ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เรือแห่งแกลิลี—สมบัติล้ำค่าจากสมัยคัมภีร์ไบเบิล

เรือแห่งแกลิลี—สมบัติล้ำค่าจากสมัยคัมภีร์ไบเบิล

เรือ​แห่ง​แกลิลี—สมบัติ​ล้ำ​ค่า​จาก​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล

โดย​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! ใน​อิสราเอล

ทะเล​แกลิลี​เป็น​สถาน​ที่​ที่​มี​เรื่อง​ราว​ที่​น่า​ตื่นเต้น​ที่​สุด​บาง​เรื่อง​เกิด​ขึ้น​ใน​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู. ใน​ทะเลสาบ​แห่ง​นี้​หรือ​ไม่​ก็​บน​ชายฝั่ง​นี้​เอง​ที่​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า​ทรง​เดิน​บน​ผิว​น้ำ, ทำ​ให้​คลื่น​ลม​พายุ​สงบ​ลง, เลี้ยง​อาหาร​คน​หลาย​พัน​คน​ด้วย​การ​อัศจรรย์, และ​รักษา​คน​เจ็บ​ป่วย.

ใน​ปี 1986 มี​การ​ค้น​พบ​ที่​น่า​ประหลาด​ใจ​บน​พื้น​ทะเล​สาบ​ใกล้​เมือง​เคเปอร์นาอุม​โบราณ. สิ่ง​ที่​ค้น​พบ​คือ​เรือ​ซึ่ง​เคย​แล่น​อยู่​ใน​ทะเล​แห่ง​นี้​ใน​สมัย​ที่​พระ​เยซู​ทำ​งาน​รับใช้. เรือ​ลำ​นี้​ถูก​ค้น​พบ​อย่าง​ไร? และ​เรา​เรียน​รู้​อะไร​จาก​เรือ​ลำ​นี้​ได้​บ้าง?

เผย​โฉม​เพราะ​ความ​แห้ง​แล้ง

ช่วง​เวลา​หลาย​ปี​ที่​มี​ระดับ​น้ำ​ฝน​ต่ำ​กว่า​เฉลี่ย ตาม​มา​ด้วย​ฤดู​ร้อน​ที่​แล้ง​จัด​ใน​ปี 1985 ทำ​ให้​ทะเล​แกลิลี​ประสบ​ความ​แห้ง​แล้ง​อย่าง​หนัก และ​ทะเลสาบ​น้ำ​จืด​แห่ง​นี้​ยัง​ถูก​สูบ​ออก​ไป​ใช้​ใน​การ​ชล​ประทาน​เพื่อ​การ​เกษตร​อีก​ด้วย. ระดับ​น้ำ​ที่​ลด​ลง​อย่าง​น่า​ตกใจ​นี้​ทำ​ให้​เกิด​พื้น​ที่​ชาย​เลน​เป็น​บริเวณ​กว้าง. ผู้​ชาย​สอง​คน​ซึ่ง​เป็น​พี่​น้อง​กัน​จาก​นิคม​ชาว​ยิว​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​ใกล้ ๆ เห็น​โอกาส​ทอง​ที่​จะ​ค้น​หา​สมบัติ​ที่​ซ่อน​อยู่. ขณะ​ที่​พวก​เขา​เดิน​ลุย​ไป​ตาม​พื้น​โคลน พวก​เขา​มอง​เห็น​เหรียญ​ทองแดง​และ​ตะปู​เก่า ๆ สอง​สาม​ตัว. แล้ว​พวก​เขา​ก็​มอง​เห็น​เค้าโครง​รูป​วง​รี​ที่​อยู่​ใน​โคลน ซึ่ง​เป็น​ตำแหน่ง​ที่​เรือ​โบราณ​จม​อยู่. พวก​เขา​ค้น​พบ​สมบัติ​ล้ำ​ค่า​แล้ว!

นัก​โบราณคดี​ไม่​เคย​คาด​คิด​ว่า​จะ​พบ​เรือ​ที่​มี​อายุ 2,000 ปี​ใน​ทะเล​แกลิลี. พวก​เขา​คิด​ว่า​จุลชีพ​คง​จะ​ทำลาย​เนื้อ​ไม้​ไม่​ว่า​ชนิด​ใด​ไป​นาน​แล้ว. กระนั้น การ​หา​อายุ​โดย​คาร์บอน​และ​เหรียญ​ที่​พบ​ที่​นั่น​ทำ​ให้​ผู้​เชี่ยวชาญ​ลง​ความ​เห็น​ว่า เรือ​ลำ​นี้​มี​อายุ​ตั้ง​แต่​ศตวรรษ​แรก​ก่อน​สากล​ศักราช หรือ​ศตวรรษ​แรก​สากล​ศักราช. ไม่​น่า​เชื่อ​ว่า​ตัว​เรือ​ยัง​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​ค่อนข้าง​ดี. เรื่อง​นี้​เป็น​ไป​ได้​อย่าง​ไร?

ดู​เหมือน​ว่า​เรือ​จม​อยู่​ใน​บริเวณ​ที่​ไม่​ถูก​รบกวน ซึ่ง​ทำ​ให้​ท้อง​เรือ​ทั้ง​หมด​ฝัง​อยู่​ใน​ตะกอน​ละเอียด. เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป ตะกอน​ก็​แข็งตัว. โดย​วิธี​นี้ วัตถุ​โบราณ​ชิ้น​นี้​จึง​ถูก​เก็บ​รักษา​ไว้​อย่าง​ปลอด​ภัย​เป็น​เวลา​ประมาณ 20 ศตวรรษ!

เมื่อ​ข่าว​เรื่อง​การ​ค้น​พบ​เรือ​ลำ​นี้​แพร่​ออก​ไป ก็​มี​การ​เรียก​เรือ​นี้​กัน​เล่น ๆ ว่า​เรือ​ของ​พระ​เยซู. แน่นอน ไม่​มี​ใคร​คิด​จริง ๆ หรอก​ว่า​เรือ​ลำ​นี้​เป็น​เรือ​ที่​พระ​เยซู​และ​สาวก​ของ​พระองค์​เคย​ใช้. กระนั้น อายุ​ของ​เรือ​นี้​และ​ความ​คล้ายคลึง​กับ​เรือ​ที่​พรรณนา​ไว้​ใน​พระ​ธรรม​กิตติคุณ ทำ​ให้​เรือ​นี้​เป็น​ที่​น่า​สนใจ​ของ​ทั้ง​นัก​ประวัติศาสตร์​และ​นัก​วิชาการ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล.

เรือ​ลำ​นี้​มี​ความ​ยาว 8.2 เมตร​และ​กว้าง 2.3 เมตร. คน​ที่​สร้าง​เรือ​ลำ​นี้​ใช้​วิธี​ต่อ​ตัว​เรือ​ขึ้น​มา​ก่อน. นั่น​คือ แทน​ที่​จะ​ต่อ​แผ่น​กระดาน​กับ​โครง​เรือ เขา​กลับ​ต่อ​แผ่น​กระดาน​กับ​กระดูก​งู​เรือ​โดย​ตรง แล้ว​ต่อ​ด้าน​ข้าง​ขึ้น​ไป​จน​กลาย​เป็น​ลำ​เรือ. วิธี​สร้าง​เรือ​แบบ​นี้​เป็น​วิธี​ที่​ใช้​กัน​ทั่ว​ไป​สำหรับ​การ​สร้าง​เรือ​ที่​ใช้​แล่น​ใน​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม อาจ​มี​การ​ปรับ​แต่ง​เรือ​แห่ง​แกลิลี​เพื่อ​ใช้​แล่น​ใน​ทะเลสาบ​ได้.

ดู​เหมือน​ว่า แต่​เดิม​เรือ​นี้​มี​ใบ​เรือ​รูป​สี่​เหลี่ยม​ใบ​เดียว. เนื่อง​จาก​มี​พาย​สี่​เล่ม จึง​บ่ง​ชี้​ว่า​ต้อง​มี​ลูกเรือ​อย่าง​น้อย​ห้า​คน คือ​มี​ฝีพาย​สี่​คน​และ​คน​ถือ​หาง​เสือ​อีก​หนึ่ง​คน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เรือ​นี้​สามารถ​บรรทุก​คน​ได้​มาก​กว่า​สอง​เท่า​ของ​จำนวน​นั้น. เป็น​เรื่อง​ง่าย​ที่​จะ​นึก​ภาพ​เรือ​ขนาด​ใกล้​เคียง​กับ​เรือ​ลำ​นี้​เมื่อ​อ่าน​เรื่อง​ราว​ของ​สาวก​เจ็ด​คน​ที่​ออก​ไป​หา​ปลา​เมื่อ​พวก​เขา​เห็น​พระ​เยซู​หลัง​จาก​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์.—โยฮัน 21:2-8.

ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​เรือ​แกลิลี​คง​จะ​มี​ดาดฟ้า​ท้าย​เรือ​เพื่อ​เป็น​ที่​เก็บ​อวน​จับ​ปลา​ขนาด​ใหญ่. ใต้​ดาดฟ้า​เรือ​ที่​ปู​ด้วย​ไม้​กระดาน​นี้​เป็น​ที่​ซึ่ง​ชาว​ประมง​ที่​เหนื่อย​ล้า​สามารถ​ปลีก​ตัว​ลง​ไป​พักผ่อน​อย่าง​สงบ​ได้. ดู​เหมือน​ว่า พระ​เยซู​อาจ​ใช้​ประโยชน์​จาก​ดาดฟ้า​แบบ​นี้​เมื่อ “พระองค์​บรรทม​หนุน​หมอน​หลับ​อยู่​ที่​ท้าย​เรือ” ระหว่าง​เกิด​พายุ. (มาระโก 4:38) เชื่อ​กัน​ว่า “หมอน” นี้​อาจ​เป็น​กระสอบ​ทราย​ซึ่ง​ใส่​ไว้​ใน​เรือ​เพื่อ​เอา​ไว้​ถ่วง​ท้อง​เรือ. *

ชาว​ประมง​รอบ ๆ ทะเล​แกลิลี

ลอง​นึก​ภาพ​ว่า​คุณ​เป็น​ผู้​โดยสาร​ใน​เรือ​แบบ​เดียว​กัน​นี้​ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก. ขณะ​ที่​คุณ​นั่ง​เรือ​ไป​ใน​ทะเล​แกลิลี คุณ​อาจ​จะ​เห็น​อะไร​บ้าง? มี​ชาว​ประมง​บาง​คน​อยู่​ใน​เรือ​เล็ก​และ​บาง​คน​กำลัง​เดิน​ลง​ไป​ใน​น้ำ​ตื้น ๆ เพื่อ​ทอด​แห. ด้วย​ความ​ชำนาญ พวก​เขา​ใช้​มือ​ข้าง​หนึ่ง​เหวี่ยง​แห​ที่​มี​ตะกั่ว​ถ่วง​อยู่ ซึ่ง​มี​ขนาด​เส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง​ราว ๆ 6 ถึง 8 เมตร. พวก​เขา​เหวี่ยง​ให้​แห​แผ่​ลง​บน​ผิว​น้ำ แล้ว​แห​ก็​จม​ลง​ดัก​ปลา​ที่​อยู่​ใน​แห​นั้น. ชาว​ประมง​เอา​ปลา​ขึ้น​มา​โดย​ลาก​แห​ขึ้น​ไป​บน​ฝั่ง​หรือ​อาจ​จะ​ดำ​ลง​ไป​เก็บ​แห​ขึ้น​มา​พร้อม​กับ​ปลา​ที่​อยู่​ใน​แห​นั้น. คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า ซีโมน​กับ​อันดะเรอา “ตี​อวน” หรือ​อาจ​จะ​กำลัง​ทอด​แห​ใน​วิธี​คล้าย ๆ กัน​นี้.—มาระโก 1:16.

นอก​จาก​นี้ คุณ​อาจ​สังเกต​เห็น​ชาว​ประมง​กลุ่ม​หนึ่ง​กำลัง​คุย​กัน​อย่าง​สนุกสนาน​ขณะ​ที่​พวก​เขา​เตรียม​อวน​ลาก. อวน​ชนิด​นี้​อาจ​ยาว​กว่า 300 เมตร กว้าง​ถึง 8 เมตร​ตรง​กลาง​อวน โดย​ที่​ชาย​อวน​ทั้ง​สอง​ข้าง​จะ​มี​เชือก​ลาก​ผูก​อยู่. ชาว​ประมง​จะ​เลือก​ทำเล แล้ว​ชาว​ประมง​ครึ่ง​หนึ่ง​จะ​ขึ้น​ไป​บน​ฝั่ง​โดย​จับ​เชือก​ลาก​ข้าง​หนึ่ง​ไว้. เรือ​จะ​แล่น​ออก​ไป​ใน​ทะเลสาบ​โดย​ค่อย ๆ ปล่อย​อวน​ออก​ไป​จน​สุด​ความ​ยาว​ของ​มัน จาก​นั้น​เรือ​จะ​หัน​หัว​กลับ​แล้ว​ค่อย ๆ ลาก​อวน​เป็น​รูป​ครึ่ง​วง​กลม​เข้า​ตลิ่ง. หลัง​จาก​นั้น ชาว​ประมง​กลุ่ม​ที่​อยู่​บน​เรือ​จะ​ขึ้น​ฝั่ง​พร้อม​กับ​ลาก​เชือก​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ไป​ด้วย. เมื่อ​ชาว​ประมง​ทั้ง​สอง​กลุ่ม​ลาก​เชือก​เดิน​เข้า​หา​กัน พวก​เขา​ก็​จะ​ลาก​ปลา​ที่​จับ​ได้​ขึ้น​ฝั่ง.—มัดธาย 13:47, 48.

ที่​คุณ​เห็น​อยู่​ไกล ๆ นั้น​คือ​ชาว​ประมง​คน​หนึ่ง​กำลัง​ใช้​เบ็ด​ตก​ปลา. ครั้ง​หนึ่ง พระ​เยซู​เคย​บอก​เปโตร​ให้​ไป​ตก​ปลา​ใน​ทะเล​นี้. ลอง​นึก​ภาพ​ว่า​เปโตร​จะ​ประหลาด​ใจ​เพียง​ไร​เมื่อ​ตก​ปลา​ได้​ตัว​หนึ่ง​และ​พบ​เหรียญ​เงิน​ใน​ปาก​ของ​มัน​หนึ่ง​เหรียญ ซึ่ง​พอ​จ่าย​ภาษี​บำรุง​พระ​วิหาร​ได้​พอ​ดี.—มัดธาย 17:27.

เมื่อ​ถึง​ยาม​โพล้เพล้ ทั้ง​ทะเลสาบ​นี้​ก็​เงียบ​สงัด. ทันใด​นั้น ความ​เงียบ​ก็​ถูก​ทำลาย​เมื่อ​ชาว​ประมง​กระทืบ​เท้า​และ​เอา​พาย​ฟาด​กับ​ผิว​น้ำ​เพื่อ​ทำ​ให้​เกิด​เสียง​ดัง​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​ทำ​ได้. ทำไม? พวก​เขา​ได้​ขึง​ตาข่าย​ดัก​ปลา​ไว้​ใน​น้ำ​แล้ว ซึ่ง​ปลา​ที่​ตกใจ​เพราะ​เสียง​นั้น​จะ​ว่าย​ไป​ติด​ตาข่าย. ตาข่าย​ที่​ขึง​ขวาง​อยู่​ใน​น้ำ​นี้​มอง​ไม่​เห็น​ใน​ตอน​กลางคืน และ​เป็น​ชนิด​ที่​พัน​ติด​กับ​ตัว​ปลา​ได้​ง่าย. มี​การ​หย่อน​ตาข่าย​นี้​หลาย​ครั้ง​ตลอด​คืน. ใน​ตอน​เช้า พวก​เขา​ก็​ล้าง​และ​แขวน​ตาข่าย​ให้​แห้ง. คุณ​อาจ​สงสัย​ว่า ‘การ​จับ​ปลา​โดย​การ​อัศจรรย์​ที่​พรรณนา​ไว้​ที่​ลูกา 5:1-7 จะ​ใช้​ตาข่าย​ดัก​ปลา​แบบ​นี้​หรือ​เปล่า?’

งาน​บูรณะ​ฟื้นฟู

ให้​เรา​กลับ​มา​ใน​สมัย​ปัจจุบัน. เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​เรือ​ที่​ขุด​พบ​ลำ​นั้น? แม้​ว่า​จะ​ยัง​อยู่​ใน​สภาพ​สมบูรณ์ แต่​โครง​สร้าง​ของ​มัน​ก็​ไม่​แข็ง​ไป​กว่า​กระดาษ​แข็ง​เปียก ๆ. การ​ขุด​มัน​ขึ้น​มา​จาก​โคลน​ด้วย​วิธี​ปกติ​ไม่​มี​ทาง​ทำ​ได้. จะ​น่า​เศร้า​สัก​เพียง​ไร​ถ้า​เรือ​ลำ​นี้​แตก​ออก​มา​เป็น​ชิ้น ๆ ระหว่าง​กระบวนการ​บูรณะ​หลัง​จาก​อยู่​รอด​มา​ได้​นาน​ขนาด​นี้! เมื่อ​เห็น​ว่า​ระดับ​น้ำ​ใน​ทะเลสาบ​มี​โอกาส​ที่​จะ​สูง​ขึ้น​อีก จึง​มี​การ​สร้าง​เขื่อน​ล้อม​รอบ​บริเวณ​ที่​มี​การ​ขุด​ค้น​เรือ​ลำ​นี้. มี​การ​ขุด​อุโมงค์​ลอด​ใต้​ลำ​เรือ​เพื่อ​สอด​เครื่อง​พยุง​เรือ​ที่​ทำ​ด้วย​ใย​แก้ว​เข้า​ไป. จาก​นั้น​ก็​ค่อย ๆ เซาะ​โคลน​ออก​ไป​ด้วย​ความ​ระมัดระวัง แล้ว​ก็​ฉีด​โฟม​โพลียูเรเทน​หุ้ม​ทั้ง​ข้าง​ใน​ข้าง​นอก.

ข้อ​ท้าทาย​ต่อ​ไป​คือ​การ​เคลื่อน​ย้าย​วัตถุ​ที่​บอบบาง​นี้​ไป​ยัง​สถาน​ที่​ทำ​งาน​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ออก​ไป 300 เมตร​เพื่อ​เริ่ม​งาน​บูรณะ. โพลียูเรเทน​ที่​หุ้ม​เรือ​อยู่​นั้น​แข็งแรง​ดี แต่​ถ้า​สะเทือน​แรง ๆ เพียง​ครั้ง​เดียว​ก็​อาจ​ทำ​ให้​ไม้​ที่​บอบบาง​ใน​นั้น​หัก​เป็น​ชิ้น ๆ ได้. ทีม​งาน​เลือก​ใช้​วิธี​แก้​ที่​พวก​เขา​คิด​ค้น​ขึ้น​มา​ใหม่. พวก​เขา​เปิด​เขื่อน​ปล่อย​ให้​น้ำ​ไหล​เข้า​มา. เรือ​ซึ่ง​ตอน​นี้​ถูก​หุ้ม​ด้วย​วัสดุ​สมัย​ใหม่​ได้​ลอย​อยู่​ใน​ทะเล​แกลิลี​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​รอบ​หลาย​ศตวรรษ.

มี​การ​สร้าง​แท็งก์​คอนกรีต​เพื่อ​ใส่​เรือ​นี้​ระหว่าง​กระบวนการ​บูรณะ ซึ่ง​ต้อง​ใช้​เวลา​นาน​ถึง 14 ปี. มี​ปัญหา​ขึ้น​เมื่อ​แท็งก์​ดัง​กล่าว​มี​ลูก​น้ำ​เต็ม​ไป​หมด ทำ​ให้​คน​ที่​ลง​ไป​ใน​น้ำ​นั้น​ทำ​การ​บูรณะ​เรือ​ด้วย​ความ​ลำบาก. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ทีม​งาน​บูรณะ​ก็​พบ​วิธี​แก้​ที่​เป็น​แบบ​ดั้งเดิม​และ​มี​มา​ตั้ง​แต่​สมัย​โบราณ. พวก​เขา​เอา​ปลา​ที่​ชื่อ​ปลา​ของ​นัก​บุญ​เปโตร​มา​ปล่อย​ใน​น้ำ ซึ่ง​ช่วย​กิน​ลูก​น้ำ​และ​ทำ​ให้​น้ำ​สะอาด.

ไม่​นาน​ก็​ถึง​เวลา​ที่​จะ​ทำ​ให้​เรือ​แห้ง. มัน​ยัง​คง​บอบบาง​เกิน​กว่า​ที่​จะ​ปล่อย​ให้​แห้ง​เอง​ตาม​ธรรมชาติ. ต้อง​นำ​สิ่ง​อื่น​มา​ทดแทน​น้ำ​ที่​ซึม​อยู่​ใน​เนื้อ​ไม้. ทีม​งาน​ใช้​เทคนิค​หนึ่ง​โดย​ให้​ขี้ผึ้ง​สังเคราะห์​ชนิด​ที่​ละลาย​น้ำ​ได้​เข้า​ไป​ทดแทน​น้ำ ซึ่ง​ทำ​ให้​ไม้​แห้ง​โดย​ไม่​เปลี่ยน​รูป​ทรง.

เมื่อ​งาน​บูรณะ​เสร็จ​สมบูรณ์ เรือ​ที่​ค่อนข้าง​ธรรมดา​ก็​ปรากฏ​ให้​เห็น. เรือ​ลำ​นี้​ทำ​จาก​ไม้ 12 ชนิด. ทำไม? เหตุ​ผล​หนึ่ง​อาจ​เป็น​เพราะ​ช่วง​นั้น​ไม้​กำลัง​ขาด​แคลน. แต่​อีก​เหตุ​ผล​หนึ่ง​ที่​อาจ​เป็น​ไป​ได้​มาก​กว่า​คือ​เจ้าของ​ไม่​ได้​มี​ฐานะ​ดี​นัก. มี​การ​ซ่อม​เรือ​ลำ​นี้​หลาย​ครั้ง​ก่อน​ที่​มัน​จะ​ถูก​ทิ้ง​ให้​จม​ลง​ก้น​ทะเล.

เรือ​แห่ง​แกลิลี​ลำ​นี้​อาจ​ไม่​มี​อะไร​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พระ​เยซู​เลย. แต่​สำหรับ​หลาย​คน​แล้ว มัน​เป็น​สมบัติ​อัน​ล้ำ​ค่า. มัน​ทำ​ให้​เรา​มี​โอกาส​มอง​ย้อน​ไป​หลาย​ศตวรรษ​และ​นึก​ภาพ​ว่า​ชีวิต​ใน​ทะเล​แกลิลี​เป็น​อย่าง​ไร​ใน​สมัย​อัน​โดด​เด่น​แห่ง​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​บน​แผ่นดิน​โลก.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 12 ดู​บทความ “ณ ทะเล​แกลิลี” ใน​หอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 สิงหาคม 2005 หน้า 8 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เช่น​กัน.

[ภาพ​หน้า 15]

คน​งาน​ค่อย ๆ เซาะ​โคลน​ที่​อยู่​ใน​ลำ​เรือ​ออก​ด้วย​ความ​ระมัดระวัง

[ภาพ​หน้า 15]

เรือ​แห่ง​แกลิลี​ถูก​นำ​มา​จัด​แสดง เมื่อ​งาน​บูรณะ​เสร็จ​สมบูรณ์

[ภาพ​หน้า 15]

เรือ​หุ้ม​ด้วย​โฟม​โพลียูเรเทน

[ภาพ​หน้า 15]

หลัง​จาก​เกือบ 2,000 ปี เรือ​ลำ​นี้​ก็​ลอย​น้ำ​อีก​ครั้ง

[ภาพ​หน้า 15]

แบบ​จำลอง​ของ​เรือ​อย่าง​ที่​อาจ​เป็น​ใน​ศตวรรษ​แรก

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 15]

All photos except model and sea: Israel Antiquities Authority - The Yigal Allon Center, Ginosar