ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ทีวี—“สื่อการสอนที่แอบแฝง”

ทีวี—“สื่อการสอนที่แอบแฝง”

ทีวี—“สื่อ​การ​สอน​ที่​แอบ​แฝง”

โทรทัศน์​สามารถ​เป็น​สื่อ​การ​สอน​ที่​ทรง​ประสิทธิภาพ​ได้. โดย​ทาง​โทรทัศน์ เรา​ได้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ดินแดน​และ​ชน​ชาติ​ที่​เรา​อาจ​ไม่​เคย​ได้​ไป​เยี่ยม​เยือน​มา​ก่อน. เรา “เดิน​ทาง” ฝ่า​ป่า​ดิบ​และ​ผ่าน​พืด​น้ำ​แข็ง​ขั้ว​โลก ขึ้น​สู่​ยอด​เขา​สูง​และ​ดำ​ดิ่ง​ลง​สู่​ก้น​มหาสมุทร. เรา​มอง​ทะลุ​เข้า​ไป​ใน​โลก​แห่ง​อะตอม​และ​อาณาจักร​ของ​ดวง​ดาว​อัน​น่า​ทึ่ง. เรา​ดู​ข่าว​ขณะ​ที่​กำลัง​เกิด​เหตุ​การณ์​นั้น​ใน​อีก​ซีก​โลก​หนึ่ง. เรา​ได้​รับ​ความ​รู้​ความ​เข้าใจ​ใน​เรื่อง​การ​เมือง, ประวัติศาสตร์, เหตุ​การณ์​ปัจจุบัน, และ​วัฒนธรรม. โทรทัศน์​จับ​ภาพ​ชีวิต​ของ​ผู้​คน​ทั้ง​สุข​และ​ทุกข์. โทรทัศน์​ให้​ความ​บันเทิง, ให้​ความ​รู้, และ​ถึง​กับ​ให้​แรง​บันดาล​ใจ​ได้​ด้วย​ซ้ำ.

แต่​ทว่า รายการ​โทรทัศน์​หลาย​รายการ​ไม่​มี​ประโยชน์​และ​ไม่​ได้​ให้​ความ​รู้​เลย. อาจ​เป็น​ได้​ว่า​ผู้​ที่​ตำหนิ​วิจารณ์​โทรทัศน์​อย่าง​รุนแรง​ที่​สุด​ก็​คือ​กลุ่ม​ที่​โจมตี​ว่า​โทรทัศน์​มี​ภาพ​ความ​รุนแรง​และ​เรื่อง​เพศ​มาก​เกิน​ไป​และ​โจ่งแจ้ง​เกิน​ไป. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง การ​ศึกษา​วิจัย​ครั้ง​หนึ่ง​ใน​สหรัฐ​พบ​ว่า รายการ​ทีวี​เกือบ 2 ใน 3 มี​ฉาก​เกี่ยว​กับ​ความ​รุนแรง ซึ่ง​เฉลี่ย​ออก​มา​ได้​หก​ภาพ​ต่อ​ชั่วโมง. พอ​เยาวชน​โต​ขึ้น​เป็น​ผู้​ใหญ่ เขา​จะ​ได้​ดู​ภาพ​ความ​รุนแรง​และ​การ​ฆาตกรรม​ใน​ละคร​โทรทัศน์​หรือ​ภาพยนตร์​หลาย​พัน​ครั้ง. เรื่อง​ทาง​เพศ​ก็​มี​มาก​มาย​เช่น​กัน. สอง​ใน​สาม​ของ​รายการ​ทีวี​ทั้ง​หมด​มี​การ​พูด​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​เพศ และ 35 เปอร์เซ็นต์​ของ​รายการ​ทีวี​มี​ภาพ​พฤติกรรม​ทาง​เพศ ซึ่ง​มัก​จะ​ถูก​นำ​เสนอ​ใน​แบบ​ที่​ดู​เหมือน​ไม่​มี​ความ​เสี่ยง​ใด ๆ และ​เป็น​เรื่อง​ธรรมชาติ​ระหว่าง​คน​สอง​คน​ที่​ไม่​ได้​แต่งงาน​กัน. *

รายการ​ที่​มี​ฉาก​เกี่ยว​กับ​เพศ​และ​ความ​รุนแรง​กำลัง​เป็น​ที่​ต้องการ​อย่าง​มาก​ตลอด​ทั่ว​โลก. ภาพยนตร์​แอกชั่น​ของ​อเมริกา​ซึ่ง​ใน​ที่​สุด​ก็​จะ​ออก​แพร่​ภาพ​ทาง​โทรทัศน์​ด้วย​นั้น​สามารถ​ส่ง​ไป​ขาย​ใน​ตลาด​ต่าง​ประเทศ​ได้​ง่าย. ภาพยนตร์​เหล่า​นั้น​ไม่​จำเป็น​ต้อง​มี​ศิลปะ​การ​แสดง​ที่​ดี​หรือ​มี​บท​ภาพยนตร์​ที่​ยอด​เยี่ยม แต่​เป็น​เรื่อง​ที่​ดู​แล้ว​เข้าใจ​ง่าย. ภาพยนตร์​เหล่า​นั้น​อาศัย​ฉาก​การ​ต่อ​สู้, การ​ฆ่า, สเปเชียลเอฟเฟกต์, และ​เรื่อง​เพศ​เพื่อ​จับ​ความ​สนใจ​ของ​ผู้​ชม. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ที่​จะ​จับ​ความ​สนใจ​ไป​ได้​นาน ๆ ก็​จำเป็น​ต้อง​มี​การ​ปรับ​เปลี่ยน​ด้วย. ผู้​ชม​มัก​จะ​เบื่อ​อะไร​ที่​ซ้ำซาก​จำเจ สิ่ง​ที่​เคย​น่า​ตื่นเต้น​ใน​ที่​สุด​ก็​จะ​กลาย​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา. เพื่อ​จะ​ทำ​ให้​ผู้​ชม​สนใจ​อยู่​เรื่อย ๆ ผู้​สร้าง​จึง​ทำ​ให้​รายการ​ดู​น่า​ตกใจ​และ​น่า​ตื่นเต้น​ยิ่ง​ขึ้น โดย​เพิ่ม​ฉาก​ความ​รุนแรง​เข้า​ไป​และ​ทำ​ให้​เนื้อหา​โจ่งแจ้ง​มาก​ขึ้น, มี​เรื่อง​เพศ​มาก​ขึ้น, และ​โหด​ร้าย​ทารุณ​ยิ่ง​ขึ้น.

การ​โต้​เถียง​เรื่อง​ผล​กระทบ​ของ​ทีวี

ผู้​ชม​ได้​รับ​ผล​กระทบ​อย่าง​ไร​เมื่อ​ดู​ภาพ​ความ​รุนแรง​และ​เรื่อง​เพศ​ใน​ทีวี​อยู่​เรื่อย ๆ? นัก​วิจารณ์​อ้าง​ว่า​ความ​รุนแรง​ใน​ทีวี​ทำ​ให้​ผู้​คน​มี​พฤติกรรม​ก้าวร้าว​และ​ไม่​ค่อย​เห็น​อก​เห็น​ใจ​ผู้​ตก​เป็น​เหยื่อ​ความ​รุนแรง​ใน​ชีวิต​จริง. พวก​เขา​ยัง​ยืน​ยัน​ว่า​การ​แสดง​ให้​เห็น​ภาพ​ทาง​เพศ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​สำส่อน​และ​บ่อน​ทำลาย​มาตรฐาน​ทาง​ศีลธรรม​มาก​ขึ้น.

การ​ดู​ทีวี​มี​ส่วน​ที่​ทำ​ให้​เกิด​ผล​กระทบ​ทั้ง​หมด​นี้​จริง ๆ ไหม? มี​การ​โต้​เถียง​กัน​อย่าง​เอา​จริง​เอา​จัง​เกี่ยว​กับ​คำ​ถาม​นี้​มา​หลาย​สิบ​ปี​แล้ว; งาน​ศึกษา​วิจัย​หลาย​ร้อย​ชิ้น​รวม​ทั้ง​หนังสือ​และ​บทความ​ต่าง ๆ หลาย​พัน​บทความ​ได้​กล่าว​ถึง​เรื่อง​นี้. สาเหตุ​สำคัญ​ของ​การ​โต้​เถียง​นี้​คือ​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​พิสูจน์​ว่า​อะไร​เป็น​สาเหตุ​ของ​สิ่ง​ใด​สิ่ง​หนึ่ง ตัว​อย่าง​เช่น ประเด็น​ที่​ว่า​ถ้า​เด็ก​เห็น​ความ​รุนแรง​ใน​ทีวี​แล้ว​เมื่อ​โต​ขึ้น​จะ​กลาย​เป็น​คน​ก้าวร้าว​หรือ​ไม่. บาง​ครั้ง​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​พิสูจน์​ความ​เกี่ยว​ข้อง​ระหว่าง​สาเหตุ​และ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง: สมมุติ​ว่า​คุณ​กิน​ยา​ชนิด​หนึ่ง​เป็น​ครั้ง​แรก และ​ภาย​ใน​ไม่​กี่​ชั่วโมง​คุณ​ก็​มี​ผื่น​ขึ้น​เต็ม​ตัว. ใน​กรณี​นี้ ก็​เป็น​เรื่อง​ง่าย​ที่​จะ​บอก​ว่า​ยา​ที่​กิน​เข้า​ไป​ทำ​ให้​คุณ​เกิด​อาการ​แพ้. แต่​บาง​ครั้ง​อาการ​แพ้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ค่อย​เป็น​ค่อย​ไป. เมื่อ​เป็น​เช่น​นี้ การ​จะ​รู้​ว่า​อาการ​แพ้​นั้น​เกิด​จาก​ยา​ชนิด​ใด​อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก​ยิ่ง​ขึ้น เนื่อง​จาก​อาการ​แพ้​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้​จาก​หลาย​สาเหตุ.

ใน​ทำนอง​เดียว​กัน เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​พิสูจน์​ว่า​ความ​รุนแรง​ที่​เห็น​ใน​โทรทัศน์​ก่อ​ให้​เกิด​อาชญากรรม​และ​พฤติกรรม​ต่อ​ต้าน​สังคม. งาน​ศึกษา​วิจัย​หลาย​ครั้ง​ชวน​ให้​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​อาจ​เป็น​ไป​ได้. ยิ่ง​กว่า​นั้น อาชญากร​บาง​คน​ได้​กล่าว​ว่า​ความ​คิด​และ​พฤติกรรม​ที่​รุนแรง​ของ​เขา​ได้​รับ​อิทธิพล​จาก​สิ่ง​ที่​เขา​เห็น​ใน​ทีวี. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง มี​อิทธิพล​หลาย​อย่าง​ส่ง​ผล​ต่อ​ชีวิต​ของ​ผู้​คน. ความ​รุนแรง​ใน​วิดีโอ​เกม, ค่า​นิยม​ทาง​สังคม​ของ​เพื่อน​และ​ครอบครัว, รวม​ทั้ง​สภาพ​ความ​เป็น​อยู่​โดย​ทั่ว​ไป ทั้ง​หมด​นี้​อาจ​มี​ส่วน​ทำ​ให้​เกิด​พฤติกรรม​ก้าวร้าว​ด้วย.

ดัง​นั้น​จึง​ไม่​แปลก​ที่​มี​ความ​คิด​เห็น​ที่​ขัด​แย้ง​กัน​ใน​เรื่อง​นี้. นัก​จิตวิทยา​ชาว​แคนาดา​คน​หนึ่ง​เขียน​ว่า “หลักฐาน​ทาง​วิทยาศาสตร์​ไม่​ได้​แสดง​ให้​เห็น​เลย​ว่า​การ​ดู​ภาพ​ความ​รุนแรง​ทำ​ให้​ผู้​คน​มี​พฤติกรรม​ที่​รุนแรง​หรือ​กลาย​เป็น​คน​ที่​ด้าน​ชา​ต่อ​ความ​รุนแรง.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม คณะ​กรรมการ​สมาคม​จิตวิทยา​แห่ง​อเมริกา​ด้าน​สื่อ​และ​สังคม​กล่าว​ว่า “ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ใด ๆ เลย​ว่า​คน​ที่​ใช้​เวลา​มาก​ขึ้น​ใน​การ​ดู​ภาพ​ความ​รุนแรง​ทาง​โทรทัศน์​จะ​รับ​เอา​ทัศนะ​ที่​แข็ง​กร้าว​มาก​ขึ้น​และ​มี​และ​พฤติกรรม​ที่​ก้าวร้าว​มาก​ขึ้น.”

คิด​ใคร่ครวญ​เรื่อง​ทีวี

อย่า​ลืม​ว่า ผู้​เชี่ยวชาญ​กำลัง​โต้​เถียง​กัน​เกี่ยว​กับ​ข้อ​พิสูจน์ คือ​จะ​พิสูจน์​ได้​หรือ​ไม่​ว่า​การ​ดู​สิ่ง​ที่​ก้าวร้าว​ทำ​ให้​คน​เรา​กลาย​เป็น​คน​ก้าวร้าว. แต่​มี​น้อย​คน​ที่​จะ​อ้าง​ว่า​โทรทัศน์​ไม่​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​และ​พฤติกรรม​ของ​เรา. ลอง​คิด​ดู​ก็​แล้ว​กัน. ภาพ​ถ่าย​เพียง​ภาพ​เดียว​อาจ​กระตุ้น​ให้​เรา​รู้สึก​โกรธ, ร้องไห้, หรือ​มี​ความ​สุข. ดนตรี​ก็​กระตุ้น​อารมณ์​ความ​รู้สึก​ของ​เรา​ได้​มาก​เช่น​กัน. ถ้อย​คำ​ต่าง ๆ แม้​จะ​เป็น​เพียง​ข้อ​ความ​ที่​พิมพ์​อยู่​บน​กระดาษ​ก็​ทำ​ให้​เรา​คิด, ร่วม​รู้สึก, และ​ทำ​ตาม​ได้. แล้ว​ภาพ​เคลื่อน​ไหว, ดนตรี, และ​บท​พูด​ที่​นำ​มา​เรียง​ร้อย​เข้า​ด้วย​กัน​อย่าง​ชำนิ​ชำนาญ​จะ​มี​พลัง​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด! ไม่​น่า​แปลก​ใจ​ที่​โทรทัศน์​น่า​ดึงดูด​ใจ​จริง ๆ! และ​โทรทัศน์​ก็​หา​ดู​ได้​ง่าย​เหลือ​เกิน. นัก​เขียน​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “นับ​ตั้ง​แต่​ที่​มนุษย์​ได้​เรียน​รู้​วิธี​ถ่ายทอด​ความ​คิด​ของ​ตน​ออก​มา​เป็น​ตัว​อักษร​เป็น​ครั้ง​แรก . . . ไม่​มี​วิธี​ใหม่ ๆ ใน​การ​ถ่ายทอด​ความ​คิด​แบบ​ใด​จะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​อารยธรรม​ได้​มาก​ยิ่ง​กว่า [โทรทัศน์] อีก​แล้ว.”

บริษัท​ต่าง ๆ ทุ่ม​เงิน​หลาย​พัน​หลาย​หมื่น​ล้าน​บาท​ใน​การ​โฆษณา​ทุก​ปี​เพราะ​บริษัท​เหล่า​นั้น​รู้​ว่า​ผู้​ชม​ได้​รับ​แรง​กระตุ้น​จาก​สิ่ง​ที่​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน. บริษัท​เหล่า​นั้น​คง​ไม่​ได้​ทุ่ม​เงิน​ไป​มาก​ขนาด​นั้น​เพียง​เพราะ​พวก​เขา​คิด​ว่า​การ​โฆษณา​อาจ​จะ​ได้​ผล; พวก​เขา​รู้​ว่า​มัน​ได้​ผล​แน่ ๆ. มัน​ทำ​ให้​สินค้า​ของ​พวก​เขา​ขาย​ได้. ใน​ปี 2004 บริษัท​โคคาโคลา​ใช้​เงิน​ไป​ถึง 2.2 พัน​ล้าน​ดอลลาร์​ใน​การ​โฆษณา​ผลิตภัณฑ์​ของ​ตน​ไป​ทั่ว​โลก​ทั้ง​ทาง​สิ่ง​พิมพ์, วิทยุ, และ​โทรทัศน์. การ​ลง​ทุน​นี้​คุ้มค่า​ไหม? ใน​ปี​นั้น​บริษัท​ทำ​กำไร​ได้​เกือบ 22 พัน​ล้าน​ดอลลาร์. นัก​โฆษณา​ตระหนัก​ว่า​โฆษณา​ครั้ง​เดียว​ไม่​อาจ​ทำ​ให้​ผู้​คน​เปลี่ยน​พฤติกรรม​ได้. แต่​พวก​เขา​อาศัย​ผล​กระทบ​ที่​สะสม​กัน​หลาย​ปี​ของ​การ​โฆษณา​ชวน​เชื่อ.

ถ้า​การ​โฆษณา​เพียง 30 วินาที​ส่ง​ผล​ต่อ​ความ​คิด​และ​พฤติกรรม​ของ​เรา เรา​ย่อม​แน่​ใจ​ได้​เลย​ว่า​การ​ดู​ทีวี​นาน​นับ​ชั่วโมง​จะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​เรา​ด้วย. ผู้​แต่ง​หนังสือ​ชื่อ​โทรทัศน์—ประวัติศาสตร์​นานา​ชาติ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “ภาย​ใต้​ความ​บันเทิง​ที่​ดู​เหมือน​ปกติ​ธรรมดา​ที่​สุด​นั้น โทรทัศน์​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​สื่อ​การ​สอน​ที่​แอบ​แฝง.” หนังสือ​ชื่อ​ประวัติศาสตร์​ประกอบ​ภาพ​ของ​โทรทัศน์ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “โทรทัศน์​กำลัง​เปลี่ยน​วิธี​ที่​เรา​คิด.” คำ​ถาม​ที่​เรา​ต้อง​ถาม​ตัว​เอง​คือ ‘สิ่ง​ที่​ฉัน​ดู​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​ความ​คิด​ของ​ฉัน​ไป​ใน​แบบ​ที่​ฉัน​ต้องการ​ไหม?’

สำหรับ​ผู้​ที่​นมัสการ​พระเจ้า คำ​ถาม​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ตัว​เขา​เป็น​พิเศษ. สิ่ง​ที่​แพร่​ภาพ​ทาง​โทรทัศน์​หลาย​อย่าง​ขัด​กับ​หลักการ​และ​มาตรฐาน​ทาง​ศีลธรรม​อัน​สูง​ส่ง​ซึ่ง​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ไว้. มี​การ​แสดง​ภาพ​ว่า​รูป​แบบ​ชีวิต​และ​การ​กระทำ​ที่​พระ​คัมภีร์​ตำหนิ​เป็น​สิ่ง​ที่​ยอม​รับ​ได้, เป็น​เรื่อง​ปกติ, และ​ถึง​กับ​เป็น​ไป​ตาม​สมัย​นิยม​ด้วย​ซ้ำ. ใน​เวลา​เดียว​กัน ค่า​นิยม​แบบ​คริสเตียน​และ​บุคคล​ที่​ประพฤติ​ตน​ตาม​ค่า​นิยม​นั้น​มัก​จะ​ถูก​เมิน​เฉย, ถูก​ล้อเลียน, หรือ​ถูก​เยาะเย้ย​ทาง​โทรทัศน์​อยู่​บ่อย ๆ. นัก​เขียน​คน​หนึ่ง​กล่าว​ด้วย​ความ​สลด​ใจ​ว่า “ไม่​ใช่​แค่​สิ่ง​วิปริต​จะ​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​เรื่อง​ปกติ​เท่า​นั้น. แต่​ถ้า​จะ​ถือ​ว่า​อะไร​ปกติ สิ่ง​นั้น​ก็​ต้อง​เป็น​สิ่ง​ที่​วิปริต​ด้วย.” หลาย​ครั้ง “สื่อ​การ​สอน​ที่​แอบ​แฝง” นี้​กระซิบ​ว่า ‘ชั่ว​คือ​ดี​และ​ดี​คือ​ชั่ว.’—ยะซายา 5:20.

เรา​ต้อง​ระวัง​ว่า​เรา​ดู​อะไร เพราะ​สิ่ง​นั้น​จะ​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​ความ​คิด​ของ​เรา. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “บุคคล​ที่​ดำเนิน​กับ​คน​มี​ปัญญา​ก็​จะ​เป็น​คน​มี​ปัญญา แต่​คน​ที่​คบ​กับ​คน​โฉด​เขลา​ย่อม​จะ​รับ​ความ​เสียหาย.” (สุภาษิต 13:20, ล.ม.) ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ชื่อ​แอดัม คลาร์ก กล่าว​ว่า “ที่​จะ​ดำเนิน​กับ​ใคร​สัก​คน​หมาย​ถึง​การ​มี​ความ​รัก​และ​ความ​ผูก​พัน; และ​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​ไม่​เลียน​แบบ​คน​ที่​เรา​รัก. ดัง​นั้น เรา​พูด​ได้​ว่า ‘ให้​ฉัน​ดู​สิ​ว่า​เขา​คบหา​กับ​ใคร แล้ว​ฉัน​จะ​บอก​คุณ​ว่า​เขา​เป็น​คน​อย่าง​ไร.’ บอก​ฉัน​ว่า​เขา​คบหา​กับ​ใคร​บ้าง แล้ว​ฉัน​ก็​จะ​คาด​เดา​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​สภาพ​ศีลธรรม​ของ​เขา​เป็น​เช่น​ไร.” ดัง​ที่​เรา​ได้​เห็น​แล้ว ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​ใช้​เวลา​มาก​จริง ๆ ใน​การ​คบหา​กับ​ตัว​ละคร​ทาง​โทรทัศน์​ซึ่ง​ไม่​มี​ความ​สุขุม​รอบคอบ​เลย และ​ตัว​ละคร​เหล่า​นั้น​ก็​เป็น​บุคคล​ที่​คริสเตียน​ที่​สุจริต​ใจ​คง​ไม่​มี​วัน​ที่​จะ​เชิญ​ให้​เข้า​มา​ใน​บ้าน​ของ​ตน​อย่าง​แน่นอน.

ถ้า​แพทย์​สั่ง​จ่าย​ยา​ที่​มี​ฤทธิ์​แรง​มาก​ให้​คุณ คุณ​คง​จะ​ประเมิน​ดู​ประโยชน์​ของ​ยา​นั้น​พร้อม​กับ​ความ​เสี่ยง​ที่​อาจ​เกิด​จาก​การ​กิน​ยา​นั้น. การ​กิน​ยา​ผิด หรือ​การ​กิน​ยา​ถูก​แต่​กิน​มาก​เกิน​ไป อาจ​ก่อ​ความ​เสียหาย​ต่อ​สุขภาพ​ของ​คุณ​ได้. อาจ​พูด​ได้​ว่า​การ​ดู​ทีวี​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น​เช่น​กัน. ด้วย​เหตุ​นี้ จึง​เป็น​เรื่อง​สุขุม​ที่​จะ​คิด​อย่าง​จริงจัง​ว่า​เรา​ดู​อะไร.

เปาโล อัครสาวก​ผู้​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ สนับสนุน​คริสเตียน​ให้​พิจารณา​สิ่ง​ที่​จริง, น่า​เอา​ใจ​ใส่​อย่าง​จริงจัง, ชอบธรรม, บริสุทธิ์, น่า​รัก, กล่าว​ถึง​ใน​ทาง​ดี, มี​คุณ​ความ​ดี, และ​น่า​สรรเสริญ. (ฟิลิปปอย 4:6-8, ล.ม.) คุณ​จะ​ฟัง​คำ​แนะ​นำ​นี้​ไหม? คุณ​จะ​มี​ความ​สุข​ถ้า​คุณ​ฟัง.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 3 สถิติ​ของ​สหรัฐ​นั้น​ก็​คล้าย​กัน​กับ​ประเทศ​อื่น ๆ เนื่อง​จาก​รายการ​โทรทัศน์​และ​ภาพยนตร์​ของ​สหรัฐ​ถูก​นำ​ไป​แพร่​ภาพ​ทั่ว​โลก.

[คำ​โปรย​หน้า 5]

“โทรทัศน์​เป็น​สิ่ง​ประดิษฐ์​ที่​ทำ​ให้​คุณ​ได้​รับ​ความ​บันเทิง​ใน​ห้อง​นั่ง​เล่น​ของ​คุณ​จาก​คน​ที่​คุณ​คง​จะ​ไม่​เชิญ​ให้​เข้า​มา​ใน​บ้าน.”—เดวิด ฟรอสต์ ผู้​ดำเนิน​รายการ​โทรทัศน์​ชาว​บริเตน

[กรอบ​หน้า 5]

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​เรื่อง​เพศ​และ​ความ​รุนแรง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล?

มี​ความ​แตกต่าง​อย่าง​ไร​ระหว่าง​ความ​รุนแรง​และ​เรื่อง​ทาง​เพศ​ที่​แสดง​ใน​ทีวี​กับ​ที่​พรรณนา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล? การ​กล่าว​ถึง​เรื่อง​ทาง​เพศ​และ​ความ​รุนแรง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เขียน​ขึ้น​เพื่อ​อบรม​สั่ง​สอน ไม่​ใช่​เพื่อ​ให้​ความ​บันเทิง. (โรม 15:4) พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​บันทึก​ข้อ​เท็จ​จริง​ใน​ประวัติศาสตร์. พระ​คำ​นั้น​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ต่าง ๆ และ​เพื่อ​เรียน​จาก​ความ​ผิด​พลาด​ของ​คน​อื่น.

ใน​ประเทศ​ส่วน​ใหญ่​ที่​มี​การ​ฉาย​ภาพยนตร์​โฆษณา ภาพ​เกี่ยว​กับ​เพศ​และ​ความ​รุนแรง​ที่​เห็น​ใน​ทีวี​ไม่​ได้​มี​ไว้​เพื่อ​สอน แต่​เป็น​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​เงิน​และ​ผล​ประโยชน์. นัก​โฆษณา​ต้องการ​ดึงดูด​ผู้​คน​มาก​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้ และ​เรื่อง​เพศ​กับ​ความ​รุนแรง​ก็​ทำ​ให้​ผู้​ชม​ติด​อยู่​กับ​หน้า​จอ​โทรทัศน์. ผล​ก็​คือ พวก​เขา​จะ​ดู​ภาพยนตร์​โฆษณา​และ​ซื้อ​สินค้า​ที่​อยู่​ใน​โฆษณา​นั้น. นัก​ข่าว​ก็​ใช้​หลักการ​ที่​ว่า “ถ้า​มี​การ​นอง​เลือด เรื่อง​นั้น​ต้อง​เป็น​ข่าว​เด่น.” พูด​ง่าย ๆ ก็​คือ เรื่อง​ที่​น่า​สยดสยอง เช่น อาชญากรรม, ภัย​พิบัติ, และ​สงคราม จะ​ถูก​นำ​เสนอ​ก่อน​ข่าว​อื่น​ที่​น่า​ตกใจ​น้อย​กว่า.

แม้​คัมภีร์​ไบเบิล​บันทึก​เรื่อง​ราว​ที่​มี​ความ​รุนแรง แต่​ก็​สนับสนุน​ผู้​คน​ให้​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​สันติ ไม่​คอย​หา​โอกาส​ที่​จะ​แก้แค้น​แต่​จัด​การ​กับ​ปัญหา​ด้วย​สันติ​วิธี. คัมภีร์​ไบเบิล​ส่ง​เสริม​ศีลธรรม​ทาง​เพศ​อย่าง​เสมอ​ต้น​เสมอ​ปลาย. สิ่ง​ที่​มี​การ​แพร่​ภาพ​ทาง​โทรทัศน์​ส่วน​ใหญ่​ไม่​ได้​เป็น​เช่น​นี้​เลย.—ยะซายา 2:2-4; 1 โกรินโธ 13:4-8; เอเฟโซ 4:32.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 7]

โทรทัศน์​กับ​เยาวชน

“โดย​อาศัย​หลักฐาน​ที่​รวบ​รวม​ได้​จาก​งาน​ศึกษา​วิจัย​ที่​ทำ​กัน​มา​ตลอด​หลาย​ทศวรรษ วงการ​วิทยาศาสตร์​และ​สาธารณสุข​ลง​ความ​เห็น​อย่าง​ท่วมท้น​ว่า​การ​ดู​ภาพ​ความ​รุนแรง​เป็น​อันตราย​ต่อ​เด็ก ๆ.”—มูลนิธิ​ตระกูล​เฮนรี เจ. ไคเซอร์.

“[เรา​เห็น​ด้วย​กับ] สถาบัน​กุมารเวชศาสตร์​แห่ง​อเมริกา​ที่​ว่า ไม่​ควร​ให้ ‘เด็ก​อายุ​สอง​ปี​หรือ​ต่ำ​กว่า​นั้น [ดู​โทรทัศน์].’ เด็ก​เหล่า​นี้​ซึ่ง​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​ที่​สมอง​มี​พัฒนาการ​อย่าง​มาก ต้องการ​เล่น​และ​ติด​ต่อ​กับ​ผู้​คน​จริง ๆ เพื่อ​ส่ง​เสริม​ทักษะ​ที่​ช่วย​ให้​เด็ก​มี​พัฒนาการ​รวม​ถึง​ทักษะ​ทาง​ด้าน​ร่าง​กาย และ​ด้าน​สังคม​ของ​พวก​เขา.”—สถาบัน​สื่อ​และ​ครอบครัว​แห่ง​ชาติ.

[ภาพ​หน้า 6, 7]

สิ่ง​ที่​ฉัน​ดู​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​ความ​คิด​ของ​ฉัน​ไป​ใน​แบบ​ที่​ฉัน​ต้องการ​ไหม?