ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ใครเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าในปัจจุบัน?

ใครเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าในปัจจุบัน?

ใคร​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ใน​ปัจจุบัน?

“คุณวุฒิ​เพียง​พอ​ของ​เรา​นั้น​มา​จาก​พระเจ้า ผู้​ได้​ทรง​โปรด​ให้​เรา​มี​คุณวุฒิ​เพียง​พอ​อย่าง​แท้​จริง​ให้​เป็น​ผู้​รับใช้​แห่ง​สัญญา​ไมตรี​ใหม่.”—2 โกรินโธ 3:5, 6, ล.ม.

1, 2. คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​ทุก​คน​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​อะไร แต่​สิ่ง​ต่าง ๆ เปลี่ยน​ไป​อย่าง​ไร?

ใน​ศตวรรษ​แรก​แห่ง​สากล​ศักราช คริสเตียน​ทุก​คน​มี​ส่วน​ใน​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง คือ​หน้า​ที่​ใน​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี. ทุก​คน​เป็น​ผู้​ถูก​เจิม​และ​เป็น​ผู้​รับใช้​แห่ง​สัญญา​ไมตรี​ใหม่. บาง​คน​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​เพิ่ม​เติม​เป็น​พิเศษ เช่น การ​สอน​ใน​ประชาคม. (1 โกรินโธ 12:27-29; เอเฟโซ 4:11) คน​ที่​เป็น​บิดา​มารดา​มี​พันธะ​หน้า​ที่​สำคัญ​ใน​ครอบครัว. (โกโลซาย 3:18-21) แต่​ทุก​คน​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​พื้น​ฐาน​สำคัญ คือ​งาน​ประกาศ. ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​ดั้งเดิม หน้า​ที่​รับผิดชอบ​นี้​คือ​ดีอาโคนีอา—การ​บริการ หรือ​การ​รับใช้.—โกโลซาย 4:17.

2 เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป สิ่ง​ต่าง ๆ ก็​เปลี่ยน​ไป. เกิด​มี​ชน​ชั้น​พวก​หนึ่ง​ขึ้น​มา​ที่​เรียก​กัน​ว่า​พวก​นัก​บวช ซึ่ง​ได้​สงวน​สิทธิ​พิเศษ​แห่ง​การ​ประกาศ​ไว้​สำหรับ​พวก​เขา​เอง. (กิจการ 20:30) พวก​นัก​บวช​เป็น​คน​กลุ่ม​น้อย​ใน​บรรดา​คน​ที่​เรียก​ตัว​เอง​ว่า​คริสเตียน. ส่วน​คน​หมู่​มาก​นั้น​เรียก​กัน​ว่า​ฆราวาส. แม้​มี​การ​สอน​ว่า​ฆราวาส​มี​พันธะ​หน้า​ที่​บาง​อย่าง รวม​ทั้ง​การ​บริจาค​เพื่อ​ทำนุ​บำรุง​พวก​นัก​บวช แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​พวก​เขา​กลาย​เป็น​เพียง​ผู้​ฟัง​ที่​ไม่​มี​บทบาท​อะไร​ใน​การ​ประกาศ.

3, 4. (ก) บาง​คน​ใน​คริสต์​ศาสนจักร​ได้​กลาย​เป็น​ผู้​รับใช้ (นัก​เทศน์) โดย​วิธี​ใด? (ข) ใคร​ที่​ถือ​กัน​ว่า​เป็น​ผู้​รับใช้​ใน​คริสต์​ศาสนจักร และ​เหตุ​ใด​ใน​ท่ามกลาง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จึง​แตกต่าง​ออก​ไป?

3 พวก​นัก​บวช​อ้าง​ว่า​ตน​เป็น​ผู้​ทำ​หน้า​ที่​เทศนา​สั่ง​สอน (คำ​ภาษา​กรีก​ดีอาโคโนส หมาย​ถึง “ผู้​รับใช้”). * เพื่อ​จะ​เป็น​นัก​เทศน์​ได้ พวก​เขา​ต้อง​สำเร็จ​หลัก​สูตร​จาก​วิทยาลัย​หรือ​โรง​เรียน​นัก​ธรรม​และ​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง. สารานุกรม ดิ อินเตอร์​แนชันแนล สแตนดาร์ด ไบเบิล กล่าว​ว่า “ตาม​ปกติ คำ ‘แต่ง​ตั้ง’ หรือ ‘การ​แต่ง​ตั้ง’ พาด​พิง​ถึง​สถานภาพ​พิเศษ​ที่​มอบ​ให้​แก่​นัก​เทศน์​หรือ​บาทหลวง​โดย​ที่​มี​การ​ทำ​พิธี​แต่ง​ตั้ง​อย่าง​เป็น​ทาง​การ พร้อม​กับ​มี​การ​เน้น​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​หน้า​ที่​ใน​การ​ประกาศ​พระ​คำ​หรือ​การ​ประกอบ​พิธีกรรม​ทาง​ศาสนา หรือ​ทั้ง​สอง​อย่าง.” ใคร​เป็น​ผู้​แต่ง​ตั้ง​นัก​เทศน์? สารานุกรม​บริแทนนิกา​ฉบับ​ใหม่ กล่าว​ว่า “ใน​คริสตจักร​ที่​ยัง​มี​ตำแหน่ง​ราชา​คณะ การ​แต่ง​ตั้ง​นัก​เทศน์​ทำ​โดย​บิชอป​เสมอ. ใน​คริสตจักร​เพรสไบทีเรียน การ​แต่ง​ตั้ง​ทำ​โดย​นัก​เทศน์​แห่ง​คณะ​ปกครอง​เพรสไบทีเรียน.”

4 ด้วย​เหตุ​นั้น ใน​คริสตจักร​ต่าง ๆ แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​เป็น​นัก​เทศน์ (ผู้​รับใช้) ถูก​จำกัด​อย่าง​มาก. ทว่า ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น​ใน​ท่ามกลาง​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​แห่ง​ศตวรรษ​แรก.

ใคร​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​อย่าง​แท้​จริง?

5. ตาม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล มี​ใคร​บ้าง​ซึ่ง​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ผู้​รับใช้?

5 ตาม​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ผู้​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​ทั้ง​หมด—ทั้ง​ใน​สวรรค์​และ​บน​แผ่นดิน​โลก—เป็น​ผู้​รับใช้. พวก​ทูตสวรรค์​รับใช้​พระ​เยซู. (มัดธาย 4:11; 26:53; ลูกา 22:43) นอก​จาก​นั้น ทูตสวรรค์​ยัง “รับใช้​คน​เหล่า​นั้น​ที่​จะ​รับ​ความ​รอด​เป็น​มรดก.” (เฮ็บราย 1:14, ล.ม.; มัดธาย 18:10, ล.ม.) พระ​เยซู​ทรง​เป็น​ผู้​รับใช้. พระองค์​ตรัส​ว่า “บุตร​มนุษย์​เสด็จ​มา มิ​ใช่​เพื่อ​ให้​เขา​รับใช้ แต่​เพื่อ​จะ​รับใช้.” (มัดธาย 20:28, ล.ม.; โรม 15:8) ดัง​นั้น เนื่อง​จาก​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู “ดำเนิน​ตาม​รอย​พระ​บาท​ของ​พระองค์​อย่าง​ใกล้​ชิด” จึง​ไม่​แปลก​ที่​พวก​เขา​เอง​ต้อง​เป็น​ผู้​รับใช้​ด้วย.—1 เปโตร 2:21, ล.ม.

6. พระ​เยซู​ทรง​ระบุ​อย่าง​ไร​ว่า​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ต้อง​เป็น​ผู้​รับใช้?

6 ชั่ว​เวลา​ไม่​นาน​ก่อน​เสด็จ​ขึ้น​สู่​สวรรค์ พระ​เยซู​ตรัส​แก่​เหล่า​สาวก​ว่า “จง​ไป​และ​ทำ​ให้​ชน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก ให้​เขา​รับ​บัพติสมา​ใน​นาม​แห่ง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ สอน​เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้.” (มัดธาย 28:19, 20, ล.ม.) เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ต้อง​เป็น​ผู้​รับใช้​ที่​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก. สาวก​ใหม่​ที่​พวก​เขา​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น​จะ​เรียน​รู้​ใน​การ​ปฏิบัติ​ตาม​ทุก สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​มี​พระ​บัญชา รวม​ทั้ง​พระ​บัญชา​ให้​ออก​ไป​และ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก. ไม่​ว่า​ผู้​ชาย​หรือ​ผู้​หญิง ผู้​ใหญ่​หรือ​ว่า​เด็ก สาวก​แท้​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​เป็น​ผู้​รับใช้.—โยเอล 2:28, 29.

7, 8. (ก) พระ​คัมภีร์​ข้อ​ใด​บ้าง​แสดง​ว่า​คริสเตียน​แท้​ทุก​คน​เป็น​ผู้​รับใช้? (ข) เกิด​คำ​ถาม​อะไร​ขึ้น​มา​เกี่ยว​กับ​การ​แต่ง​ตั้ง?

7 สอดคล้อง​กับ​เรื่อง​นี้ ใน​วัน​เพนเตคอสเต สากล​ศักราช 33 สาวก​ทุก​คน​ของ​พระ​เยซู​ที่​ประชุม​อยู่​ด้วย​กัน ทั้ง​ชาย​และ​หญิง ได้​ร่วม​กัน​กล่าว​ถึง “การ​อิทธิ​ฤทธิ์​ของ​พระเจ้า.” (กิจการ 2:1-11) นอก​จาก​นั้น อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “ด้วย​หัวใจ​คน​เรา​สำแดง​ความ​เชื่อ​เพื่อ​ความ​ชอบธรรม แต่​ด้วย​ปาก​คน​เรา​ประกาศ​อย่าง​เปิด​เผย​เพื่อ​ความ​รอด.” (โรม 10:10, ล.ม.) เปาโล​เขียน​ถ้อย​คำ​เหล่า​นั้น​ส่ง​ไป ไม่​ใช่​ถึง​ชน​ชั้น​นัก​บวช​ใน​วง​แคบ ๆ แต่ “ถึง​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​โรม​ใน​ฐานะ​ผู้​ซึ่ง​พระเจ้า​ทรง​รัก.” (โรม 1:1, 7, ล.ม.) คล้าย​กัน ‘สิทธชน​และ​ผู้​ที่​เลื่อมใส​ศรัทธา​ทุก​คน​ซึ่ง​อยู่​ที่​เมือง​เอเฟโซ’ ต้อง “เอา​กิตติคุณ​แห่ง​สันติ​สุข​ซึ่ง​เป็น​เหตุ​ให้​เกิด​ความ​พร้อม​เพรียง​มา​สวม​เป็น​รอง​เท้า.” (เอเฟโซ 1:1; 6:15) และ​ทุก​คน​ที่​ได้​ยิน​ได้​ฟัง​จดหมาย​ซึ่ง​เขียน​ถึง​ชาว​ฮีบรู​ต้อง ‘ยึด​มั่น​กับ​การ​ประกาศ​อย่างเปิด​เผย​เกี่ยว​กับ​ความ​หวัง​ของ​พวก​เขา​โดย​ไม่​สั่น​คลอน.’—เฮ็บราย 10:23, ล.ม.

8 อย่าง​ไร​ก็​ตาม คน​เรา​กลาย​เป็น​ผู้​รับใช้​เมื่อ​ไร? กล่าว​อีก​อย่าง​คือ เขา​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เมื่อ​ไร? และ​ใคร​เป็น​ผู้​แต่ง​ตั้ง​เขา?

การ​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​รับใช้—เมื่อ​ไร?

9. พระ​เยซู​ทรง​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เมื่อ​ไร และ​โดย​ผู้​ใด?

9 เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ที่​ว่า​คน​เรา​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เมื่อ​ไร​และ​โดย​ใคร ขอ​ให้​พิจารณา​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​คริสต์. พระองค์​ไม่​มี​วุฒิบัตร​หรือ​ปริญญา​จาก​โรง​เรียน​นัก​ธรรม​เพื่อ​เป็น​หลักฐาน​ว่า​มี​การ​แต่ง​ตั้ง​พระองค์​ให้​เป็น​นัก​เทศน์ (ผู้​รับใช้) และ​พระองค์​มิ​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​จาก​มนุษย์​คน​ใด. ถ้า​อย่าง​นั้น เหตุ​ใด​เรา​จึง​อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​พระองค์​ทรง​เป็น​ผู้​รับใช้? เนื่อง​จาก​ถ้อย​คำ​ซึ่ง​ยะซายา​เขียน​โดย​การ​ดล​ใจ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ใน​พระองค์ ที่​ว่า “พระ​วิญญาณ​แห่ง​พระ​ยะโฮวา​องค์​บรม​มหิศร​สถิต​บน​ข้าพเจ้า เพราะ​เหตุ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ได้​เจิม​ข้าพเจ้า​ให้​ประกาศ​ข่าว​ดี.” (ลูกา 4:17-19; ยะซายา 61:1, ล.ม.) ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​บอก​ข่าว​ดี. โดย​ผู้​ใด? เนื่อง​จาก​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​เจิม​พระองค์​ไว้​สำหรับ​งาน​นี้ เห็น​ได้​ชัด​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​จาก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. การ​แต่ง​ตั้ง​นี้​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ไร? พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​ลง​มา​บน​พระ​เยซู​จริง ๆ เมื่อ​พระองค์​ทรง​รับ​บัพติสมา. (ลูกา 3:21, 22) ด้วย​เหตุ​นั้น จึง​เป็น​ตอน​ที่​รับ​บัพติสมา​นั่น​เอง​ที่​พระองค์​ทรง​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง.

10. ใคร​ทำ​ให้​คริสเตียน​ผู้​รับใช้​กลาย​เป็น​ผู้​มี “คุณวุฒิ​เพียง​พอ”?

10 จะ​ว่า​อย่าง​ไร​สำหรับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ใน​ศตวรรษ​แรก? เช่น​เดียว​กัน สถานภาพ​ของ​พวก​เขา​ใน​ฐานะ​ผู้​รับใช้​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา. เปาโล​กล่าว​ว่า “คุณวุฒิ​เพียง​พอ​ของ​เรา​นั้น​มา​จาก​พระเจ้า ผู้​ได้​ทรง​โปรด​ให้​เรา​มี​คุณวุฒิ​เพียง​พอ​อย่าง​แท้​จริง​ให้​เป็น​ผู้​รับใช้​แห่ง​สัญญา​ไมตรี​ใหม่.” (2 โกรินโธ 3:5, 6, ล.ม.) โดย​วิธี​ใด​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​โปรด​ให้​ผู้​นมัสการ​พระองค์​มี​คุณวุฒิ​เป็น​ผู้​รับใช้? ขอ​ให้​พิจารณา​ตัว​อย่าง​ของ​ติโมเธียว​ซึ่ง​เปาโล​เรียก​ท่าน​ว่า “ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ข่าว​ประเสริฐ​ของ​พระ​คริสต์.”—1 เธซะโลนิเก 3:2, ฉบับ​แปล​ใหม่.

11, 12. โดย​วิธี​ใด​ติโมเธียว​ทำ​ความ​ก้าว​หน้า​จน​กลาย​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​คน​หนึ่ง?

11 คำ​กล่าว​ต่อ​ไป​นี้​ซึ่ง​มี​ไป​ถึง​ติโมเธียว​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​วิธี​ที่​ท่าน​ได้​กลาย​มา​เป็น​ผู้​รับใช้: “แต่​ส่วน​ท่าน จง​ดำเนิน​ต่อ​ไป​ใน​สิ่ง​ที่​ท่าน​ได้​เรียน​รู้​และ​สิ่ง​ที่​ท่าน​ถูก​โน้ม​น้าว​ใจ​ให้​เชื่อ โดย​รู้​อยู่​ว่า​ท่าน​ได้​เรียน​รู้​จาก​ผู้​ใด และ​ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก​มา ท่าน​ได้​รู้​จัก​คำ​จารึก​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ซึ่ง​อาจ​ให้​ท่าน​ได้​ปัญญา​ถึง​ที่​รอด​ได้ โดย​ความ​เชื่อ​เกี่ยว​ด้วย​พระ​คริสต์​เยซู.” (2 ติโมเธียว 3:14, 15, ล.ม.) รากฐาน​ความ​เชื่อ​ของ​ติโมเธียว ซึ่ง​คง​ได้​กระตุ้น​ท่าน​ให้​ประกาศ​อย่าง​เปิด​เผย คือ​ความ​รู้​ใน​พระ​คัมภีร์. สิ่งที่​จำเป็น​ต้อง​ทำ​มี​เพียง​การ​อ่าน​ด้วย​ตัว​เอง​ไหม? ไม่​เลย. ติโมเธียว​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​ให้​รับ​เอา​ความ​รู้​ถ่องแท้​และ​ความ​เข้าใจ​ฝ่าย​วิญญาณ​ใน​สิ่ง​ที่​ท่าน​ได้​อ่าน. (โกโลซาย 1:9) โดย​วิธี​นี้ ติโมเธียว​ถูก “โน้ม​น้าว​ใจ​ให้​เชื่อ.” เนื่อง​จาก​ท่าน​ได้​รู้​จัก​พระ​คัมภีร์ “ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก​มา” ผู้​สอน​ท่าน​ใน​ตอน​เริ่ม​แรก​ต้อง​ได้​แก่​มารดา​และ​ยาย เพราะ​มี​หลักฐาน​ชี้​ว่า​บิดา​ท่าน​เป็น​ผู้​ไม่​มี​ความ​เชื่อ.—2 ติโมเธียว 1:5.

12 อย่าง​ไร​ก็​ตาม ยัง​มี​ปัจจัย​อื่น​อีก​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ที่​ติโมเธียว​กลาย​มา​เป็น​ผู้​รับใช้. ประการ​หนึ่ง​นั้น ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​ได้​รับ​การ​เสริม​โดย​การ​คบหา​สมาคม​กับ​คริสเตียน​ใน​ประชาคม​ที่​อยู่​ใกล้ ๆ. เรา​ทราบ​ได้​อย่าง​ไร? เนื่อง​จาก​เมื่อ​เปาโล​พบ​ติโมเธียว​เป็น​ครั้ง​แรก ชาย​หนุ่ม​คน​นี้ “มี​ชื่อเสียง​ดี​ใน​ท่ามกลาง​พวก​พี่​น้อง​ที่​อยู่​ใน​เมือง​ลุศตรา​และ​เมือง​อิโกนิอัน.” (กิจการ 16:2) นอก​จาก​นั้น ใน​สมัย​นั้น​มี​พี่​น้อง​บาง​คน​เขียน​จดหมาย​ถึง​ประชาคม​ต่าง ๆ เพื่อ​เสริม​กำลัง​พวก​พี่​น้อง. และ​มี​ผู้​ดู​แล​ซึ่ง​เยี่ยม​เยียน​ประชาคม​ต่าง ๆ เพื่อ​หนุน​กำลัง​น้ำใจ​พี่​น้อง. การ​จัด​เตรียม​เช่น​นั้น​ช่วย​คริสเตียน​แบบ​ติโมเธียว​ให้​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ.—กิจการ 15:22-32; 1 เปโตร 1:1.

13. ติโมเธียว​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​รับใช้​เมื่อ​ไร และ​เหตุ​ใด​คุณ​จึง​กล่าว​ว่า​ความ​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ท่าน​ไม่​ได้​หยุด​อยู่​แค่​นั้น?

13 เมื่อ​คำนึง​ถึง​พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู​ดัง​บันทึก​ไว้​ที่​มัดธาย 28:19, 20 เรา​แน่​ใจ​ได้​ว่า เมื่อ​ถึง​จุด​หนึ่ง ความ​เชื่อ​ของ​ติโมเธียว​ได้​กระตุ้น​ท่าน​ให้​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​และ​รับ​บัพติสมา. (มัดธาย 3:15-17; เฮ็บราย 10:5-9) การ​ทำ​เช่น​นี้​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​การ​ที่​ติโมเธียว​อุทิศ​ตัว​อย่าง​สิ้น​สุด​จิตวิญญาณ​แด่​พระเจ้า. เมื่อ​รับ​บัพติสมา ติโมเธียว​ได้​กลาย​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​คน​หนึ่ง. นับ​แต่​นั้น​มา ชีวิต​ของ​ท่าน, กำลัง​วังชา, และ​ทุก​สิ่ง​ที่​ท่าน​มี​เป็น​ของ​พระเจ้า​ทั้ง​หมด. นี่​เป็น​ส่วน​สำคัญ​ส่วน​หนึ่ง​แห่ง​การ​นมัสการ​ของ​ท่าน ซึ่ง​เป็น “การ​รับใช้​อัน​ศักดิ์สิทธิ์.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม ติโมเธียว​ไม่​ได้​พอ​ใจ​กับ​การ​เป็น​ผู้​รับใช้​แล้ว​ก็​หยุด​อยู่​แค่​นั้น. ท่าน​ยัง​คง​เติบโต​ฝ่าย​วิญญาณ​ต่อ​ไป จน​ได้​เป็น​คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ที่​อาวุโส. ที่​เป็น​อย่าง​นี้​ก็​เนื่อง​จาก​ติโมเธียว​ได้​คบหา​ใกล้​ชิด​กับ​คริสเตียน​อาวุโส​อย่าง​เปาโล, การ​ศึกษา​ส่วน​ตัว​ของ​ท่าน, และ​กิจการ​งาน​ประกาศ​ที่​ท่าน​ทำ​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า.—1 ติโมเธียว 4:14; 2 ติโมเธียว 2:2; เฮ็บราย 6:1.

14. ใน​ปัจจุบัน บาง​คน​ที่ “มี​ความ​โน้ม​เอียง​อย่าง​ถูก​ต้อง​เพื่อ​ชีวิต​นิรันดร์” ทำ​ความ​ก้าว​หน้า​โดย​วิธี​ใด​จน​ได้​เป็น​ผู้​รับใช้?

14 ปัจจุบัน การ​แต่ง​ตั้ง​สำหรับ​งาน​รับใช้​ของ​คริสเตียน​ก็​มี​ลักษณะ​คล้าย​กัน. คน​ที่ “มี​ความ​โน้ม​เอียง​อย่าง​ถูก​ต้อง​เพื่อ​ชีวิต​นิรันดร์” ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​ให้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​ด้วย​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. (กิจการ 13:48, ล.ม.) คน​เหล่า​นี้​เรียน​รู้​ที่​จะ​ใช้​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ชีวิต​ตน​และ​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​อย่าง​มี​ความหมาย. (บทเพลง​สรรเสริญ 1:1-3; สุภาษิต 2:1-9; 1 เธซะโลนิเก 5:17, 18) เขา​คบหา​กับ​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​คน​อื่น ๆ และ​รับ​ประโยชน์​จาก​สิ่ง​ที่ “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” จัด​และ​เตรียม​ไว้​ให้. (มัดธาย 24:45-47, ล.ม.; สุภาษิต 13:20; เฮ็บราย 10:23-25) โดย​วิธี​นี้ เขา​ทำ​ความ​ก้าว​หน้า​ใน​กระบวนการ​ศึกษา​อย่าง​มี​ระบบ.

15. เกิด​อะไร​ขึ้น​เมื่อ​ใคร​คน​หนึ่ง​รับ​บัพติสมา? (ดู​เชิงอรรถ​ด้วย.)

15 ใน​ที่​สุด เมื่อ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​พัฒนา​ความ​รัก​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​มี​ความ​เชื่อ​มั่นคง​ใน​เครื่อง​บูชา​ไถ่ เขา​ปรารถนา​จะ​อุทิศ​ตัว​อย่าง​ครบ​ถ้วน​แด่​พระ​บิดา​ฝ่าย​สวรรค์​ของ​ตน. (โยฮัน 14:1) เขา​ทำ​การ​อุทิศ​ตัว​ใน​คำ​อธิษฐาน​เป็น​ส่วน​ตัว แล้ว​จาก​นั้น​ก็​รับ​บัพติสมา​อัน​เป็น​สัญลักษณ์​ซึ่ง​เปิด​เผย​ให้​ผู้​อื่น​ทราบ​ถึง​การ​อุทิศ​ตัว​ดัง​กล่าว. การ​รับ​บัพติสมาของ​เขา​เป็น​พิธี​แต่ง​ตั้ง​เขา เนื่อง​จาก​ใน​ตอน​นี้​เอง​เขา​ได้​รับ​การ​ยอม​รับ​ใน​ฐานะ​ผู้​รับใช้ หรือ​ดีอาโคโนส ซึ่ง​อุทิศ​ตัว​เต็ม​ที่​แด่​พระเจ้า. เขา​ต้อง​รักษา​ตัว​ต่าง​หาก​จาก​โลก. (โยฮัน 17:16; ยาโกโบ 4:4) เขา​ได้​เสนอ​ตัว​ทั้ง​หมด​เพื่อ​เป็น “เครื่อง​บูชา​อัน​มี​ชีวิต​อยู่, บริสุทธิ์, ที่​พระเจ้า​ทรง​ยอม​รับ​ได้” โดย​ไม่​มี​การ​ขยัก​เอา​ไว้​และ​โดย​ไม่​มี​เงื่อนไข. (โรม 12:1, ล.ม.) * เขา​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า โดย​เลียน​แบบ​พระ​คริสต์.

งาน​รับใช้​ของ​คริสเตียน​คือ​อะไร?

16. หน้า​ที่​รับผิดชอบ​บาง​อย่าง​ของ​ติโมเธียว​ใน​ฐานะ​ผู้​รับใช้​คือ​อะไร?

16 งาน​รับใช้​ของ​ติโมเธียว​เกี่ยว​ข้อง​กับ​อะไร​บ้าง? ท่าน​มี​หน้า​ที่​พิเศษ​ใน​ฐานะ​เพื่อน​ร่วม​เดิน​ทาง​ของ​เปาโล. และ​เมื่อ​ท่าน​ได้​เป็น​ผู้​ปกครอง ติโมเธียว​ทำ​งาน​หนัก​ใน​การ​สอน​และ​เสริม​กำลัง​เพื่อน​คริสเตียน. แต่​ส่วน​สำคัญ​แห่ง​งาน​รับใช้​ของ​ท่าน เช่น​เดียว​กับ​ใน​กรณี​ของ​พระ​เยซู​และ​เปาโล คือ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​และ​การ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก. (มัดธาย 4:23; 1 โกรินโธ 3:5) เปาโล​บอก​กับ​ติโมเธียว​ว่า “ฝ่าย​ท่าน​จง​รักษา​สติ​ใน​ทุก​สิ่ง จง​อด​ทน​ความ​ยาก​ลำบาก จง​ทำ​งาน​ของ​ผู้​เผยแพร่​กิตติคุณ จง​ทำ​ให้​งาน​รับใช้​ของ​ท่าน​สำเร็จ​ครบ​ถ้วน.”—2 ติโมเธียว 4:5, ล.ม.

17, 18. (ก) คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ร่วม​ใน​การ​รับใช้​เช่น​ไร? (ข) งาน​ประกาศ​สำคัญ​ขนาด​ไหน​ต่อ​คริสเตียน​ผู้​รับใช้?

17 เรื่อง​นี้​คล้าย​กัน​กับ​คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ใน​ปัจจุบัน. พวก​เขา​ร่วม​ใน​งาน​รับใช้​สาธารณชน​อย่าง​หนึ่ง​คือ​งาน​เผยแพร่​กิตติคุณ นำ​ผู้​อื่น​ไป​สู่​ความ​รอด​ซึ่ง​อาศัย​เครื่อง​บูชา​ของ​พระ​เยซู​และ​สอน​คน​อ่อนน้อม​ให้​ร้อง​เรียก​พระ​นาม​ของ​พระ​ยะโฮวา. (กิจการ 2:21; 4:10-12; โรม 10:13) พวก​เขา​พิสูจน์​โดย​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​ราชอาณาจักร​เป็น​ความ​หวัง​อย่าง​เดียว​สำหรับ​มนุษยชาติ​ที่​ทน​ทุกข์ และ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​แม้​แต่​ใน​เวลา​นี้​สิ่ง​ต่าง ๆ ดี​ขึ้น​เมื่อ​เรา​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​หลักการ​ของ​พระเจ้า. (บทเพลง​สรรเสริญ 15:1-5; มาระโก 13:10) แต่​คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ไม่​ประกาศ​เกี่ยว​กับ​การ​ใช้​หลักการ​คริสเตียน​กับ​ปัญหา​ของ​สังคม. แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น พวก​เขา​สอน​ว่า ‘ความ​เลื่อมใส​ใน​พระเจ้า​อำนวย​ประโยชน์​แก่​ชีวิต​ทั้ง​ใน​ปัจจุบัน​และ​ชีวิต​อนาคต.’—1 ติโมเธียว 4:8, ล.ม.

18 จริง​อยู่ ผู้​รับใช้​ส่วน​ใหญ่​มี​ทาง​เลือก​อื่น ๆ อีก​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​จะ​รับใช้ ซึ่ง​ก็​อาจ​แตกต่าง​กัน​ไป. หลาย​คน​มี​พันธะ​ต่อ​ครอบครัว. (เอเฟโซ 5:21–6:4) ผู้​ปกครอง​และ​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้​มี​หน้า​ที่​ใน​ประชาคม. (1 ติโมเธียว 3:1, 12, 13; ติโต 1:5; เฮ็บราย 13:7) คริสเตียน​หลาย​คน​ช่วย​ใน​การ​ก่อ​สร้าง​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร. บาง​คน​มี​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ดี​เยี่ยม​โดย​ทำ​งาน​เป็น​อาสา​สมัคร​ใน​สำนัก​เบเธล​ของ​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ทุก​คน​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี. ไม่​มี​ข้อ​ยก​เว้น. การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​นี้​แหละ​ที่​ทำ​ให้​คน​ทั่ว​ไป​เห็น​ชัดเจน​ว่า​เขา​เป็น​คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ที่​แท้​จริง.

เจตคติ​ของ​คริสเตียน​ผู้​รับใช้

19, 20. คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ต้อง​ปลูกฝัง​เจตคติ​เช่น​ไร?

19 ผู้​รับใช้ (นัก​เทศน์) ส่วน​ใหญ่​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​คาด​หมาย​ว่า​จะ​ได้​รับ​ความ​นับถือ​เป็น​พิเศษ และ​พวก​เขา​มี​ตำแหน่ง​อย่าง​เช่น “สาธุ​คุณ” และ “คุณ​พ่อ.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ทราบ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ผู้​เดียว​เท่า​นั้น​คู่​ควร​กับ​ความ​นับถือ​เช่น​นั้น. (1 ติโมเธียว 2:9, 10) ไม่​มี​คริสเตียน​ผู้​รับใช้​คน​ใด​เรียก​ร้อง​ความ​นับถือ​อัน​สูง​ส่ง​เช่น​นั้น​หรือ​ทะเยอทะยาน​อยาก​ได้​ตำแหน่ง​พิเศษ. (มัดธาย 23:8-12) เขา​ทราบ​ว่า​ความหมาย​พื้น​ฐาน​ของ​ดีอาโคนีอา คือ “การ​รับใช้.” ใน​บาง​ครั้ง มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​นี้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​การ​รับใช้​ส่วน​ตัว เช่น การ​คอย​ให้​บริการ​ที่​โต๊ะ​อาหาร. (ลูกา 4:39; 17:8; โยฮัน 2:5) แม้​ว่า​การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​ส่วน​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​งาน​รับใช้​ของ​คริสเตียน​นั้น​สูง​ส่ง​กว่า ดีอาโคโนส ก็​ยัง​คง​เป็น​ผู้​ทำ​หน้า​ที่​รับใช้​อยู่​นั่น​เอง.

20 ดัง​นั้น คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ไม่​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​สำคัญ. คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ที่​แท้​จริง—แม้​แต่​คน​ที่​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​เป็น​พิเศษ​ใน​ประชาคม—เป็น​ทาส​รับใช้​ที่​ถ่อม​ใจ. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ถ้า​ผู้​ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​ใหญ่​ก็​ให้​ผู้​นั้น​เป็น​ผู้​ปรนนิบัติ​ท่าน​ทั้ง​หลาย. ถ้า​ผู้​ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​เอก​เป็น​ต้น​ก็​ให้​ผู้​นั้น​เป็น​ทาส​ของ​พวก​ท่าน.” (มัดธาย 20:26, 27) เมื่อ​แสดง​ให้​เหล่า​สาวก​เห็น​ถึง​เจตคติ​ที่​ถูก​ต้อง​ซึ่ง​ควร​ปลูกฝัง​แล้ว พระ​เยซู​ทรง​ล้าง​เท้า​พวก​เขา ซึ่ง​เป็น​งาน​ของ​ทาส​ชั้น​ต่ำ​ที่​สุด. (โยฮัน 13:1-15) ช่าง​เป็น​การ​รับใช้​ด้วย​ใจ​ถ่อม​จริง ๆ! เพราะ​ฉะนั้น คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ถวาย​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​พระ​เยซู​คริสต์​ด้วย​ใจ​ถ่อม. (2 โกรินโธ 6:4; 11:23) พวก​เขา​แสดง​ความ​อ่อนน้อม​ถ่อม​ใจ​ด้วย​การ​รับใช้​กัน​และ​กัน. และ​เมื่อ​พวกเขา​ประกาศ​ข่าว​ดี พวก​เขา​รับใช้​เพื่อน​บ้าน​ผู้​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว.—โรม 1:14, 15; เอเฟโซ 3:1-7.

จง​อด​ทน​ใน​งาน​รับใช้

21. เปาโล​ได้​รับ​รางวัล​อย่าง​ไร​สำหรับ​ความ​อด​ทน​ใน​งาน​รับใช้?

21 สำหรับ​เปาโล​แล้ว การ​เป็น​ผู้​รับใช้​ต้อง​ใช้​ความ​อด​ทน. ท่าน​บอก​กับ​พี่​น้อง​ชาว​โกโลซาย​ว่า​ท่าน​ทน​ทุกข์​มาก​มาย​เพื่อ​ประกาศ​ข่าว​ดี​แก่​พวก​เขา. (โกโลซาย 1:24, 25) อย่าง​ไร​ก็​ตาม เนื่อง​จาก​ท่าน​ได้​อด​ทน หลาย​คน​จึง​ตอบรับ​ข่าว​ดี​และ​เข้า​มา​เป็น​ผู้​รับใช้. พวก​เขา​ได้​รับ​กำเนิด​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า​และ​เป็น​พี่​น้อง​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ พร้อม​กับ​มี​ความ​คาด​หวัง​จะ​ได้​เป็น​กาย​วิญญาณ​ซึ่ง​อยู่​เคียง​ข้าง​พระองค์​ใน​สวรรค์. ช่าง​เป็น​รางวัล​อัน​รุ่ง​โรจน์​สัก​เพียง​ไร​สำหรับ​ความ​อด​ทน!

22, 23. (ก) เหตุ​ใด​คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ใน​ปัจจุบัน​จำเป็น​ต้อง​อด​ทน? (ข) เกิด​ผล​อัน​ดี​เยี่ยม​เช่น​ไร​จาก​ความ​อด​ทน​ของ​คริสเตียน?

22 ใน​ปัจจุบัน คน​ที่​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​อย่าง​แท้​จริง​จำเป็น​ต้อง​มี​ความ​อด​ทน. แต่​ละ​วัน หลาย​คน​ต่อ​สู้​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​หรือ​ความ​เจ็บ​ปวด​เนื่อง​ด้วย​วัย​ชรา. บิดา​มารดา​ทำ​งาน​หนัก​เพื่อ​เลี้ยง​ดู​บุตร—และ​หลาย​คน​เป็น​บิดา​หรือ​มารดา​ไร้​คู่. ด้วย​ความ​กล้า​หาญ เด็ก ๆ ที่​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ต้านทาน​อิทธิพล​ไม่​ดี​ซึ่ง​มี​อยู่​รอบ​ตัว. คริสเตียน​หลาย​คน​ดิ้นรน​ต่อ​สู้​อย่าง​หนัก​ใน​ทาง​เศรษฐกิจ. และ​หลาย​คน​ประสบ​การ​กดขี่​ข่มเหง​หรือ​เผชิญ​ความ​ลำบาก​เนื่อง​ด้วย “วิกฤตกาล​ซึ่ง​ยาก​ที่​จะ​รับมือ​ได้” ใน​สมัย​นี้! (2 ติโมเธียว 3:1, ล.ม.) ถูก​แล้ว ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​เกือบ​หก​ล้าน​คน​ใน​ปัจจุบัน​สามารถ​กล่าว​แบบ​เดียว​กับ​ที่​อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ว่า “ใน​ทุก​วิถี​ทาง​เรา​แนะ​นำ​ตัว​เอง​ว่า​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า โดย​การ​เพียร​อด​ทน​มาก​มาย.” (2 โกรินโธ 6:4, ล.ม.) คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ไม่​ยอม​แพ้. พวก​เขา​สม​ควร​ได้​รับ​คำ​ชมเชย​อย่าง​แท้​จริง​สำหรับ​ความ​อด​ทน​ของ​เขา.

23 นอก​จาก​นั้น ดัง​ใน​กรณี​ของ​เปาโล ความ​อด​ทน​นำ​มา​ซึ่ง​ผล​อัน​ดี​เยี่ยม. ด้วย​ความ​อด​ทน เรา​รักษา​ไว้​ซึ่ง​สัมพันธภาพ​อัน​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​ทำ​ให้​พระทัย​ของ​พระองค์​ยินดี. (สุภาษิต 27:11) เรา​เสริม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​เอง​และ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก เพิ่ม​เข้า​กับ​สังคม​พี่​น้อง​คริสเตียน. (1 ติโมเธียว 4:16) พระ​ยะโฮวา​ทรง​ค้ำจุน​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​และ​ทรง​อวย​พร​งาน​รับใช้​ของ​พวก​เขา​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​นี้. ผล​ก็​คือ ชน​ที่​เหลือ​แห่ง 144,000 คน​ได้​รับ​การ​รวบ​รวม และ​อีก​หลาย​ล้าน​คน​มี​ความ​หวัง​อัน​เปี่ยม​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​ว่า​จะ​มี​ชีวิต​นิรันดร์​บน​แผ่นดิน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน. (ลูกา 23:43; วิวรณ์ 14:1) แท้​จริง งาน​รับใช้​ของ​คริสเตียน​เป็น​การ​แสดง​ออก​อย่าง​หนึ่ง​ถึง​ความ​เมตตา​ของ​พระ​ยะโฮวา. (2 โกรินโธ 4:1) ขอ​ให้​เรา​ทุก​คน​ทะนุถนอม​งาน​รับใช้​ของ​เรา​เอา​ไว้​และ​หยั่ง​รู้​ค่า​ใน​ข้อ​ที่​ว่า​ผล​ของ​งาน​นี้​จะ​ยั่งยืน​ตลอด​ไป.—1 โยฮัน 2:17.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 3 คำ​กรีก​ดีอาโคโนส เป็น​ที่​มา​ของ​คำ “ดี​คอน” ใน​ภาษา​อังกฤษ ซึ่ง​เป็น​ตำแหน่ง​เจ้า​พนักงาน​ใน​คริสตจักร.

^ วรรค 15 แม้​ว่า​โรม 12:1 เกี่ยว​ข้อง​กับ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​โดย​เฉพาะ แต่​หลักการ​ใน​ที่​นี้​ใช้​ได้​ด้วย​กับ “แกะ​อื่น.” (โยฮัน 10:16) คน​เหล่า​นี้ “นำ​ตัว​เข้า​มา​สมทบ​กับ​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​ปรนนิบัติ​พระองค์​และ​รัก​พระ​นาม​ของ​พระ​ยะโฮวา เพื่อ​จะ​ได้​เข้า​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์.”—ยะซายา 56:6, ล.ม.

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม?

• คริสเตียน​ทุก​คน​ใน​ศตวรรษ​แรก​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​อะไร?

• คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เมื่อ​ไร​และ​โดย​ผู้​ใด?

• คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ควร​ปลูกฝัง​เจตคติ​เช่น​ไร?

• เหตุ​ใด​คริสเตียน​ผู้​รับใช้​ควร​อด​ทน​เมื่อ​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำบาก?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 16, 17]

ติโมเธียว​ได้​รับ​การ​สอน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก. ท่าน​กลาย​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​ซึ่ง​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เมื่อ​ท่าน​รับ​บัพติสมา

[ภาพ​หน้า 18]

การ​รับ​บัพติสมา​เป็น​สัญลักษณ์​ถึง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระเจ้า​และ​แสดง​ถึง​การ​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​รับใช้

[ภาพ​หน้า 20]

คริสเตียน​ผู้​รับใช้​เต็ม​ใจ​รับใช้