จากปก
เพื่อนที่ดีเป็นอย่างไร?
ในวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2010 ผู้หญิงวัย 42 ปีคนหนึ่งในอังกฤษโพสต์ข้อความลาตายบนเว็บไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดัง ข้อความนั้นดูเหมือนเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นอย่างสิ้นหวัง แม้เธอมี “เพื่อน” มากกว่า 1,000 คนในสังคมออนไลน์แต่ไม่มีสักคนช่วยเธอ ตำรวจพบร่างของเธอหนึ่งวันหลังจากนั้น เธอกินยาฆ่าตัวตาย
ทุกวันนี้ เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เรามี “เพื่อน” ในสังคมออนไลน์ได้เป็นร้อยเป็นพัน แค่เราเพิ่มชื่อพวกเขาลงไปในรายชื่อเพื่อนของเราเท่านี้ก็เรียบร้อย และถ้าเราไม่อยาก “เป็นเพื่อน” กับเขาอีกต่อไป แค่ลบชื่อออกก็จบ แต่เรื่องน่าเศร้าของผู้หญิงอังกฤษคนนั้นตอกย้ำความจริงที่น่าตกใจคือเพื่อนแท้หายากมาก การสำรวจเมื่อไม่นานนี้พบว่า เราไม่มีเพื่อนสนิทเยอะเหมือนเมื่อก่อน ทั้ง ๆ ที่เราคบหากับคนในสังคมมากขึ้น
คุณคงเห็นด้วยกับคนส่วนใหญ่ว่าเพื่อนที่ดีสำคัญสำหรับเรา และคุณก็รู้ว่าการเป็นเพื่อนกันไม่ใช่แค่การกดลิงก์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือ แล้วคุณอยากมีเพื่อนแบบไหน? คุณจะเป็นเพื่อนที่ดีได้อย่างไร? และต้องทำอะไรเพื่อจะคบกันได้นาน ๆ?
ให้เรามาดูคำแนะนำ 4 ข้อที่ใช้ได้ผลจริงจากคัมภีร์ไบเบิลซึ่งจะช่วยให้คุณเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากคบ
1. ห่วงใยคนอื่นจากใจ
เพื่อนแท้สำนึกถึงความรับผิดชอบ พูดอีกอย่างก็คือ เพื่อนที่ดีรู้สึกว่าเขามีส่วนรับผิดชอบในตัวคุณและเขาห่วงใยคุณจริง ๆ แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายต้องรู้สึกแบบเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างก็ต้องทุ่มเทและเสียสละ แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่ากับความพยายาม ลองถามตัวเองว่า ‘ฉันเต็มใจทุ่มเทตัวเองเพื่อเพื่อนโดยให้ทั้งเวลา กำลังกายและกำลังใจไหม?’ อย่าลืมว่า ถ้าคุณอยากมีเพื่อนที่ดี คุณ เองก็ต้องเป็นเพื่อนที่ดีก่อน
คนอื่น ๆ คิดว่าเพื่อนที่ดีเป็นอย่างไร?
อีเรเน: “ถ้าอยากให้มิตรภาพงอกงามก็ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่และให้เวลามาก ๆ เหมือนกับการดูแลต้นไม้ในสวนให้สวยงาม เริ่มจากทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีก่อน ทำให้เพื่อนเห็นเสมอว่าคุณรักและสนใจพวกเขา และเต็มใจสละเวลาให้เพื่อนตอนที่เขาต้องการคุณ”
ลูอิส อัลฟองโซ: “สังคมทุกวันนี้สอนให้คนคิดถึงแต่ตัวเองแทนที่จะสนใจคนอื่น ดังนั้น ถ้ามีใครสนใจและเป็นห่วงเราจริง ๆ โดยไม่หวังผลตอบแทน มันจึงมีความหมายและทำให้เรารู้สึกดีมาก ๆ”
คัมภีร์ไบเบิลพูดอย่างไร?
“เจ้าทั้งหลายต้องการให้คนอื่นทำต่อเจ้าอย่างไร จงทำอย่างนั้นต่อเขา จงให้แก่ผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะให้แก่เจ้า” (ลูกา 6:31, 38) พระเยซูสอนว่าถ้าอยากมีเพื่อนที่ดีต้องมีน้ำใจและไม่เห็นแก่ตัว และถ้าคุณกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือเพื่อนโดยไม่หวังผลตอบแทน เขาก็คงอยากสนิทกับคุณมากขึ้น
2. เปิดใจพูดและเต็มใจฟัง
มิตรภาพแท้จะงอกงามไม่ได้ถ้าไม่มีการพูดคุยกันเป็นประจำ คุณอาจหยิบยกเรื่องที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง เมื่อเพื่อนพูดให้ตั้งใจฟังและนับถือความคิดของเขา ชมและให้กำลังใจเขาเสมอ บางครั้งเพื่อนอาจทำอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกไม่ควร ถ้าคุณเป็นเพื่อนที่ดี คุณจะกล้าเตือนและบอกให้เขาปรับปรุงตัว มันอาจไม่ง่ายแต่เพื่อนที่รักกันจริงจะพูดดี ๆ และไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจ
คนอื่น ๆ คิดว่าเพื่อนที่ดีเป็นอย่างไร?
ฮวน: “เพื่อนแท้กล้าพูดว่าเขาคิดอย่างไรและไม่โกรธถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับเขา”
ยูนิส: “ฉันถือว่าเพื่อนแท้คือคนที่เต็มใจใช้เวลาอยู่ด้วยกันและฟังฉันโดยเฉพาะตอนที่ฉันมีปัญหา”
ซิลวีนา: “เพื่อนแท้พูดความจริงกับคุณแม้ว่ามันอาจทำให้เจ็บ เพราะเขาหวังดีกับคุณจริง ๆ”
คัมภีร์ไบเบิลพูดอย่างไร?
“ทุกคนต้องไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ” (ยาโกโบ 1:19) เพื่อนที่ดีจะรู้สึกขอบคุณเสมอถ้ามีคนฟังเขาจริง ๆ เพราะถ้าเราตั้งหน้าตั้งตาพูดฝ่ายเดียวก็เหมือนกับเรากำลังบอกว่าความคิดเห็นของเราสำคัญกว่าของเขา ดังนั้น เราควรตั้งใจฟังเมื่อเพื่อนเล่าเรื่องที่เขาเป็นห่วงหรือกังวลใจ และอย่าโมโหถ้าถูกเพื่อนว่าตรง ๆ เพราะ “บาดแผลที่มิตรทำก็ด้วยเจตนาดี” เหมือนกับที่บอกไว้ในหนังสือสุภาษิต 27:6 (พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน )
3. มองเพื่อนตามความเป็นจริง
ยิ่งสนิทกับเพื่อนมากก็ยิ่งง่ายที่จะเห็นข้อบกพร่องของเขา เพื่อนของเราไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบและตัวเราเองก็เหมือนกัน ดังนั้น แทนที่จะคาดหมายหรือเรียกร้องว่าเพื่อนของเราจะต้องเป๊ะไปหมดทุกด้าน เราต้องคิดถึงข้อดีและอย่าไปคิดถึงข้อผิดพลาดของเขา
คนอื่น ๆ คิดว่าเพื่อนที่ดีเป็นอย่างไร?
แซมมวล: “เรามักจะคาดหมายจากคนอื่นมากกว่าจากตัวเอง ถ้าเราจำไว้ว่าบางครั้งเราก็ทำผิดและอยากให้คนอื่นยกโทษให้ เราก็จะเต็มใจให้อภัยคนอื่นด้วย”
ดาเนียล: “เราต้องยอมรับความจริงที่ว่าเพื่อนก็ทำผิดพลาดได้ ถ้ามีปัญหา เราจะรีบแก้ไขและพยายามลืมมันไปเร็ว ๆ”
คัมภีร์ไบเบิลพูดอย่างไร?
“เราต่างพลาดพลั้งกันหลายครั้ง ถ้าผู้ใดไม่พลาดพลั้งทางวาจาเลย ผู้นั้นก็เป็นคนสมบูรณ์ สามารถควบคุมร่างกายได้ทุกส่วน” (ยาโกโบ 3:2) การจำความจริงข้อนี้ไว้จะช่วยให้เราเข้าใจเพื่อนมากขึ้น และมองข้ามข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจทำให้เราไม่สบายใจ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “จงทนกันและกันเรื่อยไปและให้อภัยกันอย่างใจกว้างถ้าใครมีเหตุจะบ่นว่าผู้อื่น . . . นอกจากนี้ ท่านทั้งหลายจงสวมความรัก เพราะความรักเป็นสิ่งที่ผูกพันผู้คนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์”––โกโลซาย 3:13, 14
4. คบกับคนทุกวัย ทุกเชื้อชาติ
จริงอยู่ที่เราต้องเลือกให้ดีว่าจะคบใครเป็นเพื่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องจำกัดตัวเองและคบเฉพาะคนวัยเดียวกันหรือมีพื้นเพเหมือนกันเท่านั้น เราควรสนใจคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกภูมิหลังและทุกวัฒนธรรม แล้วเราก็จะมีความสุขมากขึ้น
คนอื่น ๆ คิดว่าเพื่อนที่ดีเป็นอย่างไร?
อูไน: “ถ้าคุณคบแต่กับคนรุ่นเดียวกัน ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน ก็เหมือนกับคุณใส่เสื้อผ้าสีโปรดตลอดเวลา ไม่ว่าจะชอบสีนั้นมากขนาดไหน สุดท้ายก็ต้องรู้สึกเบื่อแน่ ๆ”
ฟุงเก: “การเป็นเพื่อนกับคนหลายเชื้อชาติที่มีภูมิหลังต่างกันทำให้ฉันเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ฉันมีเพื่อนทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ และคนแก่ ฉันเลยเข้ากับคนได้ง่ายและปรับตัวเร็ว และเพื่อน ๆ ก็ชอบที่ฉันเป็นแบบนี้ด้วย”
คัมภีร์ไบเบิลพูดอย่างไร?
“ดังนั้น ข้าพเจ้าพูดกับพวกท่านเหมือนพูดกับบุตรว่า ให้พวกท่านเปิดใจให้กว้างเช่นกันเพื่อตอบสนองความรักใคร่ของเรา” (2 โครินท์ 6:13) คัมภีร์ไบเบิลสนับสนุนเราให้เป็นเพื่อนกับคนทุกชนิด ถ้าเราไม่ใจแคบแต่เปิดใจรับเพื่อนจากทุกภูมิหลัง เราก็จะเป็นคนที่มีชีวิตชีวามากขึ้นและเป็นคนที่ใคร ๆ ก็รัก