ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

พระเจ้าเป็นต้นเหตุไหม?

พระเจ้าเป็นต้นเหตุไหม?

พระเจ้า​เป็น​ต้น​เหตุ​ไหม?

“พระเจ้า​ทรง​เป็น​ความ​รัก” คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว. (1 โยฮัน 4:8) พระองค์​ยัง​ทรง​ยุติธรรม​และ​เมตตา​กรุณา​ด้วย. “พระองค์​เป็น​ศิลา, กิจการ​ของ​พระองค์​ดี​รอบคอบ; เพราะ​ทาง​ทั้ง​ปวง​ของ​พระองค์​ยุติธรรม: พระองค์​เป็น​พระเจ้า​แห่ง​ความ​จริง​ปราศจาก​ความ​อสัตย์, เป็น​ผู้​ชอบธรรม​และ​ซื่อ​สัตย์.”—พระ​บัญญัติ 32:4.

เนื่อง​จาก​พระองค์​เป็น​พระ​ผู้​สร้าง พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​สามารถ​มอง​เห็น​ล่วง​หน้า​ไม่​ว่า​อะไร​ก็​ตาม​ที่​อาจ​ก่อ​อันตราย​ได้ และ​พระองค์​ทรง​มี​ฤทธิ์​อำนาจ​ที่​จะ​ขัด​ขวาง​ไม่​ให้​สิ่ง​นั้น​เกิด​ขึ้น. เมื่อ​คำนึง​ถึง​ข้อ​เท็จ​จริง​เหล่า​นี้​และ​คุณลักษณะ​ของ​พระเจ้า​ที่​พรรณนา​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล หลาย​คน​จึง​ถาม​อย่าง​เหมาะ​สม​ว่า “ทำไม​พระเจ้า​ยอม​ให้​เกิด​ภัย​ธรรมชาติ?” * คน​นับ​ล้าน​ที่​เคย​ถาม​คำ​ถาม​นี้​ด้วย​ความ​จริง​ใจ​ได้​มา​ทราบ​ว่า พระเจ้า​เอง​ทรง​ให้​คำ​ตอบ​ที่​มี​เหตุ​ผล​ที่​สุด​ใน​พระ​คำ​ของ​พระองค์​ที่​เขียน​ไว้​แล้ว. (2 ติโมเธียว 3:16) โปรด​พิจารณา​เรื่อง​ต่อ​ไป​นี้.

พวก​เขา​ปฏิเสธ​ความ​รัก​ของ​พระเจ้า

คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ว่า​พระเจ้า​ประทาน​ทุก​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ให้​แก่​บิดา​มารดา​แรก​เดิม​ของ​เรา​เพื่อ​จะ​มี​ชีวิต​ที่​มี​ความ​สุข​และ​ปลอด​ภัย. ยิ่ง​กว่า​นั้น ขณะ​ที่​เขา​ทั้ง​สอง​กับ​ลูก​หลาน​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญชา​ของ​พระเจ้า​ที่​ให้ “บังเกิด​ทวี​มาก​ขึ้น​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน” ครอบครัว​มนุษย์​ที่​กำลัง​แผ่​ขยาย​ไป​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระเจ้า​จะ​ทรง​ดู​แล​พวก​เขา​เรื่อย​ไป.—เยเนซิศ 1:28.

แต่​น่า​เศร้า อาดาม​กับ​ฮาวา​จงใจ​หัน​หลัง​ให้​พระ​ผู้​สร้าง โดย​เจตนา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​และ​เลือก​เดิน​ใน​ทาง​ที่​ไม่​ขึ้น​กับ​พระองค์. (เยเนซิศ 1:28; 3:1-6) ลูก​หลาน​ของ​เขา​ทั้ง​สอง​ส่วน​ใหญ่​ทำ​ตาม​เยี่ยง​อย่าง​ของ​พวก​เขา. (เยเนซิศ 6:5, 6, 11, 12) พูด​ง่าย ๆ คือ มนุษยชาติ​โดย​รวม​ได้​เลือก​ที่​จะ​เป็น​นาย​ของ​ตัว​เอง​และ​บ้าน​ของ​ตน​คือ​แผ่นดิน​โลก​นี้ โดย​ไม่​ให้​พระเจ้า​ชี้​นำ​พวก​เขา. เนื่อง​จาก​ทรง​เป็น​พระเจ้า​แห่ง​ความ​รัก​ผู้​ซึ่ง​เคารพ​หลักการ​เรื่อง​เจตจำนง​เสรี พระ​ยะโฮวา​จึง​ไม่​บังคับ​ใช้​อำนาจ​การ​ปกครอง​ของ​พระองค์​กับ​มนุษย์ แม้​ว่า​แนว​ทาง​ของ​มนุษย์​อาจ​นำ​ไป​สู่​ความ​เสียหาย​ได้. *

ถึง​กระนั้น พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ทอดทิ้ง​ครอบครัว​มนุษย์. จน​กระทั่ง​ทุก​วัน​นี้ “พระองค์​ทรง​บันดาล​ให้​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​ส่อง​สว่าง​แก่​คน​ดี​และ​คน​ชั่ว และ​ให้​ฝน​ตก​แก่​คน​ชอบธรรม​และ​คน​อธรรม.” (มัดธาย 5:45) นอก​จาก​นั้น พระเจ้า​ทรง​ให้​มนุษยชาติ​มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​แผ่นดิน​โลก​และ​วัฏจักร​ต่าง ๆ ใน​โลก และ​ความ​รู้​นี้​ช่วย​มนุษย์​สามารถ​คาด​คะเน​ล่วง​หน้า​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง​ว่า​สภาพ​อากาศ​รุนแรง​และ​อันตราย​อื่น ๆ เช่น ภูเขา​ไฟ​ระเบิด จะ​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ไร​และ​ที่​ไหน.

นอก​จาก​นี้ มนุษย์​ยัง​ค้น​พบ​ว่า​ส่วน​ไหน​ของ​โลก​มี​ความ​เสี่ยง​มาก​กว่า​ส่วน​อื่น ๆ ที่​จะ​เกิด​แผ่นดิน​ไหว​หรือ​สภาพ​อากาศ​รุนแรง. ใน​บาง​ประเทศ ความ​รู้​นี้​ได้​ช่วย​ชีวิต​ผู้​คน​โดย​ทาง​การ​ศึกษา รวม​ทั้ง​การ​พัฒนา​วิธี​ก่อ​สร้าง​และ​ระบบ​เตือน​ภัย​ให้​ดี​ขึ้น. กระนั้น ภัย​ธรรมชาติ​ที่​มี​รายงาน​ใน​แต่​ละ​ปี​ก็​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​เรื่อย ๆ. เหตุ​ผล​สำหรับ​เรื่อง​นี้​มี​หลาย​ประการ​และ​ซับซ้อน.

การ​อาศัย​อยู่​ใน​เขต​ที่​มี​ความ​เสี่ยง​สูง

ภัย​พิบัติ​จะ​สร้าง​ความ​เสียหาย​แค่​ไหน​นั้น​ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​รุนแรง​ของ​พลัง​ธรรมชาติ​ที่​เกิด​ขึ้น​เสมอ​ไป. การ​ที่​มี​คน​อาศัย​อยู่​ใน​พื้น​ที่​เสี่ยง​ภัย​อย่าง​หนา​แน่น​มัก​ส่ง​ผล​มาก​กว่า. ตาม​รายงาน​ที่​จัด​พิมพ์​โดย​ธนาคาร​โลก ใน 160 กว่า​ประเทศ ประชากร​มาก​กว่า​หนึ่ง​ใน​สี่​ซึ่ง​อาศัย​อยู่​ใน​เขต​ที่​มี​ความ​เสี่ยง​สูง​ที่​จะ​เกิด​การ​เสีย​ชีวิต​จาก​ภัย​ธรรมชาติ. นัก​วิทยาศาสตร์​ชื่อ​เคลาส์ เจ​คอบ แห่ง​มหาวิทยาลัย​โคลัมเบีย​ใน​สหรัฐ กล่าว​ว่า “ยิ่ง​คุณ​เอา​คน​เข้า​ไป​อยู่​ใน​พื้น​ที่​เสี่ยง​ภัย​มาก​ขึ้น คุณ​ก็​ทำ​สิ่ง​ที่​เมื่อ​ก่อน​นี้​เป็น​เพียง​ปรากฏการณ์​ธรรมชาติ​ให้​กลาย​เป็น​ภัย​พิบัติ.”

ปัจจัย​อื่น ๆ ที่​ทำ​ให้​สถานการณ์​ยิ่ง​เลว​ร้าย​ลง​ไป​อีก​คือ​การ​ขยาย​เขต​เมือง​อย่าง​รวด​เร็ว​โดย​ที่​ไม่​มี​การ​วาง​แผน, การ​ตัด​ไม้​ทำลาย​ป่า, และ​การ​เท​คอนกรีต​ลาด​พื้น​ดิน​เป็น​บริเวณ​กว้าง​ซึ่ง​ตาม​ปกติ​จะ​ซึมซับ​น้ำ​ที่​ไหล​บ่า​มา. โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ปัจจัย​สอง​ประการ​หลัง​นี้​ที่​ทำ​ให้​เกิด​โคลน​ถล่ม​และ​น้ำ​ท่วม​ซึ่ง​ก่อ​ความ​เสียหาย​อย่าง​มาก.

ปัจจัย​ที่​เกิด​จาก​มนุษย์​อาจ​ทำ​ให้​แผ่นดิน​ไหว​กลาย​เป็น​ภัย​พิบัติ​ครั้ง​ร้ายแรง​ได้ เนื่อง​จาก​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​ผู้​คน​เสีย​ชีวิต​และ​บาดเจ็บ​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​ไม่​ใช่​การ​สั่น​สะเทือน แต่​เกิด​จาก​อาคาร​ที่​พัง​ลง​มา​ต่าง​หาก. ด้วย​เหตุ​ผล​ที่​ดี นัก​วิทยา​แผ่นดิน​ไหว​จึง​มี​คำ​พูด​ที่​ว่า “แผ่นดิน​ไหว​ไม่​ได้​ทำ​ให้​คน​ตาย. แต่​อาคาร​ทำ​ให้​คน​ตาย.”

การ​ไร้​สมรรถภาพ​ทาง​การ​เมือง​อาจ​ทำ​ให้​จำนวน​ผู้​เสีย​ชีวิต​เพิ่ม​ขึ้น. ประเทศ​หนึ่ง​ใน​อเมริกา​ใต้ แผ่นดิน​ไหว​ทำ​ให้​เมือง​หลวง​ของ​ประเทศ​พินาศ​ยับเยิน​ถึง​สาม​ครั้ง​ใน​รอบ 400 ปี​ที่​ผ่าน​มา. และ​ตั้ง​แต่​แผ่นดิน​ไหว​ครั้ง​ล่า​สุด ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ปี 1967 ประชากร​ใน​เมือง​นั้น​ได้​เพิ่ม​ขึ้น​สอง​เท่า​เป็น​ห้า​ล้าน​คน. “แต่​ประมวล​กฎหมาย​ควบคุม​อาคาร​ซึ่ง​สามารถ​ปก​ป้อง​คุ้มครอง​ประชากร​ได้​กลับ​ไม่​มี​เลย​หรือ​ไม่​ถูก​บังคับ​ใช้” วารสาร​นิว ไซเยนติสต์ กล่าว.

ข้อ​ความ​ตอน​ท้าย​นี้​ตรง​กับ​สภาพการณ์​ของ​เมือง​นิวออร์ลีนส์ รัฐ​ลุยเซียนา สหรัฐ​อเมริกา ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​ใน​ที่​ลุ่ม​และ​เป็น​พื้น​ที่​ที่​น้ำ​มัก​จะ​ท่วม. แม้​ว่า​มี​การ​สร้าง​เขื่อน​ป้องกัน​น้ำ​ท่วม​และ​ติด​ตั้ง​เครื่อง​สูบ​น้ำ​ไว้ แต่​ภัย​พิบัติ​ที่​หลาย​คน​กลัว​กัน​นัก​หนา​ก็​เกิด​ขึ้น​จน​ได้​เมื่อ​ปี 2005 เมื่อ​เฮอร์ริเคน​แคทรีนา​พัด​ถล่ม​เมือง​นี้. รายงาน​ใน​วารสาร​ยูเอสเอ ทูเดย์ กล่าว​ว่า “คำ​เตือน​ที่​มี​มา​นาน​แล้ว” ถ้า​ไม่​ถูก​มอง​ข้าม​ก็ “พบ​กับ​การ​ตอบรับ​อย่าง​ไม่​แยแส.”

มี​การ​แสดง​ปฏิกิริยา​แบบ​ที่​ไม่​แยแส​ทำนอง​เดียว​กัน​ใน​เรื่อง​ภาวะ​โลก​ร้อน ซึ่ง​นัก​วิทยาศาสตร์​หลาย​คน​เชื่อ​ว่า​ภาวะ​ดัง​กล่าว​อาจ​ทำ​ให้​ภัย​พิบัติ​เกี่ยว​กับ​สภาพ​ดิน​ฟ้า​อากาศ​รุนแรง​ขึ้น​และ​ทำ​ให้​ระดับ​น้ำ​ทะเล​สูง​ขึ้น. เห็น​ได้​ชัด​ว่า ปัจจัย​ต่าง ๆ ทั้ง​ทาง​การ​เมือง, ทาง​สังคม, และ​ทาง​เศรษฐกิจ—สิ่ง​ซึ่ง​พระเจ้า​ไม่​ได้​ก่อ​ขึ้น—เป็น​สิ่ง​ที่​ต้อง​คำนึง​ถึง​ด้วย. ปัจจัย​ที่​มนุษย์​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​เรา​นึก​ถึง​ความ​จริง​ของ​ข้อ​หนึ่ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ว่า​มนุษย์​ไม่​สามารถ “กำหนด​ก้าว​ของ​ตัว​ได้.” (ยิระมะยา 10:23) ปัจจัย​ที่​มนุษย์​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​คือ​เจตคติ​ที่​ผู้​คน​มี​ต่อ​คำ​เตือน—ไม่​ว่า​จะ​เป็น​คำ​เตือน​จาก​ธรรมชาติ​หรือ​จาก​เจ้าหน้าที่.

เรียน​รู้​จัก​สัญญาณ​เตือน

แรก​ที​เดียว ต้อง​ยอม​รับ​ว่า​ภัย​ธรรมชาติ​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้​โดย​ไม่​มี​สัญญาณ​เตือน​ใด ๆ. ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:11 (ล.ม.) กล่าว​ว่า “วาระ​และ​เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​ได้​คาด​ล่วง​หน้า​ย่อม​บังเกิด​แก่​เขา​ทุก​คน.” แต่​บ่อย​ครั้ง​จะ​มี​สัญญาณ​บ่ง​บอก​บาง​อย่าง—ไม่​ว่า​จาก​ธรรมชาติ​หรือ​จาก​เจ้าหน้าที่—ว่า​ภัย​กำลัง​จะ​เกิด​ขึ้น. ดัง​นั้น เมื่อ​ผู้​คน​รู้​จัก​สัญญาณ​เตือน พวก​เขา​ก็​มี​โอกาส​รอด​มาก​ขึ้น.

เมื่อ​คลื่น​สึนามิ​ถล่ม​เกาะ​ซิมาลัว​ของ​อินโดนีเซีย​ใน​ปี 2004 มี​เพียง​เจ็ด​คน​ที่​เสีย​ชีวิต จาก​ประชากร​ทั้ง​หมด​หลาย​พัน​คน. เนื่อง​จาก​รู้​ว่า​น้ำ​ที่​ลด​ลง​อย่าง​ผิด​ปกติ​อาจ​เป็น​สัญญาณ​เตือน​ก่อน​จะ​มี​สึนามิ​เกิด​ขึ้น คน​ส่วน​ใหญ่​จึง​หนี​ไป​เมื่อ​น้ำ​ทะเล​ลด​ลง. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน มี​หลาย​คน​หนี​จาก​พายุ​ที่​รุนแรง​และ​ภูเขา​ไฟ​ระเบิด​ได้​เพราะ​เขา​ฟัง​คำ​เตือน. เนื่อง​จาก​คำ​เตือน​ของ​ธรรมชาติ​บาง​ครั้ง​มา​ก่อน​คำ​เตือน​ของ​เจ้าหน้าที่ ก็​นับ​ว่า​สุขุม​ที่​จะ​เรียน​รู้​จัก​คำ​เตือน​ทั้ง​สอง​อย่าง โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ถ้า​คุณ​อยู่​ใน​เขต​ที่​เสี่ยง​จะ​เกิด​ภัย​พิบัติ.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม น่า​เศร้า​ที่​มี “แนว​โน้ม​ว่า​ผู้​คน​ไม่​ยอม​รับ​รู้​ว่า​มี​อันตราย ถึง​แม้​เรื่อง​นี้​จะ​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน” นัก​วิทยา​ภูเขา​ไฟ​คน​หนึ่ง​กล่าว. เรื่อง​นี้​เป็น​จริง​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ที่​ซึ่ง​มัก​จะ​มี​สัญญาณ​เตือน​ผิด​พลาด​บ่อย ๆ หรือ​ใน​ที่​ซึ่ง​เคย​เกิด​ภัย​พิบัติ​นาน​มา​แล้ว. และ​บาง​ครั้ง​ผู้​คน​เพียง​แต่​ไม่​ต้องการ​ทิ้ง​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​ตน​ไป แม้​ว่า​ภัย​พิบัติ​จวน​จะ​มา​ถึง​อยู่​แล้ว.

ใน​หลาย​พื้น​ที่ ผู้​คน​ยาก​จน​เกิน​กว่า​จะ​ย้าย​ไป​ยัง​เขต​ที่​ปลอด​ภัย​กว่า​ได้. แต่​แทน​ที่​จะ​สะท้อน​ถึง​ความ​ล้มเหลว​ของ​พระ​ผู้​สร้าง สภาพ​ความ​เป็น​จริง​ของ​ความ​ยาก​จน​กลับ​ชี้​ถึง​ความ​ล้มเหลว​ของ​มนุษย์. ตัว​อย่าง​เช่น รัฐบาล​ต่าง ๆ มัก​จะ​ทุ่ม​งบประมาณ​มหาศาล​เพื่อ​ซื้อ​อาวุธ​ยุทโธปกรณ์ แต่​แทบ​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​เลย​เพื่อ​ช่วย​คน​ยาก​จน.

ถึง​กระนั้น คน​ส่วน​ใหญ่​ก็​พอ​จะ​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​อยู่​บ้าง ไม่​ว่า​สภาพการณ์​ของ​เขา​จะ​เป็น​เช่น​ไร. เป็น​เช่น​นั้น​อย่าง​ไร? ก็​ใน​ข้อ​ที่​ว่า โดย​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ที่​ได้​รับ​การ​เขียน​ขึ้น​ของ​พระองค์ พระเจ้า​ได้​ประทาน​หลักการ​ที่​ดี​มาก​มาย​ซึ่ง​สามารถ​ช่วย​ชีวิต​เรา​ได้​เมื่อ​นำ​ไป​ใช้.

หลักการ​ที่​ช่วย​รักษา​ชีวิต

อย่า​ทดลอง​พระเจ้า. พระ​บัญญัติ 6:16 กล่าว​ว่า “อย่า​ทดลอง​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เจ้า.” คริสเตียน​แท้​ไม่​ดำเนิน​ชีวิต​แบบ​เชื่อ​โชค​ลาง โดย​คิด​ว่า​พระเจ้า​จะ​ปก​ป้อง​พวก​เขา​ให้​พ้น​จาก​อันตราย​ใด ๆ ที่​จะ​เกิด​แก่​ร่าง​กาย​ของ​ตน​เสมอ. ด้วย​เหตุ​นี้ เมื่อ​เห็น​ว่า​จะ​มี​อันตราย​เกิด​ขึ้น พวก​เขา​เชื่อ​ฟัง​คำ​แนะ​นำ​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​ว่า “คน​ฉลาด​มอง​เห็น​ภัย​แล้ว​หนี​ไป​ซ่อน​ตัว; แต่​คน​โง่​เดิน​เซ่อ​ไป​และ​ก็​เป็น​อันตราย.”—สุภาษิต 22:3.

ถือ​ว่า​ชีวิต​มี​ค่า​มาก​กว่า​ทรัพย์​สมบัติ. “แม้​ว่า​คน​เรา​มี​อย่าง​บริบูรณ์ แต่​ชีวิต​ของ​เขา​ก็​ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​สิ่ง​ที่​เขา​มี.” (ลูกา 12:15, ล.ม.) จริง​อยู่ สมบัติ​วัตถุ​มี​ความ​สำคัญ แต่​มัน​ไม่​มี​ค่า​อะไร​เลย​สำหรับ​คน​ตาย. ดัง​นั้น คน​ที่​รัก​ชีวิต​และ​ทะนุถนอม​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​รับใช้​พระเจ้า​จะ​ไม่​เสี่ยง​อันตราย​โดย​ไม่​จำเป็น​เพื่อ​จะ​ปก​ป้อง​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​ตน.—บทเพลง​สรรเสริญ 115:17.

ใน​ปี 2004 ทา​ดา​ชิ ซึ่ง​อยู่​ใน​ญี่ปุ่น ทิ้ง​บ้าน​ของ​เขา​ทันที​หลัง​จาก​เกิด​แผ่นดิน​ไหว​และ​ก่อน​ที่​จะ​มี​คำ​แนะ​นำ​จาก​เจ้าหน้าที่. สำหรับ​เขา​แล้ว ชีวิต​ของ​เขา​สำคัญ​กว่า​บ้าน​และ​สิ่ง​ของ​ที่​เขา​มี​อยู่. อะกิระ ซึ่ง​อยู่​ใน​พื้น​ที่​เดียว​กัน​เขียน​ว่า “ระดับ​ของ​ความ​เสียหาย​ที่​แท้​จริง​ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​การ​สูญ​เสีย​สมบัติ​วัตถุ แต่​ขึ้น​อยู่​กับ​ทัศนคติ​ของ​คน​เรา. ผม​ถือ​ว่า​ภัย​พิบัติ​ครั้ง​นี้​เป็น​โอกาส​ดี​ที่​ผม​จะ​ทำ​ให้​ชีวิต​เรียบ​ง่าย​ขึ้น.”

ฟัง​คำ​เตือน​ของ​รัฐบาล. “จง​ให้​ทุก​คน​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​ที่​สูง​กว่า.” (โรม 13:1, ล.ม.) เมื่อ​เจ้าหน้าที่​สั่ง​ให้​อพยพ​หรือ​ปฏิบัติ​ตาม​มาตรการ​ด้าน​ความ​ปลอด​ภัย​บาง​อย่าง ก็​เป็น​การ​สุขุม​ที่​จะ​เชื่อ​ฟัง. ทา​ดา​ชิ​ออก​ไป​ไกล​จาก​เขต​อันตราย​โดย​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​ให้​อพยพ และ​จึง​ไม่​ได้​รับ​บาดเจ็บ​หรือ​เสีย​ชีวิต​จาก​แผ่นดิน​ไหว​ที่​ตาม​มา​อีก.

เมื่อ​ไม่​มี​คำ​เตือน​จาก​ทาง​การ​ถึง​เรื่อง​ภัย​พิบัติ​ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น ผู้​คน​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​เอง​ว่า​จะ​ลง​มือ​อย่าง​ไร​และ​เมื่อ​ไร โดย​คำนึง​ถึง​ข้อ​เท็จ​จริง​ทั้ง​หมด​ที่​มี​อยู่. ใน​บาง​พื้น​ที่ เจ้าหน้าที่​ใน​ท้องถิ่น​อาจ​จัด​เตรียม​คำ​แนะ​นำ​ที่​มี​ประโยชน์​เพื่อ​จะ​รอด​จาก​ภัย​พิบัติ. ถ้า​มี​ข้อมูล​เช่น​นี้​อยู่​ใน​ท้อง​ที่​ของ​คุณ คุณ​ทราบ​ข้อมูล​นี้​ดี​พอ​หรือ​ยัง? และ​คุณ​ได้​ปรึกษา​กับ​ครอบครัว​ของ​คุณ​หรือ​ยัง? (ดู​กรอบ​ใน​บทความ​นี้.) ใน​หลาย​ส่วน​ของ​โลก ภาย​ใต้​การ​ชี้​นำ​จาก​สำนักงาน​สาขา​ใน​ท้องถิ่น​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ประชาคม​ต่าง ๆ มี​มาตรการ​ฉุกเฉิน​ที่​จะ​ต้อง​ปฏิบัติ​ตาม​ถ้า​ดู​เหมือน​จะ​มี​ภัย​พิบัติ​เกิด​ขึ้น​หรือ​ได้​เกิด​ขึ้น​จริง ๆ และ​มาตรการ​เหล่า​นี้​ได้​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​มี​ประโยชน์​อย่าง​ยิ่ง.

แสดง​ความ​รัก​แบบ​คริสเตียน. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​ให้​บัญญัติ​ใหม่​ไว้​แก่​เจ้า​ทั้ง​หลาย, คือ​ให้​เจ้า​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน. เรา​รัก​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มา​แล้ว​ฉัน​ใด, เจ้า​จง​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ด้วย​ฉัน​นั้น.” (โยฮัน 13:34) คน​ที่​แสดง​ความ​รัก​แบบ​เสีย​สละ​เยี่ยง​พระ​คริสต์​จะ​ทำ​ทุก​วิถี​ทาง​ที่​ทำ​ได้​เพื่อ​ช่วยเหลือ​กัน​และ​กัน​ใน​การ​เตรียม​ตัว​หรือ​เพื่อ​ให้​รอด​จาก​ภัย​ธรรมชาติ. ท่ามกลาง​พยาน​พระ​ยะโฮวา ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​ทำ​งาน​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​เหน็ด​เหนื่อย​เพื่อ​ติด​ต่อ​สมาชิก​ทุก​คน​ใน​ประชาคม​ให้​แน่​ใจ​ว่า​พวก​เขา​ปลอด​ภัย​หรือ​สามารถ​ไป​อยู่​ใน​ที่​ที่​ปลอด​ภัย​ได้. นอก​จาก​นั้น ผู้​ปกครอง​จะ​ตรวจ​ดู​ให้​แน่​ใจ​ว่า​แต่​ละ​คน​มี​สิ่ง​จำเป็น​ใน​ชีวิต เช่น น้ำ​ดื่ม​สะอาด, อาหาร, เสื้อ​ผ้า, และ​ยา​ที่​จำเป็น. ขณะ​เดียว​กัน ครอบครัว​พยาน​ฯ ใน​เขต​ที่​ปลอด​ภัย​ก็​ยินดี​รับ​เพื่อน​พยาน​ฯ ที่​ต้อง​อพยพ​ให้​มา​พัก​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ตน. ความ​รัก​เช่น​นี้ “เป็น​เครื่อง​ผูก​พัน​อัน​สมบูรณ์​ที่​ทำ​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว.”—โกโลซาย 3:14, ล.ม.

ภัย​ธรรมชาติ​จะ​ยิ่ง​เลว​ร้าย​ลง​อย่าง​ที่​บาง​คน​คาด​การณ์​ไว้​ไหม? อาจ​เป็น​เช่น​นั้น แต่​คง​เป็น​เช่น​นั้น​ไป​อีก​ไม่​นาน. เพราะ​อะไร? เพราะ​ว่า​ยุค​อัน​น่า​เศร้า​ของ​มนุษยชาติ​ที่​ไม่​ขึ้น​กับ​พระเจ้า​กำลัง​จะ​จบ​ลง. หลัง​จาก​นั้น แผ่นดิน​โลก​ทั้ง​สิ้น และ​ผู้​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​โลก จะ​อยู่​ภาย​ใต้​อำนาจ​การ​ปกครอง​อัน​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ของ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​เต็ม​ที่ พร้อม​ด้วย​ผล​อัน​ยอด​เยี่ยม ดัง​ที่​เรา​จะ​ได้​พิจารณา​ใน​ตอน​นี้.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 3 แผ่นดิน​ไหว, สภาพ​ลม​ฟ้า​อากาศ​ที่​รุนแรง, ภูเขา​ไฟ​ระเบิด, และ​ปรากฏการณ์​อื่น ๆ โดย​ตัว​มัน​เอง​แล้ว​ไม่​ใช่​ภัย​ธรรมชาติ. ปรากฏการณ์​เหล่า​นี้​กลาย​เป็น​ภัย​ธรรมชาติ​ก็​ต่อ​เมื่อ​ส่ง​ผล​ร้าย​ต่อ​ชีวิต​มนุษย์​และ​ทรัพย์​สิน.

^ วรรค 6 สำหรับ​การ​พิจารณา​ให้​ละเอียด​ยิ่ง​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​การ​ที่​พระเจ้า​ทรง​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์​และ​ความ​ชั่ว​อยู่​ระยะ​เวลา​หนึ่ง โปรด​ดู​บทความ​ชุด​เรื่อง “ ‘ทำไม?’—การ​ตอบ​คำ​ถาม​ที่​ตอบ​ยาก​ที่​สุด” ใน​วารสาร​นี้​ฉบับ​พฤศจิกายน 2006 รวม​ทั้ง​บท 11 ของ​หนังสือ​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​อะไร​จริง​ๆ? จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 7]

คุณ​เตรียม​พร้อม​ที่​จะ​หนี​ไหม?

สำนักงาน​จัด​การ​เหตุ​ฉุกเฉิน​แห่ง​นคร​นิวยอร์ก​แนะ​นำ​ให้​แต่​ละ​ครอบครัว​วาง​แผนการ​อพยพ​โดย​จัด​เตรียม “กระเป๋า​ฉุกเฉิน”—ซึ่ง​เป็น​กระเป๋า​ที่​แข็งแรง​ทนทาน, ใช้​ได้​สะดวก, หิ้ว​ไป​ไหน​ได้​ง่าย​และ​มี​ของ​สำคัญ​สำหรับ​ใช้​ใน​ยาม​ฉุกเฉิน. อาจ​ใส่​สิ่ง​ต่อ​ไป​นี้​ใน​กระเป๋า​ใบ​นั้น: *

▪ สำเนา​เอกสาร​สำคัญ​ใส่​ใน​ซอง​ที่​กัน​น้ำ​ได้

▪ ลูก​กุญแจ​สำรอง​สำหรับ​รถยนต์​และ​บ้าน

▪ บัตร​เครดิต, บัตร​เอ​ที​เอ็ม, และ​เงิน​สด

▪ น้ำ​ดื่ม​บรรจุ​ขวด​และ​อาหาร​ที่​ไม่​เน่า​เสีย

▪ ไฟ​ฉาย, เครื่อง​รับ​วิทยุ เอ​เอ็ม/เอฟ​เอ็ม, ถ่าน​ไฟ​ฉาย, โทรศัพท์​มือ​ถือ (ถ้า​มี), แบตเตอรี่​สำรอง

▪ ยา​สำหรับ​ใช้​อย่าง​น้อย​หนึ่ง​สัปดาห์, ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​วิธี​ใช้​ยา, ใบ​สั่ง​ยา, และ​ชื่อ​แพทย์​และ​หมาย​เลข​โทรศัพท์. (อย่า​ลืม​เปลี่ยน​ยา​ใหม่​ก่อน​ที่​จะ​หมด​อายุ)

▪ ชุด​ปฐม​พยาบาล

▪ รอง​เท้า​ที่​ทนทาน​ใส่​สบาย​และ​ชุด​กัน​ฝน

▪ ข้อมูล​สำหรับ​ติด​ต่อ​และ​จุด​นัด​พบ​สำหรับ​ครอบครัว​ของ​คุณ รวม​ทั้ง​แผนที่​เขต​นั้น

▪ ของ​ใช้​ที่​จำเป็น​สำหรับ​เด็ก​อ่อน

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 35 แม้​จะ​มี​รายการ​สิ่ง​ของ​ที่​ทาง​การ​แนะ​นำ​เป็น​พื้น​ฐาน แต่​รายการ​ข้าง​ต้น​ก็​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​เล็ก​น้อย. ไม่​ใช่​ทุก​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​รายการ​จะ​เหมาะ​กับ​กรณี​ของ​คุณ​หรือ​ใน​ประเทศ​ที่​คุณ​อาศัย​อยู่ และ​อาจ​ต้อง​เพิ่ม​สิ่ง​ของ​บาง​อย่าง​เข้า​ไป. ตัว​อย่าง​เช่น ผู้​สูง​อายุ​และ​ผู้​ทุพพลภาพ​ก็​มี​ความ​จำเป็น​พิเศษ​ของ​ตน​เอง.

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 4]

USGS, David A. Johnston, Cascades Volcano Observatory