ทัศนะของคัมภีร์ไบเบิล
การแต่งงาน
การแต่งงานเป็นข้อผูกมัดทางสังคมเท่านั้นหรือ?
“ที่พระเจ้าทรงผูกมัดไว้ด้วยกันแล้วนั้นอย่าให้มนุษย์ทำให้แยกจากกันเลย.”—มัดธาย 19:6
คัมภีร์ไบเบิลกล่าวอย่างไร?
ในสายตาของพระเจ้า การแต่งงานไม่ใช่แค่พิธีการทางสังคม แต่เป็นพันธะผูกมัดอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างชายและหญิง. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “ตั้งแต่แรกที่ทรงสร้างมนุษย์ ‘[พระเจ้า] ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง. ด้วยเหตุนี้ผู้ชายจะไปจากบิดามารดาของตน และทั้งสองจะเป็นเนื้อหนังเดียวกัน’ . . . ฉะนั้น ที่พระเจ้าทรงผูกมัดไว้ด้วยกันแล้ว นั้นอย่าให้มนุษย์ทำให้แยกจากกันเลย.” *—มาระโก 10:6-9; เยเนซิศ 2:24
สำนวนที่ว่า “ที่พระเจ้าทรงผูกมัดไว้ด้วยกันแล้ว” ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้ากำหนดคู่ครองไว้ให้มนุษย์ แต่หมายความว่าพระผู้สร้างของเราเป็นผู้ก่อตั้งการสมรส. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวเช่นนี้เพื่อย้ำว่าการแต่งงานเป็นพันธะผูกมัดที่จริงจัง. คู่สมรสที่มองว่าการแต่งงานของเขาทั้งสองเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ เป็นความผูกพันถาวร จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อประคับประคองชีวิตคู่ให้ยั่งยืน. นอกจากนั้น คู่สมรสจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าเมื่อพวกเขาทำตามคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับบทบาทของสามีและภรรยา.
ผู้ชายมีบทบาทอะไร?
“สามีเป็นประมุขของภรรยา.”—เอเฟโซส์ 5:23
คัมภีร์ไบเบิลกล่าวอย่างไร?
ครอบครัวจะมีปัญหาน้อยกว่าและอยู่เย็นเป็นสุข ถ้ามีคนหนึ่งเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องต่าง ๆ. คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพระเจ้ามอบหน้าที่นี้ให้กับสามี. แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิทธิ์ใช้อำนาจแบบเผด็จการหรือกดขี่สมาชิกในครอบครัว. นอกจากนั้น สามีต้องไม่ละเลยหน้าที่ตามบทบาทของตน เพราะถ้าทำอย่างนั้นภรรยาอาจหมดความนับถือในตัวเขาและทำให้เธอต้องแบกภาระในครอบครัวโดยไม่จำเป็น. พระเจ้าคาดหมายให้สามีขยันทำงานเพื่อดูแลภรรยาและให้เกียรติเธอในฐานะเพื่อนที่ใกล้ชิดและไว้ใจได้มากที่สุด. (1 ติโมเธียว 5:8; 1 เปโตร 3:7) ในเอเฟโซส์ 5:28 บอกว่า “สามีทั้งหลายควรรักภรรยาเหมือนรักกายของตน.”
สามีที่รักภรรยาของตนอย่างแท้จริงจะมองว่าความสามารถและคุณสมบัติที่ดีในตัวภรรยาเป็นสิ่งมีค่า และจะรับฟังความคิดเห็นของเธอโดยเฉพาะในเรื่องที่อาจมีผลกระทบต่อครอบครัว. สามีไม่ควรยืนกรานตามความคิดเห็นของตัวเองเพียงเพราะเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว. เมื่ออับราฮามชายผู้เลื่อมใสพระเจ้าไม่ยอมฟังคำแนะนำที่ดีของภรรยาเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาภายในครอบครัว พระยะโฮวาพระเจ้าบอกเขาว่า ‘จงเชื่อฟังถ้อยคำทั้งหมดที่นางได้พูดกับเจ้าเถิด.’ (เยเนซิศ 21:9-12) เมื่ออับราฮามทำตามด้วยความถ่อมใจ ครอบครัวของเขาก็สงบสุข เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และได้รับพระพรจากพระเจ้า.
ผู้หญิงมีบทบาทอะไร?
“ให้ท่านทั้งหลายที่เป็นภรรยายอมเชื่อฟังสามีของตน.”—1 เปโตร 3:1
คัมภีร์ไบเบิลกล่าวอย่างไร?
ก่อนที่พระเจ้าจะสร้างภรรยาให้มนุษย์ผู้ชายคนแรก พระองค์ตรัสว่า “มนุษย์ผู้นั้นจะอยู่คนเดียวก็ไม่เหมาะ; เราจะสร้างขึ้นอีกคนหนึ่ง, ให้เป็นคู่เคียง เหมาะกับเขา.” (เยเนซิศ 2:18) คู่เคียงคือผู้ที่คอยช่วยเหลือและเติมเต็มส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งขาดไป. ดังนั้น พระเจ้าไม่ได้สร้างผู้หญิงให้เป็นเหมือนผู้ชายหรือให้เป็นคู่แข่ง แต่สร้างให้เป็นผู้ช่วยที่คอยสนับสนุนกัน. ชายและหญิงสามารถร่วมมือกันทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จโดยให้กำเนิดลูกหลานจนเต็มแผ่นดินโลก.—เยเนซิศ 1:28
เพื่อผู้หญิงจะทำหน้าที่คู่เคียงของสามีได้อย่างดี พระเจ้าจึงสร้างพวกเธอให้มีร่างกาย อารมณ์ และความคิดจิตใจที่เหมาะกับบทบาทนั้น. ภรรยาที่ใช้คุณสมบัติเหล่านี้อย่างฉลาดและด้วยความรักมีส่วนช่วยให้ชีวิตสมรสประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้สามีมีความสุขและรู้สึกมั่นใจ. ในสายตาของพระเจ้า ผู้หญิงแบบนี้น่ายกย่องจริง ๆ. *—สุภาษิต 31:28, 31
^ วรรค 5 คัมภีร์ไบเบิลยอมให้มีการหย่าร้างได้ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำผิดประเวณี.—มัดธาย 19:9
^ วรรค 14 คู่สมรสจะอ่านคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับชีวิตคู่และครอบครัวได้ในบทความ “คำแนะนำสำหรับครอบครัว” ซึ่งลงเป็นประจำในวารสารตื่นเถิด!