ค้างคาวที่เล็กที่สุดในโลก
ค้างคาวที่เล็กที่สุดในโลก
• ในปี 1973 นักชีววิทยาชาวไทยชื่อกิตติ ทองลงยาและคณะของเขาได้เก็บตัวอย่างค้างคาวมากกว่า 50 ตัวซึ่งขณะนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักจากถ้ำใกล้น้ำตกไทรโยคในประเทศไทย. เขาส่งตัวอย่างไปให้ ดร. เจ. อี. ฮิลล์แห่งพิพิธภัณฑสถานประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งบริเตนที่กรุงลอนดอน. น่าเศร้า กิตติเสียชีวิตไปก่อนจะรู้ว่าเขาได้ค้นพบค้างคาวชนิดใหม่ ซึ่งฮิลล์ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่กิตติว่า Craseonycteris thonglongyai. ชื่อสามัญของมันคือค้างคาวกิตติ หรือค้างคาวหน้าหมู.
ค้างคาวกิตติยาวประมาณ 3 เซนติเมตรและจากปลายปีกข้างหนึ่งถึงปลายปีกอีกข้างหนึ่งวัดได้ประมาณ 13 เซนติเมตร เป็นค้างคาวที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยค้นพบและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดชนิดหนึ่ง. ลักษณะสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือจมูกของมันคล้ายจมูกหมู (จึงได้ชื่อเช่นนี้), ไม่มีหาง, และหูใหญ่มีกลีบหูนูนขึ้นมา.
ถิ่นที่อยู่แคบ ๆ
ค้างคาวชนิดนี้จะพบได้เฉพาะที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคในไทยและพื้นที่ใกล้เคียงในพม่า. เช่นเดียวกับค้างคาวชนิดอื่น ๆ ค้างคาวกิตติใช้คลื่นเสียงนำทางหรือกำหนดทิศทางเมื่อออกล่าแมลง. เนื่องจากมันมีปีกที่ยาวเมื่อเทียบกับตัว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้จึงสามารถบินอยู่กับที่ได้ดี ซึ่งทำให้มันจับเหยื่อจากใบไม้ได้. มันชอบนอนโดยเกาะอยู่ในที่สูง ๆ ซึ่งมีอากาศอุ่นกว่าของถ้ำหินปูนเพดานสูงที่มีหลายห้อง สภาพเช่นนี้ช่วยปกป้องและช่วยลดการสูญเสียความอบอุ่นในร่างกายของมัน ซึ่งสำคัญมากสำหรับสัตว์เลือดอุ่นเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็ก ๆ เช่นนี้. พระผู้สร้างได้ประทานสัญชาตญาณและความสามารถอันน่าอัศจรรย์อะไรเช่นนี้แก่สัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่น่าทึ่ง!—วิวรณ์ 4:11
เนื่องจากค้างคาวกิตติมีน้อยมากและอาศัยในถิ่นที่อยู่แคบ ๆ ความอยู่รอดของมันจึงอยู่ในระหว่างเสี่ยงถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น. มีการพยายามมากขึ้นที่จะปกป้องพวกมัน แต่การตัดไม้ทำลายป่า, การทำไม้, การสร้างถนน, และการท่องเที่ยวก็ยังคงเป็นภัยคุกคามอยู่ต่อไป. ไม่ว่าสัตว์ตัวจ้อยนี้จะอยู่รอดหรือไม่ขณะที่มนุษย์บุกรุกไปถึงถิ่นอาศัยอันเปราะบางของมันก็ยังคงต้องดูกันต่อไป.
[กรอบ/ภาพหน้า 21]
ใหญ่สุดและเล็กสุด
มีค้างคาวเกือบ 1,000 ชนิด และเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่บินได้. ค้างคาวที่ใหญ่ที่สุด (1) มีชื่อว่าค้างคาวแม่ไก่ป่าฝน เมื่อกางปีกออกอาจกว้างมากกว่า 1.5 เมตรและหนักประมาณหนึ่งกิโลกรัม. โดยการเปรียบเทียบ ค้างคาวกิตติ (2) เมื่อกางปีกออกจะกว้างเพียง 13 เซนติเมตรและหนักเพียงสองกรัม.
[ที่มาของภาพหน้า 21]
Photos: © Merlin D. Tuttle Bat Conservation International www.batcon.org