ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

กิตติคุณ—ประวัติศาสตร์หรือเทพนิยาย?

กิตติคุณ—ประวัติศาสตร์หรือเทพนิยาย?

กิตติคุณ—ประวัติศาสตร์​หรือ​เทพนิยาย?

ตลอด​ทั่ว​โลก ประวัติ​ของ​พระ​เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ—ชาย​หนุ่ม​ซึ่ง​ได้​เปลี่ยน​แนว​ประวัติศาสตร์​ของ​มนุษย์—ได้​แทรกซึม​อยู่​ทั่ว​โครง​สร้าง​ของ​สังคม. ประวัติ​นั้น​กลาย​เป็น​ส่วน​ของ​การ​ศึกษา​เรียน​รู้​ของ​ผู้​คน​ใน​สถาน​ศึกษา​และ​จาก​แหล่ง​อื่น ๆ. หลาย​คน​ถือ​ว่า​กิตติคุณ​เป็น​ต้น​กำเนิด​ของ​สัจธรรม​และ​คติ​พจน์​ตลอด​กาล เช่น “ให้​คำ​ของ​เจ้า​ที่​ว่า​ใช่ หมายความ​ว่า​ใช่ ที่​ว่า​ไม่ ก็​หมายความ​ว่า​ไม่.” (มัดธาย 5:37, ล.ม.) ที่​จริง เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ​อาจ​เป็น​พื้น​ฐาน​สำหรับ​บทเรียน​ต่าง ๆ ที่​บิดา​มารดา​ได้​สอน​คุณ ไม่​ว่า​ท่าน​เป็น​คริสเตียน​หรือ​ไม่​ก็​ตาม.

สำหรับ​สาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระ​คริสต์​นับ​ล้าน ๆ คน​แล้ว กิตติคุณ​ได้​ให้​คำ​พรรณนา​เกี่ยว​กับ​บุรุษ​ผู้​ซึ่ง​พวก​เขา​เต็ม​ใจ​จะ​ทน​ทุกข์​และ​ยอม​ตาย​เพื่อ​ท่าน​ผู้​นี้. กิตติคุณ​ยัง​จัด​ให้​มี​รากฐาน​และ​แรง​บันดาล​ใจ​สำหรับ​ความ​กล้า​หาญ, ความ​อด​ทน, ความ​เชื่อ, และ​ความ​หวัง​ด้วย. ถ้า​เช่น​นั้น คุณ​เห็น​พ้อง​ด้วย​มิ​ใช่​หรือ​ว่า การ​บอก​ปัด​เรื่อง​ราว​เหล่า​นี้​ว่า​เป็น​เพียง​เรื่อง​ที่​แต่ง​ขึ้น​นั้น จะ​ต้อง​มี​หลักฐาน​ที่​ไม่​อาจ​โต้​แย้ง​ได้​มา​ยืน​ยัน? เมื่อ​คำนึง​ถึง​การ​ที่​เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ​มี​ผล​กระทบ​อย่าง​มาก​มาย​ต่อ​ความ​คิด​และ​ความ​ประพฤติ​ของ​มนุษย์​แล้ว คุณ​จะ​ไม่​เรียก​ร้อง​เอา​ข้อ​พิสูจน์​ที่​ทำ​ให้​มั่น​ใจ​ได้​หรอก​หรือ ถ้า​มี​คน​ต้องการ​แสดง​ความ​สงสัย​ต่อ​ความ​น่า​เชื่อถือ​ของ​กิตติคุณ?

เรา​ขอ​เชิญ​คุณ​ให้​พิจารณา​คำ​ถาม​ที่​กระตุ้น​ความ​คิด​บาง​ข้อ​เกี่ยว​กับ​กิตติคุณ. โปรด​ดู​ด้วย​ตัว​คุณ​เอง​ว่า​นัก​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​กิตติคุณ​บาง​คน​คิด​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ประเด็น​เหล่า​นี้ ถึง​แม้​บาง​คน​ใน​พวก​เขา​ไม่​ได้​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ก็​ตาม. ครั้น​แล้ว คุณ​สามารถ​ลง​ความ​เห็น​อย่าง​ที่​ได้​ข้อมูล​ครบ​ถ้วน​ได้​ด้วย​ตัว​เอง.

คำ​ถาม​ที่​พึง​พิจารณา

กิตติคุณ​อาจ​เป็น​การ​แต่ง​เรื่อง​อย่าง​ชำนาญ​ไหม?

โรเบิร์ต ฟุงก์ ผู้​ก่อ​ตั้ง​การ​สัมมนา​ว่า​ด้วย​พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “มัดธาย, มาระโก, ลูกา​และ​โยฮัน ‘นำ​เสนอ​พระ​มาซีฮา’ เพื่อ​ทำ​ให้​พระองค์​สอดคล้อง​กับ​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน​ซึ่ง​ได้​พัฒนา​ขึ้น​หลัง​จาก​ความ​ตาย​ของ​พระ​เยซู.” อย่าง​ไร​ก็​ดี ขณะ​ที่​มี​การ​เขียน​กิตติคุณ หลาย​คน​ซึ่ง​ได้​ยิน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู, ได้​สังเกต​เห็น​การ​กระทำ​ของ​พระองค์, และ​ได้​เห็น​พระองค์​หลัง​จาก​การ​คืน​พระ​ชนม์​นั้น​ยัง​คง​มี​ชีวิต​อยู่. พวก​เขา​ไม่​ได้​กล่าวหา​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​ว่า​กุ​เรื่อง​ใด ๆ ขึ้น.

ขอ​พิจารณา​ดู​การ​วาย​พระ​ชนม์​และ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์. ไม่​เพียง​กิตติคุณ​เท่า​นั้น​มี​เรื่อง​ราว​ที่​เชื่อถือ​ได้​เกี่ยว​กับ​การ​วาย​พระ​ชนม์​และ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู แต่​เรื่อง​นั้น​มี​ใน​จดหมาย​ฉบับ​แรก​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​เป็น​ส่วน​ของ​พระ​คัมภีร์​ซึ่ง​เขียน​ถึง​คริสเตียน​ใน​เมือง​โกรินโธ​โบราณ​ด้วย. ท่าน​เขียน​ว่า “ข้อ​ความ​อัน​สำคัญ​ที่​สุด​ซึ่ง​ข้าพเจ้า​รับ​ไว้​แล้ว​นั้น ข้าพเจ้า​ได้​ประกาศ​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย, คือ​ว่า​พระ​คริสต์​ได้​วาย​พระ​ชนม์​เพราะ​ความ​ผิด​ของ​เรา​ทั้ง​หลาย​ตาม​คัมภีร์​ที่​เขียน​ไว้​แล้ว​นั้น, และ​ทรง​ถูก​ฝัง​ไว้, แล้ว​วัน​ที่​สาม​พระองค์​ทรง​เป็น​ขึ้น​มา​ใหม่​ตาม​คัมภีร์​ที่​เขียน​ไว้​แล้ว​นั้น. แล้ว​พระองค์​ทรง​ปรากฏ​แก่​เกฟา ภาย​หลัง​ทรง​ปรากฏ​แก่​อัครสาวก​สิบ​สอง​คน​นั้น. ภาย​หลัง​พระองค์​ทรง​ปรากฏ​แก่​พวก​พี่​น้อง​กว่า​ห้า​ร้อย​คน​ใน​คราว​เดียว, ซึ่ง​ส่วน​มาก​ยัง​อยู่​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้, แต่​บาง​คน​ก็​ล่วง​หลับ​ไป​แล้ว. ภาย​หลัง​พระองค์​ทรง​ปรากฏ​แก่​ยาโกโบ​อีก, แล้ว​ทรง​ปรากฏ​แก่​อัครสาวก​ทั้ง​หมด. ภาย​หลัง​ที่​สุด​พระองค์​ทรง​ปรากฏ​แก่​ข้าพเจ้า​ด้วย, เหมือน​อย่าง​เด็ก​คลอด​ก่อน​กำหนด.” (1 โกรินโธ 15:3-8) ประจักษ์​พยาน​ดัง​กล่าว​เป็น​ผู้​อารักขา​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ถูก​ต้อง​ทาง​ประวัติศาสตร์​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู.

การ​แต่ง​เรื่อง​ขึ้น​ตาม​ที่​พวก​นัก​วิจารณ์​สมัย​ใหม่​กล่าวหา​นั้น​ไม่​ปรากฏ​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก. แทน​ที่จะ​เป็น​เช่น​นั้น ลักษณะ​ดัง​กล่าว​ปรากฏ​ใน​เอกสาร​ของ​ศตวรรษ​ที่​สอง​สากล​ศักราช. ดัง​นั้น การ​บรรยาย​ที่​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​เกี่ยว​กับ​พระ​คริสต์​บาง​เรื่อง​เกิด​ขึ้น​คราว​ที่​การ​ออก​หาก​จาก​ศาสนา​คริสเตียน​แท้​พัฒนา​ขึ้น​ท่ามกลาง​ชุมชน​ที่​ห่าง​เหิน​จาก​ประชาคม​ของ​อัครสาวก.—กิจการ 20:28-30.

กิตติคุณ​อาจ​เป็น​ตำนาน​ไหม?

นัก​ประพันธ์​และ​นัก​วิจารณ์​ชื่อ ซี. เอส. ลีวิส พบ​ว่า​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​ถือ​ว่า​กิตติคุณ​เป็น​เพียง​ตำนาน. เขา​เขียน​ว่า “ใน​ฐานะ​นัก​ประวัติศาสตร์​ด้าน​วรรณคดี ผม​มั่น​ใจ​อย่าง​แท้​จริง​ว่า ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เช่น​ไร​ก็​ตาม กิตติคุณ​ไม่​ใช่​ตำนาน. กิตติคุณ​ไม่​ได้​สะท้อน​ถึง​จินตนาการ​มาก​พอ​ที่​จะ​เป็น​ตำนาน. . . . ชีวิต​ส่วน​ใหญ่​ของ​พระ​เยซู​เป็น​อย่าง​ไร​เรา​ไม่​รู้ และ​คน​ที่​แต่ง​ตำนาน​ขึ้น​จะ​ไม่​ยอม​ปล่อย​ให้​เป็น​เช่น​นั้น.” เป็น​ที่​น่า​สนใจ​ด้วย​ว่า ถึง​แม้ เอช. จี. เวลส์ นัก​ประวัติศาสตร์​ที่​มี​ชื่อเสียง​ไม่​ได้​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ก็​ตาม เขา​ก็​ยัง​ยอม​รับ​ว่า “[ผู้​เขียน​กิตติคุณ] ทั้ง​สี่​เล่ม​ลง​รอย​กัน​ใน​การ​ให้​เรื่อง​ราว​แก่​เรา​เกี่ยว​กับ​บุคลิกภาพ​อัน​แน่นอน; กิตติคุณ​เหล่า​นั้น​ถ่ายทอด . . . ความ​มั่น​ใจ​ใน​ความ​เป็น​จริง.”

ขอ​พิจารณา​กรณี​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​ผู้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว​ได้​ปรากฏ​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์. นัก​แต่ง​ตำนาน​ที่​เก่ง​คง​มี​ท่าที​ว่า​จะ​ให้​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​เป็น​ไป​อย่าง​ที่​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ, ทรง​ให้​คำ​บรรยาย​ที่​ยิ่ง​ใหญ่, หรือ​เต็ม​ไป​ด้วย​รัศมี​และ​ความ​รุ่ง​โรจน์​โชติช่วง. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น ผู้​เขียน​กิตติคุณ​เพียง​แต่​พรรณนา​ว่า​พระองค์​ทรง​ยืน​อยู่​หน้า​พวก​สาวก. พระองค์​ปล่อย​ให้​พวก​เขา​แตะ​ต้อง​พระองค์ แล้ว​ทรง​ถาม​ว่า “ลูก​เอ๋ย พวก​เจ้า​ไม่​มี​อะไร​กิน​หรือ?” (โยฮัน 21:5, ล.ม.) ผู้​คง​แก่​เรียน​ชื่อ​เกรก อีสเทอร์บรุก สรุป​ว่า “นี่​เป็น​ราย​ละเอียด​ที่​บ่ง​ชี้​ถึง​เรื่อง​ราว​ที่​แท้​จริง ไม่​ใช่​การ​แต่ง​เทพนิยาย.”

ข้อ​กล่าวหา​ที่​ว่า​กิตติคุณ​เป็น​ตำนาน​ยัง​เผชิญ​อุปสรรค​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ด้วย นั่น​คือ​วิธี​การ​สอน​ที่​เคร่งครัด​ของ​พวก​รับบี​ซึ่ง​กำลัง​แพร่​หลาย​อยู่​ระหว่าง​ช่วง​เวลา​ที่​มี​การ​เขียน​กิตติคุณ. วิธี​นั้น​ยึด​ติด​อยู่​กับ​การ​เรียน​โดย​การ​ท่อง​จำ—ท่อง​เป็น​กิจวัตร​หรือ​ท่อง​ซ้ำ ๆ จน​ขึ้น​ใจ. นี่​เอื้ออำนวย​ต่อ​การ​ถ่ายทอด​ที่​ถูก​ต้อง​และ​ถี่ถ้วน​เกี่ยว​กับ​คำ​ตรัส​และ​ผล​งาน​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​ที่​ตรง​กัน​ข้าม​กับ​การ​ผลิต​เรื่อง​ที่​มี​การ​แต่ง​เติม.

ถ้า​กิตติคุณ​เป็น​ตำนาน​แล้ว จะ​เรียบเรียง​กิตติคุณ​นั้น​อย่าง​รวด​เร็ว​หลัง​จาก​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​ได้​หรือ?

ตาม​หลักฐาน​ที่​หา​ได้ กิตติคุณ​ได้​รับ​การ​เขียน​ระหว่าง​ปี ส.ศ. 41 กับ​ปี ส.ศ. 98. พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์​ใน​ปี ส.ศ. 33. นี่​หมายความ​ว่า​เรื่อง​ราว​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ของ​พระองค์​ได้​รับ​การ​เรียบเรียง​ใน​เวลา​ค่อนข้าง​สั้น​หลัง​จาก​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์​สิ้น​สุด​ลง. นี่​ก่อ​ปัญหา​มาก​มาย​ต่อ​ข้อ​โต้​แย้ง​ที่​ว่า​เรื่อง​เล่า​ของ​กิตติคุณ​เป็น​เพียง​ตำนาน. เพื่อ​จะ​เกิด​ตำนาน​ขึ้น​มา​ต้อง​อาศัย​เวลา. ขอ​ยก​ตัว​อย่าง​เรื่อง​อิเลียด กับ​ออดิซี ซึ่ง​แต่ง​โดย​โฮเมอร์​กวี​ชาว​กรีก​โบราณ. บาง​คน​ถือ​ว่า​ข้อ​ความ​ของ​ตำนาน​มหา​กาพย์​สอง​เรื่อง​นั้น​ใช้​เวลา​หลาย​ร้อย​ปี​ใน​การ​พัฒนา​ขึ้น​แล้ว​กลาย​เป็น​เรื่อง​ที่​ไม่​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง. จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​กิตติคุณ?

ใน​หนังสือ​ซีซาร์​และ​พระ​คริสต์ (ภาษา​อังกฤษ) นัก​ประวัติศาสตร์​วิลล์ ดูแรนต์ เขียน​ว่า “ที่​ว่า​บุคคล​ธรรมดา​ไม่​กี่​คน . . . ได้​แต่ง​เรื่อง​บุคคล​ผู้​ทรง​พลัง​และ​มี​บุคลิก​ที่​ดึงดูด​ใจ​มาก แต่ง​หลัก​จรรยา​และ​อุดมการณ์​อัน​สูง​ส่ง​ใน​เรื่อง​ภราดรภาพ​ของ​มนุษยชาติ​อัน​เป็น​แรง​บันดาล​ใจ​นั้น​ขึ้น​มา คง​จะ​เป็น​เรื่อง​อัศจรรย์​ไม่​น่า​เชื่อ​ยิ่ง​กว่า​การ​อัศจรรย์​ใด ๆ ซึ่ง​มี​บันทึก​ใน​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​เสีย​อีก. หลัง​จาก​สอง​ศตวรรษ​ของ​การ​วิพากษ์วิจารณ์​คัมภีร์​ไบเบิล เค้าโครง​ของ​ชีวิต, อุปนิสัย, และ​คำ​สอน​ของ​พระ​คริสต์, ยัง​คง​ชัดเจน​พอ​ควร และ​ประกอบ​กัน​เป็น​ลักษณะ​เด่น​ที่​ตรึง​ใจ​มาก​ที่​สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ชาว​ตะวัน​ตก.”

กิตติคุณ​ได้​รับ​การ​แก้ไข​ภาย​หลัง​เพื่อ​ให้​เหมาะ​กับ​ความ​จำเป็น​ของ​ชุมชน​คริสเตียน​ยุค​แรก​ไหม?

นัก​วิจารณ์​บาง​คน​โต้​แย้ง​ว่า นัก​การ​เมือง​ของ​ชุมชน​คริสเตียน​ยุค​แรก​เป็น​ต้น​เหตุ​ทำ​ให้​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​แก้ไข​เรื่อง​ราว​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​หรือ​เพิ่ม​เติม​เรื่อง​นั้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​ศึกษา​กิตติคุณ​อย่าง​ละเอียด​แสดง​ว่า​ไม่​มี​การ​แก้​ดัง​กล่าว. หาก​เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​ได้​ถูก​เปลี่ยน​แปลง​อัน​เป็น​ผล​จาก​แผนการ​ของ​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​แล้ว ทำไม​คำ​กล่าว​ใน​แง่​ลบ​เกี่ยว​กับ​ทั้ง​ชาว​ยิว​และ​คน​ต่าง​ชาติ​จึง​ยัง​คง​ปรากฏ​อยู่​ใน​ต้น​ฉบับ?

ตัว​อย่าง​หนึ่ง​พบ​ได้​ที่​มัดธาย 6:5-7 ใน​ข้อ​นั้น​มี​การ​ยก​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​อธิษฐาน, อย่า​เป็น​เหมือน​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด เพราะ​เขา​ชอบ​ยืน​อธิษฐาน​ในธรรมศาลา​และ​ตาม​ถนน, เพื่อ​จะ​ให้​คน​ทั้ง​ปวง​เห็น. เรา​บอก​ท่าน​ตาม​จริง​ว่า, เขา​ได้​รับ​บำเหน็จ​ของ​เขา​แล้ว.” ปรากฏ​ชัด นี่​เป็น​การ​ตำหนิ​ผู้​นำ​ศาสนา​ชาว​ยิว. พระ​เยซู​ตรัส​ต่อ​ไป​ว่า “เมื่อ​ท่าน​อธิษฐาน, อย่า​กล่าว​คำ​ซ้ำ​ให้​มาก​เหมือน​คน​ต่าง​ประเทศ [คน​ต่าง​ชาติ] เพราะ​เขา​คิด​ว่า​พูด​มาก​หลาย​คำ​พระ​จึง​จะ​โปรด​ฟัง.” โดย​การ​ยก​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ใน​ลักษณะ​นี้ ผู้​เขียน​กิตติคุณ​ไม่​ได้​พยายาม​ทำ​ให้​คน​เปลี่ยน​ศาสนา. พวก​เขา​เพียง​แต่​บันทึก​ถ้อย​คำ​ที่​พระ​เยซู​คริสต์​ตรัส​อย่าง​แท้​จริง.

ขอ​พิจารณา​เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ​เกี่ยว​กับ​พวก​ผู้​หญิง​ซึ่ง​ได้​ไป​ที่​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​ของ​พระ​เยซู​และ​เห็น​ว่า​อุโมงค์​นั้น​ว่าง​เปล่า​ด้วย. (มาระโก 16:1-8) ตาม​ที่​เกรก อีสเทอร์บรุก กล่าว​นั้น “ใน​สังคม​วิทยา​เกี่ยว​กับ​ตะวัน​ออก​กลาง​โบราณ ถือ​กัน​มา​แต่​ดั้งเดิม​ว่า​หลักฐาน​พยาน​โดย​พวก​ผู้​หญิง​นั้น​เชื่อถือ​ไม่​ได้: ตัว​อย่าง​เช่น พยาน​ที่​เป็น​ชาย​สอง​คน​นับ​ว่า​พอ​เพียง​ที่​จะ​ตัดสิน​ว่า​ผู้​หญิง​ที่​เล่นชู้​นั้น​กระทำ​ผิด ขณะ​ที่​หลักฐาน​ของ​ผู้​หญิง​ไม่​อาจ​ตัดสิน​ได้​ว่า​ผู้​ชาย​กระทำ​ผิด.” ที่​จริง เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​เอง​ก็​ไม่​ได้​เชื่อ​พวก​ผู้​หญิง​ด้วย​ซ้ำ! (ลูกา 24:11) ด้วย​เหตุ​นี้ จึง​ไม่​น่า​จะ​มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​เลย​ว่า​เรื่อง​ราว​ดัง​กล่าว​จะ​ถูก​แต่ง​ขึ้น​อย่าง​จงใจ.

การ​ที่​อุปมา​ต่าง ๆ ไม่​มี​อยู่​ใน​จดหมาย​ของ​อัครสาวก​และ​ใน​พระ​ธรรม​กิจการ​นั้น​เป็น​ข้อ​พิสูจน์​ที่​หนักแน่น​ว่า คริสเตียน​ยุค​แรก​ไม่​ได้​สอด​แทรก​อุปมา​เหล่า​นั้น​ที่​มี​อยู่​ใน​กิตติคุณ​เข้า​มา แต่​เป็น​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​เอง. นอก​จาก​นี้ การ​เปรียบ​เทียบ​กิตติคุณ​กับ​จดหมาย​ของ​อัครสาวก​อย่าง​ถี่ถ้วน​เผย​ให้​เห็น​ว่า ไม่​ได้​มี​การ​ใช้​เล่ห์​เหลี่ยม​ดัด​แปลง​ถ้อย​คำ​และ​ทำ​ให้​ดู​เหมือน​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ผู้​ตรัส ไม่​ว่า​จะ​เป็น​คำ​พูด​ของ​เปาโล​หรือ​คำ​พูด​ของ​ผู้​เขียน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​กรีก​คน​อื่น ๆ. หาก​ชุมชน​คริสเตียน​ยุค​แรก​ได้​ทำ​เช่น​นั้น​จริง เรา​ก็​น่า​จะ​คาด​หมาย​ได้​ว่า จะ​พบ​เนื้อหา​อย่าง​น้อย​บาง​เรื่อง​จาก​จดหมาย​ของ​อัครสาวก​ที่​พูด​ถึง​เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ. เนื่อง​จาก​เรา​ไม่​พบ เรา​จึง​สามารถ​สรุป​ได้​อย่าง​แน่นอน​ว่า เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ​เป็น​ผล​งาน​ดั้งเดิม​และ​เชื่อถือ​ได้.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ข้อ​ที่​ดู​เหมือน​ว่า​ขัด​แย้ง​กัน​ใน​กิตติคุณ?

พวก​นัก​วิจารณ์​ได้​อ้าง​มา​นาน​แล้ว​ว่า​กิตติคุณ​เต็ม​ไป​ด้วย​ข้อ​ขัด​แย้ง? นัก​ประวัติศาสตร์​ดูแรนต์​พยายาม​จะ​ตรวจ​สอบ​เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ​จาก​แง่​คิด​ที่​ไม่​ลำเอียง​อย่าง​แท้​จริง—ใน​ฐานะ​เป็น​เอกสาร​ที่​เป็น​จริง​ทาง​ประวัติศาสตร์. ถึง​แม้​เขา​บอก​ว่า​มี​ข้อ​ที่​ดู​เหมือน​จะ​ขัด​แย้ง​กัน​ใน​กิตติคุณ​ก็​ตาม เขา​สรุป​ว่า “ข้อ​ขัด​แย้ง​ต่าง ๆ เป็น​ข้อ​ปลีกย่อย​เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่​ใช่​สาระ​สำคัญ โดย​เนื้อ​แท้​แล้ว​กิตติคุณ​ที่​เป็น​ข้อ​ใหญ่​ใจความ​สอดคล้อง​กัน​อย่าง​เด่น​ชัด​ที​เดียว และ​ประกอบ​กัน​เป็น​คำ​พรรณนา​ที่​สอดคล้อง​กัน​เกี่ยว​กับ​พระ​คริสต์.”

ข้อ​ที่​ดู​เหมือน​ว่า​ขัด​แย้ง​กัน​ใน​กิตติคุณ​นั้น​บ่อย​ครั้ง​อธิบาย​ได้​ไม่​ยาก. เพื่อ​เป็น​เป็น​ตัว​อย่าง: มัดธาย 8:5 กล่าว​ว่า “มี​นาย​ร้อย​คน​หนึ่ง​มา​อ้อน​วอน [พระ​เยซู]” เพื่อ​รักษา​บ่าว​ให้​หาย. ที่​ลูกา 7:3 เรา​อ่าน​ว่า​นาย​ร้อย “ใช้​ผู้​เฒ่า​ของ​พวก​ยูดาย​ให้​ไป​อ้อน​วอน​เชิญ [พระ​เยซู] เสด็จ​มา​รักษา​ทาส​ของ​ตน.” นาย​ร้อย​ส่ง​พวก​ผู้​เฒ่า​ไป​ฐานะ​เป็น​ตัว​แทน​ของ​เขา. มัดธาย​กล่าว​ว่า​นาย​ร้อย​ได้​อ้อน​วอน​พระ​เยซู​ด้วย​ตัว​เอง เพราะ​เขา​เสนอ​คำ​ขอร้อง​ผ่าน​ทาง​พวก​ผู้​เฒ่า ซึ่ง​รับใช้​ฐานะ​เป็น​กระบอก​เสียงของ​เขา. นี่​เป็น​เพียง​ตัว​อย่าง​หนึ่ง​ซึ่ง​แสดง​ว่า​ข้อ​ต่าง ๆ ที่​ถือ​ว่า​ไม่​ประสาน​กัน​ใน​กิตติคุณ​นั้น​สามารถ​อธิบาย​ได้.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​การ​วิพากษ์วิจารณ์​ที่​ว่า​กิตติคุณ​ไม่​บรรลุ​มาตรฐาน​ของ​ประวัติศาสตร์​แท้? ดูแรนต์​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า “ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​ใน​การ​ค้น​พบ​ที่​การ​วิพากษ์วิจารณ์​ได้​นำ​มา​ใช้​กับ​การ​ทดสอบ​ความ​น่า​เชื่อถือ​ของ​พันธสัญญา​ใหม่​อย่าง​จริงจัง​จน​กระทั่ง​โดย​การ​ทดสอบ​เหล่า​นั้น บุคคล​ผู้​มี​ชื่อเสียง​ใน​สมัย​โบราณ​หลาย​คน เช่น ฮัมมูราบิ, ดาวิด, โสกราตีส​คง​จะ​กลาย​เป็น​บุคคล​ใน​ตำนาน​ไป. แม้​จะ​มี​อคติ​และ​ข้อ​คิด​เห็น​ทาง​เทววิทยา​อยู่​ก่อน​แล้ว​ของ​ผู้​เผยแพร่​กิตติคุณ​ก็​ตาม พวก​เขา​ก็​บันทึก​เหตุ​การณ์​หลาย​อย่าง​ซึ่ง​คน​ที่​เป็น​เพียง​ผู้​แต่ง​เรื่อง​เท่า​นั้น​จะ​ปิด​บัง​ไว้ เช่น เรื่อง​การ​แข่งขัน​ชิง​ดี​กัน​ระหว่าง​พวก​อัครสาวก​เพื่อ​จะ​ได้​ตำแหน่ง​สูง​ใน​ราชอาณาจักร, การ​ที่​พวก​เขา​หนี​ไป​หลัง​จาก​พระ​เยซู​ถูก​จับ​กุม, การ​ที่​เปโตร​ปฏิเสธ​พระ​เยซู . . . ไม่​มี​ใคร​ที่​อ่าน​เรื่อง​ราว​เหล่า​นี้​แล้ว​จะ​สงสัย​ความ​เป็น​จริง​ของ​บุคคล​ที่​อยู่​เบื้อง​หลัง​เรื่อง​เหล่า​นี้.”

ศาสนา​คริสเตียน​สมัย​ปัจจุบัน​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระ​เยซู​บุคคล​ใน​กิตติคุณ​ไหม?

การ​สัมมนา​ว่า​ด้วย​พระ​เยซู​ได้​แถลง​ว่า​การ​วิจัย​ค้นคว้า​ของ​การ​ประชุม​ใน​เรื่อง​กิตติคุณ​นั้น “ไม่​ได้​ถูก​จำกัด​ไว้​โดย​การ​บงการ​ของ​สภา​ประชุม​คริสตจักร.” แต่​นัก​ประวัติศาสตร์​เวลส์​ตระหนัก​ว่า มี​ช่อง​ว่าง​ที่​ใหญ่​โต​ระหว่าง​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู​ดัง​ที่​เสนอ​ใน​กิตติคุณ​กับ​คำ​สอน​ของ​คริสต์​ศาสนจักร. เขา​เขียน​ว่า “ไม่​มี​หลักฐาน​ที่​ว่า​อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู​เคย​ได้​ยิน​เรื่อง​ตรีเอกานุภาพ—อย่าง​น้อย​ที่​สุด​จาก​พระองค์. . . . ทั้ง [พระ​เยซู] ก็​มิ​ได้​ตรัส​อะไร​เกี่ยว​กับ​การ​นมัสการ​มาเรีย​มารดา​ของ​พระองค์ ซึ่ง​เป็น​รูป​โฉม​ใหม่​ของ​ไอซิส ราชินี​แห่ง​สวรรค์. คำ​สอน​ทั้ง​หมด​ของ​คริสต์​ศาสนจักร​ใน​การ​นมัสการ​และ​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​นั้น พระองค์​ไม่​ทรง​ทราบ​เลย.” ฉะนั้น คน​เรา​ไม่​อาจ​ตัดสิน​คุณค่า​ของ​กิตติคุณ​โดย​อาศัย​คำ​สอน​ของ​คริสต์​ศาสนจักร​ได้.

ข้อ​สรุป​ของ​คุณ​เป็น​อย่าง​ไร?

หลัง​จาก​พิจารณา​ประเด็น​ต่าง ๆ ที่​กล่าว​มา​แล้ว​ข้าง​ต้น คุณ คิด​อย่าง​ไร? มี​ข้อ​พิสูจน์ที่​แท้​จริง และ​เชื่อถือ​ได้​ไหม​ว่า​กิตติคุณ​เป็น​เพียง​เทพนิยาย? หลาย​คน​พบ​ว่า​คำ​ถาม​และ​ข้อ​สงสัย​ที่​มี​การ​ยก​ขึ้น​มา​เกี่ยว​กับ​ความ​น่า​เชื่อถือ​ของ​กิตติคุณ​นั้น​เป็น​ที่​น่า​สงสัย​และ​เชื่อถือ​ไม่​ได้. เพื่อ​ลง​ความ​เห็น​ด้วย​ตัว​เอง คุณ​ต้อง​อ่าน​กิตติคุณ​ด้วย​จิตใจ​ที่​เปิด​กว้าง. (กิจการ 17:11) เมื่อ​คุณ​พิจารณา​ว่า​กิตติคุณ​เสนอ​บุคลิกภาพ​ของ​พระ​เยซู​ด้วย​ความ​สอดคล้อง​กัน, ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์, และ​ความ​ถูก​ต้อง​แล้ว คุณ​ก็​จะ​ตระหนัก​ว่า​เรื่อง​ราว​เหล่า​นี้​ไม่​ใช่​การ​รวบ​รวม​นิทาน​ต่าง ๆ อย่าง​แน่นอน. *

หาก​คุณ​ตรวจ​สอบ​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​ถี่ถ้วน​และ​เอา​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​คัมภีร์​มา​ใช้​แล้ว คุณ​จะ​เห็น​ว่า​พระ​คัมภีร์​สามารถ​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​คุณ​ให้​ดี​ขึ้น. (โยฮัน 6:68) นี่​เป็น​ความ​จริง​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​กับ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​บันทึก​ใน​กิตติคุณ. นอก​จาก​นั้น คุณ​ยัง​สามารถ​เรียน​รู้​ใน​กิตติคุณ​เกี่ยว​กับ​อนาคต​อัน​น่า​พิศวง​ซึ่ง​รอ​มนุษยชาติ​ที่​เชื่อ​ฟัง​อยู่.—โยฮัน 3:16; 17:3, 17.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 29 โปรด​ดู​บท 5 ถึง 7 ของ​หนังสือ​คัมภีร์​ไบเบิล—คำ​ของ​พระเจ้า​หรือ​ของ​มนุษย์? (ภาษา​อังกฤษ) และ​จุลสาร​หนังสือ​สำหรับ​ทุก​คน. ทั้ง​สอง​เล่ม​ได้​รับ​การ​จัด​พิมพ์​โดย​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แห่ง​นิวยอร์ก.

[กรอบ​หน้า 7]

หลักฐาน​ของ​การ​รายงาน​ที่​น่า​เชื่อถือ

หลาย​ปี​มา​แล้ว นัก​เขียน​บท​ละคร​ชาว​ออสเตรเลีย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เคย​เป็น​นัก​วิจารณ์​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​สารภาพ​ว่า “เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​ชีวิต​ที่​ผม​ได้​ทำ​สิ่ง​ซึ่ง​ปกติ​เป็น​ภารกิจ​แรก​ของ​นัก​ข่าว: ตรวจ​สอบ​ข้อ​เท็จ​จริง. . . . และ​ผม​รู้สึก​ขน​ลุก เพราะ​สิ่ง​ที่​ผม​อ่าน [เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ] นั้น​ไม่​ใช่​เป็น​ตำนาน และ​ไม่​ใช่​เรื่อง​ที่​แต่ง​ขึ้น​ที่​ทำ​ให้​มี​ลักษณะ​เหมือน​จริง. นั่น​เป็น​การ​รายงาน. เป็น​เรื่อง​ราว​เกี่ยว​กับ​เหตุ​การณ์​พิเศษ​ต่าง ๆ จาก​ประจักษ์​พยาน​และ​จาก​คน​อื่น​อีก​ต่อ​หนึ่ง . . . การ​รายงาน​มี​รสชาติ และ​รสชาติ​นั้น​อยู่​ใน​กิตติคุณ.”

คล้าย​กัน อี. เอ็ม. เบลก​ล็อก ศาสตราจารย์​ด้าน​วรรณคดี​กรีก​และ​โรมัน​โบราณ ณ มหาวิทยาลัย​โอ๊ก​แลนด์ ได้​อ้าง​เหตุ​ผล​ว่า “ผม​ยืน​ยัน​ว่า​เป็น​นัก​ประวัติศาสตร์. วิธี​ของ​ผม​ใน​การ​เข้า​ถึง​วรรณคดี​กรีก​และ​โรมัน​โบราณ​นั้น​เป็น​ไป​ทาง​ประวัติศาสตร์. และ​ผม​ทำ​ให้​คุณ​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​หลักฐาน​ใน​เรื่อง​ชีวิต, ความ​ตาย, และ​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ของ​พระ​คริสต์​นั้น​น่า​เชื่อถือ​ยิ่ง​กว่า​ข้อ​เท็จ​จริง​ส่วน​ใหญ่​ของ​ประวัติศาสตร์​โบราณ.”

[แผน/ภาพ​หน้า 8, 9]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

ฟอยนิเก

ฆาลิลาย

แม่น้ำ​ยาระเดน

ยูเดีย

[ภาพ​หน้า 8]

“หลักฐาน​ใน​เรื่อง​ชีวิต, ความ​ตาย, น่า​เชื่อถือ​ยิ่ง​กว่า​ข้อ​เท็จ​จริง และ​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ของ​พระ​คริสต์​นั้น ส่วน​ใหญ่​ของ​ประวัติศาสตร์​โบราณ.”—ศาสตราจารย์ อี. เอ็ม. เบลก​ล็อก

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Background maps: Based on a map copyrighted by Pictorial Archive (Near Eastern History) Est. and Survey of Israel.