ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

หลักศีลธรรมในคัมภีร์ไบเบิลดีที่สุดไหม?

หลักศีลธรรมในคัมภีร์ไบเบิลดีที่สุดไหม?

หลัก​ศีลธรรม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ดี​ที่​สุด​ไหม?

“สังคม​จำเป็น​ต้อง​มี​โครง​สร้าง​ของ​ค่า​นิยม​พื้น​ฐาน​ที่​ให้​ความ​ปลอด​ภัย​และ​การ​ชี้​นำ​แก่​สมาชิก​ของ​สังคม​นั้น.” นัก​เขียน​และ​โฆษก​สถานี​โทรทัศน์​ชาว​เยอรมัน​ผู้​มี​ประสบการณ์​คน​หนึ่ง​ได้​แสดง​ความ​เห็น​ดัง​กล่าว. นั่น​ฟัง​ดู​มี​เหตุ​ผล​อย่าง​แน่นอน. เพื่อ​ที่​สังคม​มนุษย์​จะ​มั่นคง​และ​เจริญ​รุ่งเรือง ผู้​คน​ต้อง​มี​หลัก​พื้น​ฐาน​ของ​มาตรฐาน​อัน​เป็น​ที่​ยอม​รับ​กัน​โดย​ทั่ว​ไป​ซึ่ง​ระบุ​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด อะไร​ดี​อะไร​ไม่​ดี. ปัญหา​คือ​ว่า มาตรฐาน​อะไร​ดี​ที่​สุด ทั้ง​สำหรับ​สังคม​และ​สมาชิก​ของ​สังคม​นั้น?

หาก​ค่า​นิยม​ด้าน​ศีลธรรม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​มาตรฐาน​ที่​มี​การ​นำ​มา​ใช้​แล้ว ค่า​นิยม​เหล่า​นั้น​น่า​จะ​ช่วย​คน​เรา​เป็น​ราย​บุคคล​ให้​ดำเนิน​ชีวิต​ที่​มั่นคง​และ​มี​ความ​สุข. ใน​ขอบ​เขต​ที่​กว้าง​ออก​ไป​อีก ค่า​นิยม​เหล่า​นั้น​น่า​จะ​ทำ​ให้​สังคม​ของ​ผู้​คน​ซึ่ง​ปฏิบัติ​ตาม​ค่า​นิยม​เหล่า​นั้น​มี​ความ​สุข​มาก​ขึ้น​และ​มั่นคง​ยิ่ง​ขึ้น. เป็น​เช่น​นั้น​ไหม? ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​กล่าว​ไว้​ใน​ประเด็น​ที่​สำคัญ​สอง​ประการ: ความ​ซื่อ​สัตย์​ใน​ชีวิต​สมรส​และ​ความ​ซื่อ​สัตย์​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน.

ยึด​มั่น​อยู่​กับ​คู่​ชีวิต​ของ​คุณ

พระ​ผู้​สร้าง​ของ​เรา​ได้​ทรง​สร้าง​อาดาม ครั้น​แล้ว​ก็​สร้าง​ฮาวา​เป็น​คู่​ของ​เขา. การ​มา​อยู่​ร่วม​กัน​ของ​เขา​ทั้ง​สอง​เป็น​การ​สมรส​ครั้ง​แรก​ใน​ประวัติศาสตร์​และ​ควร​เป็น​ความ​สัมพันธ์​ที่​ยั่งยืน. พระเจ้า​ตรัส​ว่า “ผู้​ชาย​จึง​จะ​ละ​บิดา​มารดา​ของ​ตน​ไป​ผูก​พัน​อยู่​กับ​ภรรยา.” ประมาณ 4,000 ปี​ต่อ​มา พระเยซู​คริสต์​ได้​ตรัส​ซ้ำ​มาตรฐาน​การ​สมรส​นี้​สำหรับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ทั้ง​สิ้น. นอก​จาก​นี้ พระองค์​ตรัส​ว่า​เพศ​สัมพันธ์​นอก​สาย​สมรส​นั้น​ผิด.—เยเนซิศ 1:27, 28; 2:24; มัดธาย 5:27-30; 19:5.

ตาม​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​นั้น ปัจจัย​สำคัญ​สอง​ประการ​ที่​นำ​ไป​สู่​ชีวิต​สมรส​ที่​มี​ความ​สุข​คือ​ความ​รัก​และ​ความ​นับถือ​กัน​ของ​ทั้ง​สอง​ฝ่าย. สามี​ซึ่ง​เป็น​ประมุข​ของ​ครอบครัว ควร​แสดง​ความ​รัก​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​โดย​แสวง​หา​ผล​ประโยชน์​อัน​ดี​ที่​สุด​ของ​ภรรยา. เขา​ต้อง​อยู่​กิน​กับ​เธอ “โดย​ใช้​ความ​รู้” และ​ไม่​ควร “พูด​คำ​ขมขื่น” กับ​เธอ. ภรรยา​ต้อง​ปฏิบัติ​กับ​สามี​ด้วย “ความ​นับถือ​อย่าง​สุด​ซึ้ง.” หาก​คู่​สมรส​ปฏิบัติ​ตาม​หลักการ​เหล่า​นี้​แล้ว ก็​สามารถ​หลีก​เลี่ยง​หรือ​เอา​ชนะ​ความ​ยุ่งยาก​ส่วน​ใหญ่​ใน​ชีวิต​สมรส​ได้. สามี​จะ​ต้องการ​อยู่​กับ​ภรรยา​ต่อ ๆ ไป และ​ภรรยา​ก็​ต้องการ​อยู่​กับ​สามี​ต่อ ๆ ไป.—1 เปโตร 3:1-7; โกโลซาย 3:18, 19; เอเฟโซ 5:22-33, ล.ม.

มาตรฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​การ​อยู่​กับ​คู่​สมรส​ของ​ตน​ต่อ ๆ ไป​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​เอื้ออำนวย​ต่อ​ชีวิต​สมรส​ที่​มี​ความ​สุข​ไหม? ขอ​พิจารณา​ผล​จาก​การ​สำรวจ​ที่​ทำ​ใน​เยอรมนี​ก็​แล้ว​กัน. มี​การ​ถาม​ผู้​คน​ว่า​ปัจจัย​ไหน​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​สำหรับ​ชีวิต​สมรส​ที่​เป็น​สุข. ปัจจัย​สำคัญ​ที่​สุด​อย่าง​หนึ่ง​ที่​มี​การ​กล่าว​ถึง​คือ ความ​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​กัน​และ​กัน. คุณ​คง​จะ​เห็น​ด้วย​มิ​ใช่​หรือ​ว่า คน​ที่​สมรส​แล้ว​มี​ความ​สุข​มาก​กว่า​เมื่อ​เขา​รู้​ว่า​คู่​ของ​ตน​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์?

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ถ้า​เกิด​ปัญหา​ขึ้น?

แต่​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​หาก​สามี​กับ​ภรรยา​มี​ความ​ขัด​แย้ง​กัน​อย่าง​รุนแรง? จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ถ้า​ความ​รัก​ของ​เขา​ทั้ง​สอง​จืด​จาง​ลง? ภาย​ใต้​สภาพการณ์​เช่น​นั้น ดี​ที่​สุด​มิ​ใช่​หรือ​ที่​จะ​ทำ​ให้​ชีวิต​สมรส​สิ้น​สุด​ลง? หรือ​ว่า​มาตรฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​การ​อยู่​กับ​คู่​สมรส​ต่อ ๆ ไป​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ยัง​คง​เป็น​สิ่ง​ที่​มี​เหตุ​ผล​พึง​ปฏิบัติ​อยู่?

ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​ยอม​รับ​ว่า​คู่​สมรส​ทุก​คู่​จะ​มี​ปัญหา​อัน​เป็น​ผล​มา​จาก​การ​เป็น​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์. (1 โกรินโธ 7:28) กระนั้น​ก็​ตาม คู่​สมรส​ซึ่ง​ปฏิบัติ​ตาม​มาตรฐาน​ด้าน​ศีลธรรม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​พยายาม​จะ​ให้​อภัย​กัน​และ​หา​ทาง​แก้​ปัญหา​ต่าง ๆ ด้วย​กัน. แน่นอน มี​สภาพการณ์​ต่าง ๆ—เช่น การ​เล่นชู้​หรือ​การ​ทำ​ร้าย​ร่าง​กาย—ที่​คริสเตียน​อาจ​พิจารณา​อย่าง​เหมาะ​สม​ถึง​การ​แยก​กัน​อยู่​หรือ​การ​หย่า. (มัดธาย 5:32; 19:9) แต่​การ​ทำ​ให้​ชีวิต​สมรส​สิ้น​สุด​ลง​อย่าง​หุนหัน​โดย​ไม่​มี​เหตุ​ผล​อัน​ควร​จริง ๆ หรือ​เพื่อ​จะ​มี​คู่​ใหม่​นั้น​เผย​ให้​เห็น​การ​ไม่​คำนึง​ถึง​คน​อื่น​อย่าง​เห็น​แก่​ตัว. การ​ทำ​เช่น​นั้น​มิ​ได้​นำ​ความ​มั่นคง​หรือ​ความ​สุข​มา​สู่​ชีวิต​ของ​คน​เรา​อย่าง​แน่นอน. ขอ​ให้​เรา​ยก​ตัว​อย่าง​ราย​หนึ่ง.

ปีเตอร์​รู้สึก​ว่า​ชีวิต​สมรส​ของ​เขา​ไม่​มี​ชีวิต​ชีวา​เหมือน​ก่อน. * ดัง​นั้น เขา​จึง​ทิ้ง​ภรรยา​แล้ว​ย้าย​เข้า​ไป​อยู่​กับ​โมนิกา​ซึ่ง​ได้​ทิ้ง​สามี​ของ​เธอ​เช่น​กัน. เหตุ​การณ์​เป็น​ไป​อย่าง​ไร? ภาย​ใน​ไม่​กี่​เดือน ปีเตอร์​ยอม​รับ​ว่า การ​อยู่​กิน​กับ​โมนิกา “ไม่​ง่าย​อย่าง​ที่​ผม​นึก​เลย.” ทำไม​เป็น​เช่น​นั้น? ข้อ​บกพร่อง​ของ​มนุษย์​ปรากฏ​ชัด​ใน​ความ​สัมพันธ์​ใหม่​ของ​เขา​เช่น​เดียว​กับ​ที่​มี​อยู่​ใน​ความ​สัมพันธ์​เก่า. ซ้ำร้าย​ยิ่ง​กว่า​นั้น การ​ที่​เขา​ตัดสิน​ใจ​อย่าง​หุนหัน​และ​เห็น​แก่​ตัว​ทำ​ให้​เขา​ตก​เข้า​สู่​ปัญหา​ร้ายแรง​ด้าน​การ​เงิน. นอก​จาก​นี้ ความ​รู้สึก​ของ​ลูก ๆ ของ​โมนิกา​ถูก​ทำลาย​ย่อยยับ​เนื่อง​จาก​การ​เปลี่ยน​แปลง​อย่าง​ขนาน​ใหญ่​ใน​ชีวิต​ครอบครัว​ของ​พวก​เขา.

ดัง​ที่​ประสบการณ์​นี้​แสดง​ให้​เห็น เมื่อ​ชีวิต​สมรส​เผชิญ​มรสุม การ​สละ​นาวา​แห่ง​ชีวิต​คู่​ไป​มัก​ไม่​ใช่​การ​แก้​ปัญหา. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง เมื่อ​เผชิญ​กับ​พายุ​แห่ง​ความ​ยุ่งยาก การ​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​ค่า​นิยม​ด้าน​ศีลธรรม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระเจ้า บ่อย​ครั้ง​สามารถ​ทำ​ให้​นาวา​ชีวิต​คู่​ลอย​อยู่​ต่อ​ไป และ​นำ​ไป​สู่​น่าน​น้ำ​ที่​คลื่น​ลม​สงบ​กว่า. เป็น​เช่น​นี้​กับ​โทมัส​และ​โดริส.

หลัง​จาก​โทมัส​กับ​โดริส​แต่งงาน​กัน​มา 30 กว่า​ปี โทมัส​เริ่ม​ดื่ม​จัด. โดริส​จม​อยู่​ใน​ความ​ซึมเศร้า และ​เขา​ทั้ง​สอง​ถก​กัน​เรื่อง​การ​หย่า. โดริส​ได้​เผย​ความ​ใน​ใจ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง. พยาน​ฯ ได้​ชี้​ให้​โดริส​ดู​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​สมรส สนับสนุน​เธอ​ไม่​ให้​ด่วน​แยก​กัน​อยู่ แต่​ให้​ปรึกษา​กับ​สามี​ก่อน​เพื่อ​พยายาม​หา​ทาง​แก้​ปัญหา. โดริส​ได้​ทำ​เช่น​นั้น. ภาย​ใน​ไม่​กี่​เดือน ไม่​มี​การ​คิด​ถึง​การ​หย่า​อีก​ต่อ​ไป. โทมัส​และ​โดริส​พยายาม​แก้​ปัญหา​ด้วย​กัน. การ​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​ชีวิต​สมรส​มั่นคง​ขึ้น​และ​ให้​โอกาส​เขา​ทั้ง​สอง​ใน​การ​แก้​ปัญหา​ด้วย​กัน.

ความ​ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุก​สิ่ง

การ​อยู่​กับ​คู่​สมรส​ต่อ ๆ ไป​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​เรียก​ร้อง​ความ​เข้มแข็ง​ด้าน​ศีลธรรม​และ​ความ​รัก​ต่อ​หลักการ​ที่​ถูก​ต้อง. จำเป็น​ต้อง​มี​คุณลักษณะ​อย่าง​เดียว​กัน​นี้​เพื่อ​จะ​คง​ซื่อ​สัตย์​อยู่​ต่อ​ไป​ใน​โลก​ที่​ไม่​ซื่อ​สัตย์. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ไว้​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​ความ​ซื่อ​สัตย์. อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ถึง​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​ที่​อยู่​ใน​มณฑล​ยูดาย​ว่า “เรา​ปรารถนา​จะ​ประพฤติ​ตัว​ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุก​สิ่ง.” (เฮ็บราย 13:18, ล.ม.) นั่น​หมายความ​อย่าง​ไร?

บุคคล​ที่​ซื่อ​สัตย์​เป็น​คน​พูด​ความ​จริง​และ​ปราศจาก​การ​ฉ้อ​ฉล. เขา​เป็น​คน​ซื่อ​ตรง​ใน​การ​ปฏิบัติ​กับ​คน​อื่น—เป็น​คน​ตรง​ไป​ตรง​มา, น่า​นับถือ, ไม่​หลอก​ลวง​หรือ​ทำ​ให้​หลง​ผิด. นอก​จาก​นั้น บุคคล​ที่​ซื่อ​สัตย์​เป็น​คน​ที่​มี​คุณธรรม​ไม่​ฉ้อ​โกง​เพื่อน​มนุษย์. คน​ที่​ซื่อ​สัตย์​ส่ง​เสริม​บรรยากาศ​ของ​ความ​ไว้​วางใจ​และ​ความ​มั่น​ใจ ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​เจตคติ​ที่​ดี​งาม​และ​ส่ง​เสริม​มนุษยสัมพันธ์​ที่​แน่นแฟ้น.

ผู้​คน​ที่​ซื่อ​สัตย์​มี​ความ​สุข​ไหม? พวก​เขา​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​มี​ความ​สุข. ทั้ง ๆ ที่​การ​ทุจริต​และ​การ​ฉ้อ​โกง​มี​อยู่​แพร่​หลาย—หรือ​บาง​ที​เนื่อง​จาก​สภาพ​เช่น​นั้น—โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​บุคคล​ที่​ซื่อ​สัตย์​ได้​รับ​ความ​นิยม​ชม​ชอบ​จาก​คน​อื่น. จาก​การ​สำรวจ​ใน​ท่ามกลาง​คน​หนุ่ม​สาว ความ​ซื่อ​สัตย์​เป็น​คุณ​ความ​ดี​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ประเมิน​ค่า​อย่าง​สูง​ส่ง​จาก 70 เปอร์เซ็นต์​ของ​ผู้​ที่​ตอบ​คำ​ถาม. นอก​จาก​นี้ ไม่​ว่า​เรา​อยู่​ใน​วัย​ใด​ก็​ตาม ความ​ซื่อ​สัตย์​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​อันดับ​แรก​ใน​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เรา​ถือ​ว่า​เป็น​เพื่อน.

คริสติน​ถูก​สอน​ให้​ขโมย​ตั้ง​แต่​ตอน​อายุ 12 ขวบ. ตลอด​หลาย​ปี​เธอ​กลาย​เป็น​นัก​ล้วง​กระเป๋า​ที่​ช่ำชอง. เธอ​กล่าว​ว่า “มี​อยู่​ช่วง​หนึ่ง​ที่​ดิฉัน​นำ​เงิน​สด​ถึง 5,000 มาร์ก (95,000 บาท) กลับ​มา​บ้าน.” แต่​คริสติน​ถูก​จับ​กุม​หลาย​ครั้ง และ​เธอ​มี​ชีวิต​อยู่​ด้วย​การ​เสี่ยง​ต่อ​การ​ถูก​ส่ง​ตัว​เข้า​คุก​ได้​ทุก​เมื่อ. เมื่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อธิบาย​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ความ​ซื่อ​สัตย์​ให้​เธอ​ฟัง มาตรฐาน​ด้าน​ศีลธรรม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ดึงดูด​ใจ​คริสติน. เธอ​เรียน​รู้​ที่​จะ​เชื่อ​ฟัง​คำ​ตักเตือน​ที่​ว่า “ฝ่าย​คน​ที่​เคย​ลัก​ขโมย​ก็​อย่า​ให้​ลัก​ขโมย​อีก​ต่อ​ไป.”—เอเฟโซ 4:28.

เมื่อ​คริสติน​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แล้ว เธอ​ก็​ไม่​ได้​เป็น​ขโมย​อีก​ต่อ​ไป. เธอ​พยายาม​จะ​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุก​สิ่ง เนื่อง​จาก​พวก​พยาน​ฯ เน้น​หนัก​เรื่อง​ความ​ซื่อ​สัตย์​และ​คุณสมบัติ​อื่น ๆ ของ​คริสเตียน. หนังสือ​พิมพ์​เลาซิทเซอร์ รุนด์เชา รายงาน​ว่า “ข้อ​เรียก​ร้อง​ทาง​ด้าน​ศีลธรรม​ดัง​กล่าว เช่น ความ​ซื่อ​สัตย์, การ​รู้​จัก​ประมาณ​ตน, และ​ความ​รัก​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​ถือ​ได้​ว่า​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​พยาน​ฯ.” คริสติน​รู้สึก​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใน​ชีวิต​ของ​เธอ? “ตอน​นี้​ดิฉัน​มี​ความ​สุข​มาก​ขึ้น​ที่​ได้​เลิก​ขโมย. ดิฉัน​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​สมาชิก​ที่​น่า​นับถือ​ของ​สังคม.”

สังคม​ทั้ง​สิ้น​ได้​รับ​ประโยชน์

ผู้​คน​ที่​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​คู่​สมรส​และ​เป็น​คน​ซื่อ​ตรง ไม่​เพียง​แต่​จะ​ทำ​ให้​ตัว​เอง​มี​ความ​สุข​มาก​ขึ้น​เท่า​นั้น แต่​ยัง​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​สังคม​ทั่ว​ไป​ด้วย. นาย​จ้าง​ชอบ​คน​งาน​ที่​ไม่​ฉ้อ​โกง​มาก​กว่า. เรา​ทุก​คน​อยาก​มี​เพื่อน​บ้าน​ที่​ไว้​ใจ​ได้ และ​เรา​ชอบ​ไป​ซื้อ​ของ​ใน​ร้าน​ที่​ดำเนิน​การ​โดย​พ่อค้า​ที่​ซื่อ​ตรง. เรา​นับถือ​นัก​การ​เมือง, ตำรวจ, และ​ผู้​พิพากษา​ซึ่ง​หลบ​เลี่ยง​การ​ทุจริต​มิ​ใช่​หรือ? ชุมชน​ได้​รับ​ประโยชน์​อย่าง​มาก​มาย​เมื่อ​สมาชิก​ของ​ชุมชน​นั้น​ประพฤติ​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​เนื่อง​ด้วย​หลักการ ไม่​ใช่​เพียง​แต่​เพราะ​พวก​เขา​ได้​รับ​ผล​ประโยชน์​บาง​อย่าง​ใน​การ​ทำ​เช่น​นั้น.

นอก​จาก​นี้ คู่​สมรส​ที่​ซื่อ​สัตย์​เป็น​รากฐาน​ของ​ครอบครัว​ที่​มั่นคง. และ​คน​ส่วน​ใหญ่​คง​จะ​เห็น​พ้อง​กับ​นัก​การ​เมือง​ชาว​ยุโรป​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ได้​ประกาศ​ว่า “ครอบครัว [ตาม​แบบ​แผนที่​สืบ​ทอด​มา] ยัง​คง​เป็น​ที่​พำนัก​สำคัญ​ที่​สุด​ซึ่ง​มี​ความ​ปลอด​ภัย​และ​มี​ความหมาย​สำหรับ​มนุษย์​จน​กระทั่ง​ทุก​วัน​นี้.” หน่วย​ครอบครัว​ที่​สงบ​สุข​เป็น​แหล่ง​ที่​ผู้​ใหญ่​และ​เด็ก​มี​โอกาส​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​รู้สึก​ปลอด​ภัย​ทาง​ด้าน​อารมณ์. ด้วย​เหตุ​นี้ คน​เหล่า​นั้น​ที่​ซื่อ​สัตย์​ใน​ชีวิต​สมรส​จึง​ช่วย​สร้าง​สังคม​ที่​มั่นคง.

คิด​ดู​ซิ​ว่า​ทุก​คน​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​สัก​เพียง​ไร​ถ้า​ไม่​มี​คู่​สมรส​ที่​ถูก​ทอดทิ้ง, ไม่​มี​ศาล​ที่​ตัดสิน​การ​หย่า, หรือ​การ​ฟ้องร้อง​เพื่อ​ได้​อำนาจ​เลี้ยง​ดู​เด็ก. และ​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​หาก​ไม่​มี​นัก​ล้วง​กระเป๋า, คน​ขโมย​ของ​ตาม​ร้าน, คน​โกง, ข้าราชการ​ที่​ทุจริต, หรือ​นัก​วิทยาศาสตร์​ที่​ฉ้อ​ฉล? นั่น​ฟัง​ดู​เหมือน​เป็น​แค่​ความ​ฝัน​ไหม? สำหรับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​ความ​สนใจ​แรง​กล้า​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​สิ่ง​ที่​พระ​คัมภีร์​กล่าว​เกี่ยว​กับ​อนาคต​ของ​เรา​แล้ว นี่​ไม่​ใช่​ความ​ฝัน. พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สัญญา​ว่า​ราชอาณาจักร​มาซีฮา​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​เข้า​มา​แทน​การ​ปกครอง​ของ​สังคมมนุษย์​ทั้ง​สิ้น​บน​แผ่นดิน​โลก​ใน​ไม่​ช้า. ภาย​ใต้​ราชอาณาจักร​นั้น ประชากร​ทั้ง​สิ้น​จะ​ได้​รับ​การ​สอน​ให้​ดำเนิน​ชีวิต​สอดคล้อง​กับ​หลัก​ศีลธรรม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. เมื่อ​ถึง​ตอน​นั้น “คน​สัตย์​ธรรม​จะ​ได้​แผ่นดิน​เป็น​มฤดก, และ​จะ​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​ต่อ​ไป​เป็น​นิตย์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 37:29.

หลัก​ศีลธรรม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ดี​ที่​สุด

ผู้​คน​นับ​ล้าน​ซึ่ง​ได้​พิจารณา​พระ​คัมภีร์​บริสุทธิ์​อย่าง​ถี่ถ้วน​ได้​มา​หยั่ง​รู้​เข้าใจ​ว่า​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​อาศัย​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​เหนือ​กว่า​ความ​คิด​ของ​มนุษย์​มาก​นัก. คน​เช่น​นั้น​ถือ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ควร​แก่​การ​ไว้​วางใจ​และ​เหมาะ​กับ​ชีวิต​ใน​โลก​ปัจจุบัน​ของ​เรา. พวก​เขา​ทราบ​ว่า​การ​เอา​ใจ​ใส่​ฟัง​คำ​แนะ​นำ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​ผล​ประโยชน์​อัน​ดี​ที่​สุด​ของ​เขา.

ฉะนั้น บุคคล​เช่น​นั้น​เอา​ใจ​ใส่​คำ​แนะ​นำ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ว่า “จง​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​สุด​ใจ​ของ​เจ้า, อย่า​พึ่ง​ใน​ความ​เข้าใจ​ของ​ตน​เอง: จง​รับ​พระองค์​ให้​เข้า​ส่วน​ใน​ทาง​ทั้ง​หลาย​ของ​เจ้า, และ​พระองค์​จะ​ชี้​ทาง​เดิน​ของ​เจ้า​ให้​แจ่ม​แจ้ง.” (สุภาษิต 3:5, 6) โดย​ทำ​เช่น​นั้น พวก​เขา​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​ตน​เอง​ดี​ขึ้น​อย่าง​มาก​มาย และ​พวก​เขา​ยัง​อำนวย​ประโยชน์​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อยู่​รอบ​ข้าง​เขา​ด้วย. และ​พวก​เขา​พัฒนา​ความ​มั่น​ใจ​ที่​ไม่​สั่น​คลอน​ใน “ชีวิต​อนาคต” คราว​ที่​มวล​มนุษยชาติ​ทั้ง​สิ้น​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​หลัก​ศีลธรรม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล.—1 ติโมเธียว 4:8, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 11 ชื่อ​ต่าง ๆ ใน​บทความ​นี้​เป็น​นาม​สมมุติ.

[คำ​โปรย​หน้า 5]

เมื่อ​เผชิญ​กับ​พายุ​แห่ง​ชีวิต​สมรส การ​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​บ่อย​ครั้ง​สามารถ​ทำ​ให้​นาวา​ชีวิต​คู่​ลอย​อยู่​ต่อ​ไป และ​นำ​ไป​สู่​น่าน​น้ำ​ที่​คลื่น​ลม​สงบ​กว่า

[คำ​โปรย​หน้า 6]

ทั้ง ๆ ที่​การ​ทุจริต​มี​อยู่​แพร่​หลาย—หรือ​บาง​ที​เนื่อง​จาก​สภาพ​เช่น​นั้น—โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​ผู้​คน​ที่​ซื่อ​สัตย์​ได้​รับ​ความ​นิยม​ชม​ชอบ​จาก​คน​อื่น