ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณจัดการกับความขัดแย้งอย่างไร?

คุณจัดการกับความขัดแย้งอย่างไร?

คุณ​จัด​การ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​อย่าง​ไร?

ทุก​วัน​เรา​ติด​ต่อ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​บุคคล​หลาก​หลาย. เรื่อง​นี้​มัก​นำ​ความ​ยินดี​และ​มุม​มอง​ใหม่ ๆ มา​ให้​เรา​เสมอ. บาง​ครั้ง นั่น​ก่อ​ความ​ขัด​แย้ง​ขึ้น​มา​ด้วย ซึ่ง​บาง​เรื่อง​เป็น​ปัญหา​ร้ายแรง ขณะ​ที่​เรื่อง​อื่น​เป็น​เพียง​สภาพ​ที่​ทำ​ให้​ลำบาก​ใจ​เล็ก​น้อย​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​ของ​เรา. ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ลักษณะ​ใด​ก็​ตาม วิธี​ที่​เรา​รับมือ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​ย่อม​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​เรา​ทาง​ด้าน​จิตใจ, ด้าน​อารมณ์, และ​ด้าน​วิญญาณ.

การ​ทำ​เท่า​ที่​เรา​สามารถ​ทำ​ได้​เพื่อ​แก้​ปัญหา​ความ​ขัด​แย้ง​อย่าง​ที่​น่า​พอ​ใจ​นั้น​จะ​เอื้ออำนวย​ให้​เรา​มี​ชีวิต​ที่​มี​สุขภาพ​ดี​ขึ้น​และ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​สงบ​สุข​มาก​ขึ้น​กับ​คน​อื่น. สุภาษิต​โบราณ​กล่าว​ว่า “ใจ​ที่​สงบ​เป็น​ความ​จำเริญ​ชีวิต​ฝ่าย​กาย.”—สุภาษิต 14:30.

ที่​แตกต่าง​กัน​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด​ก็​คือ​ความ​จริง​ที่​ว่า “คน​ที่​ไม่​มี​อำนาจ​บังคับ​ระงับ​ใจ​ของ​ตน​เอง​ก็​เป็น​เหมือน​เมือง​ที่​หัก​พัง​และ​ไม่​มี​กำแพง​เมือง.” (สุภาษิต 25:28) ใคร​บ้าง​ใน​พวก​เรา​จะ​ต้องการ​ให้​ความ​คิด​ผิด ๆ จู่​โจม​ตัว​เรา​อย่าง​ง่าย​ดาย​ซึ่ง​อาจ​เป็น​เหตุ​ให้​เรา​ปฏิบัติ​ใน​แนว​ทาง​ที่​ไม่​สม​ควร—แนว​ทาง​ที่​อาจ​นำ​ความ​เสียหาย​มา​สู่​คน​อื่น​และ​ตัว​เรา​ด้วย? การ​ตอบ​โต้​ด้วย​ความ​โกรธ​อย่าง​ไม่​มี​การ​ควบคุม​อาจ​ทำ​ให้​เป็น​เช่น​นั้น​ได้​ที​เดียว. ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา พระ​เยซู​ทรง​แนะ​นำ​ให้​เรา​ตรวจ​สอบ​เจตคติ​ของ​เรา ซึ่ง​อาจ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​วิธี​ที่​เรา​จัด​การ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​ใด ๆ ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น​ระหว่าง​เรา​กับ​คน​อื่น. (มัดธาย 7:3-5) แทน​ที่​เรา​จะ​ติเตียน​คน​อื่น เรา​ควร​คิด​ถึง​วิธี​ที่​เรา​สามารถ​ปลูกฝัง​และ​รักษา​ไว้​ซึ่ง​มิตรภาพ​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​ทัศนะ​และ​ภูมิหลัง​ต่าง​จาก​เรา.

เจตคติ​ของ​เรา

ขั้น​แรก​ใน​การ​แก้ไข​ปัญหา​ความ​ขัด​แย้ง​ที่​คิด​เอา​เอง​หรือ​ที่​เป็น​เรื่อง​จริง​คือ ยอม​รับ​ว่า​เรา​ไว​ต่อ​ความ​คิด​และ​เจตคติ​ที่​ผิด. พระ​คัมภีร์​เตือน​ใจ​เรา​ว่า เรา​ทุก​คน​ทำ​บาป “และ​ขาด​การ​ถวาย​เกียรติยศ​แก่​พระเจ้า.” (โรม 3:23) นอก​จาก​นี้ ความ​สังเกต​เข้าใจ​อาจ​เผย​ให้​เห็น​ว่า ต้น​เหตุ​แห่ง​ปัญหา​ของ​เรา​ไม่​ได้​อยู่​ที่​คน​อื่น. ใน​เรื่อง​นี้ ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​ประสบการณ์​ของ​โยนา.

โดย​คำ​บัญชา​จาก​พระ​ยะโฮวา โยนา​ได้​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​นีนะเว​เพื่อ​ประกาศ​เกี่ยว​กับ​การ​พิพากษา​ของ​พระเจ้า​ที่​กำลัง​จะ​มา​ถึง​ชาว​เมือง​นั้น. ผล​ที่​น่า​ยินดี​คือ ชาว​เมือง​นีนะเว​ทั้ง​สิ้น​กลับ​ใจ​และ​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้. (โยนา 3:5-10) พระ​ยะโฮวา​ทรง​รู้สึก​ว่า​เจตคติ​ที่​กลับ​ใจ​ของ​พวก​เขา​สม​ควร​ได้​รับ​การ​ให้​อภัย ดัง​นั้น พระองค์​ทรง​ไว้​ชีวิต​พวก​เขา. “แต่​เหตุ​การณ์​นี้​ไม่​เป็น​ที่​พอ​ใจ​แก่​โยนา​อย่าง​ยิ่ง, ท่าน​โกรธ​มาก.” (โยนา 4:1) ปฏิกิริยา​ของ​โยนา​ต่อ​ความ​เมตตา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ที่​น่า​ตกตะลึง. ทำไม​โยนา​จะ​มา​โกรธ​ขึ้ง​เอา​กับ​พระ​ยะโฮวา? ดู​เหมือน​ว่า โยนา​ถูก​ครอบ​งำ​ด้วย​ความ​รู้สึก​ของ​ตน​เอง คิด​ว่า​เขา​เสีย​หน้า​ใน​ชุมชน. เขา​มิ​ได้​หยั่ง​รู้​ค่า​ความ​เมตตา​ของ​พระ​ยะโฮวา. ด้วย​ความ​กรุณา พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​โยนา​ได้​รับ​บทเรียน​ซึ่ง​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ใช้​ได้​จริง​ซึ่ง​ช่วย​เขา​ให้​เปลี่ยน​เจตคติ​และ​เห็น​คุณค่า​อัน​เลิศ​ล้ำ​แห่ง​ความ​เมตตา​ของ​พระเจ้า. (โยนา 4:7-11) ปรากฏ​ชัด​ว่า​โยนา​จำเป็น​ต้อง​เปลี่ยน​เจตคติ หา​ใช่​พระ​ยะโฮวา​ไม่.

เช่น​เดียว​กัน บาง​ครั้ง​เรา​อาจ​จำเป็น​ต้อง​เปลี่ยน​เจตคติ​ของ​เรา​เอง​ต่อ​เรื่อง​ใด​เรื่อง​หนึ่ง​ไหม? อัครสาวก​เปาโลตักเตือน​เรา​ว่า “ใน​การ​ให้​เกียรติ​กัน จง​นำ​หน้า.” (โรม 12:10, ล.ม.) ท่าน​หมายความ​อย่าง​ไร? ใน​แง่​หนึ่ง ท่าน​สนับสนุน​เรา​ให้​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​และ​ปฏิบัติ​กับ​คริสเตียน​คน​อื่น​ด้วย​ความ​นับถือ​สุด​ซึ้ง​และ​คำนึง​ถึง​ศักดิ์ศรี. นี่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ยอม​รับ​ว่า​แต่​ละ​บุคคล​มี​สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​เลือก​อย่าง​เสรี. เปาโล​เตือน​ใจ​เรา​ด้วย​ว่า “ทุก​คน​ต้อง​แบก​ภาระ​ของ​ตน​เอง.” (ฆะลาเตีย 6:5) ฉะนั้น ก่อน​ความ​ขัด​แย้ง​ก่อ​ความ​ร้าว​ฉาน​ขึ้น คง​จะ​เป็น​การ​ฉลาด​สัก​เพียง​ไร​ที่​จะ​พิจารณา​ว่า​เรา​จำเป็น​ต้อง​ปรับ​เปลี่ยน​เจตคติ​ของ​ตัว​เอง​หรือ​ไม่! เรา​ต้อง​พยายาม​อย่าง​แข็งขัน​ที่​จะ​สะท้อน​ความ​คิด​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​รักษา​สันติ​สุข​กับ​คน​อื่น​ซึ่ง​รัก​พระเจ้า​อย่าง​แท้​จริง.—ยะซายา 55:8, 9.

วิธี​แก้​ปัญหา​ของ​เรา

ขอ​ให้​นึก​ภาพ​เด็ก​เล็ก ๆ สอง​คน​ยื้อ​ยุด​ของ​เล่น​ชิ้น​เดียว​กัน ต่าง​คน​ต่าง​ดึง​แรง​ขึ้น​เรื่อย ๆ เพื่อ​จะ​ได้​ของ​นั้น. อาจ​มี​การ​ใช้​ถ้อย​คำ​ที่​แสดง​ถึง​ความ​โกรธ​ใน​การ​ยื้อ​แย่ง​นั้น​กระทั่ง​ใน​ที่​สุด​ฝ่าย​หนึ่ง​ปล่อย​มือ​จาก​ของ​นั้น หรือ​มี​คน​อื่น​เข้า​มา​ไกล่เกลี่ย.

เรื่อง​ราว​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​บอก​เรา​ว่า อับราฮาม​ได้​ยิน​เรื่อง​การ​โต้​เถียง​ที่​เกิด​ขึ้น​ระหว่าง​คน​เลี้ยง​สัตว์​ของ​ท่าน​กับ​คน​เลี้ยง​สัตว์​ของ​โลต​หลาน​ชาย​ของ​ท่าน. อับราฮาม​เป็น​ฝ่าย​ริเริ่ม​เข้า​ไป​พูด​กับ​โลต​ว่า “ขอ​อย่า​ให้​เรา​ทุ่มเถียง​กัน​เลย; อย่า​ให้​คน​เลี้ยง​สัตว์​ของ​เรา​กับ​คน​เลี้ยง​สัตว์​ของ​เจ้า​ทะเลาะ​วุ่นวาย​กัน​เลย: เพราะ​เรา​เป็น​ญาติ​สนิท​กัน.” อับราฮาม​มี​ความ​ตั้งใจ​แน่วแน่​ที่​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้​ความ​ขัด​แย้ง​ใด ๆ มา​ทำลาย​ความ​สัมพันธ์​ของ​พวก​เขา. โดย​ต้อง​แลก​ด้วย​อะไร? ท่าน​พร้อม​จะ​สละ​สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​เลือก​ใน​ฐานะ​เป็น​คน​ที่​สูง​วัย​กว่า; ท่าน​พร้อม​ที่​จะ​สละ​อะไร​บาง​อย่าง. อับราฮาม​ยอม​ให้​โลต​เลือก​ที่​ที่​เขา​ต้องการ​สำหรับ​ครอบครัว​และ​ฝูง​สัตว์. ต่อ​มา​โลต​ได้​เลือก​บริเวณ​ที่​เขียว​ขจี​ของ​เมือง​ซะโดม​และ​กะโมรา​สำหรับ​ตัว​เอง. อับราฮาม​กับ​โลต​แยก​ทาง​กัน​โดย​สันติ.—เยเนซิศ 13:5-12.

เพื่อ​รักษา​ไว้​ซึ่ง​สัมพันธภาพ​ที่​สงบ​สุข​กับ​คน​อื่น เรา​พร้อม​จะ​ลง​มือ​ปฏิบัติ​ด้วย​น้ำใจ​ดัง​ที่​อับราฮาม​ได้​แสดง​นั้น​ไหม? เรื่อง​ราว​ตอน​นี้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​วาง​แบบ​อย่าง​ที่​ดี​เลิศ​ไว้​ให้​เรา​เลียน​แบบ​เมื่อ​จัด​การ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง. อับราฮาม​ได้​ขอร้อง​ว่า “ขอ​อย่า​ให้​เรา​ทุ่มเถียง​กัน​เลย.” ความ​ปรารถนา​อย่าง​จริง​ใจ​ของ​อับราฮาม​คือ​ที่​จะ​บรรลุ​ถึง​วิธี​แก้​ปัญหา​อย่าง​สันติ. แน่นอน คำ​เชื้อเชิญ​ที่​จะ​รักษา​สัมพันธภาพ​อย่าง​สงบ​สุข​เช่น​นั้น​คง​ช่วย​ขจัด​ความ​เข้าใจ​ผิด​ใด ๆ. แล้ว​อับราฮาม​ก็​จบ​ลง​ด้วย​คำ​พูด​ที่​ว่า “เพราะ​เรา​เป็น​ญาติ​สนิท​กัน.” ไฉน​จะ​ยอม​เสีย​สัมพันธภาพ​อัน​ล้ำ​ค่า​ดัง​กล่าว​ไป​เพราะ​เห็น​แก่​สิ่ง​ที่​ชอบ​เป็น​ส่วน​ตัว​หรือ​เพราะ​ความ​หยิ่ง? อับราฮาม​มอง​เห็น​ชัด​เสมอ​ว่า​อะไร​สำคัญ. ท่าน​ทำ​เช่น​นั้น​อย่าง​น่า​นับถือ​และ​ด้วย​ความ​นับถือ​ตัว​เอง ขณะ​เดียว​กัน​ก็​คำนึง​ถึง​ศักดิ์ศรี​หลาน​ชาย​ของ​ท่าน.

แม้​เกิด​สถานการณ์​ซึ่ง​อาจ​จำเป็น​ต้อง​มี​การ​ไกล่เกลี่ย​จาก​บุคคล​อื่น​เพื่อ​จะ​แก้ไข​ปัญหา​ความ​ขัด​แย้ง​กัน จะ​ดี​กว่า​มาก​สัก​เพียง​ไร​ถ้า​สามารถ​จัด​การ​เรื่อง​นั้น​เป็น​ส่วน​ตัว! พระ​เยซู​ทรง​สนับสนุน​เรา​ให้​เป็น​ฝ่าย​ริเริ่ม​ใน​การ​คืน​ดี​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา หาก​จำเป็น​ก็​ขอ​โทษ. * (มัดธาย 5:23, 24, ล.ม.) นั่น​จะ​ต้อง​ใช้​ความ​ถ่อม หรือ​จิตใจ​อ่อนน้อม แต่​เปโตร​เขียน​ว่า “จง​คาด​เอว​ตน​เอง​ไว้​ด้วย​จิตใจ​อ่อนน้อม​ต่อ​กัน​และ​กัน เพราะ​พระเจ้า​ทรง​ต่อ​ต้าน​ผู้​ที่​หยิ่ง​ยโส แต่​พระองค์​ทรง​ประทาน​พระ​กรุณา​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ​แก่​ผู้​ที่​ถ่อม​ใจ.” (1 เปโตร 5:5, ล.ม.) วิธี​ที่​เรา​ปฏิบัติ​กับ​เพื่อน​ร่วม​นมัสการ​มี​ผล​กระทบ​โดย​ตรง​ต่อ​สัมพันธภาพ​ของ​เรา​กับ​พระเจ้า.—1 โยฮัน 4:20.

ภาย​ใน​ประชาคม​คริสเตียน เรา​อาจ​ถูก​ขอร้อง​ให้​สละ​สิทธิ์​เพื่อ​จะ​รักษา​ไว้​ซึ่ง​สันติ​สุข. คน​เหล่า​นั้น​ที่​สมทบ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ขณะ​นี้​มี​จำนวน​มาก​พอ​สม​ควร​ที่​ได้​เข้า​มา​ใน​ครอบครัว​ผู้​นมัสการ​แท้​ของ​พระเจ้า​ใน​ห้า​ปี​ที่​แล้ว. เรื่อง​นี้นำ​ความ​ยินดี​มา​สู่​หัวใจ​ของ​เรา​เสีย​จริง ๆ! วิธี​ที่​เรา​ประพฤติ​ตัว​มี​ผล​กระทบ​อย่าง​แน่นอน​ต่อ​คน​เหล่า​นี้​และ​คน​อื่น​ใน​ประชาคม. นี่​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​ดี​ใน​การ​คำนึง​ถึง​อย่าง​รอบคอบ​ต่อ​การ​ที่​เรา​เลือก​ความ​บันเทิง, งาน​อดิเรก, กิจกรรม​ทาง​สังคม, หรือ​งาน​อาชีพ โดย​พิจารณา​ว่า​คน​อื่น​อาจ​มอง​เรา​อย่าง​ไร. การ​กระทำ​หรือ​คำ​พูด​ของ​เรา​อย่าง​ใด​อย่าง​หนึ่ง​อาจ​ทำ​ให้​เข้าใจ​ผิด​และ​ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​เป็น​สาเหตุ​ทำ​ให้​คน​อื่น​สะดุด​ไหม?

อัครสาวก​เปาโล​เตือน​ใจ​เรา​ว่า “เรา​ทำ​สิ่ง​สารพัตร​ได้​ไม่​มี​ใคร​ห้าม แต่​ไม่​สม​ควร​ที่​เรา​จะ​ทำ​ทุก​สิ่ง. เรา​ทำ​ทุก​สิ่ง​ได้​ไม่​มี​ใคร​ห้าม แต่​ไม่​ใช่​ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​กระทำ​นั้น​จะ​ทำ​ให้​เรา​เจริญ​ขึ้น. อย่า​ให้​ผู้​ใด​กระทำ​อะไร​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ตน​เอง​เท่า​นั้น แต่​ให้​คิด​ถึง​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​ด้วย.” (1 โกรินโธ 10:23, 24) ใน​ฐานะ​คริสเตียน เรา​ห่วงใย​ด้วย​น้ำ​ใส​ใจ​จริง​ใน​การ​เสริม​สร้าง​ความ​รัก​และ​เอกภาพ​ของ​ภราดรภาพ​คริสเตียน.—บทเพลง​สรรเสริญ 133:1; โยฮัน 13:34, 35.

ถ้อย​คำ​ที่​ทำ​ให้​คืน​ดี​กัน

คำ​พูด​อาจ​ก่อ​ผล​กระทบ​ที่​มี​พลัง​ใน​ทาง​ดี. “ถ้อย​คำ​ที่​เพราะ​หู​เป็น​เหมือน​รวง​ผึ้ง, คือ​มี​รส​หวาน​แก่​จิตต์​ใจ, และ​ทำ​ให้​กะดูก​สมบูรณ์​ขึ้น.” (สุภาษิต 16:24) เรื่อง​ราว​ที่​ฆิดโอน​หลีก​เลี่ยง​การ​ต่อ​สู้​กับ​พวก​เอ็ฟรายิม​ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้​นั้น​เป็น​ตัว​อย่าง​แสดง​ให้​เห็น​ความ​จริง​ของ​สุภาษิต​ข้อ​นี้.

ฆิดโอน​ซึ่ง​เข้า​สู้​รบ​อย่าง​หนัก​กับ​พวก​มิดยาน ได้​เรียก​ตระกูล​เอ็ฟรายิม​ไป​ช่วย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม หลัง​จาก​การ​สู้​รบ​เสร็จ​สิ้น พวก​เอ็ฟรายิม​หัน​มา​เล่น​งาน​ฆิดโอน​และ​บ่น​อย่าง​เจ็บ​แค้น​ที่​ท่าน​ไม่​ได้​เรียก​พวก​เขา​ตั้ง​แต่​ตอน​เริ่ม​ของ​การ​สู้​รบ. บันทึก​กล่าว​ว่า “ฝูง​ชน . . . จึง​พูด​ว่า​กล่าว​แก่​ฆิดโอน​อย่าง​แข็งแรง [“พวก​เขา​พยายาม​อย่าง​จริงจัง​ที่​จะ​หา​เรื่อง​ทะเลาะ​กับ​ท่าน,” ล.ม.].” ฆิดโอน​ตอบ​ว่า “เรา​ได้​ทำ​อะไร​เล่า, ถ้า​จะ​เปรียบ​เทียบ​กับ​การ​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ก็​สู้​ไม่​ได้? ผล​องุ่น​ของ​พวก​เอ็ฟรายิม​ที่​เหลือ​พ้น​มือ​ของ​ผู้​เก็บ​ก็​มาก​กว่า​ผล​ของ​พวก​อะบีเอศรี​ที่​เก็บ​ได้​ทั้ง​หมด​มิ​ใช่​หรือ? พระเจ้า​ทรง​มอบ​โอเรบ​และ​เซพ​เจ้านาย​มิดยาน, ไว้​ใน​มือ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​แล้ว: การ​ที่​เรา​กระทำ​นั้น​จะ​เทียบ​สู้​กับ​การ​ของ​ท่าน​ไม่​ได้?” (วินิจฉัย 8:1-3) โดย​คำ​พูด​ที่​เลือก​อย่าง​เหมาะ​สม​ด้วย​ใจ​เย็น ๆ ฆิดโอน​หลีก​เลี่ยง​สิ่ง​ที่​อาจ​กลาย​เป็น​สงคราม​ระหว่าง​ตระกูล​ที่​ยัง​ความ​หายนะ​นั้น​ได้. คน​เหล่า​นั้น​ใน​ตระกูล​เอ็ฟรายิม​อาจ​มี​ปัญหา​เกี่ยว​กับ​การ​ถือ​ว่า​ตัว​เอง​สำคัญ​และ​มี​ความ​หยิ่ง. แต่​นั่น​มิ​ได้​ทำ​ให้​ฆิดโอน​เลิก​ความ​พยายาม​ที่​จะ​ทำ​ให้​เกิด​ผล​ที่​เป็น​ความ​สงบ​สุข. เรา​จะ​ทำ​คล้าย​กัน​ได้​ไหม?

ความ​โกรธ​อาจ​พุ่ง​ขึ้น​มา​ภาย​ใน​ตัว​คน​อื่น​และ​ก่อ​ความ​เป็น​ปรปักษ์​ต่อ​เรา. จง​ยอม​รับ​ความ​รู้สึก​ของ​เขา และ​พยายาม​เข้าใจ​ทัศนะ​ของ​เขา. เรา​อาจ​ได้​มี​ส่วน​อยู่​บ้าง​ใน​การ​ทำ​ให้​เขา​เกิด​ความ​รู้สึก​นั้น​ไหม? ถ้า​เช่น​นั้น ทำไม​ไม่​ยอม​รับ​การ​ที่​เรา​มี​ส่วน​ก่อ​ความ​ยุ่งยาก​และ​แสดง​ความ​เสียใจ​ที่​ทำ​ให้​ปัญหา​เพิ่ม​ขึ้น. คำ​พูด​ที่​ไตร่ตรอง​มา​อย่าง​ดี​ไม่​กี่​คำ​อาจ​ทำ​ให้​สัมพันธภาพ​ที่​ถูก​ทำลาย​นั้น​กลับ​ดี​ดัง​เดิม. (ยาโกโบ 3:4) บาง​คน​ที่​อารมณ์​เสีย​อาจ​ต้องการ​แค่​ที่​เรา​ทำ​ให้​เขา​สบาย​ใจ​ด้วย​ความ​กรุณา. คัมภีร์​ไบเบิล​ชี้​ชัด​ว่า “ที่​ไหน​ไม่​มี​ฟืน​ไฟ​ก็​ดับ.” (สุภาษิต 26:20) ถูก​แล้ว ถ้อย​คำ​ที่​เลือก​อย่าง​ระมัดระวัง​และ​พูด​ด้วย​น้ำใจ​ที่​ถูก​ต้อง​อาจ “กระทำ​ให้​ความ​โกรธ​ผ่าน​พ้น​ไป” และ​ปรากฏ​ว่า​เป็น​การ​ทำ​ให้​คืน​ดี​กัน.—สุภาษิต 15:1.

อัครสาวก​เปาโล​แนะ​นำ​ว่า “หาก​เป็น​ได้ ตราบ​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย จง​อยู่​อย่าง​สันติ​กับ​คน​ทั้ง​ปวง.” (โรม 12:18, ล.ม.) เป็น​ความ​จริง​ที่​เรา​ไม่​สามารถ​ควบคุม​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น แต่​เรา​สามารถ​ทำ​ส่วน​ของ​เรา​ได้​เพื่อ​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข. แทน​ที่​จะ​ถูก​ครอบ​งำ​ด้วย​ปฏิกิริยา​ที่​ไม่​สมบูรณ์​ของ​เรา​เอง​หรือ​ของ​คน​อื่น เรา​สามารถ​ลง​มือ​ทำ​ใน​ตอน​นี้​ที่​จะ​นำ​หลักการ​ที่​ชอบ​ด้วย​เหตุ​ผล​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ใช้. การ​จัด​การ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​ต่าง ๆ ใน​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​สั่ง​สอน​เรา จะ​ยัง​ผล​ด้วย​สันติ​และ​ความ​สุข​ชั่วนิรันดร์​สำหรับ​เรา.—ยะซายา 48:17.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 13 ดู​บทความ​เรื่อง “จง​ให้​อภัย​จาก​หัวใจ​ของ​คุณ” และ “คุณ​อาจ​ได้​พี่​น้อง​คืน​มา” ใน​หอสังเกตการณ์ ฉบับ​วัน​ที่ 15 ตุลาคม 1999.

[ภาพ​หน้า 24]

เรา​ยืนกราน​ใน​การ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ตาม​วิธี​การ​ของ​เรา​เอง​ไหม?

[ภาพ​หน้า 25]

อับราฮาม​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ใน​การ​เป็น​ฝ่าย​ยอม​เพื่อ​จะ​แก้ไข​ปัญหา​ความ​ขัด​แย้ง