ว​ก็​ไป​สารภาพ​บาป​เป็น​วัฏจักร​ที่​ไร้​ประโยชน์ ผม​จึง​เลิก​ไป​โบสถ์. ใน​ช่วง​เดียว​กัน​นั้น ผม​เริ่ม​สำนึก​ถึง​ความ​ไม่​ยุติธรรม​ใน​สังคม​รอบ​ตัว​ผม. คน​ส่วน​ใหญ่​เป็น​คน​จน​ซึ่ง​ต้อง​ดิ้นรน​หา​เลี้ยง​ชีพ แต่​คน​ส่วน​น้อย​ที่​ร่ำรวย​กลับ​ใช้​ชีวิต​อย่าง​หรูหรา​ฟุ่มเฟือย. ชีวิต​ดู​เหมือน​ไร้​ความ​หมาย. ผม​รู้สึก​ว่า​ผม​ไม่​มี​อนาคต​หรือ​จุด​หมาย​ใน​ชีวิต​เลย.

แต่​แล้ว​วัน​หนึ่ง ผม​ได้​มา​รู้​ว่า​พี่​สาว​และ​น้อง​สาว​ของ​ผม​สี่​คน​กำลัง​อ่าน​หนังสือ​ที่​จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ผม​ก็​เริ่ม​อ่าน​ด้วย. หนังสือ​เล่ม​หนึ่ง​ที่​ผม​สนใจ​เป็น​พิเศษ​คือ ความ​จริง​ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ชีวิต​ถาวร. หนังสือ​นี้​อธิบาย​เรื่อง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​เรื่อง​อย่าง​กระจ่าง​แจ้ง​ด้วย​เหตุ​และ​ผล. ‘นี่​แหละ​ความ​จริง!’ ผม​จำ​ได้​ว่า​ผม​พูด​กับ​ตัว​เอง​อย่าง​นั้น. แต่​สิ่ง​ที่​ผม​จะ​ได้​เรียน​รู้​ใน​อีก 15 ปี​ต่อ​มา​คือ การ​ดำเนิน​ชีวิต ตาม​ความ​จริง​นั้น​เป็น​คน​ละ​เรื่อง​เลย​ที​เดียว.

เมื่อ​อายุ 22 ปี ผม​เริ่ม​ทำ​งาน​ใน​ธนาคาร. วัน​หนึ่ง​เพื่อน​ร่วม​งาน​บอก​วิธี​ที่​เขา​แอบ “ยืม” เงิน​จาก​ธนาคาร​แล้ว “ใช้​คืน” ใน​ภาย​หลัง. ผม​ก็​เริ่ม​ออก “เงิน​กู้” ให้​ตัว​เอง​ด้วย แล้ว​ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​เอา​เงิน​ไป​มาก​จน​ไม่​อาจ​ปก​ปิด​การ​ทำ​ผิด​ของ​ตัว​เอง​ไว้​ได้. ผม​รู้สึก​สิ้น​หวัง เนื่อง​จาก​คิด​ว่า​ผม​คง​ไม่​มี​ทาง​จะ​คืน​เงิน​จำนวน​นั้น​ได้. ผม​จึง​ตัดสิน​ใจ​สารภาพ​ความ​ผิด​แล้ว​ชด​ใช้​ด้วย​วิธี​ที่​รุนแรง​ที่​สุด​นั่น​คือ​การ​ฆ่า​ตัว​ตาย.

หลัง​จาก​เขียน​จดหมาย​ถึง​ธนาคาร ผม​ก็​ซื้อ​ปืน​ขนาด​ลำ​กล้อง​เล็ก​มา​กระบอก​หนึ่ง ออก​ไป​ที่​ชาย​หาด​เปลี่ยว ๆ แล้ว​ยิง​ตัว​เอง​ที่​หัว​สอง​นัด​และ​ที่​หน้า​อก​อีก​สอง​นัด. แม้​ว่า​จะ​มี​อาการ​สาหัส​มาก แต่​ผม​ก็​ไม่​ตาย. ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ขี่​จักรยาน​ผ่าน​มา​พบ​ผม จึง​รีบ​ส่ง​ตัว​ผม​ไป​โรง​พยาบาล. หลัง​จาก​ฟื้น​ตัว​แล้ว ผม​ก็​ถูก​ดำเนิน​คดี​ข้อ​หา​ยักยอก​ทรัพย์​และ​ถูก​ส่ง​ตัว​เข้า​เรือน​จำ. เมื่อ​ถูก​ปล่อย​ตัว​ออก​มา ผม​รู้สึก​อับอาย​มาก​และ​ซึมเศร้า เพราะ​ตอน​นี้​ผม​มี​ประวัติ​อาชญากร​แล้ว. เนื่อง​จาก​ผม​รอด​ตาย​มา​ได้​แม้​จะ​ยิง​ตัว​เอง​ถึง​สี่​นัด เพื่อน​บ้าน​จึง​เริ่ม​เรียก​ผม​ว่า​ซูเปอร์​แมน.

มี​โอกาส​เปลี่ยน​แปลง

ราว ๆ ช่วง​นี้ ปอล ซานเชซ ซึ่ง​เป็น​มิชชันนารี​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา มา​เยี่ยม​ผม. สิ่ง​แรก​ที่​ผม​เห็น​คือ​รอย​ยิ้ม​กว้าง ๆ ของ​เขา. ปอล​เป็น​คน​ร่าเริง​และ​มอง​โลก​ใน​แง่​ดี​มาก​จน​ผม​ตอบ​ตก​ลง​เมื่อ​เขา​ชวน​ผม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​เป็น​ส่วน​ตัว. ผม​คิด​ใน​ใจ​ว่า ‘เขา​อาจ​ช่วย​ผม​ให้​พบ​ความ​สุข​และ​ความ​หมาย​ใน​ชีวิต​ก็​ได้.’

โดย​ที่​มี​ปอล​คอย​ช่วย ผม​เรียน​รู้​ว่า​พระเจ้า​ทรง​มี​พระ​ประสงค์​สำหรับ​มนุษย์​และ​ใน​วัน​หนึ่ง​ข้าง​หน้า คน​ที่​รัก​และ​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​จะ​ได้​อยู่​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก. (บทเพลง​สรรเสริญ 37:29) ผม​ยัง​ได้​เรียน​รู้​ว่า​พระเจ้า​ไม่​ได้​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ไม่​ยุติธรรม​และ​ความ​ยาก​จน แต่​สิ่ง​เหล่า​นี้​เกิด​ขึ้น​เนื่อง​จาก​มนุษย์​กบฏ​ต่อ​พระเจ้า. (พระ​บัญญัติ 32:4, 5) ความ​จริง​เหล่า​นี้​เป็น​ประหนึ่ง​แสง​สว่าง​ที่​ส่อง​เข้า​มา​ใน​ชีวิต​ของ​ผม. ทว่า การ​เปลี่ยน​บุคลิกภาพ​ของ​ผม​นั้น​ยาก​กว่า​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​มาก​นัก.

ผม​ได้​งาน​ใน​สำนักงาน​ซึ่ง​ต้อง​ดู​แล​เงิน​ทุน​ของ​บริษัท. แล้ว​ผม​ก็​พ่าย​ต่อ​การ​ล่อ​ใจ​และ​เริ่ม​ขโมย​เงิน​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. เมื่อ​ผม​ไม่​อาจ​จะ​ปก​ปิด​เรื่อง​นี้​ไว้​ได้​อีก​ต่อ​ไป ผม​ก็​หนี​ไป​อยู่​อีก​เมือง​หนึ่ง​ใน​เอกวาดอร์​ประมาณ​หนึ่ง​ปี. ผม​พยายาม​จะ​หนี​ออก​นอก​ประเทศ แต่​ไม่​สำเร็จ ผม​จึง​กลับ​บ้าน.

ปอล​พบ​ผม​อีก​ครั้ง​และ​เรา​เริ่ม​ศึกษา​กัน​อีก. คราว​นี้​ผม​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​ใช้​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ชีวิต​และ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. เพื่อ​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น ผม​เล่า​ให้​ปอล​ฟัง​เรื่อง​การ​ฉ้อ​ฉล​ที่​ผม​ทำ​ก่อน​หน้า​นี้ แล้ว​ปอล​ก็​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ตรง​ไป​ตรง​มา​แก่​ผม. เขา​ให้​ผม​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​บาง​ข้อ เช่น เอเฟโซ 4:28 ซึ่ง​บอก​ว่า “ฝ่าย​คน​ที่​เคย​ลัก​ขโมย​ก็​อย่า​ให้​ลัก​ขโมย​อีก​ต่อ​ไป แต่​ให้​ใช้​มือ​กระทำ​การ​งาน​ที่​ดี​ดี​กว่า.” ผม​ตระหนัก​ว่า​ผม​ต้อง​รับ​สารภาพ​และ​ยอม​รับ​ผล​ที่​ตาม​มา.

ขณะ​ที่​ใคร่ครวญ​ถึง​สถานการณ์​ของ​ตัว​เอง​อยู่​นั้น ผม​เริ่ม​ทำ​งาน​ส่วน​ตัว​โดย​เป็น​จิตรกร. วัน​หนึ่ง มี​ชาย​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้า​มา​ใน​สตูดิโอ​ของ​ผม​และ​แสดง​ที​ท่า​ว่า​สนใจ​ภาพ​วาด​ภาพ​หนึ่ง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ชาย​คน​นั้น​เป็น​นัก​สืบ​และ​มี​หมาย​จับ​ผม​มา​ด้วย. ดัง​นั้น ผม​จึง​ต้อง​ขึ้น​ศาล​และ​ติด​คุก​อีก​ครั้ง. ปอล​ไป​เยี่ยม​ผม และ​ผม​ก็​สัญญา​กับ​เขา​ว่า “คุณ​จะ​ไม่​มี​วัน​เสียใจ​ที่​พยายาม​ช่วย​ผม​ให้​เข้าใจ​คัมภีร์​ไบเบิล​เลย.” เรา​ศึกษา​กัน​ต่อ​ระหว่าง​ที่​ผม​อยู่​ใน​เรือน​จำ.

ผม​พิสูจน์​ความ​จริง​ใจ

เมื่อ​ถูก​ปล่อย​ตัว ผม​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​สุด​หัวใจ และ​ผม​ก็​ได้​พิสูจน์​ความ​จริง​ใจ​ของ​ผม​เป็น​เวลา​สอง​ปี. ใน​ปี 1988 ผม​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ด้วย​ความ​มุ่ง​มั่น​ที่​จะ​ชดเชย​เวลา​ที่​เสีย​ไป ผม​จึง​เริ่ม​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์ โดย​พยายาม​เป็น​พิเศษ​ที่​จะ​ให้​คำ​พยาน​แก่​วัยรุ่น​ที่​เป็น​สมาชิก​ใน​แก๊ง​ต่าง ๆ.

แก๊ง​หนึ่ง​ชอบ​ขีด​เขียน​ผนัง​หอ​ประชุม​ของ​เรา​จน​เลอะเทอะ. เนื่อง​จาก​ผม​รู้​จัก​สมาชิก​ใน​แก๊ง​นี้ และ​รู้​ว่า​พวก​เขา​อยู่​ที่​ไหน ผม​จึง​ไป​หา​พวก​เขา อธิบาย​ว่า​หอ​ประชุม​มี​ไว้​เพื่อ​อะไร และ​ขอร้อง​เขา​อย่าง​สุภาพ​ให้​เคารพ​ทรัพย์​สิน​ของ​เรา. ตั้ง​แต่​นั้น​มา​ไม่​เคย​มี​รอย​ขีด​เขียน​เลอะเทอะ​บน​ผนัง​อีก​เลย.

ต่อ​มา เมื่อ​เรา​กำลัง​ปรับ​ปรุง​หอ​ประชุม​และ​ขูด​สี​เก่า​ออก พยาน​ฯ หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ชื่อ เฟอร์นันโด พบ​ข้อ​ความ​ที่​เขียน​ไว้​บน​ผนัง​ที่​อ่าน​ว่า “ไอ้​กบ” (ภาษา​สเปน​คือ ลา รานา). เขา​ร้อง​ขึ้น​มา​ว่า “นี่​เคย​เป็น​ชื่อ​ผม​เอง!” ตอน​ที่​ยัง​เป็น​สมาชิก​แก๊ง เฟอร์นันโด​เคย​เขียน​ฉายา​ของ​เขา​ไว้​บน​ผนัง​ตึก. ตอน​นี้​เขา​กำลัง​ขูด​มัน​ออก!

ตอน​ที่​ผม​พบ​เฟอร์นันโด​ครั้ง​แรก เขา​กำลัง​เมา​ยา. แม่​ส่ง​เขา​ไป​ที่​ศูนย์​บำบัด​สอง​แห่ง แต่​เขา​ก็​ยัง​เลิก​ไม่​ได้. ดัง​นั้น เธอ​จึง​เลิก​ช่วยเหลือ​เขา, ย้าย​ไป​อยู่​ที่​อื่น, และ​ทิ้ง​เขา​ไว้​ให้​อยู่​คน​เดียว​ใน​บ้าน. เฟอร์นันโด​เอา​ของ​มี​ค่า​ใน​บ้าน​ทุก​อย่าง​ไป​ขาย แม้​แต่​ประตู, หน้าต่าง, และ​หลังคา เพื่อ​จะ​หา​เงิน​มา​ซื้อ​ยา. วัน​หนึ่ง ผม​เดิน​เข้า​ไป​หา​เขา​ที่​ถนน ซื้อ​น้ำ​อัด​ลม​ให้​เขา และ​ชวน​เขา​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. เขา​รับ​สิ่ง​ที่​ผม​เสนอ​ให้ และ​ที่​ทำ​ให้​ผม​ดีใจ​คือ​เขา​ตอบรับ​ความ​จริง. เขา​ออก​จาก​แก๊ง เลิก​เสพ​ยา แล้ว​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน และ​ไม่​นาน​นัก​ก็​รับ​บัพติสมา.

เมื่อ​ผม​กับ​เฟอร์นันโด​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ด้วย​กัน ผู้​คน​มัก​จะ​จำ​เรา​ได้​และ​ร้อง​ว่า “ไอ้​กบ!” หรือ “ซูเปอร์​แมน!” และ​ถาม​เรา​ว่า​มา​ทำ​อะไร. พวก​เขา​ทึ่ง​ที่​เห็น​คน​ที่​เคย​ร่วม​แก๊ง​และ​คน​ที่​เคย​เป็น​หัวขโมย​มา​เยี่ยม​พวก​เขา​โดย​ที่​ถือ​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ด้วย.

อยู่​มา​วัน​หนึ่ง​ผม​กำลัง​ให้​คำ​พยาน​แก่​ชาย​คน​หนึ่ง​ขณะ​ที่​เฟอร์นันโด​กำลัง​คุย​กับ​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​บ้าน​หลัง​ใกล้ ๆ กัน. ชาย​คน​นั้น​ชี้​ไป​ที่​เฟอร์นันโด​แล้ว​บอก​ผม​ว่า “เห็น​เด็ก​หนุ่ม​คน​นั้น​ไหม? เขา​เคย​เอา​ปืน​จ่อ​หัว​ผม.” ผม​รับรอง​กับ​เขา​ว่า​เฟอร์นันโด​เลิก​ใช้​ชีวิต​แบบ​เก่า ๆ แล้ว และ​ตอน​นี้​เขา​กำลัง​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​หลักการ​คัมภีร์​ไบเบิล. ที่​จริง เมื่อ​เฟอร์นันโด​พูด​กับ​อีก​คน​หนึ่ง​เสร็จ​แล้ว ผม​ก็​เรียก​เฟอร์นันโด​มา​และ​แนะ​นำ​ให้​เขา​รู้​จัก​ชาย​คน​นั้น. เจ้าของ​บ้าน​บอก​ว่า “พ่อ​หนุ่ม ฉัน​ขอ​ชม​ที่​เธอ​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​ตัว​เอง​ได้​มาก​ถึง​ขนาด​นี้.”

ผม​จำ​ไม่​ได้​ว่า​มี​คน​พูด​อย่าง​นี้​กับ​ผม​และ​เฟอร์นันโด​กี่​ครั้ง​แล้ว. นี่​ทำ​ให้​เรา​ก็​มี​โอกาส​ให้​คำ​พยาน​อย่าง​ดี เป็น​ผล​ให้​หลาย​คน​ได้​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. ใช่​แล้ว ผม​กับ​เฟอร์นันโด​รู้สึก​เป็น​เกียรติ​ที่​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

เหตุ​การณ์​ครั้ง​สำคัญ​ใน​ชีวิต​ผม

ใน​ปี 2001 เมื่อ​ผม​มี​อายุ 50 ปี ผม​ทั้ง​แปลก​ใจ​และ​ตื่นเต้น​ที่​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​ร่วม​โรง​เรียน​ฝึก​อบรม​เพื่อ​งาน​รับใช้​ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ที่​เปรู. โรง​เรียน​นี้​ฝึก​พยาน​ฯ ที่​มี​คุณวุฒิ​เป็น​เวลา​แปด​สัปดาห์​ใน​เรื่อง​คำ​แนะ​นำ​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​ละเอียด​ลึกซึ้ง​เพื่อ​ช่วย​พวก​เขา​ทำ​งาน​รับใช้.

ผม​ชอบ​ทุก​เรื่อง​ใน​โรง​เรียน​นี้​ยก​เว้น​เรื่อง​เดียว​เท่า​นั้น นั่น​คือ​การ​บรรยาย​สาธารณะ ซึ่ง​ทำ​ให้​ผม​กลัว​มาก. นัก​เรียน​ที่​อายุ​น้อย​กว่า​ผม​หลาย​คน​บรรยาย​ได้​อย่าง​ยอด​เยี่ยม และ​ดู​เหมือน​มี​ความ​มั่น​ใจ​เต็ม​ที่. แต่​เมื่อ​ผม​ยืน​ขึ้น​เพื่อ​ให้​คำ​บรรยาย​ครั้ง​แรก ความ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ด้อย​ค่า​ซึ่ง​มี​มา​ตั้ง​แต่​เด็ก ๆ ก็​หวน​กลับ​มา​อีก​ครั้ง. เข่า​ผม​สั่น, มือ​สั่น​และ​มี​เหงื่อ​ออก, แถม​เสียง​ของ​ผม​ก็​สั่น​ด้วย. แต่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วยเหลือ​ผม​โดย​ทาง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​และ​โดย​ทาง​พี่​น้อง​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก. ผู้​สอน​คน​หนึ่ง​ถึง​กับ​เอา​ใจ​ใส่​ผม​เป็น​ส่วน​ตัว​และ​ช่วย​ผม​เตรียม​คำ​บรรยาย​หลัง​เลิก​เรียน. ที่​สำคัญ​ที่​สุด เขา​สอน​ผม​ให้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา. พอ​จบ​หลัก​สูตร​นี้ เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​ชีวิต​ที่​ผม​รู้สึก​ชอบ​การ​พูด​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง​จริง ๆ.

มี​การ​ทดสอบ​ความ​มั่น​ใจ​ครั้ง​สำคัญ​ของ​ผม​ใน​การ​ประชุม​ภาค​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​เมือง​ไกวอากีล. ผม​ได้​เล่า​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง 25,000 คน​ว่า​ผม​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ ได้​อย่าง​ไร. แต่​ขณะ​ที่​ผม​เล่า ผม​รู้สึก​ตื้นตัน​ใจ​มาก​ที่​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​หนุน​กำลังใจ​ผู้​คน​มาก​มาย​ขนาด​นั้น และ​เสียง​ของ​ผม​ก็​เริ่ม​สั่น​เครือ. ภาย​หลัง ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คน​หนึ่ง​มา​หา​ผม​และ​บอก​ว่า “บราเดอร์​กอนซาเลซ ตอน​ที่​คุณ​เล่า​ประสบการณ์​ของ​คุณ ไม่​มี​ใคร​เลย​ที่​ไม่​มี​น้ำตา​คลอ​เบ้า.” ยิ่ง​กว่า​อะไร​ทั้ง​หมด ผม​ต้องการ​ให้​เรื่อง​ราว​ของ​ผม​หนุน​กำลังใจ​คน​ที่​อาจ​กำลัง​ดิ้นรน​เพื่อ​เอา​ชนะ​วิถี​ชีวิต​เก่า ๆ.

ตอน​นี้​ผม​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ผู้​ปกครอง​และ​ไพโอเนียร์​ประจำ และ​มี​ความ​ยินดี​ที่​ได้​ช่วย 16 คน​ให้​ได้​รับ​ความ​รู้​ถ่องแท้​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล. ผม​ตื่นเต้น​ที่​พ่อ​แม่​ของ​ผม​และ​พี่​สาว​น้อง​สาว​สี่​คน​ของ​ผม​ได้​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระ​ยะโฮวา​ด้วย. คุณ​แม่​ผม​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​พระเจ้า​จน​กระทั่ง​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​ปี 2001. ไม่​ว่า​ผม​จะ​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​มาก​เท่า​ไร​ก็​คง​ยัง​ไม่​พอ​กับ​การ​ที่​ทรง​ยอม​ให้​ผม​มา​รู้​จัก​พระองค์ และ​ผม​รู้​ว่า​ไม่​มี​วิธี​ไหน​ที่​ผม​จะ​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ได้​ดี​ไป​กว่า​การ​เชิญ​ชวน​คน​อื่น​ให้​เข้า​มา​ใกล้​พระองค์​เช่น​กัน.—ยาโกโบ 4:8.

[ภาพ​หน้า 12]

เฟอร์นันโด หรือ​ไอ้​กบ​ที่​เคย​ร่วม​แก๊ง​วัยรุ่น​ซึ่ง​ผม​ได้​ช่วย​เขา

[ภาพ​หน้า 12]

ปอล ซานเชซ มิชชันนารี​ที่​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ผม

[ภาพ​หน้า 13]

บีเซนเต กอนซาเลซ ใน​ปัจจุบัน