อย่าให้เรือดกัด!
พอถึงกลางศตวรรษที่ 20 ดูเหมือนว่ามนุษย์ได้ชัยชนะในการทำสงครามกับเรือดแล้ว. บางคนรู้จักเรือดก็แค่ได้ยินจากเพลงกล่อมเด็กสมัยก่อนที่สอนว่า “อย่าให้เรือดกัด.” อย่างไรก็ตาม ในทศวรรษ 1970 หลายประเทศห้ามใช้ดีดีที อาวุธสำคัญในการต่อสู้กับเรือด เนื่องจากเป็นสารพิษและเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม.
เรือดดื้อสารเคมีอย่างอื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ. นอกจากนั้น ผู้คนเดินทางบ่อยขึ้นและเรือดก็ติดไปด้วยโดยที่เขาไม่รู้ตัว. ผลเป็นอย่างไร? รายงานการควบคุมเรือดปี 2012 กล่าวว่า “ช่วง 12 ปีที่ผ่านไปมีรายงานว่าเรือดกลับมาระบาดอีกในสหรัฐ แคนาดา ตะวันออกกลาง หลายประเทศในยุโรป ออสเตรเลียและหลายส่วนของแอฟริกา.”
เมื่อไม่นานมานี้ ในมอสโกประเทศรัสเซีย มีเสียงบ่นเกี่ยวกับเรือดเพิ่มขึ้นสิบเท่าในหนึ่งปี. ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งของโลก การแพร่ระบาดของเรือดในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 1999 เป็นต้นมา!
บางคนเอาเรือดติดมาด้วยโดยไม่รู้ตัวเมื่อเขาไปที่ร้านค้า โรงภาพยนตร์ หรือโรงแรม. ผู้จัดการโรงแรมคนหนึ่งในสหรัฐกล่าวว่า “ถ้าไปพักโรงแรมคุณจะได้เรือดกลับไปด้วยแน่ ๆ.” ทำไมเรือดจึงกำจัดได้ยากมาก? คุณจะป้องกันตัวเองอย่างไร? ถ้าเรือดเข้ามาอยู่ในบ้าน คุณจะทำอย่างไรเพื่อกำจัดมันและไม่ให้มันกลับมาอีก?
ผู้อยู่รอดตัวจิ๋ว
เนื่องจากเรือดมีขนาดพอ ๆ กับเมล็ดแอปเปิลและมีลำตัวแบน มันจึงสามารถซ่อนตัวอยู่ได้เกือบทุกที่. มันอาจอยู่ในที่นอน เครื่องเรือน ปลั๊กไฟ หรือแม้แต่ในโทรศัพท์ของคุณ. เรือดมักจะอาศัยอยู่ใกล้เตียงหรือที่ที่คุณนั่งภายในระยะ 3 ถึง 6 เมตร. ทำไม? เพื่ออยู่ใกล้แหล่งอาหารเสมอ ซึ่งก็คือตัวคุณ. *
บ่อยครั้งเรือดกัดเหยื่อขณะที่เหยื่อนอนหลับ. แต่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกเลยว่าถูกกัดเพราะเรือดจะปล่อยสารที่ทำให้ชาก่อน ซึ่งทำให้มันมีเวลาดูดเลือดนานถึงสิบนาทีโดยไม่ถูกขัดจังหวะ. และแม้ว่าเรือดอาจดูดเลือดเป็นอาหารทุกสัปดาห์ แต่เป็นที่รู้กันว่ามันรอดชีวิตอยู่ได้หลายเดือนโดยไม่ได้กินเลือดเลย.
เป็นที่ยอมรับกันว่าเรือดไม่ได้เป็นพาหะแพร่เชื้อโรคเหมือนยุงและแมลงบางชนิด. อย่างไรก็ตาม เมื่อมันกัดจะทำให้คันและเป็นตุ่มและส่งผลต่ออารมณ์ของหลายคน. เหยื่อของเรือดอาจนอนไม่หลับ อับอาย หรือกระทั่งเกิดอุปาทานว่าถูกเรือดกัดทั้ง ๆ ที่ไม่มีเรือดอยู่ในบ้านนานแล้ว. รายงานหนึ่งจากเซียร์ราลีโอนพูดถึงเรือดว่า “เป็นต้นเหตุของความรำคาญอย่างยิ่งและการนอนไม่หลับ” และเตือนถึง “ความอับอายในสังคมอันเนื่องมาจากเรือด.”
ป้องกันไม่ให้มีเรือด
เรือดสร้างความเดือดร้อนให้กับคนเรา. ถ้าคุณหาเจอตัวมันก่อนก็จะจัดการกับมันได้ง่ายขึ้น. ดังนั้น จงเรียนรู้ที่จะสังเกตร่องรอยของมันเมื่ออยู่ที่บ้านและเมื่อคุณเดินทาง. ตรวจดูเครื่องเรือน บัวเชิงผนัง และกระเป๋าเดินทางเผื่อจะเจอไข่เล็ก ๆ ที่มีขนาดเท่าเมล็ดฝิ่นและรอยเลือดแห้งเล็ก ๆ. การใช้ไฟฉายจะช่วยให้คุณมองเห็นมันได้ง่ายขึ้น.
อย่าให้มันมีที่อยู่อาศัย. อุดรอยแตกที่ผนังหรือกรอบประตู. แม้ว่าความไม่สะอาดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้มีตัวเรือด แต่ถ้าดูดฝุ่นเป็นประจำและบ้านไม่รกรุงรังก็จะพบเห็นและจัดการมันได้ง่ายขึ้น. เมื่อพักโรงแรม คุณอาจป้องกันไม่ให้เรือดจากห้องพักติดไปกับคุณถ้าไม่วางกระเป๋าเดินทางไว้บนพื้นและบนเตียง.
ถ้ามีเรือดในบ้าน
ถ้าคุณเห็นเรือดในบ้านหรือที่ห้องพักในโรงแรม คุณอาจกังวลและกระทั่งรู้สึกอาย. เดฟและภรรยาถูกเรือดกัดเมื่อไปพักร้อน. เดฟกล่าวว่า “เราตกใจมาก. เมื่อกลับบ้านเราจะบอกเพื่อน ๆ และครอบครัวอย่างไรดี? พวกเขาจะคิดไหมว่าอาการคันหรือระคายเคืองผิวที่เขาเป็นนั้นมาจากการเยี่ยมบ้านของเรา?” แม้ว่าปฏิกิริยาเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา ก็อย่าให้ความอายทำให้เราไม่กล้าขอความช่วยเหลือ. หน่วยงานด้านสุขอนามัยและสุขภาพจิตแห่งนครนิวยอร์กรับรองว่า “แม้ว่ายากที่จะกำจัดเรือด แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้.”
ตรวจหาดูและจัดการเพื่อไม่ให้เรือดอยู่ในบ้านคุณ
แต่อย่าคิดว่าการกำจัดเรือดเป็นเรื่องเล็ก. หากคุณพบเรือดในบ้าน บริษัทกำจัดแมลงที่มีใบอนุญาตคงจะช่วยคุณได้. แม้ว่าสารเคมีที่กล่าวถึงตอนต้นจะไม่ใช้กันแล้ว แต่ผู้กำจัดแมลงสมัยนี้ใช้หลายวิธีร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพในการจัดการกับเรือด. นักกีฏวิทยาชื่อดีนี เอ็ม. มิลเลอร์ ให้ข้อสังเกตด้วยว่า “การจัดการกับเรือดต้องอาศัยความร่วมมืออย่างมากจากผู้อยู่อาศัย ผู้ดูแลอาคาร และบริษัทกำจัดแมลง.” ถ้าคุณทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและระมัดระวังไว้ก่อนอย่างสมเหตุผล คุณก็ได้ทำส่วนที่คุณทำได้ที่จะไม่ “ให้เรือดกัด”!
^ วรรค 7 นักกีฏวิทยารายงานว่าเรือดดูดกินเลือดของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น รวมถึงสัตว์เลี้ยงในบ้าน.