ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ผู้ข่มเหงมองเห็นความสว่างใหญ่

ผู้ข่มเหงมองเห็นความสว่างใหญ่

ผู้​ข่มเหง​มอง​เห็น​ความ​สว่าง​ใหญ่

เซาโล​เดือดดาล​ด้วย​ความ​โกรธ​ต่อ​พวก​สาวก​ของ​พระ​เยซู. เพราะ​ไม่​สะใจ​กับ​การ​ข่มเหง​ที่​ทำ​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ทั่ว​กรุง​ยะรูซาเลม​อยู่​แล้ว รวม​ทั้ง​การ​เอา​หิน​ขว้าง​ซะเตฟาโน ตอน​นี้​เขา​จึง​หา​ทาง​จะ​ขยาย​การ​ปราบ​ปราม​ออก​ไป. “ฝ่าย​เซาโล​ยัง​ขู่​คำราม​กล่าว​ว่า​จะ​ฆ่า​ศิษย์​ของ​พระ​เยซู​เสีย, จึง​ได้​ไป​หา​มหา​ปุโรหิต ขอ​หนังสือ​ไป​ยัง​ธรรมศาลา​ใน​เมือง​ดาเมเซ็ก, เพื่อ​ว่า​ถ้า​พบ​ผู้​หนึ่ง​ผู้​ใด​ถือ​ทาง​นั้น​ไม่​ว่า​ชาย​หรือ​หญิง จะ​ได้​จับ​มัด​พา​มา​ยัง​กรุง​ยะรูซาเลม.”—กิจการ 9:1, 2.

ขณะ​ที่​เซาโล​เดิน​ไป​ยัง​เมือง​ดาเมเซ็ก เขา​คง​ต้อง​ครุ่น​คิด​ว่า​จะ​ดำเนิน​การ​ตาม​คำ​สั่ง​ที่​ได้​รับ​มา​นี้​อย่าง​ได้​ผล​มาก​ที่​สุด​โดย​วิธี​ใด. อำนาจ​ที่​ได้​รับ​จาก​มหา​ปุโรหิต​คง​จะ​ทำ​ให้​เขา​ได้​รับ​ความ​ร่วม​มือ​จาก​พวก​ผู้​นำ​ใน​ชุมชน​ยิว​ขนาด​ใหญ่​ใน​เมือง​นั้น​อย่าง​ไม่​ต้อง​สงสัย. เซาโล​จะ​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พวก​เขา.

เซาโล​คง​ต้อง​รู้สึก​ตื่นเต้น​มาก​ขึ้น​ขณะ​ที่​ใกล้​จะ​ถึง​จุด​หมาย​ปลาย​ทาง. การ​เดิน​ทาง​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​ถึง​เมือง​ดาเมเซ็ก ซึ่ง​เป็น​การ​เดิน​ด้วย​เท้า​ระยะ​ทาง​ประมาณ 220 กิโลเมตร​ใช้​เวลา​เจ็ด​หรือ​แปด​วัน​นั้น​ทำ​ให้​เหน็ด​เหนื่อย​มาก. ทันใด​นั้น​ราว ๆ เที่ยง​วัน มี​แสง​สว่าง​เจิดจ้า​ยิ่ง​กว่า​แสง​อาทิตย์​ส่อง​ล้อม​รอบ​ตัว​เซาโล และ​เขา​ล้ม​ลง. เขา​ได้​ยิน​เสียง​พูด​กับ​เขา​เป็น​ภาษา​เฮ็บราย​ว่า “เซาโล, เซาโล​เอ๋ย, เจ้า​ข่มเหง​เรา​ทำไม? ซึ่ง​เจ้า​จะ​ถีบ​ประตัก​ก็​ยาก​นัก.” เซาโล​จึง​ทูล​ถาม​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า, พระองค์​เป็น​ผู้​ใด?” คำ​ตอบ​คือ​ว่า “เรา​คือ​เยซู​ซึ่ง​เจ้า​ข่มเหง​นั้น. แต่​ว่า​จง​ลุก​ขึ้น​ยืน​เถิด ด้วย​ว่า​เรา​ได้​ปรากฏ​แก่​เจ้า​เพื่อ​จะ​ตั้ง​เจ้า​ไว้​ให้​เป็น​ผู้​ปฏิบัติ, และ​เป็น​พยาน​ถึง​เหตุ​การณ์​ซึ่ง​เจ้า​ได้​เห็น, และ​ถึง​เหตุ​การณ์​ที่​เรา​จะ​สำแดง​ตัว​เรา​เอง​แก่​เจ้า​ใน​เวลา​ภาย​หน้า. เรา​จะ​ช่วย​เจ้า​ให้​พ้น​จาก​พลเมือง​และ​จาก​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​เรา​จะ​ใช้​เจ้า​ไป​หา​นั้น.” เซาโล​ทูล​ถาม​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า, ข้าพเจ้า​จะ​ต้อง​ทำ​ประการ​ใด?” “จง​ลุก​ขึ้น​เข้า​ไป​ใน​เมือง​ดาเมเซ็ก, และ​ที่​นั่น​เขา​จะ​บอก​เจ้า​ให้​รู้​ถึง​การ​ทุก​สิ่ง​ซึ่ง​ได้​กำหนด​ไว้​ให้​เจ้า​กระทำ​นั้น.”—กิจการ 9:3-6; 22:6-10; 26:13-17.

คน​เหล่า​นั้น​ที่​เดิน​ทาง​ไป​กับ​เซาโล​ได้​ยิน​เสียง ทว่า​ไม่​เห็น​ผู้​พูด​และ​ไม่​เข้าใจ​ว่า​พูด​อะไร. เนื่อง​จาก​แสง​สว่าง​เจิดจ้า เมื่อ​เซาโล​ลุก​ขึ้น​เขา​มอง​ไม่​เห็น​จึง​มี​คน​จูง​มือ​ไป. “ตา​ท่าน​ก็​มืด​มัวไป​และ​ท่าน​มิ​ได้​กิน​หรือ​ดื่ม​อะไร​ถึง​สาม​วัน.”—กิจการ 9:7-9; 22:11.

สาม​วัน​ของ​การ​คิด​รำพึง

เซาโล​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​จาก​ยูดา​ซึ่ง​อยู่​ใน​ถนน​ที่​เรียก​ว่า​ถนน​ตรง. * (กิจการ 9:11) ถนน​สาย​นี้​ซึ่ง​เรียก​ใน​ภาษา​อาหรับ​ว่า ดาร์บ อัลมุสทาคิม ยัง​คง​เป็น​ทาง​สัญจร​สาย​หลัก​ใน​เมือง​ดามัสกัส (ดาเมเซ็ก) อยู่. นึก​ดู​สิ​ว่า​เซาโล​เกิด​ความ​คิด​อะไร​ขึ้น​มา​ขณะ​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ยูดา. ประสบการณ์​ครั้ง​นั้น​ทำ​ให้​เซาโล​ตา​บอด​และ​ตกตะลึง. ตอน​นี้​จึง​มี​เวลา​ที่​จะ​ไตร่ตรอง​ดู​ความหมาย​ของ​เหตุ​การณ์​นั้น.

ผู้​ข่มเหง​เผชิญ​หน้า​กับ​สิ่ง​ที่​เขา​ปฏิเสธ​โดย​ถือ​ว่า​เป็น​เรื่อง​เหลวไหล. พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ที่​ถูก​ตรึง​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ตัดสิน​ลง​โทษ​จาก​ผู้​มี​อำนาจ​สูง​สุด​ชาว​ยิว​และ “เป็น​ที่​ดูหมิ่น, และ​คน​ไม่​คบหา” นั้น​ทรง​พระ​ชนม์​อยู่. พระองค์​ถึง​กับ​ทรง​ยืน​อยู่​ฐานะ​เป็น​ที่​โปรดปราน ณ เบื้อง​ขวา​พระ​หัตถ์​ของ​พระเจ้า​ใน “ความ​สว่าง​ที่​ไม่​มี​ผู้​ใด​เข้า​ไป​ถึง​ได้” ด้วย​ซ้ำ! พระ​เยซู​เป็น พระ​มาซีฮา. ซะเตฟาโน​และ​คน​อื่น​เป็น​ฝ่าย​ถูก. (ยะซายา 53:3; กิจการ 7:56; 1 ติโมเธียว 6:16, ล.ม.) เซาโล​เป็น​ฝ่าย​ผิด​อย่าง​สิ้นเชิง เพราะ​พระ​เยซู​ทรง​ระบุ​ตัว​พระองค์​เอง​ว่า​เป็น​ผู้​นั้น​แหละ​ที่​เซาโล​ข่มเหง​อยู่. เมื่อ​เผชิญ​กับ​หลักฐาน​เช่น​นั้น เซาโล​จะ “ถีบ​ประตัก” ต่อ​ไป​ได้​อย่าง​ไร? แม้​แต่​วัว​ผู้​ที่​ดื้อ​ใน​ที่​สุด​ก็​ยัง​ถูก​กระทุ้ง​ให้​ไป​ใน​ทิศ​ทาง​ที่​เจ้าของ​ของ​มัน​ต้องการ. ฉะนั้น โดย​ไม่​ยอม​ร่วม​มือ​กับ​การ​กระตุ้น​เตือน​ของ​พระ​เยซู เซาโล​คง​จะ​ทำ​ให้​ตัว​เอง​เจ็บ.

ใน​ฐานะ​พระ​มาซีฮา พระ​เยซู​ย่อม​ไม่​ได้​รับ​การ​ตัดสิน​ลง​โทษ​จาก​พระเจ้า. กระนั้น พระ​ยะโฮวา​ทรง​ยอม​ให้​พระองค์​ประสบ​ความ​ตาย​แบบ​น่า​อัปยศ​อดสู​ที่​สุด​และ​ตก​อยู่​ภาย​ใต้​การ​พิพากษา​ปรับ​โทษ​ของ​พระ​บัญญัติ​ที่​ว่า “ผู้​ที่​ต้อง​แขวน​อยู่​ที่​ต้น​ไม้​ก็​เป็น​ที่​แช่ง​ของ​พระเจ้า.” (พระ​บัญญัติ 21:23) พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์​ขณะ​ที่​ถูก​แขวน​บน​หลัก​ทรมาน. พระองค์​ถูก​แช่ง​สาป​มิ​ใช่​เพราะ​บาป​ของ​พระองค์​เอง เนื่อง​จาก​พระองค์​ไม่​มี​บาป​เลย แต่​เนื่อง​จาก​ความ​บาป​ของ​มนุษยชาติ. เซาโล​ได้​อธิบาย​ภาย​หลัง​ว่า “คน​ทั้ง​หลาย​ซึ่ง​พึ่ง​การ​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ก็​ถูก​แช่ง​สาป​แล้ว, เพราะ​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า, ทุก​คน​ที่​มิ​ได้​ประพฤติ​ตาม​ทุก​ข้อ​ซึ่ง​เขียน​ไว้​ใน​หนังสือ​พระ​บัญญัติ​นั้น​ก็​ถูก​แช่ง​สาป​อยู่​แล้ว. แต่​ก็​เห็น​แจ้ง​อยู่​แล้ว​ว่า, ไม่​มี​มนุษย์​เป็น​คน​ชอบธรรม​จำเพาะ​พระ​พักตร์​พระเจ้า​ด้วย​การ​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ได้ . . . พระ​คริสต์​ได้​ทรง​ไถ่​เรา​ให้​พ้น​ความ​แช่ง​สาป​แห่ง​พระ​บัญญัติ, โดย​ที่​พระองค์​ทรง​ยอม​ถูก​แช่ง​สาป​เพื่อ​เรา เพราะ​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ทุก​คน​ที่​ต้อง​ถูก​แขวน​ไว้​บน​ต้น​ไม้​ก็​ถูก​แช่ง​สาป​แล้ว.”—ฆะลาเตีย 3:10-13.

เครื่อง​บูชา​ของ​พระ​เยซู​มี​คุณค่า​ใน​การ​ไถ่. โดย​การ​ยอม​รับ​เครื่อง​บูชา​นั้น ใน​เชิง​อุปมา​แล้ว​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ตอก​พระ​บัญญัติ​และ​คำ​แช่ง​สาป​ของ​บัญญัติ​นั้น​กับ​หลัก. เมื่อ​เข้าใจ​ความ​จริง​นั้น​แล้ว เซาโล​จึง​ถือ​ได้​ว่า​หลัก​ทรมาน​ซึ่ง​เป็น “สิ่ง​ที่​ให้​พวก​ยูดาย​สะดุด” นั้น เป็น “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า.” (1 โกรินโธ 1:18-25; โกโลซาย 2:14) ดัง​นั้น​แล้ว ถ้า​ความ​รอด​ไม่​ได้​เป็น​มา​โดย​การ​งาน​ของ​พระ​บัญญัติ แต่​โดย​การ​ที่​พระเจ้า​แสดง​พระ​กรุณา​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ​ต่อ​คน​บาป​เช่น​เซาโล​เอง​แล้ว จึง​เป็น​ไป​ได้​ที่​มี​การ​เปิด​โอกาส​ให้​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อยู่​นอก​พระ​บัญญัติ​ได้​รับ​ความ​รอด​นั้น. และ​พระ​เยซู​ทรง​ส่ง​เซาโล​ไป​หา​คน​ต่าง​ชาติ​นั่น​เอง.—เอเฟโซ 3:3-7.

เรา​ไม่​รู้​ว่า​เซาโล​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​มาก​น้อย​แค่​ไหน​ใน​ตอน​ที่​เขา​เปลี่ยน​ศาสนา. พระ​เยซู​คง​ต้อง​ตรัส​กับ​เขา​อีก บาง​ที​มาก​กว่า​หนึ่ง​ครั้ง เกี่ยว​กับ​หน้า​ที่​ที่​มอบหมาย​แก่​เขา​ใน​การ​ไป​หา​ชาติ​ต่าง ๆ. ยิ่ง​กว่า​นั้น เวลา​ได้​ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​ก่อน​ที่​เซาโล​เขียน​เรื่อง​ทั้ง​หมด​ลง​ใน​บันทึก​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า. (กิจการ 22:17-21; ฆะลาเตีย 1:15-18; 2:1, 2) อย่าง​ไร​ก็​ตาม เวลา​ผ่าน​ไป​แค่​ไม่​กี่​วัน​ก่อน​ที่​เซาโล​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​ต่อ​ไป​จาก​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​องค์​ใหม่​ของ​เขา.

การ​เยี่ยม​ของ​อะนาเนีย

ภาย​หลัง​ปรากฏ​แก่​เซาโล​แล้ว พระ​เยซู​ทรง​ปรากฏ​แก่​อะนาเนีย​ด้วย ตรัส​แก่​เขา​ว่า “จง​ลุก​ขึ้น​ออก​ไป​ที่​ถนน​ที่​เรียก​ว่า​ถนน​ตรง, ไป​ถาม​หา​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เซาโล​ชาว​เมือง​ตาระโซ​อยู่​ในตึก​ของ​ยูดา, เพราะ​เขา​กำลัง​อธิษฐาน​อยู่, และ​เขา​ได้​เห็น​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อะนาเนีย​เข้า​มา​วาง​มือ​บน​เขา​เพื่อ​เขา​จะ​เห็น​ได้​อีก.”—กิจการ 9:11, 12.

เนื่อง​จาก​อะนาเนีย​รู้​กิตติศัพท์​ของ​เซาโล​ดี จึง​พอ​จะ​เข้าใจ​ได้​ที่​เขา​รู้สึก​ประหลาด​ใจ​ใน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู. เขา​ทูล​ว่า “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เจ้าข้า, ข้าพเจ้า​ได้​ยิน​หลาย​คน​พูด​ถึง​คน​นั้น​ว่า​เขา​ได้​ทำ​ร้าย​แก่​สิทธชน​ของ​พระองค์​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม. และ​ใน​ที่​นี่​เขา​ได้​อำนาจ​มา​จาก​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่ ให้​ผูก​มัด​คน​ทั้ง​ปวง​ซึ่ง​อธิษฐาน​ออก​พระ​นาม​ของ​พระองค์.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม พระ​เยซู​ตรัส​แก่​อะนาเนีย​ว่า “จง​ไป​เถิด เพราะ​ว่า​คน​นั้น​เป็น​ภาชนะ​ที่​เรา​ได้​เลือก​สรร​ไว้, สำหรับ​จะ​นำ​นาม​ของ​เรา​ไป​ยัง​คน​ต่าง​ชาติ, กษัตริย์​และ​พวก​ยิศราเอล.”—กิจการ 9:13-15.

เมื่อ​มี​การ​รับรอง​อีก​ครั้ง อะนาเนีย​จึง​ไป​ตาม​ที่​อยู่​ซึ่ง​พระ​เยซู​ทรง​แจ้ง​แก่​ท่าน. ครั้น​พบ​และ​ทักทาย​เซาโล​แล้ว อะนาเนีย​ได้​วาง​มือ​บน​เขา. เรื่อง​ราว​บอก​ว่า “และ​ใน​บัด​เดี๋ยว​นั้น​มี​อะไร​เหมือน​เกล็ด​ตก​จาก​ตา​ของ​เซาโล, แล้ว​ก็​เห็น​ได้​อีก.” ตอน​นี้​เซาโล​พร้อม​ที่​จะ​รับ​ฟัง. ถ้อย​คำ​ของ​อะนาเนีย​ยืน​ยัน​สิ่ง​ที่​เซาโล​อาจ​เข้าใจ​จาก​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​แล้ว​ที่​ว่า “พระเจ้า​แห่ง​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ได้​ทรง​เลือก​ท่าน​ไว้, ประสงค์​จะ​ให้​ท่าน​รู้​จัก​น้ำ​พระทัย​ของ​พระองค์, ให้​ท่าน​เห็น​พระองค์​ผู้​ชอบธรรม​นั้น, และ​ให้​ได้​ยิน​พระ​สุรเสียง​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระองค์ เพราะ​ว่า​ท่าน​จะ​เป็น​พยาน​ฝ่าย​พระองค์​ให้​คน​ทั้ง​ปวง​ทราบ​ถึง​เหตุ​การณ์​ซึ่ง​ท่าน​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน​นั้น. เดี๋ยว​นี้​ท่าน​จะ​รอ​ช้า​อยู่​ทำไม? จง​ลุก​ขึ้น​รับ​บัพติศมา​ลบ​ล้าง​ความ​ผิด​ของ​ท่าน​เสีย, และ​อธิษฐาน​ออก​พระ​นาม​ของ​พระองค์​เถิด.” ผล​เป็น​ประการ​ใด? เซาโล “จึง​ลุก​ขึ้น​รับ​บัพติศมา. พอ​รับประทาน​อาหาร​แล้ว​ก็​มี​กำลัง​ขึ้น.”—กิจการ 9:17-19; 22:12-16.

หลัง​จาก​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​มอบหมาย​ของ​ท่าน​เสร็จ​แล้ว อะนาเนีย​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ก็​ได้​พลัน​หาย​ไป​จาก​ฉาก​เหตุ​การณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​เรา​ไม่​ทราบ​เรื่อง​ของ​เขา​อีก​ต่อ​ไป. แต่​เซาโล​ได้​ทำ​ให้​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​ฟัง​เขา​ประหลาด​ใจ! อดีต​ผู้​ข่มเหง​ซึ่ง​มา​เมือง​ดาเมเซ็ก​เพื่อ​จับ​กุม​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู เริ่ม​ประกาศ​ใน​ธรรมศาลา​และ​พิสูจน์​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​คริสต์.—กิจการ 9:20-22.

“อัครสาวก​ไป​ยัง​ชาติ​ต่าง ๆ”

เหตุ​การณ์​ที่​ได้​ประสบ​บน​ทาง​สู่​เมือง​ดาเมเซ็ก​ทำ​ให้​เซาโล​ผู้​ข่มเหง​ต้อง​หยุด​แนว​ทาง​แห่ง​การ​ข่มเหง​ของ​เขา. เนื่อง​จาก​ตระหนัก​ถึง​เอกลักษณ์​ของ​พระ​มาซีฮา เซาโล​สามารถ​นำ​แนว​คิด​และ​คำ​พยากรณ์​หลาย​ข้อ​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​มา​ใช้​กับ​พระ​เยซู. การ​สำนึก​ว่า​พระ​เยซู​ได้​ปรากฏ​แก่​เขา​และ ‘ทรง​ฉวย​เอา​เขา​ไว้’ แล้ว​มอบหมาย​ให้​เขา​เป็น “อัครสาวก​ไป​ยัง​ชาติ​ต่าง ๆ” ได้​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เซาโล​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง. (ฟิลิปปอย 3:12; โรม 11:13, ล.ม.) ตอน​นี้​ใน​ฐานะ​อัครสาวก​เปาโล ท่าน​มี​สิทธิ​พิเศษ​และ​อำนาจ​ซึ่ง​คง​ต้อง​ส่ง​ผล​กระทบ​ไม่​เพียง​ต่อ​ชีวิต​ของ​ท่าน​ต่อ​จาก​นั้น​เมื่อ​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก แต่​ยัง​มี​ผล​ต่อ​แนว​ประวัติศาสตร์​คริสเตียน​ด้วย.

หลาย​ปี​ต่อ​มา เมื่อ​ตำแหน่ง​อัครสาวก​ของ​เปาโล​ถูก​โต้​แย้ง ท่าน​ปก​ป้อง​อำนาจ​ของ​ตน​เอง​โดย​เล่า​ประสบการณ์​บน​ทาง​สู่​เมือง​ดาเมเซ็ก. ท่าน​ถาม​ว่า “ข้าพเจ้า​มิ​ได้​เป็น​อัครสาวก​หรือ ข้าพเจ้า​มิ​ได้​เห็น​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา​หรือ?” และ​หลัง​จาก​กล่าว​ถึง​การ​ที่​พระ​เยซู​ผู้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว​ทรง​ปรากฏ​แก่​คน​อื่น​แล้ว เซาโล (เปาโล) กล่าว​ว่า “ภาย​หลัง​ที่​สุด​พระองค์​ทรง​ปรากฏ​แก่​ข้าพเจ้า​ด้วย, เหมือน​อย่าง​เด็ก​คลอด​ก่อน​กำหนด.” (1 โกรินโธ 9:1; 15:8) โดย​การ​ที่​ท่าน​เห็น​นิมิต​เกี่ยว​กับ​สง่า​ราศี​ของ​พระ​เยซู​บน​สวรรค์ เป็น​ประหนึ่ง​ว่า​เซาโล​ได้​รับ​เกียรติ​ใน​การ​คลอด หรือ​ถูก​ปลุก​ขึ้น​จาก​ตาย​สู่​ชีวิต​ฐานะ​วิญญาณ​ก่อน​กำหนด.

เซาโล​ยอม​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ของ​ท่าน​และ​ทุ่มเท​ตัว​เอง​เพื่อ​ปฏิบัติ​ตาม​นั้น. ท่าน​เขียน​ว่า “ข้าพเจ้า​เป็น​ผู้​น้อย​ที่​สุด​ใน​พวก​อัครสาวก, และ​ไม่​สม​ควร​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​อัครสาวก, เพราะ​ว่า​ข้าพเจ้า​ได้​เคี่ยวเข็ญ​คริสตจักร​ของ​พระเจ้า. แต่ . . . เนื่อง​ด้วย . . . พระคุณ [ของ​พระเจ้า] ซึ่ง​ได้​ประทาน​แก่​ข้าพเจ้า​นั้น​มิ​ได้​ไร้​ประโยชน์, เพราะ​ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​การ​มาก​กว่า [อัครสาวก​คน​อื่น ๆ ทั้ง​หมด].”—1 โกรินโธ 15:9, 10.

บาง​ที​เช่น​เดียว​กับ​เซาโล คุณ​จำ​ได้​ถึง​เวลา​ที่​คุณ​ตระหนัก​ว่า​เพื่อ​ได้​รับ​ความ​พอ​พระทัย​จาก​พระเจ้า คุณ​ต้อง​เปลี่ยน​ทัศนะ​ทาง​ศาสนา​ที่​ยึด​ถือ​มา​นาน​แล้ว. ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า คุณ​รู้สึก​ขอบพระคุณ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วย​ให้​คุณ​เข้าใจ​ความ​จริง. เมื่อ​เซาโล​เห็น​ความ​สว่าง​แล้ว​ตระหนัก​ถึง​สิ่ง​ที่​เรียก​ร้อง​จาก​ท่าน​แล้ว ท่าน​ไม่​ลังเล​ที่​จะ​ทำ​ตาม​นั้น. และ​ท่าน​ทำ​เช่น​นั้น​ต่อ​ไป​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​และ​ด้วย​ความ​มุ่ง​มั่น​ตลอด​ชีวิต​ของ​ท่าน​บน​แผ่นดิน​โลก​ต่อ​จาก​นั้น. ช่าง​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​เลิศ​เสีย​จริง ๆ สำหรับ​ทุก​คน​ที่​ปรารถนา​จะ​ได้​รับ​ความ​พอ​พระทัย​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ทุก​วัน​นี้!

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 7 ผู้​คง​แก่​เรียน​คน​หนึ่ง​คิด​ว่า​ยูดา​อาจ​เป็น​ผู้​นำ​ของ​ชุมชน​ชาว​ยิว​ใน​ท้องถิ่น หรือ​เป็น​เจ้าของ​โรงแรม​สำหรับ​พวก​ยิว.

[ภาพ​หน้า 27]

ถนน​ที่​เรียก​ว่า​ถนน​ตรง​ใน​เมือง​ดามัสกัส​ปัจจุบัน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Photo by ROLOC Color Slides