ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ดำเนินชีวิตเรียบง่ายเพื่อรับใช้พระยะโฮวา

ดำเนินชีวิตเรียบง่ายเพื่อรับใช้พระยะโฮวา

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ดำเนิน​ชีวิต​เรียบ​ง่าย​เพื่อ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา

เล่า​โดย​คลารา เกอร์เบอร์ มอยเออร์

ฉัน​อายุ 92 ปี เดิน​เหิน​ไม่​ค่อย​จะ​ไหว​แล้ว แต่​ความ​คิด​ความ​จำ​ของ​ฉัน​ยัง​แจ่ม​ใส​และ​แม่นยำ​ดี​อยู่. ฉัน​รู้สึก​ขอบคุณ​เหลือ​เกิน​ที่​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มา​ตั้ง​แต่​เยาว์​วัย! ความ​เป็น​อยู่​ที่​เรียบ​ง่าย, ชีวิต​ที่​ไม่​ซับซ้อน​มี​ส่วน​อย่าง​มาก​ให้​ได้​สิ่ง​ล้ำ​ค่า​ดัง​กล่าว.

ฉัน​เกิด​เมื่อ​วัน​ที่ 18 สิงหาคม ปี 1907 ใน​เมือง​แอลเลียนซ์ รัฐ​โอไฮโอ สหรัฐ เป็น​พี่​คน​โต​ใน​จำนวน​ลูก​ห้า​คน. เมื่อ​ฉัน​อายุ​ได้​แปด​ขวบ มี​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​ของ​กลุ่ม​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล ชื่อ​เรียก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สมัย​นั้น ได้​ขี่​จักรยาน​มา​ที่​ฟาร์ม​เลี้ยง​วัว​ของ​เรา. เขา​เจอ​แม่​ของ​ฉัน ลอรา เกอร์เบอร์​ที่​ประตู และ​ถาม​แม่​ว่า​รู้​ไหม​ทำไม​ความ​ชั่ว​ร้าย​จึง​ถูก​ปล่อย​ให้​ดำเนิน​อยู่. แม่​นึก​สงสัย​ใน​เรื่อง​นี้​เสมอ​มา.

หลัง​จาก​ได้​ปรึกษา​กับ​พ่อ​ซึ่ง​ทำ​งาน​อยู่​ที่​โรง​วัว แม่​ก็​ได้​สั่ง​ซื้อ​หนังสือ​คู่มือ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) ครบ​ชุด​ทั้ง​หก​เล่ม. แม่​อ่าน​หนังสือ​ชุด​นี้​ด้วย​ความ​กระหาย และ​ได้​รับ​แรง​กระตุ้น​อย่าง​มาก​จาก​ความ​จริง​ต่าง ๆ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​แม่​กำลัง​เรียน​รู้. แม่​ศึกษา​เล่ม​ที่ 6 การ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่ และ​ได้​เข้าใจ​แจ่ม​แจ้ง​ว่า​การ​รับ​บัพติสมา​ของ​คริสเตียน​โดย​จุ่ม​ตัว​มิด​ใน​น้ำ​เป็น​สิ่ง​ที่​พึง​ปฏิบัติ. เนื่อง​จาก​ไม่​ทราบ​ว่า​จะ​หา​คน​ที่​เป็น​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​พบ​ได้​อย่าง​ไร แม่​จึง​ขอร้อง​พ่อ​จัด​การ​ให้​แม่​รับ​บัพติสมา​ที่​ห้วย​เล็ก ๆ ใน​ไร่ ทั้ง ๆ ที่​อากาศ​เดือน​มีนาคม ปี 1916 นั้น​หนาว​เย็น.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน แม่​เห็น​โฆษณา​ใน​หนังสือ​พิมพ์​แจ้ง​ถึง​การ​แสดง​ปาฐกถา ณ หอ​ประชุม​กุลธิดา​ทหาร​ผ่าน​ศึก​ใน​เมือง​แอลเลียนซ์. หัวเรื่อง​ปาฐกถา​นั้น​คือ “แผนการ​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​ยุค​ต่าง ๆ.” แม่​ขาน​รับ​ทันที เนื่อง​จาก​เล่ม​ที่​หนึ่ง​ของ​ชุด​คู่มือ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ มี​ชื่อ​เดียว​กัน​กับ​หัวเรื่อง​ปาฐกถา. เรา​จัด​การ​ผูก​ม้า​เทียม​รถ แล้ว​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ก็​ขึ้น​รถ​ม้า​คัน​เล็ก​ไป​ยัง​การ​ประชุม​ครั้ง​แรก​ของ​พวก​เรา. นับ​แต่​นั้น​มา เรา​ไป​ประชุม​ที่​บ้าน​ของ​พี่​น้อง​ใน​วัน​อาทิตย์​และ​เย็น​วัน​พุธ. ต่อ​จาก​นั้น​ไม่​นาน แม่​ก็​ได้​รับ​บัพติสมา​อีก​ครั้ง​โดย​ตัว​แทน​คน​หนึ่ง​ของ​ประชาคม​คริสเตียน. พ่อมัก​ง่วน​กับ​งาน​ใน​ไร่​อยู่​ตลอด แต่​ใน​ที่​สุด​ก็​เริ่ม​สนใจ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ไม่​กี่​ปี​หลัง​จาก​นั้น​ท่าน​ก็​รับ​บัพติสมา.

พบ​กับ​บุคคล​ที่​นำ​หน้า

วัน​ที่ 10 มิถุนายน 1917 เจ. เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด นายก​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์​สมัย​นั้น​ได้​มา​ที่​เมือง​แอลเลียนซ์​และ​แสดง​ปาฐกถา​เรื่อง “เหตุ​ไฉน​นานา​ประเทศ​จึง​ทำ​สงคราม?” ฉัน​อายุ​ได้​เก้า​ขวบ​และ​ร่วม​ฟัง​คำ​บรรยาย​พร้อม​กับ​พ่อ​แม่​และ​น้อง​ชาย​สอง​คน​คือ​วิลลี​และ​ชาลส์. เรา​มี​ผู้​ร่วม​ประชุม​มาก​พอ​ดู ร้อย​กว่า​คน​เห็น​จะ​ได้. หลัง​จาก​จบ​ปาฐกถา​ของ​บราเดอร์​รัทเทอร์ฟอร์ด คน​ส่วน​ใหญ่​ที่​ร่วม​ประชุม​ก็​ได้​ถ่าย​รูป​กัน​ข้าง​นอก​โรง​ละคร​โคลัมเบีย​ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​ท่าน​แสดง​ปาฐกถา. สัปดาห์​ถัด​มา ณ สถาน​ที่​เดียว​กัน​นี้​เอง เอ. เอช. แมกมิลแลน​ได้​แสดง​ปาฐกถา​เรื่อง “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​แล้ว.” นับ​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​เรา​ได้​ต้อนรับ​บราเดอร์​เหล่า​นี้​ซึ่ง​มา​เยือน​เมือง​เล็ก ๆ ของ​เรา.

การ​ประชุม​ภาค​สมัย​แรก ๆ ที่​น่า​จด​จำ

ฉัน​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​ครั้ง​แรก​เมื่อ​ปี 1918 ที่​เมือง​แอตวอเทอร์ รัฐ​โอไฮโอ ห่าง​จาก​เมือง​แอลเลียนซ์​ไป​เพียง​ไม่​กี่​กิโลเมตร. แม่​ถาม​ตัว​แทน​สมาคม​ฯ ที่​อยู่​ที่​นั่น​ว่า​ฉัน​โต​พอ​จะ​รับ​บัพติสมา​ได้​หรือ​ยัง. ฉัน​คิด​ว่า​ได้​อุทิศ​ตัว​แด่​พระเจ้า​อย่าง​แน่วแน่​แล้ว​ที่​จะ​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์ ดัง​นั้น เขา​จึง​ยอม​ให้​ฉัน​รับ​บัพติสมา​ใน​วัน​นั้น​เอง​ที่​ห้วย​ใกล้ ๆ สวน​แอปเปิล​ที่​กว้าง​ใหญ่. ฉัน​ผลัด​เสื้อ​ผ้า​ใน​เต็นท์​ที่​พวก​พี่​น้อง​ได้​กาง​ไว้​เพื่อ​วัตถุ​ประสงค์​นี้ และ​ได้​จุ่ม​ตัว​ใน​ชุด​นอน​ผ้า​เนื้อ​หนา​เก่า ๆ.

เดือน​กันยายน ปี 1919 ฉัน​ได้​นั่ง​รถไฟ​พร้อม​กับ​พ่อ​แม่​ไป​ยัง​เมือง​แซนดัสกี รัฐ​โอไฮโอ ซึ่ง​อยู่​ริม​ทะเลสาบ​อิ​รี. จาก​ที่​นั่น​เรา​ลง​เรือ​เฟอร์รี​และ​ไม่​นาน​นัก​เรา​ก็​ไป​ถึง​ซีดาร์ พอยต์ ซึ่ง​การ​ประชุม​ภาค​ที่​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​เรา​ได้​จัด​ขึ้น​ที่​นั่น. เมื่อ​เรา​ขึ้น​จาก​เรือ​แล้ว ฉัน​ได้​ซื้อ​แฮมเบอร์เกอร์​อัน​หนึ่ง​จาก​แผง​ขาย​อาหาร​กลางวัน​ที่​ท่า​เรือ ซึ่ง​นับ​เป็น​ของ​ฟุ่มเฟือย​สำหรับ​ฉัน​ใน​สมัย​นั้น. รสชาติ​ของ​มัน​ช่าง​อร่อย​เสีย​จริง ๆ! ยอด​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​แปด​วัน​ใน​ครั้ง​นั้น​คือ 7,000 คน. เนื่อง​จาก​ไม่​มี​เครื่อง​ขยาย​เสียง ฉัน​จึง​ต้อง​เงี่ย​หู​ฟัง​อย่าง​ตั้งใจ.

ใน​การ​ประชุม​ภาค​ครั้ง​นั้น ได้​มี​การ​ออก​วารสาร​ที่​คู่​กับ​เดอะ ว็อชเทาเวอร์ นั่น​คือ​เดอะ โกลเดน เอจ (ชื่อ​ปัจจุบัน​คือ​ตื่นเถิด! ). เพื่อ​จะ​ได้​เข้า​ร่วม​ประชุม​ครั้ง​นั้น ฉัน​ต้อง​ขาด​เรียน​ใน​สัปดาห์​แรก แต่​ก็​คุ้มค่า​ที​เดียว. ซีดาร์ พอยต์​เป็น​เมือง​พักผ่อน​ตากอากาศ และ​ได้​มี​การ​ว่า​จ้าง​พ่อ​ครัว​ภัตตาคาร​ให้​ทำ​อาหาร​สำหรับ​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม. แต่​ด้วย​เหตุ​ผล​กล​ใด​ไม่​ทราบ พ่อ​ครัว​และ​พนักงาน​เดิน​โต๊ะ​พา​กัน​หยุด​งาน​ประท้วง พี่​น้อง​คริสเตียน​ชาย​หญิง​ที่​มี​ความ​รู้​ด้าน​การ​ประกอบ​อาหาร​จึง​ลง​มือ​ทำ​อาหาร​อย่าง​ขมีขมัน​ให้​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ได้​รับประทาน. หลัง​จาก​นั้น​อีก​หลาย​ทศวรรษ ไพร่พล​ของ​พระ​ยะโฮวา​เตรียม​อาหาร​มา​เอง​เมื่อ​มี​การ​ประชุม​หมวด​และ​การ​ประชุม​ภาค.

อนึ่ง เรา​มี​โอกาส​พิเศษ​ได้​กลับ​ไป​ที่​เมือง​ซีดาร์ พอยต์ ใน​เดือน​กันยายน 1922 เพื่อ​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​เก้า​วัน ซึ่ง​มี​ยอด​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​มาก​กว่า 18,000 คน. ที่​นั่น บราเดอร์​รัทเทอร์ฟอร์ด​ได้​กระตุ้น​หนุน​ใจ​พวก​เรา​ให้ “โฆษณา, โฆษณา, โฆษณา​พระ​มหา​กษัตริย์​และ​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม งาน​รับใช้​ของ​ฉัน​เอง​ได้​เริ่ม​ต้น​มา​แล้ว​หลาย​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น​ด้วย​การ​จ่าย​แจก​แผ่น​พับ​และ​วารสาร​เดอะ โกลเดน เอจ.

หยั่ง​รู้​ค่า​งาน​รับใช้

ต้น​ปี 1918 ฉัน​เข้า​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​แจก​จ่าย​แผ่น​พับ​ที่​ชื่อ​ว่า การ​ล่ม​จม​ของ​บาบูโลน (ภาษา​อังกฤษ) ไป​ยัง​ฟาร์ม​ต่าง ๆ ใน​ละแวก​ใกล้​เคียง. เนื่อง​จาก​อากาศ​หนาว​เย็น เรา​จึง​ก่อ​เตา​ฟืน​ที่​บ้าน​เพื่อ​เผา​หิน​ชนิด​หนึ่ง​ซึ่ง​ลื่น​คล้าย​สบู่​และ​นำ​ไป​ใส่​ไว้​ใน​รถ​ม้า​เพื่อ​อุ่น​เท้า​ของ​เรา. เรา​ใส่​เสื้อ​กัน​หนาว​หนา ๆ และ​สวม​หมวก เพราะ​รถ​ม้า​มี​เพียง​หลังคา​และ​ผ้า​คลุม​ด้าน​ข้าง แต่​ไม่​มี​เครื่อง​ทำ​ความ​ร้อน. ทว่า​นั่น​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​เรา​มี​ความ​สุข.

ปี 1920 ได้​มี​การ​ทำ​ฉบับ​พิเศษ​ของ​หนังสือ​ความ​ลึกลับ​สำเร็จ​แล้ว (ภาษา​อังกฤษ) ออก​ใน​รูป​วารสาร​ซึ่ง​เรียก​ว่า ZG. * ฉัน​กับ​พ่อ​และ​แม่​ได้​นำ​หนังสือ​นี้​ออก​ไป​เสนอ​ใน​เมือง​แอลเลียนซ์. สมัย​นั้น​แต่​ละ​คน​จะ​ไป​ตาม​บ้าน​เพียง​ลำพัง ดัง​นั้น ฉัน​เดิน​อย่าง​หวั่น ๆ ขึ้น​ไป​ที่​ระเบียง​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​หลาย​คน​นั่ง​อยู่​ที่​นั่น. เมื่อ​ฉัน​เสนอ​ข่าวสาร​เสร็จ สตรี​คน​หนึ่ง​พูด​ว่า “เด็ก​คน​นี้​พูด​ได้​ไม่​เลว​เลย​นะ” และ​ก็​รับ​หนังสือ. วัน​นั้น​ฉัน​จำหน่าย ZG ได้ 13 เล่ม ซึ่ง​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​ฉันเสนอ​ข่าวสาร​ตาม​บ้าน​อย่าง​เป็น​กิจจะลักษณะ​และ​นาน​กว่า​ที่​แล้ว ๆ มา.

ตอน​ที่​ฉัน​เรียน​ชั้น​มัธยม​ปี​ที่​สาม แม่​ป่วย​ด้วย​โรค​ปอด​อักเสบ​และ​นอน​ป่วย​ลุก​ไป​ไหน​ไม่​ได้​เป็น​เวลา​เดือน​เศษ ๆ. เนื่อง​จาก​เฮเซล น้อง​สาว​คน​เล็ก​ยัง​เป็น​ทารก​อยู่ ดัง​นั้น ฉัน​จึง​ต้อง​ออก​จาก​โรง​เรียน​เพื่อ​ช่วย​งาน​ใน​ฟาร์ม​และ​ดู​แล​น้อง ๆ. ถึง​กระนั้น ครอบครัว​ของ​เรา​ยัง​คง​ยึด​มั่น​ใน​ความ​จริง​แห่ง​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​จริงจัง และ​เรา​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ประจำ​ประชาคม​ทุก​วาระ​มิ​ได้​ขาด.

ปี 1928 ณ การ​ประชุม​อนุสรณ์​ระลึก​ถึง​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์ ได้​มี​การ​แจก​แผ่น​พับ​ที่​ชื่อ​ว่า “เก้า​คน​นั้น​อยู่​ที่​ไหน?” แก่​ทุก​คน​ที่​ร่วม​ประชุม. แผ่น​พับ​นี้​พิจารณา​ลูกา 17:11-19 ซึ่ง​ที่​นั่น​บอก​ว่า​เพียง​คน​เดียว​ใน​จำนวน​สิบ​คน​ที่​หาย​สะอาด​จาก​โรค​เรื้อน​ได้​กล่าว​ขอบคุณ​พระ​เยซู​อย่าง​ถ่อม​ใจ​ที่​ทรง​รักษา​เขา​อย่าง​อัศจรรย์. เรื่อง​นี้​จับ​ใจ​ฉัน​มาก. ฉัน​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ฉัน​เป็น​คน​หยั่ง​รู้​ค่า​แค่​ไหน?’

เนื่อง​จาก​ระยะ​นั้น​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​บ้าน​ราบรื่น​ดี สุขภาพ​ของ​ฉัน​ก็​แข็งแรง​และ​ไม่​มี​ภาระ​รับผิดชอบ​ใด ๆ ที่​หน่วง​เหนี่ยว​ฉัน​ไว้ ฉัน​จึง​ตัดสิน​ใจ​จาก​บ้าน​ไป​เพื่อ​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ที่​เรียก​กัน​ว่า​งาน​ไพโอเนียร์. พ่อ​แม่​ได้​สนับสนุน​ฉัน​ให้​ทำ​เช่น​นั้น. ดัง​นั้น ฉัน​กับ​แอกเนส แอเลทา เพื่อน​ร่วม​งาน​จึง​ได้​รับ​เขต​งาน​มอบหมาย และ​วัน​ที่ 28 สิงหาคม 1928 เวลา​สาม​ทุ่ม​เรา​ก็​ขึ้น​รถไฟ. เรา​สอง​คน​ต่าง​ก็​มี​เพียง​กระเป๋า​เสื้อ​ผ้า​คน​ละ​ใบ​และ​กระเป๋า​ใส่​หนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​อีก​ใบ​หนึ่ง. ที่​สถานี​รถไฟ น้อง​สาว​และ​พ่อ​แม่​ฉัน​ร้องไห้ เรา​สอง​คน​เลย​พลอย​ร้องไห้​ไป​ด้วย. ฉัน​คิด​ว่า​ฉัน​อาจ​ไม่​ได้​เห็น​หน้า​พวก​เขา​อีก เพราะ​เรา​เชื่อ​ว่า​อาร์มาเก็ดดอน​ใกล้​จะ​ถึง​แล้ว. เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น เรา​ก็​มา​ถึง​เขต​งาน​มอบหมาย​ของ​เรา​ใน​เมือง​บรุกส์วิลล์ รัฐ​เคนทักกี.

เรา​เช่า​ห้อง​เล็ก ๆ ใน​หอ​พัก​และ​ได้​ซื้อ​สปาเกตตี​ไว้​หลาย​กระป๋อง อีก​ทั้ง​ทำ​แซนด์วิช​กิน​กัน​เอง​ด้วย. แต่​ละ​วัน​เรา​เดิน​ไป​คน​ละ​ทาง ทำ​งาน​คน​เดียว​และ​เสนอ​หนังสือ​ปก​แข็ง​ห้า​เล่ม​แก่​เจ้าของ​บ้าน​ซึ่ง​จะ​บริจาค​เป็น​เงิน 1.98 ดอลลาร์. ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย​เรา​ทำ​งาน​จน​ทั่ว​เมือง ได้​พบ​ปะ​ผู้​คน​มาก​มาย​ซึ่ง​แสดง​ความ​สนใจ​เรื่อง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​น้อย.

ภาย​ใน​เวลา​ประมาณ​สาม​เดือน เรา​ก็​ได้​เยี่ยม​ทุก​คน​ใน​เมือง​และ​ชาน​เมือง​ของ​บรุกส์วิลล์ รวม​ทั้ง​เมือง​ออกัสตา​ด้วย. ดัง​นั้น เรา​ย้าย​ไป​ทำ​งาน​ต่อ​ที่​เมือง​เมย์สวิล, ปารีส, และ​ริชมอนด์. ระหว่าง​ช่วง​สาม​ปี​ต่อ​จาก​นั้น เรา​ได้​ทำ​งาน​ทั่ว​ถึง​ใน​หลาย ๆ เทศ​มณฑล​ของ​รัฐ​เคนทักกี​ซึ่ง​ไม่​มี​ประชาคม​ตั้ง​อยู่​เลย. เรา​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​สนับสนุน​อยู่​บ่อย​ครั้ง​จาก​มิตร​สหาย​และ​สมาชิก​ครอบครัว​จาก​รัฐ​โอไฮโอ​ที่​ขับ​รถ​มา​สมทบ​กับ​เรา​ใน​งาน​รับใช้ แต่​ละ​ครั้ง​นาน​เป็น​สัปดาห์​หรือ​กว่า​นั้น.

การ​ประชุม​ภาค​อื่น ๆ ที่​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ

การ​ประชุม​ภาค​ที่​เมือง​โคลัมบัส รัฐ​โอไฮโอ ระหว่าง​วัน​ที่ 24-30 กรกฎาคม 1931 นั้น​น่า​จด​จำ​อย่าง​แท้​จริง. ที่​นั่น ได้​มี​การ​ประกาศ​ให้​ทราบ​ว่า​พวก​เรา​จะ​ได้​รับ​การ​ระบุ​ตัว​โดย​ชื่อ​ซึ่ง​อาศัย​พื้น​ฐาน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล คือ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. (ยะซายา 43:12) ก่อน​หน้า​นั้น เมื่อ​ประชาชน​ถาม​ว่า​พวก​เรา​นับถือ​ศาสนา​อะไร เรา​บอก​ว่า “กลุ่ม​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​นานา​ชาติ.” แต่​นั่น​ก็​ไม่​ได้​จำแนก​เรา​อย่าง​ชัด​แจ้ง เนื่อง​จาก​มี​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ร่วม​อยู่​กับ​กลุ่ม​ศาสนา​อื่น ๆ หลาย​กลุ่ม.

แอกเนส​เพื่อน​ร่วม​งาน​ของ​ฉัน​ได้​แต่งงาน​ไป​แล้ว ฉัน​ก็​เลย​โดด​เดี่ยว; ดัง​นั้น ฉัน​ตื่นเต้น​ดีใจ​เมื่อ​มี​การ​ประกาศ​ว่า​คน​ที่​กำลัง​หา​เพื่อน​ไพโอเนียร์​ที่​จะ​ร่วม​งาน​ด้วย​ให้​ไป​รายงาน​ตัว​ใน​ที่​แห่ง​หนึ่ง. ที่​นั่น ฉัน​ได้​พบ​เบอร์ทา​กับ เอลซี การ์ที และ เบสซี เอนส์มิงเกอร์. พวก​เธอ​มี​รถยนต์​สอง​คัน​และ​กำลัง​มอง​หา​เพื่อน​ไพโอเนียร์​คน​ที่​สี่​ที่​จะ​ทำ​งาน​ด้วย​กัน. เมื่อ​จบ​การ​ประชุม​เรา​ไป​ด้วย​กัน แม้​ว่า​ไม่​เคย​พบ​หน้า​กัน​มา​ก่อน.

ใน​ฤดู​ร้อน​เรา​ทำ​งาน​ไป​ทั่ว​รัฐ​เพนซิลเวเนีย. พอ​ย่าง​เข้า​ฤดู​หนาว เรา​ขอ​เขต​งาน​ใน​รัฐ​ที่​อยู่​ทาง​ใต้​ซึ่ง​สภาพ​อากาศ​ไม่​หนาว​จัด อย่าง​รัฐ​นอร์ทแคโรไลนา, รัฐ​เวอร์จิเนีย, และ​แมริแลนด์. ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​เรา​กลับ​ไป​ทำ​งาน​ใน​รัฐ​ที่​อยู่​ทาง​เหนือ. นั่น​คือ​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ของ​ไพโอเนียร์​สมัย​นั้น. ปี 1934 จอห์น บูท กับ รูดอล์ฟ อับบุล ซึ่ง​ปฏิบัติ​ตาม​ธรรมเนียม​นั้น​พา ราล์ฟ มอยเออร์ พร้อม​กับ วิลลาร์ด น้อง​ชาย​ของ​เขา​ไป​ที่​เมือง​แฮซาร์ด รัฐ​เคนทักกี.

ฉัน​มี​โอกาส​ได้​พบ​ราล์ฟ​หลาย​ครั้ง และ​เรา​สนิทสนม​กัน​ยิ่ง​ขึ้น​ใน​ระหว่าง​การ​ประชุม​ภาค​ที่​กรุง​วอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ระหว่าง​วัน​ที่ 30 พฤษภาคม–3 มิถุนายน 1935. ราล์ฟ​กับ​ฉัน​นั่ง​ด้วย​กัน​ตรง​มุข​ตอน​ที่​มี​การ​เสนอ​ปาฐกถา​เกี่ยว​กับ​เรื่อง “มหาชน​หมู่​ใหญ่” หรือ “ชน​ฝูง​ใหญ่.” (วิวรณ์ 7:9-14) ตลอด​มา​กระทั่ง​ถึง​วัน​นั้น เรา​เชื่อ​ว่า​คน​ที่​จัด​อยู่​ใน​จำพวกมหาชน​หมู่​ใหญ่​เป็น​ชน​ชั้น​ฝ่าย​สวรรค์​ที่​สัตย์​ซื่อ​น้อย​กว่า​ชน 144,000 คน. (วิวรณ์ 14:1-3) ดัง​นั้น ฉัน​ไม่​ต้องการ​จะ​เป็น​หนึ่ง​ใน​คน​กลุ่ม​นี้!

ครั้น​บราเดอร์​รัทเทอร์ฟอร์ด​ได้​ชี้​แจง​ว่า​คน​ที่​จัด​อยู่​ใน​จำพวก​มหาชน​หมู่​ใหญ่​ได้​แก่​บรรดา​ชน​จำพวก​ที่​จะ​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​นี้​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ที่​จะ​รอด​ชีวิต​ใน​คราว​สงคราม​อาร์มาเก็ดดอน หลาย​คน​รู้สึก​ประหลาด​ใจ. แล้ว​ท่าน​ก็​ได้​เชิญ​คน​ใน​จำพวก​มหาชน​หมู่​ใหญ่​ให้​ยืน​ขึ้น. ฉัน​ไม่​ยืน แต่​ราล์ฟ​ยืน. ใน​เวลา​ต่อ​มา หลาย​สิ่ง​เริ่ม​แจ่ม​ชัด​มาก​ขึ้น​ใน​ความ​คิด​ของ​ฉัน ดัง​นั้น ปี 1935 จึง​เป็น​ปี​สุด​ท้าย​ที่​ฉัน​ได้​กิน​ขนมปัง​และ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​อัน​เป็น​สัญลักษณ์​นั้น ณ การ​ประชุม​อนุสรณ์​รำลึก​ถึง​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์. แต่​แม่​ยัง​คง​รับ​เครื่องหมาย​ต่อ​ไป​ตราบ​จน​วัน​ตาย​ของ​ท่าน​ใน​เดือน​พฤศจิกายน 1957.

เพื่อน​ร่วม​งาน​ที่​ยืนยง

ฉัน​กับ​ราล์ฟ​มี​จดหมาย​ถึง​กัน​ไม่​ขาด. ฉัน​รับใช้​ที่​เมือง​เลกพลาซิด รัฐ​นิวยอร์ก ส่วน​ราล์ฟ​อยู่​ที่​รัฐ​เพนซิลเวเนีย. ปี 1936 เขา​ทำ​รถ​พ่วง​ขนาด​ย่อม​ขึ้น​มา​คัน​หนึ่ง ซึ่ง​ใช้​รถยนต์​ของ​เขา​ขับ​ลาก​ไป​ได้. เขา​ขับ​รถ​พ่วง​นี้​จาก​เมือง​พอตส์ทาวน์ รัฐ​เพนซิลเวเนีย​ไป​ยัง​เมือง​นูวาร์ก รัฐ​นิวเจอร์ซีย์ เพื่อ​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​ที่​จัด​ขึ้น​ใน​เมือง​นั้น​ระหว่าง​วัน​ที่ 16-18 ตุลาคม. ภาย​หลัง​ระเบียบ​วาระ​ตอน​เย็น​วัน​หนึ่ง พวก​เรา​ไพโอเนียร์​หลาย​คน​ได้​แวะ​ไป​ชม​รถ​พ่วง​คัน​ใหม่​ของ​ราล์ฟ. ขณะ​ที่​ฉัน​กับ​ราล์ฟ​ยืน​ข้าง​อ่าง​ล้าง​จาน​เล็ก ๆ ราล์ฟ​ถาม​ว่า “คุณ​ชอบ​รถ​พ่วง​คัน​นี้​ไหม?”

เมื่อ​ฉัน​พยัก​หน้า เขา​ก็​ถาม “คุณ​อยาก​ใช้​ชีวิต​ใน​รถ​คัน​นี้​ไหม?”

เมื่อ​ฉัน​ตอบ​ไป​ว่า “อยาก​ค่ะ” เขา​ก็​จุมพิต​ฉัน​อย่าง​นุ่มนวล​ซึ่ง​ฉัน​จะ​ไม่​มี​วัน​ลืม. สอง​วัน​ต่อ​มา เรา​ทั้ง​สอง​ก็​ไป​จด​ทะเบียน​สมรส. วัน​ที่ 19 ตุลาคม หนึ่ง​วัน​ภาย​หลัง​การ​ประชุม​ภาค เรา​ไป​ที่​บรุกลิน​และ​เข้า​เยี่ยม​ชม​อาคาร​ฝ่าย​การ​พิมพ์​ของ​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์. ครั้น​แล้ว​เรา​ก็​ขอ​รับ​เขต​งาน​มอบหมาย. แกรนต์ ซูตเทอร์​รับผิดชอบ​ด้าน​เขต​งาน​รับใช้ และ​เขา​ถาม​ว่า​ใคร​จะ​ไป​ทำ​งาน​ใน​เขต​มอบหมาย​นั้น. ราล์ฟ​บอก​ว่า “เรา​จะ​ไป​ถ้า​เรา​แต่งงาน​กัน​ได้.”

“ถ้า​คุณ​กลับ​มา​ที่​นี่​ห้า​โมง​เย็น เรา​จะ​จัด​การ​ให้​ได้” บราเดอร์​ซูตเทอร์​ตอบ. ตก​เย็น​วัน​นั้น​เอง เรา​ได้​สมรส​กัน​ที่​บ้าน​ของ​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ใน​เขต​บรุกลิน​ไฮตส์. เรา​รับประทาน​อาหาร​กับ​เพื่อน ๆ ที่​ภัตตาคาร​ท้องถิ่น แล้ว​นั่ง​รถ​โดยสาร​ไป​ยัง​รถ​พ่วง​ของ​ราล์ฟ​ใน​เมือง​นูวาร์ก รัฐ​นิวเจอร์ซีย์.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน เรา​ก็​มา​อยู่​บน​เส้น​ทาง​ไป​สู่​ฮีทส์วิล รัฐ​เวอร์จิเนีย เขต​งาน​มอบหมาย​แรก​ที่​เรา​ทำ​งาน​ไพโอเนียร์​ด้วย​กัน. เรา​ได้​ทำ​งาน​ที่​เทศ​มณฑล​นอร์ททัมเบอร์แลนด์ ต่อ​มา​ได้​ย้าย​ไป​ที่​เทศ​มณฑล​ฟูลทัน​และ​แฟรงกลิน​ใน​รัฐ​เพนซิลเวเนีย. ปี 1939 ราล์ฟ​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ทำ​งาน​เยี่ยม​โซน​ซึ่ง​เป็น​งาน​ที่​เรา​จะ​ต้อง​ไป​เยี่ยม​หลาย​ประชาคม​โดย​หมุน​เวียน​สับ​เปลี่ยน​ไป​เรื่อย ๆ. เรา​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ ใน​รัฐ​เทนเนสซี. ปี​ถัด​มา​เรา​ได้​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​คือ​แอลเลน และ​ใน​ปี 1941 งาน​เยี่ยม​โซน​ถูก​ยก​เลิก. แล้ว​เรา​ก็​ได้​รับ​มอบหมาย​ไป​ที่​เมือง​แมริออน รัฐ​เวอร์จิเนีย​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ. ใน​สมัย​นั้น นั่น​หมาย​ถึง​การ​ใช้​เวลา​ใน​งาน​รับใช้ 200 ชั่วโมง​ต่อ​เดือน.

ทำ​การ​ปรับ​เปลี่ยน

ปี 1943 มี​ความ​จำเป็น​ที่​ทำ​ให้​ฉัน​ต้อง​เลิก​ทำ​งาน​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ. การ​อาศัย​อยู่​ใน​รถ​พ่วง​เล็ก ๆ, การ​ดู​แล​เด็ก​เล็ก, การ​ทำ​อาหาร, การ​ดู​แล​ซัก​รีด​เสื้อ​ผ้า​ของ​ทุก​คน​ให้​สะอาด, และ​การ​ใช้​เวลา​ใน​งาน​เผยแพร่​แต่​ละ​เดือน​ประมาณ 60 ชั่วโมง นั่น​คือ​ทั้ง​หมด​ที่​ฉัน​ทำ​ได้. แต่​ราล์ฟ​ยัง​คง​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​อยู่​ต่อ​ไป.

เรา​ได้​ย้าย​กลับ​ไป​ที่​เมือง​แอลเลียนซ์ รัฐ​โอไฮโอ​ใน​ปี 1945 ขาย​รถ​พ่วง​ซึ่ง​เป็น​บ้าน​ที่​เรา​อยู่​มา​นาน​ถึง​เก้า​ปี และ​ย้าย​เข้า​ไป​อยู่​บ้าน​ที่​ฟาร์ม​กับ​พ่อ​แม่​ของ​ฉัน. ริเบกาห์ ลูก​สาว​ของ​เรา​เกิด​ที่​นี่​เอง ที่​ระเบียง​หน้า​บ้าน. ราล์ฟ​ได้​งาน​ใน​เมือง​ซึ่ง​ไม่​ต้อง​ทำ​เต็ม​เวลา และ​อยู่​ใน​งาน​ไพโอเนียร์​ประจำ​ต่อ​ไป. ฉัน​ทำ​งาน​ใน​ฟาร์ม​และ​ทำ​เท่า​ที่​ทำ​ได้​เพื่อ​สนับสนุน​เขา​ให้​คง​อยู่​ใน​งาน​ไพโอเนียร์​ได้. แม้​ว่า​ครอบครัว​ของ​ฉัน​เสนอ​จะ​มอบ​ที่​ดิน​และ​บ้าน​ให้​เรา​ฟรี ๆ แต่​ราล์ฟ​ไม่​ยอม​รับ. เขา​ต้องการ​จะ​อยู่​อย่าง​ไม่​มี​ภาระ​หน่วง​เหนี่ยว​เหมือน​เดิม เพื่อ​ว่า​เรา​จะ​ติด​ตาม​ผล​ประโยชน์​แห่ง​ราชอาณาจักร​ได้​เต็ม​ที่​ยิ่ง​ขึ้น.

ปี 1950 เรา​หา​ที่​อยู่​ใหม่​ได้​ที่​เมือง​พอตส์ทาวน์ เพนซิลเวเนีย และ​เช่า​บ้าน​เดือน​ละ 25 ดอลลาร์. ใน​ช่วง​เวลา 30 ปี​หลัง​จาก​นั้น​ค่า​เช่า​เพิ่ม​ขึ้น​มา​เป็น 75 ดอลลาร์​เท่า​นั้น. เรา​รู้สึก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วย​เรา​ที่​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​เรียบ​ง่าย. (มัดธาย 6:31-33) ราล์ฟ​ทำ​งาน​เป็น​ช่าง​ตัด​ผม​สัปดาห์​ละ​สาม​วัน. ทุก​สัปดาห์​เรา​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ลูก​สอง​คน​ของ​เรา ร่วม​การ​ประชุม​ประจำ​ประชาคม และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ด้วย​กัน​ทั้ง​ครอบครัว. ราล์ฟ​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​ผู้​เป็น​ประธาน​ใน​ประชาคม​ท้องถิ่น. โดย​ที่​เรา​ดำเนิน​ชีวิต​แบบ​เรียบ​ง่าย​อยู่​เสมอ เรา​จึง​สามารถ​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ได้​มาก.

สูญ​เสีย​คู่​ชีวิต​ที่​รัก​ของ​ฉัน

วัน​ที่ 17 พฤษภาคม 1981 เรา​นั่ง​ฟัง​คำ​บรรยาย​สาธารณะ​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร. ราล์ฟ​รู้สึก​ไม่​สบาย เขา​จึง​เดิน​ไป​ด้าน​หลัง​หอ​ประชุม และ​วาน​คน​ต้อนรับ​นำ​โน้ต​มา​ให้​ฉัน​ซึ่ง​เขียน​บอก​ไว้​ว่า​เขา​กลับ​ไป​ที่​บ้าน. ที่​ราล์ฟ​ทำ​อย่าง​นี้​ดู​ผิด​ปกติ​มาก ฉัน​จึง​ขอร้อง​คน​หนึ่ง​ช่วย​ขับ​รถ​ส่ง​ฉัน​ไป​ที่​บ้าน​ทันที. ราล์ฟ​เสีย​ชีวิต​ใน​ชั่วโมง​นั้น​เอง​เพราะ​เส้น​เลือด​ใน​สมอง​อุดตัน​เป็น​บริเวณ​กว้าง. เมื่อ​จบ​การ​ศึกษา​หอสังเกตการณ์ เช้า​วัน​นั้น ก็​มี​การ​ประกาศ​ให้​ประชาคม​ทราบ​ว่า​ราล์ฟ​ได้​เสีย​ชีวิต​แล้ว.

เดือน​นั้น​ราล์ฟ​ได้​ใช้​เวลา​ไป​มาก​กว่า 50 ชั่วโมง​แล้ว​ใน​งาน​รับใช้. เขา​ทำ​งาน​เต็ม​เวลา​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​มาก​กว่า 46 ปี. เขา​ได้​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ร้อย​กว่า​คน​ซึ่ง​ใน​ที่​สุด​ได้​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​รับ​บัพติสมา. พระ​พร​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​เรา​ได้​รับ​คุ้มค่า​กับ​การ​เสีย​สละ​ใด ๆ ที่​เรา​ได้​ทำ​ตลอด​เวลา​หลาย​ปี.

หยั่ง​รู้​ค่า​สิทธิ​พิเศษ​ของ​ฉัน

ใน​ช่วง 18 ปี​ที่​ผ่าน​ไป​นี้​ฉัน​อยู่​คน​เดียว, เข้า​ร่วม​การ​ประชุม, ไป​ประกาศ​กับ​คน​อื่น​เท่า​ที่​ฉัน​ทำ​ได้, และ​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. เวลา​นี้​ฉัน​อาศัย​ใน​อพาร์ตเมนต์​สำหรับ​พลเมือง​สูง​อายุ​ที่​เกษียณ​แล้ว. ฉัน​มี​เฟอร์นิเจอร์​ไม่​กี่​ชิ้น​และ​เลือก​จะ​ไม่​มี​โทรทัศน์. แต่​ชีวิต​ฉัน​เต็ม​เปี่ยม​และ​มั่งคั่ง​ฝ่าย​วิญญาณ. พ่อ​แม่​ฉัน​กับ​น้อง​ชาย​สอง​คน​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​จน​กระทั่ง​เสีย​ชีวิต และ​น้อง​สาว​สอง​คน​ก็​ยัง​คง​ซื่อ​สัตย์​อยู่​ใน​ทาง​ของ​ความ​จริง.

ฉัน​ดีใจ​ที่​แอลเลน​ลูก​ชาย​ของ​ฉัน​รับใช้​เป็น​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​อยู่​ใน​ขณะ​นี้. เป็น​เวลา​หลาย​ปี​ที่​เขา​ได้​ติด​ตั้ง​ระบบ​เสียง​ให้​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​และ​หอ​ประชุม​ใหญ่ รวม​ทั้ง​ทำ​งาน​ใน​การ​ติด​ตั้ง​ระบบ​เสียง​สำหรับ​การ​ประชุม​ภาค​ฤดู​ร้อน​หลาย​แห่ง. ภรรยา​ของ​เขา​เป็น​ผู้​รับใช้​ที่​ภักดี​ของ​พระเจ้า และ​ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​คน​ของ​เขา​รับใช้​เป็น​ผู้​ปกครอง. ลูก​สาว​ของ​ฉัน ริเบกาห์ คาร์เรส ได้​รับใช้​เต็ม​เวลา​มา​นาน​กว่า 35 ปี​แล้ว รวม​ถึง​ช่วง​ที่​เธอ​ทำ​งาน​รับใช้​สี่​ปี ณ สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน. เธอ​กับ​สามี​ได้​ใช้​เวลา 25 ปี​ที่​ผ่าน​ไป​ใน​งาน​เดิน​ทาง​ใน​หลาย​ส่วน​ของ​สหรัฐ.

พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​ราชอาณาจักร​เป็น​เหมือน​ทรัพย์​ที่​ซ่อน​อยู่​ซึ่ง​จะ​หา​พบ​ได้. (มัดธาย 13:44) ฉัน​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​ครอบครัว​ฉัน​พบ​ทรัพย์​นั้น​เมื่อ​หลาย​ปี​ก่อน​โน้น. ช่าง​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ที่​จะ​มอง​ย้อน​กลับ​ไป​ถึง​ช่วง 80 ปี​ที่​ทุ่มเท​ตัว​รับใช้​พระเจ้า—โดย​ไม่​มี​อะไร​ที่​ต้อง​เสียใจ! หาก​ฉัน​มี​ชีวิต​ใหม่​ได้​อีก​ครั้ง ฉัน​จะ​เลือก​ใช้​ชีวิต​อย่าง​เดิม​นี้​แหละ เพราะ​จริง ๆ แล้ว “พระ​กรุณาคุณ​ของ​พระองค์​ประเสริฐ​ยิ่ง​กว่า​ชีวิต.”—บทเพลง​สรรเสริญ 63:3.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 17 ความ​ลึกลับ​สำเร็จ​แล้ว เป็น​เล่ม​ที่​เจ็ด​ของ​ชุด​หนังสือ​คู่มือ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ ซึ่ง​หก​เล่ม​แรก​นั้น​เขียน​โดย​ชาลส์ เทส รัสเซลล์. หนังสือ​ความ​ลึกลับ​สำเร็จ​แล้ว จัด​พิมพ์​หลัง​จาก​ที่​รัสเซลล์​เสีย​ชีวิต​แล้ว.

[ภาพ​หน้า 23]

เรา​ได้​ฟัง​ปาฐกถา​ของ​บราเดอร์​รัทเทอร์ฟอร์ด​ใน​ปี 1917 ที่​เมือง​แอลเลียนซ์ รัฐ​โอไฮโอ

[ภาพ​หน้า 23]

กับ​ราล์ฟ หน้า​รถ​พ่วง​ที่​เขา​ทำ​ขึ้น

[ภาพ​หน้า 24]

กับ​ลูก​สอง​คน​ของ​ฉัน​ใน​เวลา​นี้