ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

‘จงช่วยตัวท่านเองและคนที่ฟังท่านให้รอด’

‘จงช่วยตัวท่านเองและคนที่ฟังท่านให้รอด’

‘จง​ช่วย​ตัว​ท่าน​เอง​และ​คน​ที่​ฟัง​ท่าน​ให้​รอด’

“จง​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​ท่าน​และ​การ​สอน​ของ​ท่าน​อยู่​เสมอ. . . . ด้วย​การ​ทำ​อย่าง​นี้​ท่าน​จะ​ช่วย​ทั้ง​ตัว​ท่าน​เอง​และ​คน​ที่​ฟัง​ท่าน​ให้​รอด.”—1 ติโมเธียว 4:16, ล.ม.

1, 2. อะไร​กระตุ้น​คริสเตียน​แท้​ให้​ดำเนิน​ต่อ​ไป​ใน​งาน​ช่วย​ชีวิต?

ณ หมู่​บ้าน​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​โดด​เดี่ยว​ห่าง​ไกล​ใน​ภาค​เหนือ​ของ​ประเทศ​ไทย สามี​ภรรยา​คู่​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​พยายาม​ใช้​ทักษะ​ของ​ตน​ใน​ภาษา​ที่​เพิ่ง​เรียน​มา​ได้​ไม่​นาน​ใน​การ​พูด​กับ​ชาว​เขา. เพื่อ​จะ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​แก่​คน​ที่​อยู่​ใน​หมู่​บ้าน​เหล่า​นี้ สามี​ภรรยา​คู่​นี้​ได้​เริ่ม​เรียน​ภาษา​ลาฮู​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​เอง.

2 “เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​พรรณนา​ถึง​ความ​ยินดี​และ​ความ​อิ่ม​ใจ​ที่​เรา​ได้​รับ เมื่อ​ได้​ทำ​งาน​ท่ามกลาง​ผู้​คน​ที่​น่า​สนใจ​เหล่า​นี้” ผู้​เป็น​สามี​ชี้​แจง. “เรา​รู้สึก​ว่า​ได้​เข้า​ไป​มี​ส่วน​จริง ๆ ใน​ความ​สำเร็จ​ของ​วิวรณ์ 14:6, 7 (ฉบับ​แปล​ใหม่) ด้วย​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี ‘แก่​ทุก​เผ่า​พันธุ์ ทุก​ชาติ ทุก​ภาษา.’ มี​เขต​ใหม่​เหลือ​อยู่​ไม่​มาก​นัก​ที่​ข่าว​ดี​ยัง​ไป​ไม่​ถึง และ​แน่นอน​ว่า​นี่​เป็น​เขต​หนึ่ง. เรา​มี​ราย​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​จน​เรา​เกือบ​รับ​ไม่​ไหว.” เห็น​ได้​ชัด สามี​ภรรยา​คู่​นี้​หวัง​ที่​จะ​ช่วย​ไม่​เพียง​ตัว​เขา​เอง​เท่า​นั้น แต่​ช่วย​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ฟัง​เขา​ให้​รอด​ด้วย. ใน​ฐานะ​คริสเตียน เรา​ทุก​คน​หวัง​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน​มิ​ใช่​หรือ?

‘จง​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​ท่าน​อยู่​เสมอ’

3. เพื่อ​จะ​ช่วย​ผู้​อื่น เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​ก่อน?

3 อัครสาวก​เปาโล​แนะ​นำ​ติโมเธียว​ว่า “จง​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​ท่าน​และ​การ​สอน​ของ​ท่าน​อยู่​เสมอ” และ​ข้อ​นี้​ใช้​ได้​กับ​คริสเตียนทุก​คน. (1 ติโมเธียว 4:16, ล.ม.) ที่​จริง เพื่อ​ช่วย​ผู้​อื่น​ให้​ได้​รับ​ความ​รอด เรา​ต้อง​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​เรา​เอง​ก่อน. เรา​จะ​ทำ​เช่น​นี้​ได้​อย่าง​ไร? ประการ​หนึ่ง​นั้น เรา​ต้อง​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​ต่อ​ยุค​สมัย​ที่​เรา​มี​ชีวิต​อยู่​นี้. พระ​เยซู​ทรง​ให้​สัญลักษณ์​หลาย​อย่าง​ประกอบ​กัน เพื่อ​เหล่า​สาวก​จะ​ทราบ​ว่า “ช่วง​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้” จะ​มา​ถึง​เมื่อ​ไร. กระนั้น พระ​เยซู​ตรัส​ด้วย​ว่า​เรา​จะ​ไม่​ทราบ​แน่ชัด​ลง​ไป​ว่า​อวสาน​จะ​มา​เมื่อ​ไร. (มัดธาย 24:3, 36, ล.ม.) เรา​ควร​ตอบ​สนอง​อย่าง​ไร​ต่อ​ข้อ​เท็จ​จริง​นี้?

4. (ก) เรา​ควร​มี​เจตคติ​เช่น​ไร​ต่อ​เวลา​ที่​ยัง​เหลือ​อยู่​สำหรับ​ระบบ​นี้? (ข) เรา​ควร​หลีก​เลี่ยง​เจตคติ​เช่น​ไร?

4 เรา​แต่​ละ​คน​อาจ​ถาม​ว่า ‘ฉัน​กำลัง​ใช้​เวลา​ที่​เหลือ​อยู่​ของ​ระบบ​นี้​เพื่อ​ช่วย​ตัว​ฉัน​และ​คน​ที่​ฟัง​ฉัน​ให้​รอด​ไหม? หรือ​ฉัน​คิด​ว่า “เนื่อง​จาก​เรา​ไม่​ทราบ​แน่ชัด​ว่า​อวสาน​จะ​มา​เมื่อ​ไร ฉัน​จะ​ไม่​สนใจ​อะไร​นัก​ใน​เรื่อง​นี้”?’ เจตคติ​อย่าง​หลัง​นับ​ว่า​อันตราย. เจตคติ​แบบ​นี้​สวน​ทาง​กับ​คำ​กระตุ้น​เตือน​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “จง​เตรียม​ตัว​พร้อม​เพราะ​ใน​โมง​ที่​ท่าน​ไม่​คิด​ว่า​เป็น​เวลา​นั้น บุตร​มนุษย์​จะ​เสด็จ​มา.” (มัดธาย 24:44, ล.ม.) แน่นอน นี่​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​จะ​สูญ​เสีย​ความ​กระตือรือร้น​ของ​เรา​ใน​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา หรือ​หมาย​พึ่ง​โลก​นี้​เพื่อ​ความ​มั่นคง​หรือ​ความ​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ.—ลูกา 21:34-36.

5. เหล่า​พยาน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก่อน​ยุค​คริสเตียน​วาง​ตัว​อย่าง​อะไร​ไว้?

5 อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​เรา​สามารถ​แสดง​ได้​ว่า​เรา​กำลัง​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​เรา​เอง​ก็​คือ​โดย​การ​อด​ทน​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ใน​ฐานะ​คริสเตียน. ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ใน​อดีต​อด​ทน​อยู่​เสมอ ไม่​ว่า​พวกเขา​คาด​หมาย​ว่า​จะ​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​รอด​ใน​ทันที​หรือ​ไม่​ก็​ตาม. หลัง​จาก​ที่​อ้าง​ถึง​ตัว​อย่าง​ดัง​กล่าว​ของ​เหล่า​พยาน​ก่อน​ยุค​คริสเตียน อย่าง​เช่น เฮเบล, ฮะโนค, โนฮา, อับราฮาม, และ​ซารา, เปาโล​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “เขา​มิ​ได้​รับ​ผล​ตาม​คำ​สัญญา . . . แต่​ก็​แล​เห็น​แต่​ไกล​และ​ยินดี​ต้อนรับ​ไว้ และ​ได้​ประกาศ​อย่าง​เปิด​เผย​ว่า​ตน​เป็น​คน​แปลก​ถิ่น​และ​เป็น​คน​อาศัย​ชั่ว​คราว​ใน​แผ่นดิน​นั้น.” พวก​เขา​ไม่​ได้​ยอม​แพ้​แก่​ความ​ปรารถนา​ที่​จะ​มี​ชีวิต​ที่​สะดวก​สบาย อีก​ทั้ง​ไม่​ได้​ยอม​แพ้​แก่​แรง​กดดัน​อัน​เสื่อม​ศีลธรรม​ซึ่ง​อยู่​รอบ​ตัว แต่​พวก​เขา​คอย​ท่า​อย่าง​กระตือรือร้น​ที่​จะ “ได้​รับ​ผล​ตาม​คำ​สัญญา.”—เฮ็บราย 11:13; 12:1, ล.ม.

6. ทัศนะ​ของ​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​เกี่ยว​กับ​ความ​รอด​มี​ผล​ต่อ​วิธี​ที่​เขา​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​ไร?

6 นอก​จาก​นั้น คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​ยัง​มอง​ตัว​เอง​ว่า​เป็น “คน​ต่าง​ด้าว” ใน​โลก​นี้. (1 เปโตร 2:11, ล.ม.) แม้​แต่​ภาย​หลัง​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​รอด​ผ่าน​ความ​พินาศ​ของ​กรุง​ยะรูซาเลม​ใน​ปี ส.ศ. 70 คริสเตียน​แท้​ไม่​ได้​เลิก​ประกาศ​หรือ​ถอย​กลับ​สู่​แนว​ทาง​ชีวิต​แบบ​โลก. พวก​เขา​ทราบ​ว่า​ความ​รอด​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​คอย​อยู่​สำหรับ​ผู้​ที่​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์. ที่​จริง ล่วง​เลย​ไป​จน​ถึง​ปี ส.ศ. 98 แล้ว​อัครสาวก​เปาโล​จึง​ได้​เขียน​ว่า “โลก​กับ​ความ​ปรารถนา​ของ​โลก​กำลัง​ผ่าน​พ้น​ไป แต่​ผู้​ที่​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​จะ​ดำรง​อยู่​ตลอด​ไป​เป็น​นิตย์.”—1 โยฮัน 2:17, 28, ล.ม.

7. พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​แสดง​ความ​อด​ทน​อย่าง​ไร​ใน​สมัย​ปัจจุบัน?

7 ใน​สมัย​ปัจจุบัน พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​เช่น​กัน​ได้​บากบั่น​ใน​งาน​ของ​คริสเตียน แม้​ว่า​พวก​เขา​ประสบ​การ​กดขี่​ข่มเหง​อัน​ร้ายกาจ. ความ​อด​ทน​ของ​พวก​เขา​ไร้​ประโยชน์​ไหม? ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น​แน่ เพราะ​พระ​เยซู​ทรง​รับรอง​กับ​เรา​ว่า “ผู้​ใด​ที่​ได้​อด​ทน​จน​ถึง​ที่​สุด​ผู้​นั้น​จะ​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​รอด” ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ที่​สุด​ของ​ระบบ​เก่า​หรือ​ที่​สุด​แห่ง​ชีวิต​ปัจจุบัน​ของ​ผู้​นั้น. ใน​การ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​กลับ​มี​ชีวิต​อีก พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​ระลึก​ถึง​และ​ประทาน​รางวัล​แก่​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ทุก​คน​ซึ่ง​ได้​ตาย​ไป.—มัดธาย 24:13, ล.ม.; เฮ็บราย 6:10.

8. เรา​จะ​แสดง​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​หยั่ง​รู้​ค่า​ความ​อด​ทน​ของ​คริสเตียน​ใน​อดีต?

8 นอก​จาก​นั้น เรา​ยินดี​ที่​คริสเตียน​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ใน​อดีต​ไม่​ได้​ห่วง​เฉพาะ​ความ​รอด​ของ​ตัว​เอง. แน่นอน พวก​เรา​ซึ่ง​ได้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เนื่อง​ด้วย​ความ​พยายาม​ของ​พวก​เขา รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​พวก​เขา​อด​ทน​ใน​การ​ทำ​งาน​ที่​พระ​เยซู​ทรง​มอบหมาย​ไว้​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น จง​ไป​และ​ทำ​ให้​ชน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก . . . สอน​เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้.” (มัดธาย 28:19, 20, ล.ม.) ตราบ​ใด​โอกาส​ยัง​เปิด​ให้​เรา เรา​สามารถ​แสดง​ความ​รู้สึก​ขอบคุณ​ด้วย​การ​ประกาศ​แก่​คน​อื่น ๆ ที่​ยัง​ไม่​เคย​ได้​ยิน​ข่าว​ดี. อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​ประกาศ​เป็น​เพียง​ขั้น​แรก​ใน​การ​ทำ​คน​ให้​เป็น​สาวก.

‘จง​เอา​ใจ​ใส่​การ​สอน​ของ​ท่าน’

9. เจตคติ​ใน​แง่​บวก​อาจ​ช่วย​เรา​ได้​อย่าง​ไร​ใน​การ​เริ่ม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล?

9 งาน​มอบหมาย​ของ​เรา​ไม่​ได้​มี​เฉพาะ​แต่​การ​ประกาศ​เท่า​นั้น แต่​ยัง​รวม​ถึง​การ​สอน​ด้วย. พระ​เยซู​ทรง​มอบหมาย​ให้​เรา​สอน​ผู้​คน​ให้​ปฏิบัติ​ตาม​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​มี​พระ​บัญชา. จริง​อยู่ ใน​บาง​เขต​ดู​เหมือน​ว่า​มี​ไม่​กี่​คน​ที่​ปรารถนา​จะ​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา. แต่​การ​มี​ทัศนะ​ใน​แง่​ลบ​ต่อ​เขต​ประกาศ​อาจ​กีด​กั้น​ความ​พยายาม​ของ​เรา​ใน​การ​เริ่ม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. ไพโอเนียร์​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อีฟเวต​ซึ่ง​ทำ​งาน​ใน​เขต​ที่​บาง​คน​บอก​ว่า​ไม่​บังเกิด​ผล​สังเกต​ว่า​พี่​น้อง​ที่​มา​เยือน ซึ่ง​ไม่​มี​เจตคติ​ใน​แง่​ลบ​เช่น​นั้น สามารถ​เริ่ม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​ราย. หลัง​จาก​ที่​เธอ​มอง​ใน​แง่​บวก​มาก​ขึ้น อีฟเวต​ก็​เช่น​กัน​พบ​ผู้​คน​ที่​ต้องการ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล.

10. เรา​มี​บทบาท​พื้น​ฐาน​อะไร​ใน​ฐานะ​ผู้​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล?

10 คริสเตียน​บาง​คน​อาจ​ลังเล​ที่​จะ​เสนอ​การ​ศึกษา​กับ​ผู้​สนใจ​เพราะ​เขา​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่​สามารถ​นำ​การ​ศึกษา​ได้. จริง​อยู่ เรา​มี​ระดับ​ความ​สามารถ​ต่าง​กัน. แต่​เรา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​มี​ความ​ชำนิ​ชำนาญ​อย่าง​สูง​จึง​จะ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​ฐานะ​ผู้​สอน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. ข่าวสาร​บริสุทธิ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​พลัง และ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​คน​เยี่ยง​แกะ​รู้​จัก​เสียง​ของ​ผู้​เลี้ยง​แกะ​แท้​เมื่อ​พวก​เขา​ได้​ยิน​เสียง​นั้น. ดัง​นั้น เรา​มี​หน้า​ที่​เพียง​แค่​ถ่ายทอด​ข่าวสาร​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​ผู้​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี​ให้​ชัดเจน​เท่า​ที่​เรา​ทำ​ได้.—โยฮัน 10:4, 14.

11. คุณ​จะ​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร​ใน​การ​ช่วย​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล?

11 คุณ​จะ​ถ่ายทอด​ข่าวสาร​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ​ยิ่ง​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร? เริ่ม​ต้น​ด้วย​การ​ทำ​ความ​คุ้น​เคย​กับ​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​หัวข้อ​ที่​กำลัง​พิจารณา. คุณ​เองต้อง​เข้าใจ​เรื่อง​ก่อน​ที่​จะ​สอน​คน​อื่น​ใน​เรื่อง​นั้น​ได้. นอก​จาก​นั้น พยายาม​รักษา​บรรยากาศ​ที่​น่า​นับถือ​แต่​เป็น​กัน​เอง​ระหว่าง​ที่​ศึกษา. นัก​ศึกษา รวม​ทั้ง​นัก​ศึกษา​อายุ​น้อย ๆ เรียน​รู้​ได้​ดี​กว่า​เมื่อ​พวก​เขา​ผ่อน​คลาย​และ​ผู้​สอน​แสดง​ความ​นับถือ​และ​ความ​กรุณา​ต่อ​เขา.—สุภาษิต 16:21.

12. คุณ​จะ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​นัก​ศึกษา​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​คุณ​กำลัง​สอน​เขา?

12 ใน​ฐานะ​ผู้​สอน คุณ​คง​ไม่​ต้องการ​แต่​เพียง​เสนอ​ข้อ​เท็จ​จริง​ให้​นัก​ศึกษา​ท่อง​จำเป็น​นก​แก้ว​นก​ขุน​ทอง. จง​ช่วย​เขา​ให้​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​เขา​กำลัง​เรียน. ระดับ​การ​ศึกษา, ประสบการณ์​ชีวิต, และ​ความ​คุ้น​เคย​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ของ​นัก​ศึกษา​จะ​มี​ผล​ต่อ​ความ​เข้าใจ​ของ​เขา​ใน​เรื่อง​ที่​คุณ​พูด. ด้วย​เหตุ​นั้น คุณ​อาจ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘เขา​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ข้อ​พระ​คัมภีร์​ที่​อ้าง​ถึง​ใน​เรื่อง​ที่​ศึกษา​ไหม?’ คุณ​อาจ​ช่วย​เขา​ให้​เผย​ความ​คิด​ออก​มา​โดย​ใช้​คำ​ถาม​ที่​ไม่​สามารถ​ตอบ​ง่าย ๆ ว่า​ใช่​หรือ​ไม่​ใช่ แต่​ต้อง​อธิบาย. (ลูกา 9:18-20) ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง นัก​ศึกษา​บาง​คน​ลังเล​ที่​จะ​ถาม​ผู้​สอน. ดัง​นั้น เขา​อาจ​เรียน​ไป​เรื่อย ๆ โดย​ไม่​เข้าใจ​ถ่องแท้​ใน​สิ่ง​ที่​ได้​สอน​เขา. จง​สนับสนุน​ให้​นัก​ศึกษา​ถาม​เรื่อง​ที่​เขา​สงสัย​และ​บอก​ให้​คุณ​ทราบ​เมื่อ​เขา​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​บาง​จุด.—มาระโก 4:10; 9:32, 33.

13. คุณ​จะ​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​เป็น​ผู้​สอน​ได้​อย่าง​ไร?

13 เป้าหมาย​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ของ​การ​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​คือ เพื่อ​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​เป็น​ผู้​สอน​ต่อ​ไป. (ฆะลาเตีย 6:6) เพื่อ​บรรลุ​เป้าหมาย​นี้ ขณะ​ทบทวน​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​ไป คุณ​อาจ​ขอ​เขา​ให้​อธิบาย​จุด​หนึ่ง​ให้​คุณ​ฟัง​โดย​ใช้​คำ​พูด​ง่าย ๆ เหมือน​กับ​ว่า​เขา​กำลัง​อธิบาย​แก่​คน​ที่​ได้​ยิน​เรื่อง​นั้น​เป็น​ครั้ง​แรก. ต่อ​มา เมื่อ​เขา​มี​คุณวุฒิ​เข้า​ร่วม​งาน​รับใช้ คุณ​อาจ​เชิญ​เขา​ให้​ไป​ด้วย​กัน​กับ​คุณ​ใน​เขต​ประกาศ. เขา​คง​จะ​รู้สึก​สบาย​ใจ​ที่​ได้​ทำ​งาน​กับ​คุณ และ​ประสบการณ์​นี้​จะ​ช่วย​เขา​ให้​มั่น​ใจ​ยิ่ง​ขึ้น​จน​กระทั่ง​เขา​พร้อม​จะ​ออก​ไป​ใน​งาน​รับใช้​ด้วย​ตัว​เขา​เอง.

จง​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​เป็น​มิตร​ของ​พระ​ยะโฮวา

14. เป้าหมาย​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​คุณ​ใน​ฐานะ​ผู้​สอน​คือ​อะไร และ​อะไร​จะ​ช่วย​ส่ง​เสริม​ให้​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​บรรลุ​เป้าหมาย​นั้น?

14 เป้าหมาย​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​คริสเตียน​ทุก​คน​ที่​เป็น​ผู้​สอน​คือ การ​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​มี​มิตรภาพ​กับ​พระ​ยะโฮวา. คุณ​จะ​ทำ​เช่น​นี้​ให้​สำเร็จ​ได้​ไม่​เพียง​แต่​โดย​อาศัย​คำ​พูด​ของ​คุณ แต่​โดย​ตัว​อย่าง​ของ​คุณ​ด้วย. การ​สอน​โดย​ตัว​อย่าง​มี​ผล​อัน​ทรง​พลัง​ต่อ​หัวใจ​นัก​ศึกษา. เป็น​ความ​จริง​ว่า​การ​กระทำ​ดัง​กว่า​คำ​พูด โดย​เฉพาะ​ใน​เรื่อง​การ​ปลูกฝัง​คุณลักษณะ​ด้าน​ศีลธรรม​และ​การ​กระตุ้น​ใจ​นัก​ศึกษา​ให้​มี​ใจ​แรง​กล้า. หาก​เขา​เห็น​ว่า​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ของ​คุณ​เกิด​จาก​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​พระ​ยะโฮวา เขา​อาจ​ได้​รับ​แรง​กระตุ้น​มาก​ขึ้น​ที่​เขา​เอง​จะ​ปลูกฝัง​สัมพันธภาพ​เช่น​นั้น.

15. (ก) เหตุ​ใด​จึง​สำคัญ​ที่​นัก​ศึกษา​จะ​พัฒนา​แรง​กระตุ้น​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา? (ข) คุณ​จะ​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​ทำ​ความ​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​ต่อ ๆ ไป​ได้​อย่าง​ไร?

15 คุณ​ต้องการ​ให้​นัก​ศึกษา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ใช่​เพียง​เพราะ​เขา​ไม่​อยาก​ถูก​ทำลาย ณ อาร์มาเก็ดดอน แต่​เนื่อง​จาก​เขา​รัก​พระองค์. โดย​การ​ช่วย​เขา​ให้​พัฒนา​แรง​กระตุ้น​อัน​บริสุทธิ์​เช่น​นั้น คุณ​กำลัง​ก่อ​สร้าง​ด้วย​วัสดุ​ทน​ไฟ​ซึ่ง​จะ​ผ่าน​การ​ทดสอบ​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​ได้. (1 โกรินโธ 3:10-15) แรง​กระตุ้น​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง เช่น ความ​ปรารถนา​อัน​เกิน​ควร​ที่​จะ​เลียน​แบบ​คุณ​หรือ​คน​อื่น ๆ จะ​ไม่​ทำ​ให้​เขา​เข้มแข็ง​พอ​จะ​ต้านทาน​อิทธิพล​ใน​แนว​ทาง​ที่​ไม่​ใช่​แบบ​คริสเตียน อีก​ทั้ง​ไม่​ทำ​ให้​เขา​กล้า​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง. จำ​ไว้​ว่า​คุณ​จะ​ไม่​ได้​เป็น​ผู้​สอน​เขา​ตลอด​ไป. ใน​ขณะ​ที่​คุณ​ยัง​มี​โอกาส​อยู่​นี้ คุณ​อาจ​สนับสนุน​เขา​ให้​ใกล้​ชิด​พระ​ยะโฮวา​ยิ่ง​ขึ้น​โดย​การ​อ่าน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ทุก​วัน​และ​คิด​รำพึง​ถึง​สิ่ง​ที่​ได้​อ่าน. โดย​วิธี​นี้ เขา​จะ​ซึมซับ “แบบ​แผน​แห่ง​ถ้อย​คำ​ที่​มี​ประโยชน์​ต่อ​สุขภาพ” จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​สรรพหนังสือ​ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก​ต่อ ๆ ไป​อีก​นาน​หลัง​จาก​ที่​คุณ​จบ​การ​ศึกษา​กับ​เขา​ไป​แล้ว.—2 ติโมเธียว 1:13, ล.ม.

16. คุณ​จะ​สอน​นัก​ศึกษา​ให้​อธิษฐาน​จาก​หัวใจ​ได้​อย่าง​ไร?

16 นอก​จาก​นี้ คุณ​สามารถ​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​ใกล้​ชิด​พระ​ยะโฮวา​ยิ่ง​ขึ้น​โดย​สอน​เขา​ให้​อธิษฐาน​จาก​หัวใจ. คุณ​จะ​ทำ​เช่น​นี้​ได้​อย่าง​ไร? คุณ​อาจ​ชี้​ให้​เขา​ดู​คำ​อธิษฐาน​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู ตลอด​จน​คำ​อธิษฐาน​ด้วย​สิ้น​สุด​หัวใจ​ซึ่ง​มี​บันทึก​ไว้​มาก​มาย​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล เช่น​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ. (บทเพลง​สรรเสริญ 17, 86, 143; มัดธาย 6:9, 10) นอก​จาก​นี้ เมื่อ​นัก​ศึกษา​ได้​ยิน​คุณ​อธิษฐาน​เปิด​และ​ปิด​การ​ศึกษา เขา​จะ​รู้สึก​ได้​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​คุณ​ต่อ​พระ​ยะโฮวา. ดัง​นั้น คำ​อธิษฐาน​ของ​คุณ​ควร​สะท้อน​ถึง​ความ​จริง​ใจ​และ​ความ​เปิด​เผย​เสมอ รวม​ทั้ง​มี​ความ​สมดุล​ด้าน​วิญญาณ​และ​การ​แสดง​อารมณ์​ความ​รู้สึก.

พยายาม​ช่วย​บุตร​ให้​รอด

17. บิดา​มารดา​จะ​ช่วย​บุตร​ให้​รักษา​ตัว​อยู่​ใน​เส้น​ทาง​สู่​ความ​รอด​ได้​อย่าง​ไร?

17 ใน​บรรดา​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เรา​ต้องการ​ช่วย​ให้​ได้​รับ​ความ​รอด ย่อม​ต้อง​รวม​ถึง​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​เรา​ด้วย​อย่าง​แน่นอน. ลูก ๆ ของ​บิดา​มารดา​คริสเตียน​จำนวน​มาก​จริง​ใจ​และ “มั่นคง​ใน​ความ​เชื่อ.” แต่​ก็​มี​บาง​คน​ที่​ความ​จริง​อาจ​ไม่​ได้​หยั่ง​ราก​ลึก​ใน​หัวใจ​ของ​เขา. (1 เปโตร 5:9; เอเฟโซ 3:17; โกโลซาย 2:7) หนุ่ม​สาว​เหล่า​นี้​หลาย​คน​ได้​ละ​ทิ้ง​แนว​ทาง​ของ​คริสเตียน​เมื่อ​เขา​ใกล้​ถึง​หรือ​เข้า​สู่​วัย​ผู้​ใหญ่. หาก​คุณ​เป็น​บิดา​หรือ​มารดา คุณ​จะ​ทำ​อะไร​ได้​เพื่อ​ทำ​ให้​มี​โอกาส​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น​น้อย​ลง? ประการ​แรก​ที่​คุณ​อาจ​ทำ​ได้ คือ​พยายาม​สร้าง​บรรยากาศ​ที่​ดี​ภาย​ใน​ครอบครัว. ชีวิต​ครอบครัว​ที่​ดี​จะ​วาง​รากฐาน​ไว้​สำหรับ​การ​มี​ทัศนะ​ที่​ดี​ต่อ​อำนาจ, การ​หยั่ง​รู้​ค่า​ค่า​นิยม​ที่​ดี​งาม, และ​การ​มี​ความ​สัมพันธ์​ที่​ราบรื่น​กับ​ผู้​อื่น. (เฮ็บราย 12:9) ดัง​นั้น สาย​สัมพันธ์​ที่​แน่นแฟ้น​ภาย​ใน​ครอบครัว​อาจ​เป็น​แหล่ง​ที่​มิตรภาพ​ระหว่าง​บุตร​กับ​พระ​ยะโฮวา​จะ​งอกงาม​ขึ้น​ได้. (บทเพลง​สรรเสริญ 22:10) ครอบครัว​ที่​เข้มแข็ง​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ด้วย​กัน​เป็น​กลุ่ม—แม้​ว่า​บิดา​มารดา​ต้อง​เสีย​สละ​เวลา​ที่​อาจ​ใช้​เพื่อ​ผล​ประโยชน์​ส่วน​ตัว. โดย​วิธี​นี้​คุณ​สามารถ​สอน​บุตร​ด้วย​ตัว​อย่าง​ให้​ตัดสิน​ใจ​อย่าง​ถูก​ต้อง​ใน​ชีวิต. บิดา​มารดา​ทั้ง​หลาย สิ่ง​ที่​บุตร​ของ​คุณ​จำเป็น​ต้อง​ได้​จาก​คุณ​มาก​ที่​สุด​นั้น​ไม่​ใช่​ผล​ประโยชน์​ด้าน​วัตถุ หาก​แต่​เป็น​ตัว​คุณ—เวลา, พลัง, และ​ความ​รัก​ของ​คุณ. คุณ​กำลัง​ให้​สิ่ง​เหล่า​นี้​แก่​บุตร​ไหม?

18. คำ​ถาม​แบบ​ไหน​ที่​บิดา​มารดา​ต้อง​ช่วย​บุตร​หา​คำ​ตอบ?

18 บิดา​มารดา​ที่​เป็น​คริสเตียน​ต้อง​ไม่​นึก​เอา​เอง​ว่า บุตร​ของ​เขา​จะ​เป็น​คริสเตียน​โดย​อัตโนมัติ. แดเนียล ซึ่ง​เป็น​ผู้ปกครอง​และ​บิดา​ของ​บุตร​ห้า​คน ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “พ่อ​แม่​ต้อง​ใช้​เวลา​เพื่อ​ช่วย​ขจัด​ข้อ​สงสัย​ต่าง ๆ ที่​ลูก ๆ ได้​รับ​จาก​โรง​เรียน​และ​ที่​อื่น ๆ อย่าง​เลี่ยง​ไม่​ได้. เขา​ต้อง​ช่วย​ลูก ๆ อย่าง​อด​ทน​ใน​การ​หา​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​ต่าง ๆ อย่าง​เช่น ‘เรา​กำลัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​จริง ๆ หรือ? มี​ศาสนา​แท้​เพียง​ศาสนา​เดียว​จริง ๆ ไหม? ทำไม​เพื่อน​นัก​เรียน​ที่​ดู​เหมือน​จะ​มี​นิสัย​ดี​จึง​ไม่​ใช่​คน​ที่​ควร​คบ​สนิท? เป็น​เรื่อง​ผิด​เสมอ​ไป​ไหม​ที่​จะ​มี​เพศ​สัมพันธ์​ก่อน​การ​สมรส?’ ” บิดา​มารดา​ทั้ง​หลาย คุณ​สามารถ​คาด​หมาย​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​อวย​พร​ความ​พยายาม​ของ​คุณ เพราะ​พระองค์​ทรง​ใฝ่​พระทัย​ใน​สวัสดิภาพ​ของ​บุตร​ของ​คุณ​ด้วย​เช่น​กัน.

19. เหตุ​ใด​จึง​ดี​ที่​สุด​ที่​บิดา​มารดา​จะ​ศึกษา​กับ​บุตร​ด้วย​ตัว​เอง?

19 บิดา​มารดา​บาง​คน​อาจ​รู้สึก​ว่า​มี​ความ​สามารถ​ไม่​พอ​เมื่อ​มา​ถึง​เรื่อง​การ​ศึกษา​กับ​บุตร​ของ​ตน​เอง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คุณ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​รู้สึก​อย่าง​นั้น เพราะ​ไม่​มี​ใคร​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​ดี​กว่า​คุณ​ใน​การ​สอน​บุตร​ของ​คุณ. (เอเฟโซ 6:4) การ​ศึกษา​กับ​บุตร​ของ​คุณ​เอง​จะ​ทำ​ให้​คุณ​ทราบ​ได้​ด้วย​ตัว​เอง​ถึง​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​และ​ความ​คิด​ของ​เขา. คำ​พูด​ของ​เขา​แสดง​ความ​รู้สึก​จาก​ใจ​หรือ​ว่า​เป็น​แบบ​ผิว​เผิน? เขา​เชื่อ​จริง ๆ ไหม​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​กำลัง​เรียน? พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น​บุคคล​จริง​สำหรับ​เขา​ไหม? คุณ​จะ​พบ​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​รวม​ทั้ง​คำ​ถาม​สำคัญ​อื่น ๆ ได้​ก็​ต่อ​เมื่อ​คุณ​ศึกษา​กับ​บุตร​ด้วย​ตัว​คุณ​เอง.—2 ติโมเธียว 1:5.

20. บิดา​มารดา​อาจ​ทำ​ให้​การ​ศึกษา​ครอบครัว​น่า​เพลิดเพลิน​และ​เป็น​ประโยชน์​ได้​อย่าง​ไร?

20 คุณ​จะ​รักษา​ตาราง​เวลา​ศึกษา​ครอบครัว​ได้​อย่าง​ไร​เมื่อ​ได้​เริ่ม​แล้ว? โจเซฟ​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ปกครอง​และ​บิดา​ของ​บุตร​ชาย​และ​บุตร​หญิง​เล็ก ๆ กล่าว​ว่า “เช่น​เดียว​กับ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ทุก​อย่าง การ​ศึกษา​ครอบครัว​ควร​จะ​น่า​เพลิดเพลิน เป็น​สิ่ง​ที่​ทุก​คน​คอย​ท่า. เพื่อ​จะ​บรรลุ​ผล​เช่น​นี้​ใน​ครอบครัว​ของ​เรา เรา​ต้อง​ไม่​ยึด​ตาย​ตัว​เกิน​ไป​ใน​เรื่อง​เวลา. การ​ศึกษา​ของ​เรา​อาจ​ยาว​หนึ่ง​ชั่วโมง แต่​แม้​ใน​บาง​ครั้ง​เรา​มี​เวลา​แค่​สิบ​นาที เรา​ก็​ยัง​ศึกษา​กัน. สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​การ​ศึกษา​เป็น​ส่วน​เด่น​ใน​สัปดาห์​สำหรับ​ลูก ๆ คือ เรา​นำ​เอา​เรื่อง​ต่าง ๆ จาก​หนังสือ​ของ​ฉัน​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​ราว​ใน​พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล มา​แสดง​เป็น​ละคร. * ความ​ประทับใจ​และ​ความ​เข้าใจ​อย่าง​ลึกซึ้ง​ที่​เป็น​ผล​ของ​การ​ทำ​อย่าง​นี้​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​การ​พิจารณา​ให้​ได้​หลาย ๆ ย่อ​หน้า.”

21. บิด​มารดา​อาจ​สอน​บุตร​เมื่อ​ไร?

21 แน่​ละ การ​สอน​บุตร​ไม่​จำกัด​เฉพาะ​ช่วง​เวลา​ที่​ศึกษา​เป็น​ทาง​การ. (พระ​บัญญัติ 6:5-7) พยาน​ฯ ใน​ประเทศ​ไทย​ที่​กล่าว​ถึง​ใน​ตอน​ต้น​กล่าว​ว่า “ผม​จำ​ได้​ชัด​เลย​ถึง​วิธี​ที่​คุณ​พ่อ​เคย​พา​ผม​ไป​ด้วย​ใน​การ​ประกาศ โดย​ใช้​จักรยาน ไป​ยัง​พื้น​ที่​ซึ่ง​อยู่​ไกล ๆ ใน​เขต​ของ​ประชาคม​เรา. แน่นอน ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ของ​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​ของ​เรา​และ​การ​ที่​ท่าน​สอน​เรา​ใน​ทุก​สถานการณ์​นั่น​เอง​ที่​ช่วย​เรา​ให้​ตัดสิน​ใจ​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา. และ​บทเรียน​เหล่า​นั้น​ฝัง​แน่น. ผม​ยัง​คง​ทำ​งาน​ใน​เขต​งาน​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ไกล​จน​ถึง​เดี๋ยว​นี้!”

22. จะ​เกิด​ผล​เช่น​ไร​จาก​การ​ที่​คุณ ‘เอา​ใจ​ใส่​ตัว​คุณ​และ​การ​สอน​ของ​คุณ’?

22 สัก​วัน​หนึ่ง​ใน​อีก​ไม่​ช้า ใน​เวลา​อัน​เหมาะ พระ​เยซู​จะ​เสด็จ​มา​สำเร็จ​โทษ​ตาม​การ​พิพากษา​ของ​พระเจ้า​ต่อ​ระบบ​นี้. เหตุ​การณ์​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​นั้น​จะ​ผ่าน​เข้า​มา​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​เอกภพ แต่​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​รับใช้​พระองค์​ต่อ ๆ ไป​โดย​คำนึง​ถึง​ความ​รอด​ชั่วนิรันดร์. คุณ​หวัง​จะ​อยู่​ท่ามกลาง​พวก​เขา​พร้อม​กับ​ลูก ๆ และ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ของ​คุณ​ไหม? ถ้า​อย่าง​นั้น​ขอ​จำ​ไว้​ว่า “จง​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​ท่าน​และ​การ​สอน​ของ​ท่าน​อยู่​เสมอ. จง​จดจ่อ​อยู่​กับ​สิ่ง​เหล่า​นี้ เพราะ​ด้วย​การ​ทำ​อย่าง​นี้​ท่าน​จะ​ช่วย​ทั้ง​ตัว​ท่าน​เอง​และ​คน​ที่​ฟัง​ท่าน​ให้​รอด.”—1 ติโมเธียว 4:16, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 20 จัด​พิมพ์​โดย​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แห่ง​นิวยอร์ก.

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม?

• เจตคติ​ของ​เรา​ควร​เป็น​เช่น​ไร เนื่อง​จาก​เรา​ไม่​ทราบ​เวลา​แน่นอน​ที่​พระเจ้า​จะ​ทรง​พิพากษา?

• เรา​จะ ‘เอา​ใจ​ใส่​การ​สอน​ของ​เรา’ ได้​โดย​วิธี​ใด​บ้าง?

• คุณ​จะ​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​กลาย​เป็น​มิตร​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​อย่าง​ไร?

• เหตุ​ใด​จึง​สำคัญ​ที่​บิดา​มารดา​จะ​ใช้​เวลา​สอน​บุตร​ของ​ตน?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 15]

บรรยากาศ​ที่​น่า​นับถือ​แต่​เป็น​กัน​เอง​ทำ​ให้​เรียน​รู้​ได้​ดี​ขึ้น

[ภาพ​หน้า 18]

การ​แสดง​ละคร​เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล เช่น ซะโลโม​ตัดสิน​หญิง​โสเภณี​สอง​คน ทำ​ให้​การ​ศึกษา​ครอบครัว​น่า​เพลิดเพลิน