ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ผมเคยเป็นบุตรผู้สุรุ่ยสุร่าย

ผมเคยเป็นบุตรผู้สุรุ่ยสุร่าย

ผม​เคย​เป็น​บุตร​ผู้​สุรุ่ยสุร่าย

เล่า​โดย​เมรอส วิลเลียม ซันเดย์

ผม​ถูก​สอน​มา​ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก​ให้​รัก​พระเจ้า; แต่​พอ​ผม​อายุ​ได้ 18 ปี ผม​ก็​ขืน​อำนาจ​และ​ออก​จาก​บ้าน​ไป. ผม​ใช้​ชีวิต​เยี่ยง​บุตร​ผู้​สุรุ่ยสุร่าย​ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​เป็น​เวลา​ถึง 13 ปี. (ลูกา 15:11-24) ผม​กลาย​เป็น​นัก​ค้า​ยา​เสพ​ติด​และ​เกือบ​จะ​ทำลาย​ชีวิต​ของ​ผม​ทั้ง​ชีวิต​ไป​เสีย. ขอ​ให้​ผม​เล่า​ว่า​อะไร​ทำ​ให้​ผม​เปลี่ยน​รูป​แบบ​ชีวิต​และ​กลับ​เนื้อ​กลับ​ตัว.

ผม​เกิด​เมื่อ​ปี 1956 ใน​ครอบครัว​ที่​เป็น​คริสเตียน และ​เป็น​ลูก​คน​ที่​สอง​ใน​บรรดา​พี่​น้อง​เก้า​คน. พวก​เรา​อยู่​ใน​อีเลชา เมือง​เล็ก ๆ ทาง​ภาค​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​ของ​ประเทศ​ไนจีเรีย. พ่อ​ของ​ผม​ถูก​เลี้ยง​ดู​ใน​ครอบครัว​คาทอลิก แต่​ใน​ปี 1945 ลุง​ของ​พ่อ​มอบ​หนังสือ​พิณ​ของ​พระเจ้า ให้​พ่อ. * หลัง​จาก​อ่าน​หนังสือ​เล่ม​นั้น พ่อ​ก็​ตาม​หา​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ใน​ปี 1946 พ่อ​ได้​รับ​บัพติสมา และ​หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน​แม่​ก็​รับ​บัพติสมา​เช่น​กัน.

ผม​ยัง​จำ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​จริง​สำหรับ​ผม​มาก​สัก​เพียง​ไร​ใน​ตอน​ที่​ผม​ยัง​เด็ก และ​ผม​เคย​เข้า​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่​กับ​พ่อ​แม่​อย่าง​กระตือรือร้น​มาก​เพียง​ไร. พ่อ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ผม. บาง​ครั้ง อะลิซ โอบาราห์ ซึ่ง​มี​สามี​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ใน​เขต​นั้น ก็​ศึกษา​กับ​ผม​ด้วย. พ่อ​แม่​ต้องการ​ให้​ผม​เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม แม่​แนะ​ว่า​ผม​ควร​เรียน​จบ​ชั้น​มัธยม​เสีย​ก่อน.

แต่​ทันที​ที่​ผม​เข้า​โรง​เรียน​มัธยม​เมื่อ​อายุ 16 ปี ผม​ก็​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​ฉลาด​โดย​ไป​คบหา​กับ​เพื่อน​นัก​เรียน​ที่​ไม่​นับถือ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. นั่น​เป็น​ความ​ผิด​พลาด​ที่​โง่​เขลา​จริง ๆ! ไม่​นาน ผม​ก็​เริ่ม​สูบ​บุหรี่​และ​ประพฤติ​ผิด​ศีลธรรม. ผม​รู้​ตัว​ว่า​วิถี​ชีวิต​แบบ​ใหม่​ของ​ผม​ไม่​เข้า​กับ​คำ​สั่ง​สอน​ที่​ผม​ได้​รับ​จาก​การ​ประชุม​คริสเตียน ผม​จึง​เลิก​ไป​ประชุม​และ​เลิก​ไป​ทำ​งาน​เผยแพร่​ตาม​บ้าน. พ่อ​แม่​ของ​ผม​ทุกข์​ใจ​มาก แต่​ผม​ไม่​สนใจ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น​อีก​ต่อ​ไป​แล้ว.

ผม​ออก​จาก​บ้าน

หลัง​จาก​เรียน​ชั้น​มัธยม​ได้​เพียง​สอง​ปี ผม​ก็​ออก​จาก​ครอบครัว​ไป​อยู่​กับ​เพื่อน​ฝูง​ใน​ละแวก​นั้น. บาง​ครั้ง​ผม​แอบ​เข้า​มา​ใน​บ้าน และ​ขน​เอา​อาหาร​ทุก​อย่าง​ที่​พอ​จะ​เอา​ไป​ได้​และ​หนี​ไป. ด้วย​ความ​ทุกข์​ใจ พ่อ​เลิก​จ่าย​ค่า​เทอม​ให้​ผม โดย​หวัง​ว่า​ผม​จะ​เปลี่ยน​นิสัย.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​ช่วง​นั้น​เอง​ผม​ได้​รับ​ทุน​การ​ศึกษา. ผู้​ให้​ทุน​ส่ง​ค่า​เทอม​ให้​ผม​จาก​สกอตแลนด์ และ​บาง​ครั้ง​ส่ง​ของ​ขวัญ​รวม​ทั้ง​เงิน​ให้​ผม​ด้วย. ระหว่าง​นั้น พี่​ชาย​คน​หนึ่ง​กับ​น้อง​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง​ของ​ผม​ก็​เลิก​สมทบ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เช่น​กัน ซึ่ง​ทั้ง​หมด​นี้​ทำ​ให้​พ่อ​แม่​ผม​เศร้า​ใจ​จน​สุด​จะ​พรรณนา​ได้. หลาย​ครั้ง​แม่​มา​อ้อน​วอน​ผม​ทั้ง​น้ำตา. แม้​นั่น​จะ​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ แต่​ผม​ก็​ไม่​ยอม​เปลี่ยน​วิถี​ชีวิต​ของ​ผม.

ใน​เมือง​ใหญ่

หลัง​จาก​เรียน​จบ​ใน​ปี 1977 ผม​ย้าย​ไป​ที่​กรุง​ลากอส​และ​ได้​งาน​ทำ. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น ผม​ได้​เงิน​มา​อย่าง​ผิด​กฎหมาย​และ​ซื้อ​รถ​แท็กซี่​คัน​หนึ่ง. ตอน​นี้​เมื่อ​ผม​มี​เงิน​มาก​ขึ้น ผม​ก็​เริ่ม​ใช้​ยา​เสพ​ติด และ​ผลาญ​เวลา​มาก​มาย​ไป​กับ​การ​เที่ยว​ตาม​ไนต์คลับ​และ​ซ่อง​โสเภณี. ไม่​นาน​ผม​ก็​เบื่อ​ชีวิต​ใน​กรุง​ลากอส และ​ย้าย​ไป​กรุง​ลอนดอน​ใน​ปี 1981. จาก​ลอนดอน​ผม​ย้าย​ไป​ประเทศ​เบลเยียม ซึ่ง​ผม​เรียน​ภาษา​ฝรั่งเศส​และ​ทำ​งาน​ไม่​เต็ม​เวลา​ใน​ร้าน​อาหาร. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เวลา​ส่วน​ใหญ่​ของ​ผม​ก็​หมด​ไป​กับ​การ​จัด​ส่ง​รถยนต์​และ​อุปกรณ์​อิเล็กทรอนิกส์​กลับ​ไป​ขาย​ที่​ไนจีเรีย.

พ่อ​เขียน​จดหมาย​ไป​ที่​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​เบลเยียม​และ​ขอ​ให้​พวก​เขา​ติด​ต่อ​ผม​และ​พยายาม​ชวน​ผม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. แต่​เมื่อ​ใด​ก็​ตาม​ที่​พยาน​ฯ มา​ที่​บ้าน​ผม ผม​ก็​จะ​ปฏิเสธ​ไม่​ยอม​ฟัง​พวก​เขา. ผม​เริ่ม​ไป​โบสถ์​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่ง​เรา​จะ​กิน, ดื่ม, และ​เล่น​กีฬา​หลาย ๆ อย่าง​ได้​หลัง​จาก​เสร็จ​พิธี​ทาง​ศาสนา.

ชีวิต​ใน​ฐานะ​นัก​ค้า​ยา​เสพ​ติด

ใน​ปี 1982 ผม​ส่ง​รถยนต์​ราคา​แพง​คัน​หนึ่ง​ไป​ยัง​ไนจีเรีย​และ​ไป​ที่​ท่า​เรือ​เพื่อ​เดิน​เรื่อง​นำ​รถ​ออก​จาก​ท่า​ด้วย​ตัว​เอง. ด่าน​ศุลกากร​ของ​ไนจีเรีย​พบ​ว่า​เอกสาร​อากร​ศุลกากร​เป็น​เอกสาร​ปลอม ผม​จึง​ถูก​กัก​ตัว​เป็น​เวลา​ราว ๆ 40 วัน. พ่อ​ไป​ประกัน​ตัว​ผม​ออก​มา. เนื่อง​จาก​ผม​ต้องการ​เงิน​เพื่อ​ทำ​ให้​คดี​นี้​สิ้น​สุด​ลง ผม​จึง​กลับ​ไป​ที่​เบลเยียม​พร้อม​กับ​สินค้า​บาง​อย่าง รวม​ทั้ง​กัญชา​อีก​สอง​สาม​กิโลกรัม. หลัง​จาก​ผม​หลุด​คดี​ปลอม​แปลง​เอกสาร​อากร​ศุลกากร​แล้ว ผม​ก็​กลาย​เป็น​นัก​ค้า​ยา​เสพ​ติด.

ครั้ง​หนึ่ง​ผม​ถูก​จับ​ใน​เนเธอร์แลนด์. ตำรวจ​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​เนรเทศ​ผม โดย​นำ​ผม​ไป​ขึ้น​เครื่องบิน​ที่​จะ​ไป​ยัง​ไนจีเรีย. ระหว่าง​ทาง ผม​พบ​นัก​ค้า​ยา​อีก​หลาย​คน และ​เรา​ก็​กลาย​เป็น​หุ้น​ส่วน​ค้า​ยา​กัน. ใน​เดือน​มกราคม 1984 ผม​ย้าย​ไป​อีก​ประเทศ​หนึ่ง​ใน​แอฟริกา. เนื่อง​จาก​ผม​พูด​ภาษา​ฝรั่งเศส​ได้​ซึ่ง​เป็น​ภาษา​ที่​ใช้​กัน​ที่​นั่น ไม่​นาน​ผม​ก็​สามารถ​ผูก​มิตร​กับ​นาย​ตำรวจ, ทหาร, และ​เจ้าหน้าที่​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง. ด้วย​เหตุ​นี้ เรา​จึง​จัด​การ​ขน​กัญชา​หลาย​พัน​กิโลกรัม​เข้า​ประเทศ​นั้น.

ถูก​จับ​และ​จำ​คุก

จาก​นั้น​ผม​ก็​มี​เรื่อง​เดือดร้อน​อีก. ผม​นัด​กับ​นาย​ร้อย​คน​หนึ่ง​ให้​ไป​ช่วย​ผม​นำ​สินค้า​ออก​จาก​สนามบิน​ใน​ประเทศ​นั้น. แต่​เขา​มา​ถึง​ช้า​ไป ผม​จึง​ถูก​จับ. ตำรวจ​ซ้อม​และ​ทรมาน​ผม​อย่าง​หนัก​จน​ผม​หมด​สติ. พวก​เขา​นำ​ตัว​ผม​ไป​ที่​โรง​พยาบาล​และ​ทิ้ง​ผม​ไว้​ที่​นั่น คาด​ว่า​ผม​จะ​ตาย. แต่​ผม​รอด​มา​ได้​และ​หลัง​จาก​นั้น​ก็​ถูก​ตั้ง​ข้อ​หา, ถูก​ตัดสิน​ลง​โทษ, และ​ถูก​จำ​คุก.

เมื่อ​ผม​ออก​จาก​คุก เพื่อน​คน​หนึ่ง​ที่​ผม​ขอ​เขา​ช่วย​ดู​แล​บ้าน​ให้​ผม ได้​ขาย​ทรัพย์​สิน​ทั้ง​หมด​ของ​ผม​และ​หนี​ไป. เพื่อ​จะ​หา​เลี้ยง​ชีพ ผม​จึง​เริ่ม​ขาย​กัญชา​ทันที. อย่าง​ไร​ก็​ตาม สิบ​วัน​ต่อ​มา​ผม​ถูก​จับ​อีก​และ​ถูก​จำ​คุก​สาม​เดือน. เมื่อ​ผม​ถูก​ปล่อย​ตัว ผม​ป่วย​หนัก​มาก​จน​เกือบ​ตาย​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​สามารถ​กลับ​ไป​กรุง​ลากอส​ได้.

หวน​คืน​สู่ “ธุรกิจ”

ที่​ลากอส ผม​พบ​หุ้น​ส่วน​บาง​คน​ของ​ผม และ​เรา​ออก​เดิน​ทาง​ไป​อินเดีย และ​ซื้อ​เฮโรอีน​มูลค่า​ราว ๆ 600,000 ดอลลาร์​สหรัฐ​ที่​นั่น. จาก​เมือง​บอมเบย์ (ปัจจุบัน​คือ​มุมไบ) เรา​เดิน​ทาง​ต่อ​ไป​ที่​สวิตเซอร์แลนด์, จาก​นั้น​ก็​โปรตุเกส, และ​ใน​ที่​สุด​ก็​ถึง​สเปน. เรา​แต่​ละ​คน​ได้​กำไร​มาก​พอ​ดู​และ​แยก​ย้าย​กัน​กลับ​ลากอส​โดย​แยก​กัน​ไป​คน​ละ​เส้น​ทาง. ปลาย​ปี 1984 ผม​ขาย​ยา​เสพ​ติด​อีก​เที่ยว​หนึ่ง. ผม​ฝัน​ว่า​จะ​หา​เงิน​ให้​ได้​สัก​หนึ่ง​ล้าน​ดอลลาร์​แล้ว​ไป​ลง​หลัก​ปัก​ฐาน​ที่​สหรัฐ.

ใน​ปี 1986 ผม​รวบ​รวม​เงิน​ทั้ง​หมด​ที่​มี​และ​ซื้อ​เฮโรอีน​บริสุทธิ์​จำนวน​หนึ่ง​ที่​ลากอส. ผม​นำ​เข้า​ไป​ใน​อีก​ประเทศ​หนึ่ง แต่​มัน​กลับ​ไป​ตก​อยู่​ใน​มือ​นัก​ค้า​ยา​ที่​โลภ​มาก​ราย​หนึ่ง​ซึ่ง​ไม่​ยอม​จ่าย​เงิน​ให้​ผม. ด้วย​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​ฆ่า ผม​จึง​กลับ​ไป​ลากอส​โดย​ไม่​ได้​พูด​ถึง​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​อีก​เลย. ผม​ทั้ง​หมด​ตัว​และ​สิ้น​หวัง. เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​ผม​นั่ง​ลง​และ​คิด​ทบทวน​เรื่อง​จุด​มุ่ง​หมาย​ใน​ชีวิต. ผม​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ทำไม​ชีวิต​ผม​จึง​ลุ่ม ๆ ดอน ๆ อย่าง​นี้?’

กลับ​มา​หา​พระเจ้า

คืน​หนึ่ง​หลัง​จาก​วัน​นั้น​ไม่​นาน ผม​อธิษฐาน​ทูล​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ให้​ช่วย​ผม. เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น ชาย​สูง​อายุ​คน​หนึ่ง​กับ​ภรรยา​มา​เคาะ​ประตู​บ้าน​ผม. ทั้ง​สอง​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ผม​ตั้งใจ​ฟัง​พวก​เขา​และ​รับ​วารสาร​ไว้. ผม​บอก​พวก​เขา​ว่า “พ่อ​แม่​ผม​ก็​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. อะลิซ โอบาราห์ เคย​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​ผม.”

ชาย​สูง​อายุ​ซึ่ง​มี​ชื่อ​ว่า พี. เค. ออกบาเนเฟ ตอบ​ว่า “เรา​รู้​จัก​สามี​ภรรยา​โอบาราห์​ดี. ตอน​นี้​พวก​เขา​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา​ไนจีเรีย​ที่​กรุง​ลากอส.” พวก​เขา​ชวน​ให้​ผม​ไป​พบ​สามี​ภรรยา​โอบาราห์. เมื่อ​ผม​ได้​พบ​พวก​เขา ผม​ก็​รู้สึก​มี​กำลังใจ​ขึ้น​มา​อย่าง​มาก. หลัง​จาก​นั้น บราเดอร์​ออกบาเนเฟ​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​ผม และ​ไม่​นาน​ผม​ก็​เริ่ม​เปลี่ยน​แปลง​ชีวิต​ที่​ผิด​ศีลธรรม​ของ​ผม. เรื่อง​นี้​ไม่​ง่าย​เพราะ​ผม​ใช้​ยา​เสพ​ติด​มา​นาน จึง​เป็น​เรื่อง​ยาก​มาก​ที่​จะ​เลิก. ถึง​กระนั้น​ผม​ตั้งใจ​แน่วแน่​ที่​จะ​ชำระ​ล้าง​ชีวิต​ของ​ผม​ให้​สะอาด​ขึ้น.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม มี​การ​ล่อ​ใจ​และ​ความ​กดดัน​มาก​เหลือ​เกิน! คน​ที่​ผม​เคย​คิด​ว่า​เป็น​เพื่อน​ได้​มา​ที่​บ้าน​และ​ให้​ข้อ​เสนอ​ที่​เย้า​ยวน​ใจ. ช่วง​หนึ่ง ผม​ถึง​กับ​หวน​กลับ​ไป​สูบ​ยา​และ​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​อีก. ผม​ระบาย​ความ​ใน​ใจ​ทุก​อย่าง​ต่อ​พระเจ้า​ใน​คำ​อธิษฐาน. ไม่​นาน​ผม​ก็​รู้​ว่า เนื่อง​จาก​เพื่อน ๆ ชาว​โลก​ทำ​ให้​ผม​หลง​ผิด​ไป ตอน​นี้​พวก​เขา​จึง​ช่วย​ผม​ไม่​ได้. ผม​สำนึก​ว่า ที่​จะ​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​ได้ ผม​ต้อง​ออก​ไป​จาก​ลากอส. แต่​ผม​ก็​รู้สึก​อับอาย​จน​ไม่​กล้า​กลับ​ไป​บ้าน​ที่​อีเลชา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​เขียน​จดหมาย​ไป​หา​พ่อ​กับ​พี่​ชาย​และ​ถาม​ว่า​ผม​จะ​กลับ​ไป​บ้าน​ได้​ไหม.

พ่อ​รับรอง​กับ​ผม​ว่า​จะ​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​เมื่อ​กลับ​บ้าน และ​พี่​ชาย​บอก​ว่า​เขา​จะ​ช่วย​ผม​เรื่อง​การ​เงิน. ดัง​นั้น สิบ​ปี​หลัง​จาก​ทิ้ง​พ่อ​แม่​ไป ผม​ก็​กลับ​บ้าน. ที่​บ้าน​ต้อนรับ​ผม​อย่าง​อบอุ่น. แม่​ร้อง​ออก​มา​ว่า “ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา!” เมื่อ​พ่อ​กลับ​มา​ถึง​บ้าน​ใน​ตอน​เย็น พ่อ​บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​จะ​ช่วย​ลูก.” เมื่อ​ครอบครัว​มา​อยู่​กัน​พร้อม​หน้า พ่อ​ก็​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา ขอ​ให้​พระองค์​ช่วย​ผม​ซึ่ง​ตอน​นี้​ผม​ได้​กลับ​มา​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์​แล้ว.

ชดเชย​เวลา​ที่​เสีย​ไป

ผม​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อีก​ครั้ง​และ​ก้าว​หน้า​อย่าง​รวด​เร็ว; ผม​รับ​บัพติสมา​ใน​วัน​ที่ 24 เมษายน 1988. ผม​ทำ​งาน​เผยแพร่​อย่าง​กระตือรือร้น​ทันที. ใน​วัน​ที่ 1 พฤศจิกายน 1989 ผม​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์ หรือ​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. ใน​ปี 1995 ผม​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​โรง​เรียน​ฝึก​อบรม​เพื่อ​งาน​รับใช้​รุ่น​ที่​สิบ​ที่​ไนจีเรีย. จาก​นั้น​ใน​เดือน​กรกฎาคม 1998 ผม​ก็​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง ซึ่ง​ไป​เยี่ยม​ตาม​ประชาคม​ต่าง ๆ ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ปี​ต่อ​มา ผม​ได้​รับ​พระ​พร​โดย​ได้​พบ​กับ​รูท ซึ่ง​เธอ​ได้​มา​เป็น​ภรรยา​และ​เพื่อน​ร่วม​ทาง​ของ​ผม.

สมาชิก​คน​อื่น ๆ ใน​ครอบครัว​ของ​ผม​ก็​ก้าว​หน้า​อย่าง​ดี​ฝ่าย​วิญญาณ​เช่น​กัน. พี่​ชาย​คน​หนึ่ง​ของ​ผม​ซึ่ง​เคย​เลิก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา ก็​กลับ​มา​รับ​เอา​การ​นมัสการ​แท้​อีก​และ​รับ​บัพติสมา​ด้วย. ผม​ดีใจ​ที่​พ่อ​ได้​เห็น​เรา​กลับ​มา. พ่อ​รับใช้​อย่าง​มี​ความ​สุข​ฐานะ​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้​ใน​ประชาคม​จน​เสีย​ชีวิต​ใน​ปี 1993 ด้วย​วัย 75 ปี. แม่​ยัง​คง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​กระตือรือร้น​ใน​อีเลชา.

ผม​เคย​เดิน​ทาง​มา​ทั้ง​หมด 16 ประเทศ​ทั้ง​ใน​ยุโรป, เอเชีย, และ​แอฟริกา​เพื่อ​พยายาม​แสวง​หา​ความ​ร่ำรวย. ผล​ก็​คือ ผม​ทิ่ม​แทง​ตัว​เอง​ให้​ทะลุ​ด้วย​ความ​เจ็บ​ปวด​มาก​มาย. (1 ติโมเธียว 6:9, 10) เมื่อ​ผม​มอง​ย้อน​ไป ผม​เสียใจ​อย่าง​ที่​สุด​ที่​ผม​เสีย​เวลา​มาก​มาย​ใน​ช่วง​วัย​หนุ่ม​ไป​กับ​ยา​เสพ​ติด​และ​การ​ผิด​ศีลธรรม. ผม​เสียใจ​ที่​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ปวด​ร้าว​พระทัย​และ​ทำ​ให้​ครอบครัว​ของ​ผม​เจ็บ​ปวด. แต่​ผม​ขอบพระคุณ​ที่​ผม​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​รอด​นาน​พอ​ที่​จะ​กลับ​เนื้อ​กลับ​ตัว. ผม​ตั้งใจ​แน่วแน่​ที่​จะ​รักษา​ความ​ภักดี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​รับใช้​พระองค์​ตลอด​ไป.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 4 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​เวลา​นี้​งด​พิมพ์​แล้ว.

[ภาพ​หน้า 13]

ตอน​เป็น​วัยรุ่น​ที่​ขืน​อำนาจ

[ภาพ​หน้า 15]

วัน​ที่​ผม​รับ​บัพติสมา

[ภาพ​หน้า 15]

กับ​รูท ภรรยา​ของ​ผม