หนุ่มสาวถามว่า
ฉันคาดหมายอะไรจากการแต่งงาน? ตอน 2
ฉบับที่แล้ว เราได้พิจารณาข้อดีและปัญหาบางอย่างที่คุณคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังแต่งงาน.
ในฉบับนี้ เราจะพิจารณาเหตุผลที่คุณจำเป็นต้องคาดหมายว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด.
ใส่เครื่องหมาย ✔ ในช่องที่คุณเลือกและใส่ตัวเลขเรียงตามลำดับที่คุณคิดว่าสำคัญ.
ฉันคาดหมายให้คนที่จะมาเป็นคู่สมรสในอนาคตของฉัน . . .
-
เป็นคนรูปร่างหน้าตาดี
-
ทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจในตัวเอง
-
มีเป้าหมายแบบเดียวกันกับฉัน
-
ชอบทำอะไรเหมือน ๆ กัน
หากคุณกำลังมองหาคนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ผิดที่จะคาดหมายสิ่งที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้. คุณอาจพบใครสักคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่คุณต้องการทุกอย่าง. แต่ถ้ามองตามความเป็นจริงแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปคนเรามักจะเปลี่ยนไป และสภาพการณ์ต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไปด้วย.
จุดสำคัญที่ควรจำ: เพื่อจะประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตคู่ คุณต้องคาดหมายว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น.
ข่าวดี. บางสิ่งที่เราไม่ได้คาดหมายจากการแต่งงานอาจเป็นเรื่องดีก็ได้.
“เนื่องจากตอนนี้เราแต่งงานกันแล้ว ผมเห็นว่ามาเรีย *มีอารมณ์ขัน ซึ่งในตอนที่เป็นแฟนกันผมไม่คิดว่าอารมณ์ขันของเธอมีประโยชน์. เพราะนี่ช่วยเราไม่ให้เครียดเกินไปเมื่อมีปัญหา.”—มาร์ก
ข่าวไม่ค่อยดี. บางสิ่งที่เราไม่ได้คาดหมายจากการแต่งงานอาจเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร. ขอพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้.
สมมุติว่าคุณและคนที่จะมาเป็นคู่สมรสในอนาคตมีเป้าหมายที่จะไปสอนเรื่องพระเจ้าในต่างแดน. แต่จะว่าอย่างไรถ้าหลังจากแต่งงานกันแล้ว คู่ของคุณเริ่มมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงและทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้? เมื่อมองเรื่องนี้ตามความเป็นจริง เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ดังที่คัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ว่า “เรื่องร้ายเกิดขึ้นได้กับทุกคน!” (ท่านผู้ประกาศ 9:11, พระคัมภีร์บริสุทธิ์ฉบับสำนวนอ่านง่าย [ภาษาอังกฤษ]) แน่นอน คุณไม่ควรวิตกกังวลกับสภาพการณ์ของคู่สมรสมากเกินควร และไม่ควรรู้สึกผิดหวังเกินไปที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้. แต่หากเกิดสภาพการณ์เช่นนั้นขึ้น คุณก็แค่ยอมรับความเป็นจริงและปรับตัวตามสภาพการณ์. สิ่งสำคัญคือคุณแต่งงานกับคนนั้นเพราะรักเขา ไม่ใช่เพื่อจะบรรลุเป้าหมายของตนเอง.
จุดสำคัญที่ควรจำ: ตามที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้ว่าคนที่แต่งงานแล้วจะ “ลำบาก” ในระดับหนึ่ง. (1 โครินท์ 7:28) บางทีความลำบากอาจมาพร้อมกับสภาพการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด.
คุณจะเตรียมตัวรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดอย่างไร? ถ้าคุณจะแต่งงาน คุณจำเป็นต้องมีสองสิ่งนี้.
1. มองตามความเป็นจริง
ไม่ว่าคุณกับคนที่จะมาเป็นคู่สมรสในอนาคตของคุณจะเข้ากันได้ดีเพียงไร คุณควรคาดหมายว่า
-
คุณจะไม่มีทางเห็นพ้องกันทุกเรื่อง.
-
คุณจะไม่มีทางเห็นความสำคัญของเรื่องต่าง ๆ เหมือนกัน.
-
คุณจะไม่มีทางชอบทำกิจกรรมทุกอย่างเหมือนกัน.
-
ความรักที่คุณมีต่อเขาอาจจะไม่มากเหมือนตอนเป็นแฟนกัน.
สภาพการณ์ที่เพิ่งกล่าวถึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป. แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่ทำลายชีวิตของคุณถ้าคุณไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่! ขอจำไว้ว่า คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าความรัก “อดทนทุกสิ่ง” และ “ไม่มีวันเสื่อมสูญ.”—1 โครินท์ 13:4, 7, 8
เรื่องจริงของชีวิต: ในที่สุด สิ่งที่จะทำให้คุณรักษาหรือยุติชีวิตสมรสไม่ใช่ปัญหา ที่คุณต้องเผชิญ แต่เป็นวิธีที่คุณแก้ไขปัญหานั้น ต่างหาก.—โกโลซาย 3:13
2. ความสำนึกถึงพันธะผูกมัด
หากคุณกับคู่สมรสตั้งใจจะอยู่ด้วยกัน (ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น) คุณก็จะพยายามฟันฝ่าอุปสรรคที่ไม่คาดคิดไปด้วยกันได้.—มัดธาย 19:6
บางคนอ้างว่าการสำนึกถึงพันธะผูกมัดเป็นภาระหนัก. แต่ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย! การสำนึกถึงพันธะผูกมัดช่วยให้คุณมีความสัมพันธ์ที่มั่นคง. เมื่อเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น คุณกับคู่สมรสจะช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เอาเรื่องนั้นมาเป็นข้ออ้างที่จะเลิกกัน.
การพัฒนาความสำนึกถึงพันธะผูกมัดจะช่วยคุณให้มองชีวิตสมรสตามความเป็นจริงไม่ใช่อย่างที่คุณอยากให้เป็น. เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างในเรื่องนี้ ลองกรอกข้อมูลต่อไปนี้.
1. ลองคิดว่าคุณได้ตั๋วเครื่องบินฟรีที่จะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ในโลก. คุณจะเลือกไปที่ไหน และทำไม?
จุดหมายปลายทาง:
เหตุผล:
-
ทัศนียภาพ
-
วัฒนธรรม
-
สภาพอากาศ
-
กิจกรรมยามว่าง
-
2. นึกภาพว่าคุณได้ตั๋วเครื่องบินขาไปเที่ยวเดียว และคุณต้องอาศัยอยู่ที่จุดหมายปลายทางนั้นตลอดไป.
เอาล่ะ ถ้าคุณจะไป คุณจะเลือกไปที่ไหน?
-
จุดหมายปลายทาง:
-
หรือ
ฉันจะอยู่ที่เดิม.
จากข้อมูลของคุณด้านบน จุดหมายปลายทางแรกและจุดหมายปลายทางที่สองของคุณอาจแตกต่างกัน. แม้ว่าจุดหมายปลายทางทั้งสองของคุณจะเหมือนกันแต่เมื่อเลือกจุดหมายปลายทางครั้งที่สอง คุณอาจคิด ไม่เหมือนเดิม. แทนที่จะคิดว่าตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินเล่นริมชายหาดหรือกำลังปีนเขา ให้คิดว่าคุณเป็นคนที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นนั้นซึ่งคุณอาจพบทั้งเรื่องดี ๆ และปัญหาในชีวิตประจำวัน.
คุณต้องคิดแบบเดียวกัน นั้นกับการแต่งงาน. เมื่อเวลาผ่านไป สภาพการณ์ต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้. แน่นอน คุณและคู่สมรสก็เปลี่ยนด้วย. การประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับความสามารถในการคาดหมายว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นและวิธีที่คุณรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น.
ข้อชวนคิด: ในฐานะคนโสด ตอนนี้คุณรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดซึ่งเกิดขึ้นในชีวิตของคุณได้ดีแค่ไหน?
^ วรรค 15 บางชื่อในบทความนี้เป็นชื่อสมมุติ.
ลองถามพ่อแม่ของคุณดูสิ
พ่อแม่พบกับเรื่องดี ๆ และปัญหาอะไรบ้างเมื่อแต่งงานกันใหม่ ๆ? ถ้าฉัน จะแต่งงาน ฉันจะเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องที่ไม่คาดคิดได้อย่างไร?